“ไปโรงเรียนได้แล้ว เร”
เสียงเร่งสุดท้ายก่อนที่ฉันจะกระโดดลงจากชั้นสองของบ้าน
ไม่ตายหรอก
ก็นี่มันทางลงของฉันนี่นา
“ไปแล้วนะคะแม่”
ฉันตะโกนบอกให้เป็นสัญญาณให้รู้ว่า
ฉันจะไปเอง แต่ถ้าวันไหนฉันขี้เกียจ
ก็จะเดินอย่างสงบเสงี่ยมไปขึ้นรถโดยดี
แต่ส่วนใหญ่
ก็จะเป็นทางเลือกแรกมากกว่าแหละ
“ยูจีน ริ”
ฉันตะโกนเรียกหาเพื่อนรักของฉัน
ทำไม ห้องเราไม่มีคนเลยล่ะ
ป่านนี้มันน่าจะมีคนมาแล้ว
สังหรณ์ใจไม่ดีเลยแฮะ
“ใครชื่อเรวะ ออกมาเดะ”
เสียงนี้ ไม่ใช่เสียงเด็กโรงเรียนฉันนี่
แล้วใครอีกล่ะ
ฉันพยายามหาที่มาของเสียง
ภายในห้องตอนนี้เงียบและมืด
ฉันค้นพบว่า ห้องที่แนนั่งเรียนทุกวี่ทุกวัน น่ากลัวมากเวลาไม่เปิดไฟ
ฉันเดินไปเปิดหน้าต่าง
ฉันเห็น ยูจีนกับเพื่อนๆทุกคน นั่งเรียงกันเป็นตับเลย
แล้วก็มีผู้ชายหลายคนมากๆเลย ยืนล้อมอยู่พร้อมจะตีพวกเธอได้ทุกเมื่อ
ฉันจะทำยังไงดีล่ะ
เจ้าพวกนั้นเรียกชื่อฉันซะด้วย
ถ้าเป็นสามปีก่อนที่ฉันระรานชาวบ้านไปทั่วน่ะ
ฉันจะไม่แปลกใจเลยแต่ว่า ตอนนี้มันมีเรื่ออะไรอีกวะ
ก็มีแต่ต้องลงไปเท่านั้นน่ะสิ
แล้วฉันจะลงยังไงละ
นั่นมันหลังโรงเรียน
ยามไม่ให้ออกไปแน่
เอาวะ
“หลบดิ.......”ฉันตะโกนก่อนจะกระโดด ลงไปทางหน้าต่าง
แต่ทำไมฉันไม่เจ็บเลยล่ะ
“อูย......โดดมาได้ไงวะ”
เสียงผูชายพูดด้วยความเจ็บปวด
ฉันพบว่า
ฉันนั่งทับลงบนตัวคนที่ดูท่าจะเป็นหัวหน้าของเจ้าพวกนั้นทั้งหมด
ตายแน่ๆ....
“เฮ้ยเธอนะ ชื่อเรใช่ปะ”คนที่หน้า^_^มๆโหดๆ นั่นพูด ทำท่าเหมือนจะกินฉันงั้นแหละ
“ถ้าใช่แล้วไงอะ”ฉันตายแน่ๆงานนี้
ใครก็ได้ช่วยเรด้วยฮือๆ
เรไม่เคยฆ่าสัตว์
ไม่เคยโกหก
ทำไมเรถึงต้องเจออะไรแบบนี้ด้วย
“ไปกับพวกเราหน่อย”
เสียงคนที่ฉันนั่งทับอยู่ดังขึ้น แต่รู้สึกว่าฉันนั่งอยู่อย่างนั้นนานมาก
ตอนที่ตานั่นพูดนั่นแหละฉันถึงลุก
“เดี๋ยวชั้นมานะยูจีน”
ฉันหันไปบอกยูจีนก่อนที่จะเดินออกไป ทั้งที่ความจริง
ฉันอาจจะไม่ได้กลับมาเลยก็ได้
พวกนี้ มันเป็นใคร ฉันยังไม่รู้จักเลย
พวกมันพาฉันไปที่โกดังหลังโรงเรียนฉันนั่นแหละ
ฉันเคยผ่านหลายครั้งแล้ว
แต่ไม่นึกว่ามันจะน่ากลัวขนาดนี้
ทั้งมืด วังเวง แถมมีกลิ่นอับๆแปลกๆด้วย
“พะ...พวกนายจะทำอะไรชั้นน่ะ”
ฉันถามเสียงสั่น ด้วยความกลัวและบรรยากาศที่น่าวังเวงด้วย
“ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่กะจะเอาเธอเป็นเครื่องต่อรองกับพี่ชายเธอสักหน่อย”
ต่อรองกับพี่ชายฉันงั้นก็ พี่เคนน่ะสิ
งั้นจับแฟนพี่ชายฉันมาไม่ดีกว่าเรอะ
“แล้วทำไมต้องเป็นชั้นล่ะ ไปจับแฟนพี่ชั้นมาไม่ดีกว่าหรอ”
โอยพี่เคนไม่มีทางมาหรอก
เค้ากับฉันคุยกันวันนึงแทบจะนับคำได้
คงจะมาหรอก
“เดี๋ยวก็รู้ ไอ้ท๊อด โทรหาพี่ชายนังนี่ซิ”ไอ้หน้าโหดสั่ง
“หวัดดีครับไอ้คุณเคน”มันกรอกเสียงอุบาทว์ๆของมันลงโทรศัพท์
“(ว่าไงครับไอ้เชน)”เสียงปลายสายดังกลับมา นั่นเป็นเสียงของพี่ชายฉันแน่ๆ
“พอดีน้องเรอยู่กับผมอะคับ ถ้าเมิงอยากให้น้องปลอดภัยก็มาที่โกดังหลังโรงเรียนน้องเมิงเดะ”
เสียงมันฟังดูดีในตอนแรกนะ
แต่หางมันดันโผล่มาตอนท้าย
“(เฮ้ย จะทำไรน้องกุวะ)”พี่เคนกรอกเสียงผ่านหูกลับมา
“เดี๋ยวก็รู้ถ้าเมิงไม่มา”
ทำไงดีล่ะ
อย่างพี่เคนเนี่ยนะจะมาสู้รบกับสวะพวกนี้
“อย่ามานะเฮีย เรช่วยตัวเองได้”
ฉันตะโกนออกไปสุดเสียง
หวังว่าพี่เคนคงจะได้ยิน
ฉันตายยังดีกว่าให้พี่เคนตายนะ
พี่เคนเป็นคนดี
“บายคับไอ้เคน”
มันวางสายโทรศัพท์ลงพร้อมเอาตาอุบาทว์ๆมันจ้องมาที่ฉันก่อน
จะออกคำสั่งสองสามคำ
“ไอ้เจ ลากนังนี่ไปหาชินดิ”มันออกคำสั่ง
แล้วใครคือชินล่ะ มันจะทำอะไรฉันล่ะ
ฉันกลัวมากเลย แต่ยังไงก็ขอให้พี่เคนอย่ามาก็พอ
“เฮ้ยชิน จะทำไงกับนังนี่ดีวะ”
ไอ้เลวนั่นถามคนที่นั่งอยู่บนลังไม้มีโค้กสี่ห้ากระป๋องวางอยู่ และคือคนที่ฉันกระโดดลงไปนั่งทับ
“แล้วแต่เลยเชน แต่ก่อนอื่นรอพี่ชายมันมาก่อน”ไอ้เลวนั่นชื่อเชนเรอะ ไม่ให้เลย ส่วนคนที่ชื่อชิน ดูดีๆก็หล่อนะ แต่คบเพื่อนไม่เป็นเลยนี่แหละนะ แต่ก่อนที่ความคิดฉันมันจะเตลิดไปมากกว่านี้ ฉันถูกมันมัดฉันแขวนไว้ขาลอยจากพื้น พอดีว่าฉันตัวเล็ก หน้าฉัน เลยอยู่ระดับเดียวกับไอ้หัวหน้า (ชิน)
“แล้วเธอคอยดูพี่ชายเธอแล้วกัน”เสียงเย็นเฉียบกรอกหูฉัน ขนลุกทั่งร่างกาย เสียงหน้ากลัวมาก ที่น่ากลัวกว่านั้น คือ ฉันไม่รู้ว่ามันจะทำอะไรกับฉันต่อไป
ปัง!เสียงประตูโกดังดังขึ้น พร้อมปรากฏร่างของพี่ชายฉัน พี่เคน พร้อมพวกอีกประมาณสิบคนเขาดูไม่เหมือนพี่เคนที่ฉันรู้จักเลยตามปกติ พี่เคนต้องใส่แว่นแต่นี่ ไม่ เขาใช่พี่ชายของฉันจริงๆหรือเนี่ย
“เร เป็นไงมั่ง”เสียงพี่ชายของฉันปลุกฉันให้ตื่นจากความคิดทั้งปวง
“เฮียมาทำไม โง่รึเปล่า อย่างเฮียจะไปทำอะไรพวกมันได้ เรช่วยตัวเองได้น่า”
ฉันต่อว่าต่อขานพี่ชายฉัน
“ปากเก่งจังนะ ว่าเฮียซะงั้น ขยับยังไม่ได้เลย แล้วเธอดูนะ ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากสิบนาทีให้หลัง” พี่ชายของฉันพูดอะไรออกมาเนี่ย มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอก แค่ดูท่าทางก็คนละเรื่องกันแล้ว โถ่พี่ชายจ๋า
“ไอ้เคน เมิงทำพวกกุไว้แสบมากนะ ส่งไอ้เตี้ย ต่อ ต๊อป ทีเดียวสามคน เข้าโรงบาล แต่วันนี้ พวกเมิงทั้งหมด จะโดนเหมือนที่เมิงทำกับพวกกุ”
เสียงของไอ้เลวนั่นประกาศก้อง
แต่พี่ชายฉันสิ ไม่สะทกสะท้านอะไรเลย
สีหน้าไม่กระดิกซะด้วยซ้ำ
เขาและเพื่อนๆเดินเข้ามา
ฉันแทบจะไม่เชื่อสายตา
ว่าพี่ชายที่ฉันคิดว่าฉันรู้จักดี
พี่ชายที่แสนเรียบร้อย เรียนเก่ง จะเป็นแบบนี้
“แล้วแกจับน้องสาวชั้นมาเป็นตัวประกันเนี่ยนะ เป็นผู้ชายป่าววะ ไปนุ่งผ้าถุงดีกว่า”
เสียงพี่ของฉันบอกพวกนั้นอย่างเย้ยๆ
ฉันพึ่งค้นพบ ว่าพี่ชายของฉัน
เป็นห่วงน้องสาวบุญธรรมอย่างฉันด้วย
“พวกเรา ลุย”
เสียงของไอ้เลวเชนตะโกนดังก้อง
ทั้งสองฝ่ายวิ่งเข้าหากัน รวมทั้งพี่เคนด้วย
ฝ่ายพี่ชายฉันมีคนน้อยกว่าเห็นๆ
แต่ทำไมพวกของไอ้เลวพวกนั้นมันถึงได้ออกมากองหมดสภาพทีละคนสองคนซะล่ะ
เย้ พี่เคนสู้ๆ
ทันใดนั้นเอง
ไอ้เลวนั่นมันก็เอามีดมาจี้ฉัน
ทำให้การสู้รบหยุดชะงัก
“แกเล่นโสโครกนี่หว่าไอ้เวร”
เสียงของคนที่ดูอยู่ตลอดเวลา
นั่นก็คือ ชิน ตะโกนออกมา
โอ้ อย่างนายมีคุณธรรมกับเค้าด้วยหรอเนี่ย
“กุไม่สนแล้วเว่ย ศักดิ์ศรีอะไรไม่สนแล้ว ตอนนี้กุสนแต่ชัยชนะ”
เสียงมันตะโกนก้อง
น้ำตาของฉันเริ่มรินไหลลงมาเป็นทาง
นี่ฉันจะต้องตายจริงๆใช่ไหม
เวลาของฉันหยุดลงแค่นี้จริงๆหรือ
“ไม่แฟร์นี่หว่า”
เสียงพี่ชายของฉันตะโกนออกมาบ้าง
เสียงเขาตอนนี้ไม่เหมือนเขาเลย
ไม่เหมือนพี่เคนที่ฉันรู้จัก
“แกจับน้องเค้ามา ยังไม่พออีกหรอวะเชน”
เสียงชินตะโกนขึ้นมาอีกครั้งแต่มันก็ไม่ได้ทำให้ไอ้เชนมันเอามีดลงจากตัวของฉันซ้ำมันยังเคลื่อนมีดเข้ามาใกล้ฉันอีก อีกประมาณสองเซนจะโดนท้องของฉันแล้ว ทันใดนั้นเลือดก็ไหลซึมออกมาจากปากและจมูกของฉัน
ฉันเป็นโรคแปลกอย่างนึงตรงที่ เวลาฉันตกใจอะไรมากๆร่างกายของฉันจะอ่อนแอมาก ความดันเลือดจะผิดปกติทำให้เลือดไหลออกมา
“เร”เสียงของพี่เคนตะโกนก้อง นั่นคือเสียงสุดท้ายที่ฉันได้ยิน ก่อนที่ทุกอย่างจะพร่ามัว แล้วฉันก็หมดสติไป
“อืม.......”ฉันลืมตาขึ้นมา
มึนหัวเป็นบ้าเลย
โลกหมุนได้จริงๆด้วย
ฉันสัมผัสได้ถึงลมอุ่นๆบนฝ่ามือ
และความเย็นจากตัวของคนบางคน
และคนคนนั้นก็คือพี่เคน
นี่เขาเฝ้าฉันมาตลอดเลยหรือ
ฉันจ้องหน้าที่เต็มไปด้วยบาดแผลของพี่ชายคนนี้
เขาทำเพื่อฉัน
“ขอบคุณนะคะเฮีย”ฉันกระซิบเบาๆที่ข้างหูพี่ชายของฉัน
“เร...อย่าตายนะ”
แช่งกันซะงั้น
เสียงพี่เคนพึมพำออกมาเบาๆ
พี่เคนเป็นห่วงฉันด้วยหรอเนี่ย
ทั้งๆที่เราไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ
ขอบคุณค่ะพี่เคน
น้ำตาของฉันเริ่มไหลรินออกมา ก่อนที่มันจะหยดลงบนแผลที่หน้าของพี่เคน จนพี่เขารู้สึกตัว
“เรร้องไห้ทำไม ใครทำอะไรเร”เสียงพี่เคนถาม ยิ่งทำให้ฉันร้องหนักขึ้นไปอีก
ซึ้งจังเลย
แต่ความซาบซึ้งมันหยุดลง ตอนที่มีคนเปิดประตูเข้ามา พร้อมดอกทิวลิปสีขาวนวลที่ฉันชอบช่อใหญ่
“แกมาทำไมวะ ไอ้ชิน”เสียงพี่ชายตะคอกคนที่ชื่อชิน
จ้องคนที่จับตัวฉันไปด้วยแววตาที่เจ็บแค้นแทนฉัน
“เฮียใจเย็นๆค่ะ”ฉันห้ามปรามพี่ชาย ก่อนที่เขาจะทำอะไรรุนแรง ในโรงพยาบาล
“ชั้นมาขอโทษ”เขาพูดพร้อมกับ ยื่นช่อดอกไม้มาให้
แต่พี่เคนก็ยังจ้องหน้ามันอย่างไม่ลดละ
“หลังจากวันนั้น พวกชั้นก็เสียอนาเขตให้พวกพี่ไป”
เสียงชินเริ่มสาธยายเรื่องราวหลังจากฉันหมดสติไป
ฉันรู้ว่า พี่เคน เกือบจะฆ่าไอ้เลวเชนแล้ว
ตอนนี้นอนแอ้งแม้งอยู่ที่ไอซียู
พี่ฉันก็เก่งเหมือนกันนะ
แล้วก็รู้ว่า เขาจะถูกจับข้อหาทำร้ายร่างกาย
แล้วก็รู้ว่าพวกพี่เคนเป็นผู้มีอิทธิพลในโรงเรียนแล้วก็รู้อีกว่า (ว้าว พี่ฉันสุดยอดเลย)
พี่เคนกับชิน จะย้ายมาอยู่โรงเรียนเดียวกับฉัน เพราะพ่อสั่งมา เออเป็นงั้นไป ถ้าอย่างนั้น พี่ชายของฉัน ต้องโดนสาวๆกรี๊ดแน่ๆ ก็พี่เคนหน้าตาดีซะขนาดนี้ ว่าแต่ ทำไมชินต้องมาด้วยล่ะ
“แล้วทำไม นายต้องมาอยู่โรงเรียนเดียวกับฉันด้วยล่ะ”
ฉันถามชิน ด้วยความสงสัยก่อนจะได้รับคำตอบที่หน้าตกใจมาก
“เพราะชั้น ชอบเธอ”เขาพูดออกมา
จุดชนวนระเบิดของพี่เคนซึ่งมันใกล้จะระเบิดตั้งแต่ชินเข้ามาแล้ว
“เฮ้ย หมายความว่าไงวะ”พี่เคนคะคอกชิน
พร้อมกระชากคอเสื้อของเขาขึ้นมาจนตัวเขาจะลอย
“หมายความว่าชั้นชอบน้องเรอะเดะคับ”
เขาพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ผิดกับพี่เคนซึ่งหน้าบูดเป็นตูดลิงไปแล้ว
แต่ฉันน่ะสิ นิ่งสนิท อึ้งค่ะ บอกได้คำเดียวว่าอึ้ง
“ไว้วันจันทร์เจอกันนะ”เขาพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะเดินออกไป
พี่ชายฉันโกรธหน้าแดงจนดำไปแล้ว
แสดงว่า เขามีเรื่องบาดหมางกันมานานแล้วแน่ๆ
“เร ถ้ามันชอบเรจริงๆเฮียก็ไม่ว่าอะไรถ้าเรคิดจะคบกับมัน แต่ถ้าเฮียรู้ว่ามันทำเธอเสียใจ พี่จะฆ่ามันนะ” พี่เคนพูดทิ้งท้ายก่อนที่จะเดินออกจากห้องพักไป
แล้วก็มีแขกคนใหม่เข้ามานั่นก็คือพ่อของฉันเอง
“เรของป๋า เป็นอะไรรึเปล่าลูก”พ่อฉันพูดก่อนจะเดินเข้ามากอดฉัน
“ป๋ากับมาเมื่อไรอะคะ”ฉันถามเพราะเมื่อสามวันก่อน พ่อฉันยังอยู่เวนิสอยู่เลย
“พอป๋ารู้ข่าวจากเคน ป๋าก้รีบนั่งคองคอร์ดกลับมาเลย โธ่เรของป๋า”
น้ำตาของฉันและพ่อเริ่มรินไหล
เพราะส่วนใหญ่ เราสองคนไม่ค่อยมีเวลามากมายสำหรับการอยู่ด้วยกันนัก
เรากอดกันอยู่อย่างนั้น จนป๋ากลับไป
วันนี้ เป็นวันที่ฉันกลับบ้านได้แล้ว เย้ๆ คิดถึงบ้านจังเลย
“ยูจีน”ฉันพูดเมื่อเห็น ยูจีน เพื่อนของฉัน
ร้องไห้น้ำตาท่วมบ้านอยู่ ยัยนั่นร้องจนหน้าสวยๆ
อาบไปด้วยน้ำตา ตาบวมเป่งเลย
“เร เป็นอะไรมากมั้ย”
ยูจีนถามพลางวิ่งเข้ามากอดฉันอย่างแนบแน่น
ก่อนที่ไหล่ของฉันจะชื้นแฉะไปด้วยน้ำตา
“ชั้นไม่เป็นอะไรแล้ว”ฉันตอบไป
แต่ยูจีนก็ยังคงเอาหน้าเกยไหล่ฉันแล้วร้องไห้
นี่ถ้าเป็นสามปีก่อนนะใครเห็นน้ำตาของยูจีน ถือว่าคนนั้นโชคดีมาก แต่หลังจากวางมือแล้ว รู้สึกจะน้ำตาตื้นขึ้นนะ
วันนี้ ยูจีนก็ค้างกับฉันซะเลย
“ฮ้าว.....ขี้เกียจจังเว้ย”ฉันตะโกนออกมาด้วยความขี้เกียจ
ส่วนยูจีน ออกไปแล้ว ไปไหนก็ไม่รู้
ฉันคงจะต้องไปโรงเรียนทางเดิม ขี้เกียจลงบันได
“ฮึ้บ ไปแล้วนะคะแม่”ฉันตะโกนบอกเช่นเคย
ฉันกระโดดลงชั้นสองไป
แต่ วันนี้ ลงผิดท่า ปกติเอาขาลงแต่วันนี้
กุเอาหลังลงทำไมวะ????????
“กรี๊ด..........”ฉันกรีดร้องเสียงดังลั่น
ก่อนที่จะตกลงสู่พื้น
ตาย ตายแน่ๆยัยเรเอ๊ย พึ่งออกจากห้องพักผู้ป่วย คราวนี้หล่อนได้เข้าห้องดับจิตแน่ๆ
แต่ ทำไมมันไม่เจ็บล่ะวะ
หรือว่า ยังไม่ทันเจ็บก็จบแล้ว โอไม่
หรือว่า ฉันยังตกไม่ถึงพื้น แต่มันนานแล้วนะ
ฉันกลัวจนไม่กล้าแม้แต่จะลืมตาออกมาดูโลก
“นี่ ลืมตาได้รึยัง”เสียงที่ไม่คุ้นเคยดังขึ้นมา
ฉันลืมตาขึ้นช้าๆ
พบว่า ฉันโดนอุ้ม โดยใครก็ไม่รู้
แต่ใส่เครื่องแบบโรงเรียนของฉัน
แล้วเค้าหนักไหมเนี่ย
“ขอโทษค่ะ........”ฉันพูดพยางค์ที่สามยังไม่ทันจบ
ก็ตามมาด้วยเสียงดังกระหึ่มของมอเตอร์ไซค์ประมาณเป็นสิบคันพร้อมเสียงตะโกนมาเป็นระยะ พอจับใจความได้ว่า
“ไอ้เวร เมิงทำไรน้องสาวกุวะ”
เสียงนี้ มีอยู่เสียงเดียวในโลก
เสียงพี่ชายของฉันเอง
บึ่งแมงกะไซค์มาแต่ไกลเลยเน้อเฮีย
แถมใส่เครื่องแบบโรงเรียนของฉันซะด้วย
“เร มันทำอะไรอะ”เสียงพี่เคนคาดคั้นเอาความจริง
สงสัยอาการหวงน้องกำเริบ
อีกแล้วครับท่าน
“ไม่มีอะไรเฮีย เค้าแค่รับเร เรกระโดดลงมา แต่ลงผิดท่าไปหน่อย”ฉันบอก ทั้งๆที่ยังโดนอุ้มอยู่
“เออ ไอ้ฟาย เมิงปล่อยน้องกุได้ยังวะ”
พี่เคนตะโกนด่าคนที่อุ้มฉันอยู่ ด้วยน้ำเสียงเอาเรื่อง
จนเขาปล่อยฉันลงไปกองกับพื้น
เจ็บก้นชะมัดเลย คนอะไรไม่เป็นสุภาพบุรุษเลย
ฉันตั้งท่าจะเดินออกไป
แต่ถูกพี่เคนคว้าข้อมือเอาไว้ จนตัวฉันกระชาก
“วันนี้เรไปกับเฮีย แล้วเย็นนี้ เฮียจะไปรับ ถ้าเรเป็นอะไรไป เดี๋ยวเฮียโดนป๋าด่า”อ่าว สรุปมันห่วงฉันหรือห่วงตัวเองกันแน่ฟะ
และแล้ว ฉัน เฮีย และพรรคพวกของเฮียทั้งหลาย
ก็ถึงโรงเรียนของฉันโดยสวัสดิภาพ
แต่ไอ้สุภาพบุรุษสุดห่วยคนที่ปล่อยฉันลงไปกองกับพื้นเมื่อเช้าล่ะ
สงสัยโดนพี่เคนฆ่าตายไปแล้ว(นี่เค้าช่วยเธอนะยะ)
“เฮียเรียนห้องไหนอะ”ฉันถามพี่ชาย
แต่รู้สีกว่าจะไม่ต้องแล้วแหละ
เพราะผู้หญิงครึ่งโรงเรียนนำพี่ชายฉันและเพื่อนๆทั้งหลาย ไปแล้ว
เหลือเพียงฉันกับความโดดเดี่ยว
“ว่าไงสาวน้อย”เสียงๆนึงดังขึ้น พร้อมกับเสียงตบไหล่ ฉันหันไปดู
ก็เห็นผู้ชาย หน้าตาดี ชื่อว่าชิน??
“ทำไมหรอ”ฉันไม่ค่อยอยากจะสนทนากับคนคนนี้เลย ให้ตายสิ
“ชั้นหาห้องไม่เจอ ช่วยหน่อยสิ ชั้นอยู่ห้อง13อะ”
โธ่ นึกว่าอะไร ที่แท้ ก็หาห้องไม่เจอ แต่อยู่ห้อง13เรอะ
ห้องเลวสุดๆ ชนิดที่เรียกว่า
พวกเวรตะไลกลับชาติมาเกิดเลยนะ
“นายเดินไปตึกขวามือนะ แล้วก็เลี้ยวซ้าย ห้องขวามือนะ”
ฉันไม่อยากก้าวเข้าไปในห้อง13เลย
สมชื่อเลขอาถรรพ์ฉันเลยได้แต่บอกทาง
“แล้วเธออยูห้องไหนอะ”ชินถามฉัน
“ห้อง8”ฉันพูดก่อนที่จะวิ่งนำหน้าไป
ความคิดที่จะย่างก้าวเข้าไปในห้องอาถรรพ์นั้น
ไม่เคยมีอยู่ในความคิดเลย
ทั้งที่ความจริง
ส่วนมาก พวกนั้นมักจะมามากกว่า
และเป้าหมายของพวกมันก็คือ ฉัน ยูจีน และริ
“เรรดี มาสาย”เสียงอาจารย์จอมโหดประกาศทำให้ยูจีน ริ หันหน้ามาตามเสียง
“โธ่จารย์คะ นาทีเดียวเอง”เสียงฉันอ้อนวอน
แต่อาจารย์จอมโหดไม่ใส่ใจ คะแนนฉัน ไม่เหลือเศษซากเลย
“ไปนั่งที่ไป”เสียงที่ไม่ใยดีฉันดังออกมาเช่นเคย ทั้งที่ความจริง ฉันไม่ผิดเลยสักนิด
“ค่า”เสียงอ่อยๆของฉันดังออกมา ก่อนที่จะลากสังขารของตัวเองมานั่งที่ที่ประจำ นั่นก็คือ หลังสุดของห้อง
กิ๊งก่องๆๆ เสียงกระดิ่งของพักเที่ยงดังขึ้น กระดิ่งแห่งความซวยบังเกิด
“เร ริ ยู อยู่มั้ยจ้า”เสียงของพวกห้อง13ดังขึ้น
และเป็นเช่นเดิมทุกวัน ถึงได้บอกไงว่า กระดิ่งแห่งความซวยบังเกิดแล้ว
เสียงนั่นคือเสียงของ ไอ้เต้ กลุ่ม13ตะไล ชื่อคนในกลุ่มมัน ต.เต่าทั้งนั้น
“ว่าไง เต้”ฉันทักตามปกติ
ฉันไม่เคยพูดกับพวกนั้นดีซักครั้ง
ข้างหลังของฉัน มีริ กับยูจีน ยืนถืออาวุธอยู่
และคนในห้อง ก็มีพวกคนอื่นอยู่
“เร เฮียมาแล้วไปกินข้าวกาน”
ก่อนที่จะมีการปะทะระหว่างฉันกับพวก13ตะไล
เฮียก็มาขัดซะ แถมวิ่งมาแบบไม่ดูทางเลย
“เฮ้ย เมิงใครวะ ยุ่งกะหญิงกุไม”เสียงไอ้เต้ดังขึ้น
มันไม่รู้วะแล้วว่าใครของจริง
ดีเลย จะได้ไม่ต้องปะทะกับพวกมัน
“น้อง พูดกะพี่ดีๆหน่อยนะคับ”
เสียงเพื่อนเฮียดังขึ้น
แน่นอน เฮียโกรธแล้ว
โกรธทั้งเรื่องที่ถูกพูดข้ามหัว
และเรื่องที่ไอ้เต้บอกเฮียว่าฉันเป็นเด็กมัน
“พี่ นี่เด็กผมอะ”มันยังไม่เลิก
มันไม่รู้เลยว่ากำลังพูดข้ามหัวใคร
งานนี้13ตะไลตายหมู่แน่
“น้อง ใครเด็กน้องหรอคับ”
เสียงเฮียชวนขนลุกดังขึ้นมา
ขนาดฉันเองยังกลัวเลย
“สามคนข้างหลังเนี่ยแหละ”
มันยังคงไม่รู้ว่า เฮียน่ะ เป็นไผ
เหอๆตายอนาถแน่
“น้อง ไอ้คนที่ยืนอยู่หลังน้องอะชื่อเร น้องสาวพี่เอง”
เสียงพี่เคนพูดขึ้นมา
“ส่วนน้องที่ชื่อยูจีนน่ะแฟนพี่นะคับ”
เสียงพี่เจต เพื่อนเฮียดังขึ้นมา
พี่เจตคบกะยูจีนมาเดือนกว่าๆแล้ว
ตอนนี้ หน้าของไอ้พวก13ตะไล ซีดไปแล้ว
“ส่วนริว่าที่แฟนกุว่ะ”
เสียงของ ชลรุ่นน้องที่สนิทที่สุดของพี่เคนพูดขึ้น
เขาอายุเท่าฉันเลย
เขาเคยเจอริที่บ้านฉันหลายๆครั้งแต่ก็ไม่คิดว่า
ชลจะชอบริ
และตอนนี้ พวกตะไล
ได้ลงไปกองเรียบร้อยทั้ง13คนอย่างว่าง่าย
จากนั้น ฉันและพวกพี่ๆไปกินข้าวกัน
ฉันพึ่งรู้ว่า ชลอยู่ห้องเดียวกับฉัน
แต่ เมื่อเช้า มาสาย เลยไม่เข้าห้องมานซะเลย
แป่วววว
อืม...เหตุผล
แต่ชลกับริ ก็กำลังจะเป็นแฟนกัน
ส่วนยูจีน ก็เป็นแฟนพี่เจตอยู่แล้ว
ส่วนเราเรอะ เหอะ
ว่างเปล่า
ว่างเปล่า
และว่างเปล่า
“ยัยขี้โรค”
เสียงดังขึ้นข้างหลัง
เฮียเริ่มตาขวาง
ทั้งกลุ่มเริ่มมีอารมณ์
หันหลังไป
เจอกับชิน
ซึ่ง นอนอยู่ที่พื้น
โดยมีเฮียยืนอยู่
เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นภายในเวลาครึ่งนาที
เร็วโคดดดดดดดดด
“ไอ้ชิน”
เฮียพูดเสียงเย็นยะเยือก
ทุกคน ขนลุก
“คร้าบพี่ชาย”
พูดหน้าตาเฉย
เฮียเริ่ม รมณ์บ่จอย
“ไคพี่เมิงวะ”
เฮียรมณ์บ่จอยแล้ว
ชินลงไปนอนอีกรอบแล้ว
พวกเราเดินออกไป ไม่มีใครใยดี
เหตุการณ์ทุกอย่างเกิด
ภายใน 1อาทิตย์
เร็วดีเนอะคะ คนอ่าน
“เร มานี่เดะ”
เฮียเรียกฉันไปบัลลังค์
เรื่องอารัยจะขึ้นไป
พี่ม.6 อยู่นับสิบ
ตอนนี้ ใส่เกียร์หมาแล้วก็
เผ่นสิค้า.......
“ไว้คุยกานที่บ้านนะเฮีย”
เสียงตะโกนหน้าบัลลังค์
“อารายว้า”
เฮียบ่น แต่สายไปแล้ว
ฉันใส่เกียร์วิ่งมาในห้องแล้ว
ตอนนี้ยังงงอยู่
ว่ากุหนีเฮียทำเพื่อ
“ยูจีน ริ”
ฉันมองหาเพื่อน
แต่รู้สึกจะไม่เจอ
หรือว่ามีเรื่องอารัยอีก
ม่ายรุ้จิ
“อีเรมันอยู่ไหน”
อ่าว เสียงไคฟ้า
“อีเด็กพวกนี้นิ นังคนที่ชื่อเรอยู่ที่ไหน”
เสียงเกรี้ยวกราดดังขึ้น แถมประกาศชื่อฉันปาวๆ
กวาดสายตามองรอบๆห้อง
คิดว่าจะผ่านไปด้วยดี
แต่ สะดุดกึกกะมุมหลังห้อง
เห็นผู้หญิงใส่ชุดม.ปลาย
ยืนสุมหัวกันหลังห้อง
“กรี๊ด”......เสียงกรีดร้อง
ม่ายช่ายเรื่องของฉาน
เตรียมตัวเดินออกจากห้อง
เรื่องแบบนี้ อย่าเสี่ยงเลยท่านผู้อ่าน
ไม่ขำหรอก
“เรช่วยด้วย”
เสียงตะโกนดัง
ฉันคงจะเดินลอยหน้าลอยตาออกไป
แต่ มันดันเป็นเสียงของริ เพื่อนของฉัน
ฉันเลยถอยกลับ
“หล่อนน่ะชื่อเรหรอ”
ยัยพวกนั้นถาม
ดาวสีแดง
ม.6ซะด้วย
มาถึงม.3เรย
“ค่ะ”ฉันตอบด้วยเสียงสั่นๆ
ก็กลัวนี่หว่า
ยัยพวกนั้นย่างสามขุมเข้ามา
ฉันได้แต่เตี๊ยมกับริว่า
ใส่เกียร์หมาแล้ว
เผ่นอีกรอบ.....
ริโดดทางหน้าต่างชั้นสาม
นิสัยเหมือนกันทั้งกลุ่ม
มักง่ายพอๆกัน
ส่วนฉันวิ่งลงมาชั้นล่าง
“ยัยขี้โรค”
คนตะโกน
คงจารุ้ว่าไค
“แฮ่กๆ...มีอะ..แฮ่ก..ไร..แฮ่กๆ”
ฉันถามกลับไป
นายชินเล่าเรื่อง13ตะไลให้ฟัง
ฟังแล้ว ก็สงสานเหมือนกัน
หลังจากที่โดนเฮียไปแล้ว
โดนชลยำอีก ซวย.....
“ถ้าไม่มีฉันไปก่อนนะ”
ฉันบอกลา ก่อนที่จะมีใครลงไปกองกะพื้นอีกรอบ
แต่...มันไม่จบง่ายๆ เพราะหมอนั่นคว้าข้อมือฉันเอาไว้ แล้วประทับริมฝีปากลงไป
อึ้งค่ะ ทำอะไรไม่ได้ ขยับไม่ได้ ก้าวขาไม่ออก เริ่มเคลิ้มแล้วก็หลับ
ซะงั้น
รู้ตัวอีกที นอนอยู่ที่บ้าน
แต่ บ้านใคร ไม่รุ้...
“ยัยขี้โรค คืนชีพแล้วเรอะ”
เสียงดังขึ้น พร้อมกับอาหารเช้า
รุ้แร้ว ว่าบ้านใคร
“เออ แล้วนี่บ้านนายหรอ”
หรูใช้ได้เลย ว้าว
“นี่จูบฉันนี่ทำเธอเคลิ้มขนากนั้นเลยเรอะ”
เสียงเยาะเย้า
เล่นเอาฉันหน้าแดง
ขว้างปาหมอนใส่
ให้ตายเหอะ ฉันโดนแน่ๆ
“ไงเร ปายหนายมา”
เสียงยานคาง และร่างคน
ที่คลานลงมาจากชั้นสอง
เน้นว่าคลาน ไม่ใช่เดิน
ลงมาทีละคน
เฮีย...พี่เจต...พี่เติ้ง....ชล
และคนอื่นๆอีกมากมาย
ดี
จะปลุกเดี๋ยวนี้แหละ
“เฮีย เรโดนลักพาตัว”
ได้ผลทันตา
สภาพที่คลานลงมา ลุกขึ้นทันที
“ใครหน้าไหนมันกล้าลักตัวเรไป”
เฮียยิงคำถามใส่ ดีเลย จะได้แก้แค้นไปด้วเลย บังอาจมาพาฉันไปนอนบ้าน1คืน
ตายแน่...
“เฮีย คนที่ชื่อชิน จูบเร แล้วก็ลักพาตัวไปเลย”
ฉันพูดชัดถ้อยชัดคำ เพื่อยั่วอารมณ์เฮีย
แห่ๆ เฮียเดือดแล้ว งานนี้มีเฮคับท่าน เย้ๆ
“ไอ้(เซ็นเซอร์) เมิงจูบน้องกุ ขนาดกุยังไม่กล้าเลย”
เสียงเฮียตะโกน ยังไงกานแน่วะ
จะไปลุยคน
เฮียแกก็แต่งซะหล่อเต็มที่
สรุปเอาไงกันแน่เนี่ย...
เหตุการณ์ทุกอย่าง อยู่ในสายตาฉัน ซึ่งมองด้วยความสะใจ
วันจันทร์ไปโรงเรียนพร้อมกับกลุ่มของเฮียเช่นเคย
หนุกหนาน
แต่พอไปโรงเรียน
ผู้หญิงทุกคนมองหน้าด้วยสายอาฆาต
ตามมาด้วยเสียงซุบซิบประมาณว่า
“กรี๊ดยัยนั่นมันเป็นใคร บังอาจมานั่งซอนท้ายสุดที่รักของชั้นกรี๊สๆ”
มันหน้าภูมิใจตรงไหน
แค่นั่งแมงกาไซพี่มาเนี่ยนะ
พอดีว่า เป็นพวกชอบหาเรื่องใส่ตัว
ก็เลย เอาหน้าหนาๆ ฝังลงไปในหลังเฮียซ้า แล้วไม่พอ
กอดมันด้วยเลย เพื่อความสะใจ
“กรี๊สๆๆๆๆ”เสียงกรีดร้องโหยหวนของหญิงสาวที่หมายปองเฮีย
“อยู่นานๆนะเร เฮียชอบ นิ่มดี”
เสียงเฮียที่แสนใสซื่อพูดขึ้น โดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่
น่าสงสารดีแท้
เฮียลงมาส่งที่ห้อง
ระหว่างทาง
ชายหนุ่มทั้งหลายแหล่มองมาทางฉัน
แต่ถูกเฮียแง่งไปเรียบร้อย
ดีเหมือนกัน หนุกดี
“ริ ชลมาแล้ว”
ชลรีบวิ่งมาหาริ ซึ่งเป็นแฟนกันไปเรียบร้อย
เออหวานดีแท้คู่นี้
ฉันได้แต่มอง และได้แต่หวัง ว่าหากคนที่ฉันชอบ
คงจะเป็นคนที่เฮียยอมรับ....
กิ๊งก่องๆ หลังจากนั้น13ตะไลก็ไม่มาอีกเลย
“เรอยู่ไหน”
เสียงสาวใหญ่ดังขึ้น
เจ้แกมาอีกแล้ว
มาหาเรื่องอีกแล้ว
คราวนี้ คงต้องไปอย่างเดียวแล้วล่ะ
“ค่ะพี่”
ห้องน้ำ คือสถานที่ที่เจ้แกพาฉันไป
และ โดนอีกแล้ว
เหมือนสามปีที่แล้วที่ฉันทำคนอื่น
กรรมตามสนอง
โดนรุมอีกแล้ว
นอนในห้องน้ำที่ยังไม่ได้ทำความสะอาด
หน้าตาและตัวมีแต่รอยการถูกทำร้าย
ผมเผ้ายุ่งเหยิง
ร่างกายขยับไม่ได้
ถ้าเป็นคนอื่น
คงจะคิดว่าสนุกและสมเพช
แต่ถ้าเป็นคุณ
คงไม่สนุก
แล้วถ้ามันเกิดกับฉันละ
.....................ไม่สนุกแล้ว......................
ฉันถ่อสังขารที่มีลักษณะ
ตาบวมใกล้ปิด
เลือดไหลซึมตามรอยแผล
ใบหน้ามีรอยมือและเท้า
ผมหลุดลุ่ย
เสื้อผ้าขาดวิ่น(ไม่มากหรอก)
เดินไปหาเฮียที่หน้าบัลลังค์
“เฮ้ยเรแกไปฟัดกะใครมาวะ”
ชลถาม หน้าตาหวาดๆ เพราะเขาเองก็จะโดนด้วยถ้าฉันเป็นอะไรไป ข้อหาที่ดูแลฉันไม่ดี
“เฮียอยู่ไหน”
ฉันถามกลับ ไม่ตอบคำถามใดทั้งสิ้น
“แหล่งกบดานใหม่”
แหล่งกบดานของเฮีย คือใต้โรงยิม อาคาร2
ถ่อสังขารไป
คนมองมากมาย
ไม่ใส่ใจ ตอนนี้คิดอย่างเดียว
นังทุเรศ
^_^ตาย............
“เร...”
เสียงกระป๋องน้ำของเฮียร่วงกราวลงไปกับพื้นเมื่อเห็นสภาพ
“เฮีย เรโดนหมาฟัดมา”
ฉันบอกเฮียไปและเริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดให้เฮียฟัง
เฮียเดือด มากกกกกกก
“นังร่าน บังอาจทำน้องสาวสุดที่รักของกุ”
เฮียพูดเสียงสั่น
“^_^ตาย”
กระป๋องน้ำที่อยู่ในมือ ได้กลายเป็นผงไปเรียบร้อย
เฮียเดินไปที่ม.6 แผนกหญิง พร้อมพรรคพวกทั้งหลาย
และมีฉันขี่หลังพี่เติ้ง เพื่อนของเฮียตามมา
“ตัวไหน รู้ตัวว่าทำร้ายน้องกุ ออกมาเดี๋ยวนี้”
เฮียแผดเสียงลั่น
พี่ทุกคน ตัวสั่น กลับเข้าห้องไป
“เร คนไหน ชี้เดะ”
เฮียสั่ง และฉันก็ทำตามอย่างว่าง่าย
ฉันชี้คนที่ทำร้ายฉันร่วมๆ20คนมา
ทั้งหมด นั่งเรียงแถวอยู่ที่พื้น
(ใครนึกไม่ออกให้นึกถึงแถวทหารประมาณนั้นแหละ)
“รู้มั้ย ว่าเมิงเล่นกะน้องใคร”
เฮียตวาด พี่ทุกคนตัวหดเล็กลงในพริบตา
“จำไว้นะ เรอะ น้องพวกกุ ใครทำอะไรน้อง เท่ากะเป็นอริกะพวกกุ เมิงจำไว้”
เฮียพูด ขณะที่ฉันนั่งมอง
“วันนี้ เตรียมร้องไห้ได้เลย เพราะเมิงจะโดนแบบน้องของกุ”
เฮียตวาดครั้งสุดท้าย ก่อนที่พวกนั้น จะกลายเป็นซากศพเช่นเดียวกับฉัน แถมหนักกว่าอีก สะใจดีแท้
“จำไว้”
เสียงของเฮียกรอกหูก่อนที่จะเดินจากไป
ทิ้งไว้เพียงรอยแผลและคราบเลือด
“เจ็บมั้ยเร”
เสียงอันอ่อนโยนของเฮียพูดกับฉัน
เมื่อมาถึงบ้าน เฮียเปลี่ยนเป็นคนละคน
ในเมื่อตอนนี้ แม่ไปเวนิสกับพ่อ
เราสองพี่น้องเลยต้องดูและกันเอง
“เจ็บเดะ ยัยบ้าเอ๊ย เล่นเรซะน่วมเลย”
ฉันพูดแล้วมองหน้าเฮีย
เฮียสบตา
ฉันพออ่านออก
ว่ามันมีความหมายมากกว่าพี่น้อง
แต่จะเป็นไปได้อย่างไร
ในเมื่อเราเป็นพี่น้องกัน
ถึงแม้จะคนละสายเลือดก็เถอะ
(เฮียเป็นลูกติดฝ่ายแม่ส่วนเรเป็นลูกติดฝ่ายพ่อ-เดเมทล)
เฮียกับฉันสบตากันนานมาก
ก่อนที่เฮียจะโน้มตัวลงมาประทับรอยที่ริมฝีปากฉันด้วยปากของเฮีย
นานมาก...ร่างกายอ่อนแรง ใจสั่น
ตัวเริ่มสั่น หน้าร้อนผ่าว
ฉันเริ่มเคลิบเคลิ้ม
ทั้งที่จิตสำนึกยังบอกอยู่ว่า
‘ผู้ชายคนนี้เป็นพี่ชายนะ’
แต่กายไม่อยู่ในโอวาทของใจ และจิตสำนึก
ไม่สามารถต้านทานได้....
ตาเริ่มพร่ามัว
ลิ้นของเฮียเริ่มสอดเข้ามาทางขอบริมฝีปาก
ก่อนที่เฮียจะเริ่มย้ายมือที่โอบเอวเอาไว้หลวมๆ
มาแถบด้านหน้าบริเวณกระดุม
แล้วเริ่มปลดมันที่ละเม็ดอย่างช้าๆ!
ฉันหลับตาปี๋ น้ำตาเริ่มคลอ
แต่กายก็ไม่สามารถทำอะไรได้อีกอยู่ดี
รางกายอ่อนยวบ..ใจสั่น..หน้าร้อนผ่าว
ตื้ดๆเสียงโทรศัพท์ดัง ขึ้น ช่วยฉันออกมาจากสถานการณ์ที่หนักใจเมื่อกี๊
“โหลๆ”
เฮียถอนปากออกแล้วไปรับโทรศัพท์
ก่อนที่โทรศัพท์จะร่วงลงกับพื้น
“เฮียมีอะไร”
ฉันถามลืมเหตุการณ์เมื่อกี๊ไปสนิท
“เจต โดนรถชน”
เสียงเฮียล่องลอย และสั่น
เราสองคนรีบไปโรงพยาบาล
“หมอ เจตเป็นไงบ้างครับ”
เฮียถามเสียงเป็นกังวลใจ
“ปลอดภัยแล้วครับแต่ต้องให้คนไข้พักสักพัก”
หมอตอบเสียงเรียบเฉย แต่หน้าเฮียปรากฏรอยยิ้มขึ้นทันใด
“โยว่”เฮียกระโดดขึ้นแล้วร้องออกมา ก่อนที่จะกลับเข้าบ้านอีกครั้ง
บ้าน ที่เกิดเหตุสถานการณ์ที่หน้าหนักใจ
ก้าวเข้าบ้าน
สีหน้าก้ถอดออกทันใด
จะให้มองหน้าเฮียได้อย่างไร
ในเมื่อเฮียทำกับเรา...อย่างนั้น
“เรเฮียขอโทษ อย่าจำมันเลยนะ”
เฮียเอ่ยปากก่อนที่จะเดินเข้ามา
หอมแก้มฉันแล้วเดินขึ้นห้องนอนตัวเองไป
“เฮียบ้า”
“ด่าอีกแล้ว”
ฉันคลำแก้มตัวเองตะโกนสุดเสียงก่อนที่จะมีเสียงตอบกับลงมา
ก่อนที่ฉันจะวิ่งขึ้นห้องบ้าง
“เร เรโว้ย”
เสียงดังก้องลั่นบ้าน
เสียงเฮียดังปลุกฉันให้ตื่นขึ้นจากการนอนหลับ
“เร ไปเยี่ยมเจตกัน ชวนจีนไปด้วย”
เฮียชวน
ว้อย..ขี้เกียจชะมัด
“เออเฮียลงไปรอข้างล่าง เรจะอาบน้ำ”
ฉันไล่เฮียลงไปข้างล่าง
ก่อนจะเด้งอาบน้ำแต่งตัว
แล้วโทรชวนยูจีน(แต่เฮียเรียกว่าจีน-เร)
“มาแล้ว”
ฉันทักเฮีย เฮียยืนรออยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์
เออดูดีแฮะ
คิดอะไร......บ้า(ด่าตัวเอง-เร)
“ไปได้แล้วยืนเป็นสากอยู่นั่นแหละ” เฮียเดินมาที่บันไดแล้วจูงแกมลากฉันให้มานั่งมอร์เตอร์ไซค์ไป
แนวเดิม เอาหน้าซุกหลังเฮีย สบายใช้ได้
แฮ่ๆ หลังเฮียนิ่มเหมือนกัน แบบเดิม
หลับ
กรรม.....
ตื่นอีกทีป้ายหราอยู่ ร.พ....(ขอสงวนนาม เปล่าหรอก นึกชื่อไม่ออกอะ-เดเมเทล)
“คืนชีพแล้วเรอะ”
เฮียถามแบบเดิม
แบบทุกทีที่ฉันหลับคาหลังเฮีย
“ไปกันเหอะ”
ฉันกอดแขนเฮียเดินเข้าไปในโรงบาล
แต่...ไม่ได้สังเกตุหน้าของเฮีย........
“ไอ้เจตเมิงเปนงายวะ”
เราก้าวเข้าไปในห้องของพี่เจต
เห็นยูจีนนั่งอยู่ขอบเตียง ดูทีวี
“เจ็บว่ะ แม่งขับรถไม่ดูเลย”
พี่เจตบ่นเสียงแหบๆ
ฉันเดินตรงไปนั่งคุยกับยูจีน
นั่งคุยไปเรื่อยๆ จนใกล้จะเที่ยง
“เรกลับกันเหอะ”
เฮียชวน
ฉันบอกลายูจีนและพี่เจต
ก่อนจะนั่งรถออกไป
เหมือนเดิม
หลับค่ะ....
“ตื่นๆเร”
ใครปลุกฉานวะ
“อืม”
ไม่ตื่น...
นิ่ง หลับสนิท
(ใช้พื้นที่เปลืองจัง-เดเมเทล)
“อุ๊บ”
พูดไม่ได้
ผีอำ
ก่อนที่จะลืมตา นั่นคือความคิดของฉันแต่พอลืมตาผิดมหันต์!!!!
เฮียประกบปากฉันอีกแล้ว
“อื้อ”
ฉันพยายามขัดขืน
แล้วเฮียก็ผละออกไป
“คืนชีพแล้วเรอะ”
เฮียพูดหน้าตาเฉย
แต่ฉันหน้าแดงไปแล้ว เย่....
(ดีใจทำไม-เดเมเทล)
“เข้าบ้าน”
อยากนอนจางงงง
พอย่างก้าวเข้ามาที่บ้านฉันก็รีบทิ้งตัวลงบนโซฟา
แล้วหลับมันตรงนั้นแหละน้ำเนิ้มไม่อาบ
บอกแล้วไง ว่าฉันมักง่าย
แต่ตอนนั้นเรหลับไปแล้ว
จึงไม่เห็นสายตาคู่หนึ่ง ที่จ้องมองเธอ ด้วยความผิดหวัง
เพราะความรัก ที่เป็นไปไม่ได้.....
“อืม เที่ยง นอนยาวดีแท้”
(วันนี้ปิดเทอมแล้ว ความจริงมันปิดมานานแล้วตั้งแต่โดนรุมแหละค่ะ-เร)
ฉันไม่ได้นอนบนโซฟา
ไม่ได้นอนในห้องของตัวเอง
แต่นอนบนเตียง
เสื้อผ้าถูกเปลี่ยน เป็นเสื้อแขนยาวตัวโคร่งๆกางเกงขาสั้น
นอนบนเตียงขนาดคิงไซส์ ซึ่งเหมือนกันทุกห้อง
คงละเมอ ไปนอนห้องแขก
เสื้อผ้าคงเปลี่ยนเองแล้วจำไม่ได้
เมื่อย
.เลยนอนตะแคง
ขาไป
แขนไป
ตัวไป
พรึ่บ! แขนขาพาดบนตัวคนคนหนึ่งหน้าห่างกันไม่ถึงคืบ
“กรี.อุ๊บ”
ไม่กล้ากรี๊ด เพราะรบกวนคนที่นอนอยู่
ได้แต่ถอนมือออกแล้วจำใจนอนต่อไป
อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดวะ
นอน...ต่อ
(ขี้เซาทั้งคู่-เดเมเทล)
“อืม....”
หนักว่ะ
อารัยทับ ผีอำหรอ
บ่ายสาม... ผีบ้าอารัยมาตอนนี้
คงมี.........
“อือ”
เสียงต่ำๆดังขึ้น
เสียงพี่ชาย
นอนกำลังสบายได้ที่
แขนขา กองอยู่บนตัวฉัน
หน้า เกือบติดกัน
ขอบคุณพระเจ้า ฉันขยับไม่ได้
(แล้วขอบคุณเพื่อ-เดเมเทล)
ก็ได้แต่ นอนต่อไป....
ตอนนี้ตื่นมา ตัวเบาหวิว
ไมมีอะไรทับ
เมื่อสามวินาทีก่อน....ขอเน้น สามวิคับท่าน
แต่ตอนนี้
ตัวเฮียทั้งตัว กองอยู่บนตัว
กรรม....
ทำอะไรไม่ได้นอกจาก
นอน....
(อีกแล้ว-เดเมเทล)
สรุป วันนี้จบลงด้วยการนอนครับท่าน แหะๆ
(เปล่าหรอก คิดไม่ค่อยออกอะค่ะ-เดเมเทล)
หลังจากเมื่อวานที่นอนกันข้ามคืน ทำให้ฉันและเฮีย ตาค้าง....
นอนไม่หลับ
นั่งเล่นในห้องดูหนัง
เปืดแอร์เย็นฉ่ำ
ติดที่....
“ดูแล้วอะเฮีย”
“เรื่องนี้อะ”
ปัญหาคือ หาหนังมาดูไม่เจอ
“เฮียโทรบอกให้เค้าเอามาให้แล้วอะ แต่ยังไม่มาเลย”
เฮียโทรสั่งdvdมา แต่สงสัยจะลืม
“เรไปดูชั้นบนดิ เผื่อมี”
เฮียพูด แต่ ขี้เกียจว่ะ ไม่เอาดูเรื่องเก่ามันละกัน
“ดูๆไปเหอะเฮีย”
ฉันเริ่มรำคาญพี่ชายคนนี้แม้ว่าจะแสนดีก็ตาม
สุดท้าย ก็มาจมปลักกับเรื่องหนึ่ง
เรื่องของพี่ชาย ที่รักน้องสาวตัวเอง
(ใกล้เคียงดีเนอะ-เดเมเทล)
หนุกดีว่ะ ดูไปเรื่อยๆ เริ่มเคลิ้มๆแล้วก็
หลับแต่หลับไม่สนิท ยังพอจะได้ยินอะไรบ้าง
แต่มองไม่เห็น
“เฮียรักเรนะ”
เสียงดังขึ้น สงสัยคงเป็นหนังแหละ
ไม่ได้เอะใจ
ไม่ได้สงสัย
ว่าทำไมนางเอกชื่อเหมือนกุฟะ
เพราะหลับ
สายตาคู่หนึ่งได้แต่จ้องมองหน้าเล็กๆหมือนตุ๊กตา ปากแดงๆ
ทำให้เขากลั้นใจไม่อยู่
ก้มลงไปประทับรอยจูบไว้บนใบหน้าเนียนใส
ก่อนจะลุกไปปิดหนังที่เสียดแทงหัวใจเขา
“อืม....”
ตื่นเช้ามาสดใส
“ติ้ดๆ”
เสียงโทรศัพท์ดัง
เบอร์พี่เจตโชว์อยู่
“อาโหลค่า มีอะไรคะ”
(ไอ้เคนแย่แล้ว เรรีบมาโรงบาลด่วนเลยนะ มันถูกดักตี)
เสียงปลายสายดังออกมา
ฉันแทบช๊อค
รีบวิ่งไป
กะโดดดขึ้นรถแล้ว
ปั่น.......
(งบน้อยเอาจักรยานไปก่อนละกัน-เดเมเทล)
(เหนื่อยเป็นนะเว้ย-เร)
เฮียนอนในไอซียู
ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยแผล
“ใครทำอะไรเฮียคะ”
ฉันถามพี่เติ้งเสียงสั่น
ด้วยความโกรธและช๊อค
“ไอ้เชน มันกลับมาแล้ว”
ทันทีที่ได้ยินชื่อ
ความทรงจำเมื่อวันนั้นก็กลับมา
วันที่ฉันโดนจับ
แล้วเฮียมาช่วย
แต่พอเฮียโดนดักตี
ฉันกลับช่วยอะไรไม่ได้.....
น้ำตาร่วงพรู
ด้วยความเจ็บใจ
แต่...
ทำไมฉันต้องเจ็บขนาดนี้
เพราะเฮียเป็นพี่ชาย
ที่แสนดี..
แค่นั้นหรอ
ไม่ใช่
มันมีอะไรมากกว่านั้น
ตั้งแต่วัน วันที่เฮียมาช่วย
“เร”
ชินตะโกนเรียก
น้ำตาร่วงพรู ซบกับแผ่นอกกว้างของชิน
“ไอ้เชนมันทำพี่ชายของเธอ ใช่มั้ย”
เสียงชินสั่นด้วยความโกรธ
แต่ฉันไม่ตอบ ได้แต่ร้องไห้
จนหมอออกมา ทุกคนกรูกันไป
สภาพ
เหมือนไปรบกับพม่ามาทำให้หมอผงะไปเล็กน้อย
แต่ก็ตอบคำถามที่พวกเรายิงถามไปอย่างกลัวๆ
เพราะจากหน้าตาของพวกเรา
หมอบอกว่า
เฮียถูกฟาดที่หน้า
เย็บ40เข็ม
หัวและตาแตก
เลือดคั่งที่ตา.....
ฟีลเดิม
น้ำตาไหล
เลือดออกทางจมูกและปาก
เข้าโรงบาลอีกคน
คืนชีพออกมา2วันให้หลัง
น้ำตายังไหลอยู่
เดินออกจากห้องไปห้องของเฮีย
เฮียนอนสติอยู่บนเตียง
ฉันเดินไปยืนข้างๆ
เอามือลูบหน้าของเฮีย
หน้าที่มีรอยแผล
ตามีรอยสีม่วงเป็นปื้นจางๆ
ขอบหน้าผากและหางตามีรอยเย็บเป็นแนว
ฟีลเดิมอีกแล้ว
น้ำตาไหลอาบแก้ม
มันหน้าเศร้านี่หว่า
มีมือค่อยๆเอื้อมมาโอบไว้หลวมๆ
ทำให้ตัวขอฉันขยับต่ำลงไป
จะใครซะอีก
ไอ้คนที่นอนบนเตียงอะ
ห่างแค่เพียงเอื้อมมือ
แต่มันคือแสนไกล
ยิ่งเทอเป็นเหมือนเพื่อนสนิท
ยิ่งไม่มีสิทธจะบอกไป
ว่ารักเธอ.....
(หาเพลงเกี่ยวกับเรื่องทำนองนี้นี้ไม่ได้ เพลงนี้เปิดมาพอดี ฟีลเดียวกัน ใช้แทนไปก่อนนะคะ-เดเมเทล)
ปัง!!!ตามมาด้วยเสียงตะโกน
“เพ่ผมมาแล้ว”
เสียงของชลมาแล้ว
“เฮ้ยเมิงออกไป”
เฮียตะโกนแต่มือยังโอบตัวฉันอยู่
“คร้าบ”
ไอ้เวรชล ทามมายทำกะเพื่อนเมิงอย่างนี้
น้ำตาแทบไหล
ไม่ต้องเชื่อฟังเฮียมากขนาดนั้นก็ได้
“เฮียปล่อย”
ฉันพูดแต่แขนที่โอบเอาไว้นั้นกลับกระชับขึ้น
ทำให้ฉันล้มตึงลงไป แต่โชคดีที่เอามือยันไว้
ไม่งั้น ร่วงแน่..
“คิดถึงจังเลยเร”
เฮียพูดเสียงอ่อนเสียงหวาน
พร้อมส่งยิ้มละลายโลกมาให้
“ถ้าเรไม่ใช่น้องสาวเรคงจะหลงเฮียไปแล้วนะ”
ฉันพูดด้วยเสียงอ่อนใจปนผิดหวัง
“ก็อย่าคิดว่าเป็นน้องสาวสิ”
เฮียพูดขึ้นเหมือนฉันไม่ใช่น้องสาวก่อนจะเอี้ยวตัวขึ้นมาเอาคางเกยไหล่ฉันเอาไว้ก่อนจะกอดฉัน
อบอุ่น
ใจเริ่มลอย
เคลิ้ม
(แต่ไม่หลับแล้วนะ-เร)
(เออน่า-เดเมเทล)
“เฮ้อ ถาเรไม่ใช่น้องเฮียก็ดีสิ”
ฉันพูดด้วยความเสียดาย
ก็จริงนี่หว่า
ใครได้มาเป็นพี่สะใภ้ฉันนะ โชคดีที่สุดเลย
ก็เฮียทั้งรูปหล่อ พ่อก็มั่งมี แถมนิสัยดีอีก
แต่ฉันไม่ได้เป็นผู้หญิงคนนั้น
แต่กลับคนที่โชคดีกว่าตรงที่
ฉันสามารถอยู่กับคนที่ฉันรักได้ตลอด
“นั่นสินะ ถ้าเรารักกันแบบไม่ใช่พี่น้องได้ก็ดีสินะ”
เฮียพูดเสียงร่าเริงแต่แฝงไปด้วยความเศร้าและเสียดาย
เคนและเรเริ่มเปิดรับความรู้สึกของกันและกัน แต่ติดที่คำว่าพี่น้องทำให้มีกำแพงกั้น
กำแพงจิตใจ
..
(ซึ้งดีเนอะเดเมเทล -เร)
(เก่งเว้ย -เดเมเทล)
(หลงตัวเอง -เร)
(เดี๋ยวแต่งให้หล่อนตายซะนี่ -เดเมเทล)
(อย่านะยัยคนไม่มีเหตุผล -เร)
(อย่าสนใจพวกรักพี่ตัวเองเลยค่ะ -เดเมเทล)
(ใครแต่งล่ะยะ -เร)
(เอาหล่อนมาเป็นนางเอกก็ดีแล้วย่ะ -เดเมเทล)
(เหมือนกันแหละ -เร)
(เชอะ -เร/เดเมเทล)
"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""" เปนเรื่องที่เคยเเต่งว้ในเเจ่มใสอะค่ะใช้นามปากกาว่าเดเมเทล
ซะงั้น
รู้ตัวอีกที นอนอยู่ที่บ้าน
แต่ บ้านใคร ไม่รุ้...
“ยัยขี้โรค คืนชีพแล้วเรอะ”
เสียงดังขึ้น พร้อมกับอาหารเช้า
รุ้แร้ว ว่าบ้านใคร
“เออ แล้วนี่บ้านนายหรอ”
หรูใช้ได้เลย ว้าว
“นี่จูบฉันนี่ทำเธอเคลิ้มขนากนั้นเลยเรอะ”
เสียงเยาะเย้า
เล่นเอาฉันหน้าแดง
ขว้างปาหมอนใส่
ให้ตายเหอะ ฉันโดนแน่ๆ
“ไงเร ปายหนายมา”
เสียงยานคาง และร่างคน
ที่คลานลงมาจากชั้นสอง
เน้นว่าคลาน ไม่ใช่เดิน
ลงมาทีละคน
เฮีย...พี่เจต...พี่เติ้ง....ชล
และคนอื่นๆอีกมากมาย
ดี
จะปลุกเดี๋ยวนี้แหละ
“เฮีย เรโดนลักพาตัว”
ได้ผลทันตา
สภาพที่คลานลงมา ลุกขึ้นทันที
“ใครหน้าไหนมันกล้าลักตัวเรไป”
เฮียยิงคำถามใส่ ดีเลย จะได้แก้แค้นไปด้วเลย บังอาจมาพาฉันไปนอนบ้าน1คืน
ตายแน่...
“เฮีย คนที่ชื่อชิน จูบเร แล้วก็ลักพาตัวไปเลย”
ฉันพูดชัดถ้อยชัดคำ เพื่อยั่วอารมณ์เฮีย
แห่ๆ เฮียเดือดแล้ว งานนี้มีเฮคับท่าน เย้ๆ
“ไอ้(เซ็นเซอร์) เมิงจูบน้องกุ ขนาดกุยังไม่กล้าเลย”
เสียงเฮียตะโกน ยังไงกานแน่วะ
จะไปลุยคน
เฮียแกก็แต่งซะหล่อเต็มที่
สรุปเอาไงกันแน่เนี่ย...
เหตุการณ์ทุกอย่าง อยู่ในสายตาฉัน ซึ่งมองด้วยความสะใจ
วันจันทร์ไปโรงเรียนพร้อมกับกลุ่มของเฮียเช่นเคย
หนุกหนาน
แต่พอไปโรงเรียน
ผู้หญิงทุกคนมองหน้าด้วยสายอาฆาต
ตามมาด้วยเสียงซุบซิบประมาณว่า
“กรี๊ดยัยนั่นมันเป็นใคร บังอาจมานั่งซอนท้ายสุดที่รักของชั้นกรี๊สๆ”
มันหน้าภูมิใจตรงไหน
แค่นั่งแมงกาไซพี่มาเนี่ยนะ
พอดีว่า เป็นพวกชอบหาเรื่องใส่ตัว
ก็เลย เอาหน้าหนาๆ ฝังลงไปในหลังเฮียซ้า แล้วไม่พอ
กอดมันด้วยเลย เพื่อความสะใจ
“กรี๊สๆๆๆๆ”เสียงกรีดร้องโหยหวนของหญิงสาวที่หมายปองเฮีย
“อยู่นานๆนะเร เฮียชอบ นิ่มดี”
เสียงเฮียที่แสนใสซื่อพูดขึ้น โดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่
น่าสงสารดีแท้
เฮียลงมาส่งที่ห้อง
ระหว่างทาง
ชายหนุ่มทั้งหลายแหล่มองมาทางฉัน
แต่ถูกเฮียแง่งไปเรียบร้อย
ดีเหมือนกัน หนุกดี
“ริ ชลมาแล้ว”
ชลรีบวิ่งมาหาริ ซึ่งเป็นแฟนกันไปเรียบร้อย
เออหวานดีแท้คู่นี้
ฉันได้แต่มอง และได้แต่หวัง ว่าหากคนที่ฉันชอบ
คงจะเป็นคนที่เฮียยอมรับ....
กิ๊งก่องๆ หลังจากนั้น13ตะไลก็ไม่มาอีกเลย
“เรอยู่ไหน”
เสียงสาวใหญ่ดังขึ้น
เจ้แกมาอีกแล้ว
มาหาเรื่องอีกแล้ว
คราวนี้ คงต้องไปอย่างเดียวแล้วล่ะ
“ค่ะพี่”
ห้องน้ำ คือสถานที่ที่เจ้แกพาฉันไป
และ โดนอีกแล้ว
เหมือนสามปีที่แล้วที่ฉันทำคนอื่น
กรรมตามสนอง
โดนรุมอีกแล้ว
นอนในห้องน้ำที่ยังไม่ได้ทำความสะอาด
หน้าตาและตัวมีแต่รอยการถูกทำร้าย
ผมเผ้ายุ่งเหยิง
ร่างกายขยับไม่ได้
ถ้าเป็นคนอื่น
คงจะคิดว่าสนุกและสมเพช
แต่ถ้าเป็นคุณ
คงไม่สนุก
แล้วถ้ามันเกิดกับฉันละ
.....................ไม่สนุกแล้ว......................
ฉันถ่อสังขารที่มีลักษณะ
ตาบวมใกล้ปิด
เลือดไหลซึมตามรอยแผล
ใบหน้ามีรอยมือและเท้า
ผมหลุดลุ่ย
เสื้อผ้าขาดวิ่น(ไม่มากหรอก)
เดินไปหาเฮียที่หน้าบัลลังค์
“เฮ้ยเรแกไปฟัดกะใครมาวะ”
ชลถาม หน้าตาหวาดๆ เพราะเขาเองก็จะโดนด้วยถ้าฉันเป็นอะไรไป ข้อหาที่ดูแลฉันไม่ดี
“เฮียอยู่ไหน”
ฉันถามกลับ ไม่ตอบคำถามใดทั้งสิ้น
“แหล่งกบดานใหม่”
แหล่งกบดานของเฮีย คือใต้โรงยิม อาคาร2
ถ่อสังขารไป
คนมองมากมาย
ไม่ใส่ใจ ตอนนี้คิดอย่างเดียว
นังทุเรศ
^_^ตาย............
“เร...”
เสียงกระป๋องน้ำของเฮียร่วงกราวลงไปกับพื้นเมื่อเห็นสภาพ
“เฮีย เรโดนหมาฟัดมา”
ฉันบอกเฮียไปและเริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดให้เฮียฟัง
เฮียเดือด มากกกกกกก
“นังร่าน บังอาจทำน้องสาวสุดที่รักของกุ”
เฮียพูดเสียงสั่น
“^_^ตาย”
กระป๋องน้ำที่อยู่ในมือ ได้กลายเป็นผงไปเรียบร้อย
เฮียเดินไปที่ม.6 แผนกหญิง พร้อมพรรคพวกทั้งหลาย
และมีฉันขี่หลังพี่เติ้ง เพื่อนของเฮียตามมา
“ตัวไหน รู้ตัวว่าทำร้ายน้องกุ ออกมาเดี๋ยวนี้”
เฮียแผดเสียงลั่น
พี่ทุกคน ตัวสั่น กลับเข้าห้องไป
“เร คนไหน ชี้เดะ”
เฮียสั่ง และฉันก็ทำตามอย่างว่าง่าย
ฉันชี้คนที่ทำร้ายฉันร่วมๆ20คนมา
ทั้งหมด นั่งเรียงแถวอยู่ที่พื้น
(ใครนึกไม่ออกให้นึกถึงแถวทหารประมาณนั้นแหละ)
“รู้มั้ย ว่าเมิงเล่นกะน้องใคร”
เฮียตวาด พี่ทุกคนตัวหดเล็กลงในพริบตา
“จำไว้นะ เรอะ น้องพวกกุ ใครทำอะไรน้อง เท่ากะเป็นอริกะพวกกุ เมิงจำไว้”
เฮียพูด ขณะที่ฉันนั่งมอง
“วันนี้ เตรียมร้องไห้ได้เลย เพราะเมิงจะโดนแบบน้องของกุ”
เฮียตวาดครั้งสุดท้าย ก่อนที่พวกนั้น จะกลายเป็นซากศพเช่นเดียวกับฉัน แถมหนักกว่าอีก สะใจดีแท้
“จำไว้”
เสียงของเฮียกรอกหูก่อนที่จะเดินจากไป
ทิ้งไว้เพียงรอยแผลและคราบเลือด
“เจ็บมั้ยเร”
เสียงอันอ่อนโยนของเฮียพูดกับฉัน
เมื่อมาถึงบ้าน เฮียเปลี่ยนเป็นคนละคน
ในเมื่อตอนนี้ แม่ไปเวนิสกับพ่อ
เราสองพี่น้องเลยต้องดูและกันเอง
“เจ็บเดะ ยัยบ้าเอ๊ย เล่นเรซะน่วมเลย”
ฉันพูดแล้วมองหน้าเฮีย
เฮียสบตา
ฉันพออ่านออก
ว่ามันมีความหมายมากกว่าพี่น้อง
แต่จะเป็นไปได้อย่างไร
ในเมื่อเราเป็นพี่น้องกัน
ถึงแม้จะคนละสายเลือดก็เถอะ
(เฮียเป็นลูกติดฝ่ายแม่ส่วนเรเป็นลูกติดฝ่ายพ่อ-เดเมทล)
เฮียกับฉันสบตากันนานมาก
ก่อนที่เฮียจะโน้มตัวลงมาประทับรอยที่ริมฝีปากฉันด้วยปากของเฮีย
นานมาก...ร่างกายอ่อนแรง ใจสั่น
ตัวเริ่มสั่น หน้าร้อนผ่าว
ฉันเริ่มเคลิบเคลิ้ม
ทั้งที่จิตสำนึกยังบอกอยู่ว่า
‘ผู้ชายคนนี้เป็นพี่ชายนะ’
แต่กายไม่อยู่ในโอวาทของใจ และจิตสำนึก
ไม่สามารถต้านทานได้....
ตาเริ่มพร่ามัว
ลิ้นของเฮียเริ่มสอดเข้ามาทางขอบริมฝีปาก
ก่อนที่เฮียจะเริ่มย้ายมือที่โอบเอวเอาไว้หลวมๆ
มาแถบด้านหน้าบริเวณกระดุม
แล้วเริ่มปลดมันที่ละเม็ดอย่างช้าๆ!
ฉันหลับตาปี๋ น้ำตาเริ่มคลอ
แต่กายก็ไม่สามารถทำอะไรได้อีกอยู่ดี
รางกายอ่อนยวบ..ใจสั่น..หน้าร้อนผ่าว
ตื้ดๆเสียงโทรศัพท์ดัง ขึ้น ช่วยฉันออกมาจากสถานการณ์ที่หนักใจเมื่อกี๊
“โหลๆ”
เฮียถอนปากออกแล้วไปรับโทรศัพท์
ก่อนที่โทรศัพท์จะร่วงลงกับพื้น
“เฮียมีอะไร”
ฉันถามลืมเหตุการณ์เมื่อกี๊ไปสนิท
“เจต โดนรถชน”
เสียงเฮียล่องลอย และสั่น
เราสองคนรีบไปโรงพยาบาล
“หมอ เจตเป็นไงบ้างครับ”
เฮียถามเสียงเป็นกังวลใจ
“ปลอดภัยแล้วครับแต่ต้องให้คนไข้พักสักพัก”
หมอตอบเสียงเรียบเฉย แต่หน้าเฮียปรากฏรอยยิ้มขึ้นทันใด
“โยว่”เฮียกระโดดขึ้นแล้วร้องออกมา ก่อนที่จะกลับเข้าบ้านอีกครั้ง
บ้าน ที่เกิดเหตุสถานการณ์ที่หน้าหนักใจ
ก้าวเข้าบ้าน
สีหน้าก้ถอดออกทันใด
จะให้มองหน้าเฮียได้อย่างไร
ในเมื่อเฮียทำกับเรา...อย่างนั้น
“เรเฮียขอโทษ อย่าจำมันเลยนะ”
เฮียเอ่ยปากก่อนที่จะเดินเข้ามา
หอมแก้มฉันแล้วเดินขึ้นห้องนอนตัวเองไป
“เฮียบ้า”
“ด่าอีกแล้ว”
ฉันคลำแก้มตัวเองตะโกนสุดเสียงก่อนที่จะมีเสียงตอบกับลงมา
ก่อนที่ฉันจะวิ่งขึ้นห้องบ้าง
“เร เรโว้ย”
เสียงดังก้องลั่นบ้าน
เสียงเฮียดังปลุกฉันให้ตื่นขึ้นจากการนอนหลับ
“เร ไปเยี่ยมเจตกัน ชวนจีนไปด้วย”
เฮียชวน
ว้อย..ขี้เกียจชะมัด
“เออเฮียลงไปรอข้างล่าง เรจะอาบน้ำ”
ฉันไล่เฮียลงไปข้างล่าง
ก่อนจะเด้งอาบน้ำแต่งตัว
แล้วโทรชวนยูจีน(แต่เฮียเรียกว่าจีน-เร)
“มาแล้ว”
ฉันทักเฮีย เฮียยืนรออยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์
เออดูดีแฮะ
คิดอะไร......บ้า(ด่าตัวเอง-เร)
“ไปได้แล้วยืนเป็นสากอยู่นั่นแหละ” เฮียเดินมาที่บันไดแล้วจูงแกมลากฉันให้มานั่งมอร์เตอร์ไซค์ไป
แนวเดิม เอาหน้าซุกหลังเฮีย สบายใช้ได้
แฮ่ๆ หลังเฮียนิ่มเหมือนกัน แบบเดิม
หลับ
กรรม.....
ตื่นอีกทีป้ายหราอยู่ ร.พ....(ขอสงวนนาม เปล่าหรอก นึกชื่อไม่ออกอะ-เดเมเทล)
“คืนชีพแล้วเรอะ”
เฮียถามแบบเดิม
แบบทุกทีที่ฉันหลับคาหลังเฮีย
“ไปกันเหอะ”
ฉันกอดแขนเฮียเดินเข้าไปในโรงบาล
แต่...ไม่ได้สังเกตุหน้าของเฮีย........
“ไอ้เจตเมิงเปนงายวะ”
เราก้าวเข้าไปในห้องของพี่เจต
เห็นยูจีนนั่งอยู่ขอบเตียง ดูทีวี
“เจ็บว่ะ แม่งขับรถไม่ดูเลย”
พี่เจตบ่นเสียงแหบๆ
ฉันเดินตรงไปนั่งคุยกับยูจีน
นั่งคุยไปเรื่อยๆ จนใกล้จะเที่ยง
“เรกลับกันเหอะ”
เฮียชวน
ฉันบอกลายูจีนและพี่เจต
ก่อนจะนั่งรถออกไป
เหมือนเดิม
หลับค่ะ....
“ตื่นๆเร”
ใครปลุกฉานวะ
“อืม”
ไม่ตื่น...
นิ่ง หลับสนิท
(ใช้พื้นที่เปลืองจัง-เดเมเทล)
“อุ๊บ”
พูดไม่ได้
ผีอำ
ก่อนที่จะลืมตา นั่นคือความคิดของฉันแต่พอลืมตาผิดมหันต์!!!!
เฮียประกบปากฉันอีกแล้ว
“อื้อ”
ฉันพยายามขัดขืน
แล้วเฮียก็ผละออกไป
“คืนชีพแล้วเรอะ”
เฮียพูดหน้าตาเฉย
แต่ฉันหน้าแดงไปแล้ว เย่....
(ดีใจทำไม-เดเมเทล)
“เข้าบ้าน”
อยากนอนจางงงง
พอย่างก้าวเข้ามาที่บ้านฉันก็รีบทิ้งตัวลงบนโซฟา
แล้วหลับมันตรงนั้นแหละน้ำเนิ้มไม่อาบ
บอกแล้วไง ว่าฉันมักง่าย
แต่ตอนนั้นเรหลับไปแล้ว
จึงไม่เห็นสายตาคู่หนึ่ง ที่จ้องมองเธอ ด้วยความผิดหวัง
เพราะความรัก ที่เป็นไปไม่ได้.....
“อืม เที่ยง นอนยาวดีแท้”
(วันนี้ปิดเทอมแล้ว ความจริงมันปิดมานานแล้วตั้งแต่โดนรุมแหละค่ะ-เร)
ฉันไม่ได้นอนบนโซฟา
ไม่ได้นอนในห้องของตัวเอง
แต่นอนบนเตียง
เสื้อผ้าถูกเปลี่ยน เป็นเสื้อแขนยาวตัวโคร่งๆกางเกงขาสั้น
นอนบนเตียงขนาดคิงไซส์ ซึ่งเหมือนกันทุกห้อง
คงละเมอ ไปนอนห้องแขก
เสื้อผ้าคงเปลี่ยนเองแล้วจำไม่ได้
เมื่อย
.เลยนอนตะแคง
ขาไป
แขนไป
ตัวไป
พรึ่บ! แขนขาพาดบนตัวคนคนหนึ่งหน้าห่างกันไม่ถึงคืบ
“กรี.อุ๊บ”
ไม่กล้ากรี๊ด เพราะรบกวนคนที่นอนอยู่
ได้แต่ถอนมือออกแล้วจำใจนอนต่อไป
อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดวะ
นอน...ต่อ
(ขี้เซาทั้งคู่-เดเมเทล)
“อืม....”
หนักว่ะ
อารัยทับ ผีอำหรอ
บ่ายสาม... ผีบ้าอารัยมาตอนนี้
คงมี.........
“อือ”
เสียงต่ำๆดังขึ้น
เสียงพี่ชาย
นอนกำลังสบายได้ที่
แขนขา กองอยู่บนตัวฉัน
หน้า เกือบติดกัน
ขอบคุณพระเจ้า ฉันขยับไม่ได้
(แล้วขอบคุณเพื่อ-เดเมเทล)
ก็ได้แต่ นอนต่อไป....
ตอนนี้ตื่นมา ตัวเบาหวิว
ไมมีอะไรทับ
เมื่อสามวินาทีก่อน....ขอเน้น สามวิคับท่าน
แต่ตอนนี้
ตัวเฮียทั้งตัว กองอยู่บนตัว
กรรม....
ทำอะไรไม่ได้นอกจาก
นอน....
(อีกแล้ว-เดเมเทล)
สรุป วันนี้จบลงด้วยการนอนครับท่าน แหะๆ
(เปล่าหรอก คิดไม่ค่อยออกอะค่ะ-เดเมเทล)
หลังจากเมื่อวานที่นอนกันข้ามคืน ทำให้ฉันและเฮีย ตาค้าง....
นอนไม่หลับ
นั่งเล่นในห้องดูหนัง
เปืดแอร์เย็นฉ่ำ
ติดที่....
“ดูแล้วอะเฮีย”
“เรื่องนี้อะ”
ปัญหาคือ หาหนังมาดูไม่เจอ
“เฮียโทรบอกให้เค้าเอามาให้แล้วอะ แต่ยังไม่มาเลย”
เฮียโทรสั่งdvdมา แต่สงสัยจะลืม
“เรไปดูชั้นบนดิ เผื่อมี”
เฮียพูด แต่ ขี้เกียจว่ะ ไม่เอาดูเรื่องเก่ามันละกัน
“ดูๆไปเหอะเฮีย”
ฉันเริ่มรำคาญพี่ชายคนนี้แม้ว่าจะแสนดีก็ตาม
สุดท้าย ก็มาจมปลักกับเรื่องหนึ่ง
เรื่องของพี่ชาย ที่รักน้องสาวตัวเอง
(ใกล้เคียงดีเนอะ-เดเมเทล)
หนุกดีว่ะ ดูไปเรื่อยๆ เริ่มเคลิ้มๆแล้วก็
หลับแต่หลับไม่สนิท ยังพอจะได้ยินอะไรบ้าง
แต่มองไม่เห็น
“เฮียรักเรนะ”
เสียงดังขึ้น สงสัยคงเป็นหนังแหละ
ไม่ได้เอะใจ
ไม่ได้สงสัย
ว่าทำไมนางเอกชื่อเหมือนกุฟะ
เพราะหลับ
สายตาคู่หนึ่งได้แต่จ้องมองหน้าเล็กๆหมือนตุ๊กตา ปากแดงๆ
ทำให้เขากลั้นใจไม่อยู่
ก้มลงไปประทับรอยจูบไว้บนใบหน้าเนียนใส
ก่อนจะลุกไปปิดหนังที่เสียดแทงหัวใจเขา
“อืม....”
ตื่นเช้ามาสดใส
“ติ้ดๆ”
เสียงโทรศัพท์ดัง
เบอร์พี่เจตโชว์อยู่
“อาโหลค่า มีอะไรคะ”
(ไอ้เคนแย่แล้ว เรรีบมาโรงบาลด่วนเลยนะ มันถูกดักตี)
เสียงปลายสายดังออกมา
ฉันแทบช๊อค
รีบวิ่งไป
กะโดดดขึ้นรถแล้ว
ปั่น.......
(งบน้อยเอาจักรยานไปก่อนละกัน-เดเมเทล)
(เหนื่อยเป็นนะเว้ย-เร)
เฮียนอนในไอซียู
ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยแผล
“ใครทำอะไรเฮียคะ”
ฉันถามพี่เติ้งเสียงสั่น
ด้วยความโกรธและช๊อค
“ไอ้เชน มันกลับมาแล้ว”
ทันทีที่ได้ยินชื่อ
ความทรงจำเมื่อวันนั้นก็กลับมา
วันที่ฉันโดนจับ
แล้วเฮียมาช่วย
แต่พอเฮียโดนดักตี
ฉันกลับช่วยอะไรไม่ได้.....
น้ำตาร่วงพรู
ด้วยความเจ็บใจ
แต่...
ทำไมฉันต้องเจ็บขนาดนี้
เพราะเฮียเป็นพี่ชาย
ที่แสนดี..
แค่นั้นหรอ
ไม่ใช่
มันมีอะไรมากกว่านั้น
ตั้งแต่วัน วันที่เฮียมาช่วย
“เร”
ชินตะโกนเรียก
น้ำตาร่วงพรู ซบกับแผ่นอกกว้างของชิน
“ไอ้เชนมันทำพี่ชายของเธอ ใช่มั้ย”
เสียงชินสั่นด้วยความโกรธ
แต่ฉันไม่ตอบ ได้แต่ร้องไห้
จนหมอออกมา ทุกคนกรูกันไป
สภาพ
เหมือนไปรบกับพม่ามาทำให้หมอผงะไปเล็กน้อย
แต่ก็ตอบคำถามที่พวกเรายิงถามไปอย่างกลัวๆ
เพราะจากหน้าตาของพวกเรา
หมอบอกว่า
เฮียถูกฟาดที่หน้า
เย็บ40เข็ม
หัวและตาแตก
เลือดคั่งที่ตา.....
ฟีลเดิม
น้ำตาไหล
เลือดออกทางจมูกและปาก
เข้าโรงบาลอีกคน
คืนชีพออกมา2วันให้หลัง
น้ำตายังไหลอยู่
เดินออกจากห้องไปห้องของเฮีย
เฮียนอนสติอยู่บนเตียง
ฉันเดินไปยืนข้างๆ
เอามือลูบหน้าของเฮีย
หน้าที่มีรอยแผล
ตามีรอยสีม่วงเป็นปื้นจางๆ
ขอบหน้าผากและหางตามีรอยเย็บเป็นแนว
ฟีลเดิมอีกแล้ว
น้ำตาไหลอาบแก้ม
มันหน้าเศร้านี่หว่า
มีมือค่อยๆเอื้อมมาโอบไว้หลวมๆ
ทำให้ตัวขอฉันขยับต่ำลงไป
จะใครซะอีก
ไอ้คนที่นอนบนเตียงอะ
ห่างแค่เพียงเอื้อมมือ
แต่มันคือแสนไกล
ยิ่งเทอเป็นเหมือนเพื่อนสนิท
ยิ่งไม่มีสิทธจะบอกไป
ว่ารักเธอ.....
(หาเพลงเกี่ยวกับเรื่องทำนองนี้นี้ไม่ได้ เพลงนี้เปิดมาพอดี ฟีลเดียวกัน ใช้แทนไปก่อนนะคะ-เดเมเทล)
ปัง!!!ตามมาด้วยเสียงตะโกน
“เพ่ผมมาแล้ว”
เสียงของชลมาแล้ว
“เฮ้ยเมิงออกไป”
เฮียตะโกนแต่มือยังโอบตัวฉันอยู่
“คร้าบ”
ไอ้เวรชล ทามมายทำกะเพื่อนเมิงอย่างนี้
น้ำตาแทบไหล
ไม่ต้องเชื่อฟังเฮียมากขนาดนั้นก็ได้
“เฮียปล่อย”
ฉันพูดแต่แขนที่โอบเอาไว้นั้นกลับกระชับขึ้น
ทำให้ฉันล้มตึงลงไป แต่โชคดีที่เอามือยันไว้
ไม่งั้น ร่วงแน่..
“คิดถึงจังเลยเร”
เฮียพูดเสียงอ่อนเสียงหวาน
พร้อมส่งยิ้มละลายโลกมาให้
“ถ้าเรไม่ใช่น้องสาวเรคงจะหลงเฮียไปแล้วนะ”
ฉันพูดด้วยเสียงอ่อนใจปนผิดหวัง
“ก็อย่าคิดว่าเป็นน้องสาวสิ”
เฮียพูดขึ้นเหมือนฉันไม่ใช่น้องสาวก่อนจะเอี้ยวตัวขึ้นมาเอาคางเกยไหล่ฉันเอาไว้ก่อนจะกอดฉัน
อบอุ่น
ใจเริ่มลอย
เคลิ้ม
(แต่ไม่หลับแล้วนะ-เร)
(เออน่า-เดเมเทล)
“เฮ้อ ถาเรไม่ใช่น้องเฮียก็ดีสิ”
ฉันพูดด้วยความเสียดาย
ก็จริงนี่หว่า
ใครได้มาเป็นพี่สะใภ้ฉันนะ โชคดีที่สุดเลย
ก็เฮียทั้งรูปหล่อ พ่อก็มั่งมี แถมนิสัยดีอีก
แต่ฉันไม่ได้เป็นผู้หญิงคนนั้น
แต่กลับคนที่โชคดีกว่าตรงที่
ฉันสามารถอยู่กับคนที่ฉันรักได้ตลอด
“นั่นสินะ ถ้าเรารักกันแบบไม่ใช่พี่น้องได้ก็ดีสินะ”
เฮียพูดเสียงร่าเริงแต่แฝงไปด้วยความเศร้าและเสียดาย
เคนและเรเริ่มเปิดรับความรู้สึกของกันและกัน แต่ติดที่คำว่าพี่น้องทำให้มีกำแพงกั้น
กำแพงจิตใจ
..
(ซึ้งดีเนอะเดเมเทล -เร)
(เก่งเว้ย -เดเมเทล)
(หลงตัวเอง -เร)
(เดี๋ยวแต่งให้หล่อนตายซะนี่ -เดเมเทล)
(อย่านะยัยคนไม่มีเหตุผล -เร)
(อย่าสนใจพวกรักพี่ตัวเองเลยค่ะ -เดเมเทล)
(ใครแต่งล่ะยะ -เร)
(เอาหล่อนมาเป็นนางเอกก็ดีแล้วย่ะ -เดเมเทล)
(เหมือนกันแหละ -เร)
(เชอะ -เร/เดเมเทล)
"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""" เปนเรื่องที่เคยเเต่งว้ในเเจ่มใสอะค่ะใช้นามปากกาว่าเดเมเทล
ตอนนี้นอนแอ้งแม้งอยู่ที่ไอซียู
พี่ฉันก็เก่งเหมือนกันนะ
แล้วก็รู้ว่า เขาจะถูกจับข้อหาทำร้ายร่างกาย
แล้วก็รู้ว่าพวกพี่เคนเป็นผู้มีอิทธิพลในโรงเรียนแล้วก็รู้อีกว่า (ว้าว พี่ฉันสุดยอดเลย)
พี่เคนกับชิน จะย้ายมาอยู่โรงเรียนเดียวกับฉัน เพราะพ่อสั่งมา เออเป็นงั้นไป ถ้าอย่างนั้น พี่ชายของฉัน ต้องโดนสาวๆกรี๊ดแน่ๆ ก็พี่เคนหน้าตาดีซะขนาดนี้ ว่าแต่ ทำไมชินต้องมาด้วยล่ะ
“แล้วทำไม นายต้องมาอยู่โรงเรียนเดียวกับฉันด้วยล่ะ”
ฉันถามชิน ด้วยความสงสัยก่อนจะได้รับคำตอบที่หน้าตกใจมาก
“เพราะชั้น ชอบเธอ”เขาพูดออกมา
จุดชนวนระเบิดของพี่เคนซึ่งมันใกล้จะระเบิดตั้งแต่ชินเข้ามาแล้ว
“เฮ้ย หมายความว่าไงวะ”พี่เคนคะคอกชิน
พร้อมกระชากคอเสื้อของเขาขึ้นมาจนตัวเขาจะลอย
“หมายความว่าชั้นชอบน้องเรอะเดะคับ”
เขาพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ผิดกับพี่เคนซึ่งหน้าบูดเป็นตูดลิงไปแล้ว
แต่ฉันน่ะสิ นิ่งสนิท อึ้งค่ะ บอกได้คำเดียวว่าอึ้ง
“ไว้วันจันทร์เจอกันนะ”เขาพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะเดินออกไป
พี่ชายฉันโกรธหน้าแดงจนดำไปแล้ว
แสดงว่า เขามีเรื่องบาดหมางกันมานานแล้วแน่ๆ
“เร ถ้ามันชอบเรจริงๆเฮียก็ไม่ว่าอะไรถ้าเรคิดจะคบกับมัน แต่ถ้าเฮียรู้ว่ามันทำเธอเสียใจ พี่จะฆ่ามันนะ” พี่เคนพูดทิ้งท้ายก่อนที่จะเดินออกจากห้องพักไป
แล้วก็มีแขกคนใหม่เข้ามานั่นก็คือพ่อของฉันเอง
“เรของป๋า เป็นอะไรรึเปล่าลูก”พ่อฉันพูดก่อนจะเดินเข้ามากอดฉัน
“ป๋ากับมาเมื่อไรอะคะ”ฉันถามเพราะเมื่อสามวันก่อน พ่อฉันยังอยู่เวนิสอยู่เลย
“พอป๋ารู้ข่าวจากเคน ป๋าก้รีบนั่งคองคอร์ดกลับมาเลย โธ่เรของป๋า”
น้ำตาของฉันและพ่อเริ่มรินไหล
เพราะส่วนใหญ่ เราสองคนไม่ค่อยมีเวลามากมายสำหรับการอยู่ด้วยกันนัก
เรากอดกันอยู่อย่างนั้น จนป๋ากลับไป
วันนี้ เป็นวันที่ฉันกลับบ้านได้แล้ว เย้ๆ คิดถึงบ้านจังเลย
“ยูจีน”ฉันพูดเมื่อเห็น ยูจีน เพื่อนของฉัน
ร้องไห้น้ำตาท่วมบ้านอยู่ ยัยนั่นร้องจนหน้าสวยๆ
อาบไปด้วยน้ำตา ตาบวมเป่งเลย
“เร เป็นอะไรมากมั้ย”
ยูจีนถามพลางวิ่งเข้ามากอดฉันอย่างแนบแน่น
ก่อนที่ไหล่ของฉันจะชื้นแฉะไปด้วยน้ำตา
“ชั้นไม่เป็นอะไรแล้ว”ฉันตอบไป
แต่ยูจีนก็ยังคงเอาหน้าเกยไหล่ฉันแล้วร้องไห้
นี่ถ้าเป็นสามปีก่อนนะใครเห็นน้ำตาของยูจีน ถือว่าคนนั้นโชคดีมาก แต่หลังจากวางมือแล้ว รู้สึกจะน้ำตาตื้นขึ้นนะ
วันนี้ ยูจีนก็ค้างกับฉันซะเลย
“ฮ้าว.....ขี้เกียจจังเว้ย”ฉันตะโกนออกมาด้วยความขี้เกียจ
ส่วนยูจีน ออกไปแล้ว ไปไหนก็ไม่รู้
ฉันคงจะต้องไปโรงเรียนทางเดิม ขี้เกียจลงบันได
“ฮึ้บ ไปแล้วนะคะแม่”ฉันตะโกนบอกเช่นเคย
ฉันกระโดดลงชั้นสองไป
แต่ วันนี้ ลงผิดท่า ปกติเอาขาลงแต่วันนี้
กุเอาหลังลงทำไมวะ????????
“กรี๊ด..........”ฉันกรีดร้องเสียงดังลั่น
ก่อนที่จะตกลงสู่พื้น
ตาย ตายแน่ๆยัยเรเอ๊ย พึ่งออกจากห้องพักผู้ป่วย คราวนี้หล่อนได้เข้าห้องดับจิตแน่ๆ
แต่ ทำไมมันไม่เจ็บล่ะวะ
หรือว่า ยังไม่ทันเจ็บก็จบแล้ว โอไม่
หรือว่า ฉันยังตกไม่ถึงพื้น แต่มันนานแล้วนะ
ฉันกลัวจนไม่กล้าแม้แต่จะลืมตาออกมาดูโลก
“นี่ ลืมตาได้รึยัง”เสียงที่ไม่คุ้นเคยดังขึ้นมา
ฉันลืมตาขึ้นช้าๆ
พบว่า ฉันโดนอุ้ม โดยใครก็ไม่รู้
แต่ใส่เครื่องแบบโรงเรียนของฉัน
แล้วเค้าหนักไหมเนี่ย
“ขอโทษค่ะ........”ฉันพูดพยางค์ที่สามยังไม่ทันจบ
ก็ตามมาด้วยเสียงดังกระหึ่มของมอเตอร์ไซค์ประมาณเป็นสิบคันพร้อมเสียงตะโกนมาเป็นระยะ พอจับใจความได้ว่า
“ไอ้เวร เมิงทำไรน้องสาวกุวะ”
เสียงนี้ มีอยู่เสียงเดียวในโลก
เสียงพี่ชายของฉันเอง
บึ่งแมงกะไซค์มาแต่ไกลเลยเน้อเฮีย
แถมใส่เครื่องแบบโรงเรียนของฉันซะด้วย
“เร มันทำอะไรอะ”เสียงพี่เคนคาดคั้นเอาความจริง
สงสัยอาการหวงน้องกำเริบ
อีกแล้วครับท่าน
“ไม่มีอะไรเฮีย เค้าแค่รับเร เรกระโดดลงมา แต่ลงผิดท่าไปหน่อย”ฉันบอก ทั้งๆที่ยังโดนอุ้มอยู่
“เออ ไอ้ฟาย เมิงปล่อยน้องกุได้ยังวะ”
พี่เคนตะโกนด่าคนที่อุ้มฉันอยู่ ด้วยน้ำเสียงเอาเรื่อง
จนเขาปล่อยฉันลงไปกองกับพื้น
เจ็บก้นชะมัดเลย คนอะไรไม่เป็นสุภาพบุรุษเลย
ฉันตั้งท่าจะเดินออกไป
แต่ถูกพี่เคนคว้าข้อมือเอาไว้ จนตัวฉันกระชาก
“วันนี้เรไปกับเฮีย แล้วเย็นนี้ เฮียจะไปรับ ถ้าเรเป็นอะไรไป เดี๋ยวเฮียโดนป๋าด่า”อ่าว สรุปมันห่วงฉันหรือห่วงตัวเองกันแน่ฟะ
และแล้ว ฉัน เฮีย และพรรคพวกของเฮียทั้งหลาย
ก็ถึงโรงเรียนของฉันโดยสวัสดิภาพ
แต่ไอ้สุภาพบุรุษสุดห่วยคนที่ปล่อยฉันลงไปกองกับพื้นเมื่อเช้าล่ะ
สงสัยโดนพี่เคนฆ่าตายไปแล้ว(นี่เค้าช่วยเธอนะยะ)
“เฮียเรียนห้องไหนอะ”ฉันถามพี่ชาย
แต่รู้สีกว่าจะไม่ต้องแล้วแหละ
เพราะผู้หญิงครึ่งโรงเรียนนำพี่ชายฉันและเพื่อนๆทั้งหลาย ไปแล้ว
เหลือเพียงฉันกับความโดดเดี่ยว
“ว่าไงสาวน้อย”เสียงๆนึงดังขึ้น พร้อมกับเสียงตบไหล่ ฉันหันไปดู
ก็เห็นผู้ชาย หน้าตาดี ชื่อว่าชิน??
“ทำไมหรอ”ฉันไม่ค่อยอยากจะสนทนากับคนคนนี้เลย ให้ตายสิ
“ชั้นหาห้องไม่เจอ ช่วยหน่อยสิ ชั้นอยู่ห้อง13อะ”
โธ่ นึกว่าอะไร ที่แท้ ก็หาห้องไม่เจอ แต่อยู่ห้อง13เรอะ
ห้องเลวสุดๆ ชนิดที่เรียกว่า
พวกเวรตะไลกลับชาติมาเกิดเลยนะ
“นายเดินไปตึกขวามือนะ แล้วก็เลี้ยวซ้าย ห้องขวามือนะ”
ฉันไม่อยากก้าวเข้าไปในห้อง13เลย
สมชื่อเลขอาถรรพ์ฉันเลยได้แต่บอกทาง
“แล้วเธออยูห้องไหนอะ”ชินถามฉัน
“ห้อง8”ฉันพูดก่อนที่จะวิ่งนำหน้าไป
ความคิดที่จะย่างก้าวเข้าไปในห้องอาถรรพ์นั้น
ไม่เคยมีอยู่ในความคิดเลย
ทั้งที่ความจริง
ส่วนมาก พวกนั้นมักจะมามากกว่า
และเป้าหมายของพวกมันก็คือ ฉัน ยูจีน และริ
“เรรดี มาสาย”เสียงอาจารย์จอมโหดประกาศทำให้ยูจีน ริ หันหน้ามาตามเสียง
“โธ่จารย์คะ นาทีเดียวเอง”เสียงฉันอ้อนวอน
แต่อาจารย์จอมโหดไม่ใส่ใจ คะแนนฉัน ไม่เหลือเศษซากเลย
“ไปนั่งที่ไป”เสียงที่ไม่ใยดีฉันดังออกมาเช่นเคย ทั้งที่ความจริง ฉันไม่ผิดเลยสักนิด
“ค่า”เสียงอ่อยๆของฉันดังออกมา ก่อนที่จะลากสังขารของตัวเองมานั่งที่ที่ประจำ นั่นก็คือ หลังสุดของห้อง
กิ๊งก่องๆๆ เสียงกระดิ่งของพักเที่ยงดังขึ้น กระดิ่งแห่งความซวยบังเกิด
“เร ริ ยู อยู่มั้ยจ้า”เสียงของพวกห้อง13ดังขึ้น
และเป็นเช่นเดิมทุกวัน ถึงได้บอกไงว่า กระดิ่งแห่งความซวยบังเกิดแล้ว
เสียงนั่นคือเสียงของ ไอ้เต้ กลุ่ม13ตะไล ชื่อคนในกลุ่มมัน ต.เต่าทั้งนั้น
“ว่าไง เต้”ฉันทักตามปกติ
ฉันไม่เคยพูดกับพวกนั้นดีซักครั้ง
ข้างหลังของฉัน มีริ กับยูจีน ยืนถืออาวุธอยู่
และคนในห้อง ก็มีพวกคนอื่นอยู่
“เร เฮียมาแล้วไปกินข้าวกาน”
ก่อนที่จะมีการปะทะระหว่างฉันกับพวก13ตะไล
เฮียก็มาขัดซะ แถมวิ่งมาแบบไม่ดูทางเลย
“เฮ้ย เมิงใครวะ ยุ่งกะหญิงกุไม”เสียงไอ้เต้ดังขึ้น
มันไม่รู้วะแล้วว่าใครของจริง
ดีเลย จะได้ไม่ต้องปะทะกับพวกมัน
“น้อง พูดกะพี่ดีๆหน่อยนะคับ”
เสียงเพื่อนเฮียดังขึ้น
แน่นอน เฮียโกรธแล้ว
โกรธทั้งเรื่องที่ถูกพูดข้ามหัว
และเรื่องที่ไอ้เต้บอกเฮียว่าฉันเป็นเด็กมัน
“พี่ นี่เด็กผมอะ”มันยังไม่เลิก
มันไม่รู้เลยว่ากำลังพูดข้ามหัวใคร
งานนี้13ตะไลตายหมู่แน่
“น้อง ใครเด็กน้องหรอคับ”
เสียงเฮียชวนขนลุกดังขึ้นมา
ขนาดฉันเองยังกลัวเลย
“สามคนข้างหลังเนี่ยแหละ”
มันยังคงไม่รู้ว่า เฮียน่ะ เป็นไผ
เหอๆตายอนาถแน่
“น้อง ไอ้คนที่ยืนอยู่หลังน้องอะชื่อเร น้องสาวพี่เอง”
เสียงพี่เคนพูดขึ้นมา
“ส่วนน้องที่ชื่อยูจีนน่ะแฟนพี่นะคับ”
เสียงพี่เจต เพื่อนเฮียดังขึ้นมา
พี่เจตคบกะยูจีนมาเดือนกว่าๆแล้ว
ตอนนี้ หน้าของไอ้พวก13ตะไล ซีดไปแล้ว
“ส่วนริว่าที่แฟนกุว่ะ”
เสียงของ ชลรุ่นน้องที่สนิทที่สุดของพี่เคนพูดขึ้น
เขาอายุเท่าฉันเลย
เขาเคยเจอริที่บ้านฉันหลายๆครั้งแต่ก็ไม่คิดว่า
ชลจะชอบริ
และตอนนี้ พวกตะไล
ได้ลงไปกองเรียบร้อยทั้ง13คนอย่างว่าง่าย
จากนั้น ฉันและพวกพี่ๆไปกินข้าวกัน
ฉันพึ่งรู้ว่า ชลอยู่ห้องเดียวกับฉัน
แต่ เมื่อเช้า มาสาย เลยไม่เข้าห้องมานซะเลย
แป่วววว
อืม...เหตุผล
แต่ชลกับริ ก็กำลังจะเป็นแฟนกัน
ส่วนยูจีน ก็เป็นแฟนพี่เจตอยู่แล้ว
ส่วนเราเรอะ เหอะ
ว่างเปล่า
ว่างเปล่า
และว่างเปล่า
“ยัยขี้โรค”
เสียงดังขึ้นข้างหลัง
เฮียเริ่มตาขวาง
ทั้งกลุ่มเริ่มมีอารมณ์
หันหลังไป
เจอกับชิน
ซึ่ง นอนอยู่ที่พื้น
โดยมีเฮียยืนอยู่
เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นภายในเวลาครึ่งนาที
เร็วโคดดดดดดดดด
“ไอ้ชิน”
เฮียพูดเสียงเย็นยะเยือก
ทุกคน ขนลุก
“คร้าบพี่ชาย”
พูดหน้าตาเฉย
เฮียเริ่ม รมณ์บ่จอย
“ไคพี่เมิงวะ”
เฮียรมณ์บ่จอยแล้ว
ชินลงไปนอนอีกรอบแล้ว
พวกเราเดินออกไป ไม่มีใครใยดี
เหตุการณ์ทุกอย่างเกิด
ภายใน 1อาทิตย์
เร็วดีเนอะคะ คนอ่าน
“เร มานี่เดะ”
เฮียเรียกฉันไปบัลลังค์
เรื่องอารัยจะขึ้นไป
พี่ม.6 อยู่นับสิบ
ตอนนี้ ใส่เกียร์หมาแล้วก็
เผ่นสิค้า.......
“ไว้คุยกานที่บ้านนะเฮีย”
เสียงตะโกนหน้าบัลลังค์
“อารายว้า”
เฮียบ่น แต่สายไปแล้ว
ฉันใส่เกียร์วิ่งมาในห้องแล้ว
ตอนนี้ยังงงอยู่
ว่ากุหนีเฮียทำเพื่อ
“ยูจีน ริ”
ฉันมองหาเพื่อน
แต่รู้สึกจะไม่เจอ
หรือว่ามีเรื่องอารัยอีก
ม่ายรุ้จิ
“อีเรมันอยู่ไหน”
อ่าว เสียงไคฟ้า
“อีเด็กพวกนี้นิ นังคนที่ชื่อเรอยู่ที่ไหน”
เสียงเกรี้ยวกราดดังขึ้น แถมประกาศชื่อฉันปาวๆ
กวาดสายตามองรอบๆห้อง
คิดว่าจะผ่านไปด้วยดี
แต่ สะดุดกึกกะมุมหลังห้อง
เห็นผู้หญิงใส่ชุดม.ปลาย
ยืนสุมหัวกันหลังห้อง
“กรี๊ด”......เสียงกรีดร้อง
ม่ายช่ายเรื่องของฉาน
เตรียมตัวเดินออกจากห้อง
เรื่องแบบนี้ อย่าเสี่ยงเลยท่านผู้อ่าน
ไม่ขำหรอก
“เรช่วยด้วย”
เสียงตะโกนดัง
ฉันคงจะเดินลอยหน้าลอยตาออกไป
แต่ มันดันเป็นเสียงของริ เพื่อนของฉัน
ฉันเลยถอยกลับ
“หล่อนน่ะชื่อเรหรอ”
ยัยพวกนั้นถาม
ดาวสีแดง
ม.6ซะด้วย
มาถึงม.3เรย
“ค่ะ”ฉันตอบด้วยเสียงสั่นๆ
ก็กลัวนี่หว่า
ยัยพวกนั้นย่างสามขุมเข้ามา
ฉันได้แต่เตี๊ยมกับริว่า
ใส่เกียร์หมาแล้ว
เผ่นอีกรอบ.....
ริโดดทางหน้าต่างชั้นสาม
นิสัยเหมือนกันทั้งกลุ่ม
มักง่ายพอๆกัน
ส่วนฉันวิ่งลงมาชั้นล่าง
“ยัยขี้โรค”
คนตะโกน
คงจารุ้ว่าไค
“แฮ่กๆ...มีอะ..แฮ่ก..ไร..แฮ่กๆ”
ฉันถามกลับไป
นายชินเล่าเรื่อง13ตะไลให้ฟัง
ฟังแล้ว ก็สงสานเหมือนกัน
หลังจากที่โดนเฮียไปแล้ว
โดนชลยำอีก ซวย.....
“ถ้าไม่มีฉันไปก่อนนะ”
ฉันบอกลา ก่อนที่จะมีใครลงไปกองกะพื้นอีกรอบ
แต่...มันไม่จบง่ายๆ เพราะหมอนั่นคว้าข้อมือฉันเอาไว้ แล้วประทับริมฝีปากลงไป
อึ้งค่ะ ทำอะไรไม่ได้ ขยับไม่ได้ ก้าวขาไม่ออก เริ่มเคลิ้มแล้วก็หลับ
ซะงั้น
รู้ตัวอีกที นอนอยู่ที่บ้าน
แต่ บ้านใคร ไม่รุ้...
“ยัยขี้โรค คืนชีพแล้วเรอะ”
เสียงดังขึ้น พร้อมกับอาหารเช้า
รุ้แร้ว ว่าบ้านใคร
“เออ แล้วนี่บ้านนายหรอ”
หรูใช้ได้เลย ว้าว
“นี่จูบฉันนี่ทำเธอเคลิ้มขนากนั้นเลยเรอะ”
เสียงเยาะเย้า
เล่นเอาฉันหน้าแดง
ขว้างปาหมอนใส่
ให้ตายเหอะ ฉันโดนแน่ๆ
“ไงเร ปายหนายมา”
เสียงยานคาง และร่างคน
ที่คลานลงมาจากชั้นสอง
เน้นว่าคลาน ไม่ใช่เดิน
ลงมาทีละคน
เฮีย...พี่เจต...พี่เติ้ง....ชล
และคนอื่นๆอีกมากมาย
ดี
จะปลุกเดี๋ยวนี้แหละ
“เฮีย เรโดนลักพาตัว”
ได้ผลทันตา
สภาพที่คลานลงมา ลุกขึ้นทันที
“ใครหน้าไหนมันกล้าลักตัวเรไป”
เฮียยิงคำถามใส่ ดีเลย จะได้แก้แค้นไปด้วเลย บังอาจมาพาฉันไปนอนบ้าน1คืน
ตายแน่...
“เฮีย คนที่ชื่อชิน จูบเร แล้วก็ลักพาตัวไปเลย”
ฉันพูดชัดถ้อยชัดคำ เพื่อยั่วอารมณ์เฮีย
แห่ๆ เฮียเดือดแล้ว งานนี้มีเฮคับท่าน เย้ๆ
“ไอ้(เซ็นเซอร์) เมิงจูบน้องกุ ขนาดกุยังไม่กล้าเลย”
เสียงเฮียตะโกน ยังไงกานแน่วะ
จะไปลุยคน
เฮียแกก็แต่งซะหล่อเต็มที่
สรุปเอาไงกันแน่เนี่ย...
เหตุการณ์ทุกอย่าง อยู่ในสายตาฉัน ซึ่งมองด้วยความสะใจ
วันจันทร์ไปโรงเรียนพร้อมกับกลุ่มของเฮียเช่นเคย
หนุกหนาน
แต่พอไปโรงเรียน
ผู้หญิงทุกคนมองหน้าด้วยสายอาฆาต
ตามมาด้วยเสียงซุบซิบประมาณว่า
“กรี๊ดยัยนั่นมันเป็นใคร บังอาจมานั่งซอนท้ายสุดที่รักของชั้นกรี๊สๆ”
มันหน้าภูมิใจตรงไหน
แค่นั่งแมงกาไซพี่มาเนี่ยนะ
พอดีว่า เป็นพวกชอบหาเรื่องใส่ตัว
ก็เลย เอาหน้าหนาๆ ฝังลงไปในหลังเฮียซ้า แล้วไม่พอ
กอดมันด้วยเลย เพื่อความสะใจ
“กรี๊สๆๆๆๆ”เสียงกรีดร้องโหยหวนของหญิงสาวที่หมายปองเฮีย
“อยู่นานๆนะเร เฮียชอบ นิ่มดี”
เสียงเฮียที่แสนใสซื่อพูดขึ้น โดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่
น่าสงสารดีแท้
เฮียลงมาส่งที่ห้อง
ระหว่างทาง
ชายหนุ่มทั้งหลายแหล่มองมาทางฉัน
แต่ถูกเฮียแง่งไปเรียบร้อย
ดีเหมือนกัน หนุกดี
“ริ ชลมาแล้ว”
ชลรีบวิ่งมาหาริ ซึ่งเป็นแฟนกันไปเรียบร้อย
เออหวานดีแท้คู่นี้
ฉันได้แต่มอง และได้แต่หวัง ว่าหากคนที่ฉันชอบ
คงจะเป็นคนที่เฮียยอมรับ....
กิ๊งก่องๆ หลังจากนั้น13ตะไลก็ไม่มาอีกเลย
“เรอยู่ไหน”
เสียงสาวใหญ่ดังขึ้น
เจ้แกมาอีกแล้ว
มาหาเรื่องอีกแล้ว
คราวนี้ คงต้องไปอย่างเดียวแล้วล่ะ
“ค่ะพี่”
ห้องน้ำ คือสถานที่ที่เจ้แกพาฉันไป
และ โดนอีกแล้ว
เหมือนสามปีที่แล้วที่ฉันทำคนอื่น
กรรมตามสนอง
โดนรุมอีกแล้ว
นอนในห้องน้ำที่ยังไม่ได้ทำความสะอาด
หน้าตาและตัวมีแต่รอยการถูกทำร้าย
ผมเผ้ายุ่งเหยิง
ร่างกายขยับไม่ได้
ถ้าเป็นคนอื่น
คงจะคิดว่าสนุกและสมเพช
แต่ถ้าเป็นคุณ
คงไม่สนุก
แล้วถ้ามันเกิดกับฉันละ
.....................ไม่สนุกแล้ว......................
ฉันถ่อสังขารที่มีลักษณะ
ตาบวมใกล้ปิด
เลือดไหลซึมตามรอยแผล
ใบหน้ามีรอยมือและเท้า
ผมหลุดลุ่ย
เสื้อผ้าขาดวิ่น(ไม่มากหรอก)
เดินไปหาเฮียที่หน้าบัลลังค์
“เฮ้ยเรแกไปฟัดกะใครมาวะ”
ชลถาม หน้าตาหวาดๆ เพราะเขาเองก็จะโดนด้วยถ้าฉันเป็นอะไรไป ข้อหาที่ดูแลฉันไม่ดี
“เฮียอยู่ไหน”
ฉันถามกลับ ไม่ตอบคำถามใดทั้งสิ้น
“แหล่งกบดานใหม่”
แหล่งกบดานของเฮีย คือใต้โรงยิม อาคาร
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ผลงานอื่นๆ ของ ท่อพีวีซี:))
ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ท่อพีวีซี:))
|
ความคิดเห็น