~o โลกมายากับนาวาแห่งชีวิต o~ - ~o โลกมายากับนาวาแห่งชีวิต o~ นิยาย ~o โลกมายากับนาวาแห่งชีวิต o~ : Dek-D.com - Writer

    ~o โลกมายากับนาวาแห่งชีวิต o~

    นานมาแล้ว เธออาจไม่เคยรู้ตัว ความหวังนั้นก่อตัวขึ้นอยู่เสมอ ในยามที่เธอเฝ้าแต่มองไปข้างหน้าไกลแสนไกล จุดหมายกลับอยู่ภายในตัวเธอเสมอมา จนกระทั่งเธอค้นพบตนเอง นาฬิกาทรายจึงจะกลับมาเดินอีกครั้ง

    ผู้เข้าชมรวม

    493

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    493

    ความคิดเห็น


    11

    คนติดตาม


    2
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  21 ต.ค. 57 / 02:21 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    นิยายแฟร์ 2025
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ



       

      โลกมายา กับ นาวาแห่งชีวิต

      *เขียนเก่ากรุทิ้งไว้สมัยปี49 ค่ะ เข้ามาอ่านอีกที...เหยนี่มัน..' มึนจังกรู ' แต่เด็กว่ะค่ะท่าน -*-


      ที่นี่คือที่ไหน?  โลกที่เต็มไปด้วยสีสันมายาแพรวพราวราวกับจะเย้ยยัน

      จากที่เคยลุ่มหลง  เริงระบำไปในสีสันแห่งเปลวเพลิง แต่บัดนี้ภายในมันถูกแผดเผาจนเหลือแต่เถ้าถ่าน

      บุคคลบาปหนาเอ๋ย เจ้าจะอ้อนวอนไปก็ไร้ค่า.. เพราะเจ้านั้นแหลกสลายเหมือนดั่งขี้เถ้าไร้ค่าเสียแล้ว..

      ในตอนนั้น นาฬิกาทรายของฉันได้หยุดเดินในที่สุด..

      --------------------------------------------------------------------------------------


      เศษเสี้ยวของความทรงจำล่องลอยไปไกลแสนไกล   กระจัดกระจายไปทั่วทั้งดินแดนแห่งเนรเทศ

      ที่เวิ้งว้างกว้างใหญ่ และไร้กาลสิ้นสุด..


      ฉันรู้สึกหนาวเหน็บและเปล่าเปลี่ยว อ่อนแอเหมือนดั่งต้นกล้าที่กำลังจะเฉาตายเพราะลมหนาว

      สิ่งเดี่ยวที่หลงเหลืออยู่ในโลกนี้  คือทะเลแห่งบาปที่เอ่อล้น


        บาปผิดที่ติดตัวฉันมาเอ่อล้นจนแทบจะมิดขอบฟ้า และลึกเกินกว่าจะคาดคะเนได้

      ชีวิตของฉันในตอนนี้ก็เปรียบเหมือนเรือผุๆที่รอดมาจากการทำลายล้างของสงคราม.. แล่นไปอย่างช้าๆและทรุดโทรม และไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็มีแต่เศษซากของความตายที่รายล้อม

      น้ำในทะเลมีสีเข้มเหมือนน้ำมันดิบ  หนาแน่นดังก้องทึบ  บางทีก็ได้ยินเสียงสะท้อนอันชวนสยองจากเบื้องล่าง  ราวกับคนกำลังกรีดร้อง เสียงเหล่านั้นกระซิบกระซาบด่าทอฉัน ทำให้ฉันหวาดระแวง


      ทะเลแห่งบาปนั้นสับสน วกวน  ผืนน้ำบ้างสงบนิ่งราวกระจก บ้างพิโรธดั่งมหาวายุ   

      แต่ทุกๆครั้งคลื่นน้อยใหญ่ต้องซัดกระเซ็นเกยท้องเรือ   พัดพาให้ตัวฉันออกเดินทางไปอย่างไร้จุดหมายอยู่ร่ำไป..


      การเดินทางที่ไร้ความทรงจำ..ไร้ทางออก...ในดินแดนร้างผู้คนที่ไม่รู้จัก  ฉันหลงทางอยู่ที่นั้นวันแล้ววันเล่า

        นาฬิกาทรายของฉันนั้นยังคงหยุดเดิน..


      นาวาอันแสนเศร้าคงกำลังร่ำไห้...เสียง โซ่ที่พันธนาการมันเอาไว้ดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอจนชาชิน.. ไขว่คว้าหาอดีตที่อยู่แสนไกล   ไขว่คว้าหาเด็กน้อยผู้เคยบริสุทธิ์ดุจดั่งแสงแดดสีทอง  น้ำตารินไหลอย่างมิอาจรั้งไว้ได้ เสียงคร่ำครวญดังก้องกังวาน ไปทั่วทั้งโลกแห่งมายา


      นานมาแล้ว เธออาจไม่เคยรู้ตัว ความหวังนั้นก่อตัวขึ้นอยู่เสมอ ในยามที่เธอเฝ้าแต่มองไปข้างหน้าไกลแสนไกล จุดหมายกลับอยู่ภายในตัวเธอเสมอมา  จนกระทั่งเธอค้นพบตนเอง นาฬิกาทรายจึงจะกลับมาเดินอีกครั้ง
       

      ติ๊กต่อก..ติ๊กต่อก


      มนต์วิเศษแห่งเวลานั้นช่างมหัศจรรย์  เวลานั้นทำงานอย่างรวดเร็วและเป็นระเบียบแบบแผน..ละอองเวทมนตร์โปรยปรายไปทั่วทั้งโลกมายาที่ค่อยๆเปลี่ยนแปลงขึ้นทีละน้อยๆ

       บุบผาเหี่ยวแห้งที่ซ่อนตัวอยู่นั้นเบ่งบานออก  ความหวังถูกปลดปล่อย โลกใหม่ถือกำเนิด จากแสงสว่างเล็กๆนั้นเปล่งรัศมีสีทองแผ่กระจายออกไป ลบล้างโลกมายาอันทุกข์ระทมทิ้งไปจนหมดสั้น


        ความหวังยังเป็นพลังขับเคลื่อนให้กับนาวาแห่งชีวิต ส่วนมนต์วิเศษแห่งเวลา ก็ได้ซ่อมแซมและปะชุนตัวเรือ ให้สง่างาม ก่อนจะผงาดขึ้นเหนือคลื่นทะเล แล่นตรงเข้าสู่นาฬิกาทราย...


      ฉันผ่านห้วงแห่งมิติเวลา  ฉันรับรู้ได้ถึงกลิ่นของต้นหญ้าและแสงแดดอันอ่อนโยนอีกครั้ง ฉันจำกลิ่นอันคุ้นเคยนี้ได้..การเดินทางตามหาตัวตนได้สิ้นสุดลง ลาก่อนโลกมายา ห้องเล็กๆในจิตใจที่เคยกักขังฉันเอาไว้..ลาก่อนความฝันอันหลอกลวง..

      ทำไมฉันถึงมองไม่เห็นรอยยิ้มของเธอนะ  เด็กน้อย เธอยิ้มให้ฉันตลอดมา

      ขอโทษด้วยนะ แสงแดดของเธอมันช่างสว่างสดใสเหลือเกิน 

      อบอุ่นเหลือเกิน..ขอบคุณมากนะ..


       

      ไม่มีใครสามารถจมอยู่กับห้วงแห่งความโศกเศร้าเสมอไป
      ถึงแม้ดวงตะวันลับฟ้าไป ราตรีอันหนาวเหน็บจะยาวนานสักเพียงไร
      แม้ฉันจะออกวิ่งจนเหนื่อหอบแทบขาดใจก็ไม่อาจตามหาตัวตนได้พบ
      แต่น้ำตาที่เคยรินไหลพลันแข็งตัวไปพร้อมกับน้ำค้างยามอรุณทอแสง

      สายใยจากแดดอุ่นที่แยงเข้ามาค่อยๆถักทอสมานแผลในใจของฉันเข้าด้วยกันอย่างนุ่มนวล

      นาวากำลังมุ่งตรงไปสู่อีกฟากของความทรงจำ

      ในตอนจบของนิทาน
       นาวาลำน้อยที่ออกเดินทางมานานแสนนาน
      ได้ทะยานเข้าสู่แสงสว่างอันเจิดจ้า..

       บอกลาดินแดนแห่งมายาในที่สุด

                 เสียงนาฬิกาปลุกดังแว่วมาจากที่ไกลๆ 

        ฉันกลับมาแล้ว!





      Credit picture:เพื่อนๆที่รักจากชมรม Read & write
      ช่วยกันละเลง
      ลงชื่อ:

      วิหคนิรนาม(ซัสเอง)
      ธนาธิกรณ์(คุณเกลือ)
      ปีกปากกา(น้องหมีแว่น)
      วิฬารวารี(ชลาวันน้อย)
      black cross (ท่านคิง = =)
      white cross (แฝดนรกของท่านคิง)
      Hell bin (น้องหนูอเวจี)
      และ ซาดุ่ย (กระต่าย*ปี๊ดด)

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×