ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Magic Quest : Thunder Legend

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 : สมบัติถ้ำมังกร

    • อัปเดตล่าสุด 11 ก.พ. 61


    Magic Quest Ep.2
    "สมบัติถ้ำมังกร"
          งานอดิเรกของฉันคือการเที่ยวเล่นไป ในป่าอันกว้างใหญ่นี้ มันให้ความรู้สึกเป็น อิสระจากโลกทั้งมวล
          "โอ๊ะ! มีเหยื่อมาแล้วแฮะ"
          ชื่อของฉันคือ'คิฟุโคะ มาโฮสึไค' ฉัน มาจากหมู่บ้านใกล้ๆนี่และมักจะออกมา เที่ยวเล่นในยามว่าง ซึ่งก็ว่างตลอดเวลาล่ะ นะ ถ้ากลับบ้านไปก็ต้องไปเรียนเวทมนต์ อะไรยากๆกับท่านปู่อีก เพราะงั้นฉันเลย ชอบที่จะอยู่อย่างอิสระคอยแกล้งผู้คนที่มัก จะเดินทางไปมาระหว่างป่าเสมอๆ
          ฉันเป็นนักเวทย์ชนเผ่านิฮง ดังนั้นผล จากการเรียนอย่างหนักกับท่านปู่ทำให้ฉัน สามารถใช้เวทมนต์ได้หลากหลาย ซึ่งบาง ครั้งมันก็เป็นประโยชน์ต่อฉันมาก(ถ้าร่ายสำเร็จนะ)
          ในป่าที่ฉันไม่รู้จักชื่อนี้มักมีคนเดินทาง ผ่านไปผ่านมาเสมอๆ และนี่ก็คือหนึ่งใน นั้น เขาเป็นเด็กที่น่าจะอายุพอๆกับฉัน เขาสวมหมวกสีน้ำเงินเข้มใบใหญ่ ชุดเชย ๆสีฟ้าครามที่ดูๆแล้วก็แค่เด็กชาวนาธรรมดา สิ่งที่ไม่ธรรมดาก็คือเขาสะพายดาบที่ท่า- ทางจะเจ๋งไม่ใช่น้อยเลยเอาไว้ที่หลัง
          "คงต้องขอรับมาเก็บไว้ในคอลเล็กชั่น ซะแล้วละนะดาบนั่นน่ะ"
    ฉันซุ่มดูจากบนต้นไม้คอยสังเกตการณ์ เขาทุกฝีก้าว ดูจากท่าทางแล้วดูเหมือนเขา กำลังมองหาอะไรบางอย่าง
          ที่จริงแล้วเส้นทางนี้เคยมีกองโจรกลุ่ม ใหญ่เคลื่อนกระบวนผ่านป่าไป เห็นว่ามี คนอยู่เต็มไปหมดฉันเลยไม่กล้าเข้าไปยุ่ง แต่หลังจากเช้าที่ท่าทางอันตรายนั่นจบลง เที่ยงวันนี้ก็เจอกับอะไรดีๆเข้าทันที
          หลังจากเขาเดินไปได้ซักพักเขาก็นั่ง ลงที่โคนต้นไม้ต้นหนึ่ง ดื่มน้ำจากถุงหนัง ไปหลายอึก ไม่มีทีท่าระวังตัวซักนิด ฉัน เลยย่องเข้าไปใกล้ๆโดยไม่ให้เขาสังเกต
          "เฮ้อ เหนื่อยจังแฮะ พักหน่อยดีกว่าเรา"
          คงจะเดินทางมาทั้งวัน ดูๆแล้วคงจะ เหนื่อยพอสมควร นี่เป็นโอกาสเหมาะที่ฉัน จะได้ฉกเจ้าดาบอันเปล่งประกายแสนงดงามนั่นมาครอบครอง ฉันไม่รอช้าอาศัยความ เร็วอันเฉียบคมกระโดดลงจากต้นไม้และ หยิบดาบจองเขาไปทั้งฝักทันที
          "เสร็จละ!!!"
          "เฮ้ย?!!"
          "ขอเจ้าดาบล้ำค่านี่ไปละนะ!"
          "เดี๋ยวก่อนสิ!!!"
          ทันทีที่ฉันหยิบดาบได้ ฉันก็กระโจน หายเข้าไปในป่าลึกทิ้งให้เจ้าของเดิม ตะโกนตามหลังอยู่อย่างนั้น
          "หึๆๆ ในที่สุดก็ได้เจ้าดาบนี่มาแล้ว ท่าทางไม่ใช่เล่นๆเลยนะเนี่ย"
          "เฮ้ย~! เอาคืนมานะ~!"
          หันมาอีกทีก็เห็นเด็กหนุ่มคนนั้นกำลัง วิ่งตามมาด้วยความเร็วสูงจนยากจะทิ้งห่าง
          "อ่ะ อะไรกันน่ะ?!"
          หน้ายังกะผู้หญิงอย่างนั้นไม่นึกไม่ฝัน ว่าจะตามมาจนถึงนี่ได้อย่างรวดเร็วขนาด นี้ เห็นทีคงไม่ใช่แค่ดาบแต่เจ้าของเองก็ คงไม่ใช่เล่นๆเหมือนกัน
          "ไม่ยอมแพ้หรอกน่า! ดาบนี้ต้องเป็นของฉัน!!"
          "มันไม่ใช่ของเธอซักหน่อย ห้ามเอาไปเด็ดขาดเลยนะ!!!"
          นอกจากความเร็วที่ไม่เข้ากับหน้าตา อันสดใสประสาเด็ก น้ำเสียงเองก็ฟังดู เป็นผู้ชายรุ่นๆ เขาไม่ได้เป็นเด็กปวกเปียก เหมือนที่เห็นภายนอก แต่เป็นคนที่แข็ง แกร่งคนหนึ่ง เพียงช่วงที่ฉันหันมาแวบ หนึ่ง สีหน้าของเขาก็เกินพอจะทำให้ฉัน ขนลุกได้
          "ชิ! จะทนไปได้ซักกี่น้ำเชียว!"
          "หยุดนะ!!!"
          "อ่ะ ว๊าย!!!"
          ก้อนหินก้อนหนึ่งพุ่งเข้ามาด้วยความ เร็วสูง แต่เพราะฉันหลบได้อย่างฉิวเฉียด มันจึงพุ่งต่อไปเรื่อยๆและค่อยๆตกลงมา
          "ทำอะไรน่ะ! ถึงขั้นต้องขว้างหินเลย เหรอ?!"
          "ก็เธอไม่ยอมคืนมันให้ฉันนี่นา!"
          "หวาๆๆ ว้าย!!!"
          ก้อนหินพุ่งเข้ามาเรื่อยๆอย่างไม่ขาด สาย ถึงจะหลบได้ไม่ยากเท่าไหร่นักแต่ แค่คิดว่าถ้าโดนจะเกิดอะไรขึ้นบ้างก็รู้สึก กลัวขึ้นมา ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่าก้อนหินที่ พุ่งมาเปล่งประกายเป็นสีฟ้าครามเล็กน้อย มันคงจะแฝงไปด้วยพลังเวทย์สายไฟฟ้า ไม่ผิดแน่
    ในบรรดาก่อนหินเหล่านั้นมีก้อนหนึ่ง ที่พุ่งเข้าชนต้นไม้ใกล้ๆกันนั่น และก้อน หินเจ้ากรรมนั่นก็เกิดระเบิด ระเบิดพลัง เวทย์สายฟ้านั่นรุนแรงมหาศาลจนฉันถึง กับถูกซัดกระเด็นแม้แทบจะไม่ได้สัมผัสกับระเบิดเลย
          "ว้ายยยยยยยย!!!"
          โครม!!!
          "อ้าวเฮ้ย!!! ขอโทษนะ ไม่ได้ตั้งใจจะ ให้โดน...หน่อย...ฉันช่ว...นะ"
          นั่นคือเสียงสุดท้ายที่ฉันได้ยินก่อนที่ โสตประสาทและสายตาของฉันจะดำดิ่งลง สู่ความมืด สติหลุดลอยไปยังที่ๆไกลแสน ไกล
          ...
          "เอ๋?! ที่นี่มัน?!!"
          ฉันตื่นขึ้นมาในป่า ที่นั่นยังคงเป็นที่ๆ เดิมที่ฉันหลับไป ฉันจำได้เป็นอย่างดีว่า เกิดเหตุการณ์บางอย่างที่นี่ หลักฐานก็คือ ยังมีร่องรอยการระเบิดที่ทิ้งเถ้าถ่านสีดำ สนิทไว้บนต้นไม้ที่ถูกระเบิด
          "ที่เดิม...งั้นเหรอ...อุ๊ย?!"
          รู้สึกเจ็บแปลบเล็กน้อย ตรงบริเวณเอว ด้านข้างกับด้านหลัง ตรงนั้นเป็นบริเวณที่ ฉันจำได้ว่าถูกสะเก็ดระเบิดเข้าไปเล็กน้อย สังเกตได้จากเสื้อผ้าที่มีรอยไหม้ดำนิดหน่อย ขนาดแค่สะเก็ดเล็กๆยังเป็นรอยขนาดนี้

          เขาเป็นใครกันแน่นะ
          "เอ๊ะ นี่มัน..."
          รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างพันอยู่ที่ เอว ยิ่งบริเวณที่ถูกสะเก็ดระเบิดก็ยิ่งรู้สึก เหมือนมีอะไรอยู่
          ฉันลองแกะโอบิออกดูและก็เห็นว่ามี ผ้าพันแผลพันอยู่รอบเอวฉัน บริเวณที่คิดว่าถูกสะเก็ดระเบิดมีอะไรเขียวๆยัดอยู่ภาย ใน เหมือนจะเป็นสมุนไพรอะไรซักอย่าง
          "เดี๋ยวสิ?! อย่าบอกนะว่าเจ้านั่นถอดเสื้อฉันแล้วทำแผลให้น่ะ?!!"
          ไม่รู้ทำไมนอกจากจะโกรธแล้ว ยังมีความรู้สึกเขินอายปนอยู่มหาศาล ฉันใช้มือปกปิดร่างกายของตัวเองอัตโนมัติ แต่มันก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว
          "หนอยแน่~ เจ้าบ้านั่น~! เจอกันคราว หน้าจะซัดให้หมอบเลยคอยดู!!!"
          โครก...
          "อุ๊ย?!"
          โชคดีที่ไม่มีใครอยู่แถวนี้ แต่ถึงจะมี ฉันก็ไม่ได้รู้สึกอายอะไรเท่าไหร่อยู่แล้ว

          "หิวแล้วสิ รีบกลับบ้านไปทำไรกินดีกว่า..."


          ***


          ชั่วพริบตาที่ผมนั่งพักลงที่ใต้ต้นไม้ ใหญ่ ลำแสงสีชมพูสดใสได้เคลื่อนที่ผ่าน หน้าผมไปอย่างรวดเร็วจนมองไม่ทัน
          "เสร็จละ!!!"
          "เฮ้ย?!!"
          "ขอเจ้าดาบล้ำค่านี่ไปละนะ!"
          "เดี๋ยวก่อนสิ!!!"
          สิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าคือเด็กสาวคนหนึ่ง ที่เพิ่งจะขโมยดาบของผมไป มองเห็นใบ หน้าเธอไม่ชัดแต่เรือนผมที่ปลิวสไวนั่น ยาวสลวยเปล่งประกายสีบานเย็นประบ่าถูกปรกไว้โดยหมวกปลายแหลมคล้ายหมวก นักเวทย์สีชมพูเข้ม เสื้อนั้นดูคล้ายยูกาตะ แขนกุดสีชมพูอ่อนมีแถบสีขาว รวมทั้งผ้า โอบิและกระโปรงสั้นนั้นก็เป็นสีขาวเช่น กัน รองเท้าเหมือนจะเป็นรองเท้าผ้าใบสี แดงลายขาว ลวดลายเป็นแบบที่ดูทันสมัย และไม่เคยเห็นมาก่อน รูปร่างของเธอนั้น ผอมเพรียวกระทัดรัดทุกสัดส่วนชนิดที่ผู้ ชายหลายๆคนเห็นแล้วต้องหลงใหล นั่น คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้เธอเคลื่อนไหวได้ อย่างรวดเร็วจนผ้าพันคอสีแดงสดและปอย ผมยาวๆของเธอปลิวไสวไปตามสายลม เธอมุ่งหน้าไปโดยแทบไม่เหลียวหลังมา มองและแทบไม่แสดงอาการลังเลใดๆเลย สรุปก็คือเด็กสาวที่เพิ่งจะขโมยดาบผมไปนี้ นอกจากจะเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว แล้วยังรู้จักพื้นที่บริเวณนี้เป็นอย่างดี จึง สามารถหนีไปได้เรื่อยๆโดยไม่สะดุดอะไร ราบกับดาวหางสีชมพูสดใสเปล่งประกาย ภายใต้ท้องนภาสีครามอันเจิดจรัส
          "หึๆๆ ในที่สุดก็ได้เจ้าดาบนี่มาแล้ว ท่าทางไม่ใช่เล่นๆเลยนะเนี่ย"
          "เฮ้ย~! เอาคืนมานะ~!"
          "อ่ะ อะไรกันน่ะ?!"
          แค่วิ่งตามก็เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว ยังจะ ต้องมาตะโกนไล่หลังแบบนี้มีหวังสลบ เหมือดแหงๆ คงต้องหาทางทำอะไรซัก อย่าง
          "ไม่ยอมแพ้หรอกน่า! ดาบนี้ต้องเป็น ของฉัน!!"
          "มันไม่ใช่ของเธอซักหน่อย ห้ามเอาไป เด็ดขาดเลยนะ!!!"
          "ชิ! จะทนไปได้ซักกี่น้ำเชียว!"
          "หยุดนะ!!!"
          "อ่ะ ว๊าย!!!"
          ไม่เอาให้โดนหรอกน่า ไม่ว่ายังไงก็จะ ไม่ให้หินที่ขว้างไปโดนตัวของเธออย่าง แน่นอน นั่นคือสิ่งที่ผมคิดระหว่างที่กำลัง พยายามเก็บก้อนหินมาขว้างใส่ยัยนั่นเพื่อ ทำให้เธอเคลื่อนไหวได้ลำบากและจะได้ ไล่ตามได้ง่ายขึ้น
          แต่ผมกลับปล่อยพลังลงไปในก้อนหิน ที่ขว้างออกไปโดยไม่รู้ตัว รู้สึกตัวอีกทีหิน เจ้ากรรมก็ดันเกิดระเบิดต่อหน้าต่อตา สิ่งที่ เห็นตรงหน้าคือเด็กสาวคนนั้นถูกระเบิด เข้าและร่วงลงมาต่อหน้าต่อตาผมที่กำลัง ตกใจสุดขีด
          "ว้ายยยยยยยย!!!"
          "อ้าวเฮ้ย!!! ขอโทษนะ ไม่ได้ตั้งใจจะ ให้โดนซักหน่อย เดี๋ยวฉันช่วยนะ"
          ไม่ทันที่จะได้ตอบ เธอก็เข้าสู่ห้วงนิทรา รอยไหม้จางๆนั่นทำเอาผมรู้สึกผิดสุดๆ
          "ตายละหว่า...เผลอทำคนบาดเจ็บซะ แล้ว..."
          หมวกของเธอหลุดออกมา เผยให้เห็น ใบหน้าอันงดงามของเด็กสาวอายุรุ่นราว คราวเดียวกัน ผมรู้สึกสะดุดตากับบางอย่าง บนใบหน้ายามหลับใหลของเธอ ถ้าคนทั่ว ไปได้รับรู้ถึงประโยคนี้คงจะคิดว่าผมตก หลุมรักเธอเหมือนพระเอกในนวนิยายทั่ว ไป แต่ความจริงมันลึกซึ้งกว่านั้นเสมอ
          "ขนาดสลบยังนอนน้ำลายยืดอีกแน่ะ"
          ผมสบถเล็กน้อยออกมาอย่างอดไม่ได้ ไม่เคยเห็นเด็กผู้หญิงที่ไหนนอนหลับได้ เหมือนผู้ชายขนาดนี้ แม้แต่น้องสาวฉันยัง นอนดีๆเลย
          "เอาเป็นว่าช่วยทำแผลให้ก็แล้วกัน มี สมุนไพรห้ามเลือดกับผ้าพันแผลอยู่พอดี"
          ผมค่อยๆถอดเสื้อเธอออก ภาวนาอยู่ใน ใจว่าคงไม่เป็นไรหรอกน่า เราทำเพื่อช่วย เหลือเธอ อีกอย่างเราก็เคยเห็นของน้องมา ไม่รู้ตั้งกี่ครั้งตั้งแต่ยังเป็นทารกยันไปว่าย น้ำในลำธารด้วยกัน หน้าอกก็ไม่ได้ใหญ่ อะไรมากคล้ายๆกับน้องสาวเรา(ที่ยังไม่ถึง วัยที่หน้าอกจะนูนออกมา)เพราะงั้นคงไม่ เป็นไร ระหว่างที่ค่อยๆปลดเสื้อผ้าเธอออก ก็รู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วทั้งตัว ยังโชคดีที่เธอ พันผ้าแถบสีขาวคลุมหน้าอกไว้ ไม่รู้ว่า ทำไมถึงไม่ใช้ยกทรงแต่ก็ช่างมันละกัน หน้าที่ของเราตอนนี้คือรักษา
          เวลาผ่านไปในที่สุดผมก็เสร็จสิ้นการ ปฐมพยาบาล แต่บ้านของเธอคนนี้อยู่ไหน ผมก็ไม่ทราบได้ และผมเองก็จำเป็นต้องรีบ ไปต่อ คงจะมาหยุดอยู่ตรงนี้ไม่ได้
          "ขอโทษนะ..."
          ผมลุกออกไปเงียบๆ มุ่งหน้าต่อไปตาม ทางที่คิดว่ากลุ่มกองโจรจะผ่านไป
          "ยังเห็นรอยรถเกวียนอยู่เลย ทางนั้นสินะ!"
          ผมตามรอยนั่นไปโดยที่คอยหันกลับมา มองเด็กคนนั้นอย่างเป็นห่วงจนกระทั่ง ภาพนั้นพ้นสายตาไปผมจึงหันกลับมาดีๆ และก้าวต่อไป
          ...
          ผมยังคงเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆโดยไม่ สนใจว่าตัวเองเหนื่อยแค่ไหน อย่างน้อยๆ ก็ไม่อยากจะคลาดพวกโจรไปไกลมากซัก เท่าไหร่ แต่ถ้าได้พักก็คงจะดี
          "เวลาแบบนี้ผู้กล้าไปทำอะไรอยู่ที่ไหนนะ..."
          ตลอดเวลาที่ผมเดินทาง ผมก็ได้แต่คิด มาตลอดว่าผู้กล้าที่ถูกกล่าวไว้ในคำทำนาย คือใคร
          "ใช่พ่อรึเปล่านะ..."
          เฮลิออส ทันเดรียส เขาเป็นพ่อของผม และเป็นนายทหารดาบที่เก่งกาจมาก ไม่มีข้าศึกคนใดเอาชนะเขาได้ อีกทั้งรังสีอำมหิตอันมหาศาลที่แผ่ออกมาสู่คนทั่วไป อย่างรุนแรงยังทำให้เขาเป็นที่น่าเกรงขาม ผมไม่ค่อยถูกกับเขาซักเท่าไหร่ แต่มันก็ ผ่านมานานมากแล้วที่เขาหายออกจาก บ้านไป ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนกันแน่
          ผมเดินไปเรื่อยๆจนมาถึงถ้ำแห่งหนึ่ง มองลึกเข้าไปข้างในได้ยินเสียงเหมือนผู้ คนจำนวนมากชุมนุมกันอยู่ในนั้น
          "ดูเหมือนจะเจอตัวแล้วละนะ"
          ...
          "เต็มไปหมดเลยแฮะ..."
          ผมไม่ค่อยอยากปะทะกับกองโจรขนาด ใหญ่นี่ซักเท่าไหร่ ผมจึงปลอมตัวเข้าไป ด้วยเสื้อฮู้ดที่ขโมยมาจากโจรคนหนึ่งที่ผม จัดการไปก่อนหน้านี้
          "เฮ้ย! แกน่ะ!"
          "คะ ครับ!!!"
          ฮิโนะปรากฏกายอยู่ตรงหน้า ทำหน้า เอะใจซักเล็กน้อยก่อนจะสั่งบางอย่าง
          "ไปเปลี่ยนเวรที่ห้องเก็บสมบัติทีซิ!"
          "อ่ะ คือว่า...ข้าหลงทางอยู่ ไม่รู้เป็น ห้องไหนน่ะขอรับ!"
          "จริงๆเล้ย! เดินตรงไปทางนั้นเลี้ยว ซ้ายเลี้ยวขวาตรงไปอีกหน่อยก็ให้เลี้ยวขวาแล้วก็เลี้ยวซ้าย จากนั้นเลี้ยวซ้ายจะอยู่ ทางขวามือ"
          ใครจะไปจำได้ฟระ...
          "อ่า...มีทางที่ไปได้เร็วกว่านี้มั้ยครับ?"
          "วิ่งตรงไปทางนั้นเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา ตรงไปอีกหน่อยก็ให้เลี้ยวขวาแล้วก็เลี้ยว ซ้ายจากนั้นเลี้ยวซ้าย ห้องอยู่ทางขว..."
          "ขอรับ!"
          ผมรีบหนีออกมาจากตรงทันที ขืนอยู่ นานกว่านี้ไม่รู้จะโดนเล่นมุขแป้กอะไรอีก
          ...
          "ที่นี่คือห้องสมบัติสินะ..."
          ในที่สุดผมก็มาถึงห้องสมบัติจนได้ จาก คำบอกทางของฮิโนะ(และคนอื่นๆที่ถามมาเรื่อยๆ)
          "เฮ้ยแก! ฉันมาเปลี่ยนเวร"
          "โอ้! ขอบใจมาก!"
          ไม่ทันได้คิดอะไรเจ้าโจรที่เฝ้าอยู่หน้า ปากอุโมงค์ขนาดใหญ่ก็รีบไปทันที ท่าทาง จะเข้าเวรตั้งแต่พวกฮิโนะกลับมาที่ฐานนี้
          แต่จากที่ผมเดินสำรวจมา ถ้ำนี้มันมี ขนาดใหญ่เกินไปจนไม่คิดว่ามนุษย์จะ สร้างขึ้นมา แล้วก็ดูเหมือนว่าจะแยกห้อง ไว้ยิบย่อยอีกเยอะจนเกินไป แต่ละห้องก็ ใหญ่โตมโหฬารราวกับว่ามนุษย์ยักษ์อาศัย อยู่ที่นี่ยังไงยังงั้น
          "ถ้ำนี้มันยังไงกันแน่ละเนี่ย?"
          ผมว่าพลางก็ค่อยๆเดินเข้าไปในห้องที่ ถูกเรียกว่า'ห้องเก็บสมบัติ' แล้วสิ่งที่พบก็คือ แก้วแหวนเงินทองจำนวนมากที่ถูกบรรจุ ไว้ในเกวียนหลายร้อยหลัง
          "อะ อะไรกันเนี่ย?!!"
          มันมากเกินกว่ามนุษย์จะหาได้ พวก กองโจรสะสมของพวกนี้มาจากทุกอาณาจักรรึยังไงกันถึงได้มากขนาดนี้
          ผมเดินเข้าไปสำรวจห้องนี้จนทั่ว แต่ก็ ไม่มีวี่แววว่าจะพบสิ่งที่ดูเหมือนลูกแก้วเลย จะว่าไปลูกแก้วที่ว่านั่นหน้าตาเป็นย้งไง เราก็ไม่รู้นี่นา แต่ยังไงซะรูปร่างภายนอกก็ คงเหมือนลูกแก้วทั่วๆไปนั่นแหละ
          "ดูเหมือนจะไม่อยู่ในห้องนี้แฮะ ถ้า อย่างนั้นรีบออกไปดีกว่า"
          พอสังเกตดูดีๆ ห้องนี้ก็มีประตูฉุกเฉินที่ถูกเจาะไว้ด้วยฝีมือมนุษย์ ดูเหมือนว่าแผ่นหินที่ปิดประตูอยู่จะเปิดได้ด้วยคาถารหัส บางอย่าง
          "ท่าทางจะต้องร่ายคาถาเพื่อเปิดออกสิ นะ"
          ผมลองร่ายคาถาง่ายๆที่พอจะรู้เผื่อว่า มันจะเปิดได้
          "โอเพ่น! เซซามิ!"
          แต่ประตูก็ไม่เปิด
          "ประตูเอ๋ย จงเปิด!"
          ประตูก็ยังคงไม่เปิด
          "ในนามของข้า เมอร์ซี่ ทันเดรียส ขอ บัญชา! ประตูเอ๋ย! จงเปิด!!!"
          และประตูก็ยังคงปิดต่อไป
          "ให้ตายสิ ต้องใช้คาถาอะไรกันนะถึง จะเปิดได้ ไม่อยากกลับไปทางเก่าเลยแฮะ"
          "เฮ้ย! แกมาทำอะไรอยู่ตรงนี้?!"
          "อะ อ๋อ! ว่าจะออกไปตรวจข้างนอก หน่อยน่ะ"
          โจรคนเมื่อครู่กลับมาอีกครั้ง สีหน้าของ เขาดูซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัด มือทั้งสอง ข้างของเขากุมอยู่ที่...
          "ออกไปหน่อยสิวะ! ข้าปวดฉี่!"
          "คะ ครับจ้า..."
          แล้วโจรคนนั้นก็รีบวิ่งไปที่ประตูนั่น ยกมือสองข้างขึ้นมาจับที่ด้านซ้ายของ ประตูแล้วลากออกไปทางขวาอย่างรวดเร็ว
          ประตูเปิดแล้ว...
          "อ้าวเฮ้ย?!!"
          "ฮ้า~! โล่งสบาย~"
          ไม่นึกไม่ฝันว่าจะเป็นประตูที่ไร้การป้องกันแบบนี้
          "มะ ไม่มีรหัสอะไรเลยเหรอ..."
          "ไม่มีหรอก"
          "แล้วถ้าเกิดมีคนบุกรุกเข้ามาจะทำยัง ไงล่ะ?"
          "อ๋อ! ประตูนี้น่ะเปิดได้จากข้างในเท่า นั้น ถ้าจะเปิดจากข้างนอกต้องใช้รหัสน่ะ ข้าไม่รู้หรอกเลยต้องเปิดค้างไว้ ฝากเฝ้า หน่อยละกัน"
          มาฝากศัตรูเฉยเลย...
          "ดะ ได้..."
          ผมยืนอยู่ตรงนั้นอีกซักพักหนึ่งจนเจ้า โจรนั่นกำลังจะเดินกลับเข้าไป แต่แล้วลม พายุรุนแรงก็พัดมา
          "อะ อะไรกัน?!"
          ลมพายุที่ร้อนราวกับพายุในเขตร้อนนี่ ทำให้ต้นไม้สั่นไหวไปตามแรงลม ไม่นาน นักเงาขนาดยักษ์ก็ปรากฏขึ้นบดบังแสง อาทิตย์
          "มะ มังกร!!!"
          เจ้าโจรนั่นร้องตะโกนสุดเสียงอย่างตก ใจสุดขีด มันรีบวิ่งกลับเข้าไปในถ้ำแล้วปิด ประตูทันที ปล่อยให้ผมยืนอึ้งอยู่ที่เดิม
          มังกร ชาตินี้ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้เจอ ไม่นึกว่ามังกรจะไม่ได้มีอยู่แต่ในตำนาน ยิ่งมังกรตนนี้ตัวสูงใหญ่ร่างกายสีแดงคล้ำ ลำตัวปกคลุมไปด้วยไอร้อนและเปลวเพลิง ที่เปล่งประกายสีแดงชาด ขาและกรงเล็บที่ ทรงพลังคล้ายกับจะยืนสองขาได้ทั้งๆที่ ณ ตอนนี้ยืนสี่ขา คงเพราะขนาดลำตัวที่ถ้ายืน ตัวตรงก็คงจะสูงซัก 50 เมตรนั่นทำให้ทรง ตัวค่อนข้างลำบาก แต่สิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า ผมตอนนี้คือ'พญามังกร ไฟ'ไม่ผิดแน่
          "ไม่ต้องกลัว ข้าสัมผัสได้ว่าเจ้าเป็นคน ดี ข้าไม่ทำอะไรเจ้าหรอก"
    พูดได้ด้วย ไม่สิ ระดับพญามังกรนี่ก็ สมควรจะพูดได้นี่นะ เสียงของมังกรนั้น ดังกึกก้องไปทั่ว หัวอันงามสง่าน่าเกรงขาม นั่นก้มลงมาใกล้
          "อ่า...ครับ..."
          "เจ้ามาทำอะไรที่ถ้ำของพวกข้า?"
          งี้นี่เอง สาเหตุที่แต่ละห้องในถ้ำนั้น ใหญ่โตมโหฬารเพราะนี่เป็นถ้ำของมังกรนี่เอง
          "คือว่า ข้ามาจากพัลเลเทีย..."
          "เดี๋ยวก่อนนะ มาจากพัลเลเทียงั้น เหรอ?"
          แสงสว่างสีแดงเปล่งประกายขึ้นจนผม ไม่อาจมองได้ พอลืมตาอีกทีก็เห็นชายวัย กลางคนในชุดและเส้นผมสีแดงเหมือน พญามังกรเมือครู่นี้ดูสง่าผ่าเผยยิ่งนัก คง เป็นความสามารถในการกลายร่างเป็นร่าง มนุษย์สินะ
          "เอ๋?"
          "เมื่อนานมาแล้ว ข้าเคยเป็นคู่หูของ ชายหนุ่มคนหนึ่ง เขามาจากพัลเลเทียและ มีวิชาเพลงดาบที่ร้ายกาจและไม่มีใครสู้ได้ จะว่าไปเจ้านั้นดูคล้ายเขายิ่งนัก"
          "รึว่าจะเป็น พ่อ..."
          "งั้นรึ เจ้าเป็นลูกของเฮลิออสสินะ ได้ ข่าวว่าตอนนี้หายตัวไปนี่"
          กระทั่งพญามังกรก็ยังรู้ คงไม่มีใครที่ รู้จักเขาแล้วไม่รู้เรื่องนี้แล้วล่ะมั้ง
          "ชื่อของข้าคืออาร์ก้อน ชิริวโฮ เป็นหัวหน้าและผู้ดูแลฝูงมังกรที่อาศัยอยู่ในถ้ำนี้ เวลานี้ทุกตัวกำลังออกไปหาอาหารอยู่"
          "งี้นี่เอง งั้นสมบัติมหาศาลในถ้ำนั้นก็ คือสมบัติของท่านสินะ แก้วแหวนเงินทอง มากมายเต็มไปหมดเลย"
          "ไม่ใช่หรอก เป็นมังกรจะเอาแก้วแหวนเงินทองไปทำมะเขืออะไร"
          "นั่นสินะครับ..."
          โดนตัดบทง่ายๆงี้เลย...
          "ว่าแต่เจ้ามาทำไมนะ?"
          "ลูกแก้ววิเศษที่คุ้มครองอาณาจักรข้า ถูกขโมยไปนะครับ ข้าเลยรับหน้าที่ออก ตามหาโจรพวกนั้น และตอนนี้ก็กำลัง สำรวจถ้ำของท่านอยู่ แต่ก็หาไม่เจอซักที"
          "งี้นี่เอง...แต่ของสำคัญขนาดนั้นมัน คงไม่เอาไปรวมไว้กับของอื่นๆหรอก"
          "อะไรนะครับ?"
          "มันมีพลังจะเปลี่ยนมนุษย์ธรรมดาให้ เป็นจอมเวทย์ได้ จะมีคนชั่วหมายปองก็คง ไม่แปลกอะไร แต่แปลกที่อาณาจักรนั้นปล่อยให้มันขโมยไปได้นี่แหละ..."
          แทงใจเต็มๆ...
          "เอาเป็นว่ามันคงจะอยู่กับหัวหน้าพวก มันหรือให้ใครคนหนึ่งเก็บไว้ ไม่ก็แยก กันเก็บนั่นแหละ ข้าจะช่วยก็แล้วกัน"
          "จะช่วยยังไง..."
          ยังไม่ทันจะพูดจบ พวกกองทัพโจร ก็ยกโขยงออกมาจากอีกด้านหนึ่งของห้อง เก็บสมบัติ ดูท่าจะมีประตูลับอีกทางหนึ่ง
          "เจ้ามังกร! ข้าไม่ให้แกมาแย่งถ้ำนี่ไป หรอกน่า!"
          "นี่มันถ้ำของข้าต่างหาก!"
          "แปลงร่างเป็นคนเรอะ เฮ้ย?! นั่นมัน ไอ้เด็กนั่นนี่หว่า?!!"
          "ซวยล่ะ"
          ผมอุทานออกมาอย่างตกใจที่ถูกฮิโนะ จับได้
          "แกปลอมตัวเข้ามาแฝงอยู่ในกองทัพ เราเรอะ บังอาจนัก!"
          "เจ้านั่นคือหัวหน้าสินะ"
          "ครับ..."
          "จงคืนลูกแก้วมาซะ! เปลวเพลิงมังกร !!!"
          "พลังวารี!"
          ในมือของฮิโนะคือลูกแก้วสีน้ำเงิน ทันทีที่สิ้นคำพูด ลูกแก้วก็เปล่งประกายและ สายน้ำก็พวยพุ่งออกมาต้านทานไฟมังกร ไว้
          "เฮอะ กันได้ยังงั้นเรอะ?!"
          "พลังเต็มเปี่ยมไปเลยใช่มั้ยล่ะลูกแก้วนี่ เราจะใช้มันเพื่ออุดมการณ์ของท่านผู้ นั้น!!!"
          "ท่านผู้นั้น?!" "ท่านผู้นั้นงั้นเหรอ?!!"
          ฮิโนะยิ้มกริ่มอย่างพึงพอใจราวกับจะ คิดว่าเรากำลังเกรงกลัวต่อคำว่า'ท่านผู้นั้น'
          "ใคร?" "ใครอ่ะ?!"
          "ปั้ดโถ่!!! ข้าจะต้องบอกทำไมฟะ?!!"
          ฮิโนะเกือบจะล้มหน้าคว่ำลงไปนอน กองกับพื้นก่อนจะสบถออกมา
          "ยังไงซะก็เอาลูกแก้วคืนมาได้แล้ว!"
          "ไม่มีทาง! ย้ากกก!!!"
          ฮิโนะกำลังพยายามประสานพลังจาก ลูกแก้วแต่ละลูก ตอนนี้ลูกแก้วสีเหลือง และสีฟ้าครามกำลังเปล่งประกาย
          "แสงสายฟ้า!!!"
          "อึก! อ้าาากกกก!!!"
          ผมกับท่านอาร์ก้อนช่วยกันรับพลังนั่น แต่ก็เกือบจะกันเอาไว้ไม่ไหว
          "ไม่ยอมให้โจมตีฝ่ายเดียวหรอก ย้าก!!!"
          คราวนี้ผมเร่งพลังลงไปในดาบ จำนวนมากและปล่อยออกไปในการฟัน ครั้งเดียว ส่วนท่านจ้าวมังกรก็ปล่อยไฟ ออกมาเช่นกัน
          "เพลิงทมิฬ!"
          เปลวเพลิงสีดำลุกโชติช่วงและพุ่งออกมาจากมือของฮิโนะ จ้าวมังกรปัดมันออกไปพลางสวนกลับ
          "เพลิงมังกรสังหาร!"
          "น้ำแข็งมนตรา!"
          คราวนี้แท่งน้ำแข็งจำนวนมากที่รายล้อมด้วยประกายแสงสีชมพูปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าและร่วงพรูลงมาราวห่าฝน ผมพยายามใช้ดาบทำลายมัน
          "ดาบสายฟ้า!"
          "ธรณีพฤกษา!"
          บนพื้นดินมียอดไม้ยักษ์พุ่งทะลุออกมา ทั้งผมทั้งท่านจ้าวมังกรต่างกระโดดหลบไปมาอย่างชุลมุนวุ่นวาย
          การต่อสู้ดำเนินต่อไปเรื่อยๆและรุนแรง จนไม่มีช่องว่างให้กองโจรที่ยืนอยู่ด้าน หลังเข้ามาแทรกได้ แต่ก็มีบางคนที่ยิงธนู เข้ามาเหมือนกัน ถึงจะไม่โดนก็เถอะ
          "จังหวะนี้ล่ะ!"
          ท่านจ้าวมังกรปล่อยคลื่นบางอย่างออก ไปยังจุดที่ลูกแก้วที่หมุนอยู่รอบตัวฮิโนะ เข้ามาใกล้กันเองมากที่สุด ทันใดนั้นก็เกิด แสงสว่างวาบขึ้น
          "อะ อะไรกันน่ะ?!"
          "ข้าเร่งพลังลงไปในค่ายอาคมเวทมนต์ของเจ้าเพื่อสะกัดกั้นการใช้งานลูกแก้วศักดิ์สิทธิ์ยังไงล่ะ เจ้าควบคุมมันไม่ได้อีกแล้ว!"
          "ฮะ ฮึบ!!! ย้าากกกก!!!"
          ฮิโนะพยายามควบคุมลูกแก้วทั้งสิบสอง ที่กำลังเคลื่อนไหวอย่างส่งเดชราวกับกำลัง บ้าคลั่ง ทันใดนั้นก็เกิดระเบิดพลังงานสี ขาวขึ้น
          ดาวตกสีต่างๆทั้งส้ม น้ำเงิน เขียว แดง เหลือง ม่วง เขียวอ่อน เงิน ฟ้าคราม ชมพู บานเย็น เทา และฟ้าอ่อนพุ่งทะยานขึ้นสู่ ท้องฟ้าและกระจายออกจากกัน พุ่งไปยัง ที่ต่างๆ
          "อะไรกันน่ะ?!"
          "ดูท่าว่าเจ้านั่นจะใช้พลังเต็มที่เพื่อควบคุมลูกแก้วแต่ละลูก พอควบคุมไม่อยู่ก็เลย เกิดระเบิดแล้วกระจายไปทั่วซะแล้วล่ะ"
          "กะ แก...บังอาจ..."
          "พอแค่นั้นล่ะเจ้าพวกมนุษย์!!!"
          เหล่ามังกรเริ่มมารวมตัวกัน บนฟากฟ้า มีเงาทะมึนจำนวนมหาศาลที่ดูจะตัวเล็ก กว่าจ้าวมังกรเล็กน้อย
          "มะ มังกร..."
          
    "หัวหน้า! รีบหนีกันก่อนเถอะ!!"
          "หึ! ก็ได้ จะได้ไปรายงานเรื่องลูกแก้ว ให้ท่านผู้นั้นรู้ด้วย เจอกันครั้งหน้าแกไม่ รอดแน่'เมอร์ซี่ ทันเดรียส'!!!"
          พูดจบก็ระเบิดบริเวณโดยรอบและหาย ไปอีกครั้ง ไม่มีวี่แววของกองโจรที่ยิ่งใหญ่หลงเหลืออยู่เลย
          "สุดท้ายแล้วก็ปล่อยให้หนีไปซะได้..."
          "ไม่เป็นไรหรอกครับ อย่างน้อยลูกแก้ว ก็ไม่ได้อยู่ในมือพวกมันแล้ว"
          "นั่นสินะ แต่คิดว่าหลังจากนี้เจ้าคง จะลำบากแล้วล่ะ"
          "ยังไงผมก็ต้องนำมันกลับไปให้ได้ ไม่ เป็นไรหรอกครับ"
          แสงอาทิตย์อัสดงเริ่มเปล่งประกายไป ทั่วทั้งฟากฟ้า สัญญาณแห่งช่วงยามวิกาล ใกล้เข้ามา ถึงแม้ลูกแก้วจะไม่ได้อยู่ในมือ กองโจรแล้ว แต่ถ้าไม่ตามกลับมาภายใน 1 ปีละก็จะถึงคราวอาณาจักรล่มสลายอย่าง แน่นอน

    [ตัวอย่างตอนต่อไป]
          "งั้น ผมไปละนะครับ"
          "เดี๋ยว! เมอร์ซี่!"
          "หืม?"
          ประโยค(ที่จริงควรจะเรียกว่ากลุ่มคำ) ต่อไปนี้คงจะเป็นประโยคที่หลายๆคนที่รู้จักฉันคงจะตกใจที่ได้ยิน
          "ขอบใจนะ"
          "อะ อืม..."


    วันที่ลง : 10/12/59
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×