ข้าคือพญางูเจ้าค่ะ มิใช่พญานก! - นิยาย ข้าคือพญางูเจ้าค่ะ มิใช่พญานก! : Dek-D.com - Writer
×

    ข้าคือพญางูเจ้าค่ะ มิใช่พญานก!

    เพราะไม่เคยสมหวังเรื่องความรัก จาก นางพญางู ผู้บำเพ็ญเพียรจนสำเร็จกลายเป็นเซียนอย่างข้ากลับมีฉายาคือ นางพญานก ผู้ไม่มีดวงเรื่องความรักไปแทนซะงั้น ดังนั้นเพื่อรักครั้งนี้ข้าจะขอทุ่มสุดตัวให้จงได้!

    ผู้เข้าชมรวม

    511

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    10

    ผู้เข้าชมรวม


    511

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    7
    จำนวนตอน :  1 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  7 ก.ค. 62 / 22:10 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


    ตัวข้าอยู่มานับพันปีแล้วยังไม่เคยสมหวังเรื่องความรักดั่งผู้ใดเขาเลยสักครั้งหนึ่ง ทำให้นางพญางูผู้บำเพ็ญเพียรจนสำเร็จกลายเป็นเซียนอย่างข้าถูกเรียกขานว่าเป็นนางพญานกผู้ไม่มีดวงเรื่องความรักไปซะงั้น ดังนั้นเพื่อรักครั้งนี้ข้าจะขอทุ่มสุดตัวไม่ว่าจะแผนอะไรก็ตาม ข้าจะเอาออกมาใช้ให้หมด!

    ♦ ♦  ♦ ♦ ♦ 

    ตัวละคร (อัพเดทเรื่อยๆค่ะ)

    1. หมิงลู่  [พญางูที่มีฉายาว่าพญานก]


    งูขาวผู้บำเพ็ญจนสำเร็จเป็นเซียน ลูกศิษย์ของพรรคหยกราตรี สตรีผู้เพียบพร้อมอ่อนหวานจนผู้ใดต่างกล่าวชมข้าว่าเป็นแบบอย่างของสตรีทั้งมวล แล้วเหตุใดเล่าหมิงลู่ผู้นี้จึงไม่เคยสมหวังเรื่องความรักเลยสักครั้งถ้าความอ่อนหวานน่ารักของนางยังไม่ได้ช่วยให้สมหวัง ข้าก็ขอปล่อยวางความอ่อนหวาน ปลดปล่อยตัวตนเป็นตัวเองสักทีเถอะน่า! แต่ว่าทำไมข้าก็ยังไม่สมหวังกันล่ะ!


    2.จิวซื่อ [บุรุษที่ชอบถูกงูกินเต้าหู้บ่อยๆ]



    จิวซื่อ ศิษย์รักของพรรคฟ้าสุริยา ผู้บังเอิญเก็บงูขาวแสนเชื่อง(?)ตัวหนึ่งมาเลี้ยงแบบงงๆ และได้ทำการตั้งชื่อว่า เสี่ยวไป๋ แต่ไม่รู้ว่าทำไมเสี่ยวไป๋ของเขากลับขี้อ้อนมาก ชอบซุกอยู่ในเสื้อของเขา ชอบแอบมานอนขดกับเขายามเขาหลับ แถมบางครั้งยังชอบเลื้อยบนบนตัวเขา บางครั้งก็มาอาบน้ำด้วย จนเขารู้สึกเหมือนถูกงูกินเต้าหู้บ่อยๆไปเสียได้

     

    3. เสี่ยวไป๋ [งูที่เชื่องเฉพาะกับบุรุษเท่านั้น]

     

    ร่างงูของ หมิงลู่ เป็นงูขาวแสนเชื่อง (กับบุรุษ) ชื่นชอบการนอนเป็นที่สุดและจะชอบมากๆถ้าได้นอนกกใต้ผ้าห่มเดียวกันกับ จิวซื่อ (ศิษย์ในพรรคฟ้าสุริยาของจิวซื่อต่างคิดว่าเป็นปีศาจจำแลงกายมา)

    4. หมิงมี่ฮวา [อาจารย์ผู้ปวดหัวกับศิษย์แทบจะทุกชั่วยาม]

    อดีตเป็นงูดำที่บำเพ็ญเพียรจนสำเร็จเป็นเซียน มีอายุเกือบแสนปีแล้ว แต่ใบหน้ายังคงสวยงามอ่อนวัยอยู่ เป็นอาจารย์ที่ปากร้ายแต่รักศิษย์มาก ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประมุขพรรคหยกราตรี เรื่องน่ากังวลช่วงนี้คือเรื่องของศิษย์รักคนหนึ่งกำลังรักหลงบุรุษผู้หนึ่งเป็นเอามาก(อีกแล้ว)

    5.เจี่ยวมี่ [พญานกแท้ๆที่กำลังสับสนระหว่างชื่อเรียกของนางกับฉายาของเพื่อนสนิท]

    อดีตเป็นนกกระจอกที่บำเพ็ญเพียรจนสำเร็จเป็นเซียนได้ไม่นาน เป็นผู้ช่วยเรื่องความรักและเพื่อนสนิทของหมิงลู่ ภายนอกเป็นคนน่ารักอ่อนหวานแต่ที่จริงมีนิสัยชอบแกล้งคนอื่นเป็นที่สุด 

    ♦ ♦  ♦ ♦ ♦ 


    - บทนำ - 

    ข้ามีนามว่า หมิงลู่ งูขาวผู้บำเพ็ญเพียรนับพันปีจนสำเร็จเป็นเซียน ณ ตอนนี้ตัวข้าคือศิษย์ของพรรคหยกราตรี เป็นศิษย์ที่นับได้ว่ามีพรสวรรค์อยู่ตนหนึ่ง ข้าเป็นหญิงสาวที่อ่อนหวาน กริยาอ่อนช้อย หน้าตางดงามแฝงความเย้าย้วนและมีเสน่ห์ที่มากกว่าปกติซึ่งเป็นผลพวงจากการที่เคยเป็นงูมาก่อน แต่ข้ากลับมีปัญหาหนักใจอย่างหนึ่งคือข้าไม่เคยสมหวังกับความรักเลยสักครั้งเดียว

    ประวัติความรักที่ผ่านๆมาของข้านั้นช่างเจ็บปวดมากนัก



    เจ้าเลิกยุ่งกับข้าเถอะนะหมิงลู่รักแรกของข้ากล่าวกับข้า

    ทำไมกันละเจ้าคะ หรือตัวข้าไม่ดีสำหรับท่านกันละเจ้าคะ

    เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ ข้าชมชอบสตรีที่เย็บปักถักร้อยได้งดงาม เสียงหวานดั่งน้ำผึ้ง แล้วก็บรรเลงดนตรีได้อย่างไพเราะลึกซึ้งเสียมากกว่า ซึ่งสิ่งเหล่านี้เจ้าไม่มีเลย

    ข้าช้ำใจมาก เลยไปเรียนเย็บปักถักร้อยจนเชี่ยวชาญ กินน้ำผึ้งทุกวันจนเสียงของข้าหวานละมุน เรียนบรรเลงพิณจนถูกลำลือว่าบรรเลงเชี่ยวชาญและไพเราะยิ่งกว่านางฟ้าบนสวรรค์เสียอีก

     

    พอเถอะเจ้าหยุดยุ่มย่ามกับข้าได้แล้วหมิงลู่…” รักที่สองกล่าวกับข้า

    ข้าทำสิ่งใดผิดรึเจ้าคะ

    เจ้าก็รู้ว่าข้าชมชอบสตรีผู้สามารถร่ายรำได้อย่างงดงามอ่อนช้อย แต่เหตุใดเจ้าจึงไม่มีทักษะเหล่านี้เลยเล่า

    “…” ข้าเงียบไปครู่หนึ่ง

    รักที่สองปราดตามองข้าครานึง แล้วหันหลังเดินจากข้าไป

    ข้าจึงไปเรียนการร่ายรำให้อ่อนช้อยสวยงามพลิ้วไหวให้งดงามยิ่งกว่านางรำบนสวรรค์

     

    หมิงลู่ รักที่สามเอ่ยเรียกข้า

    เจ้าคะ

    เขายิ้มให้ข้าเบาๆ ข้าว่าเรายุติความสัมพันธ์นี้กันเสียดีกว่า

    คราวนี้อะไรอีก

    นายท่านของข้าได้หมั่นหมายข้ากับลูกสาวของนายท่าน…” เขากล่าวด้วยเสียงขมขื่น

    อย่างน้อยเหตุผลก็ฟังขึ้นกว่ารักแรกกับรักที่สองข้าก็แล้วกัน

    นางชมชอบข้ามานานแล้ว อีกทั้งนางยังแกร่งมาก ขนาดตัวข้าก็อาจจะไม่สามารถสู้ชนะนางได้…”

    “…” ข้านิ่งงันไป ถึงแม้จะเป็นตัวท่านน่ะรึเจ้าคะ

    เขาพยักหน้าเบาๆ

    ด้วยเหตุนี้รักที่สามของข้าจึงถูกสตรีเหล็กผู้หนึ่งแย่งไป

    ข้าแค้นมาก เลยไปฝึกวิชาจนแกร่งกล้าหวังจะไปแก้แค้น แต่ไม่รู้เหตุใดพอข้ากลับมา อาจเป็นช่วงระหว่างที่ข้าฝึกวิชา พวกเขากลับพัฒนาความสัมพันธ์ จนรักกันเสียหวานชื่น ข้าจึงไม่กล้าไปขัดขวางความรักนั้น

     

    ยอดรักของข้ารักที่สี่เอ่ยด้วยเสียงเศร้าๆ

    เราจะยุติความสัมพันธ์กันรึเจ้าคะข้าถามออกไปด้วยประสบการณ์ที่เคยเจอ

    เขาทำหน้าตกใจ เหตุใดเจ้าจึงรู้กันเล่า

    ไม่ต้องสนใจหรอกเจ้าคะข้าถอนหายใจ เหตุใดกันรึเจ้าคะ ข้าไม่ดีพอหรือเจ้าคะ

    เขาส่ายหน้า

    ข้าทำหน้าฉงน งั้นเพราะเหตุใดกันเล่าเจ้าคะ

    รอยยิ้มของเจ้ามันดูไม่จริงใจเสียเท่าไร

    ข้าคิ้วกระตุกเบาๆ ว่าอย่างไรนะเจ้าคะ

    อะ-อ่าเจ้าดูไม่จริงใจเสียเท่าไรยังไงเล่าสิ่งที่เจ้าเป็นอยู่ดูไม่ใช่ตัวตนของเจ้าเลยน่ะ…”

    ข้าเหนื่อยใจมาก เลยเดินออกมาเอง ไม่ต้องรอให้เขาหันหลังทิ้งข้าไว้

    ต่อมาข้าจึงละทิ้งความอ่อนหวานของตนไป ถึงจะอ่อนหวานเรียบร้อยไปความรักก็ไม่สมหวัง งั้นต่อไปนี้ข้าจะทำอะไรก็เรื่องของข้า

     

    หมิงลู่รักที่ห้ากล่าวกับข้า เรามายุติ-”

    คราวนี้อะไรอีกข้ากล่าวถามก่อนที่เขาจะพูดจบเสียอีก

    คราวนี้รึเขาทำหน้างงๆ พูดเหมือนกับเจ้าเคยอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้มาก่อนเลย

    ก็แน่ละสิ

    ไม่มีอะไรมากมายหรอกหมิงลู่ ข้าแค่คิดว่าเราอาจจะไม่เหมาะสมกัน พวกเราคบหาดูใจกันมาตั้งนานแล้ว เรายังไม่รู้จักกันและกันดีพอเลย

    อืม…” แล้วข้าก็เดินออกมาเลย ทิ้งให้เขามองแผ่นหลังบางของข้าจากไป

    .

    ..

    ...

    และรักต่อๆมาของข้าก็ไม่เคยสมหวังเลยสักครั้งเหมือนเดิม

    สรุปแล้ว ข้าก็คือคนที่ไม่มีดวงเรื่องความรัก พยายามแค่ไหนก็ไม่สมหวัง ต่อให้ดีแทบตายแค่ไหน เขาผู้นั้นก็จะมีข้ออ้างมาเลิกรักข้าเสมอๆ ผ่านมาเป็นสิบรัก นับหลายพันปีแล้ว ข้าก็ยังไม่เคยสมหวังเลยสักที

    แต่ไม่รู้ว่าข้าควรดีใจหรือไม่ ที่ผลพวงจากความพยายามที่จะสมหวังในความรักของข้าครั้งก่อนๆ ทำให้ข้าได้ร่ำเรียนทักษะต่างๆมามากมายนับไม่ถ้วน แน่นอนว่าด้วยทักษะเหล่านี้ ไม่ว่าข้าจะเกี้ยวชายหนุ่มแบบใด โอกาสสมหวังของข้าก็ยิ่งเพิ่มขึ้น ฉะนั้นแล้วคงมีสักวันนั้นแหละที่ตัวข้าจะสมหวังอย่างใครเขาบ้าง!

    แต่ที่ช้ำใจที่สุดไม่ใช่เรื่องความรักที่ไม่สมหวังแต่เป็นเจ้าผลพวงจากความไม่สมหวังอย่างฉายาเรียกขานที่เปลี่ยนจาก นางพญางู เป็น นางพญานก แทน

    ผู้อื่นเรียกขานข้าแบบนี้เนี่ยไม่ค่อยน่าจรรโลงใจสักเท่าไรเลยนะ

     

     ♦ ♦  ♦ ♦ ♦ 


     


    T
    B

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น