ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~แวมเพอร์เรีย วิกฤติรักแวมไพร์( SUJU ) HanHyuk~ Yaoi

    ลำดับตอนที่ #29 : My Vampire 29

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 495
      1
      26 ก.ย. 55

     

     




     

    “น้ำชาครับพี่ฮัน”ซองมินพูดขึ้นมาอย่างกล้าๆกลัว พลางวางแก้วกระเบื่องลงตรงหน้าร่างสูง ซึ่งฮันกยองก็ทำได้เพียงพยักหน้านิดๆโดยยังไม่พูดอะไร ซองมินลอบถอนหายใจออกมาเล็กๆพลางเหลือบมองดูนาฬิกาที่ตอนนี้ก็ปาเข้าไปตี5กว่าๆแล้ว ร่างสูงของฮันกยองก็ยังนั่งอยู่บนโซฟาที่เดิม เพื่อรอให้คุณฮยอกแจกลับมา



    แถมใบหน้ายังบอกได้ว่าอารมณ์เสียสุดๆอีกด้วย ตัวเขาเองก็สะดุ้งตื่นมาเพราะเสียงทะเลาะกันดังลั่นบ้าน เขาเองไม่เคยเห็นคุณฮันกยองเป็นแบบนี้มาก่อนเลย ดูเป็นห่วงคุณฮยอกแจมาก แถมยังดูน่ากลัวมากอีกด้วย จนเขาเองก็ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน


    “พ..พี่ฮันไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ เดียวคุณอยอกแจก็กลับมานะฮ่ะ”ซองมินพยายามพูดขึ้นมา


    “ฉันรู้...ขอบใจน่ะ นายไปนอนต่อก็ได้”ร่างสูงถอนหายใจออกมานิดๆ


    “ไม่เป็นไรครับ ผมอยู่กับพี่ดีกว่าฮ่ะ”ซองมินว่ายิ้มๆ แล้วนั่งลงบนโซฟาใกล้ๆกับฮันกยอง

    *



    *



    *



    *


    ฮยอกแจมองดูชายหนุ่มข้างๆตัวเองแล้วก็อดจะยิ้มออกมาไม่ได้ นานมากแล้วที่เขาไม่ได้เจอคนที่สนิทสนมอย่างที่รู้จักกันมานานแบบนี้ มันทำให้เขานึกถึงวันเก่าๆของตัวเองมากกว่า ยิ่งความสัมพันธ์ของเขากับคังอินยิ่งผูกพันธ์กันมากอยู่ด้วย


    “คุณดูท่าทางสบายดีนะครับ”คังอินพูดขึ้นมายิ้มๆ ทำให้ฮยอกแจพยักหน้า


    “อือ แล้วนายล่ะทำไมมาที่นี้ได้”ฮยอกแจถามเสียงเบา


    “หลักๆแล้วผมเป็นห่วงคุณยังไงละครับ อยู่ที่ญี่ปุ่น ผมเองก็ได้ยินมาเหมือนกันว่าพักหลังๆนี้พวกแวมร์ฮันเตอร์เริ่มแข็งข้อขึ้นเรื่อยๆ ทำให้แวมไพร์ตัวเบ๋งเริ่มมารวมตัวกันที่นี่ เพื่อสู้กับพวกฮันเตอร์นะครับ ผมก็เลยเป็นห่วงคุณขึ้นมา”คังอินบอก


    “แบบนี้ยัยนั่นก็อาจจะกลับมาก็ได้สิน่ะ”ร่างเล็กพูดออกมาเหมือนพูดกับตัวเองมากกว่า


    “ครับ อาจจะด้วย..”ชายหนุ่มบอก “ว่าแต่คุณเถอะครับ อยู่กับมนุษย์แบบนั่นจะดีหรือ?ผมว่ามันอันตรายกับคุณมากเลยน่ะครับ คนๆเป็นแวมไพร์ฮันเตอร์ไม่ใช่หรือ”


    “ไม่ใช่ เจ้าซื่อบื่อนั่นไม่เกี่ยวหรอก...แค่เป็นมนุษย์ธรรมดาที่ผิดปกติ แล้วนายรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่ไหน?”ฮยอกแจถามอีกครั้ง


    “ผมตามกลิ่นมาครับ คุณไม่ได้ปิดบังตัวเองจากผม ผมก็เลยตามหาคุณได้ง่ายๆ”ชายหนุ่มยิ้มกว้างให้คนข้างๆ นั่นทำให้ฮยอกแจถอนหายใจออกมานิดๆ


    “นายเนี่ย นับวันจะยิ่งเก่งกว่าฉันแล้วน่ะ เกินหน้าเกินตาไม่ได้รู้ไหม ยังไงฉันก็แก่กว่านายเยอะ”ร่างเล็กบอก


    “เพราะผมดื่มเลือดจากแวมไพร์ด้วยกันต่างหากละครับ มันเลยทำให้พลังผมเพิ่มขึ้น”คังอินบอก นั่นทำให้ฮยอกแจหันมามองคนข้างๆนิดๆ คังอินต่างกับเขาตรงที่ว่า คนข้างๆเขาดันไม่ต้องการดูดเลือดจากมนุษย์ ทางเลือกก็เลยมี2ทางคือดูดเลือกจากศพกับแวมไพร์ด้วยกัน คงไม่ต้องบอกหรอกว่าคนตัวโตข้างๆเลือกอะไร


    สำหรับพวกเขาแล้ว เรื่องแบบนี้ถือเป็นความผิดร้ายแรงมาก แม้ว่ามันจะทำให้แข็งแรงขึ้นมาก แต่ก็ไม่มีใครอยากทำแบบนั่นหรอก มันเหมือนกับเป็นการประกาศตัวเองกลายๆว่าเป็นแวมไพร์ฮันเตอร์ แต่คังอินนั่นไม่แคร์ในจุดนี้ เพราะเขาไม่ได้แคร์อะไรเรื่องแวมไพร์อยู่แล้ว


    “ผมได้ได้เดินเคียงข้างคุณมานานเท่าไรแล้วน่ะ...”คังอินบอกเบาๆพลางยิ้มออกมาอย่างมีความสุข


    “พูดจาน่าขนลุก”ฮยอกแจบอกขำๆ


    “ผมพูดจริงนะครับ ผมคิดถึงคุณมากๆเลย ไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอะไรกันแน่”ชายหนุ่มบอก


    “ก็ฉันเป็นป๋ะป๋านะสิ”ร่างเล็กบอกในเชิงภูมิใจนิดๆ และนั่นเองก็ทำให้คังอินยิ้มออกมา


    “ครับ คงจะเป็นแบบนั่น...คุณฮยอกแจครับ นี่อีกไม่นานก็เช้าแล้ว คุณกลับบ้านไหมครับ”

    “ไม่กลับ!!”ร่างเล็กหันมาพูดอย่างเอาแต่ใจ เมื่อนึกถึงใบหน้าของร่างสูง เขาเองก็ใช่ว่าจะโกรธอะไรนักหนาหรอก แต่มันไม่พอใจตรงที่ว่าเขานึกว่าฮันกยองจะห้ามไม่ให้เขาออกมากับคังอินมากกว่านี้ แบบวิ่งตามหรือสู้กับชายหนุ่มไปเลย แต่นี้ดันปล่อยเขามาง่ายๆ ใช่สิ!! ปานนี้ก็คงนอนหลับไม่รู้เรื่องไปแล้วมั้ง หน่อยย..


    “จะดีหรือครับ?”


    “กล้าขัดคำสั่งหรือไง”ร่างเล็กหันมาค้อนควับ ทำให้คังอินยิ้มออกมา


    “ทุกอย่างตามที่คุณต้องการครับ...”ชายหนุ่มบอกเสียงเบา ก่อนจะเอื่อมมือออกไปช้อนร่างเล็กขึ้นมา ก่อนที่เขาจะพุ่งตัวไปข้างหน้าเพื่อตรงไปยังที่พักของเขาแทน

    *



    *



    *



    ฮันกยองเอื่อมมือขึ้นมาขยี่หัวตัวเองอย่างอารมณ์เสียสุดๆ เมื่อคืนฮยอกแจไม่กลับบ้าน!!!! นั่นยังไม่เท่าไร...แต่นี้มันเที่ยงของอีกวันหนึ่งแล้วก็ยังไม่เห็นวี่แววว่าจะกลับมาเลยด้วยซ้ำ หายไปกับไอ้แวมไพร์นั่นทั้งคืน ไม่รู้เป็นยังไงบ้าง นี้จะงอนอะไรเขากันนักกันหนา แล้วถ้าแบบนี้ฮยอกแจไม่กลับมาอีกแล้วละ


    “พี่ฮ่ะ ผมทำกับข้าวเสร็ลแล้ว กินอะไรซักหน่อยเถอะฮ่ะ”ซองมินเรียกคนตัวสูงขึ้นมา นั่นทำให้ฮันกยองหันมามองคนตัวเล็กที่ยืนมองเขาอย่างเป็นห่วง


    “พี่ยังไม่หิว”ร่างสูงบอกเครียดๆ ดีนะที่วันนี้เขาไม่มีเรียน ไม่งั้นเขาคงประสาทตายแน่ๆ ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด เจ้าบ้านั่นเป็นใครกัน? แถมแสดงท่าทางสนิทสนมกับฮยอกแจซะขนาดนั่นอีก โถ่เว้ยยยย!!!!! นี่ตั้งแต่รู้จักกับอยอกแจมาเนี่ย รู้สึกเหมือนเขาจะเถื่อนขึ้นเยอะ จนจะกลายเป็นหนุ่ม S จริงๆหรือเปล่าก็ไม่รู้ หน่อย...ไอ้แวมไพร์ตัวเล็กนั่น


    “งั้นเอ่อ...ผมขอรบกวนแรงพี่หน่อยได้ไหมฮ่ะ คือรบกวนพี่ไปช่วยตัดกิ่งไม้หลังบ้านให้หน่อย พอดีผมปีนต้นไม้ไม่เป็น จะตัดก็ไม่ได้นะสิครับ”ซองมินพูดขึ้นมาอีก เพราะอยากจะให้ร่างสูงใจเย็นลงบ้าง หรืออย่างน้อยๆก็มีอะไรทำ นั่นทำให้ฮันกยองหันมามองซองมินอีกครั้ง


    “ได้สิ..ฉันทำให้”


    ฮันกยองรีบเด้งตัวขึ้นมาจากโซฟาทันทีเมื่อได้ยินเสียงประตูเปิดออกมา เพราะนี้มันก็เป็นเวลาทุ่มกว่าแล้วด้วย ฮันกยองมองชายหนุ่ม2คนที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี ดวงตาคมมองร่างเล็กที่เกาะแขนของคนชื่อคังอินอย่างเคืองๆ ก่อนที่เขาจะรีบเดินเข้าไปหาทั้ง2คนทันที


    “หายไปไหนกันมาทั้งคืน  แล้วยังทั้งวันอีก!”ร่างสูงพูดเสียงแข็ง ทำให้ฮยอกแจเบ่ปากใส่อย่างกวนๆ


    “ไม่ต้องมายุ่ง!!”ร่างเล็กขู่ออกมา “คังอินเข้ามาสิ”


    “ใครอนุญาตให้เข้าบ้านฉันไม่ทราบ ฉันไม่รับคนแปลกหน้า”ฮันกยองบอกเสียงแข็ง


    “เข้ามาเดียวนี้ คังอิน!!”ร่างเล็กบอกเสียงดัง พลางจ้องใบหน้าคมของคนที่อยู่ตรงหน้า


    “เข้าไม่ได้ครับ คุณคนนั่นยังไม่เชิญผมเข้าบ้าน..”คังอินพูดพลางยิ้มแห้งๆ ทำไงได้ละ ก็มันเป็นกฎของแวมไพร์นิ


    “ฮันกยอง เชิญคังอินเข้าบ้านเดียวนี้”


    “ไม่..”


    “นายกล้าดียังไงทำเสียงแบบนั่น บ้านนี้ฉันก็อุสาหาให้นายได้ซุกหัวนอนน่ะ ทำไมแค่นี้ถึงต้องมีปัญหาด้วย”


    “ก็ใครกันละที่อยู่ดีๆก็หายไปโดยไม่บอกอะไรซักคำ จู่ๆก็หายไปกับใครที่ไหนไม่รู้ คิดว่าทำแบบนี้ได้ที่ไหนกันละ”ฮันกยองโต้กลับ

    “คังอินไม่ไช่ใครที่ไหนซักหน่อย! ก็นายนั่นและกวนประสาทฉัน แถมยังเอาเครื่องเงินมาขู่กันแบบนั่นอีก นายคิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรคนแบบนายหรือไง”


    “ฉันไม่ได้เอาเครื่องเงินมาขู่นายซักหน่อยนึง ทำไมนายถึงไม่เคยฟังคนอื่นบ้าง ไม่คิดหรือไงว่าคนเขาเป้นห่วงนายขนาดไหน แล้วยังจะเรื่องตอนนั่น....”

    *


    *


    *

    “ชาครับ”ซองมินยื่นแก้วน้ำชาให้คนที่ยืนอย่างสงบเรียบร้อยไม่มีปากเสียงอยู่หน้าประตูบ้าน ซึ่งคังอินก็รับมันมาถือไว้อย่างเป็นมารยาท ก่อนที่ทั้งคู่จะเงยหน้ามองดูชายหนุ่มทั้ง2คนที่ยังเถียงกันไม่เสร็จ และคาดว่าคงจะอีกนานมาก


    “คุณเป็นเพื่อนกับคุณฮยอกแจหรือครับ”ซองมินหันมาชวนคุยนิดๆ ทำให้คังอินพยักหน้า


    “ครับ เป็นเอ่อ...จะว่าเพื่อนก็ได้ครับ เป็นเพื่อนแวมไพร์เหมือนกัน”คังอินบอกยิ้มๆ


    “เอ๋?? งั้นคุณก็ดื่มชาไม่ได้สิ ขอโทษครับผม..”


    “ดื่มได้ครับ...ผมแข็งแรงพอจะทานอาหารแบบมนุษย์ได้ ว่าแต่คุณเป็นแฟรี่ใช่ไหมครับ? ผมพึ่งเคยเห็นตัวจริง ดูเหมือนมนุษย์ธรรมดามากเลย”คังอินบอกพลางจิบชานิดๆ


    “ขอบคุณครับ เอาเก้าอี้ไหมครับ เดียว2คนนั่นคุยกันเสร็จคุณฮันกยองก็คงจะเชิญคุณเข้ามาเอง”ซองมินบอกพลางยิ้มแห้งๆให้คังอิน นั่นทำให้ชายหนุ่มยิ้มให้คนตรงหน้า


    “นั่งพื้นได้ครับ คุณจะรังเกียจไหมถ้าจะอยู่คุยเป็นเพื่อนผมก่อน”ชายหนุ่มว่า


    “แน่นอนครับ”

    *



    *



    *

    “....ฉันไม่อยากจะเถียงกับไอ้มนุษย์พิการๆ ผิดปกติแบบนายแล้ว!! ดีแต่กวนโมโหฉัน”

    “พิการ! แค่นายมันไม่เก่งพอจะสะกดจิตฉันได้ต่างหากล่ะ เพราะแบบนี้ไงฉันถึงต้องคอยดูแลนาย”ร่างสูงว่า

    “ใครกันแน่ที่ดูแลใคร ก็เพราะนายมันซื่อบื่อ งี่เง่า ตามใครไม่ทัน!! ไอ้คนหัวโบราณ!!”ร่างเล็กบอกอีก

    “หัวโบราณ!! งั้นนายก็นิสัยเด็กอมมือ ชอบทำให้คนอื่นเข้าเป็นห่วงนั่นและ ฮยอกแจ!

    “ใครเป็นเด็กไม่ทราบ! รู้ไหม ถ้าครั้งนั่นฉันไม่ช่วยนาย...”

    *



    *



    *



    “อ่า ดูสิ ผมแพ้อีกแล้ว”ซองมินพูดขึ้นมาเซงๆก่อนจะวางไพ่ในมือตัวเองลง นั่นทำให้คังอินยิ้มออกมา ตอนนี้เขาทั้งคู่กำลังนั่งเล่นไพ่กันอยู่บนพื้นหน้าประตูบ้าน เพื่อรอคน2คนที่ยังเถียงกันไม่เสร็จแม้จะผ่านมาเกือบๆ15นาทีแล้วก็ตาม


    “เอาไหมอีกตาไหมซองมิน”คังอินพูดขึ้นมายิ้มๆ นั่นทำให้ซองมินเด้งตัวขึ้นมานั่งดีๆ


    “ครั้งนี้ผมไม่พลาดแน่ค่อยดูเถอะ”

    *



    *



    *



    “...งั้นก็พูดมาสิว่านายไม่ได้คิดอะไรกับไอ้ผู้ชายคนนั่น”ร่างสูงพูดขึ้นมาเสียงดัง

    “ถึงฉันคิดแล้วทำไมจะต้องรายงานนายด้วย เป็นแฟนฉันหรือไงไม่ทราบ”ร่างเล็กขู่เสียงดัง เมื่อหัวข้อการสนธนานั่นกลับมาที่เรื่องของคังอินอีกรอบ

    “อ้อ!! ไหนตอนแรกใครมันบอกว่าเป็นแฟนกับฉัน ฉันรู้หรอกว่านายนะชอบฉัน”

    “ไม่ชอบเว้ยยยยย!!!!!!! อย่ามาทำตัวเหมือนจะหึงหน่อยเลยน่ะ ไอ้งี่เง่า”

    “ใช่ ฉันหึง!! ห่วงด้วย ก็คนมันไม่ชอบที่นายไปที่แบบนั่นกับใครก็ไม่รู้”ร่างสูงพูดขึ้นมาอีก


    “เพ้อเจ้ออะไรของนาย ไอ้บ้า ไอ้หื่นกาม ไอ้งี่เง่า ไอ้...”

    *




    *




    *


    “สวัสดีอีกครั้งอย่างเป็นทางการนะครับ คุณฮันกยอง”คังอินก้มหัวทักคนตัวสูงอย่างเป็นมารยาท เมื่อในที่สุดหลังจากที่เขาต้องนั่งเล่นไพ่กับซองมินคาประตูบ้านเกือบ20นาทีกว่าๆ ฮันกยองก็ยอมเชิญเขาเข้าบ้าน แม้ว่าตอนนี้สายตาคมของฮันกยองจะไม่เป็นมิตรเลยก็ตาม แต่ดูแล้วไม่เป็นมิตรกับฮยอกแจที่นั่งอยู่ข้างๆเขาเสียมากกว่า


    “พวกนายเป็นอะไรกัน”ร่างสูงถามขึ้นมาเสียงแข็ง นั่นทำให้ฮยอกแจและคังอินหันไปมองหน้ากันอย่างมีความหมาย ก่อนที่คนตัวเล็กของเขาจะก้มหน้าลงไปอย่างอายๆ นี่มันบ้าอะไรเนี่ย ท่าทางแบบนี้


    “คือ พวกเรา..”






    ***************************************


    55555555 เหนื่อยค่ะ 


    ปล. คือเค้าก็เล่นเกมไปเรื่อยค่ะ แบบเกมนี้พอเวลตันแล้วก็เลิกเล่น


    หาเกมใหม่ บางครั้งที่หายไปเลยก็เพราะเล่นเกมเนี่ยและ ตอนนี้เกมล่าสุดก็เวลตันและค่ะ ว่างและ 55

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×