ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Fic One piece ] เจ้าชาย(ปีศาจ)แห่งท้องทะเล

    ลำดับตอนที่ #2 : การพบเจอ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.57K
      370
      22 มิ.ย. 65

    นี่ปีที่ 3 แล้วที่โรคุได้อยู่ในความดูและของแชงคูสและเหล่าลูกเรือบนเรือเรดฟอร์สลำนี้ และตอนนี้เจ้าตัวก็กำลังดิ้นออกจากอ้อนกอดของเจ้าผมแดงที่ไม่ยังยอมรับไม่ได้ที่เขาจะออกเดินทางแล้ว

    “แชงคูสปล่อยผมนะ ผมก้บอกไปตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วไม่หรึไงว่าจะออกเดินทางวันนี้ ทำไมยังทำใจไม่ได้อีกล่ะเนี่ย”

    โรคุพยายามดิ้นสุดแรงแต่ก็ไม่หลุดเสียที จนคุณเบนต้องเอาด้ามปืนตีหัวเจ้ากัปตันเอาแต่ใจไปหนึ่งที และเขาก็เป็นคนที่อุ้มโรคุออกมาจากอ้อมแขนของแชงคูสและพาไปวางที่ขอของเรือ

    “ฉันก็ไม่อยากให้เธอไปหรอกนะ แต่มันเป็นความต้องการของเธอฉันก้ไม่อยากขัดหรอกนะ”

    คุณเบนยกมือขึ้นลูบหัวโรคุและส่งคาตานะคือไปให้ โรคุรับมาและโยนลงทะเลไป ถึงจะดูเหมือนเขาทิ้งของลงทะเล แต่ว่าทะเลน่ะคือกระเป๋าเดินทางของเขาเชียวนะจะบอกให้

    “ถ้าเจอลูกชายฉันก็ฝากทักทายเขาด้วยล่ะ เขาหน้าตาเหมือนฉันนี่แหละ”

    “ฉันที่ทิ้งลูกทิ้งเมียอย่างคุณไม่ต้องมาฝากผมเลย”

    โรคุตอบออกไปอย่างเลือดเย็นจนคนที่ได้ยิ้นต่างก็หัวเราะออกมากับคำตอบของเด็กชายวัยหกขวบ

    “แชงคูสๆ มานี่สิ”

    เด็กชายผมสีทะเลเรียกคนผมแดงให้เข้าไปหา พอแชงคูสเดินเข้าไปหาโรคุด้วยอาการซึมๆ ที่ยังไม่หายไป

    “ไว้เจอกันใหม่นะครับ”

    โรคุจุ๊บแก้มของแชงคูสเป็นการปลอบใจก่อนจะทิ้งตัวลงไปในทะเลทันที โดยไม่สนว่าตอนนี้คนโดนจุ๊บแข็งค้างไม่เรียบร้อยแล้ว

    “เอาเจ้ากัปตันนี้ไปส่งอิมเพลดาวน์ซะ!”

    โรคุออกเดินไปไปเรื่อยๆ แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้กลับไปยังบ้านเกิดของตนที่อยู่ในนิวเวิลด์ เขาอยากจะแข็กแกร่งกว่านี้ก่อนและกลับไปดูว่าที่เกาะนั้นเหลืออะไรไว้อยู่บ้าง แม้จะแค่เล็กๆ น้อยเขาก็ยากจะกักเก็บเอาไว้

     

    “อืม... เอ๊ะ?”

    โรคุลืมตาขึ้นมาอยู่ในห้องของใครบางคน คาดว่าเขาคงจะโดนเก็บขึ้นมาจากการนอนกลางวันในทะเลอีกแน่ๆ ถ้าเป็นพวกทหารเรือเขาก็จะทำลายทิ้ง ถ้าเป็นโจรสลัดก็จะคุยกันก่อนถ้าเป็นพวกที่คุยไม่รู้เรื่องก็จมเรือทิ้งซะ ถ้ารู้เรื่องเขาก็จะขออยู่บนเรือสักสองถึงสามวันก่อนจะออกเดินทางต่อ

    พอเปิดประตูที่จะออกไปที่ดาดฟ้าเรือเขาก็เห็นเหล่าคนในชุดสีขาวที่เขาเกลียดเอามากๆ และที่ปลายสุดของสายตาเขาก็เห็นคนที่สวมเสื้อคลุมที่มียศสูงจนเขาไม่สามารถสู้ได้

    “ตื่นแล้วงั้นเหรอสาวน้อย”

    โรคุรู้สึเหมือนเดจาวูอย่างไรอย่างนั้น เขาพยายามถอยหลังห่างจากชายแก่คนนหนึ่ง และคุณทะเลบอกว่าคนคนนี้อันตรายมากเขาชื่อ มังกี้ ดี การ์ป เป็นวีรบุรุษกองทัพเรือ

    “ไม่ต้องกลัวนะ ฉันเป็นทหาร-”

    ยังไม่ทันที่การ์ปจะพูดจบโรคุก็ควบคุมน้ำทะเลไปซัดหน้าของอีกฝ่ายจนตัวกระเด็นไปไกล โรคุหันหลังวิ่งออกไปและโดดลงทะเลไป แต่ว่าอยู่ทะเลก็กลางเป็นน้ำแข็งจนร่างเขากระแทกไปไปกับพื้นน้ำแข็งเต็มๆ

    “โอ๊ย เจ็บอ่ะ”

    โรคุดันตัวเองลุกขึ้นนั่งและอยู่ๆ ก็มีคนดึงคอเสื้อของโรคุขึ้นไปจนเด็กชายตัวลอยจากพื้นน้ำแข็ง พอหันไปมองคนที่ยกเขาขึ้นก็เห็นว่าเป้นเจ้าคนที่สวมเสื้อคลุมพลเรือเอกตอนนั้น

    “ปล่อยนะ! ปล่อย!”

    โรคุพยายามดิ้นให้หลุดแต่ก็ไม่สามารถทำได้ เจ้าตัวเอื้อมมือไปจับมือของคนทีหิ้วคอของเขาเอาไว้แล้วจิกเล็บลงไปจนได้กลิ่นเลือดเล็กๆ และควบคุมเลือดนั้นให้เป็นเข็มทิ่มไปที่มือของคนที่จับเขาไว้

    “เก่งดีนี่”

    แต่อีกคนก็ไม่ยอมปล่อยเขาถามเปลี่ยนจากการหิ้วคอมาอุ้มเขาโดยการจับใต้รักแร้ โรคุอยากตะดิ้นต่อแต่ตอนนี้เขานั้นเริ่มหมดแรงแล้ว และเจ้าวีรบุรุษกองทัพเรือนั้นก็โดดลงมาจากเรือแล้วด้วย

    “คิดยังไงกันเด็กคนนี้เหรอครับคุณการ์ป”

    “อืม... ลองทดสอบดูสิ”

    โรคุไม่รู้ว่าเจ้าทหารเรือน่ารังเกียจพวกนี้คือใคร และจะทำอะไรเขาต่อไป เพราะตอนนี้เจ้าพลเรือเอกคนนี้เดินมาที่ที่ใกล้กับน้ำทะเลและจับเขากดน้ำแต่มือข้างหนึ่งก็จับผมไว้แน่น

    “ไอ้ทหารเรือเวรปล่อยนะเว้ย”

    “ดูท่าจะใช่นะ”

    ถึงหัวเขาจะอยู่ในน้ำแต่เขาก็ได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายพูด พอถูกอุ้มขึ้นมาพ้นจากน้ำโรคุก็หันไปหาคุณทะเลเพื่อเรียกให้ช่วย แต่คุณทะเลตอบเขากลับมาว่าไม่เป็นไรซะงั้นอ่ะ

    “เธอมาจากตระกูลชิเซนใช่ไหม?”

    โรคุชะงักไปกับคำถามของการ์ป และควบคุมน้ำไปสาดใส่หน้าอีกฝ่าย แต่ครั้งนี้เจ้าพลเรือเอกที่มีพลังของผลปีศาจก้แช่แข็งน้ำนั้นได้ทัน

    “พวกเราไม่ส่งเธอให้กองทัพเรือหรอกนะ”

    เจ้าพลเรือเอกนั้นวางเขาลงที่พื้นน้ำแข็งและลูบหัวเบา แต่เขาก็ไม่เชื่อหรอกนะ เลยจะหนีลงทะเลอีกรอบแต่ก็ขยับไม่ได้เพราะขาถูกแช่แข็งเอาไว้

    “ฟังหน่อยสิสาวน้อย”

    “ผมเป็นผู้ชายต่างหาก”

    “งั้นเหรอ โทษที”

    โรคุที่ขยับไปไหนไม่ได้ก็เริ่มมีน้ำตาซึมออกมาและในที่สุดก็ร้างไห้ออกมาจนผู้ใหญ่ทั้งสองต้องช่วงกันปลอบกันยกใหญ่

    “หยุดร้องไห้ได้แล้ว ฉันชื่อมังกี้ ดี การ์ป เจ้าชื่ออะไรล่ะ”

    “ร... โรคุ ฮึก ค คุณเป็นคน ฮึก ต... ตระกูลดี ฮึก เหรอ”

    “รู้อะไรงั้นเหรอ”

    “ไม่รู้ คุณทะเลแค่บอกว่าเป็นมิตรกับตระกูลนี้จะดีกว่า ยกเว้นบางคนที่เลวจริงๆ”

    โรคุเช็ดน้ำตาออก และก็ถูกเจ้าพลเรือเอกนั้นอุ้มขึ้นมาและพากลับไปยังห้องที่เขาออกมาตั้งแต่แรก

    “ฉันชื่อคุซันนะ ตอนนี้เธออายุเท่าไหร่แล้ว บอกได้ไหม”

    “ตอนนี้เก้าขวบแล้ว”

    “งั้นตอนนั้นก็สามขวบสินะ”

    เด็กชายหน้าหวานก้มหน้าลงและแสดงสีหน้าเศร้าสร้อยออกมา แต่คุซันก็ยกมือขึ้นมลูบหัวของเด็กตัวน้อยให้รู้สึกดีขึ้น

    “ว่าแต่พวกคุณจะทำยังไงต่อล่ะ คุณรู้ตัวตนผมแล้วนี่”

    “งั้นเจ้าก็มาเป็นหลานข้าสิ”

    “เอ๊ะ!?”

     

    หนึ่งอาทิตย์ต่อมาคุณการ์ปก็พาเขามาที่อิสท์บลูและลงที่เกาะๆ หนึ่งและอยู่ๆ ก็ไม่หิ้วหน้าเด็กผู้ชายคนหนึ่งขึ้นเขาไป เหมือนว่าเจ้าตัวจะกินผมปีศาจเข้าไปเลยทำให้ร่ากายกลายเป็นยางแบบนี้ ดูยือไปหมดจนเขาเจ็บแทนเลยล่ะนะ และลูฟี่ก็มีอายุน้อยกว่าเขาสองปีด้วย

    “ก็บอกแล้วไงปู่ว่าฉันจะเป็นราชาโจรสลัด!!” ลูฟี่ตะโกนแหกปากตลอดทางจนโรคุต้องเปลี่ยนฝั่งที่เดินไปเดินข้างคุณการ์ปแทน

    “ไม่ใช่แค่กินผลปีศาจเข้าไปยังไม่พอ ยังมาพูดจาไร้สาระแบบนี้อีก ลูฟี่ ทั้งเจ้าและเอส อนาคตจะต้องเป็นทหารเรือที่เก่งกาจที่สุด”

    ทั้งๆ ที่เขาอุตส่าห์เปลี่ยนฝั่งเดินแล้วแท้ๆ แต่ก็ยังได้ยินเสียงหนวกหูของลูฟี่อยู่ เลยทำได้แค่จำใจเดินต่อไปทั้งๆ แบบนั้นโดยที่ทำอะไรไม่ได้

    “หุบปากสักนทีจะได้ไหมเนี่ยลูฟี่”

    “อะไรของนายอ่ะ อยู่ๆ ปูก็มาบอกว่าเป็นพี่ชาย แต่ดูยังไงๆ ก็ผู้หญิง หรือแกจะเป็นตุ๊ด”

    เมื่อเขาได้ยินคำพุดระคายหูก็จัดหมัดตรงไปเต็มๆ หน้าของลูฟี่โดยไม่ลืมที่จะอัดฮาคิเข้าไปด้วย จะได้รู้สึกซะบ้างว่าอะไรควรพูดไม่ควรพูด

    “โอ๊ย! เจ็บอ่ะ ฉันเป็นยางจะทำไมเจ็บอ่ะ”

    “ใช่ฮาคิได้ด้วยสินะ ใครสอนล่ะนั้น”

    “โจรสลัดที่ดูแลผมอยู่ช่วงหนึ่งน่ะ”

    เขาไม่บอกออกไปหรอกนะว่าแชงคูสเป็นคนสอน ก็เขาเป็นโจรสลัดที่ดังเอาการแถมยังมีค่าหัวสูงมากด้วย ส่วนเรื่องหมวกของลูฟี่ที่ได้ยินมาว่าได้มาจาดแชงคูสเขาค่อยถามเจ้าตัวทีหลังดีกว่า

    พอเดินขึ้นเขามาเรื่อยๆ พวกเราก็มาถึงบ้านหลังหนึ่งที่สร้างขึ้นมาจากไม้ ไม่รู้หรอกนะว่าทำไมมาอยู่บนภูเขา คุณการ์ปเข้าไปเคาะประตูอย่างไม่เบามือ ส่วนลูฟี่ก็วิ่งไปรอบๆ จนเขาต้องไปตามคุม

    “ลูฟี่ อย่าซนสิ”

    โรคุเอ่ยเตือนเจ้าเด็กที่วิ่งไปวิ่งมา ส่วนเขาก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ว่าพวกผู้ใหญ่คุยอะไรกัน แต่ท่าให้เดาก็คงเอาเขามาฝากไว้ที่นี้แน่ๆ แต่ก็ดีเพราะว่าพวกรัฐบาลคงจะหาไม่เจอแน่ๆ ล่ะ

    “นี่มันอะไรเนี่ย”

    โรคุที่เหมอๆ อยู่นั้นหันไปสนใจลูฟี่ที่ตอนนี้มีน้ำลายมาติดที่ค้างแก้ม และพอมองไปอีกทางก็เจอเด็กที่อายุใกล้เคียงกับเขากำลังนั่งทับสัตว์บางอย่างอยู่ ดูท่าเจ้าตัวจะไปล่ามาเองเยด้วย

    “โอ้ เอสกลับมาแล้วเหรอ” คุณการ์ปเอ่ยทักทางเด็กที่พึ่งมาไปอย่างเป็นมิตร

    โรคุมองสำรวจอีกฝ่ายครู่หนึ่งและหันไปควบคุมน้ำลายที่ติดหน้าของลูฟี่ออกจาข้างแก้มของเจ้าตัวจนลูฟี่ทำตาเป็นประกายขึ้นมา

    “นายมีพลังของผลปีศาจด้วยงั้นเหรอ”

    “เปล่า พลังของผมเองต่างหาก”

    “ลูฟี่ โรคุ นั้นคือเอสเขาอายุห่างจากเจ้าสามปี ส่วนโรคุก็หนึ่งปี จากนี้ไปพวกเจ้าจะต้องอยู่ด้วยกัน”

    ลูฟี่ทำท่าขู่ใส่เด็กชายผมดำตรงหน้าไปอย่างหงุดหงิดเรื่องที่เขาถุยน้ำลายใส่ จนโดนคุณการ์ปเขกหัวไปหนึ่งทีเต็มๆ

    “สนิทกันเอาไว้ซะ”

    ถึงคนที่ดูท่าจะเป็นโจรภูเขาจะอยากปฏิเสธที่จะเลี้ยงดูมากแค่ไหน แต่ก็ปฏิเสธได้ได้จากการขู่ของคุณการ์ป

    “จากนี้ไปก็ขอฝากลุฟี่ด้วยนะ”

    คุณการ์ปย่อตัวลงมาลูบหัวเขาและเดินลงเขาไป ส่วนโรคุก็ยืนลาคุณการ์ปไปจนลับสายตา พอหันมาอีกทีที่หน้าบ้านก็ไม่มีคนอยู่แล้ว พอเข้าบ้านไปก็เห็นว่าพวกเขากำลังแย่งอาหารกันอยู่ แต่ลูฟี่ก็ไม่มีกินเลย

    “นายจะไปไหนเหรอ”

    เจ้าคนที่ชื่อเอสเดินสวนเขาไปโดยที่ไม่พูดอะไร พอถามมอะไรก้ไม่ยอมตอบเขากับลูฟี่เลยตามเอสไปแต่ก็โดนต้นไม้กลิ้งตามมาจนโรคุต้องควบคุมน้ำจากอากาศสร้างเป็นดาบออกมาฟัน

    “ไม่เป็นอะไรใช่ไหมลูฟี่”

    “อ... อื้ม เมื่อกี้เท่นายเท่มากเลย”

    โรคุเดินเข้าสำรวจต้นไม้ดูว่าทำไมเอสถึงทำมันหักได้ง่ายจัง ดูเหมือนจะไม่ได้ใช้ฮาคิด้วย คิดได้ไม่นายพอเงยหน้าขึ้นมาอีกลูฟี่ก็หายไปแล้ว พอวิ่งตรงไปข้างหน้าเขาก้เห็นว่าลูฟี่ถูกเอสฟาดให้ตกลงไปในเหวเสียแล้ว

    “นายทำบ้าอะไรเนี่ย ถึงลูฟี่จะไม่ตายง่ายๆ จากการที่เขาเป็นยางแต่แบบนั้นมันโหดร้ายเกินไปแล้วนะ” โรคุเดินขึ้นไปบนสะพานแขวนและตะโกนอันหน้าคนอายุมากกว่าไป แต่จังหวะนี้อายุมากกว่าหรือไม่เขาก็ไม่สนใจแล้ว

    “แกเป็นพี่มันรึไงถึงได้ปากมากแบบนี้”

    เอสเอาท่อเหล็กมาชี้หน้าเขาจนเขารู้สึกหงุดหงิด โรคุจึงใช้นิ้วดันท่อเหล็กนั้นออกไปอย่างหงุดหงิดแต่ยังไงๆ ก็ต้องควบคุมอารมรณ์ขอตัวเองเอาไว้

    “ผมเป็นพี่ชายบุญธรรมของเขา และช่วยอย่าเอาของแบบนี้มาชี้หน้าคนอื่นจะได้ไหม ไม่มีมารยาทเลย”

    เขาจ้องหน้าอีกฝ่ายกลับไปจนเห็นว่าเอสกำลังยกท่อเหล็กนั้นจะฝาดเขา แต่คนที่มีฮาคิอย่างโรคุก็หลบได้อย่างง่ายได้ และต่อสวนกลับไปจนเอสกระเด็นไปอยู่อีกฝั่งของสะพาน

    “นายสู้ผมไม่ได้หรอก ผมน่ามีประสบการณ์เยอะกว่านาย”

    “หนอก ได้หน้าหวาน”

    “หน้าหวานแล้วมันไปหนักหัวอะไรนายวะ”

    โรคุจ้องตากับเอสอยู่สักพักจนทั้งสองเริ่มสู้กันเองไปหน้าหลายชั่วโมงจนมีใครบางคนส่งเสียงเรียกเอสขึ้นมาจนเราทั้งคู่ต่างชะงักไปทั้งคู่

    “ซาโบะ”

    “นายมาสู้อะไรกับผู้หญิงเนี่ย”

    “ผมเป็นผู้ชาย” โรคุเถียงออกไป

    คนมาให้ต่างแยกเขากับเอสออกและเราทั้งสามคนก็ได้คุยกันเล็กๆ น้อยและได้รู้ว่าเจ้าเด็กผมทองนี้เป็นเพื่อนกับเอส และก็กำลังเก็บสมบัติเพิ่มออกเดินเรือในอนคต

    “นายอยากเป็นโจรสลัดที่เก่งที่สุดสินะ แล้วจะทำยังไงล่ะ”

    “ก็ต้องโค่นคนที่เก่งที่สุดในทะเลไง”

    โรคุยกยิ้มขึ้นมาอย่างไม่อยากจะเชื่อกับคำพูดของอีกฝ่าย เพราะคนที่แข็งแกร่งที่สุดตอนนี้ก็คือคุณหนวดขาว และหมอนี้จะชนะหนวดขาวยังเร็วไปร้อยปี

    “งั้นก็พยายามเข้าล่ะกัน แต่บอกเลยนะว่าคนคนนั้นเก่งมากๆ จนทหารเรือก็ไม่ค่อยอยากจะยุ่งเท่าไหร่หรอกนะ”

    “นายรู้จักคนที่แข็งแกร่งที่สุดในทะเลตอนนี้เหรอ” ซาโบะเป็นคนถามขึ้นมา

    “รู้สิ ผมเดินทางในทะเลมาตั้งหกปี จะไม่รู้ได้ไง แต่ผมไม่บอกหรอกนะไว้นายไปหาเอาเองตอนออกเรือแล้วกัน” ผมตอบออกไปอย่างปัด แต่ก็ได้รับสีหน้าไปพอใจของเอสส่งมา

    “เมื่อกี้แกยังทำหน้าแบบว่าฉันทำไม่ได้แน่ๆ อยู่เลยนะ” เอสพูดอย่างขุ่นเคือง

    “ยังไม่ลองเลยจะรู้ได้ไง”

    ถึงการพุดโต้ตอบของเราจะแย่ไปนิดแต่ก็ใช้เวลาไม่นานจนเริ่มสนิดกัน และเอสก็ต้องกลับบ้านแล้วเพราะตอนนี้ท้องฟ้าก็เริ่มเปลี่ยนสีแล้วด้วย

    “งั้นไว้เจอกันนะ ซาโบะ”

    โรคุโบกมือลาคนผมทองแล้วเดินกลับบ้านพร้อมๆ กันกับเอส แต่อยู่เอสก็หยุดเดินจนเขาต้องหันไปมอง

    “แกไม่ห่วงน้องรึไง”

    “ก็ห่วง แต่ผมเชื่อว่าลูฟี่จะต้องไม่เป็นไรแน่นอน”

    เขาต้องกลับไปพร้อมรอยยิ้ม และระหว่างทางก้แวะไปล่าสัตว์มาด้วย โดยที่เอสนั้นแถบไม่ต้องออกแรงเลยแม้แต่น้อย

    ตอนนี้เขากับเอสก็กำลังแช่น้ำด้วยกันอยู่ และเจ้าตัวก็หน้าแดงตอนที่จ้องเขาก่อนจะหันไปจ้องเงาในน้ำอย่างเหมอๆ

    “ขึ้นกันเถอะเอส เดี๋ยวจะเป็นลมเอา”

    “อา”

    โรคุเอาเสื้อของเอสมาใส่และมันก็พอดีตัวเขาพอดี ไม่ได้เล็กหรือใหญ่จนเกินไป และพอกลับเข้าไปในบ้านก็ได้ยินเสียงดาดันบ่ออะไรสักอย่างออกมา

    “ต่อให้มันไปเน่าตายที่ไหนก็บอกการ์ปไปว่า มันเป้นแค่อุบัติเหตุก็พอ”

    พอได้ยินแบบนั้นเอสก็ชะงักไป และพอมองเข้าไปในดวงตาของเขาก็เห็นว่ามันทั้งเศร้าทั้งแค้นใจ

    “เด็กที่ถูกโลกเกลียดชังก็ต้องถูกเขียออก เจ้านั้นน่ะเป็นลูกของปีศาจนะ ถ้ารัฐบาลรู้เรื่องนี้เขารู้ไหมพวกเราจะโดนอะไรบ้างน่ะ”

    เอสกัดฟังกรอดอย่างโกรธเคืองแล้วก็ปืนขึ้นห้องใต้หลังคาไปนอน แต่โรคุก็รู้ว่าเจ้าตัวคงจะยังไม่หลับแน่ๆ เลยลุกขึ้นมานั่งและลังเลอยู่สักพักก่อนจะถามอีกฝ่ายออกไป

    “นายเป็นลูกใครเหรอ”

    “ไม่เกี่ยวกับนาย”

    “ไม่ เกี่ยวสิ เพราะผมก็ถูกรัฐบาลตามล่าเหมือนกันถ้าพวกเขารู้ว่าผมยังมีชีวิตอยู่”

    เอสลุกขึ้นมามองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจ คนตาสีอำพันยอมเล่าเรื่องของตัวเองออกไปเพราะเขานั้นก็อยากได้รับความเชื่อใจจากอีกคน

    “นาย... คล้ายฉันอยู่เหมือนกันแฮะ”

    ในที่สุดเอสก็ยอมเล่าเรื่อของเจ้าตัวออกมาบ้าง น่าตกใจอยู่เหมือนกันที่เอสนั้นเป็นลูกของราชาโจรสลัดโกล ดี โรเจอร์ แต่เอสนั้นใช้นามสลุกของแม่ที่เป็นโปโตกัส

    “ช่างหัวพวกที่พูดไปสิ คนพวกนั้นน่ะก็แค่พูดไปเรื่อยโดยที่ไม่เคยเจอโรเจอร์ด้วยซ้ำ ก้แค่พวกดีแต่ปากนั้นแหละ”

    “นายนี่นะ ฉันรู้สึกสบายใจขึ้นแล้วล่ะ นอนเถอะ”

    เอสดึงร่างของคนที่ตัวเท่ากับเขาลงไปนอนด้วย อันที่จริงเขาก็ตกใจอยู่เหมือนกันนะที่อีกฝ่ายดูเบาะบางแต่กลับมีกล้ามเนื้อมาก แถมผิวสวยอีกด้วย

    “ฝันดี โรคุ”

    “ฝันดี เอส”

     

     


    ไรท์ : ตอนนี้เรารีไรท์ให้มีรายระเอียดเรื่องความลับของทั้งคู่และการที่เจอซาโบะขึ้นมา และก็ใช้ช่วงโมเม้นนั้นเป็นการที่ทำให้เอสนั้นเริ่มมีความรู้สึกดีๆ ให้กับโรคุ เราจะไม่ให้รู้สึกชอบไปเลยแบบรักแรกพบเพราะยังๆ น้องก็เป็นผู้ชาย นิสัยก็ปรับให้ดูดุขึ้นนิดๆ ด้วย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×