Path of Sorcerer เส้นทางของจอมขมังเวทย์

ระดับจอมขมังเวทย์จะแบ่งเป็น

ผู้ฝึกหัด - ผู้เป็นมือใหม่หลังจากเข้ามาในวงการโลกมืดส่สนใหญ่จะถูกรุ่นพี่สั่งสอนเกี่ยวกับคาถาอาคมและการสลักอาคมให้เก่งเสียก่อนจึงจะพาพัฒนาสู่ขั้นต่อไป

ผู้ใช้อาคม - ผู้ที่สามารถมาถึงขั้นนี้จะได้รับอนุญาตให้สามารถออกกำราบภูติผีได้แล้วแต่ส่วนใหญ่จะเป็นวิญญาณเร่ร่อน สามารถใช้อาคมที่แกร่งกล้ามากขึ้น และถึงขั้นสลักอาคมลงบนกายได้เพียงแค่ไม่กี่นาที

จอมอาคม - ผู้ที่มีพลังอำนาจแกร่งกล้ามากเนื่องจากผู้ที่ก้าวมาถึงขั้นนี้จะสามารถเก็บวิญญาณเดรัจฉาน กระทั่งเปรตบางจำพวกอย่างนิรยสูร หรือเปตติอสูรที่อ่อนแอ่ ถึงขั้นสามารถสนทนากับเทพเจ้าได้

จอมขมังเวทย์ - ผู้ทีอำนาจที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่คนธรรมดาจะก้าวถึงได้แล้วหากจะกล่าวสู่ขั้นที่สูงกว่านี้ต้องมากด้วยพรสวรรค์หรือใช้เวทย์มนต์ดำเข้าช่วย จอมขมังเวทย์นั้นสามารถต่อกรกับสัตว์นรกได้ หรือกำราบปีศาจได้เลยด้วยซํ้า แถมยังอัญเชิญปิศาจมาช่วยสู้ได้อีก หรือกระทั่งเป็นอวตารแก่ทวยเทพบนชั้นฟ้าเพื่อต่อกรกับปิศาจเรียกได้ว่าเป็นผู้มีอำนาจอย่างมากในโลกมืด

ไสยปราชญ์ - หนึ่งในกลุ่มคนที่สามารถนับได้อาจมากเกิน10แต่ก็ไม่ถึง100คนจากจอมขมังเวทย์นับร้อยล้านคนทั่วโลก เป็นถึงสมาชิกในสภาจอมขมังเวทย์เท่ากับสามารถออกความคิดเห็นเปลี่ยนแปลงกฎของสมาพันธ์จอมขมังเวทย์ได้เลยคนเหล่านี้แม้แต่รัฐบาลโลกยังเกรงใจ ด้วยพลังของพวกเขาเกินสิ่งที่เรียกว่ามนุษย์ไปเป็นสิ่งมีชีวิตที่เหนือธรรมชาติอย่างแท้จริงการเสกสายฟ้าฟาด หรือเรียกคลื่นสึนามิมาถาโถมไม่ใช่สิ่งที่เกินความสามารถพวกเขามักใช้ในการต่อสู้กับพวกปิศาจระดับสูงๆ หรือเปตติอสูร ขั้นนี้จะมีตาทิพย์ เป็นของตนเองด้วบ

ราชาอาถรรพ์ - ผู้ที่สามารถนับได้ด้วยมือเพียงข้างเดียวเท่านั้นราชาอาถรรพ์นั้นแทบจะไม่จำเป็นต้องสนใจกฎของมนุษย์เพราะเพียงแค่ๆคนเดียวสามารถทำลายประเทศๆหนึ่งได้ด้วยปาฏิหาริย์ต่างๆ นอกจากนี้ยังติดต่อสื่อสารเพื่อหยิบยืมพลังของบรรพชนรุ่นก่อนๆ รวมถึงเทพเจ้าได้ กระทั่งเป็นร่างอวตารของเทวายังได้มีหูทิพย์เพิ่มขึ้นมา

ในระดับสุดท้ายนั้นถูกกล่าวแค่ในภาคทฤษฎีเท่านั้นยังไม่มีการปรากฏตัวขึ้นจริงๆโดยระดับนั้นถูกเรียกว่าเทพยดา

ผู้วิเศษจะแบ่งเป็น1–6ระดับ