"เจ้าชายในฝัน"

เนื้อเรื่อง

เจ้าชายในฝัน

"ผมไม่ใช่เจ้าชายของคุณ สักวันคุณจะเจอแต่ไม่ใช่ผม"

ฮือ ๆ ๆ เสียงสะอึกสะอื้นของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่อินกับภาพยนตร์เสมือนเป็นชีวิตจริงที่เกิดขึ้นกับเธอเอง

คงจะเป็นคำพูดที่ดีมาก ถ้าผู้ชายคนหนึ่งจะปฏิเสธผู้หญิงที่เค้าไม่ต้องการ ไม่มีใจให้

แต่...........ในทางกลับกัน ความเจ็บปวดรวดร้าวก็ได้ก่อกำเนิดขึ้นในจิตใจของผู้หญิงคนนั้น อย่างไม่มีทาง

หลีกเลี่ยงได้ แถมท้ายด้วยแห้วกระป๋องเบอเร่อ มิหนำซ้ำยังต้องพกพาความผิดหวังกลับบ้านไปอีก

ถ้าเราเจอคำพูดแบบนี้จะทำยังไงดีล่ะ??!! ก้านทราย  หญิงสาวที่กำลังดูหนังบ่นในใจ

ทราย อ่านหนังสือได้แล้วนะ อีกสองเดือนจะเอนท์แล้ว ยังนอนดูหนังสบายอกสบายใจอยู่อีก

บ้านน่ะกวาดหรือยัง?  ข้าวหมานะให้แล้วหรือเปล่า........ เสียงบ่นของผู้เป็นแม่

ค่ะ ๆ ใกล้จะจบแล้ว อีกนิดเดียวเอง...........

เฮ้อ!!! สอนเท่าไรไม่รู้จักจำ  ไอ้ลูกคนนี้มันเป็นยังไงนะ เป็นผู้หญิงประสาอะไร งานบ้านไม่เคยแตะ

ถ้าไม่ปริปากบ่น เหนื่อยใจ จริง ๆ

ไม่ว่าจะมีสิ่งใดมากระตุ้น โสตประสาทการได้ยินของเธอก็ไม่ตอบสนอง เพราะตอนนี้สายตาของเธอยกให้

พระเอกเรื่องนี้คนเดียว เหมือนตกอยู่ในภวังค์ และกำลังคิดไปว่าตัวเองเป็นนางเอก

เธอยังคงอินต่อไป หนังจบอารมณ์ไม่จบ เธอเข้าใจคำพูดนี้อย่างถ่องแท้

เราจะเป็นเจ้าหญิงได้มั้ยน๊า.....??? ก้านทรายคิด

อาจจะเป็นเจ้าหญิงที่ขี้เหร่.........เน๊ ที่สุดเลย จะมีเจ้าชายที่ไหน แคว้นใดมาตกหลุมรักมั้ยน๊า หลุมรักที่เธอขุดไว้

นานนับแรมปี เธอคอย คอยมานาน กว่า 17 ปีแล้ว ยังไม่เจอเจ้าชายสักองค์ แต่เจ้าชายที่ไหนล่ะ จะมาชอบเจ้าหญิง

ที่ไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเองสักเท่าไร เจ้าหญิงที่มีความผิดพิสดารผิดมนุษย์มนา คิดแม้กระทั่งประดิษฐ์อาวุธ

ชีวภาพเพื่อเตรียมพร้อมกับสงครามโลกครั้งที่ 3 ซึ่งอาจจะเป็นสงครามแห่งศาสนา อาวุธของเธออาจทำลายล้าง

สิ่งมีชีวิตที่อยู่บนโลกใบนี้ และที่สำคัญมันอาจจะทำลายเจ้าชายที่เธอรอคอยมานานแสนนาน  คิดได้ดังนั้น เธอจึง

ล้มเลิกความตั้งใจ นับว่าเป็นโชคดีของมวลมนุษยชาติ

นอกจากนี้เจ้าหญิงยังขี้เกียจ โมโหง่าย และที่ร้ายไปกว่านั้น เจ้าหญิงปากXXX เป็นบางเวลา

ที่ควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยจะอยู่ อย่ามาทำให้หงุดหงิดนะ แล้วคุณจะรู้ว่านรกมีจริง ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เจ้าหญิง

ในฝันของเจ้าชายองค์ใดเลยนะ แต่......................

อย่าเพิ่งเมินซะก่อนล่ะ ไม่ใช่ว่าเจ้าหญิงจะไม่มีส่วนที่ดีกับเค้าบ้างเลยนะ นับว่าโชคดีที่เจ้าหญิงฝักใฝ่ในพระธรรม

คำสอนอันประเสริฐของพระพุทธเจ้า และพยายามปฏิบัติตนให้อยู่ในศีลห้าเสมอ แม้บางครั้ง

อาจจะเอาธรรมะมาปฏิบัติใช้ในชีวิตจริงได้เพียง 49.258% ก็ตาม และปัญหาที่เจ้าหญิงแก้ไม่ตก

คิดแล้วคิดอีก จนเกือบเข้าโรง'บาลบ้า สุดท้ายก็ได้ธรรมมะเนี่ยแหละช่วยชีวิตไว้ได้อย่างหวุดหวิด

รอดตายมานับครั้งไม่ถ้วน

เจ้าหญิงยังเป็นคนที่อารมณ์ดี มีเส้นเสียงที่ไพเราะนุ่มกังวาน  ที่ทำให้ผู้ที่ได้ฟังหลงรักเข้าอย่างง่ายดาย

โอ้!!! ฉันเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ จริง ๆ

หวังว่าสักวันเจ้าชายที่เจ้าหญิงรอคอยจาปรากฏตัวให้เจ้าหญิงได้พบ ได้ทำความรู้จัก โดยไม่ต้องรอให้

เจ้าหญิงกินแอปเปิ้ลอาบยาพิษ หรือรอให้เจ้าหญิงได้พรวิเศษจากนางฟ้า เพื่อไปพลเจ้าชายในงานเต้นรำ

และทิ้งเพียงรองเท้าแก้วไว้ให้เจ้าชายได้ดูต่างหน้า  .......เฮ้อ!! น้ำเน่าชะมัด

เจ้าชายในอุดมคติของเจ้าหญิงนะ ต้องเป็นคนที่มีนัยน์ตาเปล่งประกาย แวววาวราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า

ชวนหลงใหล มีเรียวปากบาง น่าสัมผัส เจ้าชายต้องเป็นคนที่ทำให้เจ้าหญิงตื่นเต้นและอบอุ่นเสมอเมื่ออยู่ใกล้

ฉลาดและเป็นคนดี เป็นห่วงเจ้าหญิงเสมอ ช่างเป็นเจ้าชายที่เพียบพร้อมไปซะทุกอย่าง

ชาติหน้าจะหาได้มั้ยเนี่ย????

ติ๊ด............ติ๊ด..................

เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น ฉุดให้เธอตื่นขึ้นมาจากความฝัน ให้เธอรับรู้ว่าเลิกเพ้อเจ้อได้แล้ว ตื่นมารับแสงแดดอุ่น ๆ

และความเป็นจริงเสียที.......!!!

หกโมงเช้าแล้วเหรอเนี่ย ตายละ จะไปโรงเรียนทันมั้ยน่ะ    สิ้นเสียงบ่นเจ้าของเสียงนั้นก็เร่งฝีเท้าตรงไป

ยังห้องน้ำทันที  ล้างหน้า แปรงฟัน และอาบน้ำ ภารกิจสุดท้ายเป็นภารกิจที่ใหญ่หลวงนัก

เธอจัดเตรียมกองทัพ เพื่อตั้งรับกับข้าศึกที่กำลังประชิดกำแพงเมืองมา

ในไม่ช้า....กองลาดตระเวนก็ได้ส่งข่าวมาว่าข้าศึกได้ตีเมืองหน้าด่านแตกแล้ว  ใจคอเธอไม่ดีเลย

แต่ด้วยยุทธวิธีที่แยบยลและการตั้งรับแบบกองโจร ก็ทำให้เธอมีชัยชนะในศึกครั้งนี้ เมื่อเสร็จภารกิจแล้ว

เธอเก็บกวาดราษฎรที่ล้มตาย และซากปรักหักพังให้เรียบร้อย ก่อนที่จะก้าวเท้าลงมาจาก...............

ส้วม!!! เธอบิดประตูห้องน้ำ และมุ่งตรงไปยังห้องแต่งตัว

ยิ่งรีบก็เหมือนยิ่งช้า ยังกับว่าฟ้าดินลงโทษที่เธอตื่นสาย เมื่อเสร็จภารกิจทุกอย่างแล้ว เธอไม่ลืมที่จะ

เสยผมหนึ่งครั้ง ก่อนที่จะก้าวเท้าออกจากบ้านเพื่อเดินทางไปยังโรงเรียนซึ่งอยู่ไม่ห่างจากบ้านเธอมากนัก

5 นาทีต่อมา เธอมาถึงโรงเรียนโดยสวัสดิภาพ ทันทีที่เธอเข้ามาในโรงเรียน ทุกสายตาจับจ้องมาที่เธอ

เหมือนต้องมนต์สะกด เธอก้าวต่อไปอย่างมั่นใจ

ทันใดนั้นเอง............สายตาเธอก็ สะดุด สะดุดเข้าอย่างจัง!!!

เก้วอี้สีขาว ที่วางอยู่อย่างเป็นระเบียบภายใต้ ต้นมะขามใหญ่ที่แตกกิ่งก้านสาขาปกคลุมทุกบริเวณ

ทำให้ทุกคนได้พบกับความร่มรื่น แม้อากาศจะร้องอบอ้าวเพียงใด ลมโชยมาเบาๆ

บนโต๊ะตัวหนึ่งที่อยู่ใกล้กับเก้าอีสีขาวตัวนั้น มีหนังสือเล่มโตวางอยู่ หน้ากระดาษทุกหน้า กำลังถูกเปิด

ด้วยนิ้วมือเรียวยาว มีเล็บสีอมชมพู บ่งบอกให้รู้ว่าคนนั้นเป็นคนที่มีสุขภาพดี

ขณะที่เธอหยุดชะงัก  ด้วยความตะลึง

ช่างเหมือนเจ้าชายในฝันอะไรอย่างนี้!!! เธออุทาน

และเหมือนสวรรค์เป็นใจ ผู้ชายคนนั้นหันมาสบตาเธอ ยังไม่ทันที่เธอหลบสายตา

เพีบงแว็บเดียวเธอก็รู้เลยว่า ใช่ !! ใช่แน่ ๆ คนนี้แหละที่คอยมานาน นัยน์ตาเขาช่างสวยงามเหลือเกิน

ประหนึ่งเหมือนเด็กน้อยที่ไร้เดียงสา แต่ก็ยังแข็งกร้าวแบบผู้นำที่อาจหาญ ตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความ

อ่อนโยน เธอรับรู้ได้ในวินาทีแรก ด้วยความเขินอาย เธอจึงก้มหน้าเดินผ่านชายคนนั้นไป ในใจคิดตลอดว่า

จะต้องทำความรู้จักกับเขาให้ได้ และยังเจ็บใจที่เธอเรียนในโรงเรียนแห่งนี้มาตั้งนาน ทำไมเธอไม่เจอเขา

ให้เร็วกว่านี้นะ  มาเจอเอาวันสุดท้ายที่เธอกำลังจะเรียนจบ เธอออกเดินไปได้ไม่ถึง สิบก้าว

 ก็รู้ว่ามีคนเดินตามเธอมา อย่างเร่งรีบ ยังไม่ทันที่เธอจะหันไปมองว่าเป็นใคร แขนเธอก็โดนรั้งไว้อย่างดิ้นไม่หลุด

ขอเวลาให้ผมสักห้านาทีจะได้มั้ยครับ?!? น้ำเสียงอันไพเราะจากชายที่เธอแอบปิ๊งตั้งแต่แรกพบ

มีอะไรหรือเปล่าค่ะ  เธอตอบ  จะไปกับใครที่ไม่รู้จักง่าย ๆได้ยังไงล่ะ เสียเครดิตหมด เธอคิดในใจ

ตามผมมานะครับ ผมมีอะไรจะบอกคุณ  ยังไม่ทันที่เธอจะตอบ เขาจูงมือเธอไป ยังที่แห่งหนึ่ง ที่เงียบสงบ

ทั้งที่ช่วงเวลาพักเที่ยง บริเวณนี้เต็มไปด้วยนักเรียนนับร้อยที่มานั่งพักผ่อน แต่ยามเช้าเช่นนี้มันช่างเหมาะสม

แก่การมานั่งอ่านหนังสืออะไรอย่างนี้ ใกล้กับเป็นโรงเกษตร ดอกกุหลาบกำลังเบ่งบาน เสมือนต้อนรับการมา

เยือนของเธอและเขา

ตึก ตัก ตึก ตัก เสียงหัวใจเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ อาการประหม่าเกิดขึ้นในจิตใจ คิดไปต่าง ๆ นา ๆ

หรือผู้ชายคนนี้จะมาเป็นเจ้าชายของเธอจริง ๆ ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเป็นทวีคูณ

เอ่อ!! คือว่า...........เขาอ้ำอึ้งขนาดที่เธอรอฟังอย่างตั้งใจ ยังไม่ทันที่เขาจะได้พูดอะไรต่อ

ใบหน้าที่ขาวใส ราวกับท้องฟ้ายามไม่มีเมฆหมอกมาบดบัง เพียงเวลาไม่กี่วินาทีมันได้เปลี่ยนแปลงไป

อย่างชัดขึ้น ชัดขึ้น และชัดขึ้น ใบหน้าของเขาแดงก่ำ

เขาต้องบอกรักฉันแน่ ๆ เลย   เธอคิด

เขาก้มหน้าลงเหมือนกำลังทำสมาธิไม่ให้ตื่นเต้นมากไปนัก

คือว่า..........คุณไม่ได้ติดกระดุมเสื้อสองเม็ดครับ!!! เธอก้มลงมองดูเสื้อตัวเอง

ว้าย!!!!!!!!!! เธอเร่งฝีเท้าสุดแรงเกิด มิหน้าล่ะคนถึงมองกันนัก หน้าอกหน้าใจของเธอก็ใช่ว่าจะเล็กซะที่ไหน

มิหนำซ้ำเธอยังลืมใส่เสื้อซับในมาอีกด้วย

ไม่เป็นไรนะ เธอให้กำลังใจตัวเอง หวังว่าวันนี้สวรรค์คงมีเมตตาให้เธอพบกับโชคดีบ้างเถอะ

และแล้วคำอธิษฐานของเธอก็เป็นจริงทันตาเห็น เขาคนนั้นเดินมาหาเธอด้วยสายตาที่มุ่งมั่น

ในขณะที่เธออยากวิ่งหนี .............

ไม่เป็นไรนะครับ คนเรามีเรื่องผิดพลาดกันได้ ไม่มีใครไม่เคยโชคร้ายหรอกครับ อย่าคิดมากเลยนะ เขากล่าว

ขอบคุณมากนะค่ะ คุณ..............

ยังไม่ทันที่เขาจะได้ตอบเธอ ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่เป็นหนุ่มสุดฮ๊อตของโรงเรียน เดินมายังที่เธอ

เขาเดินเข้ามาใกล้มาก ใกล้จนแทบจะได้ยินเสียงลมหายใจ เขาจ้องเธออย่างไม่ละสายตา

 อย่างกับว่าเคียดแค้นกันมานาน  .............

พี่ปิลันธ์ ครับ เจ้าชายของเธอเรียกชายคนนั้น  เขาละสายตาจากเธอและหันไปหา บาส เจ้าชายของเธอ

ทั้งสองมองกันด้วยสายตาที่หวานฉ่ำไม่เหมือนผู้ชายปกติมองกัน สองคนนี้เป็นคู่เกย์กันหรือเปล่าว๊า....??? เธอคิด

ความสงสัยของเธอเริ่มกระจ่างชัดขึ้น ทั้งคู่กอดกันประหนึ่งเป็นคู่รักหนุ่มสาว เธอต้องวิ่งสุดแรงเกิดเป็นครั้งที่สอง

ในรอบหนึ่งวัน เพราะทนดูภาพที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าไม่ได้ เธอนึกในใจว่า ถ้าเจอเขาอีกเธอคงจะกลายเป็นนักวิ่ง

ทีมชาติอย่างแน่นอน อีกห้าสิบปีข้างหน้าผู้ชายคงจะหมดโลก และเธอเองก็อยากเตือนผู้หญิงทุกคนว่า

"สิ่งที่คุณเห็นอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิด"