คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : 01 || พ่อสอนไว้ว่าต้องมัด
ลอสแอนเจลิส นครแห่งแสงสีของอเมริกา แหล่งรวมความบันเทิงอันแสนวุ่นวาย
ที่ที่พ่อกับแม่และเธอลงหลักปักฐานแทนบ้านเกิด ตลอดระยะเวลาที่เทียวไปเทียวมาหลายปีตั้งแต่แบเบาะจนอยู่ตัวได้สักพัก เด็กสาวเริ่มคุ้นเคยกับความวุ่นวายของอเมริกา ทว่าปีนี้เธอต้องกลับญี่ปุ่นตามคำขอร้องของคุณแม่ยูกิโกะ
“ชิองจังกลับไปญี่ปุ่นแล้วช่วยดูชินจังทีนะ”
แม่พูดทั้งรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ท่าทางดี๊ด๊าเกินหน้าเกินตาแบบนั้นชิองรู้ได้ทันทีว่าคุณแม่ต้องมีแผนอะไรแน่ๆ ทีเมื่อก่อนเธอขออยู่ญี่ปุ่นกับพี่ชินอิจิ ทั้งแม่และพ่อต่างรั้นหัวชนฝาไม่ยอมท่าเดียว บอกว่าเธอเป็นเด็กผู้หญิงอายุยังน้อย ปล่อยให้อยู่ญี่ปุ่นไม่ได้เด็ดขาด
มาคราวนี้กลับขับไล่ไสส่ง ยินดีปรีดาพร้อมแพ็คกระเป๋าให้เธอเรียบร้อย ซ้ำยังถือวิสาสะสมัครที่เรียนให้เธออีก อืม—ก็ดีเหมือนกัน เธอจะได้ดูแลพี่ชินอิจิจอมปัญหาสักที บ้านนั้นเองถ้าปล่อยไว้เฉยๆไม่มีใครดูแล มันจะเสื่อมสภาพตามกาลเวลาเปล่าๆ
“เฮ้อ ถึงสักที” ชิองก้มหน้าถอนหายใจ แหงนหน้ามองต้นสนสูง บัดนี้เธอมาอยู่หน้าบ้านสีขาวที่ติดป้ายคำว่าคุโด้นามสกุลของตนเอง
เด็กสาวเดินเข้าตัวบ้าน มีรองเท้านักเรียนสองคู่เรียงอยู่ทางเข้า ชิองเดาว่าคงเป็นของพี่รันที่มักมาทำความสะอาดบ้านหลังนี้ทุกเดือน เธอเดินเอื่อยเฉื่อยขึ้นไปชั้นสอง หูพลันได้ยินเสียงตึงตังออกมาจากห้องน้ำกลางพร้อมเสียงร้องบาดหูของพี่โซโนโกะ
“แบบนั้นแหละรัน จับเจ้าขโมยนั่นส่งให้ตำรวจเลย!”
ชิองทันได้เห็นลูกเตะแสนหนักหน่วงของพี่รัน เธอยืนอยู่หน้าประตูห้องน้ำโดยที่สองสาวไม่รู้ถึงการมีอยู่ของเธอ พื้นห้องน้ำมีผู้ชายผมสีสตรอว์เบอร์รี่นอนนวดคาง ชิองกำลังใช้สมองไตร่ตรองประเมินสิ่งที่ตนกำลังประสบพบเจอ พี่รันเตะผู้ชายแปลกหน้า มีคนเข้ามาอยู่ในบ้านเธอ ขโมยและบรรยากาศไม่น่าไว้ใจแผ่มาจากชายคนนั้น คิดเป็นข้อๆจึงสรุปได้ว่าต้องจับใส่กุญแจมือสถานเดียว
“เอ๊ะ? ชิองจัง กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่” รันมองเด็กสาวเดินรี่เข้าหาชายหนุ่ม ควักบางอย่างออกจากกระเป๋ากางเกงซึ่งมันคือกุญแจมือ
ชิองใช้กุญแจมือล็อคข้อมือข้างขวาของชายหนุ่มแปลกหน้า คล้องไว้กับราวตากผ้าขนหนูในห้องน้ำ กดโทรศัพท์กำลังแจ้งตำรวจ
“อะ เอ่อ เดี๋ยวสิครับเด็กคนนี้ใครครับเนี่ย?” ชายหนุ่มร้องท้วงพลางลุกยืน จ้องกุญแจมือที่จับล็อคเขา “และผมไม่ใช่ขโมยนะครับ”
“คนดีๆที่ไหนถึงแผ่บรรยากาศไม่น่าไว้ใจขนาดนี้ได้” เด็กสาวเดินไปนั่งข้างๆชายหนุ่ม “ช่างเถอะค่ะไว้คุณไปอธิบายกับทางตำรวจก็แล้วกัน”
“เอ๋......จริงเหรอโคนันคุง” สักพักพี่รันที่คุยมือถือก็เดินมากระซิบ “ชิองจังโคนันคุงเขาบอกว่า......”
สรุปเรื่องลงเอยที่เธอปล่อยผู้ชายคนนั้นจากพันทนาการ พี่รันบอกว่าเขาเป็นคนที่อาศัยอยู่บ้านหลังนี้และได้รับอนุญาตจากพี่ชินอิจิเรียบร้อยแล้ว เขาคือนักศึกษาปริญญาโทมหาวิทยาลัยโทโตะที่อพาร์ตเมนต์เก่าถูกไฟไหม้ชื่อว่า โอกิยะ ซึบารุ ชิองหรี่ตามองชายหนุ่มยืนสนทนากับพี่รันและพี่โซโนโกะ เธอไม่ได้คิดไปเองหรอกนะว่าเขาดูไม่น่าไว้ใจและยังพูดโกหกได้หน้าตาเฉยอีก
“คุณเป็นใครกันแน่คะ เพราะหนูคิดว่าคุณไม่ใช่นักศึกษาอย่างที่ปากพูด” หลังจากที่สองสาวไปแล้ว ชิองไม่รีรอที่จะยิงคำถามกับคนตรงหน้า เขาขยับกรอบแว่นเพียงน้อยแล้วกระตุกมุมปาก
“คุณยูกิโกะไม่ได้บอกอะไรเลยเหรอครับ” ซึบารุพูด
“นี่คุณรู้จักแม่หนูด้วยเหรอคะ” เธอเอียงคอ
“ครับ” เขาพยักหน้า “ก็คุณยูกิโกะนั่นแหละครับที่ทำหน้ากากนี่ให้ผม อ้อ......ผมขอแนะนำตัวเลยละกัน เพราะดูเหมือนเขาจะไม่บอกอะไรคุณเลยนะครับ จริงๆผมเป็นเจ้าหน้าที่เอฟบีไอที่ได้รับการช่วยเหลือจากเด็กผู้ชายที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของคุณ ชื่ออากาอิ ชูอิจิครับ”
“ทีนี้ช่วยเลิกระแวงผมสักทีนะครับ”
“โดนคุณแม่เล่นซะแล้วสิ” ชิองเบะปากบ่นพึมพำ เกิดฉุกคิดได้ว่าก่อนหน้าทำตัวเสียมารยาทกับเขาไป เจ้าหน้าที่เอฟบีไอคนนี้คือต้นแบบตัวละครที่คุณพ่อนำไปเขียนนิยายที่กำลังขายดีในตอนนี้
ส่วนที่คุณแม่ไม่ยอมบอกอะไร คงเพราะอยากแกล้งเธอเล่น มิน่าล่ะ—ถึงดูสนุกแปลกๆและที่ยอมปล่อยให้เธอกลับญี่ปุ่นง่ายๆเป็นเพราะเขาเป็นเจ้าหน้าที่เอฟบีไปที่น่าไว้ใจได้สินะ ถึงได้กล้าฝากลูกสาวขนาดนี้
อืม......แต่ไว้ใจได้ไม่ได้เธอจะเป็นคนตัดสินใจเอง
แล้วให้ตายสิเล่นกันเป็นเด็กๆไปได้—ชิองขยี้ผมอย่างหัวเสีย แล้วทำไมไม่มีใครบอกเธอสักคน สงสัยต้องเค้นคำอธิบายจากพี่ชินอิจิเพิ่มเติมหลังจากที่เจ้าตัวเลิกเรียนจากโรงเรียนเด็กประถมซะแล้ว
เตรียมโดนขูดรีดข้อมูลได้เลยพี่ชิน
พอบ่ายสามโมงเวลาเลิกเรียนของโรงเรียนประถมเทย์ตัน โคนันที่รีบตรงดิ่งกลับบ้านตนเองแทบผงะ เมื่อน้องสาวตัวดีของเขากลับมาญี่ปุ่น เขาโดนชิองหิ้วปีกเข้าห้องสมุดและโวยวายใส่ยกใหญ่
“อธิบายให้หนูฟังเดี๋ยวนี้เลยนะพี่ชิน!!”
“จะ จะให้ฉันอธิบายอะไรเล่า ไม่ใช่ว่าเธอรู้อยู่แล้วหรือไง!”
“หนูรู้แค่ว่าเขาเป็นเจ้าหน้าที่เอฟบีไอที่พ่อเอามาเขียนหนังสือ แต่หนูไม่รู้ว่าเขาปลอมตัวมาอยู่บ้านเราน่ะสิ ถึงได้บอกไงว่าอธิบายต้นสายปลายเหตุให้หนูฟัง”
“เข้าใจแล้วๆ ฉันจะเล่าให้เธอฟัง แต่ช่วยเบาหน่อยเดี๋ยวคุณอากาอิเขาได้ยิน” โคนันยกมือปราม “แล้วก็อยู่ที่นี่ห้ามพูดเรื่องฉันหรือทำตัวมีพิรุธให้เขาจับได้ล่ะ เธอยิ่งซื่อบื้ออยู่ด้วย”
“ก็ยังดีกว่าเจ้าคนเหนือมนุษย์พาซวยแบบพี่นั่นแหละ”
คืนนั้นเอง หลังจากที่ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากพี่ชายย่อส่วน ชิองกลับเข้าห้องนอนของตัวเอง จัดข้าวของเข้าตู้เสื้อผ้า อาบน้ำสระผม ออกจากห้องน้ำด้วยสภาพเปียกปอน ท้องน้อยๆพลันส่งเสียงครวญคราง ชิองยกมือกุมท้อง อา—หิวข้าวจัง ตั้งแต่ออกจากสนามบินเธอยังไม่ได้กินอะไรเลยนี่นา
รู้งี้ไปร้านเบอร์เกอร์เวลคัมกับพวกพี่รันก็ดี
ว่าแต่ในครัวพอจะมีอะไรลองท้องบ้างรึเปล่านะ? มาอาศัยบ้านคนอื่นได้สักระยะแล้วสมควรต้องมีของกินติดตู้บ้างสิ คนตัวเล็กเดินเข้าไปในครัว เปิดตู้เย็นแต่มันกลับว่างเปล่า พอชิองหมุนตัว สายตาสะกิดเข้ากับจานใส่แซนวิสห่อพลาสติกอย่างดีวางอยู่บนเคาท์เตอร์พร้อมโน๊ตเล็กๆที่เขียนข้อความว่า ‘ท้องของเธอมันร้องดังมากเลยล่ะ ฉันเลยคิดว่าควรหาอะไรให้เธอกินก่อนฉันจะนอนไม่หลับเพราะเสียงมันน่ะ’ เด็กสาวหน้าแดงก่ำขยำกระดาษทิ้งลงถังขยะ
เสียมารยาท! เห็นเป็นพวกนิ่งๆแลดูสุขุม แต่จริงๆก็แค่ผู้ชายปากเสียนี่เอง แม้ในใจด่าทอชายหนุ่มมากมาย แต่ชิองก็กัดแซนวิสเข้าปากเคี้ยวตุ้ยจนแก้มนิ่มป่องทั้งสองด้าน
“ไง— อร่อยรึเปล่า” ไม่นานนักอากาอิก็เข้ามาในครัวพร้อมแก้วใส่วิสกี้
“ห่วยแตกค่ะ” ชิองพูดด้วยใบหน้าเรียบนิ่งและกลืนขนมปังฝืดๆลงคอ ขนมปังทั้งแห้งและแข็งไม่มีรสชาติของซอสหรือมายองเนส ผักก็เหี่ยวๆ กับอีแค่แซนวิสยังทำไม่ได้เรื่องขนาดนี้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมครัวว่าง “แต่ก็ดีกว่าอดตาย”
และขอบคุณที่มีใจทำอาหารให้เธอกิน
เด็กสาวกระโดดลงจากเก้าอี้ไปยังซิงค์ล้างจาน ทำความสะอาดภาชนะใส่อาหารแล้วกำลังเดินหายออกจากครัว แต่ขาต้องชะงักเมื่อหูสะกิดเข้ากับเสียงหัวเราะหึหึจากคนตัวสูงกว่า
“มีอะไรน่าขำเหรอคะ?” ชิองตวัดหางตาหาอากาอิ ชูอิจิที่สลัดคราบนักศึกษาปริญญาโท
“เปล่าหรอก” อากาอิกระดกวิสกี้ลงคอ เดินกลั้นขำผ่านตัวเด็กสาว ถึงจะทำปากเสียใส่แต่เขาถือว่าท่าทางแบบนั้นคือการขอบคุณละกัน
ชายหนุ่มขึ้นไปยังชั้นสอง เข้าห้องนอนชั่วคราวของตน เขาพิงเอนกับที่นอนนิ่ม นัยน์ตาสีเขียวมรกตเหม่อจ้องเพดาน ฉับพลันเขาต้องตกใจเมื่อเด็กสาวที่ควรอยู่ด้านล่างเข้ามาในห้องพร้อมจับเขาใส่กุญแจมือล็อคกับหัวเตียงเหล็กอีกครั้ง
“ฮะ...เฮ้ ทำอะไรของเธอเนี่ย!!?” เขาจ้องร่างเล็กส่งยิ้มละไมให้
แต่ว่าเมื่อกี้......เร็วมาก และกลบตัวตนได้อย่างแนบเนียน
“พ่อหนูเคยสอนไว้น่ะค่ะ” นิ้วที่ประดับด้วยเล็บสีชมพูจิ้มไปที่ปลายจมูกชายหนุ่ม “ว่าถ้าต้องอยู่กับผู้ชายสองต่อสองให้จับเขาคนนั้นมัดไว้เวลาที่เราต้องหลับน่ะค่ะ”
พ่อที่ไหนเขาสอนลูกแบบนี้กัน? มันมีตรรกะแปลกๆอะไรที่ทำให้เธอต้องจับผู้ชายมัดแบบนี้เพียงเพราะความระแวงของเด็กผู้หญิง!!
อากาอิกำลังหาอะไรมาสะเดาะกุญแจมือ “ถ้าหาอะไรแหลมๆปลดมันละก็หนูเอาออกไปหมดแล้วค่ะ” แต่เด็กสาวโชว์ของแหลมๆทั้งหมดภายในห้องนี้ให้เขาดู ทั้งไขควง คลิปหนีบกระดาษ อะไรก็ตามที่สามารถช่วยเขาได้ทั้งหมดมันอยู่บนสองมือเล็กหมดแล้ว
“ช่วยอยู่แบบนี้ถึงเช้าเพื่อความสบายใจของหนูเถอะนะคะคุณ-อา-กา-อิ” เธอทำหน้าไม่รู้สึกรู้สาใส่ พูดยียวนและกำลังออกจากห้องไป ต่อให้เขาโหวกเหวกร้องเรียกเด็กสาวมาปลดพันทนาการก็ไร้ประโยชน์
“เดี๋ยวสาวน้อยกลับมาก่อน!”
กลับมาปล่อยเขาดีๆก่อนที่เขาจะตราหน้าว่าเธอเป็นยัยตัวแสบ
“ชิ......ถ้าหลุดออกไปได้นะ” ถ้าหลุดออกไปได้เขาจะจับเธอใส่กุญแจมือผูกติดกับเก้าอี้บ้าง ทีนี้อย่ามาร้องว่าเขาใจร้ายล่ะ
ไหงมัน SM ไปได้เนี่ย การพบเจอกันระหว่างหนุ่มคนแรกก็ไม่ดีเท่าไหร่เลย
ส่วนคุณพ่อยูซากุชอบสอนอะไรแปลกๆใส่หัวน้องประจำเผื่อในอนาคตมันจะเป็นแบบนี้
น้องจะได้ระวังพวกผู้ชาย(มากๆ) เอ....นึกแล้วถ้าอากิอิจับน้องมัดกับเก้าอี้ก็ฟินแปลกๆดีนะคะ
เอาเป็นว่ามาคอยดูกันว่าน้องกับอากาอิจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในบ้านด้วยดีบ้างไหมดีกว่า
ความคิดเห็น