ว่ากันว่าคนเรามักจะอยากได้ในสิ่งที่เห็นในทุกวัน....
หนึ่งในนั้นก็คงจะเป็นฉันคนนึง....
ใช่... ถ้าเป็นเมื่อ"ก่อน"น่ะนะ
เพราะว่าตอนนี้น่ะ ฉันมักจะปรารถนาในสิ่งที่ไม่มีวันได้เห็นอีกเสมอ
ตัวฉันตอนนี้คงจะวิ่งไล่และไขว้คว้าในสิ่งที่จะไม่มีวันเป็นจริงอีก
ต่อให้ต้องทำให้ตนต้องดับลมหายใจหลายชีวิตไปกี่ครั้ง ฉันก็จะทำ
เพื่อที่ฉันจะได้กลับไปพบกับความสุขสุดท้ายที่ถูกฝังไว้ในความทรงจำ
มันก็คุ้มค่าที่จะลอง เพราะฉันจะไขว่คว้าทุกสิ่งด้วยตัวฉันเอง
ฉันได้แต่หวัง... ให้ได้พบคำตอบที่ฉันต้องการก่อนที่จะลืมทุกสิ่งไป
และเริ่มชีวิตใหม่ที่แสนจะยากเย็นในความจำนงที่มิอาจขัดเจตนาของผู้เป็นใหญ่ได้
เหมือนที่เธอผู้นั้นกล่าวไว้กับพวกเราที่ต่างจากผู้อื่น
เธอมักจะขับกล่อมบทเพลงที่ไม่รู้ที่มาของภาษาในโลกใบนี้ให้ฉันฟังเสมอ
เธอกล่าวว่า... หากฉันได้เปิดสิ่งที่เธอมอบให้
ฉันพบกับความหมายในสิ่งที่เธอพร่ามบอกฉันในทุกคืน
ว่า... 'หากการหลับใหลเพื่อการหลบหนีปัจจุบัน คือสิ่งที่อยากกระทำยามที่ไม่รู้ว่าทางออกอยู่หนใด'
'ก็จงฝืนใจ ลืมตาขึ้น แล้วลืมเรื่องที่หลบหนีซะ'
'เพราะว่าต่อให้ปรารถนามันมากเพียงใดก็ไม่อาจได้มันมา'
'หากอยากจะได้มันมา'
"ก็... จงรอจนกว่าลมหายใจจะดับสูญ แล้วจงแต่งแต้มเรื่องราวให้เป็นสิ่งที่พึงปรารถนาสุดท้ายก่อนไปเยือนปรโลกในนวนิยายของคนดี"
"พวกเรารู้ดี... ว่าไม่อาจกลับไปจากที่พัดพรากมาได้....." นั่นคือความจริงที่ไม่มีผู้ใส่ใจกับมัน
"และดูเหมือน..... ฉันฝันเพ้อไปเองอีกแล้ว" น้ำเสียงของสตรีผู้หนึ่งถูกเอ่ยขึ้นมาอย่างนิ่งสงบ
ใบหน้าที่เพิ่งลืมตื่นจากความฝันในนิทรา ยังคงเรียบเฉยแฝงความเหนื่อยหน่ายใจด้วยความฝันที่ตามมาหลอกหลอนจนน่ารำคาญ
ดวงตาเรียวสวยเหม่อมองเพดานอย่างไร้จุดสนใจราวกับอยู่ในห้วงพะวังของฝัน ในคราที่ตื่น
ก่อนที่เส้นผมสีควันบุหรี่ปลายครามจะขยับอย่างเป็นธรรมชาติตามการเคลื่อนไหวของหญิงสาว
เธอลุกขึ้นนั่งและเหม่อมองไปที่หน้าต่างอันมีแสงพระอาทิตย์อยู่รำไร
"ต้อนรับวันใหม่กับฝันรกสมองที่ไม่น่าจดจำ... บางทีวันนี้อาจมีเรื่องชวนปวดเศียรเวียนเกล้ามาแน่"
ดวงตาสวยหลุบมองข้อมือของตนเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปจัดการตัวเองอย่างไม่สนใจสิ่งใดอีก
ทุกอย่างกำลังจะเริ่มอีกครั้ง....
ในยามรุ่งอรุณที่สาดแสงสีทองไปทั่วทั้งดินแดนแห่งนี้
เงาทมิฬที่มักจะหลบซ่อนก็ปรากฎควบคู่กับแสง
ราวกับมีสิ่งใดเป็นตัวกลางที่ทำให้ทั้งสองสามารถปรากฎตัวตนของมันออกมาได้
นั่นคง... จะเปรียบเสมือนตัวของฉันละมั้ง?
__________________
ทุกคราที่ร่ายรำมิอ่อนไหว เหตุไฉนชาดอาบไม่เลือนหาย
พระพายพัดฟังสดับชาย ล้วนตรึงกายฤทัยให้หวั่นเกรง
อันเหมันต์เย็นเยือกก็เบาตา บุษบาโสภาก็บิดพริ้ง
โฉมสุดาเยาว์วัยมิอาจอิง จิตรประวิงแหวกว่ายท่ามคงคา
_______________
Talk : นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นโดยที่เรื่องราวอาจไม่ตรงกับในอนิเมะหรือมังงะ จะเรียกว่าโลกคู่ขนานก็ได้ เพราะเกิดจากจินตนาการและความเป็นจริงผสมรวมกับอนิเมะ อาจมีการอิงประวัติศาสตร์มาบ้างแล้วแต่อารมณ์
*คำเตือน*
-มี Oc เยอะพอสมควร เดี๋ยวไรท์จะร่างผังให้ทีหลัง
-มี Ooc แน่นอน เพราะไรท์ไม่มั่นใจในคาแรคเตอร์ของตัวละครเขาฉลาดเกินไป แต่จะพยายามให้เหมือนที่สุด
-ปมของ Oc แต่ละตัวค่อนข้างเยอะ จำไม่ไหวเดี๋ยวจะสรุปให้อีกที
___________________
TW: การฆาตกรรม,ความเหลื่อมล้ำ,การเหยียดชนชั้น,การทำร้ายร่างกายตนเอง,มีการใช้ความรุนแรง,มีเลือด,มีการใช้ของมีคม,ความรุนแรงในครอบครัว,มีการครอบงำความคิด
ความคิดเห็น