ตอนที่ 8 : Chapter : 06 เธอจะสบายดีไหม คือสิ่งที่คิดไว้เสมอ
Chapter : 06
เธอจะสบายดีไหม คือสิ่งที่คิดไว้เสมอ
นานเท่าไหร่แล้วที่ไม่ได้ร่วมโต๊ะอาหารด้วยกัน
ธามนั่งตรงข้ามเขาส่วนเขาก็นั่งตรงข้ามธาม
เหมือนฝันแต่ก็ไม่ใช่เพราะทุกสิ่งเกิดขึ้นจริงๆ คุ้มค่ากับการรอคอย ไม่ใช่แค่หกชั่วโมงแต่มากกว่านั้น หลายวันและหลายเดือนที่เฝ้ารอ
คำพูดมากมายจุกอยู่ที่ลำคอ เสียงที่พูดคุยปกติแห้งหายไปตั้งแต่ที่นั่งลงบนโต๊ะอาหาร ขนาดตอนสั่งยังยกหน้าที่ให้ธามจนหมด
เขาควรเริ่มต้นทุกอย่างยังไงดี
แค่เริ่มก็เหมือนจะทำมันพัง
ยังขี้ขลาดเหมือนเดิมเลยนะธาวิน
“เป็นอะไรหรือเปล่าวิน?”
“เปล่า” เขาเงยหน้าขึ้นมองธาม ความสงสัยเกาะกินภายในจิตใจ ทำยังไงถึงจะใช้โอกาสที่ธามให้คุ้มค่าที่สุด
ทำยังไงให้กลับไปเป็นเหมือนเดิม
และควรทำยังไงดีให้ธามเชื่อมั่นในตัวเขา
“ธาม”
“.....”
ลิ้นแลบเลียริมฝีปากตัวเองที่แห้งตึง ความประหม่าทำให้เหงื่อเม็ดเล็กผุดซึมออกมาตามไรผม มือสองข้างเกาะกุมกันไว้ ทั้งบีบและกำจนขึ้นรอยแดง
“สบายดีไหม”
คิ้วของธามเลิกขึ้นอย่างคนแปลกใจ จากนั้นเสียงหัวเราะแผ่วเบาน่าฟังก็ออกมาจากริมฝีปากสวยตรงหน้า
“สบายดีไหม?” เขาทวนคำถาม “คือเป็นประโยคเริ่มคุยกันใช่ไหม”
“อ่า...ไม่รู้ว่าควรต้องพูดอะไร แปลกใช่ไหม”
“เปล่าๆ” เขายกมือส่ายไปมา “ก็น่ารักดี...สบายดีไหม หึ...ก็สบายดีนะ”
“อืม สบายดีเหมือนกันนะ”
ความเงียบโรยตัวขึ้นมาอีกครั้งแต่น่าแปลกที่ความอึดอัดกลับจางหายไป แววตาเอ็นดูถูกส่งไปให้คนที่นั่งประหม่า ธาวินคงไม่รู้ตัวว่าตนเองเป็นคนน่าเอ็นดูขนาดไหน
“วิน”
“ครับ”
“จริงๆแล้วไม่ต้องเกร็งหรอก เป็นอย่างที่วินเป็นนั่นแหละ”
“วินก็เป็น คือพยายามเป็นแต่มันยากตอนที่อยู่ต่อหน้าธาม” ลมหายใจถูกพ่นออกมาทางจมูกเพื่อระบายความประหม่าบางอย่าง “กลัวว่าจะทำแบบเดิม ไม่อยากทำร้ายความรู้สึกธาม”
“แคร์กันแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่นะวิน”
“ก็คงตั้งแต่ที่เห็นธามเดินออกจากห้องไปล่ะมั้ง” เขาเงยหน้าขึ้นสบตาคนตรงข้าม “ช้าไปไหมที่เริ่มแคร์ตอนนั้น”
“ช้า...มากๆเลยล่ะ”
ถึงจะบอกว่าช้าแต่สุดท้ายก็ยังให้โอกาสกลับมาเพื่อที่จะแคร์กันอีกครั้งอยู่ดี
00 : 15 AM
วิชาที่แสนน่าเบื่อเวียนมาอีกครั้งในวันอังคาร หากให้พูดตามตรงสำหรับธาวินทุกวิชาก็น่าเบื่อหน่ายไปหมด แต่คำว่าน่าเบื่อไม่ใช่ว่าไม่น่าสนใจ มันคงเป็นเพราะเขาไม่ได้ชอบที่จะเรียนตรงนี้แต่ก็จำเป็นต้องเรียนเพราะเป็นความต้องการของพ่อ
เขาไม่ได้โดนบังคับหรือกดดันแต่เพราะตอนนั้นที่เข้าเรียนธาวินยังไม่สามารถค้นพบตัวเองและสิ่งที่ชอบเจอ
คำตอบของพ่อจึงกลายเป็นสิ่งที่เขาเลือกในที่สุด
จริงๆแล้วถ้าเลือกไม่เรียนได้เขาก็คงจะทำ
“ไอ้วิน” กรกันต์ยื่นหน้าเข้ามาหา มีพีระที่นั่งข้างกันหันหน้าไปให้ความสนใจแทนที่จะเป็นเจ้าของชื่ออย่างธาวิน
“อืม”
“กูเห็นพี่ธามถ่ายรูปลง”
“แล้ว?”
“นั่นมึงใช่ไหม กูจำนิ้วมึงได้”
พีระทำหน้านิ่วเมื่อโดนกรกันต์หยิกเพื่อที่จะให้พูดเสริมอะไรบางอย่าง อะไรก็ได้ที่จะทำให้ธาวินเล่าเรื่องให้พวกเขาฟังแค่สักนิดก็ยังดี
“เออใช่ กูก็จำได้นั่นนิ้วมึงแน่ๆ”
โทรศัพท์ถูกยื่นมาไว้ตรงหน้าอดไม่ได้ที่จะละสายตาไปมอง
“ถ้าใช่แล้วทำไม?”
“ก็ไม่ทำไม” กรกันต์ว่า “คืออยากรู้อ่ะ แบบอยากเสือกนั่นแหละถ้าจะให้พูดตรงๆ”
“แล้วมึงล่ะพี อยากเสือกเหมือนกันเหรอ”
คำถามที่เถรตรงถูกส่งไปยังพีระ คนโดนถามหน้าเหวอ ทำขนาดนี้ก็คงจะเรียกว่าเสือกได้ล่ะนะ
“เออ โคตรอยากรู้เลย”
“ไม่มีอะไร แค่ไปกินข้าวด้วยกัน”
ทั้งกรกันต์และพีระอยากจะตะโกนเดี๋ยวนั้นว่ากินข้าวด้วยกันนั่นแหละที่เขาเรียกว่ามีอะไร
“แล้วทำไมถึงได้ไปกินข้าวด้วยกัน” พีระถามต่อ “ได้ข่าวว่ามึงกับเขาเลิกกันแล้วไม่ใช่เหรออีกอย่างเขายอมคุยกับมึงตั้งแต่เมื่อไหร่”
พีระเดาว่าคงจะเป็นตอนที่ธาวินป่วยแล้วธามโทรมาบอกให้เขาไปเฝ้าไข้เพื่อนแต่จนแล้วจนรอดก็โทรมายกเลิกกับเขาเพื่อที่จะขอเป็นคนเฝ้าไข้ธาวินเสียเอง
“ตอนนี้ยังไม่มีอะไรหรอก ถ้ามันมีเยอะกว่านี้จะมาเล่า”
“แสดงว่าเพิ่งกลับมาคุยกันแน่ๆ” กรกันต์ลองเดา สังเกตท่าทางของธาวินก็ยังนิ่งเหมือนเดิม “เออๆ ก็เห็นมึงเลิกซึมได้กูก็โอเคละ ครั้งนี้มึงก็ดีๆละกัน กูเป็นกำลังใจให้”
“กูก็เหมือนกัน”
เพื่อนทั้งสองตบบ่าเขาเบาๆ ธาวินพยักหน้ารับก่อนจะหันไปสนใจบทเรียนที่อยู่หน้าห้องอีกครั้ง
00 : 15 AM
เขาเดินเข้าไปในร้านกาแฟ ตรงไปยังเคาน์เตอร์และสั่งเมนูเดิม ลืมไปว่าตอนนี้เย็นแล้วเกือบห้ามปากตัวเองไม่ทันเพราะเขารู้ดีว่าธามจะไม่ทำแบลคคอฟฟี่น้ำผึ้งมะนาวให้เขาดื่มแน่ๆ
“รับอะไรดีครับ” ธามยกยิ้ม รอฟังเมนูจากลูกค้าประจำ
“เอ่อ...มีเมนูแนะนำไหมครับ แบบที่ไม่หวาน”
“เอาเป็นนมสดปั่นหวานน้อยนะครับ มีคนบอกว่าอร่อยผมว่าคุณน่าจะชอบ”
จะใครอีกที่บอกถ้าไม่ใช่เขา
รู้สึกดีที่ธามยังจำเรื่องเล็กๆน้อยๆพวกนี้ได้
“ครับ เอาตามที่ธามว่าเลย”
คราวนี้เขาไม่ได้จ่ายเงินสักบาทเพราะเจ้าของร้านบอกว่าอยากเลี้ยงนมสดปั่นเขาสักแก้ว เขายินดีรับไว้ เรียกว่าเต็มใจรับมันไว้เลยดีกว่า
ไม่รู้เพราะความเปลี่ยนแปลงระหว่างเขากับธามหรือเปล่าที่ทำให้วันนี้บรรยากาศในร้านคาเฟ่เล็กๆดูมีสีสันขึ้นมาทันตา
เขากวาดสายตามองรอบข้าง ผู้คนยังคงเหมือนเดิม วุ่นวายและเสียงดังแต่ถึงอย่างนั้นเขากลับไม่หงุดหงิด
น่าแปลก คงเพราะอากาศดีและเขาอารมณ์ดีเกินกว่าที่จะหงุดหงิดล่ะมั้ง
“เป็นไงสบายดีไหม?” ธามทิ้งตัวลงนั่ง เอ่ยทักทายประโยคเดียวกันกับวันนั้น...วันที่ไปกินข้าวด้วยกัน
วันที่ตัดสินใจเริ่มต้นเรื่องราวดีๆด้วยกันอีกครั้ง
“ธาม”
“ก็ทักทาย”
“สบายดีไหมมันจะทักทายได้ยังไง”
“นั่นสิแต่ธามชอบนะ วินไม่ชอบเหรอ?”
“อืม สบายดี”
พวกเขาหัวเราะออกมาพร้อมกัน จริงๆชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างเรา ไม่ว่าจะเป็นประโยคทักทายที่แปลกประหลาดอย่างสบายดีไหมหรือจะเป็นรอยยิ้มสดใสหลังจากตอบว่าสบายดี
“เมื่อคืนโทรมาหรือเปล่า?”
“อือ”
ธามพยักหน้าคิดไปถึงเมื่อคืน “โทษทีพอดีง่วงนอนก็เลยหลับก่อน”
“ไม่เป็นไร เข้าใจว่าดึกแล้ว”
“แล้ววินล่ะไม่หลับไม่นอนเหรอ นอนดึกตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ก็...ไม่ดึก ไม่ได้คิดว่าดึกนะ”
“แน่ใจ?” เขาเลิกคิ้ว ทำหน้าแปลกใจ “เมื่อก่อนพอห้าทุ่มก็ร้องจะนอนทุกที”
“เมื่อก่อนไงแต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว”
“จะบอกว่าเปลี่ยนไปแล้วงั้นเหรอ?”
“ครับ”
พวกเขาเงียบลงไปอีกครั้ง เรื่องราวในอดีตมากมายถูกขุดขึ้นมาเพื่อเปรียบเทียบกับปัจจุบัน รู้สึกคันยุบยิบที่หัวใจนิดหน่อย หากเราปรับตัวเข้าหากันมากกว่านี้วันนี้คงไม่ต้องมารำลึกถึงวันเก่าๆระหว่างกันและกัน
“จริงๆก็เสียดายเวลาเหมือนกันนะ คบกันมาตั้งหลายปี”
“ธามเก่ง”
“ธามเหรอ?”
“อืม เก่งที่อดทนกับคนอย่างวินได้” ธาวินทอดถอนหายใจ เขารู้ตัวดีว่าที่ผ่านมาเขามันแย่แค่ไหน “วินรู้ตัวมาตลอดว่าวินทำแต่เรื่องแย่ๆ วินทำให้ธามร้องไห้บ่อยๆแต่ธามมักจะบอกวินว่าธามโอเค ธามรักวินธามไม่เป็นไร พอลองย้อนกลับไปแล้ววินโคตรเสียใจเลย”
“....”
“คิดว่าคงเบื่อคำนี้แล้วแต่ก็อยากจะพูดว่าขอโทษ วินขอโทษนะธาม”
เขารับคำขอโทษจากธาวินมาอย่างง่ายดาย เรื่องที่ผ่านมาเขาจำได้ไม่เคยลืมเลือน บางคืนก็เก็บมาฝันจนร้องไห้คนเดียวบ่อยๆ
อาจจะเรียกว่าแผลที่ไม่เคยจางหายออกจากใจเลยก็คงได้
แม้วันนี้ธาวินจะพูดคำขอโทษออกมา เขาก็ไม่แน่ใจนักว่าแผลที่ไม่เคยรักษาหายมันจะเป็นยังไง อาจจะดีขึ้นไม่มากก็น้อยแต่มันคงไม่หายขาดและคงจะเป็นแผลเป็นที่ติดในใจเขาไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่
แผลที่คอยย้ำเตือนกับความผิดพลาดและความทรงจำที่เจ็บปวด
แผลเป็นที่เขาถูกกระทำมานับปีจากคนๆเดียว
และเป็นแผลที่เขาไม่เคยอยากลบเลือนออกจากใจเลยสักครั้ง
“วินไม่ได้แย่ขนาดนั้นหรอกนะ ที่ผ่านมาธามก็ได้รับความสุขจากวินเยอะแยะ”
“....”
“จำได้ไหมว่าวินมักจะทำให้ธามหายเศร้าบ่อยๆ เวลาธามทะเลาะกับเพื่อนหรือที่บ้านถ้าไม่มีวินธามคงจะต้องนอนร้องไห้จมกองน้ำตาอยู่แน่ๆ ถ้าวันนั้นวินไม่เดินเข้ามากอดธาม ธามคงจะรู้สึกแย่กว่านี้ วินคือทุกอย่างเลยนะ เป็นทุกอย่างให้กับธามได้เลย ตอนนั้นก็คิดว่าคนๆนี้แหละที่จะต้องอยู่เคียงข้างไปจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต”
แต่พอเลิกกันเขาก็เลิกคิดแบบนั้นไปโดยปริยาย ไม่มีใครจะอยู่กับเราไปจนถึงวันสุดท้ายได้จริงๆนอกจากตัวเราเอง
โลกไม่ได้สอนให้เราเรียนรู้หรอกแต่เราเองนั่นแหละที่สอนให้ตัวเองเรียนรู้และยอมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น
“เพราะฉะนั้นวินอย่าดูถูกตัวเองว่าวินแย่ วินไม่ได้แย่แต่วินแค่อาจจะลืมแคร์ความรู้สึกของคนรอบข้าง ลืมดูแลใส่ใจธามในตอนนั้นซึ่งคนเราเปลี่ยนกันได้ อยู่ที่ว่าวินพร้อมไหมที่จะเปลี่ยนแปลงในสิ่งๆนั้น”
“วินพร้อม ธามอยากให้วินเป็นยังไงวินพร้อมทุกอย่าง”
ศีรษะของธามถูกส่ายไปมาอีกครั้ง รอยยิ้มเอ็นดูผุดขึ้นตรงริมฝีปาก
“ไม่ได้เปลี่ยนเพื่อธามแต่เปลี่ยนเพื่อตัววินเอง”
00 : 15 AM
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เเงงงงง น่ารักทั้งคู่เลย