ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Mysterious Detective

    ลำดับตอนที่ #19 : เปียโน ฮาร์โมนิก้า และไวโอลินตัวนั้น

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 72
      0
      11 ธ.ค. 47

    .

                        



                  มัยแทบจำไม่ได้เลยว่าเธอกลับมาถึงหอพักตั้งแต่เมื่อไหร่   แล้วเธอลากสังขารเดินขึ้นบันไดมาจนถึงที่ห้องได้ยังไง   มัยจำได้แค่รางๆว่าเธอโดนผู้หมวดณรงค์พาไปเลี้ยงข้าวที่ไหนสักแห่ง   แต่ไม่รู้ว่าหลังจากนั้นเป็นยังไงเพราะเธอมัวแต่คิดถึงเรื่องอื่น   คิดถึงคนๆหนึ่งที่ตอนนี้ไม่รู้ว่าตอนนี้ไปอยู่ที่ไหน   เขาคือทิวากรลูกชายของสารวัตรพิเชฐที่ทั้งสองพูดถึงเมื่อครู่   มัยได้พบกับกรด้วยความบังเอิญในความโชคร้าย   เมื่อ 8 ปีก่อนตอนที่รถของครอบครัวเธอประสบอุบัติเหตุพิเชฐซึ่งตอนนั้นเป็นผู้หมวดพิเชฐอยู่ได้รับมอบหมายให้เป็นเจ้าของคดี   ทิวากรได้ตามพ่อไปที่เกิดเหตุด้วยและก็ได้เจอกับมัยที่เสียขวัญอยู่   ระหว่างที่พี่แพรถูกสอบปากคำอยู่   เขาก็เข้ามาคุยกับมัย   ด้วยความที่เป็นคนอัธยาศัยดีและรู้จักเลือกใช้คำพูดทำให้ทั้งสองคนเป็นเพื่อนกันในตอนนั้น   หมวดพิเชฐเองก็ถูกชะตากับสองพี่น้องจึงไม่ได้ว่าอะไร   จากนั้นเขาก็รับเป็นผู้ปกครองดูแลเรื่องต่างๆให้มัยและแพร   มัยกับกรก็ได้พบกันบ่อยๆและสนิทกันขึ้นเรื่อยๆ   พิเชฐทำเรื่องย้ายโรงเรียนให้แพรกับมัยอยู่โรงเรียนเดียวกับกรเพื่อจะได้ดูแลสะดวก   หลังจากนั้นไม่นานก็ไม่มีวันไหนที่ทั้งสองคนไม่ได้อยู่ด้วยกัน  แพรเองก็รักกรเหมือนเป็นน้องชายอีกคน   ทั้งสามคนเข้ากันได้ดีพอๆกับคนในครอบครัว   กรชอบเป่าฮาร์โมนิก้าและก็เก่งเสียด้วย   มัยชอบไวโอลินแต่เธอก็เลิกมาเล่นเปียโนแทนเมื่อรู้ว่าเธอเริ่มเล่นได้เก่งกว่าพี่สาว   บางวันทั้งสามคนจะมาบรรเลงเพลงด้วยฮาร์โมนิก้า  เปียโน และไวโอลิน  เป็นวงที่ออกจะแปลกๆไปหน่อย

                  เมื่อเธออายุได้ 12 ปีแพรก็ย้ายมาเข้าเรียนที่ธาราประสิทธิ์    มัยนึกน้อยใจนิดๆแต่ก็ยังอุ่นใจที่มีกรอยู่ด้วย   มัยได้เจอกับนาหลังจากนั้นอีก 1 เดือนเมื่อครอบครัวของนาย้ายมาอยู่ข้างบ้านมัย    อยู่มาวันหนึ่งเธอมาเจอนาที่หนีออกจากบ้านตัวเองเข้ามาในบ้านเธอ   และก็ได้เป็นเพื่อนกันหลังจากนั้น   แต่ทว่า...เธอไม่นึกเลยว่าอยู่ๆกรจะมาหายตัวไปอีกคน   เรื่องเกิดขึ้นเมื่อพ่อแม่ของเขาแยกทางกัน   แม่จะเอากรไปอยู่ด้วยและให้พี่ชายของกรอยู่กับพ่อ   ในวันที่จะย้ายบ้านนั่นเองที่กรหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย   ไม่มีใครได้พบหรือรู้ข่าวอะไรเกี่ยวกับเขาเลยทั้งๆที่พิเชฐจะขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตามหาก็ไม่เป็นผล   ตอนนั้นเองที่มัยเริ่มมาสนใจเรื่องสืบสวนสอบสวน   เธอค้นคว้าความรู้ที่เกี่ยวกับนักสืบและการสืบสวนด้วยหวังว่าจะใช้มันตามหาเขาได้   แต่ถึงเธอจะคลี่คลายคดีอะไรได้มากมายเท่าไหร่เธอก็ไม่ได้เบาะแสอะไรเกี่ยวกับเขาเลย   แต่กระนั้นเธอก็ยังหวังว่าเขาต้องปลอดภัยและกลับมาในสักวัน



                   ด้วยความเพลียหรืออะไรไม่ทราบทำให้มัยหลับคาโซฟาในห้องนั่งเล่นทั้งๆที่คิดว่าจะนั่งพักเฉยๆ   ประตูห้องถูกเปิดแง้มออกช้าๆ   คนผู้นั้นย่องเข้ามาอย่างเงียบกริบราวกับเงาในความมืดโดยที่มัยซึ่งหลับไหลอย่างอ่อนเพลียไม่รู้สึกตัวเลย   คนๆนั้นเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆจนถึงตัวเด็กสาวที่นอนอยู่แล้วล้วงอะไรบางอย่างออกมาจากในเสื้อ   อะไรบางอย่างที่แหลมคมเป็นประกายสะท้อนกับแสงสว่างซึ่งลอดผ่านหน้าต่างเข้ามา...

                   \" เธอชักจะเป็นตัวยุ่งเสียแล้วนะ   ถึงจะน่าเสียดายแต่ฉันคงปล่อยเธอเอาไว้อีกต่อไปไม่ได้   ไปพบกับพี่สาวเธอที่โลกหน้าละกัน   อย่าโกรธกันเลยนะ...น้องของแพร \" ถึงเธอจะกระซิบเสียงแผ่ว   แต่เสียงเยือกเย็นของเธอก็ดังอยู่ในความเงียบนั้น   เธอเงื้อของมีคมนั่นขึ้นก่อนจะจ้วงแทงลงไป...

                    \" กลับมาแล้วเหรอ มัย   เป็นไงบ้างกับการออกเดทกับผู้หมวดหนุ่ม \" เสียงของเพื่อนร่วมห้องดังขึ้น   เมกลับมาที่ห้องแล้วพบว่าประตูถูกเปิดทิ้งไว้   เธอคิดว่ามัยคงกลับมาแล้ว

                    \" อ้าว...ไหงมานอนอยู่ตรงนี้ได้   มัยจ๊ะ  ตื่นเถอะไปนอนบนเตียงดีๆ \" เมเข้ามาเขย่าตัวเพื่อนร่วมห้อง   มัยลืมตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือ   เธอไม่รู้ตัวเลยว่าเผลอหลับไปเมื่อไหร่   ไม่รู้ทำไมเมื่อครู่เธอรู้สึกเหมือนมีใครเข้ามาหา   ทั้งๆที่ดูท่าทางเมก็กำลังมาถึง

                    \" เธอเปิดประตูทิ้งเอาไว้นะมัย   นี่ถ้าพวกโรคจิตเข้ามาจะทำยังไงน่ะ   หลับไม่รู้เรื่องอย่างนี้น่ะ \" เมตัดพ้อ   มัยแปลกใจอย่างมาก   เธอจำได้ว่าปิดประตูแถมล็อคไว้อย่างดีแล้วนี่นา...ทำไม

                    \" ขอโทษ   พอดีเห็นโน๊ตติดหน้าห้องว่าเธอไปหาพิม   เลยคิดว่าพอเอาของไปเก็บแล้วก็จะไปหาเธอ  แต่ก็เผลอหลับไปน่ะ  คราวหลังจะระวังให้มากกว่านี้นะ \"  มัยพูดโกหกไปจนได้   เธอยังข้องใจเหตุการณ์แปลกๆนี้ไม่หาย   แต่ก็ไม่พูดอะไรมากกว่านั้นเพื่อความสบายใจของเม

                    \" งั้นก็แล้วไป   พอดีสองคนนั่นกำลังจะตั้งวงเล่าเรื่องผีกันอีก   ฉันก็เลยหนีออกมาก่อนน่ะ   บ่ายนี้มัยมีอะไรต้องทำเป็นพิเศษมั้ย \" เมว่าลอยๆ   แต่มัยก็สังเกตได้ว่าเธอค่อนข้างจะหวังทีเดียว

                    \" ไม่มีนี่   มีอะไรงั้นเหรอ \" มัยแกล้งพูดให้ดูเป็นธรรมดาที่สุด

                    \" คือ...ฟังแล้วอย่าหัวเราะนะ   คือว่าฉันอยากให้มัยสอนเล่นไวโอลินให้หน่อยน่ะ \" เมพูดตะกุกตะกัก   มัยลำบากใจ

                    \" เอ่อ...เป็นอย่างอื่นไม่ได้เหรอเม   คือว่าฉันกับไวโอลินน่ะ... \"

                    \" เอ๋ ทำไมล่ะ  ไม่ได้เหรอ   ก็นาบอกว่านอกจากเปียโนแล้วมัยก็เล่นไวโอลินได้นี่   เปล่าๆอย่าทำหน้ายังงั้นสิฉันไม่ได้ว่าอะไรนี่นา   ถ้ามัยไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร \" เมพูด   เธอแสดงที่ทีผิดหวังอย่างชัดเจน

                    \" ขอโทษนะฉันเลิกเล่นไวโอลินมาตั้งนานแล้ว...คงไม่ได้จริงๆ  เปียโนน่ะคงจะพอสอนให้ได้   แต่ว่า ไวโอลินต้องเป็นพี่เท่านั้น...\" มัยเอ่ยประโยคสุดท้ายด้วยเสียงแผ่วเบา   ทำให้เมรู้สึกว่าตัวเองทำผิดไปซะแล้ว   ทั้งสองต่างเงียบ   ทั้งห้องเงียบกริบไม่มีสิ่งใดเคลื่อนไหว   แม้กระทั่งอากาศก็เหมือนจะหยุดนิ่งอยู่กับที่  

                    \"  หรือว่าเธอจะให้โฮปสอนก็ได้นะ \"มัยเป็นคนเอ่ยทำลายความเงียบก่อนเหมือนทุกครั้ง   เมพยักหน้าหงึกๆแล้วก็ไม่พูดอะไร   มองดูมัยลุกขึ้นเดินไปที่ห้องนอน   เธอนั่งลงที่โซฟาตัวที่เธอพึ่งปลุกให้มัยลุกขึ้น

                    ตอนนั้นเองที่มัยเดินกลับมาพร้อมกับไวโอลินตัวหนึ่ง...เธอหยุดยืนนิ่งอยู่กลางห้องนั่งเล่น   ก่อนจะเริ่มบรรเลงบทเพลงอันแสนเศร้าและที่สำคัญมันช่างเป็นท่วงทำนองที่สะเทือนอารมณ์เหลือเกิน   เสียงดนตรีที่มัยบรรเลงนั้นเหมือนจะล่องลอยไปตามอากาศ   แทรกซึมเข้าไปในทุกอณูอากาศ   เมรู้สึกขนลุกซู่ด้วยความรู้สึกระคนปนเปกันไป   ทำไมนะ...ทั้งๆที่เมื่อกี้มัยพึ่งจะบอก่าเลิกเล่นไวโอลินแล้ว   แต่ตอนนี้อยู่ๆก็มาเล่นให้เธอฟัง   ถึงจะสงสัยยังไงเมก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกไป



                                                \" กริ๊ง...!! \"

                   เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในจังหวะที่เรียกได้ว่าไม่เหมาะสมเท่าไหร่   เมรีบไปรับแต่มัยก็หยุดเล่นไวโอลินก่อนแล้ว   เธอนั่งลงที่โซฟาโดยที่ไม่พูดอะไร   เมรับโทรศัพท์อย่างรีบร้อนทว่าเสียงปลายสายทำให้เธอชะงัก

                    \" มัย...ของเธอน่ะ \" เมพูด   มัยพยักหน้าแล้วลุกขึ้นมารับโทรศัพท์โดยที่สีหน้าไม่เปลี่ยนสักนิด   เธอพูดด้วยท่าทีเคร่งขรึมยิ่งกว่าเมื่อครู่จนเมไม่กล้าสบตาด้วยตอนที่เธอมองมา   ทำไมล่ะ..ความจริงมัยเขาก็เป็นคนแบบนี้ตั้งแต่ตอนเจอกันครั้งแรกอยู่แล้วนี่นา   การที่เธอคิดไปเองว่ามัยดูจะพูดคุยกับเธออย่างสนิทสนมมากขึ้นนั้น  จะเป็นการคิดเข้าข้างตัวเองรึเปล่านะ   แต่ว่าก่อนที่เมจะทันคิดอะไรไปมากกว่านั้น   มัยก็คุยโทรศัพท์เสร็จ   เธอเดินมานั่งข้างๆเมด้วยสีหน้าที่พยายามทำให้เป็นปกติมากที่สุด   แต่เมก็ยังเห็นว่าเธอไม่สบายใจอะไรสักอย่างอยู่ดี

                    \" ขอโทษนะมัยถ้าเรื่องที่ฉันถามมันเป็นการสอดรู้เรื่องของเธอ   คือว่า...เธอมีอะไรไม่สบายใจรึเปล่าดูสีหน้าเธอไม่ค่อยดีเลย   ฉันเคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าเวลามีเรื่องไม่สบายใจก็เล่าให้กันฟังบ้าง \" เมพูด

                    \" เปล่า...ไม่มีอะไรนี่   หน้าตาฉันมันก็เหมือนคนเบื่อโลกอย่างนี้อยู่แล้วนี่ \" มัยพูดเลี่ยงๆโดยไม่ยอมสบตา   เมสังเกตเห็นว่ามืออีกข้างกำไวโอลินที่ถือเอาไว้แน่นจนมือซีดไปหมด

                    \" โกหก \" เมขยับเข้าไปใกล้   \" หลบตาฉันทำไมล่ะ  ไม่สมกับเป็นมัยเลยนะ   เธอทำไมต้องปิดบังฉันด้วยล่ะ \"

                    \" บอกว่าไม่สมกับเป็นฉันงั้นเหรอ   เธอคิดว่ารู้จักฉันดีแค่ไหนกันล่ะ   ขอโทษนะ  ฉันบอกเธอแล้วไงว่าไม่ได้มีอะไรหรอก   เธอคิดไปเอง   ฉันเหนื่อยแล้ว   ขอไปนอนก่อนละกัน \" ก่อนที่เมจะรั้งไว้ทันมัยก็ก้าวฉับๆไปทางห้องนอนแล้วปิดประตูเงียบอยู่ในนั้น   เวลาผ่านไปจากสิบนาทีเป็นสามสิบนาที   จนกระทั่งผ่านไปกว่าชั่วโมงแล้ว   มัยก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะออกมาจากห้อง   เมยิ่งเพิ่มความสงสัยไปอีกทวีคูณ   มัยไปทำอะไรที่สถานีตำรวจ   สารวัตรพิเชฐที่ว่ามีธุระกับมัยมันเรื่องอะไรกัน   แล้วทำไมมัยที่ยังดีๆอยู่กลับมามีท่าทีแปลกๆ   ทั้งๆที่เธอคิดว่าสนิทกับมัยมากขึ้นกว่าตอนแรกแล้วเสียอีก   แต่เธอก็ไม่รู้ไม่เคยเข้าใจเลยว่ามัยคิดอะไร

                   \" ฉันคงจะพูดอะไรผิดไปแน่ๆ...\" เมตั้งข้อสรุปเองในที่สุด   เธอมองไปยังประตูห้องที่ปิดเงียบนั้นอย่างไม่สบายใจ



                   ภายในห้องบนชั้นสองของเตียงสองชั้น   มัยนอนซุกตัวอยู่ด้วยที่ที่ไม่น่าจะหลับได้   และเธอก็ไม่ได้หลับอย่างที่บอกรูมเมทไป   เด็กสาวยังคงกำไวโอลินของพี่สาวไว้แน่น   ภาพความทรงจำเก่าๆที่เธอโหยหามาตลอดรุมประดังเข้ามาในหัวจนเกินกว่าเธอจะรับได้   มัยก้มหน้าซบลงกับหมอนให้แน่นที่สุด   เพื่อที่จะได้ไม่มีใครได้ยินเสียงสะอื้นที่ดังลอดออกมา  

                   \" หลับสิ...หลับสักที...\"

                   มัยพึมพัมพลางสะอื้น   เธอพยายามข่มตาหลับ   อย่างน้อยเธอก็อยากจะพบกับเจ้าของฮาร์โมนิก้าอันนั้นอีกครั้งแม้จะเป็นแค่เพียงในฝันก็ตาม   อยากจะเห็นรอยยิ้มอ่อนโยนของเขา   อยากได้ยินเสียงปลอบโยนที่ทำให้เธอรู้สึกสบายใจเสมอนั้น   ถ้าเกิดว่ามีเขาอยู่ด้วยเธอคงสามารถจะลบความรู้สึกที่มีต่อพี่สาวได้   เธอจะสามารถเข้มแข็งขึ้นได้อีกรึเปล่านะ...





    .
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×