บุปผาละลายหิมะ

    ในบรรดาตำรับยาล้ำค่าในใต้หล้า ตำรายาชุบวิญญาณคือหนึ่งในสมบัติล้ำค่าของนักปรุงยา เชื่อกันว่าตั้งแต่บรรพกาลก็มีการเล่าขานถึงอภินิหารไว้อย่างอัศจรรย์ หากบุคคลใดได้ครอบครองยาชุบวิญญาณก็จะมีชีวิตยืนยาวไม่เจ็บไม่ตาย มีอายุยืนยาวหลายร้อยปี หากคนใกล้ตายได้กินเข้าไปก็จะกลับมาแข็งแรง เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังวังชาอย่างสุดประมาณ ยาชุบวิญญาณนี้จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่ายาเซียน แต่ทว่าตั้งแต่ต้นจนจบกลับไม่มีหลักฐานใดยืนยันแน่ชัดว่ายาชุบวิญญาณมีอยู่บนโลกมนุษย์จริง มีเพียงตำนานเล่าต่อกันมา เป็นเหมือนเรื่องเพ้อฝันของปุถุชนที่อยากหลุดพ้นจากความทุกขเวทนา ผ่านมาหลายร้อยปีความเชื่อยิ่งหยั่งรากลึกลงไปจนเป็นที่มาของยอดสมบัติล้ำค่าที่ผู้คนต่างแสวงหา สุดท้ายลือกันว่าตำรายาชุบวิญญาณถูกเก็บไว้ในสุสานหลวงของแค้วนเยียน แคว้นใหญ่มีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพันธ์ธัญญาหาร เปรียบดั่งแดนสวรรค์ของมนุษย์เดินดิน

    เหยียนไท่ฝู จิ้งอิ๋งเอ๋อ เฉียนปาเหม่ยสามสหายรักได้ยินเรื่องเล่าขานของยาชุบวิญญาณก็รู้สึกอัศจรรย์ใจยิ่งนัก อยากจะมียาชุบวิญญาณไว้ครอบครอง ทั้งยังใคร่รู้ว่ายาเซียนจะวิเศษจริงดังในตำนานหรือเป็นเพียงคำลวงไร้แก่นสาร ร่างอรชรสามร่างบุกเข้าไปในสุสานหลวงเพื่อคัดลอกตำราชุบยาวิญญาณออกมา แต่ส่วนประกอบในการปรุงยานั้นล้วนแล้วแต่มีค่าควรเมือง พันปีถึงจะพบพานมีด้วยกันอยู่สี่อย่าง คือ โสมพันปี เห็ดหลินจือไฟ  บัวหิมะพันปี และไข่มุกโลหิต เพื่อปรุงยาชุบวิญญาณให้สำเร็จตามความปรารถนา คุณหนูเฉียนปาเหม่ยผู้ซึ่งสหายรักต่างเรียกขานว่าปีศาจเกลือทะเล จึงยอมละทิ้งกิจการทั้งสามหอที่เปรียบประดุจลมหายใจของตน ออกเดินทางตามหาบัวหิมะพันปีเหมือนกับเหยียนไท่ฝูที่ออกเดินทางไปก่อนหน้า หญิงสาวพกเพียงกระบี่เล่มงามวิจิตรติดตัวพร้อมม้าคู่กายย่ำเท้าไปทั่วหล้า