ต้องรักษาภาพพจน์0-0 - ต้องรักษาภาพพจน์0-0 นิยาย ต้องรักษาภาพพจน์0-0 : Dek-D.com - Writer

    ต้องรักษาภาพพจน์0-0

    เหลืออีกสองอาทิตย์กับอีกหนึ่งวันก็จะครบกำหนดกลับเชียงใหม่ เช้าวันนี้มิวเดินออกจากร้านด้วยท่าทีหงอยๆ แล้วเธอก็เลือกไปนั่งที่ร้านกาแฟร้านเดิมเหมือนเคย สวัสดีครับ

    ผู้เข้าชมรวม

    548

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    548

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    3
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  19 ก.ค. 52 / 16:20 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    เหลืออีกสองอาทิตย์กับอีกหนึ่งวันก็จะครบกำหนดกลับเชียงใหม่

    เช้าวันนี้มิวเดินออกจากร้านด้วยท่าทีหงอยๆ แล้วเธอก็เลือกไปนั่งที่ร้านกาแฟร้านเดิมเหมือนเคย

    สวัสดีครับ ท่าทีเงื่องหงอยเมื่อครู่เปลี่ยนไปในทันทีเมื่อได้ยินเสียง

    เธอยิ้มแฉ่ง..

    สวัสดีค่ะ

    นั่งด้วยคนได้ไหมครับ

    ค่ะ เธอรับคำ

    แต่พอนึกได้ว่าสภาพตัวเองวันนี้ดูไม่จืด เธอก็หุบยิ้มแล้วหันไปสำรวจตัวเองในกระจกหน้าร้านกาแฟ

    หญิงสาวหันไปหาชายหนุ่มบอกขอตัวสักครู่ แล้วก็วิ่งจู๊ดไปทางห้องน้ำ

    เธอเข้าไปจัดเสื้อ หวีผมหน้ากระจกเงา แต่มันก็ไม่ได้แตกต่างจากก่อนเข้าห้องน้ำสักเท่าไหร่นัก

    พอออกมาก็เห็นเขายืนรออยู่หน้าเคาท์เตอร์

    เขาให้เธอเลือกโต๊ะนั่ง

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      เหลืออีกสองอาทิตย์กับอีกหนึ่งวันก็จะครบกำหนดกลับเชียงใหม่

      เช้าวันนี้มิวเดินออกจากร้านด้วยท่าทีหงอยๆ แล้วเธอก็เลือกไปนั่งที่ร้านกาแฟร้านเดิมเหมือนเคย

      สวัสดีครับ ท่าทีเงื่องหงอยเมื่อครู่เปลี่ยนไปในทันทีเมื่อได้ยินเสียง

      เธอยิ้มแฉ่ง..

      สวัสดีค่ะ

      นั่งด้วยคนได้ไหมครับ

      ค่ะเธอรับคำ

      แต่พอนึกได้ว่าสภาพตัวเองวันนี้ดูไม่จืด เธอก็หุบยิ้มแล้วหันไปสำรวจตัวเองในกระจกหน้าร้านกาแฟ

      หญิงสาวหันไปหาชายหนุ่มบอกขอตัวสักครู่ แล้วก็วิ่งจู๊ดไปทางห้องน้ำ

      เธอเข้าไปจัดเสื้อ หวีผมหน้ากระจกเงา แต่มันก็ไม่ได้แตกต่างจากก่อนเข้าห้องน้ำสักเท่าไหร่นัก

      พอออกมาก็เห็นเขายืนรออยู่หน้าเคาท์เตอร์

      เขาให้เธอเลือกโต๊ะนั่ง

      ตรงไหนก็ได้ค่ะ คุณเลือกก่อนเลย

      ไม่เป็นไรครับ คุณเลือกเถอะ

      สองคนเกี่ยงกันสักครู่หนึ่ง

      งั้นตรงนี้ก็ได้ค่ะ/ครับแล้วทั้งคู่ก็พูดขึ้นมาพร้อมกัน

      หญิงสาวชี้ไปตรงโต๊ะที่ตั้งใกล้ริมหาด โต๊ะเดิมที่เธอนั่งเมื่อวันแรก ชายหนุ่มเองก็โบ้ยใบ้ไปทิศเดียวกัน

      เธอกับเขาหัวเราะ แล้วคริสก็เดินนำไปเลื่อนเก้าอี้ให้เธอนั่ง

      คุณทานอาหารที่นี่เป็นประจำเหรอครับ คริสเริ่มบทสนทนา

      ค่ะ คุณล่ะคะ

      ครับ ที่นี่สะดวกดี สำหรับผม

      จริงด้วย คุณพักที่โรงแรมนี้นี่คะ

      หญิงสาวพูดทั้งๆที่จำได้ขึ้นใจว่าเขาพักอยู่ที่นี่

      คุยกันตั้งหลายวันแล้ว คุณบอกว่ามาทำงานที่นี่ใช่ไหมคะ

      มิวพยายามหาทางถามเกี่ยวกับงานของเขาตามที่เพื่อนๆบอกเอาไว้

      ใช่ครับ ตอนแรกผมมีกำหนดการอยู่ที่นี่หนึ่งเดือน แต่ตอนนี้อาจจะเปลี่ยนแปลงเวลานิดหน่อยครับ

      อ้อ คุณชอบอ่านหนังสือใช่ไหมครับ

      ค่ะเธอตอบพลางคิดในใจ

      แหม เปลี่ยนหัวข้อเลยนะ เอาเถอะ ยังมีโอกาสถามเรื่องงานของเขาอยู่ วันนี้ต้องรู้ให้ได้

      ถ้าไม่รังเกียจ ผมขอมาหาคุณเป็นบางครั้งได้ไหม ผมเพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้ไม่กี่วัน ยังไม่มีเพื่อนเลยครับ

      มิวดีใจจนลืมเรื่องที่จะสืบเรื่องงานของคริสไปจนหมด

      ขอโทษครับเขาเรียกซ้ำ เมื่อเห็นเธอนิ่งไปราวๆสิบวินาที สีหน้าเขาดูกังวลเหมือนกลัวว่าพูดอะไรผิดไป

      คะหญิงสาวได้สติคืนมา

      อ้อ ได้ค่ะๆเธอรีบรับคำ

      แล้วเมื่อวานคุณได้ไปเที่ยวที่ไหนมาบ้างรึเปล่าคะ

      สองวันที่ผ่านมา หญิงสาวชอบชะโงกหน้าไปมองทางโรงแรมบ่อยๆ นอกเหนือจากนี้เธอก็ไปทานอาหารที่ร้านเดิมทุกวันด้วย ทั้งยังอุตส่าห์ลงทุนวิ่งไปซื้อขนมปังมากินกลางวันที่ร้านอีก แต่ก็ไม่พบเขา

      พอถามไปแล้วเธอก็มานึกขึ้นได้ว่าคำถามของเธอดูแปลกๆไปหน่อย

      เหมือนจะซักว่าเขาหายไปไหนยังงั้นแหละ โธ่

      ต้องรักษาภาพพจน์

      เมื่อวานผมอยู่ที่หาดใหญ่ครับ เขาตอบด้วยน้ำเสียงสบายๆ ดูไม่คิดอะไรกับคำถามของเธอมากนัก

      มีระเบิดเมื่อสองวันก่อนนี่คะ

      ครับ วุ่นวายมากเลย โชคดีที่ไม่มีคนเสียชีวิต

      พนักงานเสริฟยกอาหารมาวาง

      วันนี้ทั้งสองคนเลือกเมนูเดิมเหมือนวันแรก หญิงสาวสั่งอาหารก่อน แล้วชายหนุ่มก็บอกต่อว่าขอสองชุด

      เขาหันหน้ามาบอกเธอว่ามันง่ายดี

      ว่าแต่วันนี้คุณมีแผนการจะไปเที่ยวที่ไหนรึเปล่าครับ ผมขอติดรถไปด้วยคนนะ

      ได้สิคะ แต่ฉันปิดร้านหกโมงเย็นนะคะ คุณรอไหวไหมล่ะ

      ดีครับ ผมก็ชอบบรรยากาศตอนเย็น พูดเสร็จเขาก็อธิษฐานก่อนทานข้าวเหมือนกับทุกครั้ง

      หลังมื้อเช้า หญิงสาวกลับไปเปิดร้าน คริสก็ขอตัวกลับไปทำงานต่อในโรงแรม

      วันนี้ลูกค้าร้านลดาฟาร์มาซีจะพบว่า เภสัชกรยิ้มแย้มแจ่มใสแถมแต่งตัวสวยเป็นพิเศษ หญิงสาวเปลี่ยนชุดที่สวมใส่เมื่อเช้า จากเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงผ้าสีน้ำตาลมาเป็นเดรสสีม่วงไลแลคสดใส คลุมทับด้วยเสื้อกาวน์ตัวใหม่สุดที่เธอนำติดมาด้วย

      พอเที่ยงคริสก็แวะมาหามิวที่ร้าน

      พร้อมกับถุงขนมปังและกาแฟจากร้านเดิม

      หญิงสาวรีบผละจากจอคอมพิวเตอร์มาหาเก้าอี้ให้เขานั่ง

      ร้านน่ารักดีครับ จัดเป็นระเบียบเรียบร้อยดีเขามองไปรอบๆ

      ผมมีหนังสือจะให้คุณด้วยนะ ชายหนุ่มหยิบหนังสือจากถุงขนมปังส่งให้เธอ

      เล่มที่คุณหยิบในร้านกาแฟวันนั้น ไม่รู้คุณอ่านจบรึยัง

      ยังค่ะ วันนั้นฉันแค่อ่านบทนำเฉยๆมิวรับหนังสือไว้

      แต่หน้าปกหนังสือเล่มนั้นต่างจากเล่มที่ร้านกาแฟ เล่มนี้หน้าปกสีแดงสด ตัวอักษรสีทองบนปกเขียนไว้ว่า

      ณ ราตรีกาล

       เธอสำรวจหนังสือ เปิดดูปกใน

      พิมพ์ครั้งที่หนึ่ง ผู้แต่ง Anonymous

      ขอบคุณค่ะ

      ต่างกันแค่ปกเท่านั้นครับ แต่เนื้อหาข้างในเหมือนกัน ฉบับนี้พิมพ์ครั้งที่หนึ่ง ส่วนที่ร้านนั่นเป็นฉบับพิมพ์ครั้งที่สองครับชายหนุ่มพูดในขณะที่เธอพลิกหนังสือไปมา

      แสดงว่าคุณคงชอบอ่านหนังสือเล่มนี้สินะคะ

      ก็ไม่เชิงครับ ผมหวังว่าคุณคงชอบเหมือนกัน คริสอมยิ้ม

      ฝากดูหน้าร้านสักครู่นะคะ

      หญิงสาวลุกเข้าไปหยิบจานในร้าน หานมข้นหวานในตู้เย็น เธอไม่ลืมที่จะหยิบเนยติดมือมาด้วย

      จากนั้นเธอก็หยิบขนมปังวางเรียงลงบนจาน

      เรียบร้อยค่ะ ทานได้เลยเธอพูดพร้อมกับปาดเนยก้อนโตบนขนมปังจนทั่ว ทานมข้นหวาน เอาขนมปังอีกแผ่นปิดทับ แล้วใช้สองมือหยิบขนมปัง

      คริสหัวเราะ

      จะสร้างบ้านเหรอครับ

      หญิงสาวทำหน้างง

      เห็นคุณปาดเนยลงบนขนมปังซะหนาเตอะเลยน่ะครับ

      ในมือเธอถือขนมปังค้างเอาไว้อยู่ในท่าเตรียมกัด

      เหมือนฉาบคอนกรีตลงบนอิฐเพื่อก่อบ้านไงครับเขาอธิบายต่อเมื่อเห็นเธอยังทำหน้าสงสัย

      อ๋อ เข้าใจแล้วค่ะ ก็ฉันชอบทานเนยนี่คะ

      ในใจก็นึกว่า ทาเนยบนขนมปัง มันแปลกตรงไหนหว่า...

      แต่ปริมาณเนยที่เธอปาดบนขนมปังแผ่นหนึ่งนั้น ราวๆไข่นกกระทาใบย่อมได้

      เป็นผู้หญิงต้องรักษาภาพพจน์จ้ะ ... แล้วข้อความนี้ก็ลอยเข้ามาในสมอง..

      แต่มันสายไปแล้วมั้ง... เธอตอบกลับโดยอัตโนมัติ

      เธอกำลังลังเลว่าจะกลับเข้าไปในครัวเพื่อเอามีดกับส้อมมาตัดขนม ปังทานดีรึเปล่า

      แต่มันคงประหลาดชอบกลถ้าทำแบบนั้น

      คุณตลกดีนะ คริสพูดต่อ

      เฮ่อ คงรักษาภาพพจน์ไม่ไหวค่ะเธอลืมตัว หลุดปากพูดในสิ่งที่กำลังคิดอยู่

      ภาพพจน์อะไรเหรอครับ เขาย้อนถาม

      ไม่มีอะไรหรอกค่ะ คือ เพื่อนฉันเคยบอกว่า เกิดเป็นผู้หญิงต้องรักษาภาพพจน์ ต้องทำตัวให้สวยเข้าไว้

      ผมว่า ปล่อยไปตามธรรมชาติดีกว่าครับ สร้างภาพมากไปก็ไม่ดี เขายิ้มกว้างพร้อมกับส่ายหัว

      ยิ่งสาวๆสมัยนี้ แต่งหน้าแต่งตัวยังกับถอดพิมพ์กันมา

      ผมชอบผู้หญิงไทยนะครับ คุณพ่อก็เหมือนกัน

      พอเขาพูดถึงตรงนี้ หัวใจเธอก็พองโต

      เขาอยากจะบอกอะไรเรารึเปล่านะ

      ผู้หญิงที่จอร์แดนสวยมากครับ แต่พวกเธอแต่งหน้าค่อนข้างจัดไปหน่อย

      แม่ผมเคยเล่าให้ฟังว่า สาวๆที่นั่นใช้ปากกาดำเขียนขอบปากด้วยครับ

      มิวพยักหน้าหงึกหงัก ปากเคี้ยวขนมปังหยับๆ ฟังเขาเล่าไปเรื่อยๆ

      ปากกาดำที่ใช้เขียนหนังสือน่ะเหรอคะ

      ครับ คุณแม่ผมเป็นคนไทยครับ ทุกปีเราจะกลับไปเยี่ยมย่าที่จอร์แดน คุณแม่ชอบเล่าเรื่องสังคมของผู้หญิงให้ผมฟังเสมอครับ

      ผมได้รู้อะไรสนุกๆก็จากคุณแม่ครับ

      มิวฟังเขาเล่าอะไรอีกหลายอย่าง พอเขาพูดมาถึงท่อนที่ว่า

      แต่ผู้หญิงก็ต้องดูแลตัวเองครับ อย่าปล่อยให้โทรม

      เธอก็สะอึก สำลักกาแฟ ชายหนุ่มตกใจ รีบหาทิชชูมาให้เธอ แล้วถามว่าเป็นยังไงบ้าง

      หลังจากนั้นคริสก็อธิษฐานแล้วก็ลงมือทานขนมปังบ้าง

      ขนาดเวลากินเขายังดูดีเลย..เธอนึกในใจพลางจ้องเขาอย่างลืมตัว

      ทำไมแตกต่างจากเราขนาดนี้นะ เฮ้อ... เป็นผู้ชายแท้ๆ

      ข้อเสียของเธอคือมักจะมองตัวเองในแง่ลบเสมอ

      พอเขาทานไปได้ระยะหนึ่ง จู่ๆเสียงโทรศัพท์คริสก็ดัง.. เขารับโทรศัพท์

      ขอตัวก่อนนะครับ เขาหันมาบอกเธอ แล้วก็เดินออกไปนอกร้าน

      เธอได้ยินเขาพูดภาษาที่ไม่รู้จัก

      สักพักคริสก็กลับเข้ามาในร้านยา

      ภาษาอะไรเหรอคะ

      ภาษาอาหรับครับ เดี๋ยวผมคงต้องรีบกลับก่อนนะครับ ปกติคุณทานอาหารกลางวันที่ไหนครับ

      ฉันไม่ทานค่ะ ขี้เกียจปิดร้านค่ะ รอทานตอนเย็นเลย

      เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่า มันเป็นความเคยชินที่จะไม่ออกไปไหนในตอนกลางวันของเธอมากกว่า

      เพราะตอนอยู่เชียงใหม่แรกๆเธอจะต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทานเป็นอ าหารมื้อเที่ยง

      แต่หลังจากเธอรู้จักกับเมฆ เขาก็รับหน้าที่อาสามาส่งอาหารกลางวันที่ร้านให้เธอเป็นประจำ จนกระทั่งเขาหายหน้าไป เธอก็เริ่มอดอาหารกลางวันราวๆสองอาทิตย์ด้วยอาการตรอมใจ อย่างไรก็ดี เขาโผล่หน้ามาให้เธอเห็นบ้างสองสามครั้งในระหว่างนั้นพร้อมกับค ำหวานๆ เหมือนกับจะย้ำว่า อย่าลืมผมซะอย่างนั้น

      มิน่า วันนั้นท้องคุณร้องซะดังเชียว แล้วเขาก็ยิ้มอีก

      มิวยิ้มตอบเก้อๆ

      เธอชอบมองเวลาเขายิ้ม

      เขายิ้มกว้างดูจริงใจ เห็นฟันสวยเรียงเป็นระเบียบ เขาไม่เพียงแต่ยิ้มเฉพาะใบหน้าเท่านั้น ทว่าแววตาของเขาก็ยิ้มด้วย หญิงสาวรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ

      คริสถามเธอว่าอิ่มหรือยัง พอเธอบอกว่าอิ่มแล้ว เขาก็กุลีกุจอช่วยเธอเก็บกวาด เธอบอกเขาว่าไม่ต้อง เดี๋ยวเธอจัดการเอง รีบกลับไปทำธุระเถอะ แต่เขาก็ไม่ยอม

      ไม่ถึงห้านาทีหรอกครับ ผมช่วยคุณดีกว่า คุณไปขายยาเถอะครับเขาพดูพร้อมกับหันหน้าไปทางประตู

      มีลูกค้าเดินเข้ามาพอดี

      หลังจากนั้นลูกค้าก็ถามหา massage oil มิวรีบไปแนะนำสินค้า

      “Excuse me … how much is this again ?” ลูกค้าชาวต่างชาติถาม พร้อมกับยื่นเงินทอนคืนให้เธอ

      หญิงสาวนับเงินทอนซ้ำอีกครั้ง ปรากฎว่าเธอทอนเงินเกินไปหนึ่งร้อยบาท...เพราะมัวแต่ใจลอยมองไป ทางคริสเป็นระยะๆ

      เธอขอโทษลูกค้าที่ทอนเงินผิด แล้วก็ขอบคุณลูกค้าเป็นการใหญ่...

      คริสเก็บขยะทิ้งเสร็จแล้วเขาก็ยืนรอเธอจนกระทั่งลูกค้าไป

      แล้วเจอกันตอนเย็นค่ะ

      ครับ ขอให้ขายดีนะครับ

      จู่ๆเธอนึกถึงข้อความในห้องสนทนาได้เห็นไหม บอกแล้ว ว่าเบอร์โทรศัพท์สำคัญ

      เดี๋ยวค่ะ หญิงสาวเรียกเขาไว้

      เอ้อ... เธออยากจะขอเบอร์โทรศัพท์เขา แต่ก็ยังกลัวๆกล้าๆ

      ประโยคในบทสนทนาท่อนต่อไปลอยเข้ามาในสมอง

      เวลาสืบแกล้งถามโน่นนี่ไป แต่ถ้าถามแบบเจาะจงเขาจะรู้ตัว แบบนั้นไม่งามจ้ะ

      คือ  ฉันจะติดต่อคุณได้ยังไงคะ เผื่อตอนเย็นฉันมีธุระค่ะ จะได้บอกคุณก่อน

      เดี๋ยวตอนเย็นผมแวะมาที่ร้านครับ ถึงคุณไม่อยู่ก็ไม่เป็นไรครับ โรงแรมอยู่ใกล้ๆนี่เอง บายครับ

      คริสผลักประตูกระจกออกไป

      เธอยิ้มแห้งๆ รู้สึกประหม่า จะขอเบอร์โทรศัพท์ก็ยังล้มเหลวเลย

      มิวถอนหายใจ

      ผมอยู่ห้อง303 ครับ ถ้ามีอะไรฝากข้อความไว้ที่เคาท์เตอร์ได้ เขาผลักประตูกระจกยื่นหน้าเข้ามาบอกเธอ

      ตั้งใจทำงานนะครับ อย่าทอนเงินผิดอีกล่ะ แล้วเจอกันตอนเย็นครับ

      บ่ายแก่ๆในห้องสนทนา..

      สายลมที่หวังดี    เราถามเขาว่าจะติดต่อเขาได้ยังไงค่ะ แต่เขาบอกว่าไม่เป็นไร

                                เดี๋ยวเขาจะแวะมาที่ร้านเองค่ะ

      แมลงหวี่                           แต่เค้ามีโทรศัพท์ใช่ไหมคะ

      ฉันสวยรวยเริ่ด   เอ ทำไมไม่ให้เบอร์โทรศัพท์นะ ถ้าเป็นพี่นะ มีหนุ่มๆที่ถูกใจถามแบบนี้

                                จะรีบแจกให้ทันที

      Ayumi                  ใครจะไวไฟเหมือนพี่ล่ะคะ

                                บางทีเค้าอาจจะมีกิ๊กหลายคนก็ได้นะคะ

      แมลงหวี่                           อาจจะไม่ได้คิดจริงจังกับพี่สายลมก็ได้นะ

                                แต่ถ้ามองในแง่ดีเค้าอาจจะเป็นคนที่โลกส่วนตัวสูงก็ได้ค่ะ

      สายลมที่หวังดี    ...

      แต่ละคนช่างให้กำลังใจเธอดีเหลือเกิน...

      จิ้งจอกสาว         แล้วรู้อะไรเกี่ยวกับเขาอีกบ้างล่ะจ๊ะ

      สายลมที่หวังดี    เขาชอบทานเค้กเหมือนเรา ชอบอ่านหนังสือ พูดภาษาอาหรับได้ เท่านี้ล่ะค่ะ

      ฉันสวยรวยเริ่ด   อืม ก็คุยๆกันไปก่อนละกันนะ

      Ayumi                  ว่าแต่ช่วงนี้ไม่เห็นพี่ไม่สวยออนเลย ปกติออนประจำนี่คะ

      ฉันสวยรวยเริ่ด   เห็นวันก่อนบอกว่าเช่าหนังสือมาเยอะน่ะ กำลังติดนิยาย

      โย กำลังอ่านหนังสืออยู่ที่ร้านยาอยู่จริงๆ ตอนนี้เธอกำลังอ่าน เพชรพระอุมาเล่มที่สามอยู่

      ถ้าหากต้องอ่านหนังสือทั้งหมดของมิว โยคงต้องอยู่ต่อที่เชียงใหม่อีกราวๆครึ่งปี

      เธอเองก็ชอบอ่านหนังสือเหมือนกัน แต่ไม่ขยันซื้อเก็บเท่ากับมิว

      หญิงสาวเปลี่ยนจากการออนไลน์ในยามว่าง เป็นการตะลุยอ่านหนังสือแทน

      สักพักเธอก็รู้สึกหิว ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายแล้ว ลูกค้าเริ่มบางตา

                       โยเข้าไปต้มบะหมี่สำเร็จรูปแล้วยกออกมาทานหน้าร้าน ตั้งใจว่าก่อนกลับจะซื้ออะไรสักอย่างให้กับมิว เป็นการขอบคุณที่เตรียมอาหารแห้งไว้สำหรับเธอ เพราะแถวๆร้านยาของมิว ไม่มีร้านอาหารเลย ข้างๆร้านยาเป็นอู่รถ ฝั่งตรงข้ามเป็นสะพานเหล็ก ฟากที่เป็นสะพานมีเพียงร้านชำเล็กๆสองสามร้าน นอกนั้นก็เป็นบ้านเรือนที่อยู่อาศัยซะมากกว่า

                       มิวบอกเธอว่า ถ้าออกจากร้านแล้วเดินเลียบแม่น้ำไปทางทิศใต้ราวๆสิบนาทีจะเจอซ ุปเปอร์มาเก็ตที่ใกล้ที่สุด สามารถเดินไปหาซื้ออะไรตรงนั้นได้

      และจากถนนเส้นนี้หากขับรถตรงไปเรื่อยๆยังไปทะลุสนามบินได้อีก แต่อย่าเดินตอนกลางคืน เพราะว่ามืดมาก (ส่วนนี้เป็นส่วนที่มิวบอกโยเพิ่มเติมหลังจากรู้ว่าโยเดินไปในซ อยแคบๆคนเดียวแล้วโดนวิ่งราว)

      แต่ถ้าเดินเลียบแม่น้ำไปทางทิศเหนือแล้วเลี้ยวซ้ายก็จะเป็นตลาด สด ที่ๆเธอเจอกับเอกนั่นแหละ

      เธอไม่อยากปิดร้านตอนกลางวันเช่นกัน เพราะไม่สะดวก กว่าจะเดินไปกลับจากตลาด แล้วทานเสร็จก็ร่วมชั่วโมง แถมเสียโอกาสเวลาที่ลูกค้ามาซื้อยาแล้วเจอร้านปิดอีก

      ปกติเวลาอยู่ที่เกาะช้าง โยจะโทรศัพท์ไปสั่งอาหารตามสั่ง หรือไม่ก็ให้โรงแรมตรงข้าม นำอาหารมาส่งที่ร้าน

      นี่แหละนะ เกิดเป็นเภสัชเฝ้าร้านต้องอดทน...

      ถ้าไม่เพราะทางบ้านอยากให้เธอเรียนเภสัชละก็ ป่านนี้เธอก็คงเป็นช่างภาพเหมือนกับเอกไปแล้ว

      พอทานบะหมี่สำเร็จรูปเสร็จแล้ว โยก็โทรศัพท์กลับไปหามิว

      เป็นยังไงบ้าง มิวทานข้าวกลางวันรึยัง

      เรียบร้อยจ้า  กินขนมปังแล้ว แต่พักหลังๆเราไม่ค่อยทานมื้อกลางวันหรอกน่ะ มักรอปิดร้านแล้วทานตอนเย็นเลย

      เดี๋ยวก็เป็นโรคกระเพาะหรอก

      เราชินแล้วโย สมัยอยู่ร้านแรกๆเรากินมาม่าทั้งปีเลยเบื่อน่ะ ตอนนี้เรากินยาลดกรดแทนมื้อกลางวันแล้วล่ะ

      เดี๋ยวเถอะ.. มาล้อเล่นอีก รู้งี้ไม่โทรมาก็ดี เราลืมบอกมิวไปว่า ถ้าขี้เกียจออกไปหากินข้างนอก โทรไปสั่งให้ร้านมาส่งได้นะ เบอร์โทรศัพท์ก็อยู่ในกระดาษที่เราเขียนไว้ให้ตรงหัวเตียงนั่นล ่ะ

      สองสาวคุยกันสักพัก มิวก็ขอตัววางสายไปก่อน เพราะมีลูกค้ามา

      พอถึงเวลาเย็นคริสมาหามิวตามเวลาที่นัดไว้

      วันนี้ฉันขอไปดูพระอาทิตย์ตกอีกรอบนะคะเธอยังติดใจเรื่องที่พลาดตอนตะวันตกดินเมื่อวันก่อนไม่หาย

      วันนี้ฟ้าใสเหมือนวันก่อน น่าจะมองเห็นพระอาทิตย์ตกได้ชัด

      ได้เลย ครับผม ชายหนุ่มรับคำพร้อมกับทำท่าตะเบ๊ะ

      แล้วมิวก็ขับรถไปที่แหลมเหมือนเมื่อวาน วันนี้เธอใช้เวลาถอยรถออกเร็วขึ้นห้านาที อย่างไรก็ตามยังจัดได้ว่าเธอถอยรถช้าอยู่มาก และส่วนที่ใช้เวลาน้อยลงไปนั้นเป็นเพราะคริสไปช่วยโบกรถให้ต่าง หาก

      ในที่สุดเธอก็ได้ดูพระอาทิตย์ตกสมใจ

      ส่วนของแหลมไชยเชษฐ์เป็นส่วนที่ขึ้นชื่อสำหรับการชมพระอาทิตย์ม ากที่สุด โยบอกเธอว่าถ้าโชคดี วันไหนที่ฟ้าเปิด ให้แวะไปดูให้ได้

      ชมตะวันตกดินเสร็จ สองคนก็ไปทานอาหาร วันนี้มิวพกแผนที่ที่โยเขียนไว้ให้ติดตัวมาด้วย เธอลองแวะไปทานร้านที่โยแนะนำ ระหว่างทานอาหาร คริสก็หยิบอะไรบางอย่างจากกระเป๋าสตางค์ออกมา

      นี่ครับ คริสยื่นกระดาษชิ้นเล็กๆให้ ในนั้นมีตัวเลขเขียนไว้

      เบอร์โทรศัพท์ผมครับ เอาไว้ติดต่อกับคุณไง

      ผมเพิ่งไปซื้อซิมการ์ดที่ร้านสะดวกซื้อเมื่อตอนเย็นนี้เอง เพราะถ้าเป็นเบอร์ที่ผมใช้อยู่คุณคงไม่สะดวก มีหวังคุณหมดตัวกับค่าโทรศัพท์แน่ เบอร์นั่นเป็นของที่จอร์แดนครับ

      เธอยิ้มแป้น...ในที่สุดก็ได้เบอร์โทรศัพท์แล้ว

      พอทานอาหารเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวก็ขับรถกลับไปที่ร้าน ขากลับคริสเสนอตัวขับแทนเธอ (ไม่รู้ว่าเป็นเพราะการขับรถที่แสนจะหวาดเสียวของเธอหรือเปล่า) แต่เธอบอกว่าอยากจะขับเองมากกว่า เพราะ...

      จะได้ขับคล่องๆค่ะ

      เพิ่งหัดขับรถได้ไม่นานเหรอครับ

      ขับมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้วค่ะหญิงสาวตอบตามความเป็นจริง

      ชายหนุ่มทำหน้าสงสัย

      อ๋อ คือ รถคันนี้เพิ่งซื้อมาได้ไม่นานค่ะเธอรีบตอบเขา เพราะนึกขึ้นได้ว่าสิ่งที่เธอพูดฟังดูขัดกันอยู่

      เป็นรถมือสองน่ะค่ะ ฉันยังไม่ค่อยคุ้นมือหญิงสาวรีบแต่งเรื่องต่อ

      ก่อนแยกจากกันที่หน้าร้านยา เธออยากถามเรื่องงานของเขาอยู่ตะหงิดๆ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง

      ไหนจะมีเรื่องเบอร์โทรศัพท์อีก ทำไมต้องเอาโทรศัพท์ที่นั่นมาใช้ด้วย ในเมื่อเขาบอกว่าใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่เมืองไทย แต่เอาเถอะ ยกเรื่องนี้ไปก็ได้ ยังไงเธอก็มีเบอร์โทรศัพท์ของเขาแล้ว

      คุณกลับจอร์แดนบ่อยไหมคะ

      ปกติก็ปีละครั้งครับ แต่ช่วงนี้บ่อยหน่อย

      หญิงสาวหมดปัญญาที่จะโยงไปหาเรื่องงานของเขา

      ถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ

      ครับ

      เอ จะถามเขายังไงให้ดูไม่เสียมารยาทนะ

      คือ คุณทำงานอะไรเหรอคะ

      ถามตรงๆนี่แหละ ขี้เกียจคิดอะไรมากแล้ว

      คริสอมยิ้ม กลอกตาไปมา

      ความลับครับ แต่เดี๋ยวคุณก็รู้เอง

      สรุปว่า ความพยายามของมิวไม่เป็นผล นักสืบสาว ล้มเหลวไม่เป็นท่า..

      เอาอย่างนี้ ผมบอกใบ้ให้คุณนิดหนึ่งเธอตาลุกวาว

      อย่างที่ผมเคยบอกคุณนะ งานของผมมีลักษณะฟรีแลนซ์ ผมจะทำงานตามผู้ว่าจ้างอีกที

      เป็นงานที่ต้องทำอะไรซ้ำซากครับ อธิบายยังไงดีนะ คือ ผมจะต้องทำอะไรแบบเดิมๆหลายๆครั้ง หลายๆรอบ

      จนกว่าจะได้งานที่พอใจ

      แค่นี้เองเหรอคะหญิงสาวแสดงน้ำเสียงผิดหวังสุดขีด

      ตอนนี้ผมต้องเดินทางเก็บข้อมูลเขาเว้นจังหวะ

      เธอจ้องเขาตาแป๋ว

      ดูคุณสิ คิ้วผูกกันเป็นโบว์แล้วเขาหัวเราะกับท่าทีของเธอ

      เอางี้ ผมบอกเพิ่มอีกหน่อยละกันครับ

      ผมชอบทำงานตอนกลางคืนมากกว่ากลางวัน แต่บางครั้งมันก็จำเป็นที่จะต้องทำทั้งวันทั้งคืนโดยเฉพาะเวลาเ ร่งๆ

      ฉันเดาไม่ถูกค่ะ

      ถ้าคุณบอกว่ามันเกี่ยวข้องกับอะไร ฉันยังพอเดาได้บ้าง อย่างเช่น เกี่ยวกับเงิน เกี่ยวกับดารา หรืออะไรแบบนี้ค่ะเธอพูดอย่างเร็วจี๋

      จะว่าไปแล้ว เวลาใครทายปัญหาอะไร เธอเองก็ไม่เคยตอบถูกสักที

      ก็.. ผมยังไม่อยากให้คุณรู้นี่ครับเขาหันมายิ้มกว้างให้เธออีก

      ราวกับรู้ว่ารอยยิ้มของเขามีอำนาจสะกดเธอยังไงยังงั้น

      ทำไมล่ะคะ

      พอมาถึงตอนนี้ คำว่า รักษาภาพพจน์ไม่ได้อยู่ในหัวเธออีกแล้ว น่าจะเรียกว่าเธอเป็น

      แม่สาวตาแป๋ว ที่อยากรู้อยากเห็น จะเหมาะสมกว่า

      อ้อ พรุ่งนี้ผมต้องไปนอกเกาะนะครับ อีกสามวันจะกลับมาครับเขาตัดบท

      ค่ะเธอรู้สึกผิดหวังที่เขาไม่ยอมบอกอะไรให้เธอรู้สักอย่าง

      จริงๆควรจะบอกว่า เธอรู้สึกผิดหวังที่เดาไม่ถูกมากกว่า

      ฝันดีครับ

      เช่นกันค่ะ

      วันนี้มิวกลับไปที่ห้อง แล้วมองปกหนังสือที่คริสให้มา ยิ้มไปพลาง

      เธอลืมเรื่องที่ว่า ต้องรักษาภาพพจน์ ไปสนิท

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×