THE LAST WAR ( Tale of Scroll 13 )
สงครามจะสิ้นสุดลงเมื่อใด ถ้าตัวละครสำคัญมีเหตุบังเอิญให้เสียความทรงจำในการยุติสงครามครั้งสุดท้าย ทำให้เธอต้องเร่ร่อนและต้องพจญภัยไปกับตัวละครมากมายที่มีความลับเพื่ออะไรบางอย่าง ณ ดินแดนที่เธอไม่รู้จัก
ผู้เข้าชมรวม
131
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เคยมีเรื่องเล่ากันว่าน้ำตกสายยาวที่ไหลลงมาหลังวิหารทางตอนเหนือของแดนริเซีย นั้นเป็นน้ำตาของธิดาผู้เลอโฉม มิมีผู้ใดยืนยันได้ว่าเรื่องนั้นเป็นจริงหรือไม่ เพียงแต่แดนที่เหนือขึ้นไปแดนริเซียนั้นอาจมีอยู่จริง จากหนังสือในหอสมุดแดนกลางได้บันทึกไว้ว่าแดนนั้นมีนามว่ามาเยียอาร์ ข้าพเจ้ามิรู้ว่าเหตุใดการบันทึกถึงน้อยเพียงนี้ ยิ่งเมื่อหลังเหตุการณ์จอกศักดิ์สิทธิ์ก็ยิ่งทำให้ชนริเซียอยากรู้จักแดนนั้นอย่างมาก จากเหตุในตำรานักบวชที่ข้าพเจ้าเคยอ่านเมื่อครั้นอดีตอาจมีความเกี่ยวพันกับแดนนั้น ทำให้ข้าพเจ้าต้องนั่งรถลากไปแดนเหนืออันหนาวเย็น เมื่อไปถึงข้าพเจ้าพบกับผู้บาดเจ็บจากสงครามจำนวนมาก พวกเขาเรียงแถวยาวตรงบันไดสูงหน้าวิหาร ก่อนได้รับบางอย่างจากนักบวชวัยน้อยชุดยาวขาวเท้าสะอาดผู้หนึ่ง เธอทำหน้าที่อย่างมิเหน็ดเหนื่อยจนกระทั่งเหล่าผู้ขอความช่วยเหลืออยู่เบื้องหลังเธอจนหมด มินานเธอก็อยู่ตรงหน้าข้าพเจ้าก่อนกล่าวอย่างเป็นมิตรว่า “ น้ำศักดิ์สิทธิ์นี้จะช่วยท่านได้ โปรดดื่มก่อนเถิด ”
อาจเป็นเพราะเธอได้เห็นบาดแผลใหญ่ที่ชัดเจนของข้าพเจ้า เธอจึงกล่าวเช่นนั้น ซึ่งข้าพเจ้าก็พึ่งนึกได้หลังจากดื่มน้ำในจอกใบเล็กของเธอเสียแล้ว มิมีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงเลย เว้นเสียแต่การกระหายน้ำที่หายไปเพียงนั้น เรื่องนี้จึงพิสูจน์ได้ว่าเรื่องเล่านับพันได้มีเรื่องหนึ่งที่มิจริงเสียแล้ว ขณะที่เธอกำลังกลับสู่เบื้องบนวิหาร ข้าพเจ้าก็รีบกล่าวถามเธอด้วยนอบน้อมว่า “ ท่านนักบวชน้อย ข้าพเจ้าขอความเมตตาจากท่านได้หรือไม่ ”
“เรื่องใดหรือผู้นักเดินทาง ”
“ ข้าพเจ้ามีสิ่งหนึ่งอยากถามว่าเหนือวิหารขึ้นไปเป็นแดนมาเยียอาร์ใช่หรือไม่ ”
ดวงตากลมน้อยมองมายังข้าพเจ้าด้วยความไร้เดียงสา ก่อนเธอในท่าสำรวมได้กล่าวขึ้นว่า “ ฉันมิรู้หรอกผู้นักเดินทาง บนนั้นมีเพียงก้อนเมฆขาวที่ลอยอยู่เท่านั้น ”
“ ท่านมิเคยเห็นสิ่งใดที่ต่างจากก้อนเมฆบ้างหรอกหรือ ”
เธอก้มหัวเล็กน้อย ก่อนกล่าวว่า “ เรื่องนั้นผู้นักเดินทางสามารถพิสูจน์ได้ เมื่อเท้าผู้นักเดินทางแตะบนยอดบันไดขั้นสุดท้ายของวิหาร ”
ข้าพเจ้ามองบันไดสูงลิบตา ก่อนกล่าวถามด้วยความหวั่นใจว่า “ บันไดนี้ยาวเพียงไรหรือท่านนักบวชน้อย ”
“ ฉันมิสามารถตอบได้ แต่ขณะนี้ฉันใช้กาลหนึ่งวันเพื่อเดินลงมา ”
ข้าพเจ้าผงะต่อคำตอบที่ได้ ก่อนกล่าวว่า “ ท่านนักบวชน้อย ท่านมีสิ่งใดที่รู้เกี่ยวกับแดนมาเยียอาร์บ้างหรือไม่ ”
“ ในตำราได้กล่าวไว้ว่าน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้นักเดินทางดื่มไปนั้นเป็นสิ่งหนึ่งของแดนมาเยียอาร์ หากผู้นักเดินทางอยากเห็นน้ำพุเล็ก มันอยู่ตรงนั้นอย่างเปิดเผย ”
ข้าพเจ้าขอบใจเธอ ก่อนเดินไปมิกี่ก้าวเพื่อจ้องมองน้ำพุแสนธรรมดาอยู่นาน มินานข้าพเจ้าก็ลดตาลงด้วยความผิดหวัง ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังเลื่อนตาขึ้นมองทางเดิน ข้าพเจ้าก็บังเอิญเห็นแผลใหญ่ของตนที่พึ่งเกิดขึ้นมิกี่วันก่อนหน้านี้ บัดนี้มันได้จางลงราวกับว่าเป็นรอยข่วนของสัตว์ตัวน้อยไปเสียแล้ว
จากนักบวชแดนกลาง
สามารถติดตามตอนเต็มได้ที่
https://novel.dek-d.com/Seia/profile/writer/?type=novel
ขอบคุณครับ
ผลงานอื่นๆ ของ Seia ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Seia
ความคิดเห็น