ชีวิตของน้องหมาพเนจร - ชีวิตของน้องหมาพเนจร นิยาย ชีวิตของน้องหมาพเนจร : Dek-D.com - Writer

    ชีวิตของน้องหมาพเนจร

    มันเป็นเรื่องสั้นที่เราพิมพ์ส่งอาจารย์ เราเลยเอาลงเน็ตให้ทุกคนช่วยอ่านกันดูนะ พรีสๆ

    ผู้เข้าชมรวม

    340

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    340

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  8 ม.ค. 50 / 16:03 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    + +-b g-
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

               มนุษย์มีทั้งดีและชั่วปะปนกัน บางคนทำบาปเพื่อความสะใจแต่บางคนทำบาปเพื่อความอยู่รอด มีสิ่งมีชีวิตมากมายที่ถูกมนุษย์รังแกต่างๆนานา  แต่สัตว์ก็ไม่สามารถปริปากพูดออกมาได้  จึงต้องก้มหน้ารับชะตากรรมที่จะเกิดขึ้นต่อไป 
      มนุษย์เป็นทั้งผู้สร้าง และ ผู้กระทำ     ดังเช่น    สุนัขสัตว์ที่มนุษย์ส่วนใหญ่เรียกว่า     
      " เพื่อน "     แต่ก็ยังนำสุนัขไปปล่อยหรือขับรถชนโดยไม่ใส่ใจและอาจตีสุนัขด้วยความสนุกหรือโมโห  ซึ่งจะเห็นได้ว่า   มีสัตว์อีกหลายชีวิตที่มนุษย์เป็นผู้ตัดสินชะตากรรม 

         "  ขาว  "      เป็นสุนัขพันธุ์ไทยธรรมดา  เหมือนสุนัขพเนจรทั่วไป   มันมีขนสีขาว  และมีรอยแผลอยู่ตามร่างกาย  บางคนที่เดินผ่านบ้างก็สงสาร บ้างก็เดินห่างๆ ด้วยความรังเกียจ     ขาวอาศัยอยู่ในร้านอาหาร ซึ่งตอนเย็นๆ แม่ครัวของที่นั่น จะนำเศษอาหารมาให้สุนัขที่อยู่ในร้านอาหารนี้  ขาวก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่เติบโตได้เพราะเศษอาหาร

        เศษอาหารที่มนุษย์ทานเหลือเป็นอาหารที่มีคุณค่าของสุนัขหลายตัวที่ไม่มีเจ้าของ

      "  เฮ้ย ! แกอย่ามานอนตรงนี้ มันเกะกะร้านฉัน  ไป !!!!!   "        ประโยคซ้ำแล้วซ้ำเล่าของเจ้าของร้านอาหาร  ที่ไล่สุนัขเพื่อจัดโต๊ะให้กับลูกค้าที่มาเยือน

                  ลูกค้าบางรายที่ไม่ชื่นชอบสุนัขถ้าเห็นสุนัขนอนอยู่ใต้โต๊ะก็จะไปบอกเจ้าของร้าน  แล้วเจ้าของร้านก็จะไล่ด้วยไม้  แต่บางรายที่สงสารสุนัข หรือรักสุนัข    สุนัขตัวนั้นก็สามารถนอนได้สบาย แต่ถ้าเจ้าของร้านเข้ามาเห็น ก็อาจจะถูกไล่เอาได้

                     มีอยู่วันหนึ่ง ขาวได้เดินหลงเข้าไปในห้องอาหาร  ซึ่งเป็นห้องที่ติดแอร์ ลูกค้าของทางร้านรู้สึกไม่พอใจ  จึงได้ไปต่อว่าเจ้าของร้าน  ผู้ซึ่งไร้ความประณีต จึงทำให้ขาวนั้น ถูกตีด้วยก้านไม้อย่างเต็มแรง 

      หลังจากนั้น เจ้าของร้านก็สั่งให้ลูกจ้างในร้าน ไล่สุนัขทุกวันที่หลงเข้ามาในร้าน   จึงทำให้ร้านอาหารนี้ไม่มีสุนัขตัวไหนเข้ามาภายในร้านอีกเลย

                 ขาว จึงจำต้องย้ายถิ่นไปอยู่ในวัดที่ไม่ไกลนัก  สุนัขในวัดที่อยู่ประจำนั้นก็ไม่ใจดีให้ขาวมาร่วมอยู่ด้วยแถมยังรุมกัดขาว ทำให้ขาวมีแผลเพิ่มขึ้น   พระในวัดไปเห็นดังนั้นเลยพาขาวไปรักษา

      ไม่นานก็มีผู้ใจบุญคนหนึ่งมาทำบุญ  เธอเป็นผู้หญิงวัยกลางคน ที่มีครอบครัวแล้ว  เธอชื่อ       "   สมศรี   "  

                  เมื่อเธอได้เจอกับขาวที่หลับสนิทอยู่  และด้วยสภาพที่ไม่ค่อยดีนัก ทำให้เธอเกิดความสงสาร  เธอจึงไปซักถามกับพระในวัด  สมศรีรู้สึกสงสารเจ้าขาวมาก  เธอคิดว่าถ้าขาวยังอยู่ในวัดนี้ต่อก็อาจจะถูกพวกสุนัขในวัดรุมกัดอีก  เธอจึงตัดสินใจบอกพระที่วัดไปว่า  เธอจะพาขาวไปเลี้ยง   เมื่อพระได้ยินดังนั้น จึงช่วยรักษาขาวให้หาย จนกระทั้ง  ๒ อาทิตย์ ขาวท่าทางดีกว่าเดิม สมศรีจึงรับขาวไปเลี่ยงที่บ้าน

           เมื่อสมศรีขับรถไปถึงบ้าน   พร้อมกับบอกเรื่องขาว  ให้สามีและลูกชายของเธอฟัง 


       

      "  พี่   วันนี้ฉันนำหมาที่วัดมาเลี้ยงที่บ้านเราด้วย ก็คือว่าเมื่อวันก่อน ฉันเห็นมันนอนนิ่งอยู่ที่วัด พอไปถามหลวงพ่อ  หลวงพ่อท่านก็บอกว่า มันโดนสุนัขที่วัดกัด 
      ฉันก็เลยคิดว่า ถ้าเราพามันมาเลี้ยงที่บ้านมันจะได้ปลอดภัยแถมยังไม่ต้องพเนจร ด้วยพี่ว่าดีไหม
        "          

      สามีของเธอขัดแย้งอยู่ในใจแต่กลับไม่ปฏิเสธ  เนื่องจากภรรยาของเขาได้พาเจ้าสุนัขนั่นมาแล้ว 

      "  ถ้ามันอยู่ที่ไหนไม่ได้ ก็มาอยู่ที่บ้านเราก่อนก็ดี  "        สามีของสมศรีตอบตกลง แล้วหันไปสนใจหนังสือพิมพ์ที่อ่านค้างอยู่ในทันที

      "  สมชายเราได้สมาชิกใหม่แล้วนะลูก มันชื่อ  เจ้าขาว  "     เมื่อสมศรี

      พูดจบ  สมชายซึ่งเป็นลูกชายของเธอก็ทำเหมือนไม่สนใจ และ ไม่มีความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับการมาอยู่ของเจ้าขาว

      หลังจากวันนั้นสมศรีก็เป็นดูแลขาวเพียงคนเดียว  เนื่องจากเธอไม่ใช่แม่บ้านเธอจึงไม่ค่อยมีเวลามาดูแลขาวบ่อยๆ   เธอทำหน้าที่แค่ ให้อาหารเจ้าขาว  เช้า

      เย็น  ทุกมื้อทำให้สมศรีกับเจ้าขาวไม่ค่อยจะผูกพันกันนัก   

             หลายวันที่ผ่านมาเจ้าขาวหายดีขึ้นเรื่อยๆ จนถึงวันนี้มันสามารถ เดินได้   วิ่งได้   กระโดดได้  เหมือนอย่างเก่า  แต่ด้วยความที่เจ้าขาวเคยเป็นสุนัขพเนจรที่มีอิสระเกินร้อย  การที่จะมาอยู่ในพื้นที่ที่มีอยู่จำกัดนั้น  ทำให้มันอึดอัดไม่น้อย   ไอ้ขาวจึงหาวิธีออกจากบ้านของสมศรี  แต่ทว่า ขาวก็ไม่คิดจะลืมคุณ  ที่สมศรีหาข้าวให้กินอิ่มทุกมื้อ

       

           วันหนึ่ง สมศรีก็เปิดประตูเพื่อขับรถออกไปทำงานตามปกติ ทันใดนั้นเองก็เกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น จู่ๆ ขาวที่นอนนิ่งอยู่กับที่ลุกขึ้นวิ่งออกจากบ้าน    เมื่อสมศรีเห็นอย่างนั้น  เธอจึงรีบเดินออกมาจากรถแล้วมองขาวจนลับตา  สมศรีรู้สึกเป็นห่วงและไม่สบายใจ  แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรให้คนในบ้านฟัง



      พอวันหยุดสุดสัปดาห์มาถึง  สมศรีไปวัดตามปกติ  แต่วันนี้เธอมาเล่าเรื่องขาวให้หลวงพ่อที่วัดฟัง  หลวงพ่อท่านบอกว่า

       

          ไอ้ขาว  มันต้องการอิสระ  โยมอย่าได้ห่วงเลย  มันคงไม่ไปไหนไกลหรอก             เมื่อสมศรีได้ยินดังนั้นก็รู้สึกโล่งใจขึ้นแต่ก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้ จึงทำบุญไปให้ขาวและยังอวยพรให้ขาวไม่โดนรังแกอีกเลย

       

      ---------

       

      ส่วนเจ้าขาวนั้น  ก็กำลังเดินไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีจุดมุ่งหมาย ซึ่งถ้าจะกลับร้านอาหารก็มีหวังได้เจ็บตัวกลับมา แต่ถ้ากลับวัดก็อาจจะถูกรุมอีก 

       มันจึงค่อยๆเดินไป  เมื่อเดินไปได้ไกลพอสมควร  มันก็ไปเจอกับทั้งขยะ  ที่มีกลิ่นต่างๆนานา     ขาวจึงตัดสินใจ มุดหน้าเข้าไปในถังขยะเพื่อหาเศษอาหาร แต่ก็ไม่มีอะไรที่ขาวจะกินได้เลย



             ขาวจึงเดินต่อไปอย่างหมดหวัง  แล้วก็ไปพบกับร้านอาหารร้านหนึ่ง ซึ่งมีสุนัขอยู่เป็นจำนวนมาก   ขาวจึงไม่รอช้าที่จะเดินเข้าไปโดยที่พวกสุนัขแถวนั้น ไม่ขัดขวางเหมือนที่วัด     เมื่อขาวเดินเข้าไปแล้วก็พบกันภาพที่เห็น  เพื่อนสุนัขด้วยกันกำลังขออาหารจากมนุษย์ผู้เป็นลูกค้า  บ้างก็ได้กิน  บ้างก็รอเก้อโดยไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย

       

            แต่พอร้านปิด  เจ้าของร้านของที่นี่ก็นำเศษอาหารที่เหลือจากลูกค้ามาให้พวกสุนัขในร้านเกือบทุกตัว   ขาวเห็นดังนั้นจึงไม่รอช้าที่จะไปกินกันสุนัขตัวอื่นๆ  แต่ก็ถูกสุนัขตัวอื่นแย่งกินหมดเนื่องจาก เศษอาหารนั้นมีจำกัด   

      พออีกวัน  เมื่อลูกค้ามานั่งที่โต๊ะ และสั่งอาหารมาทานเรียบร้อย  ขาวก็เดินเข้าไปที่โต๊ะนั้นแล้วก็ นั่งลงไปกับพื้น อย่างที่สุนัขตัวอื่นทำกัน

      แต่ทว่า  นั่งก็แล้ว  นอนก็แล้ว  มนุษย์ที่นั่งอยู่ก็ไม่ส่งเศษอาหารมาให้เลย  ขาวจึงเปลี่ยนโต๊ะ ไปนั่งรออาหารกับอีกโต๊ะนึงที่ ขาวคิดว่า มนุษย์ผู้นี้น่าจะใจดี



      คนที่นั่งนับประทานอาหารอยู่เมื่อเห็นขาวก็เหมือนเข้าใจว่า สุนัขตัวนี้หิวนัก  จึงส่งตับให้กิน สองชิ้น

            ขาวเห็นมนุษย์ผู้นี้ วางตับสองชิ้น ไว้บนพื้นมันก็รู้สึกดีใจมาก มันคืออาหารอย่างแรกที่ได้จากการนั่งขอกิน  ขาวจึงไม่รอช้าที่จะกินตับ  แล้วนอนรอต่ออย่างมีหวัง

       

           ผู้ชายคนนั้นเห็นขาวกินตับอย่างลุกลี้ลุกลน  จึงทำให้เขารู้สึกเอ็นดู สุนัขตัวนี้มาก  หลังจากที่เขาได้ทานกันข้าวอย่างอื่นจนหมด  เขาก็เรียนพนักงานเก็บเงิน  และตับที่เขาตั้งใจเหลือไว้ให้กับสุนัขตัวนั้น ก็ถูกวางบนพื้นในทันที

       

      ขาวเห็นตัวจำนวนมากวางอยู่บนพื้นด้วยความตั้งใจของผู้ชายคนนั้น  ขาวจึงรีบกินตับอย่างเอร็ดอร่อย  เมื่อกินเสร็จแล้ว ขาวก็ไม่ลืมที่จะหางกระดิกให้ผู้ชายคนนั้นก่อนออกจากร้าน

      มนุษย์ ผู้นั้นลูบหัวขาวพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่  จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นเดินออกจากร้านอย่างมีความสุข



      แล้วหลังจากนั้นไม่นานร้านก็ปิด  ทุกคนในร้านต่างก็ทำหน้าที่ของตัวเอง  ขาวจึงเดินไปหลังร้านเพื่อไปหาเจ้าของร้านผู้แสนใจดี แต่ก็ไม่ทันสุนัขตัวอื่น ที่มากินเศษอาหารก่อน

       

         หลายวันมานี้ ขาวแทบจะไม่ได้กินเศษอาหารจากเจ้าของร้านเลย  เนื่องจากไม่สามารถแย่งอาหารจาก สุนัขผู้ที่มาอยู่ก่อนได้  และด้วยความที่ขาวเคยเป็นสุนัขในร้านอาหารมาก่อน  ขาวจึงคิดแผนที่จะมากินเศษอาหารก่อนสุนัขตัวอื่นๆ  ขาวคิดได้ดังนั้นจึงเดินไปหลังร้านมองหามนุษย์ที่เหมือนแม่ครัว  ซึ่งที่นี่นั้นมีคนที่เหมือนแม่ครัวอยู่หลายคน  ขาวจึงตัดสินใจร้องออกมาให้คนทั้งครัวได้ยิน และเพื่อให้มนุษย์หลายคนในที่นี้รู้ว่าตัวเองกำลังหิว   

       

      คนทำอาหารทุกคนมองขาวอย่างเอ็นดูก่อนจะจัดแจงเศษอาหารให้ขาว   และหลังจากวันนั้น ขาวก็ดำเนินชีวิตอยู่ในร้านอาหารแห่งนี้ อย่างมีความสุขเพราะทุกคนที่นี่ต้อนรับสุนัขทุกตัวที่มาเยือนอย่างไม่รังเกียจ  ทั้งเจ้าของร้านและพนักงานในร้านรักสุนัขกันทุกคน  ขาวมีทั้งเพื่อนเล่นที่เป็นทั้งมนุษย์และสุนัขด้วยกัน  ขาวมีอาหารกินจากมนุษย์ที่มาอุดหนุนร้าน และเศษอาหารที่ได้กินก่อนใคร เรื่องราวภายในร้านอาหารแห่งนี้ ทำให้ขาวพอใจในสิ่งที่ตัวมี  จนกระทั้งวันนี้วันที่ขาวเสียชีวิต

      ด้วยโรคชรา.... 

                    ชีวิตของสุนัขนั้น บางตัวก็ถูกมนุษย์เอาเปรียบและบางตัวก็เป็นยอดรักของผู้ที่เป็นเจ้าของ  ไม่ว่าจะตัวไหนๆ ก็ต่างมีความซื่อสัตย์ และความจงรักภัคดี ต่อผู้เป็นนายไม่แพ้กัน  มนุษย์บางคนไม่เห็นคุณค่าของสุนัข  เลยไม่รู้ว่า สุนัขนั้นเป็นทั้งเพื่อนกินและเพื่อนตายได้  มันสามารถเล่นและคุ้มครองเราได้ในเวลาเดียวกัน  บางคนเห็นสุนัขที่มีอารมณ์ร้าย เวลาเดินผ่านชอบเห่า  แค่เดินเข้าไปใกล้ก็กัด  แต่รู้ไหมว่า สุนัขที่เป็นแบบนั้น เมื่อมันอยู่กับเจ้าของของมันแล้ว  มันกลับเป็นอีกแบบ  ข้าพเจ้าว่าสุนัขทุกตัวนั้นน่ารักค่ะ ถ้าเรารักมันแล้ว มันก็จะรักเราและซื่อสัตย์กับเราไปนานๆ

       

       

                  *************************************************************************

       




      ** อ่านแล้วก็อย่าลืมรักน้องหมาที่บ้านให้มากๆนะจ้ะ ***

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×