ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (KNB)♟Memory Of Loveless♟[Akakuro] Rewrite

    ลำดับตอนที่ #3 : ♟EP 02:Just Dating?? Rewrite[100%](100 %)♟

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.46K
      61
      13 ต.ค. 62

    ♟EP 02:แค่เดท?? รีไรท์♟
    (100 %)
    Rewrite [100%]








                   "อ่าวๆ!!...มากันแล้วหรอ  คุโรโกะคุงเร็วๆสิย้ะ...พวกฉันรอนายมานานแล้วนะ" เสียงของกัปตันสาวนั้นได้ดังขึ้นเรียกคุโรโกะ  ที่ตอนนี้กำลังวิ่งออกมาจากที่พักด้วยความเหนื่อยหอบ  คุโรโกะหายใจเข้าออกอย่างเร็ว  เนื่องจากการที่วิ่งมาเพื่อมาหาพวกรุ่นพี่  ก่อนจะยืนขึ้นเต็มความสูงพร้อมกับเดินไปหาพวกรุ่นพี่และเพื่อนๆของตนที่รออยู่  เดินเที่ยวกันอย่างสนุก


              "โห...แม้จะเป็นตอนเช้า ก็ยังมีของขายของฝากเหมือนกันนะเนี้ย...ที่นี่น่ะ" คากามินั้นได้พูดขึ้นมาลอยๆจากความคิดของตน โดยที่มีคุโรโกะนั้นเดินอยู่ข้างๆ  และได้หันมามองอีกฝ่ายอย่างขบขันในความคิด  พร้อมกับการแสดงความคิดเห็นของตนออกมาต่อจากคนผมแดงไฟด้วยความหยอกล้อ ตามความกวนของตนเอง


              "มันต้องมีสิครับคากามิคุง...แถวนี้มันเป็นเมืองการค้าขายนี่ครับ"


              "ฉะ...ฉันรู้อยู่แล้วน่าไม่ต้องมาพูดเลยเฟ้ย!!" คนร่างสูงข้างกายเอ่ยขึ้นมาด้วยความหงุดหงิด ที่ร่างบางทำเหมือนกับว่าเขาโง่แบบนี้


                   'ซื่อบื้อซะเหมือนเพื่อนที่เค้ารู้จักเลยแหะ' คุโรโกะคิดในใจ


                   "เอ้าๆ!!  ทุกๆคน...แยกย้ายกันได้แล้ว   แล้วก็พอซื้อของเสร็จก็มารวมกันตรงนี้เข้าใจไหม" ริโกะพูดขึ้นโดยที่เป็นคำสั่ง  พร้อมกับที่ทุกคนจะค่อยๆเดินแยกย้ายกันไปเยี่ยมชมซื้อของคนละทิศคนละทาง


              "คุโรโกะพวกเราไปกันเถอะ" คากามิเอ่ยขึ้นบอกร่างบางข้างๆ  ก่อนที่จะรีบคว้าแขนของอีกคนมาจูงเดินตาม  คุโรโกะมองคนที่ได้ทำการจูง(ลาก)ตัวเขาอย่างแรง  แต่เขานั้นก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร  และก็ยอมเดินตามอย่างว่าง่ายเพราะไม่ได้คิดอะไรมากมาย


              "นี่คุโรโกะคือ..." คากามิเรียกชื่อของคุโรโกะขึ้น  ขณะที่ทั้งสองกำลังเดินดูร้านค้าโดยรอบกัน   คุโรโกะที่โดนอีกฝ่ายเรียกก็ละสายตาจากเสื้อผ้าสีหวานสวยตรงหน้า(?)  พลางเงยหน้าขึ้นมองหน้าของคนที่สูงกว่าหลายสิบยี่สิบเซน


              "ครับคากามิคุง??" ร่างบางเอ่ยถามขึ้นกลับไป  พร้อมกับเอียงคอมองอีกคนตามแบบฉบับของเจ้าตัว  ใบหน้าของร่างที่สูงกว่าเกิดการร้อนผ่าว  สีแดงนั้นได้ค่อยๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าคมของคากามิเอง  ก่อนจะเอามือมาปิดหน้าของตนพร้อมกับเอ่ยขึ้นถามในสิ่งที่ตนคิดไว้ว่าอยากจะถามอีกฝ่าย


              "คือ..ว่า.....นาย...."


                   "กรุณาพูดออกมาภายใน 3 วิด้วยนะครับไม่อย่างนั้นผมจะใช้มิสไดเร็คชั่นหนีหายไปก่อนที่คุณจะได้ถาม"


              "เห้ยๆเดี๋ยว!!ฉันกำลังจะพูดแล้วเว้ย!!" คากามิตะโกนต่ออีกคนออกมาอย่างเสียงดัง ก็อยู่ๆอีกคนมาขู่เขากันแบบนี้  ก็ต้องรีบห้ามไว้เลย  แล้วก็ไอที่นิสัยเสียของคุโรโกะนี่มันน่าจับมาฆ่าทิ้งเสียจริง  ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยว่ามาเล่นอะไรไร้สาระแบบนี้


              "แล้วตกลงมีอะไรจะถามล่ะครับคากามิคุง" คุโรโกะเอ่ยขึ้นถามกลับไปอีกครั้ง  ก่อนที่เสียงทุ้มต่ำของคากามิจะพูดขึ้นถามอีกคนไป  พร้อมกับเกาแก้มแก้เขินด้วยความแปลกที่จะถามออกไป


              "คือว่า...ฉัน...ว่าอาคาชิมัน....."


              "อาคาชิคุงเขาทำไมหรอครับ??" คุโรโกะเอียงคอถามด้วยความสงสัยอีกครั้ง  อาคาชิคุงเขาทำไม  เป็นอะไร  เกิดอะไรขึ้นกับเขาหรือป่าว




                   เเล้วเขาจะไปเป็นห่วงกัปตันจอมหื่นนั่นทำไมล่ะเนี้ย!!




              "อาคาชิมัน...แปลกๆน่ะฉันว่า..."


              "ตรงไหนหรอครับที่แปลก-O-" ร่างบางเอ่ยขึ้นถามกลับไป  แปลกงั้นหรอ  ตรงไหนอะที่แปลก  ก็ไม่เห็นมีอะไรแปลกไปเลยนอกเสียจากเรื่อง หื่นๆกามๆ และความไม่ประสงค์ดีทางสายตา


              "นายไม่รู้สึกอะไรแปลกบ้างเลยหรอ" คากามิพูดเสร็จก็หยุดเดินพร้อมกับหันมาทางร่างเล็ก  ที่ได้หยุดการเดินตามคนที่สูงกว่าตน


              "ผมไม่เห็นว่ามันมีอะไรแปลกเลยนะครับคากามิคุงคิดมากหรือป่าวครับ" คากามิที่ได้ยินก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้อีกฝ่าย  และมองใบหน้ามนสวยอย่างพิจารณาอะไรบางอย่าง  ก่อนจะพูดเข้าเรื่องในสิ่งที่อยากจะถามร่างบางตรงหน้าให้เข้าใจมากขึ้น


              "ก็ตรง...."





















              "ผมไม่ได้คิดอะไรสักหน่อยครับ" อาคาชิพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น จนคนในห้องนั้นหัวเราะออกมาเบาๆในใจ และก็คิดในใจกันต่างๆนาๆเกี่ยวกับกัปตันตรงหน้าของพวกเขา


              "...เซย์จังล่ะก็  อย่าทำเสียงนิ่งกลบเกลื่อนแบบนั้นสิ...ฉันดูออกนะ" มิบุจิเอ่ยขึ้นก่อนจะยกมือข้างนึงมาปิดปากกลั้นยิ้มด้วยความขบขัน


              "...นายจะบอกว่าอาคาชิชอบเด็กคนนั้นน่ะหรอที่ผมสีฟ้าน่ะ?" เสียงของฮายามะดังขึ้นด้วยความร่าเริงตามฉบับเจ้าตัว   จักรพรรดิผู้นี้มีคนที่ชอบมันก็น่าสนุกมากกว่าการแข่งซะแล้ว  และยิ่งกว่าได้ถ้วยทองหรือเหรียญทองซะอีก


              "...น่าสนุกนะเนี้ย...เดี๋ยวพวกเราช่วยเองท่านจักรพรรดิ 'ซึนเดเระ' " เนะบุยะเอ่ยขึ้นเพื่อจะแหย่คนผมแดงที่เป็นกัปตันทีมของตน


              "ผมไม่ได้ 'ซึนเดเระ' ครับ...และพวกรุ่นพี่เลิกแหย่ผมซะทีเถอะครับ" อาคาชิเอ่ยขึ้นอย่างอายๆใบหน้านั้นเกิดสีแดงอ่อนๆ  จนพวกรุ่นพี่ในทีมยกยิ้มเบาๆกัน


              "เดี๋ยวเอาใจช่วยนะ..." เรย์โอะแหย่ร่างสูงผมแดงอีกครั้ง  ก่อนจะยกยิ้มให้  ตอนนี้อาคาชิเหนื่อยใจกับพวกรุ่นพี่ของตนที่สุด  เขาจึงตัดสินใจลุกออกมาจากห้องพัก  พลางรีบเดินไปยังสวนที่อยู่ในออนเซ็นแห่งนี้ด้วย











                   "ไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย...แค่อยากดูแลก็เท่านั้นเอง"
















    Rewrite 20%


              "เอ้า!!ล่ะทุกคนมาครบกันแล้วใช่ไหม...ได้อะไรกันบ้างหรือป่าวล่ะ..." เสียงของโค้ชริโกะดังขึ้นถามคนในทีมที่พึ่งกลับมาจากการเที่ยวเล่น  ก่อนที่ทุกคนจะตอบเป็นเสียงเดียวกันโดยไม่ได้นัดหมาย


              "ได้นิดหน่อย" เสียงของทุกคนนั้นดูจะนอยออกมาชัดเจน  มันทั้งเหนื่อยกาย และของขายแถวนี้มันน่ารักซะไปหมดเลย  เหมือนเป็นที่สำหรับสาวๆมาเดินเล่นซะมากกว่าผู้ชายอย่างพวกเขา


              "น่าๆ...สนุกกันเข้าไว้นะพวกนายนิ....นี่พวกเรามาพักผ่อนกันนะ  เอาล่ะกลับที่พักกันได้แล้วล่ะ" สิ้นสุดคำพูดของโค้ช  ทุกๆคนก็พากันกลับห้องพักที่ออนเซ็นของตนเอง  และตอนนี้สองเพื่อนสนิทก็ได้กลับมาที่ห้องพักเรียบร้อย  และได้ทำการเก็บของที่ซื้อมาจากร้านขายของฝากต่างๆ  ไม่นานร่างเล็กผมฟ้าและร่างสูงของคางามิก็มาถึงที่ห้องรับประทานอาหาร พร้อมกับนั่งลงตามที่นั่งที่เหลืออยู่ในตอนนี้


              "แหม่ๆแลดูจะพร้อมหน้าพร้อมตากันเลยนะ..." เสียงที่เป็นเอกลักษณ์นั้นดังขึ้นมาก็คือคนผมสีดำเงาจากราคุซัน  ที่เคยหลบคุโรโกะจากการเดินมาชนเขาได้ของแข่งวินเทอร์คัพ


              "ไง...นายชื่อคุโรโกะสินะน่าสนุกแหะ..." เสียงขี้เล่นติดกวนส้นของคนผมเหลืองเอ่ยขึ้นมาทักทาย ก่อนที่ทางฝั่งเซรินที่กำลังนั่งตัวเกรงจากการนั่งร่วมโต๊ะของพวกเขาทั้งสองทีม แต่ยกเว้นจักรพรรดิไร้พ่ายบางคนและซิกแมนเงาลวงตาเท่านั้นที่ดูจะปกติที่สุดในห้องนี้


              "เท็ตสึยะ...ที่ไปเดินเที่ยวมาสนุกหรือป่าว" ร่างสูงเปิดปากพูดขึ้นหลังจากที่ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบมาช้านาน  ทำให้ทุกๆคนในห้องบางคนถึงกับแอบหันมามองคนที่ส่งเสียงทักขึ้นมา จนต้องหันมามองกัน


              "ก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษครับ...แล้วอาคาชิคุงไม่ออกไปไหนบ้างหรอครับอยู่แต่ในห้องพักมันออกจะแปลกไปหน่อย" คุโรโกะถามคนผมแดงข้างกายออกไปตามมารยาท  โดยที่ไม่รู้เลยว่าหายนะของตนจะมาเยือนจากการถามออกไปแค่คำถามที่เป็นปกติของเขา


              "เท็ตสึยะเป็นห่วงผมงั้นหรอ" ชัดยังไง สำหรับคุโรโกะก็ว่าชัดเจน...คุโรโกะคิดในใจตนเอง  ก่อนที่จะตัดสินใจเขย็บออกมาให้ห่างจากรัศมีของกัปตันข้างกายตน


              ทำไมเขาสองคนถึงนั่งข้างกันน่ะหรอ ก็คงมีแค่เพราะตอนเดินมามันเหลืออยู่สองที่พอดีและคางามิก็นั่งลงก่อนเขาเข้ามา  เลยต้องจำใจนั่งข้างคุณชายจอมหื่นอย่างนี้นี่สิ


                   เท็ตสึยะเอ้ย!!


              "ผมป่าวสะหน่อยครับ...ผมแค่ถามไปตามมารยาทครับ" ร่างบางตอบไปตามความจริง  เขาแค่เป็นคนมีมารยาทงามๆ(?)ก็เท่านั้นเองพอที่จะพูดแบบนั้นออกไปได้ จริงๆนะ


              "ใจร้ายจังนะ..." อาคาชิเอ่ยเสร็จก็ไม่มีท่าทีอะไรอีกนอกเสียจาก  จะมีมือบางอย่างมันขยับอยู่ในใต้เสื้อสีขาวสว่างของเขา  ไม่ใช่อะไรแต่เป็นมือของกัปตันที่นั่งข้างๆเค้าอยู่นี่และมาลูบไล้โลมเร้าหลังของร่างบางอยู่โดยไม่สนสายตาใครเลยแม้แต่น้อย


                   "ฮะ...แฮ่มๆ!!  งั้นมากินข้าวกันก่อนดีกว่านะเดี๋ยวมันจะเย็นสะก่อน" ริโกะเอ่ยขัดช่วงเวลาความหื่นของอาคาชิ  จนเจ้าตัวเอามือออกจากร่างกายของร่างที่เล็กกว่า  คุโรโกะตอนนี้ได้แต่ถอนหายใจอย่างโล่งอก  ก่อนที่ทุกอย่างจะตกอยู่ในความเงียบกันอีกครั้งนึง


              "อ้าา...อิ่มมากเลยอร่อยเป็นบ้า!!" เสียงของคางามินั้นดังขึ้นมาทำการชำระความเงียบให้หายไปอีกครั้ง  พร้อมกับหันหน้าตนเองมาหาเพื่อนตัวเล็กที่นั่งกินแต่น้ำเปล่ากับมีดบอลสองลูกอยู่ข้างๆตนเอง


              "คุโรโกะ...นี่นายกินแค่นี้แล้วเมื่อไหร่จะโตล่ะห๊ะ!!??" ร่างสูงผมไฟเอ่ยขึ้นมา  จนคนทั้งห้องหันกันมามองหน้ามองตาเป็นตาเดียวกัน  โดยที่ทุกๆคนรู้สึกถึงพลังงานบางอย่างมาจากจักรพรรดิอย่างอาคาชิ ที่นั่งอยู่ข้างๆร่างเล็กอีกทีนึงด้วยความกังวล


              "..." อาคาชินั้นนั่งอยู่เงียบๆ แต่ไม่ได้พูดอะไร  เพราะน่าจะกำลังสงบสติอารมณ์อันแปลกประหลาด จนมีออร่ามืดบางอย่างออกมาจากตัวของจักรพรรดิคนนี้  โดยที่ทุกคนนั้นต้องเลิกคิดเรื่องคนผมแดงไปก่อน  และมาสนใจคำพูดที่กวนส้นของร่างบางเดอะซิกแมนคนนี้ที่ดูจะโกรธคางามิสุดๆเสียก่อน










                   "ไม่โตแล้วหนักหัวพ่อคุณหรือป่าวครับคางามิคุง" คำพูดกับรอยยิ้มหวานนั้นไม่ได้ทำให้ทุกๆคนที่นั่งอยู่นั้น  รู้สึกดีเลยแม้แต่น้อย  ตอนนี้ในความคิดของทุกๆคนนั้นรู้สึกเป็นอย่างเดียวกันว่า




                   ไม่ควรพูดเรื่องการเจริญเติบโตของคุโรโกะคนนี้เลย




                   "ไอคุโรโกะแก!!" คางามิที่ได้ยินก็ปรี๊ดแตกใส่อีกคน  พลางจะใช้มือหนาจับหัวร่างบางเพื่อหวังจะฆ่าคนตรงหน้าทิ้งเสียให้รู้แล้วรู้รอด


                   ฟิ้ว  ฉึ่ก!!


              เสียงลมที่ตัดผ่านใบหน้าคมเข้มของคางามินั้น ทำให้เกิดบาดแผลที่เฉียดบนใบหน้าของอีกคน จนมีเลือดไหลออกมาเป็นเส้นตรง  พร้อมกับหันไปมองสิ่งของที่ได้ผ่านใบหน้าไปอย่างน่าสงสัย  กรรไกรสีแดงสดได้ปักอยู่ที่กำแพงลายไม้ของญี่ปุ่น  ทำให้รู้ทันทีเลยว่าใครเป็นคนปากรรไกรมา






                   สัญญาลักษณ์เด่นสะขนาดนั้น










                   คงไม่ใช่ใครแน่นอกจาก


              "...อาคาชิคุงครับ...กรุณาอย่าใช้ของมีคมในที่สาธารณะด้วยนะครับ" คุโรโกะเอ่ยขึ้นมาสบายๆ  โดยที่ไม่รู้สึกกลัวอะไรเลย  ก่อนที่เสียงทุ้มต่ำจะตอบกลับไปเป็นปกติเหมือนตัวเองไม่ได้ทำอะไรที่น่าสงสัยหรือน่ากลัวเลย แถมยังมีหน้ามาพูดติดตลกกันสองคนอีกด้วย


              "ฉันป่าวนะเท็ตสึยะ...มือมันลื่นๆไปหน่อยเท่านั้นเอง"


                   'นี่ขนาดมือลื่นนะเนี้ย' ทุกคนพร้อมใจกันคิดขึ้นมา  คางามิที่รู้ถึงเจ้าของคนทำ  ก็ลุกขึ้นมาก่อนจะไปกระชากเสื้อราคาแพงของคุณชายผมแดง พร้อมกับที่จะตะคอกใส่อีกคนอย่างโมโห


                   "นี่แกคิดจะฆ่าฉันหรือไงอาคาชิ!!" คางามิเอ่ยขึ้นเสียงดังไปทั่วห้องรับประทานอาหาร  ตอนนี้ทุกคนกลัวไปหมดว่าคนตัวสูงผมไฟจะเป็นศพก่อนที่จะได้ขึ้นปี 3 ซะก่อน  อาคาชิที่ตอนนี้โดนกระชากคอเสื้อนั้นไม่ได้รู้สึกอะไร แต่กลับนิ่งเป็นหุ่น  และทำใบหน้านิ่งอย่างไม่แคร์ว่าตัวเองจะตกอยู่ในอันตรายเลย


                   "คางามิหยุดเดี๋ยวนี้นะ!!" เสียงของโค้ชสาวดังขึ้นมาเพื่อหยุดการกระทำของแสงทีมเซรินแต่กลับไม่ได้ผลกับเขา


                   "ก็ดูมันสิ มันกะจะฆ่าผมเลยนะ!!...ครับ" คางามิตะคอกออกมาอีกครั้ง  ฝ่ายเซรินนั้นได้แต่เหงื่อแตกผลั่กกันอย่างมาก  ก็นั้นจักรพรรดิเลยนะแต่ส่วนฝ่ายราคุซันนั้นนั่งนิ่งไม่สนใจอะไร  ก้มหน้าก้มตากินอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับสถานะการณ์ตรงหน้า


              "คากามินายใจเย็นๆก่อนเถอะน่า" ฮิวงะเอ่ยขึ้นด้วยความใจเย็น  เพราะยังไงนั้นก็อาคาชิ เซย์จูโร่เลยนะนั่นน่ะสำหรับพวกเขาก็ถือว่าเล่นบาสได้น่ากลัวคนนึง และรวมถึงจิตวิทยาด้วย


              "จะให้ผมใจเย็นได้ไงล่ะครับ!!" คนร่างสูงยังคงเสียงดังไม่หยุด  จนทั้งทีมต่างก็เริ่มที่จะบอกลาความตายให้กับคางามิเป็นที่เรียบร้อย  แต่แทนที่จะช่วยกันหยุดตัวต้นเหตุ  อาคาชิก็กลับจุดไฟเพิ่มเข้าไปจนทุกคนยอมแพ้ในการช่วยเหลือครั้งนี้เลยทีเดียว


              "หึ...เพราะใจร้อนแบบนี้ไง...ถึงว่าต้องให้เท็ตสึยะช่วยเลยชนะฉันมาได้"  อาคาชิ!!...ทุกๆคนต่างพูดชื่อของเจ้าตัวในใจ  ตอนนี้สถานะการณ์แย่ลงเข้าเรื่อยๆ จนไม่อาจจะหยุดได้แล้ว


                   "อะไรของแกห้ะ!!" มือหนากำหมัด และง้างเตรียมจะต่อยคนที่ตัวเล็กกว่าตนเอง  แต่ก่อนที่จะได้ทำการต่อยอาคาชิ  เสียงหวานใสพูดขึ้นมาด้วยความหงุดหงิดอย่างที่ไม่เคยมีใครได้เห็นมาก่อน










                   "ทำตัวติดสัตว์กันหรอครับ ถึงได้กัดกันอย่างหมา" เสียงของคุโรโกะทำให้คนในห้องทุกคนเงียบกริบไปตามๆกัน  คางามิที่ได้ยินก็ถึงกับเงิบไปเลย  และมองร่างบางด้วยความอึ้ง  ส่วนอาคาชินั้นไม่ได้รู้สึกอะไรแต่กลับยกยิ้มขึ้นมาอย่างมีความสุขจนหลายคนนึกว่าอาคาชิบ้าเลยก็ว่าได้


              "เท็ตสึยะฉันมีเรื่องจะคุยด้วยน่ะ...มาด้วยกันหน่อยสิ" เสียงของอาคาชิดังขึ้นมาเรียกคนตัวเล็ก  พร้อมกับที่จะลุกออกจากที่นั่งและเดินนำอีกคนไปก่อนหลังจากมือคางามิปล่อยคอเสื้อของเขาแล้ว


              "ถ้างั้นผมขอตัวก่อนนะครับ" คุโรโกะพูดเสร็จ  ก็ได้เดินตามออกไป  โดยที่ปล่อยให้คนในห้องนี้มองด้วยความงงและอึ้งตามๆกันไปอย่างไม่น่าเชื่อ


              "เท็ตจังนี่เหมือนเซย์จังเลยนะ" มิบุจิเอ่ย


                   "อือ!!" ทุกคนในทีมราคุซังตอบกันเป็นเสียงเดียวกัน  ก่อนจะลงมือกินอาหารกันอีกครั้งนึงโดยไม่มีทั้งสองคน













    Rewrite 50%


              ร่างทั้งสองก้าวเดินออกมาจากห้องรับประทานอาหารขนาดใหญ่  ตรงมายังสวนที่อยู่ในออนเซ็นที่พวกเขาอยู่  ร่างสูงยังคงหันหลังให้อีกคนและเงียบไม่พูดอะไรออกมา  จนร่างเล็กผมฟ้าเริ่มรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอีกครั้ง  ก็อีกคนบอกเขาว่ามีเรื่องจะคุยด้วย  แต่ไหงพอตามออกมาอีกคนกลับเงียบกริบแบบนี้  มันทำให้เขาหงุดหงิดและโมโหอย่างที่สุด


                    "แล้ว...มีอะไรจะคุยกับผมหรอครับอาคาชิคุง" คุโรโกะเอ่ยขึ้นมาเพื่อเปิดประเด็นให้อีกคนพูด  อาคาชิที่หันหลังให้อยู่นั้น  หันกลับมามองหน้าร่างบาง  ก่อนจะค่อยๆเดินเข้ามาใกล้อีกคน  จนร่างกายของทั้งสองแทบจะเรียกได้ว่า  หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันไปเลยก็ว่าได้  แผงอกแกร่งเข้ามาใกล้จนชนกับร่างกายบางๆของคนที่ถูกเบียด  คุโรโกะที่โดนต้อนจนตัวเองติดกำแพงนั้นเงยหน้ามองคนผมแดง  ก่อนจะพูดเข้าเรื่องก่อนเพื่อไม่ให้เรื่องที่ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นในในสภาพของตนตอนนี้



                     "คือ...ฉันกลัวว่าตอนเย็นนายจะไม่ว่าง...เลยอยากจะมาถามให้แน่ใจอีกครั้งน่ะว่านายว่างใช่ไหม?" อาคาชิเอ่ยขึ้นพลางเซตามองไปทางอื่น  ร่างบางที่ได้ยินสิ่งที่คนตรงหน้าอยากถามก็ชะงักไป   พร้อมกับตั้งสติได้และหัวเราะออกมา   จนคนผมแดงถึงกลับหันมามองหน้าคนตรงหน้าที่ขำตัวเขาอย่างไม่เข้าใจ


                    "เท็ตสึยะ...นายขำอะไรน่ะ"


                    "ก็ต้องขำ....อาคาชิคุงไงล่ะครับ...ผมว่างอยู่แล้วล่ะครับ..ฮึๆ" ร่างเล็กๆสั่นเทาจากการหัวเราะคนตรงหน้า  อาคาชิเริ่มไม่เข้าใจคุโรโกะที่ว่ามีคำถามตรงไหนที่มันน่าขำสำหรับร่างบางกันแน่


                       "แล้วนายขำอะไรละเท็ตสึยะ...ฉันไม่เข้าใจจริงๆ..." อาคาชิเอ่ยขึ้นพลางขยับร่างกายที่มีซิกแพคไปแนบชิดกับร่างเล็กอีกครั้ง   ที่ตอนนี้กำลังหลังติดกำแพงไม้ไผ่อย่างหาทางหนีไม่ได้


                    "อะ...อาคาชิคุงกรุณาขยับออกไปด้วยครับO///O" คุโรโกะเอ่ยพร้อมกับหน้าที่แดงระเรื่อง อาคาชิที่สังเกตเห็นก็กระตุกยิ้มมุมปากบางๆ  พร้อมกับเอาใบหน้าอันหล่อเหลาของตนเองเข้าไปใกล้ใบหน้าหวานสวยของร่างที่เล็กกว่าตน


                   "เท็ตสึยะ..."


                    "คะ...ครับอาคา..ชิคุง" ร่างบางตอบกลับอีกคนด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก   เขาคิดดีแล้วใช่ไหมที่ตามมาฟังคำถามของกัปตันตรงหน้าข้างนอกนี่  อาคาชิที่กำลังแข่งจ้องตากับคุโรโกะอยู่นั้นก็ค่อยๆเลื่อนใบหน้าของตนเข้าใกล้กับใบหน้าหวาน   จนริมฝีปากทั้งสองนั้นอยู่ห่างกันไม่ถึงหนึ่งเซน   ก่อนที่จะมีเสียงเสียงนึงดังขึ้นมาขัดอารมณ์ของร่างสูงผมแดงอย่างน่าโมโห











                    "อาคาชิพวกมิบุจิให้ม----...เฮ้ย!!ขะ....ขอโทษที่เข้ามาขัดจังหวะ!!"  ฮายามะเอ่ยขึ้นด้วยความตกใจที่หวังจะเดินมาตามกัปตันทีมตัวน้อยของพวกเขาให้กลับไปหา   แต่ดันมาเจอภาพเด็ดสะงั้น จะรอดไหมนะ


                     "อ้อครับ...เดี๋ยวผมตามไปอีกทีนะครับ"   อาคาชิพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง  พร้อมกับปล่อยให้ร่างบางได้เป็นอิสระ   แต่ก่อนที่จะไป  ใบหน้าคมเข้มก็ก้มลงไปกระซิบที่ข้างหูของคุโรโกะ  จนทำให้เจ้าตัวเล็กผมฟ้าอยากจะใช้อิสไนท์พาสของตนใส่อีกคนให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย









                    "แล้วเจอกันตอนเย็นนะเท็ตสึยะที่น่ารัก^^"  ร่างสูงเอ่ยเสร็จศัพท์ก็เดินจากไปจนลับสายตา  ปล่อยให้คนตัวเล็กๆน่ารัก(?)ยืนหน้าแดงก่ำอยู่คนเดียวเหมือนคนเป็นไข้สูง







                    "อาคาชิคุงจอมหื่นกาม....บากะ!!"




















                      ณ 19:30 น.




                      ร่างเล็กผิวขาวดั่งหิมะนั้น กำลังยืนหมุนตัวดูร่างกายของตนเอง  เกี่ยวกับชุดที่ตนนั้นกำลังสวมใส่อยู่  เพื่อที่จะไปงานเทศกาลของเมืองที่เขามาพักผ่อน   คุโรโกะเดินไปหยิบชุดสีฟ้าแกมเขียวพร้อมกับเสื้อคลุมสีน้ำเงินเข้ม   ก่อนที่จะหมุนตัวสำรวจความเรียบร้อยของเสื้อผ้าที่ตนใส่อีกครั้ง   พลางแต่งหน้าแต่งตาตนเอง(?)   ก่อนที่จะตัดสินใจเดินออกมาจากห้องพักของตน   ไปยังที่ๆร่างสูงนั้นได้นัดเขาไว้




                    ว่าแต่เขาก็กำลังสงสัยตัวเองนะ










                    ว่าจะคิดมากเรื่องเสื้อผ้าทำไม


                    คุโรโกะสบัดหัวไล่ความคิดของตน   ก่อนจะเดินขึ้นบันไดหินเพื่อขึ้นไปยังที่เขาได้มีเทศกาลจัดอยู่  ผู้ใหญ่เด็กเล็กแดงต่างๆพากันมาซื้อของ และเดินเที่ยวยิ้มแย้มกันอย่างสนุกสนาน   แล้วเขาเอวก็ไม่ค่อยได้มาเทศกาลงานวัดแบบนี้นานแล้ว  เขาคิดถึงช่วงเวลาแบบนี้มากๆ   ตั้งแต่เด็กแล้วได้มั้ง  ครั้งสุดท้ายที่เขาได้ไปเที่ยวแบบนี้คือตอนที่พ่อของเขายังมีชีวิตอยู่และเดินเที่ยวไปพร้อมกับแม่ของเขา


                     "เท็ตสึยะ!!"  เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นขานชื่อของคุโรโกะขึ้นมา  ก่อนที่ร่างบางจะหันไปตามเสียงที่เรียกเขา  โดยที่พอหันไปแล้วกลับไม่ได้มีแค่คนที่นัดอย่างเดียวที่มา


                    "เท็ตจังสวัสดีตอนเย็นนะจ๊ะ^^"  มิบุจิเอ่ยขึ้นทักคนตัวเล็กกว่า   พร้อมกับการส่งเสียงของคนอื่นๆที่ตามมาต่อจากเขา


                   "สายันสวัสดิ์คุโรโกะ"  ฮายามะทักอีกคนขึ้นมา  พลางทำสายตาเปล่งประกายเหมือนกับได้เจอของเล่นใหม่จากตัวของเขา


                       "ไงเด็กน้อย"  เนะบุยะพูดขึ้นทักตามมา   พร้อมกับมองมายังร่างบาง  และมองตัวเขาอย่างพิจารณา


                      "งั้นผมขอแยกตรงนี้นะครับ   พวกรุ่นพี่เองก็ตามสบายเลยนะครับ"  อาคาชิเอ่ยขึ้นพร้อมกับหันมายิ้มให้พวกลูกน้องในทีมหรือรุ่นพี่ของตน  ก่อนที่จะมีเสียงหนึ่งแซวขึ้นอย่างกับจงใจล้อใครบางคน


                    "พวกฉันสบายหรือใครสบายที่กันแน่"  รุ่นพี่ผมดำพูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะเบาๆ   พลางปิดปากเอาไว้อย่างกลั้นขำ   และมองอาคาชิที่ยืนอยู่ข้างๆร่างเล็กผมฟ้าที่ดูยิ้มแย้มอย่างมีความสุข


                       "มีอะไรกันหรือป่าวครับ??"  คุโรโกะที่ไร้เดียงสาไม่รู้ว่าเขาคุยอะไรกันเลยตัดสินใจถามขึ้น    โดยที่อาคาชินั้น ยังคงทำตัวนิ่งอยู่ไม่ตอบสนองอะไรกับพวกรุ่นพี่ ก่อนจะพูดขึ้นมาดักไว้ก่อน


                     "ก็ต้องเป็นพวกรุ่นพี่อยู่แล้วล่ะครับ   งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ"  อาคาชิรีบพูดขึ้น  เพื่อไม่ให้ร่างบางสงสัยอะไรไปกว่านี้   ก่อนจะจูงมือขาวเดินเข้างานเทศกาลไป   โดยมีสายตาของพวกพี่ๆที่ดูด้วยความเป็นห่วงอยู่ห่างๆ


                     "เเซย์จังก็ยังคงเป็นเซย์จังจริงๆนะ^^"










                        ร่างทั้งสองจูงมือเดินมาไกลมากแล้ว   อาคาชิจึงหยุดเดิน   ก่อนจะหันกลับมามองร่างเล็กข้างกายที่ยังคง งง งวย กับคนที่ลากตัวเขามาอยู่


                    "เออ...อาคาชิคุงครับ"  คุโรโกะเอ่ยขึ้นเรียกอาคาชิ  อีกคนที่ได้ยินนั้นก็หันมามองร่างบาง  ก่อนที่จะตอบกลับอีกคนไป


                     "มีอะไรเท็ตสึยะ??" ร่างสูงเอ่ยตอบกลับไปไม่นาน   คุโรโกะก็ตัดสินใจพูดพลางมีสีหน้าที่แดงก่ำน้อยๆ


                      "คือ...มือคุณ...ครับ" คุโรโกะพูดขึ้นพลางมองไปที่มือของพวกเขาที่จับกันอยู่ไม่ยอมปล่อย   อาคาชิที่ได้ยินก็มองตามพร้อมกับยิ้มมุมปาก   และกำชับมือที่กุมกันอยู่   ร่างบางที่รู้สึกได้ถึงความแน่นของมือที่จับกันอยู่   ก่อนจะเงยหน้ามองอาคาชิด้วยสายตาค้อนๆด้วยความเคือง


                     "อาคาชิคุ----"


                    "นี่เท็ตสึยะ....วันนี้นาย......" อาคาชิเอ่ยตัดหน้าอีกคน   ก่อนจะมองคุโรโกะอย่างพิจารณารูปร่างอันงดงาม   ไม่เพียงแต่เสื้อผ้าที่เหมาะกับสีผมอย่างน่าเหลือเชื่อ    ทำให้คุโรโกะเดาออกนิดหน่อยว่าอีกคนนั้นจะพูดอะไรกับเขา


                   "มีอะไรหรอครับอาคาชิคุง" ร่างบางถามกลับมาใหเอีกคน  พร้อมกับอาคาชิที่หมุดตัวของร่างบางไปมา  จนคุโรโกะเริ่มรู้สึกมึนหัวไปหมด


                   "วันนี้นายแต่งตัวดู......"


                   "...อาคาชิคุง  ผมรู้ตัวครับ ว่าตัวผมไม่ได้มีเซนส์ในการแต่งตัวเหมือนกับอาคาชิคุงหรอกนะครับ จะได้ทำให้พวกสาวๆเขามองกัน" คุโรโกะเอ่ยขึ้นมาด้วยความเซ็ง  ก็ตัวเขาไม่ได้เป็นหนุ่มหล่อพ่อรวยฐานะดีอย่างอาคาชิคุงซะหน่อย  เซนส์การแต่งตัวนั้นก็ใช่ว่าจะดีเหมือนกับอาคาชิคุงด้วยซ้ำ


                   "ป่าว....ฉันจะบอกว่าวันนี้นายน่ารักดีน่ะ"









                        ฉ่าาาO////O




                        "บากะครับอาคาชิคุง!!" คุโรโกะตะโกนด้วยเสียงที่ดังใส่คนตรงหน้า  ก่อนที่ร่างบางจะสาวเท้าเดินหนีอีกคนนำไปอีกทาง  โดยไม่รอคนตัวสูงข้างหลังเลยแม้แต่นิดเดียว  อาคาชิที่เห็นท่าทีของร่างบางก็หัวเราะเบาๆออกมา  ก่อนที่จะเดินตามคนที่งอลตัวเองไปด้วยสีหน้ามีความสุขที่ไม่เคยมีมาก่อนในชีวิตของเขา


                        "อ้ะ!! นั่นมันคุโรโกจจิกับอาคาชิจจินี่หน่า!!" เสียงของบุคคลปริศนาที่มาใหม่ดังขึ้นมาจากข้างหลังของทั้งสองคน ทำให้ทั้งคู่ที่เหมือนกับคู่รักงอลง้อกันนั้น ต้องหยุดง้องอลกันก่อนทันที


                   "สวัสดีครับคิเสะคุง มาเที่ยวแถวนี้หรอครับ" คุโรโกะถามเพื่อนในรุ่นปฏิหาริย์ด้วยกันอย่างเป็นมิตรส่วนคนที่โดนทักกลับก็กระดี้กระด้าดีใจที่ได้เจอเพื่อนเก่า


                   "อืม...มาพร้อมกับพวกอาโอมิเนจจิ มุราซากิบารัจจิ  มิโดริมัจจิ  และโมโมจจิน่ะฮะ" คิเสะ เรียวตะ หนุ่มนายแบบชื่อดัง ที่เคยอยู่ในรุ่นปฏิหาริย์ และเป็นคนที่คอยทำแต้ม  มีความสามารถในการก๊อปปี้ท่าของคนอื่นๆได้อย่างดีรวมทั้งในรุ่นปฏิหาริย์


                        "โย่!! เท็ตสึไม่ได้เจอกันตั้งนาน  เออ...นายด้วยนะอาคาชิ" เสียงของบุคคลที่มาใหม่ดังขึ้นอีกคนนึง  ทำให้คนที่ยืนอยู่ก่อนแล้ว  หันหน้าไปตามเสียงเรียกของอีกคน


                   "สวัสดีครับอาโอมิเนะคุง  ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ" ร่างบางทักกลับอีกคนไปด้วยรอยยิ้มบางๆ  โดยที่อีกคนไม่ได้คิดอะไร  กลับดีใจด้วยซ้ำที่ได้มาเจอเพื่อนๆเก่าๆในที่แบบนี้  แต่โดยที่ไม่ทันรู้ตัวเลยว่ามีออร่าสีดำทมิฬบางๆออกมาจากจักรพรรดิของพวกเขา


                   "เอ่อ...อาคาชิจ....จิฮะ" คิเสะที่เริ่มจะรู้สึกตัว ก็เรียกชื่อของอดีตกัปตันของพวกเขาขึ้นมาเบาๆ ก่อนจะค่อยๆถอยหลังให้อยู่ห่างจากรัศมีสีดำตรงหน้า


                   "....ไม่ได้เจอกันนานเลยนะไดกิ เรียวตะ "  เป็นรอยยิ้มที่ทำให้สาวๆแถวนั้นต่างต้องใจละลายคล้อยตามได้กันเป็นแถวๆ แต่กลับสำหรับคิเสะและอาโอมิเนะนั้นรู้ดีว่า  รอยยิ้มนั้นไม่ได้มีจิตใจที่ดีอย่างที่เห็น  ทั้งคู่มองหน้ากันอย่างเข้าใจ  พร้อมกับถอยออกมาให้ห่างจากจักรพรรดิและชายาในอนาคตของเขาที่ยืนอยู่ข้างๆ  และต่างตะโกนร้องในใจอย่างเป็นเสียงเดียวกันว่า












                   'ซวยแน่ๆแล้วตู'


    [ชุดที่ทุกคนใส่]











    [decidedly]
    ...ทำตัวติดสัตว์กันหรอครับ ถึงได้กัดกันอย่างหมา...

    [29/12/59]
    19:43 p.m.

    (Rewrite 100%)[29/6/62]
    12:23 p.m.


    [EP 02:Just Dating]
    Story 100 %By Phantom
    Example Stroy By Phantom ft.TheThird
    Story By Phantom



    ติดตามพวกเราได้ที่กลุ่ม

    FB Group : SCphantomFL <<<คลิก

    ผู้ดูแล : คลิกที่ชื่อได้555


    คนดูแลจากนิยายเรื่องต่างๆ





    [Are You Ready??]
    [Plz Wait For Story]
    [Next Time]




    English : Bye Bye!!
    Japanese : それでは、また会いましょう!!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×