ตอนที่ 7 : Chapter : 05 เราขาดอะไรไป รู้สึกบ้างไหมเล่าเธอ
Chapter : 05
เราขาดอะไรไป รู้สึกบ้างไหมเล่าเธอ
สายตาคมจับจ้องทุกการกระทำของคนร่วมห้องในตอนนี้ ตั้งแต่ธามกลับมาจากคุยโทรศัพท์ก็เหมือนว่าจะอยู่นิ่งไม่ได้สักทีเป็นต้องเดินไปมาหาอะไรทำตลอดทั้งที่ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องทำ
คล้ายกับบรรยากาศเก่าๆจะกลับมา ความมีชีวิตชีวาที่ห่างหายไปนานหลายเดือนกลับมาพร้อมกับคนๆเดิมที่เขาคิดถึงมากที่สุด
“ธาม” เขาเอ่ยเรียกเจ้าของชื่อที่ทำท่าจะเดินไปรดน้ำต้นกระบองเพชรอีกรอบ หากรดบ่อยขนาดนี้เกรงว่าเจ้ากระบองเพชรทั้งหลายคงได้ตายก่อน
“หืม? มีอะไรเหรอ ต้องการอะไรบอกมาได้เลย”
“มานี่หน่อยได้ไหม” ธาวินกวักมือเรียก นั่งพิงหัวเตียงมองคนที่มองตอบเขาด้วยดวงตาใส
อายุก็มากกว่าแต่ทำไมก็ไม่รู้เขาถึงมองว่าธามน่ารัก
น่ารักจริงๆ
แม้ธามจะสงสัยแต่ก็เดินเข้าไปหาธาวินที่นั่งอยู่บนเตียง ตั้งแต่ที่คุยกับพีระเขาก็อยู่นิ่งไม่ได้ต้องหาอะไรทำไปเรื่อยๆ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไปเพื่ออะไร
“มีอะไรเหรอ?” เขาถามเข้าเรื่องทันทีที่เดินมาหยุดข้างเตียง ธาวินเงยหน้ามองยื่นมือไปจับมือของธามเอาไว้แน่นในขณะที่ธามได้แต่มองกลับไปอย่างไม่เข้าใจ
พยายามจะดึงมือตนเองออกจากการเกาะกุมทว่าก็คล้ายจะเป็นเรื่องยากเหลือเกิน
“วินไม่รู้ว่าตอนนี้ธามจะยังรู้สึกเหมือนเดิมไหม”
“.....”
“แต่วินยังเหมือนเดิมนะ”
“.....”
“ถ้าขอโอกาสอีกครั้งธามจะให้วินได้หรือเปล่า ขอแค่สักครั้งก็พอ”
เขาอ้อนวอนด้วยน้ำเสียงที่เบาหวิว เขารู้ตัวดีว่าการจะขอโอกาสจากคนที่ตัวเองบอกเลิกมันยากแค่ไหนทว่าเขาก็ยังอยากได้ อยากกลับไปทำให้ทุกอย่างดีกว่าเดิม
ธามก้มลงมองธาวิน ความจริงใจที่ส่งผ่านมานั้นเขารับรู้ทุกอย่างแต่เขาไม่มั่นใจว่าตนเองจะกลับไปได้อีกไหม มันมีคำถามมากมายที่ยังค้างคาใจ หากตัดสินใจกลับไปทุกอย่างมันจะไม่กลับไปเป็นเหมือนเดิมใช่หรือเปล่า
เขาไม่อยากจะกลับไปเจ็บซ้ำๆแล้ววนลูปกับการเลิกกันเหมือนเดิมอีกแล้ว
“วินแน่ใจแค่ไหน วินแน่ใจแล้วใช่ไหมว่าวินจะไม่เป็นเหมือนเดิม”
“....”
“ธามรู้ว่าวินรู้สึกยังไงแต่ธามไม่มั่นใจเลยว่าวินจะเปลี่ยนแล้วจริงๆ”
ธาวินอาจไม่รู้ว่าเขาเปิดโอกาสให้ธาวินตลอดแต่ธาวินกลับเป็นคนทิ้งโอกาสพวกนั้นทุกครั้งไป ในวันที่เขาหมดความหวังในตัวธาวินแล้วแต่ธาวินกลับมาขอโอกาสจากเขาดื้อๆ ไม่รู้ว่าต้องทำตัวยังไงดี
เขาไม่มีความมั่นใจในตัวธาวินสักนิดเลย
“ตอนนี้วินอาจจะเปลี่ยนไม่มากและธามคงไม่เห็นว่าวินเปลี่ยนไปยังไงแต่ธามอย่าปิดกั้นโอกาสของวินได้ไหม วินจะทำให้เห็นว่าวินไม่ใช่คนเดิมที่ยอมแพ้อะไรง่ายๆแล้ว”
“ถ้าวินมองในมุมที่กว้างกว่านี้ วินก็จะรู้ว่าธามไม่เคยปิดกั้นโอกาสของวินเลย มีแค่วินที่ปิดตัวเองทั้งนั้น”
“งั้นแสดงว่าวินก็ยังมีโอกาสใช่ไหม”
“ไม่รู้”
ธามเฉไฉ ทำท่าจะเดินหันหลังไปที่อื่นเพื่อกลบเกลื่อนทว่าเขากลับลืมไปว่ามือตนเองนั้นโดนธาวินจับเอาไว้อยู่และเหมือนว่าธาวินจะไม่ยอมปล่อยให้เป็นอิสระง่ายๆ
“ธามพูดแล้วนะ สัญญาก่อนได้ไหม?”
“วินก็รู้ว่าการสัญญามันไม่เคยมีความหมายเลยสำหรับพวกเรา”
เพราะธาวินทำให้เขากลัวการสัญญาไปแล้ว หากทำไม่ได้เขาก็ไม่อยากผิดหวังและยึดมั่นกับคำสัญญาที่เป็นเพียงลมปากของคนๆหนึ่ง
“ขอโทษนะ ขอโทษจริงๆ”
“ช่างมันเถอะ” เขาถอนหายใจ ใช้ช่วงเวลาที่ธาวินเผลอดึงมือตัวเองออกมา “วินพักผ่อนเถอะ จะได้หายเร็วๆ”
ความกลัวคืบคลานเข้ามาเกาะกุมจิตใจ คำว่าโอกาสจากธามทำให้เขาดีใจทว่าเขาไม่มั่นใจว่าโอกาสที่ว่านั่นมันจะมีมากน้อยแค่ไหน อาจจะมีน้อยจนเกือบติดลบหรืออาจจะมีมากจนเขาคาดไม่ถึง
ไม่กล้าคาดหวังเลยสักนิด
00 : 15 AM.
ความผิดพลาดในการหลับไหลเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาเขาก็ไม่เห็นใครอยู่ในห้องนี้อีกแล้ว คล้ายกับเรื่องราวไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาเป็นความฝัน
ความหนาวเหน็บเกาะกุมที่ขั้วหัวใจ จู่ๆก็เจ็บเหมือนคนเอามือมาบีบมันไว้ ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นยังรู้สึกว่ามันเต้นไม่เป็นจังหวะอยู่แท้ๆ
ตลกดีที่เขากล้าขอโอกาสจากคนที่เขาบอกเลิก ตลกชะมัดที่ธามยังให้โอกาสคนอย่างเขา
แต่ไม่ได้หมายความว่าโอกาสที่ว่านั่นจะสามารถทำให้เขาและธามกลับไปเป็นเหมือนเดิม หากเขายังไม่ทำอะไรโอกาสที่ขอไปก็คงจะสูญเปล่าดังเช่นที่ผ่านๆมา
อาการป่วยดีขึ้นจากตอนเช้าอยู่มาก เขาสามารถเดินเหินไปมาได้เกือบปกติโดยที่ไม่เวียนหัวสักเท่าไหร่ อาการปวดหัวยังคงมีแต่แค่นิดเดียว ส่วนไข้ก็ลดลงมาจนหัวอุ่นๆ
ข้าวและยาถูกตั้งไว้บนโต๊ะพร้อมกับโน้ตที่เขียนสั้นๆว่า ‘อย่าลืมกินข้าวกินยา’ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใครเป็นเจ้าของโน้ตแผ่นนี้
ก็ยังดีล่ะมั้งที่ธามยังเขียนอะไรเอาไว้ มันตอกย้ำให้เขาได้รู้ว่าทั้งหมดนั่นคือความจริงไม่ใช่แค่เพียงฝันไปหรือคิดไปเอง
00 : 15 AM.
ระยะเวลาหนึ่งอาทิตย์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เขาไม่ได้ไปหาธามเลยสักวันเพราะอาการไข้ที่ไม่ได้ทุเลาลง คงเพราะความชะล่าใจทำให้เขาต้องไข้กลับขึ้นสูงอีกในวันเดียวกัน กว่าจะหายดีจนไข้หายสนิทก็ใช้เวลาไปถึงหนึ่งอาทิตย์
ธาวินเงยหน้ามองร้านกาแฟของอดีตคนรัก ยกยิ้มขึ้นมาน้อยๆเมื่อนึกถึงใบหน้าของคนที่ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์
เขาผลักประตูเข้าไปในร้าน
ธามอยู่ตรงนั้น กำลังคุยกับลูกค้าผู้ชายคนหนึ่ง เขาได้แต่เดินเข้าไปต่อคิวเงียบๆทว่าบทสนทนาของคนทั้งคู่กลับลอยเข้าหูโดยที่เขาไม่ได้ตั้งใจฟัง
“คิดถึงธามจังนะ ฝีมือยังอร่อยเหมือนเดิมหรือเปล่า?”
“ยังเหมือนเดิมสิครับ เผลอๆอร่อยกว่าเดิมอีกนะ”
“อาจจะจริง พี่ไปอยู่เมืองนอกนานคิดถึงกาแฟฝีมือธามจะแย่”
“เว่อร์ไปแล้วครับ”
“จริงนี่...อ่าเดี๋ยวค่อยคุยนะเกรงใจลูกค้าธาม”
“ครับพี่ เดี๋ยวผมไปคุยด้วยที่โต๊ะนะ”
“ยินดีมากๆครับคุณธาม”
ดวงตาหยีเล็กลงพร้อมกับรอยยิ้มที่กว้างจนเห็นฟัน ธาวินมองภาพนั้นด้วยความไม่พอใจนัก ควรเป็นเขาไม่ใช่หรือที่ต้องได้รอยยิ้มนั้นจากธาม แล้วผู้ชายคนนี้เป็นใครทำไมธามถึงมอบรอยยิ้มอ่อนโยนแบบนั้นให้โดยที่ไม่มีข้อกังขาใดๆเลย
ผู้ชายคนนั้นหันหน้ามาค้อมหัวลงให้เขาเพียงนิดเพื่อขอโทษที่ใช้เวลานานกับการคุยติดพัน เขามองตอบกลับนิ่งๆ แผ่นหลังกว้างนั่นเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่มุมหนึ่งของร้าน
ธาวินวกสายตากลับมาที่ธามอีกครั้ง
“ธาม” เจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้นมาในขณะที่ธาวินเกือบเผลอหลุดปากถามห้วนๆเรื่องของผู้ชายคนนั้น “เปล่า”
เขาไม่มีสิทธิ...ในตอนนี้เขาไม่สามารถก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวของธามได้เลย...ยังไม่ถึงเวลา
ธามมองสำรวจคนตรงหน้า กว่าสัปดาห์ที่ธาวินหายหน้าหายตาและไม่โทรหาเขา
ตอนนั้นธาวินป่วยและวันนี้คงจะหายดีแล้ว
“รับอะไรดีครับ”
“แบล็คคอฟฟี่น้ำผึ้งมะนาว”
ทุกอย่างเกิดขึ้นเหมือนเดิมอย่างที่ผ่านๆมา ธาวินคิดว่าแบบนี้ไม่ค่อยถูกต้องเท่าไหร่นัก เขากระแอมไอเบาๆเพื่อให้อีกคนรู้ตัวทว่าธามก็ยังเหมือนเดิม
“เป็นอะไรยังไม่หายเหรอ?” ธามถามขึ้นอย่างพาซื่อ เขาเห็นธาวินไอเบาๆสองครั้งจึงเกิดนึกสงสัยว่าธาวินยังคงไม่หายดี
“เปล่า...คือว่า..”
อยากคุยด้วย
แต่ไม่รู้ควรเริ่มยังไงดี
“กาแฟได้แล้วครับ” แก้วกาแฟถูกยื่นไปตรงหน้าธาวิน ธามยกคิ้วขึ้นเมื่อธาวินไม่ยอมรับแก้วกาแฟที่เขายื่นให้สักทีหรือเขาจะเอาให้ผิดแต่ก็ไม่น่าใช่ในเมื่อแก้วกาแฟที่ถืออยู่มันของธาวินไม่ผิดแน่
“ขอบคุณครับ”
สุดท้ายได้แต่รับแก้วกาแฟแล้วพาตัวเองไปหาโต๊ะนั่งเพื่อคิดเรื่องที่จะชวนธามคุย
คงจะจริงอย่างที่ธามบอก
เขามันยังขี้ขลาดไม่เปลี่ยนเลย
00 : 15 AM.
ผู้ชายคนนั้นกลับไปในชั่วโมงที่สาม ความสงสัยเกิดขึ้นในทุกๆวินาทีที่เขานั่งอยู่ ทำยังไงนะผู้ชายคนนั้นถึงสามารถพูดคุยกับธามได้ถึงสามชั่วโมง
เขาอยากทำได้บ้างแต่มันก็ยากเกินตัว
อิจฉา
คำๆนี้ผุดขึ้นมาในขณะที่ได้แต่แอบมองคนทั้งสองคนคุยกัน
กลัว
ทุกครั้งที่รอยยิ้มของธามถูกส่งไปให้ผู้ชายที่นั่งตรงข้าม...เขากลัวว่าธามจะเผลอใจไปในเสี้ยววินาทีหนึ่ง
“ยังไม่กลับอีกเหรอ?”
ธามทำหน้าแปลกใจ เขาคุยกับพี่โอ๋มาตั้งหลายชั่วโมงและคิดว่าธาวินคงกลับไปแล้วทว่าพอลุกออกจากโต๊ะมากลับพบว่าธาวินยังคงนั่งอยู่ที่เดิมกับแก้วกาแฟแก้วเดิมที่พร่องลงไปกว่าครึ่ง
“รอ”
“รอธาม?”
“อืม” เขาอึกอัก เริ่มทำตัวไม่ถูก “คือวินอยากคุยแต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง...ถ้าธามไม่รังเกียจ เอ่อ...ปิดร้านแล้วไปกินข้าวด้วยกันไหม”
ธามยังคงยืนนิ่ง ไม่ได้ตอบคำถามที่ถูกส่งมาทันทีเหมือนสมองกำลังประมวลผลอะไรบางอย่างก่อนรอยยิ้มเล็กๆจะผุดขึ้นมาตรงมุมปากสวย
“อืม เอาสิแต่ช้าหน่อยนะ”
“ไม่เป็นไร รอได้”
ธามไม่ตอบโต้ หมุนตัวเดินกลับไปยังเคาน์เตอร์ทำงาน ขณะนั้นในสมองก็ขบคิดถึงอดีตขึ้นมา
หากเป็นเมื่อก่อนไม่มีทางได้ยินคำว่ารอของธาวิน
ไม่มีทางที่จะได้ยินคำว่า ไม่เป็นไร รอได้
ไม่มีทางเลย
แต่ตอนนี้ธาวินคงเปลี่ยนไป...อาจจะเปลี่ยนไปแล้วแต่ก็คงต้องรอดูไปเรื่อยๆนั่นแหละ
00 : 15 AM.
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ถ้าคิดว่ายังต้องการยังรักอยู่ก็รีบเคลียตัวเองขจัดความกลัวหรืออะไรที่มันไม่ควรออกซะเริ่มต้นใหม่สู้ๆนะคะ