ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อดีตขุนนางสาวโสดกับชีวิตโลดโผนผจญภัยเพื่อลูกสาวสุดน่ารัก

    ลำดับตอนที่ #41 : เปิดม่านศึกชี้ชะตา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.87K
      186
      22 ก.ค. 63

    หลังจากนั้น สัปดาห์ผ่านไป จักจั่นที่ส่งเสียงกรีดร้องบนต้นไม้และท้องฟ้าที่ปลอดโปร่ง แสงแดดที่ร้อนที่เข้ากับสถานการณ์การเมืองที่ร้อนระอุที่กำลังจะเข้ามา

    เมืองหลวงจักรพรรดิถูกเลือกให้เป็นสถานที่ประลอง ในโคลอสเซียมโบราณที่สร้างบนฝั่งภูเขาที่มีมาก่อนที่จะก่อตั้งตัวจักรวรรดิเสียอีก ด้วยมุมมองดีๆพอที่จะเห็นปราสาทจักรพรรดิจากระยะไกลได้

    ในลานประลองนั้นเคยใช้ประลองศึกระหว่างนักรบผู้กล้าหาญมาหลายครั้งแต่นั่นเป็นมุมมองของยุคประวัติศาสตร์โบราณนะ คาร์ดินัลนั่งในเก้าอี้ของผู้ตัดสินในพิธี ขณะที่ราชา Edward ราชินี Alicia และเหล่าผู้ติดตามกับเจ้าหน้าที่ทางทหารได้นั่งอยู่บนที่นั่งทางทิศใต้ของโคลอสเซียม

    จักรพรรดิ Albert กับจักรพรรดินี Alice นั่งอยู่ฝั่งทางทิศเหนือ พวกนั้นล้อมรอบไปด้วยบุคคลชั้นสูงต่างๆ พอๆกับอัศวินและรัฐมนตรีที่ชื่นชอบความสำราญด้วย

    “ฉันไม่นึกเลยว่าจะได้กลับมายังตรงนี้…”

    ในทางเดินที่อยู่ทางตอนใต้ของโคลอสเซียมนั้น Shirley มองไปยังเพดานหินเก่าๆ

    เนื่องจาก Sophie กับ Tio เป็นสองคนที่ถูกเดิมพันเอาไว้ จึงไม่มีทางที่ตัวแทนจากราชอาณาจักรจะเป็นใครได้นอกจากเธอ

    อย่างที่ว่านั่นแหละ นี่เป็นปัญหาที่ใหญ่เกินกว่าที่จะเป็นครอบครัวของ Shirley แล้ว ตัวราชาต้องการที่จะเลี่ยงสงคราม ความรับผิดชอบที่หนักอึ้งของสันติภาพของประเทศในตอนนี้จึงกดลงไปยังบ่าของนักผจญภัยคนหนึ่ง

    ไม่ชัดเจนว่าจักรพรรดิจะต้องการมากไปถึงไหนถ้าพวกนั้นชนะการประลอง… ไม่ต้องสงสัยเลย มันน่าจะกลืนกินราชอาณาจักรด้วยซ้ำ… อนาคตของราชอาณาจักรน่าจะเป็นตัวเดิมพันเลยล่ะ ดังนั้นการแพ้จึงไม่ใช่ทางเลือก

    “แต่ ทำไมเราต้องมายังที่จักรวรรดิด้วยล่ะ? จากเรื่องที่เธอบอกหรือฉัน มันไม่น่าจะยิ่งกว่าสู้กันที่ชายแดนหรือ?”

    “ใครจะรู้ล่ะ? อย่างที่ฉันเพิ่งจะเข้าใจพวกคนมีสีเขาคิดกันนั่นแหละ”

    “สอดคล้องกับท่าน Canary ว่ามา ดูเหมือนว่าจักรพรรดินั่นจะไม่เต็มใจเดินทางเป็นครั้งที่สอง มันไม่แปลกไปหน่อยหรือกับคนที่มีอำนาจแบบนั้นน่ะ”

    “จริงๆเลย ไม่ใช่ว่าจักรพรรดินั่นจะทำตัวแปลกไปหรือ? ถึงแม้ว่าเขาจะมีคนคุ้มกัน ก็น่าจะเข้าไปในใจของประเทศที่ไม่เป็นมิตรอย่างนี้…”

    ที่ยืนอยู่หลัง Shirley นั้น เป็นปาร์ตี้ฝึกหัดที่ประกอบด้วย Kyle, Cudd และ Leia ที่นำโดย Asterios กำลังคุยกันอยู่

    “แต่ มันก็แปลกนะที่คิดว่า Sophie กับ Tio นั่นจะเกี่ยวข้องกับจักรพรรดินั่นได้ รู้มั้ย?”

    “แล้วคุณ Shirley นั่นจริงๆแล้วเป็นอดีตชนชั้นสูงและคู่หมั้นของมกุฎราชกุมาร… ฉันเองก็นึกอยู่ว่าเธอน่าจะมาจากที่ไหนสักแห่งที่พิเศษ แต่กลับกลายเป็นเรื่องสุดช็อคไปเลย”

    “ฮะๆๆ… ที่จริงแล้วฉันเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน…”

    “อืม ชีวิตนี่น่าประหลาดใจจริงๆ”

    และสุดท้ายตัว Sophie กับ Tio ที่อยู่ตรงนั้นด้วยก็เห็นแม่ของพวกเธอที่กำลังจะมุ่งไปยังสังเวียน

    ถึงแม้ว่าการบังคับให้ดวลกันเช่นนี้ควรที่จะไปตั้งอยู่สักที่บนเขตแดนระหว่างสองประเทศก็ตาม Albert กับ Alice ก็ไม่ยินยอมที่จะย้ายไปและก็คัดค้านมัน

    แต่กลับผิดคาด Canary กับ Edward กลับตัดสินใจให้ตามใจพวกนั้น โดยใช้เวทมนตร์พิเศษของ Canary พาราชากับราชินีที่มีคณะผู้ติดตามได้เดินทางไปยังเมืองหลวงจักรพรรดิตามคำเชื้อเชิญของจักรพรรดิซะเลย ถึงแม้จะถูกประท้วงอย่างโหดร้ายจากเจ้าหน้าที่รัฐบาลของตัวเองให้กลับไปยังที่ๆราชวงศ์คิดว่าจะมาเยี่ยมประเทศ พวกนั้นช่างน่าสงสารเสียจริงๆ

    ถึงแม้ Canary จะยอมให้พานักผจญภัยมายังที่จักรวรรดิเพื่อมาเป็นข้ออ้างในการเป็นผู้คุ้มกันให้กับราชวงศ์ก็ตาม เมื่อ Shirley สงสัยว่าเธอจะขอให้ใครมาช่วยดูแล Sophie กับ Tio ตอนที่เธอออกไปดวล ปาร์ตี้ของ Asterios ก็เป็นสิ่งแรกที่เธอคิดได้

    “คุณ Shirley! จักรพรรดินั่นเป็นศัตรูของผู้หญิงทุกคนทุกที่เลย ตอนที่คุณฆ่าเขาได้ ก็เอามันมาให้ฉันแทงด้วย!”

    “Leia นั่นมันก็เกินไปหน่อย… นอกจากนี้เธอก็ไม่มีทางแม้แต่จะไปสู้กับจักรพรรดินั่นได้หรอกนะ”

    Kyle ท้วง Leia ที่เหวี่ยงหมัดด้วยความฉุนเฉียว

    เนื่องจากพวกเขาได้รับคำร้องคุ้มกันอย่างเป็นทางการ จึงเลี่ยงไม่ได้ที่พวกเขาจะต้องรับสภาพเช่นนั้น ต่างจาก Asterios ที่เชี่ยวชาญในเวทป้องกัน นั่นก็น่าจะมีสกิลคุ้มกันมากกว่าที่เธอได้จ้างมา แต่เนื่องจากเธออยากให้ความจริงเกี่ยวกับ Sophie กับ Tio ให้เงียบเท่าที่จะเป็นไปได้ เธอนึกว่าปาร์ตี้นั้นน่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าเชื่อถือที่สุดแล้ว

    สามในสี่คนเป็นนักผจญภัยอายุน้อยส่วนคนที่สี่ที่ไม่ได้สนใจในเรื่องราวที่แท้จริงเหมือนคนอื่นๆ โดยส่วนตัวแล้วพวกเขาน่าจะรับงานมาได้ดีที่สุด

    “หว่างขาเขา! ตัดของที่อยู่ระหว่างขานั่นออกไปเลย!”

    “แล้วก็ถูมันด้วยพริกป่นใส่แผลด้วย!”

    หลังจากที่ได้ยินเรื่องราวของ Shirley แล้ว พวกนั้นก็ไม่เคยคิดจะหักหลังเธอเลย Shirley ถึงกับบิดหน้าหนีด้วยความอายเนื่องจากคำพูดนั้นมันหยาบคายเกินไป เธอหวังว่าพวกนั้นจะไม่ถูกกล่าวหาว่าหมิ่นเบื้องสูงถ้ามีใครไปได้ยินพวกนั้นเข้านะ

    “แต่ มันก็น่าตกใจจริงๆนั่นแหละ ทั้งๆมีราชา Edward อยู่ข้างๆ ฉันก็ไม่เคยได้ยินว่าแม่มดนั่นจะยอมรับอะไรง่ายๆอย่างนี้เลย… เธอมีอะไรบางอย่างที่แอบเอาไว้หรือ?”

    Shirley ไม่รู้คำตอบของคำถามนั้น ถึงแม้จะพูดแบบนั้นไป เธอก็นึกคำพูดที่ Canary นั่นได้พูดกับเธอก่อนที่จะผ่านอุโมงค์ใต้สนามไป เธอชี้นิ้วไปยังปราสาทที่อยู่ห่างๆด้วยสีหน้ายิ้มบนใบหน้า

    ――――“โอกาสนี้แหละนา~ เมื่อไอ้เด็กปัญญาอ่อนที่ไม่ยอมหยุดปากนั่น จะไม่มีธุระอะไรที่ยังไม่เสร็จที่จะได้เห็นหรือ หืม~?”

    เธอเข้าใจความหมายชัดเจน Canary นั้นพยายามจะจัดการความเคืองเก่าของ Shirley ให้จบลงด้วยตัวเธอเอง แต่ไม่ว่าจะยังไงมันก็ยังไม่ใช่ในตอนนี้

    “…แม่”

    Tio จับขอบชุดของ Shirley

    “โชคดีนะ…!”

    Sophie จับมือของแม่ขณะที่เธอเตรียมเผชิญศึก พวกนั้นจับด้วยมือที่สั่นเทา ดวงตาก็มีน้ำตาไหลออกมาด้วยความเป็นห่วง แต่เมื่อเธอมองลูกสาวทั้งสองที่มีความกล้าที่จะมองแม่แล้ว… อารมณ์ก็ลุกขึ้นในใจ

    “ไม่ต้องห่วง… แม่จะต้องชนะและกลับมา ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม”

    ถึงแม้ว่าเธอจะพยายามอยู่สุขุมและสง่างามตามปกติ Shirley ได้มองดูเด็กสาวทั้งสองด้วยสายตาอ่อนโยน ที่มีรอยยิ้มชื่นบานบนใบหน้า

    ขณะที่พวกนั้นจ้องหลังแม่ขณะที่เธอมุ่งหน้าสู่สังเวียนแห่งชะตากรรมนั้น ฝาแฝดต่างก็อยากจะตะโกนออกมา แต่พวกเธอก็ไม่อาจหาคำพูดใดในอารมณ์ที่ยังวนเวียนอยู่ในหัวได้

    แต่ ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม เอาง่ายๆเลย แม่ของพวกเธอนั้นไร้เทียมทานอยู่แล้ว


    ทางเดินฝั่งตรงข้ามของลานประลองด้าน Shirley นั้น Lumiliana ที่ถูกเลือกในฐานะแชมป์เปี้ยนของจักรวรรดิผูกผมแดงไว้ข้างหลังแล้วจับด้ามของสมบัติมรดกตกทอดของตระกูล ดาบเวทมนตร์

    ขณะที่เธอมองหลังของเด็กสาวที่เป็นทั้งอัศวินและเพื่อนสนิทของเธอ เธอก็กัดฟัน

    ก็เป็นธรรมดาที่การถกปัญหาระหว่างประเทศนั้นจะเอานักรบที่มีฝีมือยอดเยี่ยมที่สุดไปประลอง… แต่ปัญหาก็คือ Lumiliana นั้นเป็นอัศวินที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศทั้งๆที่มีอายุน้อย

    ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้ชำนาญเพลงดาบของเธอได้ดีนัก Philia ก็ยังเข้าใจได้อย่างน้อยที่สุดว่าความสามารถของเด็กสาวที่คอยปกป้องชีวิตเธอนั้นยอดเยี่ยมอย่างไร

    ดังนั้น ถึงแม้ว่าเธอจะมั่นใจว่า Shirley นั้นแข็งแกร่ง เธอก็ไม่อยากจะเห็นที่จะพ่ายแพ้กับ Lumiliana

    เธอได้นึกแต่เรื่อง Lumiliana ที่บาดเจ็บปลอมๆหรือยอมแพ้ในการประลอง แต่นั่นก็ไม่ได้ผลสักเท่าไร

    อย่างแรก จุดประสงค์ของการประลองนี้คือเอาชนะด้วยสิ่งที่ดีที่สุดที่จักรวรรดิมีในการสั่งการให้พวกนั้นยอมรับความพ่ายแพ้ซะ… เพื่อเปรียบเทียบกับงานของพวกนักผจญภัย ที่เหมือนกับจะไปจัดการกับหัวหน้ามอนสเตอร์นั่นแหละ

    ถ้าพวกนั้นไม่ทำแบบนั้น สิทธิ์อันชอบธรรมของผลนั้นก็จะถูกเรียกร้องได้ ในทางตรงกันข้าม มันน่าจะยากต่อการท้าทายถึงผลลัพธ์นั้นถ้านักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศพ่ายแพ้ เป็นสิ่งจำเป็นในการปกป้องจักรวรรดิจากประท้วงผลของการประลองด้วย

    ปัญหาอื่นก็คือคำสาปที่ส่งผ่านเชื้อสายของตระกูล Regnard ที่ Lumiliana นั้นเป็นอยู่

    ตระกูล Regnard นั้นเป็นครอบครัวอัศวินมาตั้งแต่บรรพบุรุษ พวกเขาต่างก็มีจิตวิญญาณที่แน่วแน่และพากเพียร โดยเฉพาะการบังคับเรียนรู้เวทมนตร์ที่อยู่ในสายเลือด

    จึงไม่มีทางที่จะขับไล่เวทมนตร์โบราณเช่นนั้นออกไป จากรุ่นสู่รุ่นมันก็เกินกว่าที่จะมีใครจำได้แล้ว ปกติจะใช้ประโยชน์ได้ยอดเยี่ยมก็ต่อเมื่อฝึกฝนและเรียนรู้ แต่ตอนนี้เป็นตัวหายนะ

    จึงยากจนไม่น่าเชื่อสำหรับเธอที่จะต่อสู้ด้วยเวทมนตร์ ถึงแม้จะเพื่อช่วยชีวิต Philia ก็ตาม อย่างที่ว่า ถ้า Lumiliana อยู่ภายใต้เวท《จับโกหก》ของบาทหลวงล่ะ พวกนั้นก็จะไม่ได้เจอเรื่องราวทั้งมวล

    นั่นเพราะแบบนั้นเอง Philia จึงไม่อยากให้ Lumiliana มาเกี่ยวข้อง แต่ก่อนที่เธอจะทำอะไรเพื่อป้องกันให้เธอเลือกนั้น จู่ๆ Canary ก็ปรากฏตัวในจักรวรรดิแล้วก็…

    ――――“นั่นคุณหนูจากตระกูล Regnard ที่สบายๆสิ เนาะ? เท่าที่เราเอาชนะเธอได้ พวกนั้นก็แค่แมลงวันที่ไร้ค่าเองแหละ”

    หลังจากที่โดนเล่นจาก Canary อีกครั้ง พวกนั้นก็ไม่ได้มีท่าทางต่อต้านเลย ตอนที่ Albert ได้แต่งตั้งให้ Lumiliana เป็นแชมป์เปี้ยนของจักรวรรดิด้วยตนเองด้วยความโกรธ

    ถึงแม้ว่า Canary จะทำงานบนกระดาษก็ตาม ที่จริง เธอก็มองหาผลประโยชน์ของธุรกิจในยามวิกฤตนี้ อย่างเช่นขยายกิลด์นักผจญภัยเข้าสู่จักรวรรดิ เป็นต้น แต่ถึงอย่างนั้นตลาดแคมเปญแบบนี้มันก็ยังย่ำแย่อยู่ดี

    “ถ้ามาแบบนี้ งั้นก็ไม่มีทางเลือกแล้วองค์หญิง เชื่อในตัวท่าน Shirley เถอะ”

    “…ขอโทษนะ Lumiliana ฉันหวังว่าจะมีอะไรสักอย่างที่ฉันพอจะช่วยได้นะ…”

    “ถ้าให้ฉันเลือกระหว่างอนาคตของอาชีพฉันกับความสุขขององค์หญิงล่ะก็ ฉันก็จะรับเอาองค์หญิงทุกครั้งโดยไม่ล้มเหลวนะ”

    ถึงแม้ว่าเธอจะไม่มีความสุขในสถานการณ์เช่นนี้ สำหรับ Lumiliana ก็ไม่มีอะไรดีๆออกมาเลยที่น่าจะเป็นไปได้ที่จะต้องไปสู้กับนักดาบหญิงตาแหลมคมนั่น

    เธอไม่ได้อยากจะเป็นห่วงเธอสักเท่าไร เธอจึงเก็บอารมณ์ซ่อนเอาไว้ แต่สีหน้า Philia ยังคงมืดมนอยู่

    เธอได้ทำดีที่สุดแล้ว แต่เจ้าหญิงนั้นก็ยังอายุสิบเจ็ดเอง เธอขาดทั้งประสบการณ์และพลัง เธอจะต้องสูญเสียสิ่งที่สำคัญกับเธอมากแน่ เพราะข้อบกพร่องของตัวเอง ตอนนี้อนาคตของเพื่อนสุดที่รักของตัวเองก็อยู่ในเดิมพันแล้ว มันอาจจะแย่กว่านั้น

    ตอนนี้ สิ่งที่เธอทำได้ก็แค่หวังว่าดาบอสูรสีขาวจะหาทางก้าวข้ามเจ้าหญิงดาบแล้วปกป้องเธอ… ถึงแม้ว่าไม่ช้า เธอน่าจะรู้ถึงความเขลาที่แท้จริงเมื่อเจอกับพลังที่ยิ่งใหญ่ของโลก


    “ทุกอย่างอยู่ในนี้หรือ?”

    “ตรวจสอบหมดแล้ว มันเป็นอุปกรณ์ที่เก่ามาก ที่ต้องทำงานเยอะมากเพื่อทำให้เสร็จ แต่ตอนนี้การตรวจสอบครั้งสุดท้ายก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว”

    Alice พยักหน้าเมื่อเธอได้ยินคำตอบจากคนรับใช้ที่อยู่ข้างเธอ

    “นายอาจจะคิดว่าฉันนั้นเล่ห์เหลี่ยมจัดสินะ…”

    “มันก็ไม่ใช่เรื่องหรอก ฉันคิดมากที่ยัยนั่นอาจจะแพ้กับนักผจญภัยนั่น แต่การเตรียมพร้อมเอาไว้อย่างนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่านะ”

    “มันเป็นวิกฤตการณ์ของอนาคตประเทศเลยนะ ไม่ว่ายังไงก็ตาม ลูกของพี่สาวฉันจะต้องกลับมายังจักรวรรดิให้ได้”

    ขณะที่เธอพูดแบบนั้น Alice ก็กอดแขน Albert แล้วก็มองไปที่เขาด้วยรอยยิ้มที่สดใส

    ตอนที่เธอได้ยินเรื่องนั้นเป็นครั้งแรก เธอถึงกับต่อต้านอย่างแรงในการเอาลูกของพี่สาวที่น่ารังเกียจนั่นกลับมาเป็นผู้สืบทอดราชบัลลังก์ แต่เธอก็รู้ดีว่าไม่มีทายาทอยู่ ตำแหน่งของเธอในฐานะจักรพรรดินีนั้นเริ่มสั่นคลอนเป็นอย่างมาก

    เธอไม่มีทางเลือกใดๆนอกจากต้องทน เธอฝืนที่จะแสร้งสั่งสอนมารยาทของเจ้าหญิงจักรพรรดิ ลูกของหนึ่งในผู้ติดตามของเธอไง… บางทีเธอน่าจะเตรียมการส่งสองคนนั่นไปให้กับไอ้หมูตอนที่หน้าตาน่าเกลียดก็เป็นได้

    “แต่ ฉันเป็นห่วงนะ เด็กพวกนั้นรอดชีวิตในโลกอันโหดร้ายมาได้ยังไงกัน… ฉันจะต้องปกป้องและชี้นำพวกเธอนะ”

    “โอ Alice เธอนี่ไม่เปลี่ยนเลย เธอนี่มันใจดีและอ่อนโยนจริงๆ ผมจะปกป้องเธอเองไม่ว่าจะยังไงก็ตาม”

    ขณะที่เธอต้องฟัดกับความขัดแย้งในใจนั้น เธอตั้งใจไม่ปล่อยให้เขาได้ลืมพำพูดพวกนั้นไปหรอก ความพอใจกับท่าทีของ Albert ขณะที่เขากอดเธอเข้าด้านหลังอย่างนุ่มนวล สายตา Alice ก็เหล่ไปยังจุดที่กลไกนั้นซ่อนอยู่ใต้สังเวียน

    “คิดว่าตรงนั้นมีอะไรสักอย่างอยู่ใต้โคลอสเซียมนะ…”

    “ก็นั่นแหละ ถึงมันจะเป็นเรื่องที่หยาบคาย ดูเหมือนว่ามันก็เป็นสิ่งสำคัญในก่อนวันของพวกชั้นสูงด้วย”

    ตรงนั้นมีอุปกรณ์หลายอย่างที่ถูกสร้างในสนามรวมทั้งบ่วงและกับระเบิดเวทมนตร์

    ตามประวัติศาสตร์แล้ว การต่อสู้หลายๆอย่างต่างก็มีนโยบายสำคัญและก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการติดสินบนและการลำเอียงเข้าข้าง ประวัติศาสตร์อันดำมืดของจักรวรรดิที่แม้แต่ Philia ก็ยังไม่รู้ถึงเรื่องนี้

    ถึงแม้ในคราวนี้ ดูเหมือนว่ากับดักนั้นจะถูกเอาไปใช้ต่อกรกับแม่ที่จะปกป้องลูกของเธอ

    “แต่ด้วยสิ่งนี้ ท่าน Albert จะได้เข้าใกล้ในการเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในทวีปที่รู้จักแน่”

    “ใช่ เท่าที่เธอจะอยู่เคียงข้างฉันตลอด ดวงดาวก็มีขีดจำกัดอยู่”

    สนามนี้เต็มไปด้วยความหวังที่ขัดแย้งและอุดมการณ์ จักรวรรดิแสวงหาความมั่นคงของอนาคต ส่วนราชอาณาจักรก็แสวงหาการปกป้องผู้คน ส่วนตัวแม่เลี้ยงเดี่ยวนั้น ม่านของศึกประลองที่จะตัดสินชะตากรรมของลูกของเธอนั้นได้เปิดออกมาแล้ว
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×