ชีวิตของน้องหมาพเนจร
มันเป็นเรื่องสั้นที่เราพิมพ์ส่งอาจารย์ เราเลยเอาลงเน็ตให้ทุกคนช่วยอ่านกันดูนะ พรีสๆ
ผู้เข้าชมรวม
340
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
มนุษย์มีทั้งดีและชั่วปะปนกัน บางคนทำบาปเพื่อความสะใจแต่บางคนทำบาปเพื่อความอยู่รอด มีสิ่งมีชีวิตมากมายที่ถูกมนุษย์รังแกต่างๆนานา แต่สัตว์ก็ไม่สามารถปริปากพูดออกมาได้ จึงต้องก้มหน้ารับชะตากรรมที่จะเกิดขึ้นต่อไป
มนุษย์เป็นทั้งผู้สร้าง และ ผู้กระทำ ดังเช่น สุนัขสัตว์ที่มนุษย์ส่วนใหญ่เรียกว่า " เพื่อน " แต่ก็ยังนำสุนัขไปปล่อยหรือขับรถชนโดยไม่ใส่ใจและอาจตีสุนัขด้วยความสนุกหรือโมโห ซึ่งจะเห็นได้ว่า มีสัตว์อีกหลายชีวิตที่มนุษย์เป็นผู้ตัดสินชะตากรรม
" ขาว " เป็นสุนัขพันธุ์ไทยธรรมดา เหมือนสุนัขพเนจรทั่วไป มันมีขนสีขาว และมีรอยแผลอยู่ตามร่างกาย บางคนที่เดินผ่านบ้างก็สงสาร บ้างก็เดินห่างๆ ด้วยความรังเกียจ ขาวอาศัยอยู่ในร้านอาหาร ซึ่งตอนเย็นๆ แม่ครัวของที่นั่น จะนำเศษอาหารมาให้สุนัขที่อยู่ในร้านอาหารนี้ ขาวก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่เติบโตได้เพราะเศษอาหาร
เศษอาหารที่มนุษย์ทานเหลือเป็นอาหารที่มีคุณค่าของสุนัขหลายตัวที่ไม่มีเจ้าของ
" เฮ้ย ! แกอย่ามานอนตรงนี้ มันเกะกะร้านฉัน ไป !!!!! " ประโยคซ้ำแล้วซ้ำเล่าของเจ้าของร้านอาหาร ที่ไล่สุนัขเพื่อจัดโต๊ะให้กับลูกค้าที่มาเยือน
ลูกค้าบางรายที่ไม่ชื่นชอบสุนัขถ้าเห็นสุนัขนอนอยู่ใต้โต๊ะก็จะไปบอกเจ้าของร้าน แล้วเจ้าของร้านก็จะไล่ด้วยไม้ แต่บางรายที่สงสารสุนัข หรือรักสุนัข สุนัขตัวนั้นก็สามารถนอนได้สบาย แต่ถ้าเจ้าของร้านเข้ามาเห็น ก็อาจจะถูกไล่เอาได้
มีอยู่วันหนึ่ง ขาวได้เดินหลงเข้าไปในห้องอาหาร ซึ่งเป็นห้องที่ติดแอร์ ลูกค้าของทางร้านรู้สึกไม่พอใจ จึงได้ไปต่อว่าเจ้าของร้าน ผู้ซึ่งไร้ความประณีต จึงทำให้ขาวนั้น ถูกตีด้วยก้านไม้อย่างเต็มแรง
หลังจากนั้น เจ้าของร้านก็สั่งให้ลูกจ้างในร้าน ไล่สุนัขทุกวันที่หลงเข้ามาในร้าน จึงทำให้ร้านอาหารนี้ไม่มีสุนัขตัวไหนเข้ามาภายในร้านอีกเลย
ขาว จึงจำต้องย้ายถิ่นไปอยู่ในวัดที่ไม่ไกลนัก สุนัขในวัดที่อยู่ประจำนั้นก็ไม่ใจดีให้ขาวมาร่วมอยู่ด้วยแถมยังรุมกัดขาว ทำให้ขาวมีแผลเพิ่มขึ้น พระในวัดไปเห็นดังนั้นเลยพาขาวไปรักษา
ไม่นานก็มีผู้ใจบุญคนหนึ่งมาทำบุญ เธอเป็นผู้หญิงวัยกลางคน ที่มีครอบครัวแล้ว เธอชื่อ " สมศรี "
เมื่อเธอได้เจอกับขาวที่หลับสนิทอยู่ และด้วยสภาพที่ไม่ค่อยดีนัก ทำให้เธอเกิดความสงสาร เธอจึงไปซักถามกับพระในวัด สมศรีรู้สึกสงสารเจ้าขาวมาก เธอคิดว่าถ้าขาวยังอยู่ในวัดนี้ต่อก็อาจจะถูกพวกสุนัขในวัดรุมกัดอีก เธอจึงตัดสินใจบอกพระที่วัดไปว่า เธอจะพาขาวไปเลี้ยง เมื่อพระได้ยินดังนั้น จึงช่วยรักษาขาวให้หาย จนกระทั้ง ๒ อาทิตย์ ขาวท่าทางดีกว่าเดิม สมศรีจึงรับขาวไปเลี่ยงที่บ้าน
เมื่อสมศรีขับรถไปถึงบ้าน พร้อมกับบอกเรื่องขาว ให้สามีและลูกชายของเธอฟัง
" พี่ วันนี้ฉันนำหมาที่วัดมาเลี้ยงที่บ้านเราด้วย ก็คือว่าเมื่อวันก่อน ฉันเห็นมันนอนนิ่งอยู่ที่วัด พอไปถามหลวงพ่อ หลวงพ่อท่านก็บอกว่า มันโดนสุนัขที่วัดกัด
ฉันก็เลยคิดว่า ถ้าเราพามันมาเลี้ยงที่บ้านมันจะได้ปลอดภัยแถมยังไม่ต้องพเนจร ด้วยพี่ว่าดีไหม "
สามีของเธอขัดแย้งอยู่ในใจแต่กลับไม่ปฏิเสธ เนื่องจากภรรยาของเขาได้พาเจ้าสุนัขนั่นมาแล้ว
" ถ้ามันอยู่ที่ไหนไม่ได้ ก็มาอยู่ที่บ้านเราก่อนก็ดี " สามีของสมศรีตอบตกลง แล้วหันไปสนใจหนังสือพิมพ์ที่อ่านค้างอยู่ในทันที
" สมชายเราได้สมาชิกใหม่แล้วนะลูก มันชื่อ เจ้าขาว " เมื่อสมศรี
พูดจบ สมชายซึ่งเป็นลูกชายของเธอก็ทำเหมือนไม่สนใจ และ ไม่มีความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับการมาอยู่ของเจ้าขาว
หลังจากวันนั้นสมศรีก็เป็นดูแลขาวเพียงคนเดียว เนื่องจากเธอไม่ใช่แม่บ้านเธอจึงไม่ค่อยมีเวลามาดูแลขาวบ่อยๆ เธอทำหน้าที่แค่ ให้อาหารเจ้าขาว เช้า
เย็น ทุกมื้อทำให้สมศรีกับเจ้าขาวไม่ค่อยจะผูกพันกันนัก หลายวันที่ผ่านมาเจ้าขาวหายดีขึ้นเรื่อยๆ จนถึงวันนี้มันสามารถ เดินได้ วิ่งได้ กระโดดได้ เหมือนอย่างเก่า แต่ด้วยความที่เจ้าขาวเคยเป็นสุนัขพเนจรที่มีอิสระเกินร้อย การที่จะมาอยู่ในพื้นที่ที่มีอยู่จำกัดนั้น ทำให้มันอึดอัดไม่น้อย ไอ้ขาวจึงหาวิธีออกจากบ้านของสมศรี แต่ทว่า ขาวก็ไม่คิดจะลืมคุณ ที่สมศรีหาข้าวให้กินอิ่มทุกมื้อ วันหนึ่ง สมศรีก็เปิดประตูเพื่อขับรถออกไปทำงานตามปกติ ทันใดนั้นเองก็เกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น จู่ๆ ขาวที่นอนนิ่งอยู่กับที่ลุกขึ้นวิ่งออกจากบ้าน เมื่อสมศรีเห็นอย่างนั้น เธอจึงรีบเดินออกมาจากรถแล้วมองขาวจนลับตา สมศรีรู้สึกเป็นห่วงและไม่สบายใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรให้คนในบ้านฟัง พอวันหยุดสุดสัปดาห์มาถึง สมศรีไปวัดตามปกติ แต่วันนี้เธอมาเล่าเรื่องขาวให้หลวงพ่อที่วัดฟัง หลวงพ่อท่านบอกว่า “ ไอ้ขาว มันต้องการอิสระ โยมอย่าได้ห่วงเลย มันคงไม่ไปไหนไกลหรอก ” เมื่อสมศรีได้ยินดังนั้นก็รู้สึกโล่งใจขึ้นแต่ก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้ จึงทำบุญไปให้ขาวและยังอวยพรให้ขาวไม่โดนรังแกอีกเลย --------- ส่วนเจ้าขาวนั้น ก็กำลังเดินไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีจุดมุ่งหมาย ซึ่งถ้าจะกลับร้านอาหารก็มีหวังได้เจ็บตัวกลับมา แต่ถ้ากลับวัดก็อาจจะถูกรุมอีก มันจึงค่อยๆเดินไป เมื่อเดินไปได้ไกลพอสมควร มันก็ไปเจอกับทั้งขยะ ที่มีกลิ่นต่างๆนานา ขาวจึงตัดสินใจ มุดหน้าเข้าไปในถังขยะเพื่อหาเศษอาหาร แต่ก็ไม่มีอะไรที่ขาวจะกินได้เลย ขาวจึงเดินต่อไปอย่างหมดหวัง แล้วก็ไปพบกับร้านอาหารร้านหนึ่ง ซึ่งมีสุนัขอยู่เป็นจำนวนมาก ขาวจึงไม่รอช้าที่จะเดินเข้าไปโดยที่พวกสุนัขแถวนั้น ไม่ขัดขวางเหมือนที่วัด เมื่อขาวเดินเข้าไปแล้วก็พบกันภาพที่เห็น เพื่อนสุนัขด้วยกันกำลังขออาหารจากมนุษย์ผู้เป็นลูกค้า บ้างก็ได้กิน บ้างก็รอเก้อโดยไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย แต่พอร้านปิด เจ้าของร้านของที่นี่ก็นำเศษอาหารที่เหลือจากลูกค้ามาให้พวกสุนัขในร้านเกือบทุกตัว ขาวเห็นดังนั้นจึงไม่รอช้าที่จะไปกินกันสุนัขตัวอื่นๆ แต่ก็ถูกสุนัขตัวอื่นแย่งกินหมดเนื่องจาก เศษอาหารนั้นมีจำกัด พออีกวัน เมื่อลูกค้ามานั่งที่โต๊ะ และสั่งอาหารมาทานเรียบร้อย ขาวก็เดินเข้าไปที่โต๊ะนั้นแล้วก็ นั่งลงไปกับพื้น อย่างที่สุนัขตัวอื่นทำกัน แต่ทว่า นั่งก็แล้ว นอนก็แล้ว มนุษย์ที่นั่งอยู่ก็ไม่ส่งเศษอาหารมาให้เลย ขาวจึงเปลี่ยนโต๊ะ ไปนั่งรออาหารกับอีกโต๊ะนึงที่ ขาวคิดว่า มนุษย์ผู้นี้น่าจะใจดี คนที่นั่งนับประทานอาหารอยู่เมื่อเห็นขาวก็เหมือนเข้าใจว่า สุนัขตัวนี้หิวนัก จึงส่งตับให้กิน สองชิ้น ขาวเห็นมนุษย์ผู้นี้ วางตับสองชิ้น ไว้บนพื้นมันก็รู้สึกดีใจมาก มันคืออาหารอย่างแรกที่ได้จากการนั่งขอกิน ขาวจึงไม่รอช้าที่จะกินตับ แล้วนอนรอต่ออย่างมีหวัง ผู้ชายคนนั้นเห็นขาวกินตับอย่างลุกลี้ลุกลน จึงทำให้เขารู้สึกเอ็นดู สุนัขตัวนี้มาก หลังจากที่เขาได้ทานกันข้าวอย่างอื่นจนหมด เขาก็เรียนพนักงานเก็บเงิน และตับที่เขาตั้งใจเหลือไว้ให้กับสุนัขตัวนั้น ก็ถูกวางบนพื้นในทันที ขาวเห็นตัวจำนวนมากวางอยู่บนพื้นด้วยความตั้งใจของผู้ชายคนนั้น ขาวจึงรีบกินตับอย่างเอร็ดอร่อย เมื่อกินเสร็จแล้ว ขาวก็ไม่ลืมที่จะหางกระดิกให้ผู้ชายคนนั้นก่อนออกจากร้าน มนุษย์ ผู้นั้นลูบหัวขาวพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นเดินออกจากร้านอย่างมีความสุข แล้วหลังจากนั้นไม่นานร้านก็ปิด ทุกคนในร้านต่างก็ทำหน้าที่ของตัวเอง ขาวจึงเดินไปหลังร้านเพื่อไปหาเจ้าของร้านผู้แสนใจดี แต่ก็ไม่ทันสุนัขตัวอื่น ที่มากินเศษอาหารก่อน หลายวันมานี้ ขาวแทบจะไม่ได้กินเศษอาหารจากเจ้าของร้านเลย เนื่องจากไม่สามารถแย่งอาหารจาก สุนัขผู้ที่มาอยู่ก่อนได้ และด้วยความที่ขาวเคยเป็นสุนัขในร้านอาหารมาก่อน ขาวจึงคิดแผนที่จะมากินเศษอาหารก่อนสุนัขตัวอื่นๆ ขาวคิดได้ดังนั้นจึงเดินไปหลังร้านมองหามนุษย์ที่เหมือนแม่ครัว ซึ่งที่นี่นั้นมีคนที่เหมือนแม่ครัวอยู่หลายคน ขาวจึงตัดสินใจร้องออกมาให้คนทั้งครัวได้ยิน และเพื่อให้มนุษย์หลายคนในที่นี้รู้ว่าตัวเองกำลังหิว คนทำอาหารทุกคนมองขาวอย่างเอ็นดูก่อนจะจัดแจงเศษอาหารให้ขาว และหลังจากวันนั้น ขาวก็ดำเนินชีวิตอยู่ในร้านอาหารแห่งนี้ อย่างมีความสุขเพราะทุกคนที่นี่ต้อนรับสุนัขทุกตัวที่มาเยือนอย่างไม่รังเกียจ ทั้งเจ้าของร้านและพนักงานในร้านรักสุนัขกันทุกคน ขาวมีทั้งเพื่อนเล่นที่เป็นทั้งมนุษย์และสุนัขด้วยกัน ขาวมีอาหารกินจากมนุษย์ที่มาอุดหนุนร้าน และเศษอาหารที่ได้กินก่อนใคร เรื่องราวภายในร้านอาหารแห่งนี้ ทำให้ขาวพอใจในสิ่งที่ตัวมี จนกระทั้งวันนี้วันที่ขาวเสียชีวิต ด้วยโรคชรา.... ชีวิตของสุนัขนั้น บางตัวก็ถูกมนุษย์เอาเปรียบและบางตัวก็เป็นยอดรักของผู้ที่เป็นเจ้าของ ไม่ว่าจะตัวไหนๆ ก็ต่างมีความซื่อสัตย์ และความจงรักภัคดี ต่อผู้เป็นนายไม่แพ้กัน มนุษย์บางคนไม่เห็นคุณค่าของสุนัข เลยไม่รู้ว่า สุนัขนั้นเป็นทั้งเพื่อนกินและเพื่อนตายได้ มันสามารถเล่นและคุ้มครองเราได้ในเวลาเดียวกัน บางคนเห็นสุนัขที่มีอารมณ์ร้าย เวลาเดินผ่านชอบเห่า แค่เดินเข้าไปใกล้ก็กัด แต่รู้ไหมว่า สุนัขที่เป็นแบบนั้น เมื่อมันอยู่กับเจ้าของของมันแล้ว มันกลับเป็นอีกแบบ ข้าพเจ้าว่าสุนัขทุกตัวนั้นน่ารักค่ะ ถ้าเรารักมันแล้ว มันก็จะรักเราและซื่อสัตย์กับเราไปนานๆ *************************************************************************
** อ่านแล้วก็อย่าลืมรักน้องหมาที่บ้านให้มากๆนะจ้ะ ***
ผลงานอื่นๆ ของ มิราเคิลโมโมะ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ มิราเคิลโมโมะ
ความคิดเห็น