ViKEN
CANDY.
ของหวานเสียบไม้ลักษณะทรงกลมถูกวางทาบไว้บนปากอิ่มสีชมพูระเรื่อความหวานติดเคลือบให้ริมฝีปากดูแวววาวเล็กน้อย นิ้วเรียวหมุนด้ามพาสติกสีขาวอันเล็กช้าๆ ก้อนน้ำตาลรสหวานบดขยี้ไปมาราวกับกำลังเบียดจูบ ลำคอขาวขยับเมื่อน้ำลายผสมความหวานจากลูกอมถูกกลืนลงไป ลูกกระเดือกแหลมนั่นขยับขึ้นลงช้าๆ
ปากเล็กๆกำลังอ้าเผยอลิ้นเรียวที่ดูอุ่นและชื้นค่อยๆรับเอาอมยิ้มนั่นเข้าปากก่อนที่จะถูกงับปิดลงแม้ริมฝีปากจะปิดและโผล่ออกมาเพียงก้านพลาสติก แต่จังหวะการขยับที่มองเห็นได้จากกระพุ้งแก้มข้างซ้าย ลิ้นอุ่นกำลังตวัดรัดเกี่ยวกับความหวานอยู่ภายใน กระพุ้งแก้มพองเป็นลูกกลมๆซ้ายทีขวาทีเมื่อเค้าย้ายข้างลูกอมนั่น
ริมฝีปากนั่น ไม่ว่าจะเห็นสักกี่ครั้งก็ยังอยากครอบครอง...
“ดีมาก โอเค วันนี้พอเท่านี้แหละ”
“ขอบคุณที่ทำงานหนักครับ”
เสียงทุ้มเอ่ยเบาๆแต่ดังพอให้คนตรงหน้าได้ยิน ดวงตาละจากร่างตรงหน้าก้มมองในจอแสดงผลบนกล้องตัวโปรด นายแบบร่างโปร่งยิ้มร่าอย่างร่าเริงผิดกับภาพลักษ์เย้ายวนเมื่อครู่ลิบลับ รุ่นพี่แจฮวานโค้งให้คนในสตูถ่ายภาพด้วยความนอบน้อมพร้อมรอยยิ้มกว้างๆ มินิฮาร์ทถูกแจกจ่ายอย่างไม่มีวันหมดให้กับทุกๆคน
“ว้าวว สวยมากอะ นายถ่ายเก่งเหมือนเดิมเลยนะวอนชิกอ่า”
คำชมถูกพ่นออกมาไม่หยุดจากปากอิ่มสีแดงระเรื่อที่ยิ้มกว้าง นิ้วเรียวของผมเคาะไปบนเมาส์เรื่อยๆเพื่อให้ภาพเลื่อนไปเรื่อยๆ สายตาของคนในสตูดิโอดูพึงพอใจในผลลัพธ์ที่ออกมา
"ทุกคนกลับกันหมดแล้วนะครับ"
"อ่ออ งั้นหรอ"
เขาพึมพำออกมาแม้สายตาจะจ้องมองอยู่กับโทรศัพท์ตัวเอง ก่อนเขาจะเก็บมันใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง
"พี่จะเอารูปเลยไหม?"
"ยังอะ นี่นายจะกลับหรือยัง?"
"ครับ คิดว่าควรจะกลับได้แล้ว"
แจฮวานนี่ยิ้มออกมาทันที เหมือนกับว่ากำลังรอคำตอบนี้จากผมอยู่อย่างนั้นแหละ เจ้าตัวยัดทุกอย่างลงในกระเป๋าครัชสีขาวคาดดำของตัวเองทันที เขาเป็นฝ่ายเดินนำออกจากสตูดิโอ ส่วนผมเองก็เดินตามและมองเขาจากด้านหลังอย่างพินิจ ส่วนสูงของเขาน่าจะต่ำกว่าผมไม่กี่เซนต์ ร่างกายดูบางกว่าเหมือนคนไม่เล่นกีฬา ผิวก็ดูขาวและอาจจะนุ่มกว่าด้วยซ้ำไป เสื้อผ้าที่สวมใส่ เสื้อฮู้ดสีแดงนั่นถ้าเป็นผมใส่มันอาจจะพอดี แต่เมื่ออยู่บนตัวเขากลับดูใหญ่จนนิ้วเรียวโผล่มาเซย์ไฮได้เล็กน้อย กางเกงยีนส์สีสีดนั่นก็ด้วย แต่โดยรวมพออยู่กับตัวเขามันก็ดูน่ารักดี
"ฉันว่ามันค่อนข้างจะร้อนนะ"
"ครับ?"
"ฉันร้อนน่ะ"
แจฮวานนี่พูดก่อนจะดึงที่คอเสื้อฮู้ดสีแดงแล้วดึงมันออกจากทางศีรษะ เผยให้เห็นเสื้อยืดโอเวอร์ไซส์สีขาวด้านใน เขาพาดเจ้าเสื้อสีแดงนั่นไว้บนบ่าก่อนจะเดินยิ้มร่าออกไป จริงสิอากาศดูอบอ้าวมากเลยฝนจะตกไหมนะวันนี้?
"นายจะกลับบ้านเลยไหม?"
"ยังครับ ผมมีเพื่อนที่จะต้องไปรับ"
"เพื่อนนายหรอ.."
"ครับ"
"แฟนล่ะสิ คิๆ"
"ไม่ใช่สักหน่อยครับ เพื่อนตัวน้อยเท่านั้นเอง"
ผมว่าก่อนที่ขาจะหยุด เราสองคนเดินมาถึงร้านรับฝากสัตว์เลี้ยงใกล้ๆสตูดิโอของผม แจฮวานเบนสายตาล้อเลียนผมไปที่ร้านนั่น ขาของผมก้าวนำเข้าไปข้างในอย่างเคยชิน
"สวัสดีค่ะคุณวอนชิก ดองงี่คุณพ่อมารับแล้วนะคะ"
เจ้าลูกสุนัขเฟรนช์ บลูด็อกตัวสีขาววิ่งเข้ามาหาผมด้วยท่าทาตื่นเต้น มันวิ่งไปรอบๆเหมือนไม่ได้เจอผมมาหลายวัน ทั้งๆที่ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง ทำยังไงได้ก็ที่สตูดิโอเวลามีลูกค้า พวกเขาอาจแพ้มันผมจึงต้องเอามาฝากไว้บางครั้งบางคราว
"น...น่ารัก ขอจับมันได้ไหม?"
"ครับ?"
แจฮวานนั่งยองๆลงข้างๆผมก่อนจะยื่นมือตรงไปที่ดองงี่ ลูกสุนัขรู้หน้าที่ดีมันวิ่งเข้ามาดมมือขาวๆนั่น ก่อนจะยอมให้เขาลูบตัว ใบหน้าผ่อนคลายของแจฮวานทำให้ผมรู้สึกโล่งอย่างประหลาด เขาดูมีความสุขดีนะ... ผมลุกขึ้นยืนเต็มตัว จัดการชำระค่าบริการของดองงี่กับทางร้าน
"เอานี่ด้วยสิ"
"ตุ๊กตา?"
"อื้ออ ดองงี่ชอบมันล่ะ เนอะ?"
ตุ้กตาหมูสีขาวถูกวางลงบนเคาเตอร์ และแจฮวานเขาก็หันไปถามเจ้าดองงี่ที่กระโดดไปมาเพราะอยากจะเล่น มันเห่าเสียงเล็กๆออกมาเหมือนเป็นการตอบ ผมหรี่ตามองมันอย่างชั่งใจ แต่มือเรียวที่ไวกว่ายืนการ์ดให้กับพนักงานเสียก่อน
"มื้อนี้ฉันเลี้ยงเอง~"
แจฮวานก้มลงไปอุ้มดองงี่ขึ้นมา ก่อนจะกดริมฝีปากลงบนใบหน้าเซ่อๆของเจ้าสุนัขนั่น มันทำเสียงฟึดฟัดเล็กน้อยเมื่อแรงกดบนใบหน้าจากริมฝีปากนุ่มนั่นสร้างความรำคาญให้กับมัน
"คิๆ มันรำคาญฉันล่ะ"
"พี่ก็เลิกจูบมันสักทีสิครับ"
"ทำไมล่ะ มันสนุกออกนะ"
ก็... ไม่รู้สิ เพราะผมเองก็อยากลองสัมผัสริมฝีปากนั่นด้วยล่ะมั้ง ผมสะบัดหัวทันที จนผมสีม่วงสะบัดไปตามแรงเบาๆ เขายังคงอุ้มเจ้าดองงี่ไว้ด้วยรอยยิ้มแล้วเดินตามผมมาเรื่อยๆ ทั้งๆที่ไม่ใช่ทางกลับบ้านของเขาสักหน่อยจนเราทั้งสามมาหยุดอยู่ที่บ้านของผมซะแล้ว..
"พี่ไม่กลับบ้านหรอ?"
"อ๊อ? นั่นสิ ฉันลืมไปเลยล่ะ เพราะเจ้านี่มันน่ารักจนฉันต้องเดินตามมาเลย ฮ่าๆ"
"-_-?"
ผมรับเจ้าดองงี่มาไว้ในอ้อมแขน ส่วนแจฮวานนี่เองก็กำลังบอกลามันด้วยการจุ้บที่หน้าผากดองงี่อีกที ตุ้กตาหมูถูกยัดลงมาในอ้อมแขนของผมด้วย เขาโบกมือให้ก่อนจะเดินหันหลังไป ส่วนผมเองก็คงจะต้องเข้าบ้าน
ซ่าๆ ๆ
ฝนตก? หลังจากที่เราจากกันไม่นาน เสียงหยดน้ำฝนกระทบกับหลังค่บ้านของผู้คนก็ดังขึ้น แจฮวานคงจะกลับไปอย่างปลอดภัยแบบไม่โดนฝนนะ เขายิ่งป่วยง่ายๆอยู่ด้วยเจ้าพี่คนนั้นนะ
Rrrrr*Rrrrr
"ครับ?!"
ผมวางสายจากโทรศัพท์เสร็จก็รีบวิ่งลงมาจากห้องของตัวเองจากชั้น10 เพื่อลงมาหาเจ้าของปลายสาย แจฮวานยืนหลบฝนอยู่ใต้อาคารกอดกนะเป๋าเอาไว้ร่างกายสั่นระริกเพราะอากาศและน้ำฝน
"คือ... ก็คิดว่าไม่เป็นไรแต่ว่ามันตกแรงมาก ขอหลบฝนที่บ้านนายสักแปบได้ไหมอะ?"
"รีบขึ้นไปเถอะครับ เดี๋ยวเป็นหวัดเอานะ"
ผมกดปิดลิฟต์ที่มีเพียงแค่เราสองคน ประตูค่อยๆเคลื่อนเข้าหากันและปิดสนิทในไม่ช้า สายตาผมอดที่จะมองสำรวจคนข้างกายอีกครั้งไม่ได้ เขากางฮู้ดสีแดงอย่างสำรวจ
"มันเปียกหมดเลย..."
เขาพึมพำ ปากอิ่มสีชมพูระเรื่อเม้มเข้าหากันเล็กน้อย สายตาของผมเผลอไล้มองต่ำลงไปที่ลำคอขาว หน้าอกและหน้าท้องทุกส่วนของเขามันเปียกไปด้วยน้ำฝน เสื้อสีขาวตัวบางแนบสนิทไปกับลำตัว เขาผอมจังเลยนะ...
ติ้ง/ 10⬆
เสียงเตือนบอกว่าถึงชั้นที่ต้องการจะมา นั่นถึงทำให้ผมละสายตาออกจากเขาได้ ขายาวของผมก้าวนำแขกคนสำคัญให้เดินตามอย่างไม่ลังเล ประตูห้องถูกเปิดออกหลังจากกดรหัสผ่านที่แสนง่าย ดองงี่วิ่งมาหาและมันดูดีใจที่เจอแจฮวานอีก
"ขอบใจที่ให้ยืมเสื้อผ้านะ แต่ฉันคิดว่าแค่เสื้อก็น่าจะพอแล้ว"
"มันใหญ่จัง"
ผมพึมพำเมื่อเสื้อเชิ้ตสีขาวของตัวเองไปอยู่บนร่างของคนตรงหน้า มันแทบจะคลุมลงไปถึงเข่าของเขาแนะ ตัวนั้นผมใส่ยังไม่ใหญ่ขนาดนี้เลย แต่เขาใส่ออกมาก็ยังดูน่ารักอยู่ดี เเขนเรียวกางออกทั้งสองข้าง เขาก้มลงมองดูความยาวของมัน
"แต่พี่ก็ดูดีถึงใส่มันอยู่ก็เถอะ"
เหมือนเป็นชั่ววูบหนึ่งที่ร่างกายไม่สนใจว่าสมองสั่งการยังไง มือของผมกำลังจะวางลงบนศีรษะคนตรงหน้า ก่อนที่ตัวผมจะเบี่ยงลงไปวางบนไหล่ข้างขวาของเขาแล้วตบมันเบาๆแทน เขาหัวเราะก่อนจะละสายตาจากผมไปที่ดองงี่แล้วเล่นกับมันแทน
"ฉันน่าจะกลับบ้านนะ ฝนก็ท่าทางจะหยุดแล้วด้วย"
ร่างโปร่งยืนพิงประตูระเบียงใช้มือแง้มเปิดผ้าม่านตรงหน้าหลังจากเราพึ่งล้างจานเสร็จ เขาส่องมองออกไปอย่างพินิจถึงสภาพอากาศว่าเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้ผมไม่อยากให้เขาไปไหนซะแล้วสิ นี่ก็ดึกแล้วด้วย..
"พรุ่งนี้สิครับ ตอนเช้าค่อยออกไปพร้อมกัน"
"จะเอาอย่างนั้นหรอ ก็ได้นะฉันแค่เกรงใจนายน่ะ ปกติไม่ค่อยเห็นนายสุงสิงกับใคร"
"ผมไม่ได้เพื่อนเยอะเหมือนพี่นะ..."
เขาหัวเราะออกมานิดหน่อย ก่อนจะเดินเข้ามานั่งข้างๆผมบนโซฟา ดองงี่หลับไปแล้วบนฟูกที่นอนประจำของมัน และมันก็คงไม่สนใจอะไรอีกรวมถึงแจฮวานนี่ที่คงไม่สนใจอะไรๆได้อีกนอกจากผมแล้ว
"แต่นายมีพี่"
ผมว่านั่นมันก็จริงตั้งแต่รู้จักกับเขามาเกือบสี่ห้าปี ผมก็ไม่ได้ต้องการจะสนใจใครอีก ผมหันไปมองใบหน้าของเขา ดวงตาสีน้ำตาลประกายเมื่อกระทบแสงไฟเหมือนกับคริสตัลที่เปร่งประกาย จมูกโด่งที่ดูเหมือนไม่ใช่คนเอเชียกลับทำให้เขาดูอ่อนโยน ริมฝีปากอิ่มสีไม่ดำไม่คล้ำคล้ายคนไม่เคยแตะของจำพวกบุหรี่ ใบหน้าของเราเหมือนถูกดึงดูดเข้าหากัน ไม่ใช่สิ.. มันก็แค่ของผมคนเดียว นิ้วของผมแตะลงบนริมฝีปากนุ่มตรงหน้าเบาๆ
"ให้ตายสิ... ผมกำลังจะเป็นบ้าเพราะพี่"
ดวงตากลมจ้องมองมาที่ผมอย่างมีความหมาย เรารับรู้มันถึงกันได้ เขาเผยอริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยนั่นทำให้ผมสัมผัสความรู้สึกแปลกใหม่ นิ้วเรียวถูกแตะแต้มด้วยน้ำลายอุ่นในโพรงปากนุ่ม ดูดเม้มเหมือนกับว่านิ้วของผมเป็นอมยิ้มอันแสนหวาน แต่มันทำให้ร่างกายผมสั่นสะท้านไปทั่วกาย อวัยวะบางส่วนถูกกระตุ้นเพียงสัมผัสจากปลายนิ้ว
"อือ..."
ริมฝีปากที่ผมเฝ้ามองมาตลอดกำลังถูกผมครอบครองซ้ำๆ ด้วยริมฝีปากของผมเอง มันบดเบียดเข้าหากันเหมือนกับว่าเตืมเต็มสิ่งที่เราทั้งคู่ต้องการ ไม่ต้องมีคำพูดใดๆ มีเพียงเสียงหอบหายใจถี่ทุกครั้งที่ถอนจูบออกห่างกันและโน้มใบหน้ากดเข้าไปรับรสจูบใหม่อีกครั้ง ไม่ต้องพูดอะไรปล่อยให้ลิ้นร้อนสัมผัสและกวาดต้อนความหอมหวานในโพรงปากนุ่ม
จะครอบครองทุกสิ่งที่เขามี จะมอบทุกสิ่งที่เขาต้องการ ร่างบางโอบกอดผมเอาไว้บนกายตัวเอง ยิ่งกว่านอนบนเมฆสีม่วง ผมรับรู้ความรู้สึกแทบจะมองเห็นสรวงสวรรค์ ยิ่งเมื่อเขาเป็นฝ่ายอยู่ข้างบน อืม
คืนนี้ผมรู้แล้วล่ะ ว่าเราจะทำอะไรกันดี..
"นี่นะ.. มันแค่เริ่มต้นแจฮวานนี่"
"อืมม~"
"I'm thinking your body"
__________
เถลไถลมาเขียนช็อตฟิค
ส่วนฮาเดสนั้น ขอแปะโป้งไว้ก่อนเด้ออ
- ด้วยรัก