The Darkghostsie
ทั้งที่ภายนอกเหน็บหนาวจนเยือกแข็ง แต่หัวใจของฉันกลับร้อนรุ่มเหมือนไฟสุม ถ้าไม่ฆ่าก็จะถูกฆ่า แม้จะเป็นคน และความตายน่ากลัว ไม่ใช่น่าสงสารแบบเธอ
ผู้เข้าชมรวม
61
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
ผจญภัย แฟนตาซี แอ็คชั่น ความรัก ไซไฟ เอาชีวิตรอด ลึกลับ ไม่ฮาเร็ม ต่อสู้ สงคราม ต่างโลก ดราม่า ปีศาจ
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ตึก! ตึก! ตึก! เสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นน้ำแข็งอย่างระรัว เมื่อได้ยินแล้วสามารถเข้าใจได้ทันทีว่าเจ้าตัวคงหนีหรือไล่ตามอะไรบางอย่างอย่างสุดแรงชีวิตอยู่ แต่ในที่สุดดูเหมือนว่าเจ้าของเสียงฝีเท้านี้คงจะต้องล้มลงอย่างแน่นอนเพราะตอนนี้ ท่อนขาที่เธอใช้วิ่งนั้นหนักอึ้งเหมือนมีลูกตุ้มหนักสิบกิโลมาถ่วงไว้ ทั้งยังดวงตาอันพร่ามัว ที่ต้องเผชิญกับไอน้ำสีหมอกตลอดระยะทางสีขาวกว้างสุดลูกหูลูกตา
แฮ่ก แฮ่ก! แฮ่ก!
ฟุบ! ครืดดดด ! ร่างของหญิงสาวล้มลงไถลไปกับพื้นน้ำแข็ง ที่มีก้อนหินแหลมรูปสามเหลี่ยมอยู่กระจัดกระจายจนทำให้เกิดเสียงเอี๊ยดตามมา บ่งบอกได้ว่าเจ้าตัวคงเจ็บพอควร
ฟูววววววววววววว !! ไม่นานนักดูเหมือนว่าสิ่งที่เธอวิ่งหนีมาตลอด บัดนี้ได้เยื้องย่างเข้ามาใกล้เธอ กลุ่มหมอกสีดำทมิฬขนาดใหญ่ ลอยมาพร้อมกับกลิ่นสาบอันพิลึกชวนให้ขมคอ เมื่อพิจารณาดูแล้วหมอกสีดำทมิฬพวกแท้จริงคือวิญญาณหลายๆตนมารวมกัน ซ้ำยังตาโบ๋ และไร้ฟันสำหรับขบเคี้ยวต่างจากมนุษย์
— หญิงสาวปริศนา —
อุบ ! กลิ่นสาบคล้ายคนชราจำนวนมากนี้ ทำเอาฉันแทบอยากคืนสิ่งที่ฉันกินก่อนหน้านี้ออกมาทั้งหมดให้กับพื้นน้ำแข็งที่อยู่ตรงหน้า ไม่ใช่เพราะฉันรังเกียจหรอกนะ แต่อะไรที่มากเกินไปก็ไม่ดีทั้งนั้นแหละ เช่นเดียวกับกลิ่นสาบพวกนี้ นั่นทำให้ฉันตกอยู่ในสภาพเหมือนคนที่เล่นเครื่องเล่นหวาดเสียวในสวนสนุกซ้ำๆ จนโลกหมุน
“ กลับ…บ้าน.. กัน ” “ ก..ลับบ้าน ” “ กลับบบบ… ” “ กาห์… บา.. ” “ ไปกัน.. ” “ ก..ลับ.. กลับ ” “ คิด…ถึง.. ” เสียงเรียกแหบพร่าพวกนี้ฟังดูเหมือนเสียงของคนชราไม่มีผิด พวกมันพูดซ้ำๆ ในขณะที่กำลังใกล้เข้าฉันเรื่อยๆ ฉันกำลังจะลุกขึ้นวิ่งอีกครั้ง แต่… ดูเหมือนจะช้าไปหนึ่งก้าว เพราะอาการเวียนหัวทำให้ฉันหยุดนานเกินไปจนตอนนี้.. กลุ่มเงาที่ดูเหมือนหมอกทมิฬขนาดใหญ่ได้ปรากฏขึ้นด้านหลังของ ฉันระยะห่างไม่เกิน 50 เซนติเมตรและสูงเหนือหัวฉันประมาณ 1 เมตร
อีกแค่ก้าวเดียว.. อีกแค่ก้าวเดียวฉันก็จะหนีพวกแกทัน แต่… สวบ!! อึก! เงาพวกนั้นต่างรุมใช้ปากที่ไร้ฟันของพวกมันกัดกินฉันอย่างตะกละตะกลาม ทั้งๆที่ไร้ฟันสำหรับขบเคี้ยวแต่เจ็บเหมือนโดนเข็มเล็กแหลมนับหมื่นปักลงบนร่าง
“ ฮ้ากก ไอเวรเอ้ยย! ” ฉันตะโกนเสียงดังด้วยอารามณ์ภูเขาไฟปะทุอย่างหนัก หูของฉันได้ยินเพียงเสียงที่พวกมันกัดกินร่างกายของตัวฉันเองนับสิบตน จมูกก็ได้แต่กลิ่นสาบที่ต่อให้อาบน้ำกี่สิบรอบก็คงไม่หายเหม็น ร่างกายที่รู้สึกเหมือนกำลังโดนหนูหลายสิบตัวกัดแทะ หนูที่กำลังแทะชิ้นเนื้อให้ทะลุเพื่อหนีจากกับดัก ดวงตาที่เริ่มมองเห็นแสงที่มืดมิด มันอาจหมายความว่านี่คือจุดจบของฉัน แต่ยิ่งพวกมันกัดกินฉันมากเท่าไร ฉันรู้สึกว่าอุณหภูมิร่างกายของฉันก็ยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ร้อน ! ร้อนจนหนาว และหนาวเหมือนเยือกแข็ง ความเหน็บหนาวที่เหมือนโดนเข็มนับหมื่นด้ามแทงทะลุทั่วร่างกาย มันทั้งเจ็บทั้งทรมานจนอยากตายไปซะตอนนี้เลย
แต่ภายในใจฉันหวังลึกๆว่าขอให้มีใครสักคนผ่านมาทางนี้และช่วยฉันบ้าง ความเย็นนี้เหมือนผิวหนังกำลังถูกดึงออกจากกัน และค่อยๆหดตัวเป็นเพียงเศษผ้ากรุบกรอบ ทุกการหายใจเหมือนมีเข็มนับพันปักทะลุร่าง อวัยวะภายในกำลังหมุนเป็นน้ำวน สมองเริ่มไม่รับรู้ทุกสิ่ง และท้ายที่สุด… หนังตาอันหนักอึ้งของฉันก็ได้ปิดลงอย่างสบูรณ์
— จบ หญิงสาวปริศนา —
ตึก ตึก
ตึก ตึก
“ เด็กคนนี้ถูกพบที่เขาลอร์อีสครับ ตอนนั้นมีบาดแผลไม่ทราบสาเหตุทั่วร่างกายและนอนสลบอยู่ตรงบริเวณเกิดเหตุครับ ” เสียงหนาทุ้มคล้ายสนทนากับใครบางคนกล่าวขึ้นข้างเตียงของหญิงสาวปริศนา
“ แล้วตอนนี้ได้ข้อมูลอะไรบ้าง ” ประโยคดังกล่าวถูกเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุ แต่แฝงไปด้วยความเยือกเย็นของอีกคนหนึ่่งซึ่งยืนอยู่ข้างเจ้าของเสียงหนาทุ้ม
“ ตอนนี้ยังไม่พบข้อมูลอะไรเลยครับ ให้คนช่วยกันหามา 3ชั่วโมงแล้ว แต่ก็ไม่มีวี่แววเลยครับ.. ”
“ คิด..อะไรอยู่เหรอครับ ”
“ ฉันพูดไปก็ไม่มีใครเชื่ออยู่ดี อย่าทำให้ฉันดูเหมือนคนโง่อีกเลย ” เสียงเรียบผุดขึ้นพร้อมกับน้ำเสียงที่ดูมีโทสะสักเล็กน้อย
“ ถึงจะไม่มีใครเชื่อคุณแต่ผมเชื่อนะครับดอกเตอร์มาร์กี้.. ” เจ้าของประโยคกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เช่นเดียวกับแววตาจริงใจของชายหนุ่ม ที่ตั้งใจฉายให้แก่คู่สนทนาของตนได้เห็น
“……”
“ แค่คิดว่า เด็กคนนี้อาจมาจากอีกฝากของเฟซิออส เพราะทั้งรูปพรรณต่างๆไม่ค่อยเหมือนบูออร์ติ แถมยังไม่พบข้อมูลของเด็กคนนี้เลยสักนิด แม้จะหามาแล้ว 3 ชั่งโมงแล้วก็ตาม ” ด็อกเตอร์สาวเงียบไปสักพักก่อนจะแก้ความสงสัยให้กับคนที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ ถ้างั้นเราคงทำงานร่วมกันได้นะครับ ด็อกเตอร์มาร์กี้ ” ด็อกเตอร์สาวงุนงงกับประโยคที่ชายหนุ่มกล่าว จนเผลอแสดงสีหน้าสงสัยไปชั่วขณะ
“น่ารัก…. เอิ่ม ! ” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเบาเนื่องจากความไม่ระวังความคิดของตัวเองต้องแก้เขินด้วยการทำเสียง เอิ่มดังๆ
“ มีอะไรหรือเปล่า !? ” ดอกเตอร์สาวเอ่ยถามเมื่อชายหนุ่มมีท่าทีต่างไปจากตอนก่อนหน้า
“ เอ่อ.. ผมจะบอกว่าผมก็คิดเหมือนคุณน่ะครับ ก็เลย..อยากชวน..วิเคราะห์เรื่องนี้ที่คุณกำลังสนใจด้วยกัน ” ชายหนุ่มพยายามตั้งสติและตอบประโยคคำถามของด็อกเตอร์สาวอย่างปกติที่สุด
— หญิงสาวปริศนา —
ฉันเริ่มลืมตาขึ้นในสภาพบรรยากาศแปลกๆ แต่รู้สึกว่ามันสบายตามากกว่าปกติ คล้ายแสงจากพระอาทิตย์ที่เคยโชติช่วงนั้นหรี่ลง เหมือนดวงตาได้ไปพักร้อนหลังจากทำงานหนักมานาน ร่างกายได้รับการสัมผัสคล้ายมีเส้นสายไหมอันอบอุ่นลอยเล่นไปมาอยู่ในอากาศ กลิ่นเสื้อหนังนุ่มลึกล่องลอยมาเตะปลายจมูก ตามด้วยกลิ่นอ่อนๆของแจ็กเก็ตหนังนุ่มๆ ที่มีกลิ่นน้ำผึ้งและอ่อนๆ ของควันบุหรี่เข้ามาเสริม ให้รู้สึกเข้มแข็งแต่บางมุมก็อ่อนโยนไปพร้อมกันทั้งหมดนี้ทำให้ฉันตกใจมากแม้ไม่ได้เอ่ยอะไรเลยสักคำ แต่สิ่งที่ทำให้ตกใจมากกว่าคือ การสนทนาระหว่างสองเสียงที่ข้างเตียงของฉัน เสียงหนึ่งเป็นเสียงทุ้มของผู้ชายใส่เสื้อคอเต่าสีดำทมิฬ พับแขนเสื้อขึ้นเหนือข้อศอก มองแล้วเข้ากับหุ่นรูปสามเหลี่ยมคว่ำที่มีกล้ามประดับเล็กน้อยของเขาได้อย่างดี ส่วนอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงของผู้หญิงที่ชุดตัวในเลือกสวมเป็นเสื้อคอเต่าสีดำทมิฬทรงเดียวกับคนข้างๆ สวมทับด้วยเสื้อยาวตัวนอกสีขาวเป็นปุยฝ้าย ยาวคลุมเข่าได้ทรงสวย มองภาพรวมแล้วทั้งคู่ดูดีมา
“ ขอโทษนะ..แต่ฉันกลับบ้านได้หรือเปล่า ? ” เนื่องจากพวกเขามีภาพลักษณ์ที่ดูดี และบทสนทนาที่ฟังดูแล้วเหมือนพวกเขาไม่ได้ทำเพื่อหมายจะชิงชีวิตฉันไป จึงทำให้เสียงเรียบของฉันพูดประโยคดังกล่าวขึ้นแทรกในจังหวะที่การสนทนาของพวกเขาทั้งสองเงียบลง
—- จบ หญิงสาวปริศนา —-
พรึบ พรึบ
“ หนูรู้สึกยังไงบ้าง !? ” ผู้หญิงในลุคด็อกเตอร์สาวเอ่ยถามฉันก่อนเป็นคนแรก
“ ใจเย็นๆนะ พวกเราไม่ทำอะไรเธอหรอก ” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยเสียงอ่อนโยน
“ หนูไม่เป็นไรแล้วค่ะ หายเป็นปกติิดีเหมือนเดิมแล้ว เดินได้แล้วด้วย ” ถึงจะไม่รู้เรื่องแต่ก็ต้องนิ่งไว้ก่อนล่ะนะ
“ หนูจจะได้กลับบ้านแน่ แต่พอมีเวลาสักเล็กน้อยไหมคะ? พี่อยากคุยด้วย ” เมื่อครู่ด็อกเตอร์สาวคนนี้ถามฉันและแทนตัวเองว่าพี่กับฉันที่เพิ่งอายุครบ 16 ทั้งๆที่คุณด็อกเตอร์ก็เหมือนจะสามสิบแล้วนะ! โถ่หน้าตาฉัน…
“ ถ้าอย่างนั้น ถามตอนนี้เลยก็ได้ค่ะ หนูพร้อมแล้ว” ฉันเร่งเพื่อจะให้ตนเองอยู่ที่นี่ให้น้อยที่สุด
“ อย่างแรกหนูเกิดที่ไหนเหรอคะ ” ด็อกเตอร์สาวถามแบบไม่อ้อมค้อม
“ อืม..แม่บอกว่าหนูเกิดที่ฮีโมท่า ”
“ ฮีโมท่า?! …อยู่เกือบคนละฝั่งของที่นี่เลยนะ ” ด็อกเตอร์สาวดูตกใจเล็กน้อย
“ แล้วทำไมเธอถึงมาที่เขาลอร์อีสล่ะ ” เธอถามต่อ
“ … ” หญิงสาวฉุดคิดชั่วครู่
“ หนูหนีแม่มาเที่ยวคนเดียว และหลงทางน่ะค่ะ ” หญิงสาวตอบแต่ดูเหมือนด็อกเตอร์มาร์กี้จะยังคงไม่เชื่อ และอยากได้คำตอบมากกว่านี้
“ ตอบได้ฉลาด แต่อยู่กับพี่ไม่มีอะไรต้องปิดบังหรอกนะ ”
หญิงสาวเข้าใจสิ่งที่ร่างเจ้าของเสื้อคลุมัวยาวสีขาวปุยฝ้ายจะสื่อ
ฟึด ฟึด
เธอจึงเหลือบมองไปที่ชายหนุ่มและเห็นว่าเขากำลังตั้งใจจดอะไรบางอย่างลงในบอร์ดที่เขาถือแนบอกไว้ตั้งแต่เขาสนทนากับด็อกเตอร์สาว หญิงสาวดูออกว่าสิ่งที่เขาจดต้องเป็นข้อมูลจากการสนทนาเมื่อครู่แน่นอน
“ คุณต้องการทำอะไรกันแน่ ” หญิงสาวซึ่งตอนนี้กำลังยันตัวขึ้นนั่งบนเตียงเป็นฝ่ายเอ่ยถามอีกฝั่งก่อน
“ ลุกเดินไหวไหม ” ผู้หญิงที่มีอายุมากที่สุดในวงสนทนา ไม่ได้ตอบคำถามของหญิงสาว เธอเปลี่ยนเป็นคำชวนแทน แต่หญิงสาวไม่ได้ปฏิเสธอย่างใด เธอลุกเดินตามคนมีอายุมากกว่าไปที่อุปกรณ์ชิ้นหนึ่ง โดยมีชายหนุ่มที่ดูเหมือนจะเป็นผู้ช่วยของ ด็อกเตอร์สาวคอยประคองไม่ให้ล้ม
“ มองลงไปจากจุดนี้ พวกนายเห็นอะไรบ้าง ” ผู้หญิงที่อายุมากที่สุดในกลุ่มถามอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ได้ถามเพียงหญิงสาว เธอต้องการคำตอบจากทั้งสองแทน
หญิงสาวและชายหนุ่มตกใจเล็กน้อย เพราะภาพที่เห็นคือภาพมุมสูงจากตึกประมาณสามสิบชั้น ทั้งๆที่บริเวณรอบตัวพวกเขาไม่มีหน้าต่างสักบาน
“ ความทรมาน~ … หิมะ น้ำแข็ง แล้วก็สีขาวโพลนเต็มไปหมดเลยครับ ” ในช่วงต้นประโยคชายหนุ่มกล่าวเสียงเบามาก แล้วจู่ๆภายหลังเขาก็พูดเสียงดังขึ้นมาทันที
“ ความว่างเปล่า ” หญิงสาวหลังเสียงชายหนุ่มสิ้นประโยค
“ โอ้ พี่ชักจะถูกใจหนูขึ้นมาแล้วสิ ”
“ นายก็ตอบได้ถูกใจนะ แต่เจ้าหนูนี่ตอบได้ถูกใจกว่า ” มาร์กี้หันหน้าไปพูดกับ เบรนแดน ชายหนุ่มที่เป็นคู่สนทนาของเธอตั้งแต่ต้น ก่อนที่เบรนแดนจะหัวเราะแห้งๆออกมา ให้หญิงสาวมองยังไงก็คงรู้สึกว่าคู่นี้ีมีอะไรบางอย่างแน่ๆ
“ แล้วชื่อเธอ- ”
“ … ” “ มีอะไรเหรอเจ้าหนู ? ” ด็อกเตอร์มาร์กี้เห็นหญิงสาวที่จ้องมองผ่านอุปกรณ์คล้ายกล้องจุลทรรศน์สีหน้าเคร่งเครียด จึงเอ่ยถามตัดบทของเบรนแดน
ตึกตัก ตึกตัก
พวกมันตามมาทำไม…ฉันหลุดมาอยู่ตรงนี้แล้วนะ ฉันไปทำอะไรไว้แล้ววิธีแก้ต้องทำยังไง ! คิดสิ คิด ! ความคิดของหญิงสาววนเวียนอยู่ในศีรษะ ทางออกที่จะพบเหมือนเขาวงกต ท่ามกลางสถานการ์ณที่ด่วนขันและประสบการ์ณที่ไม่เคยพบเจอ ไม่แปลกที่เจ้าตัวจะทำอะไรไม่ถูก
“ รีบหาที่ปลอดภัย มันกำลังมา !
สิ่งที่หนูเจอก่อนหน้านี้มันกำลังมา เงาสีดำ!! ” หญิงสาวกล่าวเสียงดังด้วยท่าทีกึ่งโมโหกึ่งหวาดกลัว ถ้ามองเผินๆแล้วแยกไม่ออกเลยก็ว่าได้
“ กลัวเหรอ? ” เบรนแดนถามด้วยท่าทีประหลาด
“ หะ… ”
— หญิงสาวปริศนา —
จู่ๆเบรนแดนชายหนุ่มที่ดูอ่อนโยน และคอยเทคแคร์ฉัน ตอนนี้ เขากลับพูดห้วนๆ พร้อมยื่นหน้าเข้าใกล้ฉันขณะที่ทำตาโตและเบ้าตา!…. เบ้าตามัน.. กำลังลึกลงไปเรื่อยๆ จนแถบจะโบ๋ เหมือนไอพวกวิญญาณดำพวกนั้น! หน้าเราห่างกันไม่เกิน 2 เซน รอยยิ้มบนใบหน้าเริ่มกว้างขึ้น กว้างไปจนถึงรูหู ! ฉันคงต้องยอมรับแล้วว่าเวลานี้ฉันกลัวจริงๆเหมือนเขาจะกลายร่างเป็นผี!
ปัก! เสียงศีรษะฉันกระทบกับเสาตึก ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ที่ฉันโดนเบรนแดนต้อนจนมุม
“ เธอชื่ออะไร ! ! ” ฉันสะดุ้ง สภาพเบรนแดนตอนนี้ไม่ใช่เบรนแดนที่เพิ่งรู้จักกับเขาก่อนหน้า เขายังไม่หยุดถามชื่อของฉัน น่ากลัวเป็นบ้า แต่โชคดีที่ฉันจิตแข็งถึงจะกลัวแต่สติก็ไม่กระเจิง เสียงของเบรนแดนตอนนี้เริ่มแหบพร่าและฟังดูแสบลำคอ เหมือนคนชรา… และเหมือน.. เงาสีดำพวกนั้น !! ไม่ใช่เพียงเสียงแต่คือทุกอย่าง แค่เขามีขาและดูคล้ายมนุษย์มากกว่าพวกนั้นเปอร์เซ็นต์หนึ่ง !
“ กรรรร !!! ” เบรนแดนคลุ้มคลั่ง และกำลังเปิดปากที่ใช้แสยะยิ้มถึงรูหูของเขาหวังเขมือบศีรษะฉันในทีเดียว
ตึง !! ตึง!!
“ เอาตีนไปกินก่อนละกัน ! ”
“ เอาปลาตีนไปกินก่อนละกัน !! ”
ศีรษะและร่างผีของเบรนแดนถูกลดขยี้เข้ากับผนังอิฐที่ทำจากก้อนหินซึ่งไร้การเจียระไนใดๆ ฉันตั้งใจยกส้นเท้าถีบเข้าเต็มๆปากผีเบรนแดน ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับด็อกเตอร์มาร์กี้ถีบเข้าข้างลำตัวของเบรนแดน ทำให้ฉันต้องผวาอีกครั้ง…เมื่อผลลัพธ์จากลูกหลงจากการถีบเบรนแดน เผยให้เห็นแผลบนใบหน้าของด็อกตอร์มาร์กี้ ที่ประดับด้วยรอยยิ้มแสยะถึงรูหูเบ่นเดียวกับเบรนแดน
ฟิววววววววววว !!! เสียงอันคุ้นหูเริ่มเยื่องย่างปรากฏเป็นชัดเจนทุกอัตรา หน้าประตูมีฝูงเงาดำที่พร้อมจะมอบความตายให้ หากแต่อยู่ภายในก็มีผีเบรนแดนที่ตอนนี้กำลังได้สติลุกขึ้นยืนอีกครา
“ ตามพี่มา อย่าได้สงสัยใดๆ เร็วเข้า! ” ทันใดมาร์กี้ด็อกเตอร์สาวที่แทนตัวเองว่าพี่กับฉันตะโกนบอกให้ไปกับเธอทั้งๆที่เธอก็กำลังเป็นแบบเดียวกับเบรนแดน ! แบบที่จะฆ่าฉันให้ตาย !
แล้วจะให้ฉันทำอย่างไร เมื่อความตายโอบกอดฉันเหมือนแม่รักลูกถึงเพียงนี้…
— จบ หญิงสาวปริศนา —
ผลงานอื่นๆ ของ SND ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ SND
ความคิดเห็น