ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~แวมเพอร์เรีย วิกฤติรักแวมไพร์( SUJU ) HanHyuk~ Yaoi

    ลำดับตอนที่ #74 : My Vampire 74

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 212
      1
      2 มิ.ย. 56

     

     




     

     

    ซองมินนั่งดูทีวีในขณะที่ไม่สามารถช่วยฮันกยองและฮยอกแจในการเตรียมตัวออกไปล่าแวมไพร์...หมายถึง ตามหาคุณคังอิน ซึ่งเขาก็ได้แต่นั่งเฉยๆ โดยมีคยูฮยอนค่อยช่วยอยู่ไม่ห่าง นี่ก็เป็นเวลาเกือบๆจะหนึ่งทุ่ม ทั้งฮยอกแจและฮันกยองก็เตรียมตัวกันอย่างเครียดนิดๆ ทำให้เขาอยากจะออกไปช่วยอยู่บ้าง


    “คืนนี้พวกฉันอาจจะไม่กลับน่ะ”ฮันกยองพูดยิ้มๆให้ซองมินสบายใจมากขึ้น


    “ระวังตัวนะครับ”เขาว่าทำให้ฮันกยองพยักหน้า ก่อนที่คนตัวสูงจะหันไปหยิบมีดพกมาเก็บไว้เข้าที่


    “อย่าเอามันมาใกล้ฉันเชียว”เขาได้ยินเสียงฮยอกแจบ่นเสียงแข็ง แต่ก็ได้รับกลับมาเพียงแค่เสียงหัวเราะของคนตัวสูง เดิมทีคังอินเป็นคนที่เก่งมากอยู่แล้ว แถมยังห่วงคุณฮยอกแจยังกับอะไรดี แต่จู่ๆกลับขาดการติดต่อไปแบบนี้เป็นธรรมดาที่จะน่าเป็นห่วง ยิ่งกับสถานการณ์ตอนนี้ด้วย


    “ระวังตัวนะซองมิน”ฮันกยองหันมาบอกอีกครั้งก่อนจะออกไปจากบ้านตามด้วยฮยอกแจ


    ซองมินมองบานประตูที่ปิดลงไปนานแล้ว ก่อนจะหันมามองคนที่นั่งนิ่งเป็นหินอยู่ใกล้ๆ โดยที่คยูไม่ได้ขยับไปไหน นั่งอยู่แบบนี้ โดยจะขยับเฉพาะเขาทำท่าจะลุก หรือว่าต้องการอะไรซักอย่างคนตัวสูงถึงจะเดินมาช่วย บ่อยครั้งที่เขาค่อนข้างลำบากใจเอามากๆกับการกระทำแบบนี้ ยังกับว่ามีแค่ความเกรงใจ ความอึดอัดในทุกๆครั้งที่คยูเข้ามาใกล้


    ตอนนี้แผลเขาก็ดีขึ้นมาก ขยับแขนเองได้มากกว่าเดิม แม้จะยังเดินเหินไม่ได้มากเท่าไร เขาก็คิดว่าอาจจะดีกว่าที่จะเลิกให้คยูมาทำแบบนี้ ดูแล้วคยูเองก็คงไม่ค่อยมีความสุขเท่าไรนักกับการต้องมาช่วยเขาแบบนี้ อาจจะเป็นการบังคับอยู่กลายๆก็ได้ละมั้ง


    เขาขยับตัวอีกครั้ง เพื่อจะเอื่อมมือออกไปหยิบรีโหมดทีวี จะได้กดปิดไปในเมื่อเขาก็ไม่สนใจมันอยู่แล้ว ทำให้ชายหนุ่มตัวสูงที่นั่งนิ่งในตอนแรกรีบลุกมาหยิบรีโหมดมายื้นให้เขาทันที ซองมินมองรีโหมดสีดำในมือของร่างสูงก่อนจะแส่หน้าไปอีกทาง


    “เบื่อหรือเปล่า? หิวหรือ?”เขาได้ยินเสียงทุ้มถามออกมา ทำให้เขาเงยหน้ามองคนตัวสูง


    “ทำไมนายไม่กลับบ้านไปพักซักหน่อยละ”เขาพูดออกไปทำให้คยูหันหน้าหนี


    “ทำไมต้องมาทำแบบนี้ในเมื่อนายเองก็ไม่ได้อยากทำซักนิด”เขาพูดต่อ “การต้องมาดูแลแฟร์รี่แบบนี้ไม่มีแวร์วูฟที่ไหนจะมีความสุขหรอก..”เขาพูดต่อทำให้คยูหันมามอง


    “ที่นายเป็นแบบนี้เพราะความผิดฉัน”ซองมินเม้มปากแน่น


    “ไม่ใช่ความผิดนาย ความผิดฉันต่างหากที่ซื่อบื้อกลับมาแล้วก็ดันโดนทำร้าย นายอุสาช่วยชีวิตฉันแค่นั่นก็มากพอแล้ว”ซองมินพูดต่อทำให้คยูขบฟันแน่น


    “ใช่ ความผิดของนาย”เขาพูดทำให้ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นมา


    “งั้นนายก็ไม่ต้องดูแลฉันอีกแล้ว...แค่นี้ก็มากเกินพอแล้ว” สิ้นเสียงของซองมิน ทั้งคู่ก็ยังเงียบ...ไม่มีใครพูดอะไรออกมาซักคำ เขาไม่อยากให้คยูอยู่ที่นี้เพราะความรู้สึกผิด เพราะการบังคับ หรืออะไรก็ช่าง อย่างน้อยๆก้อยากให้อยู่เพราะแค่อยากอยู่กับเขาก็ยังดี


    “...”คยูไม่ได้พูดอะไรก่อนที่คนตัวสูงจะหันหลังแล้วเดินหายไปจนซองมินคิดว่าคนตัวสูงกลับไปเสียแล้ว เขาขยับตัวนั่งอย่างเหม่อๆ พลางคิดในแง่ดีว่าคยูคงจะไม่ทรมานเพราะอยู่กับเขาอีกแล้ว ซึ่งนั่นก็ดี จะได้ไม่ต้องมามีความหวังบ้าๆบ่อๆอะไรมากมายนัก


    แต่แล้วเขาก็ต้องตาโตขึ้นมาเมื่อจู่ๆก็ถูกอุ้มจนตัวเขาลอยขึ้นมาจากโซฟาตัวยาว ใบหน้าหวานเหวอขึ้นมาอย่างตกใจก่อนจะหันไปมองทางคนที่อุ้มเขาอยู่ ซึ่งนั่นก็คือคยูที่กำลังมองมาทางเขาด้วยสีหน้าที่อ่านไม่ออก


    “บ้านนั่นดงเฮกับคิบอมจีบกันน่ารำคาณเป็นบ้า ฉันจะอยู่ที่นี้และ”เขาบอกอย่างเซงๆในขณะที่เดินออกมาจาห้องนั่งเล่น


    “ด-เดี่ยวสิ..”


    “อ้อใช่...ฉันก็ไม่ได้อยากจะมาดูแลกระต่ายพิการๆแบบนี้นักหรอกน่ะ แต่บังเอิญว่าฉันสัญญาไว้ว่าจะพานายไปสวนสนุกนะสิ หากว่านายยังไม่หายดีฉันก็คงต้องฝันร้ายไปตลอดว่าเมื่อไรจะได้พานายไปให้มันจบๆซักที”ซองมินฟังเสียงทุ้มพูดไปเรื่องๆในขณะที่คยูถีบประตูห้องนอนของเขาให้เปิดออกพลางแทรกตัวเข้ามา


    “แต่ยังไงก็...”ซองมินเงียบทันทีเมื่อถูกคยูวางร่างทั้งร่างลงบนเตียงในขณะที่ใบหน้าคมก็ยังไม่อยห่างออกไป ทั้งคู่สบตากันอยู่นานก่อนที่คยูจะหลบตาลงมาเพื่อเริ่มพูดอะไรซักอยากแล้วก็หยุดลงไป


    “...ฉัน...เป็นแวร์วูฟ ส่วนนายเป็นแฟร์รี่..”คยูบอกเสียงเบา “..ฉันถูกสอนมาตั้งแต่เกิดว่าให้ฆ่าคนแบบนายทิ้ง แต่ฉันค่อนข้างมีปัญหาในเรื่องนี้...”คยูถอนหายใจยามในขณะที่เอื่อมมือออกไปจับมือนิ่มมากุมไว้หลวมๆ


    “...ฉันฆ่านายไม่ได้...ทำไม่ได้แม้แต่จะคิด เหมือนมีอะไรบางอย่างมันบีบอยุ่ที่อกเวลาที่คิดว่านายจะตาย รวมถึงเรื่องที่ฉันปล่อยให้นายตายไม่ได้เหมือนกัน...ครั้งนั่น ฉันไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากระโจนใส่แวมไพร์นั่นเมื่อไร รู้ตัวอีกทีฉันก็กำลังสู้กับมันเพื่อไม่ให้มาทำร้ายนายที่สลบอยู่ข้างหลัง...”คยูพูดออกมาเบาๆ ทำให้ซองมินนิ่งเงียบ


    “มันไม่ใช่ความผิดนาย ฉันต่างหาก ถ้าเพียงแค่ฉันไม่งี่เง่าเห็นแก่ตัวในตอนนั่น เพราะแบบนี้ฉันถึงคอยอยู่ข้างนาย ยอมทิ้งโอกาสที่จะฆ่าคิบอมเพื่อมาช่วยนาย เพราะฉันจำความรู้สึกในตอนนั่นได้ แล้วก็ไม่อยากเจออีกแล้ว..”ซองมินพยายามสงบสติอารมณ์ในเมื่อตอนนี้หัวใจเขาเต้นแรงมากจนเขากลัวจะเป็นลมไปเสียก่อน ในขณะที่มองใบหน้าหล่อๆของคยูที่มองแส่ไปทางอื่นเหมือนกำลังเหม่อลอย


    “ฉัน...”เขาพยายามอ้าปากพูดแต่กลับไม่รู้จะพูดอะไรออกมาให้เข้ากับสถานการณ์ตอนนี้ ทำให้คยูเงยหน้ามามองหน้าของเขาก่อนที่คนตัวสูงจะลุกขึ้นเพื่อดึงผ้าห่มมาห่มให้เขา


    “ฉันจะอยู่ข้างนอกน่ะ”คยูว่าในขณะที่กำลังจะเดินออกไป


    “เดียว!”เขาได้ยินเสียงตัวเองเรียกออกไป ทำให้คยูเดินกลับมาที่เตียง


    “ฉัน...ฉันก็จะไม่ปล่อยให้นายตายเหมือนกัน”เขาพูดออกไปพร้อมทั้งใบหน้าที่แดงก่ำทำให้คยูขำออกมานิดๆ


    “อย่างนายจะทำอะไรได้ ตอนเป็นกระต่ายตัวเล็กกว่าอุ้งมือฉันอีก ถ้าเปลี่ยนเป็นจูบจะน่าสนใจกว่าเป็นไหนๆ”คยูบอกพลางยกยิ้มขึ้นมา ทำให้ซองมินหน้าแดงกว่าเดิม


    “ก้มลงมาสิ...”ร่างเล็กแทบจะกัดลิ้นตัวเองให้ขาดๆไป เพราะดูจากร่างสูงที่เลิกคิ้วขึ้นในเชิงถามก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างเจ้าเลห์แต่ก็ยอมก้มลงมาแต่โดยดี ทำให้ซองมินยันตัวขึ้นนิดหนึ่ง เพื่อกดริมฝีปากลงไปใกล้กับมุมปากของคยู ทำเอาร่างสูงตาโตขึ้นมาเพราะไม่คิดว่าคนตัวเล็กจะกล้าทำอะไรแบบนี้


    “ข...ขอบใจน่ะ...”ร่างเล็กว่าเสียงสั่นในขณะท่ดึงผ่ามขึ้นมาคลุมตัวอย่างเขินอาย หลบสายตาคมที่มองมาอย่างมีความหมาย คยูมองก้อนกลมๆตรงหน้าก่อนจะกล้มลงมาคล่อมก้อนผ้าห่มเอาไว้เพื่อฟังเสียงหัวใจของคนตัวเล็กที่ดังจนเขาอดยิ้มไม่ได้


    “ดีใจเถอะน่าที่นายอยู่ในช่วงรักษาตัว...”เขากระซิบเบาๆผ่านผ้าห่มผืนหนา ในขณะที่กดจูบลงไปเบาๆบนเนื้อผ้า แต่ก็ยังทำให้ซองมินรู้สึกได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ก่อนที่เขาจะออกไปจากห้องทิ้งให้คนตัวเล็กนอนหน้าแดงอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา







    .................................





    ลีทึกค่อยๆลืมตาขึ้นมาทีละน้อยเมื่อรู้สึกถึงความปวดเล็กๆที่หัวของเขา ในขณะที่สายตายังคงพยายามปรับภาพที่เห็นอย่างยากลำบาก เมื่อมันช่างมืดจนเขาแทบจะมองไม่เห็นอะไรเลย มีเพียงแต่แสงที่ลอดออกมาจากหน้าต่างที่ชั้นบน ทำให้เขาหันไปมองรอบๆเพื่อสำรวจว่าตัวเองอยู่ที่ไหน


    เขาไม่คุ้นเคยยกับกลิ่นอับฉุนขึ้นมาติดจมูกกับความชื้นรอบตัวที่ทำให้เขาสรุปคราวๆว่าคงจะเป็นโรงงานร้างซักทีหรืออะไรในทำนองนั่น แล้วเขาก็ตื่นเต็มตาทันทีเมื่อนึกถึงเรื่องก่อนหน้านี้ได้ เขามั่นใจว่าไม่ได้ฝันไปกับสายตาน่าขนลุกสีแดงสดของชายคนนั่นที่เหมือนจะชื่อเรย์ม่อน


    แล้วเขาก็แทบจะร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อหันมาพบกับดวงตาสีแดงสนน่าขนลุกที่แทบจะเรืองแสงอยู่ในความมืด มันกำลังจ้องมาที่เขาโดยไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ราวกับมีแค่ดวงตาเท่านั่น ถ้าไม่สังเกตให้ดีๆคงแทบจะไม่เห็นเลยว่าเจ้าของตาคู่นั่นนั่งอยู่ในความมืด


    “สวัสดี หนุ่มน้อย หลับสบายไหม?”เขาได้ยินเสียงนั่นอีกครั้งก่อนเจ้าตัวจะเดินเข้ามาใกล้ แล้วย่อตัวลงตรงหน้าเขาซึ่งอยู่บนเก้าอี้


    “อภัยให้ด้วยที่สถานที่ไม่น่าอภิรมย์ การฆ่าเผ่าพันธุ์เดียวกันค่อนข้างมีความผิด ข้าไม่ค่อยอยากเจอปัญหายิบย่อย แต่ไม่ต้องห่วง หลังจากเจ้านั่นมาแล้วข้าจะไม่ให้เจ้าต้องทนเบื่อหน่ายอีกต่อไป การฆ่าเจ้าให้เจ้านั่นดูคงจะน่าสนใจไม่ใช่น้อย”เรย์ม่อนบบอกยิ้มๆก่อนจะลุกขึ้น ทำให้เขาสังเกตเห็นว่าตัวเองไม่ได้ถูกมัดอยู่


    “ไม่จำเป็นต้องมัด ข้ามีมารยาทกับแขกเสมอ นั่งอยู่ตรงนั่นตามสบายแล้วกัน”เรย์ม่อนพูดอีกทำให้ชายหนุ่มพยายามลุกขึ้นแต่กลับทรุดลงไปบนพื้นเมื่อความเจ็บเร่นขึ้นมาที่ขาข้างซ้ายของเขาจนแทบจะขยับไม่ได้


    “อ้อ ลืมบอกไป ข้าหักข้าซ้ายเจ้าไปน่ะ...”เรย์มอนบอก ก่อนจะหันมาหาเขาอีกครั้ง


    “แกต้องการอะไร”ลีทึกแทบจะกัดฟันพูดออกมาด้วยความโกรธ ทำให้คนตัวสูงย่อตัวลงมา ในขณะที่เอื่อมมือออกไปยังใบหน้าของชายหนุ่ม


    “ข้ามีเรื่องที่จะต้องพูดคุยกับแฟนหนุ่มของเจ้าให้รู้เรื่อง ในความผิดหลายๆอย่างของเขา หนึ่งเลยข้ารู้มาว่าเขาฆ่าแวมไพร์ด้วยกันเอง เรื่องนั่นแย่มาก...และสอง ข้ามั่นใจว่าเจ้านั่นมีความสัมพันธ์บางอย่างกับคนสำคัญของข้า ซึ่งข้ายอมไม่ได้ในเรื่องนี้..”เรย์ม่อนบอกด้วยน้ำเสียงเอื่อยๆ ขณะที่เชยคางมนขึ้นมา


    “...และสาม มันคบกับมนุษย์ธรรมดาสามัญเช่นเจ้า ไม่ใช่อย่างสัตว์เลี้ยง แต่อย่างคนรัก...ความผิดนี้ค่อนข้างร้ายแรงพอๆกับข้อแรกทีเดียว เจ้าควรจะดีใจ เขาได้ตายเพราะข้ายังดีกว่าถูกพวกเบื่องบนลากตัวไป”เรย์ม่อนล่อยมือจากใบหน้าของลีทึกในขณะที่ลุกขึ้น


    “นายพูดเรื่องเพ้อเจออะไร...”ลีทึกขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจทำให้ชายนุ่มหันมาเลิกคิ้ว


    “เห็นอยู่ว่าเจ้าไม่รู้เรื่องสำคัญสินะ หรือบางทีเจ้านั่นไม่ได้พูด...”เขาบอกยิ้มๆ


    “เรื่องอะไร!!”ลีทึกแทบจะตะคอกออกมากับคนโรคจิตตรงหน้าที่เขาไม่เข้าใจเลยซักนิดว่ากำลังพูดอะไรอยู่


    “อัศวินของเจ้ายังไงละ...”เรย์ม่อนพูดต่อ “เขาเป็นเหมือนกับข้านี้และ เผ่าพันธุ์ที่น่าเกรงขาม เหล่าปีศาจราตรี”ชายหนุ่มว่าทำให้ลีทึกเงียบ


    “นายมันบ้า นายไม่รู้จักคังอิน นายมันก้แค่โจรโรคจิต”


    “เชิญเจ้าหลอกตัวเองต่อไปเถอะ จำไว้ว่าที่เจ้าตายก็เพราะเขาไม่ใช่ข้า ไม่ว่ายังไงก็เปลี่ยนไม่ได้ เขาก็เป็นเหมือนพวกเรา...เป็นแวมไพร์เหมือนกัน”เรย์ม่อนเหยียดยิ้มออกมาทำให้ลีทึกหันหน้าหนี พยายามไม่ฟังคำพูดของคนตรงหน้า พยายามภาวนาให้คังอินมาช่วยเขา ก่อนจะถูกฆ่าตายจริงๆ









    ***************************



    Thank you so muchhhhhhhhhhhhhhhhhhhhhhhhhhhhhhh





     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×