ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คลังเก็บของ ทดลองโค้ด [ไม่ต้องเข้ามานะจ๊ะ..]

    ลำดับตอนที่ #2 : เอเลน่า ซีคอร์ฟ [Elena Zhircov] Ch.0 Begin

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 22
      0
      21 ธ.ค. 57

    เอเลน่า ซีคอร์ฟ [Elena Zhircov] Ch.0 Begin

     

    เจ็บ...’ นั่นคือ ความรู้สึกทั้งหมดของเธอในตอนนี้... เธอรู้สึกได้ถึงรสชาติของเลือดที่ยังคงอยู่ในโพรงปากของเธอ ความระบมทั่วใบหน้าจากการทุบตีของพวกวิปริตนั่น... เธออยากจะกรีดร้องออกมา แต่เธอทำไม่ได้ พวกมันตัดลิ้นของเธอไปแล้วเมื่อคราวก่อนนู้นที่เธอพยายามจะตะโกนขอความช่วยเหลือจากตำรวจนายหนึ่งที่บังเอิญเดินสวนกับเธอตอนพวกมันย้ายที่ขุมขังของเธอ

     

    หึๆ ตื่นแล้วรึที่รัก.. อ๊ะๆ อย่าเพิ่งลุกจะดีกว่านะ แผลที่ท้องเธอใหญ่ใช่เล่นเลยนา...” เสียงนั่น..เธอจำมันได้ดี ตาเฒ่าดิสโบว์ ปีศาจชั่วที่ซื้อเธอมาจากตลาดค้าทาส ถ้ามีดวงตา ตอนนี้เธอคงมองมันอย่างเคียดแค้น และถ้ามีขา เธอคงไม่ลังเลเลยที่จะวิ่งไปคว้าขวานมาสับมันเป็นหมื่นๆชิ้น แต่ตอนนี้ เธอ...ไม่มีอะไรซักอย่าง...

     

    หึ..เธอนี่ก็ยังเลี้ยงไม่เชื่องเหมือนเดิมนะ...” เสียงอันน่าสะอิดสะเอียนนั่นกล่าวอย่างหงุดหงิดเล็กน้อยเมื่อเห็นเธอค่อยๆกระเ-สื-อ-กกระสนลุกขึ้นมานั่ง แม้เธอจะรู้สึกเหนื่อยมากกับการกระทำนั้นก็ตาม...เพราะ เมื่อ 2 เดือนก่อน เจ้าเฒ่าโรคจิตนี่มันได้ตัดเอาปอดของเธอไปขายไปแล้วข้างหนึ่ง

     

    มันเดินเข้ามาใกล้เธอ ก่อนจะมีเสียงลากเก้าอี้ และ เสียงนั่งลงที่ข้างๆเตียง  มืออันเหี่ยวแห้งค่อยๆยื่นมาลูบหัวเธอเบาๆ ประหนึ่งคุณปู่ผู้ใจดีกำลังลูบหัวหลานสาวสุดที่รัก.... หลังจากนั้นมันก็กระชากผมเธอจนหลุดติดมือมันไปทั้งกำ!!!

     

    อื้อออออออออออออออออออ”  เธอได้แต่ส่งเสียงร้องอย่างโหยหวนด้วยความเจ็บปวด

    หึๆ ฉันไม่ชอบให้เธอขัดคำสั่ง เธอก็รู้ดีนี่...เอเลน่าที่รัก...” เสียงนั่นพูดขึ้นด้วยความสะใจ ก่อนจะเงียบหายไป...เมื่อมีเสียงโทรศัพท์ดังเข้ามา

     

    ว่าไง.. อ้อ ลูกค้าคอนเฟิร์มออเดอร์แล้วรึดี... ดีมาก...หืมอีกสามวันรึไม่ไหวหรอก สภาพนังเด็กนี่คงอยู่ได้ไม่นานขนาดนั้น....อืม..งั้นเอาเป็นว่า พรุ่งนี้นัดลูกค้ามารับของเลยละกัน.. อืม..ได้... เจอกันที่เดิม..” เจ้าเฒ่าดิสโบว์นั่นคุยโทรศัพท์กับใครบางคน ก่อนจะวางสายไป

     

    ดีใจด้วยนะที่รัก...มีคนจะมารับหัวใจของเธอวันพรุ่งนี้แล้วนะ...แถมให้ราคาดีซะด้วย.. เธอนี่มันตัวเงินตัวทองของฉันจริงๆ” ตาเฒ่านั่นพูดด้วยเสียงกระหยิ่มยิ้มย่องในเงินทองที่มันได้รับจากการขายอวัยวะของเธอ.. เธอเกลียดมัน..เธอแค้นมัน... เธอสาปแช่งมันทุกลมหายใจ... เธออยากจะฆ่ามัน...แต่เธอแทบจะไม่มีแรงแล้ว ความเจ็บทั่วร่างกายทำให้เธอไม่อาจขยับตัวหลบหลีกสัมผัสอันน่าขยะแย้งที่มันมอบไว้ที่แก้มของเธอได้ หลังจากนั้นมันก็เริ่มกระทำอนาจารเธออีกครั้ง

    แหม..จริงๆ ฉันก็เสียดายเธอนะ ถ้าเธอยอมเป็นของเล่นให้ฉันดีๆเสียตั้งแต่แรก ไม่เอาแต่พยศแบบนี้ เธอก็คงไม่มีจุดจบที่น่าสมเพชแบบนี้หรอก เอเลน่า..สุดที่รักของฉัน...” มันพูดขณะลงมือข่มขืนเธอ.. เธอพยายามจะดิ้น พยายามที่จะผลักสัมผัสอันน่ารังเกียจนั่นออกไป แต่เธอสู้แรงมันไม่ไหว เธอเสียเลือดมากไป.. ปากแผลบริเวณช่องท้องของเธอปริแยกจากการกระทำอันวิปลาสของมัน รวมถึงบาดแผลในส่วนอื่นของร่างกาย ที่ตอนนี้ก็เริ่มมีเลือดไหลซึมออกมาเช่นกัน  จนสภาพของเธอเต็มไปด้วยเลือดท่วมตัว... แต่มันก็หาได้หยุดการกระทำไม่

     

    อื้อ...” เธอส่งเสียงดิ้นรนเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะสติดับวูบไปพร้อมกับความรู้สึกร้อนวาบในช่องท้อง

     

    เธอรู้สึกตัวเองเบาหวิว ล่องลอยไร้จุดหมาย ความเจ็บปวดที่เธอได้รับมาตลอดเวลาที่อยู่กับตาเฒ่าดิสโบว์ในขุมนรกนั่นกลับค่อยๆจางหายไป แทนที่ด้วยความรู้สึกเหมือนอวัยวะต่างๆของเธอกำลังงอกกลับมา ทั้งขา.. ลิ้น...และ ส่วนอื่นๆ มันค่อยๆงอกเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆโดยเธอไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย สุดท้ายเธอก็สามารถลืมตาขึ้นได้อีกครั้ง... เธอพบว่าตัวเองลอยอยู่ในหลอดแก้วขนาดยักษ์รูปทรงกระบอกที่บรรจุน้ำสีเขียวใส น่าแปลกที่เธอไม่จมน้ำตาย แต่กลับหายใจได้ราวกับอากาศปกติ เมื่อลองมองทะลุผนังของหลอดแก้วออกไป เธอพบกับชายหนุ่มอายุประมาณ23-25ปีคนหนึ่ง

     

     เขามีผมสีแดงซอยสั้นประบ่า และ ผิวที่ขาวซีดราวกับไม่ได้ต้องแสงแดดมาเป็นเวลานาน  ชายหนุ่มคนนั้นสวมชุดกาวน์สีขาวที่ดูจะยับยู่ยี่ไปหมด เขาค่อยๆหันมาทางหลอดแก้ว  ก่อนจะเบิกตาโพล่งด้วยความดีใจ เขากระโดดโห่ร้องดีใจราวกับคนบ้า....หลังจากนั้นก็เดินมาที่ข้างๆหลอดแก้วก่อนจะกดปุ่มอะไรบางอย่าง ระดับน้ำในถังค่อยๆลดระดับลง รวมถึงตัวเธอที่ค่อยๆลอยลงมาจนติดพื้น... หลอดแก้วค่อยๆหดขึ้นไปข้างบน ทำให้ตอนนี้เธออยู่ในสภาพที่กำลังยืนเผชิญหน้ากับชายหนุ่มคนนั้นอยู่.. เขารีบโผเข้ามากอดเธอ แต่ในจังหวะนั้นเอง เธอก็กระโดดขึ้นสูงและตีลังกากลางอากาศมายืนอยู่ข้างหลัง ห่างจากชายคนนั้นประมาณ 5 เมตรได้

    “....!!!” เธอได้แต่ยืนอึ้งตะลึงงันกับความสามารถของตนเอง แต่ก็ยังไม่คลาดสายตาไปจากร่างของชายคนนั้นที่ยังคงอยู่ในท่ากอดค้าง... ถ้าเธอมองไม่ผิดดูเหมือนเขาจะเริ่มมีน้ำแข็งเกาะตามตัวแล้วด้วย...

    เวลาผ่านไปพักใหญ่ หลังจากเธอเห็นหมอนั่นทำตัวหดหู่ประดุจโลกจะพังทลายอยู่ตรงหน้ามานานสิงนาน  ในที่สุดเจ้าตัวก็ได้สติก่อนจะค่อยๆหันมามองเธอด้วยน้ำตาคลอเบ้า และ พูดอย่างน้อยใจว่า

    “ เอเลน่า หนูหลบพี่ชายทำไมค่ะ... พี่คิดถึงหนูมากเลยนะรู้ไหม...

    พี่ชายฉันมีพี่ชายที่ไหนกัน!! อย่ามาหลอกซะให้ยาก เธอไม่มีวันเชื่อผู้ชายหน้าไหนทั้งนั้น!!!’ เอเลน่าได้แต่คิดตอบด้วยความเคยชิน เพราะ เธอได้สูญเสียลิ้นไปนานมากแล้ว เลยไม่ชินกับการที่จะพูดอีกครั้ง แม้ว่าจะได้อวัยวะกลับคืนมาแล้วก็ตาม...

    คนที่อ้างตัวว่าเป็นพี่ชายมองดูสายตาโกรธแค้น และ หวาดระแหวงผู้ชายของน้องตัวเองอย่างเข้าใจ เค้าขยับตัว  จัดท่าทางเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆอธิบายให้น้องสาวตัวน้อยของเขาฟังอย่างใจเย็น

    “ พี่ชื่อ อลัน ซีคอร์ฟ พี่เป็นพี่ชายของหนู หลังจากที่พ่อแม่ของเราตายในอุบัติเหตุ เราสองคนจึงถูกส่งไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าฟรัว ตอนนั้นพี่อายุได้ 11 ขวบ แต่เราเพิ่งอายุแค่ 5 ขวบเอง คงจำอะไรไม่ได้มากซินะ.. หลังจากนั้นไม่นานก็มีครอบครัวนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งมารับอุปกระพี่ไปเป็นลูกบุญธรรม พี่ไม่ได้อยากไปกับเขาเลย แต่ถ้ารอคอยอยู่ที่นี่ต่อไปพี่คงไม่สามารถเลี้ยงดูน้องได้ พี่จึงไปกับเขา เมื่อปีก่อนพี่ไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนั้น แต่ผู้ดูแลที่นั่นบอกว่าน้องถูกพวกมาเฟียจับตัวไปแล้ว พี่จึงเริ่มออกตามหา... สุดท้ายพี่ก็พบ ‘ศพของเรานอนอยู่ข้างถังขยะในโรงงานร้างแห่งหนึ่ง

    ศพงั้นหรือ...ใช่ซินะ ฉันได้เคยตายไปแล้วนี่หน่า..’ เอเลน่าได้แต่คิดอย่างเศร้าสลด  และสุดท้ายภายในจิตเต็มไปด้วยความเครียดแค้นต่อคนพวกนั้น  แค่จะสับพวกมันเป็นหมื่นๆชิ้นยังน้อยไปด้วยซ้ำกับสิ่งที่พวกมันทำกับเธอ!!

    อลันมองเห็นน้องสาวของตัวเองเริ่มแผ่รังสีอำมหิตออกมา ดวงตาของเธอค่อยๆกลายเป็นสีมืดสนิท อลันจึงรีบปลอบทันที “ใจเย็นๆนะ พี่รู้ว่าเธอแค้น พี่เองก็แค้นพวกมันเหมือนกัน ถึงจะไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่มันบังอาจมาทำกับน้องสาวพี่แบบนี้ พี่ไม่มีวันยอมให้เรื่องมันจบง่ายๆแน่ แต่ตอนนี้น้องจำเป็นต้องเรียนรู้เกี่ยวกับร่างกายของตัวเองซะก่อน เอเลน่า ตอนนี้หนูไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาอีกต่อไปแล้วนะ...

     

    หลังจากนั้นอลันก็อธิบายส่วนต่างๆในร่างกายของเธอที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้เธอรู้ว่าตัวเองถูกทำให้กลายเป็นกึ่งไซบอร์กไปซะแล้ว เธอมองไปที่อลัน เห็นแต่ความจริงใจทั้งจากสายตาและน้ำเสียงนั่น ทำให้ท่าทีของเธอเริ่มอ่อนลง แต่เมื่อเห็นอลันทำท่าจะเข้ามาหา เธอก็ตั้งท่าต่อสู้ต่อทันที แม้จะแอบชะงักเมื่อเห็นอลันยิ้มเศร้าๆมาให้ก็เถอะ

    ไม่เป็นไร...พี่เข้าใจ ตอนนี้น้องคงยังไม่เชื่อใจพี่ ... เรายังมีเวลาปรับตัวกันอีกมาก ตอนนี้น้องคงหิวมากแล้วซินะ ปะ..ไปกินข้าว กินขนมหวานกัน ขนมหวานสูตรพิเศษของพี่มันให้พลังงานเยอะดี พี่ว่าน้องต้องชอบแน่ๆ อีกอย่างร่างกายของน้องจะได้ปรับสภาพได้เร็วขึ้นด้วย” อลันพูดพร้อมยิ้มน้อยๆ หลังจากนั้นก็เดินนำเธอออกไปที่นอกห้องทดลองที่เธอฟื้นขึ้นมา

    หลายปีผ่านไป

     

    เธอใช้ชีวิตร่วมกับอลันมานานจนเชื่อใจเขา ทั้งๆที่เธอคิดว่าชีวิตนี้เธอคงไม่สามารถเชื่อใจผู้ชายคนไหนได้อีกแล้ว เขาดูแลเธออย่างดีตลอดมา เมื่อเธอบอกว่าเธออยากได้กีต้าร์ไฟฟ้าซักตัวหนึ่ง  เขาก็ถึงกับลงมือประดิษฐ์มันด้วยตัวเองเลยทีเดียว 

    วันนี้เธอออกมาจ่ายกับข้าวไปทำให้พี่ชายของเธอทานเหมือนทุกๆวัน แต่แล้ว เมื่อเดินเข้ามาใกล้บ้านเธอก็ได้กลิ่นเลือด กลิ่นที่แสนคุ้นเคย... เมื่อครั้งเธอยังมีชีวิตอยู่ก่อนหน้านี้  เธอวิ่ง... วิ่งจนสุดฝีเท้า ลางสังหรณ์ในใจเตือนว่ากำลังเกิดเรื่องไม่ดีกับพี่ชายของเธอ...ในที่สุดเธอก็วิ่งมาถึงหน้าบ้าน ก่อนชะงักค้างไปด้วยความตกตะลึง.. เมื่อพบกับมันอีกครั้ง.. ตาเฒ่าดิสโบว์!!! มันมาพร้อมกับลูกน้องจำนวนมหาศาล ข้างๆเท้ามันมีศพๆหนึ่งนอนอยู่.. ศพของพี่ชายเธอ....

     

    ความทรงจำที่ได้อยู่ร่วมกับพี่ชายอย่างมีความสุขได้ไหลเวียนเข้ามาในหัวของเธออีกครั้ง ก่อนที่สติของเธอจะขาดสะบั้น ดวงตากลายเป็นสีดำสนิทยิ่งกว่าราตรีไร้ดาว และ กู่ร้องออกมากด้วยความเจ็บปวดจากส่วนลึกของหัวใจ

     

    ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย” เธอกรีดร้องพร้อมกับแปรสภาพกีตาร์ที่สะพายอยู่บนหลังให้เป็นขวานก่อนวิ่งไปฟันพวกมันไม่ให้เหลือซาก....

     

    การต่อสู้ผ่านพ้นไปในชั่วพริบตา รอบตัวของเธอตอนนี้เต็มไปด้วยซากศพลูกน้องของดิสโบว์ แต่มันหนีไปได้... เธอได้แต่คิดอย่างเจ็บใจ แต่ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การฟื้นคืนชีพให้พี่ชายเธอ...

     

    เธอพยุงร่างของพี่ชายไปไว้ในหลอดแก้วอันเดิมที่เธอเคยฟื้นมาเมื่อหลายปีก่อน  ก่อนจะค่อยๆกดปุ่มปล่อยน้ำสีเขียวลงในถังจนเต็ม น้ำสีเขียวนี้เธอมารู้ทีหลังว่าเป็นสิ่งที่พี่ชายประดิษฐ์ขึ้นมา มันบรรจุไปด้วยนาโนบอทจำนวนหลายล้านตัวเพื่อช่วยซ่อมแซม ฟื้นฟู และ ปรับเปลี่ยนสภาพร่างกายของคนธรรมดาให้กลายเป็นกึ่งไซบอร์กเพื่อคืนชีพ แต่นาโนบอทจะทำการฟื้นฟูร่างกายไม่ได้เลย ถ้าร่างนั้นขาดส่วนสำคัญที่สุดของชีวิต... ‘แกนสมองที่สมบูรณ์...

     

    น้ำสีเขียวใสค่อยๆกลายเป็นสีแดงขุ่น ก่อนจะมีเสียงระบบเตือนว่า  

     

    ระบบปฏิบัติการณ์ล้มเหลว เนื่องจากแกนสมองบางส่วนของร่างทดลองได้ถูกทำลาย

     

    เธอแทบทรุดลงไปตรงนั้นเมื่อค้นพบความจริงที่ว่า พี่ชายของเธอจะไม่กลับมาอีกแล้ว... เธอนั่งร้องไห้ เวลาผ่านไปเท่าไหร่เธอไม่รู้ เธอรู้แค่ว่าเธอจะต้องล้างแค้นให้พี่ชายของเธอให้ได้!! เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอก็นำศพของพี่ชายเธอออกมาจากกระบอกแก้ว ก่อนจะตัดใจนำไปฝังไว้หลังบ้าน


                    เสียงดนตรีแห่งความโศกเศร้าบรรเลงเพลงเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเงียบหายไป พร้อมกับการเดินจากมาของสาวน้อยผมแดง

     

    ซ่า ซ่า ซ่า เสียงฝนตกกระทบร่างกายอันผอมเพียวซีดขาวคนหนึ่งที่นั่งอยู่ท่ามกลางสายฝน เธอคนนั้นมีเส้นผมสีแดงเพลิง และ ปลายเป็นสีเหลืองทอง

     

    ผู้คนส่วนมากล้วนเดินผ่านเธอไปราวกับเธอไม่มีตัวตน  แต่ในขณะนั้นเองก็มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเธอ พร้อมกับยื่นร่มที่ถือในมือเข้ามากางให้กับเธอ จนไหล่หนามีหยาดฝนสาดกระเซ็นโดนเล็กน้อย
                
                 "อากาศเย็นเช่นนี้ท่านมานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้ขอรับ" เขาเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มละมุน ก่อนจะยื่นมือไปให้ผู้อยู่เบื้องหน้า

    เธอมองมือนั่นอย่างไม่ค่อยจะไว้ใจ ก่อนจะแหงนหน้ามองไปที่เจ้าของมือ ชายหนุ่มคนนั้นมีรอยยิ้มอบอุ่น .. อบอุ่นจนน่ากลัว  หากแต่มีบางอย่างในตัวเขาที่ทำให้รู้สึกสบายใจอย่างน่าประหลาด ...

                 

    เธอมองมือนั้นอีกครั้ง เมื่อเห็นมือที่ยื่นมาด้วยไมตรีและจริงใจอีกครั้ง ทำให้เธอเกิดความลังเลว่าควรจะจับไหม  แต่เมื่อหันไปสบดวงตาคมนั่นอีกครั้งก็ไม่อาจปฏิเสธได้อีกต่อไป
       

    ทันทีที่สัมผัสเข้ากับมือของเขาราวกับมีกระแสความรู้สึกบางอย่างแล่นไหลวาบเข้ามาในร่างกายของเธออย่างรุนแรง
     
                 “!!!” เอเลน่าได้แต่ยืนตะลึงเมื่อภาพความทรงจำต่างๆทั้งร้ายและดีของเธอ ค่อยๆผุดขึ้นมาอีกครั้ง ราวกับกรอเทปซ้ำ

     

                 ดวงตาคมของชายตรงหน้าฉายแววแปลกใจอย่างเห็นได้ชัด เมื่อสัมผัสกับมือของเธอ และ นั่นทำให้เขาได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับชีวิตเธอไปพร้อมกับการเล่นกรอเทปแห่งความทรงจำนั่นด้วย
          

    "ท่านคงจะผ่านเหตุการณ์เลวร้ายมามากสินะครับ .. ผู้ฟื้นจากความตาย" เขากล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มอบอุ่น ก่อนที่ก้าวเข้าไปชิดบุคคลตรงหน้าอีกหนึ่งก้าว

                  "อยากฆ่าใช่ไหมล่ะ .. คนที่ฆ่าท่านกับพี่ชายคุณน่ะ.."
                  "เคียดแค้นใช่ไหมล่ะ กับความทรมานที่ได้รับ"
                  "มากับผมสิ.. ผมจะช่วยท่านแก้แค้นให้เอง"
                  "ยินดีต้อนรับเข้าสู่ อาร์สโกเอเทีย"
                  "องค์กรเพชฌฆาตล่าอาชญากร"

    ณ วินาทีนั้น แม้เธอจะไม่เชื่อใจเขามากเท่าไหร่ แต่เพื่อให้เธอมีกำลังมากพอจะตามหา  และ แก้แค้นพวกมันเหล่านั้น เธอจึงได้แต่ตอบไปว่า “ตกลง

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×