THE LAST WAR ( Tale of Scroll 13 ) - นิยาย THE LAST WAR ( Tale of Scroll 13 ) : Dek-D.com - Writer
×

    THE LAST WAR ( Tale of Scroll 13 )

    สงครามจะสิ้นสุดลงเมื่อใด ถ้าตัวละครสำคัญมีเหตุบังเอิญให้เสียความทรงจำในการยุติสงครามครั้งสุดท้าย ทำให้เธอต้องเร่ร่อนและต้องพจญภัยไปกับตัวละครมากมายที่มีความลับเพื่ออะไรบางอย่าง ณ ดินแดนที่เธอไม่รู้จัก

    ผู้เข้าชมรวม

    131

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    131

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  แฟนตาซี
    จำนวนตอน :  1 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  19 ก.พ. 67 / 10:55 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    เคยมีเรื่องเล่ากันว่าน้ำตกสายยาวที่ไหลลงมาหลังวิหารทางตอนเหนือของแดนริเซีย นั้นเป็นน้ำตาของธิดาผู้เลอโฉม  มิมีผู้ใดยืนยันได้ว่าเรื่องนั้นเป็นจริงหรือไม่ เพียงแต่แดนที่เหนือขึ้นไปแดนริเซียนั้นอาจมีอยู่จริง  จากหนังสือในหอสมุดแดนกลางได้บันทึกไว้ว่าแดนนั้นมีนามว่ามาเยียอาร์  ข้าพเจ้ามิรู้ว่าเหตุใดการบันทึกถึงน้อยเพียงนี้  ยิ่งเมื่อหลังเหตุการณ์จอกศักดิ์สิทธิ์ก็ยิ่งทำให้ชนริเซียอยากรู้จักแดนนั้นอย่างมาก  จากเหตุในตำรานักบวชที่ข้าพเจ้าเคยอ่านเมื่อครั้นอดีตอาจมีความเกี่ยวพันกับแดนนั้น  ทำให้ข้าพเจ้าต้องนั่งรถลากไปแดนเหนืออันหนาวเย็น  เมื่อไปถึงข้าพเจ้าพบกับผู้บาดเจ็บจากสงครามจำนวนมาก พวกเขาเรียงแถวยาวตรงบันไดสูงหน้าวิหาร ก่อนได้รับบางอย่างจากนักบวชวัยน้อยชุดยาวขาวเท้าสะอาดผู้หนึ่ง  เธอทำหน้าที่อย่างมิเหน็ดเหนื่อยจนกระทั่งเหล่าผู้ขอความช่วยเหลืออยู่เบื้องหลังเธอจนหมด  มินานเธอก็อยู่ตรงหน้าข้าพเจ้าก่อนกล่าวอย่างเป็นมิตรว่า “ น้ำศักดิ์สิทธิ์นี้จะช่วยท่านได้ โปรดดื่มก่อนเถิด ”

    อาจเป็นเพราะเธอได้เห็นบาดแผลใหญ่ที่ชัดเจนของข้าพเจ้า เธอจึงกล่าวเช่นนั้น ซึ่งข้าพเจ้าก็พึ่งนึกได้หลังจากดื่มน้ำในจอกใบเล็กของเธอเสียแล้ว มิมีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงเลย เว้นเสียแต่การกระหายน้ำที่หายไปเพียงนั้น  เรื่องนี้จึงพิสูจน์ได้ว่าเรื่องเล่านับพันได้มีเรื่องหนึ่งที่มิจริงเสียแล้ว  ขณะที่เธอกำลังกลับสู่เบื้องบนวิหาร ข้าพเจ้าก็รีบกล่าวถามเธอด้วยนอบน้อมว่า “ ท่านนักบวชน้อย ข้าพเจ้าขอความเมตตาจากท่านได้หรือไม่ ”

    “เรื่องใดหรือผู้นักเดินทาง ”

    “ ข้าพเจ้ามีสิ่งหนึ่งอยากถามว่าเหนือวิหารขึ้นไปเป็นแดนมาเยียอาร์ใช่หรือไม่ ”

    ดวงตากลมน้อยมองมายังข้าพเจ้าด้วยความไร้เดียงสา ก่อนเธอในท่าสำรวมได้กล่าวขึ้นว่า “  ฉันมิรู้หรอกผู้นักเดินทาง บนนั้นมีเพียงก้อนเมฆขาวที่ลอยอยู่เท่านั้น ”

    “ ท่านมิเคยเห็นสิ่งใดที่ต่างจากก้อนเมฆบ้างหรอกหรือ ”

    เธอก้มหัวเล็กน้อย ก่อนกล่าวว่า “ เรื่องนั้นผู้นักเดินทางสามารถพิสูจน์ได้  เมื่อเท้าผู้นักเดินทางแตะบนยอดบันไดขั้นสุดท้ายของวิหาร ”

    ข้าพเจ้ามองบันไดสูงลิบตา ก่อนกล่าวถามด้วยความหวั่นใจว่า “ บันไดนี้ยาวเพียงไรหรือท่านนักบวชน้อย ”

    “ ฉันมิสามารถตอบได้  แต่ขณะนี้ฉันใช้กาลหนึ่งวันเพื่อเดินลงมา ”

    ข้าพเจ้าผงะต่อคำตอบที่ได้ ก่อนกล่าวว่า “ ท่านนักบวชน้อย  ท่านมีสิ่งใดที่รู้เกี่ยวกับแดนมาเยียอาร์บ้างหรือไม่ ”

    “ ในตำราได้กล่าวไว้ว่าน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้นักเดินทางดื่มไปนั้นเป็นสิ่งหนึ่งของแดนมาเยียอาร์ หากผู้นักเดินทางอยากเห็นน้ำพุเล็ก มันอยู่ตรงนั้นอย่างเปิดเผย ”

    ข้าพเจ้าขอบใจเธอ ก่อนเดินไปมิกี่ก้าวเพื่อจ้องมองน้ำพุแสนธรรมดาอยู่นาน  มินานข้าพเจ้าก็ลดตาลงด้วยความผิดหวัง ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังเลื่อนตาขึ้นมองทางเดิน  ข้าพเจ้าก็บังเอิญเห็นแผลใหญ่ของตนที่พึ่งเกิดขึ้นมิกี่วันก่อนหน้านี้  บัดนี้มันได้จางลงราวกับว่าเป็นรอยข่วนของสัตว์ตัวน้อยไปเสียแล้ว

     

     จากนักบวชแดนกลาง

     

     

    สามารถติดตามตอนเต็มได้ที่

    https://novel.dek-d.com/Seia/profile/writer/?type=novel

    ขอบคุณครับ

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น