ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Fic One piece ] เจ้าชาย(ปีศาจ)แห่งท้องทะเล

    ลำดับตอนที่ #3 : พวกตัวแสบ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.18K
      350
      22 มิ.ย. 65

    หนึ่งสัปดาห์ต่อมาลูฟี่ก็กลับมาพร้อมบาดแผลเต็มตัว ตอนที่ถูกโยนเข้ามาในห้องก็หลับทันที เขาเลยลงไปข้างล่าง แต่ยังไม่ได้ทันได้เอ่ยปากของกล่องปฐมพยาบาล ดาดันก็ยัดมันใส่มือเขาและเดินออกไปทันที

    “ดาดันเนี่ยเป็นคนดีจริงๆ ด้วยสินะ”

    เขากลับขึ้นมาทำแผลให้กับลูฟี่ที่หลับเป็นตาย แต่ก็เห็นคนซึนอีกคนที่แกล้งหลับแต่ก็เหลือบมองมาเป็นระยะๆ จนเขายกยิ้มขึ้นและกลับไปนอนเหมือนเดินโดยไม่พูดอะไร

    วันต่อมาเอสก็ลากเขาไปด้วยโดยที่มีลูฟี่วิ่งตามหลัง แต่ถึงโรคุจะสลัดมือเอสออกได้แต่เขาก็ไม่ได้ทำ เพราะว่าเขาก็อยากให้ลูฟี่แข็งแกร่งขึ้นด้วยตัวเอง แถมในการวิ่งตามเอสไปเรื่อยๆ แบบนี้ก็ฝึกร่างกายได้ดีเลย

    ไม่ว่าจะผ่านไปกี่เดือนลูฟี่ก็ยังคงวิ่งตามมาเรื่อยๆ พอลูฟี่มีแผลเขาก็ทำแผลให้ตลอด และก็ช่วยให้คำแนะนำในเรื่องการเคลื่อนไหวของทุกครั้ง และช่วงนั้นเขาก็สนิทกับเอสและซาโบะขึ้นเรื่อยๆ และออกไปช่วยพวกเขาหาเงินด้วย

    “ฝนตกหนักจังนะวันนี้”

    “ไม่ชอบฝนรึไง”

    “ชอบสุดๆ ไปเลยต่างหาก”

    “เจ้านั้นไล่ตามเก่งชะมัด”

    โรคุยกยิ้มขึ้นมาเมื่อเห็นว่าเอสนั้นมองไปที่ลูฟี่ เพราะทุกครั้งที่เขาสังเกตเขาก็เห็นว่าเอสนั้นก็จะมีหยุดรอลูฟี่อยู่แบบหนึ่งก่อนจะออกว่าต่อไปเสมอ

    “นั้นมัน”

    เอสมองไปที่มุมมืดของป่า พอเพ่งมองดีๆ แล้วก็เห็นว่ามันเป็นเสือยักษ์มันตัวใหญ่จนน่ากลัว พอเขาเห็นว่าลูฟี่ขาแข็งจนขยับไปได้ เขาเลยตัดสินใจกระโดดลงไป และใช้ฮาคิเกาะหุ้มมือของตนไว้ และชกเข้าไปที่หัวของเจ้าเสือเต็มๆ

    “หนีเร็วลูฟี่!”

    โรคุจับมือของลูฟี่วิ่งหนีห่างออกไปจนกลับมาถึงบ้านของดาดัน และลูฟี่ก็ล้มลงไปนอนกับพื้นอย่างหมดแรง ก่อนจะดีดตัวขึ้นมาและหันมามองเขาด้วยตาเป็นประกาย

    “เมื่อกี้นายทำได้ยังไงน่ะ!”

    “ถ้านายได้ออกทะเลก็จะได้รู้ในสักวันนั้นล่ะ”

    “งั้นฉันก็จะรีบเก่งขึ้น จะได้ออกทะเลเร็วๆ”

    ในคืนวันนี้ลูฟี่ก็หลับไปสนโลกเหมือนเดิม แต่เอสที่พึ่งกลับมาก็มองหน้าเขาด้วยสีหน้ารู้สึกผิด โรคุจึงเดินเข้าไปลูบหัวคนอายุมากกว่า

    “นอนก็เถอะ”

    “อืม”

    โรคุพาอีกฝ่ายมานอนและเช้าวันต่อมาเอสก็จะมองลูฟี่อยู่ไกลๆ ว่าเจ้าเด็กหมวกฟางนั้นยังปลอดภัยและจะไม่มีทางตาย

    จริงสิ เราลืมถามเรื่องหมวกกับลูฟี่ไปเลยแฮะ

    วันต่อมาโรคุก็รั้งตัวของลูฟี่ที่จะไล่ตามเอสไปเพราะจะถามเจ้าตัวเรื่องหมวกที่เจ้าตัวสวมอยู่

    “ลูฟี่ หมวกนั้นของแชงคูสใช่ไหม”

    “ใช่ นายรู้จักแชงคูสด้วยเหรอ”

    “อื้ม ผมอยู่บนเรือของเขามาสามปีน่ะ”

    “เหรอ สุดยอดเลย”

    และวันนี้เขากับลูฟี่ก็ไม่ได้ไล่ตามเอสไป เพราะอยู่คุยเรื่องของแชงคูสทั้งวัน

     

    สามเดือนมาแล้วที่ลูฟี่ไล่ตามเอสอย่างไม่ลดละ ตอนนี้เขาก็มาอยู่กับซาโบะเพื่อรอเอสกลับมาเพื่อ พอเอสกลับมาแล้วก็โชว์เงินที่หามาได้ออกมาโชว์

    “พวกนายหามาได้เยอะจริงๆ เลยนะเนี่ย”

    “แล้วนายไม่คิดจะหาบ้านเหรอ ถ้าจะออกทะเลต้องมีเรือนะ”

    ซาโบะหันมาถามเขาที่นอนพิงต้องไม้อยู่อย่างไม่สนใจเงินที่ทั้งคู่หามาได้

    “พลังของผมมันเกี่ยวกับน้ำ ควบคุมได้ทั้งหมดแถมหายใจใต้น้ำก็ได้ เพราะงั้นไม่ต้องมีเรือหรอก”

    “สุดยอดชะมัด”

    เด็กชายทั้งสองส่งเสียงชื่นชมเขาออกมา และพูดคุยกันเรื่องที่จะเอาเงินทุนที่หามาตลอดห้าปีไปซื้อเรือโจรสลัด

    “เรือโจรสลัดหาซื้อไม่ได้หรอกนะ ต้องของให้ช่างต่อเรือทำเรือแบบที่เราต้องการให้ แล้วก็ค่อยขึ้นธงโจรสลัด และบอกเลยว่าต้องใช้เป็นร้อยล้านเบรีอย่างต่ำ”

    “นายรู้เยอะจังนะ” เอส

    “ผมมีประสบการณ์ในทะเลนะ”

    พวกเราคุยกันเรื่องโจรสลัดอยู่นั้นเสียงลูฟี่ก็ดังขึ้นมาจากด้านล่างของต้นไม้จนทำให้เอสและซาโบะตกใจมาก ยกเว้นโรคุที่รู้จากฮาคิสังเกตแล้วว่าลูฟี่กำลังใกล้เข้ามา แต่ก็ไม่คิดจะบอกทั้งสองคน

    เอสกับซาโบะจัดการมัดลูฟี่ติดกับต้นไม้ จนเขานั้นก็นั่งฟังอยู่บนต้นไม้อย่างเงียบๆ จนลูฟี่ตะโกนออก

    “อย่าฆ่าฉันเลยนะ!! โรคุช่วยด้วยยยยย!!”

    โรคุโดดลงมาจากนั้นต้นไม้และตัดเชือกให้กับลูฟี่ด้วยใบมีดที่สร้างขึ้นมาจากน้ำ

    “มีคนกำลังมา รีบซ่อนตัวเถอะ”

    โรคุพูดขึ้นและลากเด็กทั้งสามไปซ่อนหลังต้นไม้ และซาโบะก็พูดถึงคนที่เดินเข้ามาใกล้ว่าชื่อพอลเชมี่ เป็นคนน่ากลัวมากแต่สำหรับโรคุนั้นเขาคิดว่าคนที่ไม่มีฮาคิน่ะไม่มีทางที่จะจะพลาดท่าแน่นอน

    "เอส ซาโบะ ลูฟี่ไปไหนแล้วอ่ะ" โรคุพูดขึ้นมาเมื่อเห็นว่าข้างตัวเขานั้นไม่มีเจ้าเด็กหมวกฟางอยู่ แต่ดันไปโผล่ให้เจ้าคนอันตรายนั้นจับตัวไปซะได้ ถ้าพากลับมาได้เขาจะบ่นให้หูชาเลยคอยดู

    “เอส โรคุ ช่วยฉันด้วย!!” เจ้าลูฟี่นี่มันบ้าจริงๆ เลยใครสั่งใครสอนให้ตะโกนเรียกชื่อคนที่ศัตรูตามหาอยู่กัน มันจะทำให้นายซวยนะเว้ย

    “นี่แกรู้จักเอสอย่างนั้นเหรอ”

    “ใช่แล้ว เขาเป็นเพื่อนฉัน แต่เมื่อกี้เขาบอกเขาจะฆ่าฉัน” โรคุถึงกับกุมขมับอย่างปวดหัว เขาของไปนอนใต้ทะเลตอนนี้ทันไหมนะ

    “งั้นฉันของถามหน่อย วันนี้เจ้าเอสมันขโมยเงินของฉันแล้วหนีไป แล้วแกรึเปล่าว่าเงินนั้นมันอยู่ที่ไหน”

    ตอนนี้โรคุขออย่างเดียวเลยว่าลูฟี่จะเป็นพวกโกหกเก่งแต่ความคิดนั้นก็ถูกทำลายทิ้งลงในทันทีที่เห็นว่าเจ้าตัวโกหกได้ห่วยแตกมาก ไม่ว่าใครก็ดูออกแน่ๆ ว่าโกหกอยู่

    เจ้าพวกนั้นอุ้มลูฟี่เดินออกไปแล้ว พนันได้เลยว่าต้องซ้อมน้องชายบุญธรรมของเขาจนกว่าจะพูดออกมาแน่ๆ พอจะหันไปขอความช่วยเหลือจากเอสและซาโบะ เจ้าพวกนั้นก็กลับขึ้นไปบนต้นไม้เพื่อย้ายสมบัติกันแล้ว

    “ชิ!”

    โรคุตรงกลับไปที่เกรย์เทอร์มินอลและก็ดันคลาดสายตากับลูฟี่ไปแล้ว เขาเลยรวบรวมสมาธิให้สามารถรวบรวมน้ำในอากาศให้มารวมตัวกันจนเป็นก้อนขนาดเท่าลูกแล้ว และก็มองดูความทรงจำจากน้ำเหล่านั้นจนเห็นที่ที่ลูฟี่ไป

    “เจอล่ะ”

    โรคุที่จะรีบออกกันไปช่วยลูฟี่ก็ทรุดตัวลงนั่งกันพื้น และมีเลือกที่ไหนออกจากจมูกของเขาหยดลงพื้น

    “อ่านความทรงจำจากน้ำกับรวบรวมน้ำในอากาศก็ยากอยู่แล้ว พอเอามารวมกันเลยฝืนตัวเองไปสินะ”

    โรคุนั่งพักอยู่ประมาณห้านาที แล้วออกตัววิ่งไปทางที่ลูฟี่แต่พอไปถึงภาพที่เห็นก็ทำให้เขาถ้าจะหัวใจวาย

    “โร...คุ”

    “แกเป็นพวกเดียวกับมันสินะ”

    โรคุที่ยังช็อกกับภาพตรงหน้าอยู่นั้นเขาก็โดนเจ้าพอลเชมี่ต่อยเข้ามาเต็มท้องจนกระเด็นไปกระแทกกับผนังไม้ และสติที่จะเข้าไปช่วยลูฟี่ก็ค่อยๆ หมดลงไป

    “ล... ลู... ฟี่”

     

    ‘พี่โทรุ... คุณทะเลบอกว่าอย่าไป” โรคุรั้งตัวของพี่ชายทั้งสองของเขาเอาไว้จากการที่จะพาเข้าไปร่วมประชุมที่ทางรัฐบาลบอกว่าให้เรียกทุกคนไปรวมกันที่กลางเกาะ

    ‘หมายความว่ายังไงน่ะ โรคุ’ เด็กชายที่ไว้ผมอันเดอร์คัตย่อตัวลงไปถามน้องชายวัยสามขวบของเขา

    ‘คุณทะเลบอกว่ามันเป็นกับดัก’ โรคุจ้องกลับเข้าไปในดวงตาสีเหลืองอำพันที่เป็นสีเดียวกันกับเขา

    ‘เองไงดีล่ะโทยะ’ แฝดคนพี่หันไปถามน้องชายที่มีผมสีน้ำทะเลและดวงตาสีอำพันเหมือนเขา

    ‘ฉันว่าเราอยู่กับโรคุเถอะ ยังไงๆ ที่น้องพูดมาก็มีเหตุผล’

    อันที่จริงพวกเขาทั้งสองคนก็รู้สึกแปลกใจอยู่แล้วกับการที่เจ้ารัฐบาลบอกว่าให้พวกเราไปรวมตัวกันที่กลางเกาะ ทั้งๆ ที่พวกมันยังมากันไม่ถึงแท้ๆ

    ยังไม่ทันที่พวกเขาจะก้าวเดินกลับไปที่ชายหาดที่พึ่งออกมา เกาะที่พวกเขาอยู่ก็เกิดการสั่นสะเทือน และก็มีลูกปืนใหญ่ยิ่งเข้ามาที่เกาะของพวกเขา

    ‘บาสเตอร์คอลงั้นเหรอ เจ้ารัฐบาลสารเลวเอ้ย!’ โทยะหันไปมองที่รอบๆ เกาะก็เห็นว่ามีเรือของทหารเรือล้อมรอบเกาะของพวกเขาเอาไว้

    ‘รีบไปที่ทะเลกันก่อนเถอะ’ โทรุอุ้มน้องชายของเขาขึ้นมาและเร่งฝีเท้าไปที่ชายหาดที่อยู่ใกล้พวกเขาที่สุด และค่อยๆ ว่าโรคุลงบนพื้นทรายอย่างเบามือ

    ‘โรคุ น้องขอให้คุณทะเลพาเราออกไปจากเกาะทีนะ พาไปเกาะที่ไกลที่สุดที่น้องพแจะพาเราไปด้วยได้’

    ‘แล้วคุณพ่อกับคุณแม่’

    พี่ชายทั้งสองมองหน้ากันและหันมาสบตาสีทองกลมโตที่มีน้ำตาคลอเบ้าอยู่ และพวกเขาก็ทำได้เพียงวางมือลงบนเส้นผมสีน้ำทะเลที่เหมือนกับพวกเขา

    ‘ผมจะทำ’ โรคุหันหลังลงไปนั่งคุกเข่ากับพื้นทราย

    ‘ยังมีคนเหลืออยู่ ฆ่าพวกมันซะ’ ทหารเรือประมาณสิบกว่าคนวิ่งตรงมาทางพวกเรา แต่ว่ามันก็มีลมพัดมาอย่างแรงจากด้านหลังของพวกเขา

    ดาบสามคาตานะสามเล่มลอยมาพร้อมๆ กับสายลมเข้าไปในมือของเด็กชายสองคน และดาบเล่มหนึ่งก็ปักไว้ข้างตัวของโรคุ เพราะนั้นคือดาบของน้องของพวกเขา

    ‘โรคุ ไม่ต้องห่วงพวกพี่นะ ควบคุมทะเลไป’ โทยะหันมายิ้มให้กับน้องของเขา และชักดาบออกมา ก่อนที่จะลูบไปที่ใบดาบจนเกิดเป็นกระแสไฟฟ้าที่เป็นพลังของเขา

    ‘อ๊ากกกกก!!!’ เหล่าทหารเรือส่งเสียงร้องออกมาอย่างเจ็บปวดจากใบดาบของฝาแฝด คนหนึ่งก็สนับสนุนเขาด้วยสายลมที่คมราวกับใบมีด ส่วนอีกคนก็มีไฟฟ้าที่ผลิตออกจากร่างกายได้ด้วย

    ‘พร้อมกับครับพี่!’

    พอได้ยินเสียงตะโกนของน้องคนเล็ก พี่ชายทั้งสองก็กำจัดพวกทหารเรือเสร็จพอดี โรคุจับมือพี่ชายของเขาและเอาดาบตัวเองลงไปในน้ำด้วย

    พอลงมาในทะเลแล้วเขาก็โผเข้ากอดพี่ชายของเขาทนที ทั้งโทรุและโทยะกอดปลอดกันและกัน พวกเขานั้นไม่ได้อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้เลย ทั้งๆ ที่พวกเขานั้นไม่ได้ทำอะไรผิดเลยแท้ๆ

    ‘ผมไม่ได้อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเลย พวกพี่อยากจากผมไปอีกนะ ผมขอร้อง’

     

    ‘ไม่นะ พี่โทรุ พี่โทยะ พี่ครับ!!’

     

    “พี่ครับ!!”

    โรคุเด้งตัวขึ้นมาและมองไปรอบตัวก็เห็นว่าตัวเองนั้นอยู่กลางป่าพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบหน้า จนเอสที่อยู่ใกล้เขาที่สุดต้องมากอดปลอบ

    “ฝันร้ายเหรอ”

    “อืม นิดหน่อย”

    โรคุดันคนตรงหน้าออก แล้วหันไปมองลูฟี่ที่มีแผลเต็มตัวแต่ก็โดนรักษาเรียบร้อยแล้ว ส่วนเขานั้นก็ถูกรักษาเรียบร้อยแล้วเหมือนกัน

    “โรคุ นาย ฮึก นายยังไม่ตาย”

    “อย่ามาแช่งกันสิครับ”

    โรคุเดินเข้าไปปลอบน้องชายบุญธรรมของเขา โดยการจับหน้าอีกฝ่ายให้หันมาสบตากับเขา และแนบหน้าผากลงไปจนอยู่ๆ ลูฟี่ก็หน้าแดงขึ้นมาและหันหน้าหนีไป

    และอยู่ๆ เขาก็รู้สึกเหมือนมีแรงดึงที่คอเสื้อจนหลังไปชนกับตัวของเอส พอหันไปมองก็เห็นว่าเอสทำสีหน้าไปพอใจอยู่นิดหน่อย

    “ว่าแต่นายเถอะ ทำไมนายถึงไม่ยอมบอกพวกมัน พวกมันน่ะต่อให้เป็นผู้หญิงหรือเด็กมันก็จะฆ่าทั้งนั้นนะ”

    เอสไม่เข้าใจการกระทำของลูฟี่เอาเสียงเลย แต่ว่าโรคุก็พอจะเข้าใจลูฟี่เขาอยู่หรอกนะ

    “ก็ถ้าบอกไปนายก็คงไม่ยอมเป็นเพื่อนกันฉัน” ลูฟี่ตอบเสียงสั่น

    “มันดีกว่าชายไม่ใช่เหรอ แล้วทำถึงยากเป็นเพื่อนกันฉันนักล่ะ”

    “ก็เพราะฉันไม่มีคนอื่นให้พึ่งแล้ว กลับไปหมู่บ้านฟูชาก็ไม่ได้ และฉันก็เกลียดโจรภูเขาด้วย ถ้าไม่ไล่ตามนายฉันก็ต้องอยู่คนเดียว ถึงจะมีโรคุอยู่แต่นายก็ลาโรคุไปด้วยตลอดเลยนี่”

    “แล้วพ่อแม่”

    “ฉันมีแค่ปู่ กลับโรคุที่พึ่งได้มาเป็นพี่ชายฉันอ่ะ”

    “ถ้ามีฉันอยู่นายจะไม่ทรมานเหรอ”

    “อื้ม”

    “ถ้าไม่มีฉันนายจะลำบากเหรอ”

    “อื้ม”

    เมื่อได้คำตอบจากลูฟี่ไปเอสก็ดูเหมือนจะจมอยู่กับความคิดของตัวเอง เขาที่มายิ่งข้างซาโบะก็หันมามองหน้ากันและกลับไปมองที่เอสอีกที

    “นายอยากให้ฉันมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ”

    พอได้ยินคำพูดนั้นของเอสเขาก็เผลอกำมือแน่ เพราะทั้งเขาทั้งเอสก้มีคนอยากให้พวกเขาทั้งสองคนตาย ทั้งๆ ที่พวกเรานั้นไม่ได้ทำอะไรผิดเลยแท้ๆ ก็แค่เด็กที่เกิดมาทีพลังมากมาย กับเด็กที่เกิดมาจากโจรสลัดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดมันก็แค่นั้นเอง

    “มันก็ต้องอย่างนั้นสิ”

    “แต่ว่าฉันน่ะ ไม่ชอบพวกคนอ่อนแอแบบนายหรอกนะ” เอสหันหลังให้กับลูฟี่ แค่ถ้าสังเกตดีๆ ก็จะเห็นว่าใบหูของเขามีสีแดงขึ้นมาเล็กๆ

    “ฉันไม่ได้อ่อนแอ ฉันแข็งแกร่งจะตาย”

    “แข็งแกร่งงั้นเหรอ ตรงไหนกัน ทั้งๆ ที่เป็นผู้ชายแต่ก็เอาแต่แหกปากร้องไห้”

    “นายเคยโดนต่อยด้วยถุงมือหนามบ้างไหมเล่า! ฉันพึ่งจะเจ็ดขวบเองนะ รอฉันสิบควบเมื่อไหร่ฉันจะไม่ร้องและจะแข็งแกร่งกว่านี้แน่”

    “ถึงฉันจะเป็นตอนฉันเจ็ดขวบฉันก็ไม่ร้องเฟ้ย!”

    ทั้งโรคุและซาโบะก็ได้แต่ยืนดูทั้งคู่ทะเลาะกันอย่างเงียบๆ จนซาโบะต้องเข้าไปห้ามศึกปะทะฝีปากของทั้งสองคน

    “นี่ ดูท่าฉันจะเจอปัญหาซะแล้วล่ะ”

    “ปัญหาเหรอ” ลูฟี่

    “ก็เรื่องคราวนี้ดูท่าพวกเราสี่คนคงจะโดนหมายหัวไปเต็มๆ แน่ใช่ไหมล่ะ”

    “นั้นสินะ” โรคุพยักหน้าเห็นด้วย

    “ป่าที่ฉันเคยอยู่มาตลอดมันอยู่ใกล้กับรังของพวกมัน และถ้าพวกมันบุกเข้ามาหาฉันตอนที่ฉันหลับไป ฉันจะเป็นไงมั้งล่ะ” ซาโบะถามความเห็นของเด็กทั้งสาม

    “ก็ตายไง” เอส

    “ใช่ ตายแหงแก๋” ลูฟี่

    “ถ้าพวกมันฉลาดหน่อยนายอาจจะถูกขายไปเป็นทาสให้พวกมังกรฟ้าก็ได้

    “มังกรฟ้า?” เอสกับลูฟี่หันมามองเขาอย่างสงสัยในชื่อที่เขาพูดออกมา

    “เดี๋ยวสักวันพวกนายก็รู้เองนั่นแหละ”

    “ฉันเลยอยากจะปรึกษาพวกนายน่ะ”

    พวกเราสี่คนเริ่มปรึกษากันว่าซาโบะนั้นจะไปอยู่บ้านดาดันกัน พอกลับมาถึงบ้านพวกดาดันก็หลับกันไปแล้ว พวกเราสีคนเลยขึ้นไปนอนกันบ้าน แต่พอหัวถึงมองทั้งสามคนก็หลับไปเลย

    “พี่ครับ ตอนนี้พวกพี่เป็นยังไงบ้างนะ”

    โรคุไปหยิบดาบที่เอามาวางไว้ที่ห้องนี้แต่ก็ไม่เคยคิดจะเอาออกไปใช้ แต่เดี๋ยวคงต้องพกไปด้วยแล้ว และสีตรงอัญมณีก็ยังคงสั่นไหวไปมาเหมือนเดิม ถึงจะดีใจแต่เขาก็อยากจะเจอพี่ๆ อีกครั้ง

    ไม่รู้ว่าน้ำตาไหลออกมาตอนไหน เขารู้ตัวอีกทีก็มีใครบางคนมาปาดน้ำตาของเขาออกให้เสียแล้ว พอโรคุหันไปก็เห็นว่าเป็นซาโบะที่เขามาเช็ดน้ำตาให้กับเขา

    “ผมทำให้นายตื่นเหรอ”

    “เปล่าหรอก” ซาโบะเคลื่อนตัวมานั่งข้างเขา

    “ฉันได้ยินนายละเมอถึงพี่ชายตอนนั้นด้วย คงจะเหงามากเลยสินะ นั้นเป็นของดูต่างหน้าเหรอ” ซาโบะลูบหัวเขาเบาๆ เป็นการให้กำลังใจแล้วหันไปมองดาบในมือของเขา

    “มันเป็นสิ่งที่ตระกูลของผมทำให้ทุกๆ คนน่ะ แล้วแต่ว่าต้องการอาวุธแบบไหน ทั้งผมและพี่ชายเลือกเป็นดาบน่ะ จะเรียกว่าเป็นของดูต่างหน้าก็ไม่ผิดหรอกครับ”

    ซาโบะยอมนั่งฟังเขาอยู่อย่างเงียบๆ โดยไม่ได้พูดอะไร เราทั้งคู่ให้ความเงียบในที่แห่งนี้ช่วยปลอบใจจนโรคุหันไปมองหน้าของคนผมทอง

    “นี่ซาโบะ ผมของอะไรหน่อยสิ”

    “ขออะไรเหรอ ถ้าเป็นสิ่งที่ฉันทำได้ก็จะทำให้นะ”

    “ขอกอดหน่อย”

    “เอ๊ะ?”

    ซาโบะชะงักไปกับคำของของเขา เจ้าตัวมีท่าทีลังเลอยู่สักพักก็ยอมอ้าแขนออกเป็นการอนุญาตโรคุจึงสวมกอดอีกฝ่ายเอาไว้หลวมๆ และพวกเราทั้งคู่ก็ล้มลงไปนอนและหลับไปทั้ง ๆ แบบนั้น

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×