ไฟแค้นแสนพิศวาส(ปี2018) - นิยาย ไฟแค้นแสนพิศวาส(ปี2018) : Dek-D.com - Writer
×

    ไฟแค้นแสนพิศวาส(ปี2018)

    เขาจดทะเบียนกับเธอด้วยความจำใจ แล้วหนีหน้าไปครองรักกับหญิงอื่นในต่างประเทศ เขายอมกลับมาเพื่อดูแลแม่ที่กำลังป่วย และเข้าใจผิดคิดว่าเธอเป็นคนทำให้แม่ของเขาตาย...เป็นจุดเริ่มต้นของ ...ไฟแค้นแสนพิศวาส...

    ผู้เข้าชมรวม

    6,286

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    15

    ผู้เข้าชมรวม


    6.28K

    ความคิดเห็น


    10

    คนติดตาม


    144
    จำนวนตอน :  75 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  14 ก.พ. 63 / 06:17 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

     สุขสันต์
    วันวาเลนไทน์2020



    ขอบคุณเพื่อนนักอ่านค่ะ
    ที่ติดตามงานเขียนนิยายรักศิรารัย
    จากที่เวลาไม่ค่อยอำนวย
    เพราะมีภาระหลายอย่าง
    (อ้างประจำ)
    อย่าเพิ่งทิ้งร้างกันนะคะ
    ที่ทิ้งไปก็ขอ(วิงวอน)ให้กลับมา
    หลังจากเดือนนี้
    สัญญาว่าจะพานิยายสนุกๆ
    มาให้อ่านกันตลอดปี

    **************

    ขอให้ผู้อ่านนิยายเรื่องนี้ทุกท่าน
    ประสบแต่ความสุข
    ปรารถนาสิ่งใดให้สมหวังทุกประการ
    การเรียนดีเลิศ
    การงานเจริญรุ่งเรื่อง
    มีโชคลาภ ร่ำรวย ร่ำรวย ทุกท่านนะคะ

    ***************

    ฝากนิยายเรื่องนี้
    ให้อ่านกันด้วยนะคะ
    *************


    ไฟแค้นแสนพิศวาส
    (ฉบับปรับปรุงใหม่2018)


    ศิรารัย






    ******************

    อัปสรสินีเดินออกจากลิฟต์มาอย่างใจลอย 

    ลืมมองสิ่งรอบตัวจนปาดคีย์การ์ดเปิดประตูห้องผลักเข้าไป และตกใจที่มีคนตามติดเข้ามา

    “อุ๊ย...คุณชามาตุ์” 

    เธอยืนตะลึงงัน เขาไม่พูดอะไร ปิดประตูล็อกห้องแล้วเดินนำเข้าไปด้านในหน้าตาเฉย

    “กะลาไม่ได้อยู่ที่นี่หรือ” เขาถามขณะเดินดูรอบห้อง

    “ถ้าคุณมาตามหาเด็กกะลา ต้องไปที่บ้านเพื่อนของดิฉันแล้วค่ะ แกขอพักอยู่ที่นั่น” 

    น้ำเสียงงอนๆของหญิงสาวเรียกความสนใจจากชายหนุ่มให้มองจับจ้องและเดินเข้ามาหา

    “อัปสรก็รู้ว่าพี่มาตามใคร จะไปไหนมาไหนทำไมไม่บอกกันก่อน” 

    เขาเดินตามคนเดินหนี แล้วจับแขนเธอไว้

    “ปล่อยค่ะ ดิฉันไม่ใช่เด็กเล็ก จะต้องรายงานกันทุกเรื่อง” 

    หญิงสาวพยายามจะดึงแขนออกจากนิ้วแข็งแรง 

    แต่เขาไม่ยอมปล่อย กลับจับตัวเธอให้หันมาเผชิญหน้า

    “ไม่ต้องรายงาน แต่ต้องบอกกันบ้าง”

    “ไม่บอกก็รู้นี่คะ ไม่งั้นจะตามมาถูกได้ยังไง”

    “แล้วอัปสรจะไม่ถามหรือว่าพี่ตามมาได้ยังไง”

    “ดิฉันไม่ต้องการรู้หรอกค่ะ เอาละ เจอดิฉันแล้ว เชิญคุณออกไปได้แล้วค่ะ”

    “ออกไปแน่ แต่เราต้องไปด้วยกัน ห้องนี้มันเล็กแคบไปสำหรับคู่แต่งงาน 

    พี่จองห้องสวีตไว้ แล้วบอกยกเลิกห้องนี้ไปแล้ว 

    เดี๋ยวพนักงานจะขึ้นมายกกระเป๋าให้ อัปสรรีบเก็บข้าวของเถอะ”

    ชามาตุ์คว้ากระเป๋าเดินทางของภรรยาออกมาเปิดวางกลางเตียง 

    แล้วเปิดตู้หยิบเสื้อผ้าของเธอลงกระเป๋าอย่างไม่ฟังเสียงทัดทาน 

    เก็บเสร็จแล้วก็ปิดกระเป๋ายกเอาไปวางไว้ตรงประตูหน้าห้อง พอดีกับพนักงานโรงแรมมาเคาะเรียก

    “ไม่นะคะ ดิฉันจะอยู่ห้องนี้” อัปสรสินีพยายามจะหยุดเขา แต่ไม่เป็นผล

    “อยากจะมีเรื่องอวดชาวบ้านหรือไง ให้สามีลากหรืออุ้มไปดีล่ะ มาเถอะรีบเก็บของใส่กระเป๋าเร็วๆเข้า”

    ชามาตุ์กระซิบข้างหู พลางจูงมือภรรยามาที่โต๊ะเครื่องแป้ง แล้วส่งกระเป่าใบเล็กใส่มือ 

    ก่อนจะเดินไปเปิดประตูรับพนักงานขนกระเป๋า 

    และเข้ามาช่วยหยิบข้าวของเครื่องใช้เก็บใส่กระเป๋าให้เสร็จไวๆ 

    แล้วดึงมือเธอเดินตามออกจากห้องนั้นมา

    “คุณชามาตุ์คะ ดิฉัน...”

    “อย่าพูดอะไรจนกว่าเราจะอยู่กันตามลำพัง”

    ชามาตุ์ชำเลืองมองพนักงานที่เดินนำอยู่ข้างหน้า แล้วพาทั้งสองขึ้นลิฟต์มาอีกสามชั้น บนห้องสวีตหรูหราแห่งนั้น มีพื้นที่กว้างขวางกว่าห้องที่อัปสรสินีพักเกือบสองเท่า เขานำกระเป๋าเดินทางของภรรยาเข้ามาวางไว้หน้าตู้หลังใหญ่ที่ด้านในแบ่งพื้นที่ออกเป็นสองส่วนสำหรับใส่เสื้อผ้าบุรุษและสตรี โดยมีอัปสรสินีเดินตามมาอย่างงงๆ


    ************************



    *** ขออภัย***

    นิยายเรื่องนี้

    ได้ลงเนื้อหาสมบูรณ์ 100%

    ผู้เขียนขออนุญาต

     สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์

    ทั้งทางสิ่งพิมพ์และคอมพิวเตอร์ 

    ไม่อนุญาตให้นำส่วนใดหนึ่งส่วนใดในนิยายเรื่องนี้

    ไปดัดแปลงทำซ้ำจัดพิมพ์หรือกระทำการใดๆ 
    ก่อนได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร

    *****************

    ฝากอ่าน
    นิยายเรื่องนี้กันเยอะๆนะคะ

    ** รักเสมอค่ะ**

     


    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น