เกิดใหม่ในตระกูลที่ถูกขับไล่

อาณาจักรล้านช้างได้รับอิสรภาพจากการกดขี่ ประชาชนหลายคนต่างยินดีและรอคอยการเฉลิมฉลอง แต่ในขณะที่ความสุขเริ่มแพร่ขยาย ราชาแห่งล้านช้างกลับสั่งหยุดการเฉลิมฉลองโดยทันที

ราชาแห่งล้านช้างมองเห็นความยิ่งใหญ่ของตระกูลช้างที่เพิ่งทำการปลดปล่อยบ้านเมืองให้เป็นอิสระ ความกล้าหาญและพลังของเรืองและท้าวเสือที่ช่วยนำพาชัยชนะมานั้นทำให้ราชารู้สึกอิจฉาและกังวลว่าตระกูลช้างอาจก้าวขึ้นมาเป็นอำนาจที่มีอิทธิพลเหนือตนเอง

ในห้องบัลลังก์ ราชากล่าวกับขุนนางที่อยู่ข้างกาย “ตระกูลช้างมีพลังมากเกินไป ข้ากลัวว่าหากปล่อยให้พวกเขาเติบโต อาณาจักรนี้จะไม่เป็นของข้าอีกต่อไป”

ขุนนางที่ภักดีกับราชาพยักหน้าเห็นด้วย “ท่านราชาคิดถูก พวกเขาแข็งแกร่งเกินไป หากปล่อยไว้อาจมีอำนาจล้ำหน้าท่านได้ เราควรทำอะไรสักอย่างเพื่อยับยั้งพวกเขา”

ด้วยความกลัวที่จะสูญเสียอำนาจ ราชาจึงสั่งขับไล่ตระกูลช้างออกจากอาณาจักร ล้านช้างเข้าสู่ความมืดมนอีกครั้ง

เมื่อข่าวการขับไล่แพร่กระจาย เรืองและท้าวเสือ รวมถึงครอบครัวของเรืองต่างตกใจและผิดหวัง พวกเขาไม่คาดคิดเลยว่าการเสียสละเพื่อช่วยบ้านเมืองครั้งนี้จะจบลงเช่นนี้

ในที่พักของตระกูลช้าง ปู่ของเรืองกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง พวกเราทำทุกอย่างเพื่อปกป้องอาณาจักร แต่ผลลัพธ์กลับเป็นเช่นนี้ พวกเขาขับไล่เราออกจากบ้านเกิดที่เรารัก

เรืองที่นั่งเงียบอยู่ข้างๆ หัวใจเต็มไปด้วยความโกรธและความเศร้า “เราทำทุกอย่างด้วยความรักต่อบ้านเมือง แต่ราชากลับมองว่าเราเป็นภัย

ท้าวเสือเองก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เราถูกขับไล่ออกไปเพราะความกลัวของราชา พวกเราควรจะได้เป็นผู้ปลดปล่อยและช่วยเหลือประชาชน ไม่ใช่ถูกขับออกไปเช่นนี้

ขณะที่ตระกูลช้างเตรียมตัวเดินทางออกจากอาณาจักร ขุนนางในราชสำนักหลายคนต่างยืนอยู่ข้างราชา พวกเขาเห็นด้วยกับการขับไล่ตระกูลช้าง เพราะกลัวว่าตระกูลนี้จะมีอำนาจเหนือกว่าราชาเอง

พวกเขามีพลังมากเกินไป” ขุนนางคนหนึ่งกล่าว “ถ้าเราปล่อยให้พวกเขาอยู่ในอาณาจักร พวกเขาอาจเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของพระราชา

ข้าคิดว่าท่านราชาตัดสินใจถูกแล้ว” อีกคนกล่าวเสริม “ตระกูลช้างควรถูกกำจัดออกไปเพื่อลดความเสี่ยง

ขณะที่ขุนนางหลายคนแสดงความเห็นด้วย ประชาชนบางกลุ่มก็เริ่มเชื่อฟังตามคำสั่งของราชา พวกเขาหลงเชื่อว่าการขับไล่ตระกูลช้างเป็นสิ่งที่ถูกต้องและเป็นไปเพื่อความมั่นคงของอาณาจักร