คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เด็กจากเกาะปีศาจ?
“ไปซะโรคุ ไม่ต้องห่วงพวกเรา มีชีวิตอยู่ต่อไปจนกว่าจะได้เจอกันอีก!”
เสียงของชายผมสีน้ำเงินตะโกนออกมาสุดเสียงขณะที่พยุงร่างของชายที่หน้าตาเหมือนกับเขาแทบทุกส่วนที่สลบเอาไว้ ก่อนจะลอยออกไปกับกระแสน้ำ
“พี่โทรุ! พี่โทยะ!”
“ไปซะโรคุ ไม่ต้องห่วงพวกเรา มีชีวิตอยู่ต่อไปจนกว่าจะได้เจอกันอีก!”
เสียงของชายผมสีน้ำเงินตะโกนออกมาสุดเสียงขณะที่พยุงร่างของชายที่หน้าตาเหมือนกับเขาแทบทุกส่วนที่สลบเอาไว้ ก่อนจะลอยออกไปกับกระแสน้ำ
“พี่โทรุ! พี่โทยะ!”
เด็กชายหน้าหวานผมสีน้ำทะเลลอยห่างออกไปเรื่อยๆ ขณะที่เกาะเศษไม้จากเรือที่พังจากพายุ เขากอดดาบและเกาะเศษไม่เอาไว้
เด็กชายยังคงร้องเรียกชื่อพี่ชายทั้งสองอยู่ทั้งๆ ที่ไม่สามารถมองเห็นทั้งสองได้แล้ว น้ำตาที่กลืนไปกับสายฝนไหลออกมาจากดวงตาสีอำพันคู่งามอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
“พี่โทรุ พี่โทยะ พ่อครับ… แม่ครับ”
เรี่ยวแรงที่เกาะเศษไม้อยู่นั้นค่อยๆ หายไปจนร่างของโรคุจมลงไปในน้ำทะเล แต่เพราะพลังของตระกูลของเขา และตัวของเขาก็มีพลังเกี่ยวกับทะเลเลยสามารถหายใจใต้น้ำได้เหมือนพวกมนุษย์เงือก
เด็กชายหวีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่งในท้องทะเลอันกว้างใหญ่ที่ไม่มีใครจะสามารถได้ยินเสียงของเขาได้ จนสติของโรคุค่อยๆ หายไปจนสลบไปในที่สุด
“เฮือก!!”
รู้สึกตัวอีกทีโรคุก็ตื่นขึ้นมาในที่ที่ไม่คุ้นเคย ดูท่าแล้วมันจะเป็นห้องนอนบนเรือ เขาหวังว่ามันจะไม่ใช่เรือของพวกทหารเรือที่พี่ชายของเขาบอกว่าเป็นคนที่เข้ามาโจมตีเกาะของเราด้วยบัสเตอร์คอล
ดวงตาสีเหลืองอำพันมองไปที่ข้างเตียงที่ตนนอนอยู่ก็เจอกับดาบคาตานะสีน้ำเงินของเขาวางอยู่ เขาเลยหยิบมันขึ้นมากอดเอาไว้ ก่อนจะมองไปที่อัญมณีสีฟ้าที่ติดอยู่ที่ท้ายของปลอกดาบ มันยังมีมีสีฟ้าและเหมือนมีบางอย่างเคลื่อนไหวไปมาอยู่ที่สามเม็ด
"พี่ยังมีชีวิตอยู่สินะ"
เด็กชายยกยิ้มบางๆ ขึ้นมาที่เห็นว่าอัญมณีทั้งสามเม็ดนั้นยังมีสีสดใสอยู่ เพราะมันก็คล้ายๆ บีเบิ้ลการ์ดที่จะแสดงชีวิตของคนคนนั้น ที่ปลอกดาบของเขามีอยู่สามเม็ดมันเป็นของเขาเม็ดหนึ่งส่วนอีกสองเม็ดก็เป็นของพี่ชายทั้งสองของเขา
"คุณพ่อกับคุณแม่ไม่อยู่แล้วสินะ"
โรคุเอาสร้อยคอที่มีอัญมณีกลมๆ สองเม็ดห้อยเอาไว้มันควรจะเป็นสีฟ้าทั้งสองเม็ดแต่ตอนนี้กลับเป็นสีเทาหม่นแสดงว่าพลังชีวิตของทั้งคู่นั้นได้ดับลงไปแล้ว
เด็กชายถอดสร้อยคอออกมาและเอาไปทำเป็นเครื่องประดับให้กับปลอดดาบ แล้วเดินออกจากห้องที่ตอนเองอยู่ เขาจะมาจมปลักอยู่แบบนี้ไม่ได้ เขาต้องมีชีวิตอยู่และหาพี่ชายของเขาให้เจอ
พอออกจากห้องมาได้แล้วก็เดินมาจนถึงดาดฟ้าเรือและพอมองขึ้นไปก็เห็นเป็นธงสีดำที่เป็นรูปกะโหลกไขว้ เอาจริงๆ มันเป็นรูปหัวกะโหลกและมีดาบไขว้อยู่ข้างหลังต่างหาก เขามองมันอยู่สักพักก็มีคนเอ่ยทักขึ้น
"ตื่นแล้วเหรอสาวน้อย"
โรคุที่ได้ยินคนทักก็ตกใจจนรีบถอยหนีไปจนชินขอบประตูที่ตัวเองพึ่งจะเปิดออกมา ชายที่เอ่ยทักเขาที่เห็นว่าเด็กตรงน่าตกใจมากเขาก็ลดตัวลงมาให้ระดับสายตาของพวกเขาทั้งคู่ไม่ต่างกันเกินไป
"ฉันชื่อเบน แบ็กแมน เธอล่ะ"
อย่าบอกชื่อชิเซนของเราให้ใครได้ยินนะ
คำพูดของพี่โทยะหนึ่งในพี่ชายของเขาเป็นคนพูดกับเขาตอนที่พวกเราออกเรือมาพร้อมๆ กับ พี่ชายฝาแฝดทั้งสองคนของเขาแนะนำอะไรหลายๆ อย่างให้ตลอดสามวันที่เรานั่งอยู่บนเรือลำเล็กๆ นั้น
"ไม่" เด็กชายตอบออกไปด้วยเสียงอันแผ่วเบา
"หืม?"
"ไม่ บอกไม่ได้!"
เด็กชายผมสีน้ำทะเลวิ่งสวนชาวผมสีเทาออกไปและก็เจอกับพวกลูกเรือคนอื่นๆ จนเจอตัววิ่งวุ่นไปทั่วดาดฟ้าและเตรียมจะโดดออกจากเรือลงทะเลไป แต่ก็ถูกชายหนึ่งจับเอาไว้ได้เสียก่อน
“ปล่อยนะ ปล่อยสิ!”
โรคุพยายามดิ้นให้หลุดแต่คนที่กอดเขาเอาไว้ก็ไม่ยอดปล่อยเด็กชายหน้าหวานในหลุดไป แต่กลับดึงเข้าไปกอดและลูบหัวอย่างปลอบโยนเด็กชายใจเย็นลง จนโรคุเริ่มร้องไห้ออกมาและกอดชายผมแดงเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
“หลับไปอีกแล้วแฮะ”
ชายผมแดงอุ้มเด็กชายที่หลับไปทั้งๆ ที่ยังกอดเขาเอาไว้แน่น แต่พอจะแกะมือออกก็มีท่าทีว่าจะร้องไห้ออกมาอีกรอบ เขาจึงจำใจต้องกอดเด็กชายเอาไว้ทั้งๆ แบบนั้น
“ว่าแต่ทำไมเด็กคนนี้แตกตื่นจัง แถมจะโดดลงทะเลอีก”
มือปืนประจำเรือเอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัยในการกระทำของเด็กที่อยู่ในอ้อนแขนของกัปตันเรือของพวกเขา
"เอานี่ไปอ่านสิ"
เบน แบ็คแมนผู้เป็นรองกัปตันเรือยื่นหนังสือพิมพ์ที่พึ่งจะได้รับมาเมื่อเช้ากับยาซป พอเขารับไปอ่าน มันเป็นข่าวหน้าหนึ่งที่พาดหัวข้อข่าวว่า เกาะของปีศาจถูกทำลาย เป็นพาดหัวข่างที่ดูรุนแรงและน่ากลัวเกี่ยวกันเกาะมินเทรส เกาะที่มีผู้มีพลังพิเศษที่ไม่ได้มาจากผลไม้ปีศาจ ถูกบาสเตอร์คอลถล่มเละ
“นี่หรือว่า...”
“ตอนที่ฉันเจอเด็กคนนี้มันเป็นตอนกลางคืนอย่างที่พวกนายรู้นั่นแหละ แต่ว่าฉันไม่ได้บอกรายละเอียดใช่ไหมล่ะ”
เหล่าลูกเรือต่างพยักหน้ากัน เพราะตอนนั้นอยู่ๆ กัปตันของพวกเขาก็อุ้มเด็กตัวน้อยที่กอดดาบคาตานะเอาไว้มา และบอกให้ดูแลเขาด้วย ตอนแรกพวกเขาก็ตกใจอยู่หรอก แต่เด็กน้อยที่ตัวเปียกไปทั้งตัวนั้นก็ดึงความสนใจของพวกเขาไปทั้งหมด
“ตอนนั้นทะเลเป็นคนยื่นเด็กคนนี้มาให้ฉันน่ะ”
เมื่อเล่าลูกเรือของเขาได้ฟังก็ตกใจกันไปหมด แต่มันก็ดูไม่น่าเชื่อจนกระทั่งมีน้ำทะเลที่พุ่งใส่หน้าพวกเขา พอหันไปก็เห็นว่าเป็นเสาน้ำที่มีตัวอักษรที่สร้างจากน้ำว่าให้ดูแลเด็กผู้ชายคนนี้ด้วย ไม่งั้นจะจมเรือ
“งั้นเราก็ต้องดูแลเขาจนกว่าจะต้องการออกเดินทางเองสินะ”
“ใช่”
"ว่าแต่เด็กคนนี้เป็นผู้ชายสินะ"
"ฉันก็พึ่งรู้"
เวลาที่โรคุเข้ามาอยู่บนเรือเรดฟอร์สก็ผ่านมาได้หนึ่งอาทิตย์แล้ว แต่โรคุก็เข้าหาคนแค่สองคนเพียงเท่านั้น นั่นคือกัปตันเรืออย่างแชงคูส และรองกัปตันอย่างเบน แบ็คแมนเพียงเท่านั้น
“โรคุ วันนี้มีปลาย่างที่เธอชอบด้วยนะ ไปกินกับทุกคนกันเถอะ”
แชงคูสเปิดประตูห้องที่เด็กชายหน้าหวานนั่งอ่านหนังสือนิยายที่เขาพึ่งจะไปซื้อให้เด็กชายตัวน้อยเมื่อเกาะที่แล้ว
“ครับ”
โรคุปิดหนังสือลงแล้วเอาวางไว้ที่หัวเตียง และก่อนที่จะเดินไปหาชายผมแดงเขาก็เดินไปหยิบดาบที่วางพาดเอาไว้ใกล้ๆ เตียงขึ้นมา เด็กชายจ้องมองไปที่อัญมณีที่ติดอยู่ที่ดาบครู่หนึ่งก่อนจะยกยิ้มบางๆ ขึ้นมา
“มาแล้วครับ”
โรคุวางดาบลงและเดินไปจับมือกับคุณกัปตันแล้วตรงไปทานอาหารกับทุกๆ คนบนเรือ เขานั่งที่ตักของแชงคูสและทานอาหารไปด้วย และทุกๆ คนก็มันจะเข้ามาทักทายให้เขาไม่รู้สึกกลัว แต่ก็ไม่สามารถทำได้ทันที
“โรคุรู้จักฮาคิไหม”
เมื่อทานอาหารเสร็จแล้วแชงคูสก็พาเด็กชายมานั่งเล่นอยู่ที่ดาดฟ้าเรือ
“รู้ครับ คุณทะเลบอกว่ามันเป็นพลังที่จะสามารถต่อกรกับพวกมีพลังสายโลเกียได้”
“เราอยากฝึกไหม เดี๋ยวฉันสอน”
“จริงเหรอ”
โรคุหันไปสบตากับคนที่นั่งตักอยู่ ดวงตาของทั้งคู่สบกันในระยะประชิดจนคนโตกว่าชะงักไป เพราะว่าดวงตาสีทองของเด็กชายตรงหน้านั้นมันงดงามมาก แถมหน้าตายังน่ารักมากๆ อีกด้วย
“ยังไงๆ สักว่าเธอก็ต้องไปจากเรือลำนี้ใช่ไหมล่ะ เพราะงั้นฝึกเอาไว้ดีกว่านะ”
“อื้ม ผมจะตั้งใจฝึก แล้วก็จะตามหาพี่ชายของผมให้เจอให้ได้เลย!”
แชงคูสยกยิ้มขึ้นมาเมื่อเห็นความมุ่งมั่นของเด็กชายวัยสามขวบ ทั้งๆ ที่ยังเด็กอยู่มากแต่ก็ถูกยัดความรู้มาจากทะเลที่ต้องดูแลเขาให้มีชีวิตรอดต่อไป
ตอนนี้ก็ผ่านมาหนึ่งปีแล้วที่โรคุอยู่กับพวกแชงคูสมา และฮาคิของเขาก็พัฒนาขึ้นมาจนสามารถชนะพวกผู้ใหญ่บางคนได้แล้ว (ยกเว้นพวกที่มีฮาคินะ)
“แชงคูส เราจะไปไหนเหรอ”
เด็กชายหน้าหวานผมสีน้ำทะเลเอ่ยถามขึ้นมาอย่างสงสัยจุดหมายที่เรือลำนี้จะไป และคุณเบนที่เป็นพี่เลี้ยงเขาบ่อยก็อุ้มเขาขึ้นไปนั่งบนแขนของเขา
“เดี๋ยวเราจะไปหาหนวดขาวน่ะ รู้จักไหม”
“ไม่ครับ แต่คุณทะเลน่าจะรู้จักนะ”
โรคุว่าพลางมองออกไปทางทะเล และพยักหน้าเข้าใจราวกับได้ยินเสียงบางอย่างพูดคุยกับเขา จนถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่เข้าใจพลังของโรคุเสียงเท่าไร่เลย เจ้าตัวบอกแค่ว่าเขาสามารถควบคุมน้ำทะเลได้ แต่ที่พวกเขาสังเกตมาตลอดหนึ่งปีนั้น ดูท่าเด็กคนนี้สามารถความคุมทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของเหลวมากกว่า
“คุณทะเลว่าไงบ้าง”
ลักกี้เดินเข้ามาถามเขาทั้งๆ ที่มีเนื้ออยู่ในมือ โรคุหันไปมองอีกคนและทักทายคนมาใหม่ไป
“คุณทะเลบอกว่าเขาเป็นคนที่เก่งมากๆ และเชื่อใจได้”
“ใช่แล้วล่ะ ถ้าเธอมีปัญหาอะไรก็ไม่หาเขาได้เลยนะ”
แชงคูสยกมือขึ้นมาลูบหัวเขาเบาๆ และมีลูกเรือตะโกนบอกเขาว่าเห็นเรือของหนวดขาวแล้ว โรคุจึงจากแขนของคุณเบนแล้วก็ไปยืนอยู่ที่ขอบของเรือ
“โรคุไปบอกคนที่ตัวใหญ่ที่อยู่บนเรือทีนะว่าฉันมาเยี่ยม และเธอสามารถบอกชื่อเต็มของเธอกับเขาได้นะ”
เด็กชายผมสีน้ำทะเลพยักหน้าเข้าใจก่อนจะโดดลงไปในทะเล และพุ่งตรงไปยังเรือของคุณหนวดขาวทันที พอขึ้นไปได้แล้วก็มีอะไรบางอย่างสีฟ้าๆ พุ่งตรงใช่เขาและดีที่โรคุควบคุมทะเลไปอัดหน้าเขาได้ทันจนเขาลงไปกองกับพื้น
“ใจร้ายอ่ะ ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ อยู่ๆ พุ่งเขามาทำไมอ่ะ!”
“แล้วแกเป็นใครกันล่ะ”
ชายที่โรคุสาดน้ำทะเลใส่ลุกขึ้นมาแล้วสำลักน้ำเล็กน้อย และมองมาที่เขาอย่างขุ่นเคืองใจ โรคุทำแก้มป่องอย่างไม่พอใจแต่ก็ต้องตอบอีกฝ่ายไป
“แชงคูสให้มาบอกว่าเขาจะมาเยี่ยม แล้วก็บอกว่าถ้าผมมีปัญหาอะไรคุณสามารถช่วยผมได้”
ประโยคหลังโรคุหันไปมองคนตัวใหญ่ที่นั่งอยู่ที่กลางดาดฟ้าเรือ เด็กชายหน้าหวานลังเลไม่ยอดพูดอะไรต่อจนเรือของแชงคูสมาถึง พอคนผมแดงขึ้นมาบนเรือแล้วโรคุก็พุ่งเข้าไปหลบอยู่ที่หลังของแชงคูสทันที
“นี่อย่าบอกนะว่ายังไม่ได้บอกน่ะ”
“ก... ก็ผมไม่กล้าอ่ะ”
แชงคูสหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะอุ้มตัวของโรคุขึ้นมา และขอให้หนวดขาวเอาลูกเรือของเขาออกไปก่อน และเหลือเพียงแต่พวกหัวหน้าหน่วยบางคน และก็มีเจ้าหัวสับปะรดที่มองโรคุไม่เลย และโรคุก็จ้องกลับไม่แพ้กัน
“เด็กคนนี้มาจากเกาะมินเทรส ชื่อชิเซน โรคุ”
พอแชงคูสแนะนำตัวของโรคุออกไป เจ้าตัวก็กอดคอของแชงคูสไว้แน่นเพราะเขาไม่ชอบที่จะมีคนจ้องเท่าไหร่ แต่ว่าแชงคูสก็ลูบหัวเขาปลอบโยนให้เด็กชายใจเย็นลง
“เดี๋ยวฉันจะคุณกับเขาต่อ เธอจะไปเที่ยงเล่นบนเรือก่อนไหม”
โรคุมีท่าทีลังเลเล็กน้อยแต่ก็พยักหน้ารับ พอลงจากแขนของแชงคูสแล้วเขาก็ตรงไปหาคนที่เข้ามาทำลายเขาในตอนแรก
“ผมชื่อโรคุ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”
“ฉันมัลโก้”
มัลโก้พาเขาสำรวจเรือไปทั่ว และแนะนำคนอื่นๆ ให้เขาได้รู้จัก ผ่านไปสักชั่วโมงหนึ่งเขาก็กลับมาที่ดาดฟ้าเรือแล้วก็เห็นว่าสองกัปตันกำลังดื่มกันอย่างสนุกสนาน
“นี่ ผมพาไปว่ายน้ำเล่นไหม”
“ฉันลงน้ำไม่- เฮ้ย!”
ยังไม่ทันที่มันโก้จะทันได้ปฏิเสธอะไรเขาก็โดนลากลงไปในน้ำแล้ว แต่ที่แปลกก็คือเขาไม่รู้สึกเลยว่าร่างกายเปียกน้ำ ราวกับว่ากำลังลอยตัวอยู่ พอลืมตาขึ้นมาก็เห็นว่าร่างกายของเขาเหมือนมีเกาะบางๆ หุ้มอยู่
“เป็นไงครับ ค่าตอบแทนที่คุณพาผมชมเรือ”
ร่างกายของโรคุลอยอยู่ในน้ำและดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะหายใจในน้ำได้เหมือนพวกมนุษย์เงือก
“พลังของนายที่น่าทึ่งชะมัด”
“ขอบคุณนะครับ มัลโก้”
โรคุหันไปยิ้มหวานในคนอายุมากกว่าจนมัลโก้ชะงักไปและหันหน้าไปอีกทาง
“เป็นอะไรงั้นเหรอครับ”
“เปล่า ไม่มีอะไร”
โรคุพามัลโก้เที่ยวชมทะเลอยู่สักพักประมาณสามสิบนาที ก็กลับขึ้นมาบนเรือที่ทุกคนบนเรือทำหน้าตื่นๆ กันไปหมด
“ฉันนึกว่านายไปทำอะไรให้เด็กคนนั้นโกรธซะแล้วถึงโดยลายลงจะเลยไป”
ซัจพุ่งเข้ามาหาเพื่อนของตนอย่างเป็นห่วง และก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นว่ามัลโก้นั้นไม่เปียกน้ำเลยสักหยดเดียว ต่างจากเด็กชายหน้าหวานที่เปียกไปทั้งตัว และก็กำลังควบคุมน้ำออกจากร่างกายให้พอหมาดๆ
“ทำไมนายไม่เปียกเลยล่ะ”
“อ๋อ พลังของเด็กคนนั้นน่ะ มันสุดยอดมากเลยล่ะ”
มัลโก้หันไปมองเด็กผมสีน้ำทะเลที่วิ่งกลับไปหาแชงคูสแล้ว เพราะเขาก็ต้องกลับแล้วแต่ก่อนที่จะลงจากเรือของพวกเขาไป โรคุก็หันมาหาเขาและโบกมือมาให้
“ไว้เจอกันนะมัลโก้ บ๊ายบาย”
มัลโก้โบกมือลาเด็กชายตัวน้อยไปจนลับตา และก็นึกถึงเรื่องที่เด็กชายเล่าให้ฟังเกี่ยวกับเรื่องที่เขาหนักใจ ทั้งเรื่องครอบครัว ทั้งเรื่องพลังของเขา ทั้งเรื่องพี่ชาย เขาไม่สามารถเข้าใจได้เลยว่าเด็กอายุแค่สี่ขวบถึงทนอะไรที่หนักหน่วงหัวใจแบบนี้ได้ยังไง
“ขอให้เจอพี่ชายเร็วๆ นะ โรคุ”
______________________________
ไรท์ : เราทำการรีไรท์เรื่องนี้ให้โรคุดูคล้ายผู้ชายมากขึ้นเมื่อโตขึ้น และก็ตัดช่วงNCหนักๆ ออกไปแต่ก็ยังคงฮาเร็มไว้อยู่นะ
ความคิดเห็น