Daughter's Dante : คำภีร์เเห่งเทพ - นิยาย Daughter's Dante : คำภีร์เเห่งเทพ : Dek-D.com - Writer
×

    Daughter's Dante : คำภีร์เเห่งเทพ

    เมื่อสาวน้อยนามว่า "ลูน่า" จำเป็นที่จะต้องเป็นผู้พิทักษ์โลกไว้จากจอมมารผู้หิวโหยความมืดนามว่า ลูซิเฟอร์ โลกจะเป็นอย่างไร เมื่อเทพทุกองค์มารวมกัน ไม่ว่าจะ เทพกรีก เทพนอส เเละ เทพอียิปต์

    ผู้เข้าชมรวม

    1,055

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    14

    ผู้เข้าชมรวม


    1.05K

    ความคิดเห็น


    13

    คนติดตาม


    18
    หมวด :  แฟนตาซี
    จำนวนตอน :  6 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  12 มิ.ย. 61 / 23:14 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

         นวนิยายเรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจจากวรรณกรรมอุปมานิทัศน์ของ ดันเต อาลีกีเอรี ซึ่งเป็นรัฐบุรุษ กวี ที่เป็นผู้ใช้ชีวิตอยู่ในคริสต์ศตวรรษที่ 13 และ 14 ในยุคกลาง ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการเดินทางตามหาคนรักของ ดันเต นั่นก็คือ เบียทริซ ซึ่งเป็นหญิงสาวที่ ดันเต ได้หลงใหลในวัยเยาว์ ซึ่งทางผู้เขียนนวนิยายได้แรงบรรดาลใจจากจิตนิยายเรื่อง ดีวีนากอมเมเดีย (อิตาลี: Divina Commedia; อังกฤษ: Divine Comedy) มาเป็นรากฐานในการแต่งนวนิยาย เรื่อง “Daughter Dante” เรื่องนี้

         ดันเต ได้พบกับ นาง เบียทริซ ซึ่งเป็นคนรักของเขา ในภูมิสวรรค์ ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่ดันเตไม่ได้พึ่งประสงค์ไว้จาก เวอจิล(Vergil) ซึ่งเป็นผู้นำทางดันเตในการทัวร์ในดินแดนนรก หลังจากที่ได้กลับออกมาจากดินแดนนรกอย่างปลอดภัย ดันเตและเวอจิล ได้เดินทางมาถึงยังดินแดนสรวงสวรรค์ และเป็นที่ที่ดันเตได้พบกับคนรักของเขา นั่นก็คือ เบียร์ทริช แต่นั่นก็เป็นเพียงสิ่งที่ทำได้เเค่นั้น เพราะเบทริชได้เป็นดงววิญญาณบนสรวงสวรรค์และเป็นสัญลักษณ์ความศรัทธาของพระผู้เป็นเจ้า เเละเพื่อเป็นผู้พาดันเตทัวร์การเดินทางไปในดินแดนสรวงสวรรค์ และในที่สุดดันเตก็ได้เดินทางมาจนถึงจุดสิ้นสุดและได้นำเรื่องราวจากการเดินทางมาเล่าเรื่องราวและสร้างมโนภาพเกี่ยวนรกและสวรรค์ผ่านหนังสือของดันเต 

         แต่ก่อนที่ดันเตจะกลับนั้นพระเจ้าได้เห็นถึงความรักที่จริงใจของดันเตที่มีให้แก่เบียร์ทริช ท่านจึงมีข้อเสนอมาเสนอแก่ดันเต ซึ่งทำให้ดันเตนั้นปฏิเสธไม่ได้ นั่นคือการให้ดันเตได้พบกับเบียทริซครั้งละปีเท่านั้น แต่แลกด้วยการที่ต้องดูแลพลังที่สามารถควบคุมทั้งสองโลกได้ เพื่อไม่ให้ทั้งสองโลกทำสงครามต่อกัน และป้องกันไม่ให้ปีศาจหลุดออกมาจากนรกได้ และดันเตต้องเป็นอมตะไปจนกว่าจะมีผู้สืบทอดที่มาจากสายเลือดโดยตรงของดันเตเท่านั้นซึ่งแน่นอนว่าดันเตคงไม่สามารถปฏิเสธข้อเสนอของพระเจ้าได้ เพราะข้อเสนอนั้นมันช่างไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ลง ทำได้แค่ยอมรับข้อเสนอของพระเจ้าเพื่อที่จะได้พบกับคนรักเพียงแค่ครั้งละปีเท่านั้น หลังจากที่พระเจ้าลับหายไป เบียทริซ ได้ปรากฏตัวต่อหน้าดันเต พระเจ้ามอบสิ่งที่ดันเตปรารถนาตามคำสัญญา

         จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี ความรักของดันเตและเบทริชผ่านล่วงเลยมาถึง 500 ปี เบทริชกับดันเตได้มีบุตรร่วมกัน ในวันพระจันทร์เต็มดวง ในปี 2018 เด็กทารกน้อยเพศหญิงมีหน้าตาที่น่ารักเกินที่สาวใดจะเทียบเทียม พวกเค้าได้ตั้งนามให้แก่บุตรสาวผู้นี้ว่า ลูน่า ซึ่งมาจากดวงจันทร์ที่ส่องสว่างยามค่ำคืนอันมืดมิด และจากจุดเริ่มต้นจุดเล็กๆจุดนี้เอง ที่ซึ่งการเติบโตและการเดินทางการผจญภัยของเด็กน้อย ได้เริ่มขึ้น ณ บัดนี้

                                                                                                                                                

                                                                                                                                                รวีชล กล้าหาญ

                                                                                                                            ผู้เขียน

                                                                                                                             พฤษภาคม 2018

     


    ปฐมบท

                ค่ำคืนอันเงียบงัน มันเหมือนกับค่ำคืนสมัยยุคโบราณที่รถยนต์ยังไม่เกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ ผู้คนต่างหลับใหลอยู่ในที่พักอาศัยที่เป็นลักษณะอพาร์ทเม้นท์เป็นแถวๆแนวยาวกันไปในเมืองเวนิส ณ เวลานั้นดันเตกับเบียร์ทริซกำลังหลับอยู่บนเตียงของพวกเค้า ซึ่งลูน่าตัวน้อยก็กำลังหลับฝันหวานอยู่ในห้องนั้นด้วยเช่นกัน

                ลมพัดผ้าม่านไหวๆตรงหน้าต่างห้องนอนของเค้า ดันเตรู้สึกได้ทันทีว่าห้องนอนไม่ได้มีแค่พวกเค้า 3 คนอีกต่อไป ความจริงดันเตนั้นรู้อยู่ก่อนแล้วว่าสิ่งนั้นคืออะไร หรือว่าคือใคร ท่านจะมาก็ควรที่จะบอกข้าก่อนนะ ไม่มีใครเค้าทำกันแบบนี้แล้วในยุคนี้ อย่างนี้เค้าเรียกว่าโจรดันเตกล่าวไปยังเงาดำซึ่งเป็นร่างชายสูงใหญ่กว่าคนปรกติ แต่ไม่ถึงกับต้องเรียกว่ายักษ์

                เงานั้นเผยตัวตนออกมา เป็นบุรุษผู้มีใบหน้างดงามเครายาวดกดำ ผมยาวดุจดังสตรี ชายผู้นั้นใส่ชุดสูทสีขาวสง่าใบหน้าเปื้อนยิ้ม ซึ่งส่งไปยังดันเตที่กำลังกึ่งนอนกึ่งนั่งอยู่บนเตียง

                ดันเตเอ๋ย เรานั้นเป็นพระเจ้า ผู้คนที่ได้แค่ศรัทธากับสวดวิงวอนจะมามองเห็นเราหรือสัมผัสเราได้เยี่ยงไร พวกเค้ามองไม่เห็นเราหรือสัมผัสเราได้ นอกจากแค่เจ้ากับเบียทริซเท่านั้นที่จะมองหรือสัมผัสถึงเราได้ พระเจ้าตรัสกลับไป อย่างน้อยท่านก็น่าจะเคาะประตูบ้านข้าเสียก่อนหรือปล่าวหละดันเตตอบกลับเชิงหงุดหงิดกลับไปแก่พระเจ้า แต่ท่านมาที่นี่ท่านมีธุระอะไรกับข้ากัน

                “ดันเต เจ้ายังจำคำสัญญาที่ให้ไว้กับเราได้หรือไม่ ว่าเจ้าจะหมดพันธะนี้เมื่อเจ้าได้ให้กำเนิดบุตรที่มาจากสายเลือดเจ้าพระเจ้าเปลี่ยนอารมณ์ทันที ความเงียบเข้าครอบงำ เค้ารู้สึกได้ทันทีว่าเหมือนเรื่องร้ายบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้นกับเค้า ซึ่งเค้ารู้ดีว่ามันหมายถึงอะไร แต่ดันเตเลือกที่จะพูดปดแก่พระเจ้า ท่านกำลังพูดอะไร ข้าไม่เข้าใจดันเตทำท่าทางฉงน เราคาดการณ์ไว้แล้วว่าเจ้าจะต้องตอบแบบนี้แก่เรา เราอ่านใจเจ้าได้นะ....ดันเต พระเจ้าขำขันเล็กน้อยก่อนที่จะเปลี่ยนใบหน้าเป็นใบหน้าที่นิ่งขรึมดูน่ากลัว

                  ทันใดนั้นประตูถูกปิดกระแทกอย่างแรง ลมพัดแรงขึ้น เฉกเช่นพายุโหมกระหน่ำเข้ามาในบ้านของพวกเค้า เบียทริซตื่นขึ้นทันทีด้วยความตกใจและลนลาน ท่านยกโทษแก่ดันเตเถอะ เค้าทำไปเพราะปกป้องพวกข้าเบียร์ทริซวิงวอน แต่พระเจ้าไม่ฟังนาง ร่างของนางค่อยๆสลายอย่างช้าๆ ซึ่งลอยปนไปในพายุที่กำลังโหมหนักขึ้นเรื่อยๆ ดันเต พยายามที่จะคว้ามือของนางไว้ แต่กลับสายไปเสียแล้ว นางสลายไปจนหมด ไม่สามารถที่จะคว้ามาได้อีก

              พายุได้สงบลงโดยการควบคุมของพระเจ้า ดันเตได้แต่น้ำตาซึมและคิดแค้นอยู่ในใจ ณ ตอนนี้ความเคียดแค้นที่มีแก่พระเจ้านั้นหนักหน่วงขึ้น เจ้าเลือกให้เราต้องทำเช่นนี้ ดันเต ในใจเจ้าความเคียดแค้นนั้นมันไม่สามารถช่วยเจ้าได้หรอกนะ” ทันใดนั้นดันเตลุกขึ้นจากพื้นอย่างรวดเร็วและต่อยไปที่ใบหน้าของพระเจ้าอย่างจัง ใบหน้าของท่านไม่สะทกสะท้านใดๆ ได้แต่นิ่งเฉยแค่นั้น อย่างน้อยข้าก็ยังรู้สึกเป็นดันเตกัดฟันพูดกับพระเจ้า เราให้เจ้าเป็นอมตะแต่เราไม่ได้ให้พลังแก่เจ้าพระเจ้าเอามือแตะไปยังบนบ่าของดันเต

                เจ้าได้พ้นจากอำนาจอมตะ ณ บัดนี้ ข้าขอถอนอำนาจนี้ออกจากกายเจ้า หลังจากที่พระเจ้าได้กล่าวเสร็จ ร่างกายของดันเตค่อยๆสลายไปอย่างช้าๆ ดันเตรู้ดีว่าตนต้องตายถ้าอำนาจนี้หายใปเพราะตนเองอยู่มาถึง 500 ปี ดันเตจึงไม่แปลกใจ แต่การที่ร่างค่อยๆสลาย มันเจ็บปวดยิ่งกว่าสิ่งใด แต่คงไม่เท่าการที่ต้องทิ้ง ลูน่าตัวน้อยไว้ในเตียงเพียงผู้เดียว น้ำตาของดันเตไหลริน และก่อนสลายจนหมด ใจของดันเตได้พยาบาทพระเจ้าเอาไว้ซึ่งเค้าจะต้องได้กลับมาแก้แค้นพระเจ้าในไม่ช้าก็เร็ว

                ดันเตผู้เป็นพ่อ เบียทริซผู้เป็นแม่ ได้สูญสลายสิ้นไปแล้ว เหลือไว้เพียงลูน่า ที่นอนอยู่บนเตียงเด็ก พระเจ้ายังคงอยู่ตรงปลายเตียงของเธอ จ้องมองเด็กทารกน้อย ผู้ที่จะเป็นผู้กอบกู้สงครามที่ยิ่งใหญ่เมื่อเวลานั้นมาถึง เธอจะเป็นผู้นำชัยมาแก่มวลมนุษย์และเทพทุกแห่งหน

                          พระเจ้าได้ทรงเรียกนกกระทุงมา มันเกาะอยู่ตรงขอบหน้าต่าง และมองไปยังเด็กน้อย

    เจ้าจงนำเด็กทารกน้อยผู้นี้ ไปซ่อนอย่าให้มีผู้ใดหรืออสูรกายใดได้พบเจอ เธอคือความหวังของเรา สงครามที่ยิ่งใหญ่กำลังจะมา เธอเท่านั้นคือความหวังเดียวจากนั้นนกกระทุงก็คาบเด็กน้อยและบินล่องไปในนภา ซึ่งจะเป็นการเดินทางที่แสนไกลของเด็กน้อยเลยก็ว่าได้ และเด็กน้อยไม่รู้เลยว่าสิ่งชั่วร้ายเเละอันตรายนี้กำลังใกล้เข้ามาเเล้ว

              

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น