คุยกับ หมอบ๊อง

เนื้อเรื่อง

ทุกวันนี้ มองไปทางไหน เห็นแต่คนเครียด หน้าตาอมทุกข์ คงปฎิเศธไม่ได้ว่า การพบจิตแพทย์ได้กลายเป็นตัวเลือกหนึ่งในการ
บำบัดอาการต่างๆ ในวันนี้ เรามีนัด กับคุณหมอ บ๊อง  ลองไปคุยกับเธอดู

ทุกวันนี้ คุณหมอ ทำงานอย่างไรบ้างครับ
หมอบ๊อง : ตรวจไข้ และก็หาอะไรทำก๊อกๆแก๊กๆไปเรื่อยค่ะ  
คนส่วนใหญ่ที่มาหาคุณหมอเนี่ย มาด้วยเรื่องอะไรครับ
หมอบ๊อง : สอบ ครอบครัว และ ลูกค่ะ แต่จริงๆแล้วพวกเขาซ่อนความวิตกกังวลเอาไว้
แนวทางการรักษาของหมอคือ
1. จิตเภสัชบำบัด
2. ตบบำบัด ซึ่งมี2แบบ คือ 1. ตบบำบัดพลวัต 2. ตบบำบัดประคับประคอง
ตบบำบัดพลวัต คือ ถ้าคนไข้ยังไม่ยอมเลิกคิดมาก หมอจะ เพี๊ยะ 1ทีค่ะ ถ้ายังไม่เลิก จะตบไปเรื่อยๆเป็นพลวัตรค่ะ
ส่วนตบบำบัดแบบประคับประคอง หมอจะ ตบฉาด แล้วประคองคนไข้ให้ลุกขึ้นแล้วซ้ำค่ะ

เทคนิคในการทำตบบำบัด

1. การทำให้กระจ่าง (clarification) เป็นการทำให้ผู้ป่วยเกิดความเข้าใจตามที่หมอต้องการ
case1  ผู้ป่วยไม่ยอมรับความจริงว่า สามีไปมีกิ๊ก พยายามใช้กลไก denial ตลอด
หมอจะ ตบ1ฉาด แบบแรงๆ เพื่อให้ตาสว่าง

2. Lending e-go บางครั้งผู้ป่วยอ่อนแอเกินกว่าจะตัดสินใจเองในบางเรื่อง หมอจะช่วยเสนอทางออกให้(ผิดกับตบบำบัดแบบพลวัตรที่จะไม่ชี้นำอะไรทั้งสิ้น) case2. ผู้ป่วยรักสามีมาก แม้ถูกสามีรังแกบ่อยๆก็ยังเทิดทูน ชอบใช้วลีว่า \"เพราะรักแหละค่ะ จึงยอมทน\"
หมอเห็นว่า ขืนอยู่ต่อไป คนไข้จะทนมือทนตีนไม่ไหวจึงต้องเอาegoของตัวเอง ยัดเยียดให้ผู้ป่วยไปก่อนเช่น
\" เลิกเลย เลวๆ แบบนี้ เลิกเลย\"

3. eye contact ตาจ้องตา ประสานกัน ระหว่างหมอกับคนไข้ ใครขืนกะพริบตาก่อน คนนั้นล้างชาม

เทคนิคการรักษาแบบอื่นๆ
จิตเภสัชบำบัด
ขอแนะนำเฉพาะยาที่สำคัญ
ฟูฟ่องบนตีน Flufongbontine เป็นยากลุ่ม ซีเล็คทีฟเซโรโทนิน รีเซพเตอร์ อินฮาแตก  กินแล้ว หัวเราะทั้งวัน
คือหายจากโรคเศร้าเลย (เพราะกลายเป็นบ้าแทน)