ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi]Mini HBD Fic : The miracle of love

    ลำดับตอนที่ #4 : Mini HBD Fic : The miracle of love 5

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ค. 50



    Mini HBD Fic : The miracle of love

    [Starring] Yunho & Jaejoong

    [Author] : Project_Y^^

    “อะไรนะ!!~ ครูสอนทำขนมแม่นายเป็นคน ๆ เดียวกับที่เอาถังขยะทุ่มลงหัวนายงั้นเรอะกรรมเวร!!~”ฮวอคแจยกมือขึ้ปิดหน้า พลางถอนหายใจออกมายาว ๆ เมื่อเริ่มมองเห็นความยุ่งยากที่กำลังจะเกิดขึ้น แถมสีหน้าแววตาของเพื่อนรักตอนนี้มันก็น่าหวั่นใจว่าจะเกิดศึกเป็นแน่แท้

    “นี่ไอ้ยุน ชั้นว่านายอย่าไปหาเรื่องดีกว่านะ พยายามทำเป็นลืม ๆ ไปเหมือนอย่างที่แม่นายบอกเหอะ นายก็รู้ไม่ใช่เรอะ ว่าแม่นายน่ะ เป็นยังไง” แค่คิดถึงใบหน้าของคุณหญิงที่แสนหวานใจดีนั่น ฮวอคแจก็อยากจะเดินหนีไปไกล ๆ เพราะยามร้ายไม่ว่าเพื่อนสนิทมิตรสหายของยุนโฮจะเป็นใคร มันได้กระจัดกระจายกันไม่ต้องเหลียวหลัง แล้วนี่ ดูมัน ลูกชายริจะต่อกรกับแม่ตัวเอง

    หนทางมันมืดมนแล้วก็หาเรื่องให้ตัวเองมาก ๆ เลยเพื่อนรัก

    “ชั้นไม่ยอมหรอก ไอ้ฮวอค ขืนยอมให้ไอ้บ้าหน้าสวยนั่นมันมาลอยหน้าโดยที่ชั้นไม่ได้แก้แค้นเลยก็เสียเชิงหมดซิ มันต้องมีซะบ้าง”ยุนโฮพูดขึ้น พลางกระดกน้ำสีชาเข้าปาก

    “ก็แล้วนายจะทำยังไงล่ะวะ ขืนมีเรื่องอะไรใหญ่โตเกิดขึ้นแม่นายรู้เข้าจะพากันซวยหมด”คราวนี้เป็นฮวอคแจบ้างที่ยกแก้วขึ้นมากรึ้บ “ก็เนี่ย ชั้นถึงได้มาหาให้นายช่วยคิดนี่ไงเล่า? ช่วยกันเลยนะเว๊ย!!~”

    หา!!~

    คนที่ตาตี่เล็กจิ๊ดเดียวอย่างเจ้าลิงหัวทองที่หน้าตาแสนจะน่ารักชื่อฮวอคแจ ตอนนี้กำลังตกใจจนตาเล็กแทบจะถลนออกมาจากเบ้า กับคำขอของเพื่อน”ไอ้บ้า!!~ แกจะให้ชั้นช่วยอะไรวะ ขืนชั้นไปมีเรื่องกับคุณหญิงแม่แกซิ ได้ตายแน่ล่ะ”ท่าทางขนลุกขนชันของฮวอคแจทำให้ยุนโฮแทบจะลุกขึ้นมาฝากบาทาให้ซักรอย ถึงแม่จะน่ากลัวจริงอย่างที่เพื่อนว่า แต่........มันก็ต้องมีข้อยกเว้นบ้างแหละน่า เค้าเป็นลูกนะ เป็นลูก!!~

    “ก็ถ้านายไม่ช่วยชั้น มันก็ไม่ต้องรอให้ถึงมือแม่หรอก นายได้เจอ.........ของชั้นก่อน”สายตาไล่ลงไปเบื้องล่างของตัวเองที่ตอนนี้ขามันแกว่งดิก ๆ ส่อให้เพื่อนเห็นชะตาตัวเองที่มันจะปฏิเสธไม่ได้

    “อะไรวะเนี่ย!!~”ฮวอคแจโอดโอยโวยวายออกมาเสียงน่าสงสาร หากคนฟังไม่คิดจะสนใจอะไรซักนิด ยังคงส่งสายตาข่มขู่พร้อมคำพูดสำยับย้ำออกมาอีกหน

    “เลิกเอาว่าจะปอดแหกกลัวแม่ หรือว่าจะ หน้าแหกเพราะฝีมือเพื่อนตัวเอง”

     

    อุแม่เจ้า!!~ ใครก็ได้ช่วยด้วย ตอนนี้ลิงอยากหนีไปเมืองไทย อ๊ากกกกกกกกกกกก!!~ I come from Thailand!!!!!!!!!!!!!!!!!!
    .
    .
    “อะไรนะครับ!!~ แล้วพี่เป็นอะไรหรือเปล่าเนี่ย?”เสียงหวานถามขึ้นทันทีเมื่อได้ฟังคำพูดบอกเล่าเรื่องราวของอีกฝ่ายจบลง ดวงตาคู่สวยมีแววเป็นห่วงเป็นใยอย่างเห้นได้ชัด

    “ก็เกือบไปนะ พอดีคุณหญิงแกมาห้ามเอาไว้เสียก่อนไอ้หมอนั่นเหมือนหมาบ้าเลย อยู่ ๆ ก็เข้ามาจับแขนพี่บีบเสียแน่นดูซิจุนซู แขนพี่ยังเป็นรอยอยู่เลย”แจจุงชี้ให้ดูร่องรอยของตัวเอง จุนซูพิจารณาท่อนแขนที่มีรอยเป็นจ้ำนั่นก่อนจะทำสีหน้าหวาดกลัว

    “แล้วแบบนี้พี่ยังจะไปสอนคุณหญิงอีกหรือครับ ลูกชายเค้าน่ากลัวขนาดนี้”

    “พี่รับปากไว้แล้วนี่นา อีกอย่างพี่ก็รับปากกับคุณป้าว่าจะช่วยน่ะ ขืนมาถอนตัวตอนนี้จะเสียผู้ใหญ่เอาได้นะ”แจจุงบอกออกมาเบา ๆ พลางนึกถึงอนาคตตัวเองที่ถ้าหากต้องเผชิญหน้ากับไอ้คนจอมอาฆาตนั่นอีก

    “แล้วพี่จำได้หรือเปล่า ว่าไปทำอะไรหมอนั่นน่ะ เค้าถึงได้เจ็บแค้นมากขนานี้ เฮ๊อ!!~ นี่ถ้าเป็นคนธรรมดายังพอจะหาทางสู้กันได้ แต่นี่ ดันมาเป็นถึงลูกชายนักการเมือง แบบนี้เราไม่หวิดถูกเป่าเอาง่าย ๆ หรือพี่ อ๊ากก!!~แค่คิดผมก็กลัวแล้ว”คำพูดของจุนซูยิ่งทำให้แจจุงมีสีหน้าหวาดกลัวมากขึ้นกว่าเดิม

    จริงเสียด้วย หมอนั่นมีพ่อเป็นผู้มีอิทธิพล ถึงแม่จะเข้าข้างเค้าอยู่ก็ตาม แต่ว่า มันก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันกับคุณหญิงตลอดเวลา ขืนหมอนั่นบ้าเลือดจ้างคนมาส่องโป้งเค้าล่ะ กรรมเวร แจจุงเอ๊ย!!~ ตายแน่ ๆ !!~

    “พี่จำไม่ได้ว่าไปทำอะไรหมอนั่นนี่ซิจุนซู ไม่งั้นจะขอโทษไปแล้ว จะให้ทำอะไรก็ได้เอ้า กรรมเวร”แจจุงพูดออกมาอย่างคิดไม่ตก สีหน้าแววตาของทั้งสองคนที่นั่งอยู่ด้วยกันตอนนี้ไม่แตกต่างเลยซักนิด เพราะกำลังห่วงใยสวัสดิภาพชีวิตตัวเอง ว่ามันจะยืนยาวต่อไปได้อีกหรือเปล่า?

    “มากันนานแล้วหรือ?”เสียงอบอุ่นที่ทักทายมาจากด้านหลังทำให้บรรยากาศที่เครียดขรึมผ่อนคลายลงชั่วขณะ เจ้าของร่างสูงโปร่งดินเข้ามาใกล้ก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ คนตาสวยหน้าใสที่มักจะพกพารอยยิ้มและเสียงหัวเราะเอาไว้เป็นนิจ หากตอนนี้ ทำไมถึงได้มีแววตากังวลแล้วก็เคร่งเครียดจนจับความรู้สึกได้แบบนี้

    “มีอะไรหรือเปล่าจุนซู”เอ่ยถามคนข้าง ๆ อย่างเป็นห่วง มือกว้างยกขึ้นแตะแก้มเบา ๆ สายตาไล่มองความอึมครึมที่ปกคลุมสีหน้าแววตาเอาไว้ “มีอะไรหรือไง แจจุง”เมื่อคนข้างๆ ไม่ตอบก็เลยต้องหันมาถามคนที่นั่งตรงกันข้าม

    แจจุงถอนหายใจออกมายาว ๆ อย่างหนักอกหนักใจ พลางรวบมือขึ้นมากุมจับกันเอาไว้บนโต๊ะอาหาร “มีเรื่องน่ะ ไม่รู้ว่าชั้นไปทำอะไรตอนไหน ถึงได้มีคนตามมาเคียดแค้น หาเรื่องเหมือนจะฆ่าให้ตายตอนนี้”

    “อะไรนะ!!~”เสียงเข้มดังขึ้นด้วยความตกใจกับคำพูดที่ได้ยิน ระหว่างรอฟังคำอธิบายจากแจจุงไปเรื่อย ๆ “น่าเป็นห่วงพี่แจจุงมากนะครับมิกกี้ คน ๆ นั้นน่ากลัว”มือกว้างขยับแตะโอบเอวเล็กให้เข้ามาใกล้ อย่างปลอบโยน

    “แล้วจำไม่ได้เลยหรือไงว่า ไปมีเรื่องตอนไหนน่ะ?”มิกกี้ถามขึ้น หากพอมองคนที่นั่งตรงหน้า เค้าก็ต้องคิด อย่างแจจุงจะไปมีเรื่องกับใครที่ไหนได้

    อาการส่ายหน้าทำให้ทั้งสามคนต้องถอนหายใจมาพร้อม ๆ กัน มิกกี้พยายามครุ่นคิดเพื่อที่จะหาทางช่วย “หมอนั่นหน้าตาท่าทางเป็นยังไง น่ากลัวมากมั้ย เป็นพวกนักเลงหรือเปล่า?”

    แจจุงส่ายหน้าปฏิเสธ พลางอธิบาย “ตรงกันข้ามหมดเลยต่างหากล่ะ หมอนั่นเป็นลูกชายของนักการเมืองที่มีอิทธิพลในเมืองนี้ต่างหากล่ะ”แจจุงบอกออกมาอย่างพยายามปลง พลางเล่าไล่ถึงหน้าตาท่าทางของอีกฝ่าย

    แว่บนึงในความคิด มิกกี้คิดถึงใบหน้าของผู้ชายตัวสูง ที่ออกมาตวาดอึงเสียงดังใส่เค้าด้วยความโมโหในวันที่เขาออกมาตามหาบ้านของจุนซู

    หืม????

    “หมอนั่นหน้าเรียว ปากห้อยหน่อย ๆ หรือเปล่า?”มิกกี้ถามขึ้น ในขณะที่แจจุงพยักหน้า “ขาว สูง หล่อ ผมยาวสีน้ำตาลนิด ๆ ใช่มะ?” แล้วก็เป็นอีกครั้งที่แจจุงพยักหน้าลง

    “หน้าหมอนั่นยังมีรอยจาง ๆ แบบเคยถูกต่อยแบบเนี๊ยะ มีมะ”ชี้ริมฝีปากของตัวเองให้ดู เพราะมันยังมีร่องรอยเล็ก ๆ ปรากฏจาง ๆ อยู่

    “อื๊ม”

    คำตอบยิ่งทำให้มิกกี้มั่นใจ สายตาคมจ้องมองแจจุงก่อนจะเอ่ยถาม “จำคนที่นายเอาถังขยะทุ่มหัวได้หรือเปล่า วันที่เราเจอกันน่ะ”

    ห้ะ???????

    “หมอนั่นต้องเป็นคนเดียวกันแน่ ๆ ใช่มั้ย???”มิกกี้เอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ แจจุงค่อย ๆ ลำดับเหตุการณ์ต่าง ๆ ในหัว ก่อนที่จะค่อย ๆ พยักหน้าลงอย่างช่วยไม่ได้

    “ทีนี้ก็รู้ล่ะนะ ว่าไปทำอะไรให้ หมอนั่นถึงได้เป็นฟืนเป็นไฟแบบนั้น”

    “ก็แล้วแบบนี้จะทำยังไงล่ะครับมิกกี้”จุนซูเอ่ยถามขึ้น อย่างเป็นห่วงเป็นใยอีกหน ก็คนระดับนั้น แต่กลับถูกทำให้ขายหน้าถึงขนาดนี้ คงยากถ้าจะให้มันผ่านไปแค่คำขอโทษ

    ตอนนี้ก็เลยเพิ่มคนที่ช่วยมากลุ้มใจเรื่องนี้อีกคน หนทางที่จะทำให้ฝ่ายนั้นหายแค้นเคืองกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำยังไงดี??
    .
    .
    “นั่นไงฮวอคแจ นายเห็นหมอนั่นแล้วใช่มะ?”ยุนโฮชี้นิ้วให้เพื่อนรักดูเมื่อเห็นคนที่เค้าแสนแค้นเดินมาจนใกล้จะถึงหน้าบ้านของตัวเอง ฮวอคแจพยักหน้าและพยายามเพ่งสายตามองคนตัวบาง ๆ ที่กำลังเดินมานั่นอย่างพินิจพิเคราะห์

    ทำไมมันคุ้น ๆ จังวะ

    “ชั้นไม่เข้าใจว่าหมอนั่นทำอะไรให้แม่ชอบนักหนา ชิ ฝีมือทำขนมมันก็คงงั้น ๆ แหละวะ”ยุนโฮบ่นออกมาเรื่อย ๆ ในขณะที่ฮวอคแจแทบจะหากล้องมาส่องคนที่กำลังเดินเข้ามาใกล้นั่น บนระเบียงชั้นสองห้องนอนของเพื่อนเขามันทำให้เขาเริ่มมองคนที่กำลังเดินเข้ามาชัดเจนมากยิ่งขึ้น 

    “นี่ยุนโฮ นายบอกว่าคน ๆ นี้น่ะเหรอที่เอาถังขยะทุ่มหัวนาย”ฮวอคแจหันมาถามหน้าตาตื่น แถมยังมองคนที่เดินผ่านเข้าประตูมาแล้วราวกับเห็นสิ่งประหลาด

    “เออ....ทำไม หน้าตาหมอนั่นกวนอารมณ์นายเหมือนกันใช่มะ?”ยุนโฮถามขึ้นอย่างกวน ๆ แต่ฮวอคแจกลับถามกลับมาเสียงสั่น ๆ “เขาชื่ออะไรน่ะ ไอ้หมอนั่นของนายเนี่ย?”

    ยุนโฮขมวดคิ้วสงสัยในท่าทางของเพื่อนรัก มันจะชื่ออะไรก็ช่างดิ สำคัญตรงไหนวะ “นี่ไอ้ยุนโฮ เขาชื่ออะไรบอกมานะเว๊ย”ฮวอคแจถามขึ้นอีกรอบ แถมยังเดินเข้ามาจ้องหน้าเสียใกล้ด้วย

    “ใครจะไปรู้วะ แม่ไม่ได้บอกนี่หว่า”ยุนโฮบอกปัด ๆ และนั่นทำให้ฮวอคแจรีบวิ่งลงจากชั้นสอง มุ่งตรงไปยังห้องที่เขามั่นใจว่าคุณผู้หญิงและคน ๆ นั้นอยู่ สองขาก้าวยาว ๆ มาจนใกล้ และค่อย ๆ ส่งเสียงกระแอมกระไอขึ้น

    คุณแม่เพื่อนรักหันมายิ้มให้ก่อนเชื้อเชิญให้ฮวอคแจดเดินเข้าไปหา หากเขากลับรู้สึกเหมือนขามันไม่ยอมขยับ ยุนโฮที่เดินตามมาข้างหลังส่งสายตาอาฆาตไปให้คนที่ยืนข้าง ๆ แม่ก่อนจะเหลียวมองเพื่อนรักที่ตอนนี้ทำไมมันเหงื่อแตกซิกแบบนี้

    “คิม แจจุง”เสียงเหมือนกระซิบที่ดังออกมาจากปากเพื่อนทำให้ยุนโฮขมวดคิ้ว คนที่เขาเกลียดนักหนายืนยิ้มพราวส่งมาให้กับฮวอคแจทำเหมือนกับว่ารู้จักกันดี ในขณะที่แม่เขาเอ่ยแนะนำ

    “ดีใจจังที่ได้เจอกันอีกนะ อึนฮวอค”
    .
    .
    “อะไรนะ?????? หมอนี่คือคนที่นายหลงรักมาตลอดตอนไฮสคูลเรอะ”ยุนโฮตะโกนเสียงดังลั่น สีหน้าโกรธขึ้งปนงงเล็กน้อยกับคำบอกเล่าที่เขาได้ยิน “ใช่ว่ะเพื่อน นี่น่ะคือแจจุงคนที่ชั้นปอดแหกไม่กล้าสารภาพรักกับเขาแน่ ๆ”

    ยิ่งได้ยินคำยืนยัน ยุนโฮก็ยกมือขึ้นกุมหัว พาลจะปวดกะโหลกกะลาขึ้นมาทันที ไอ้ที่วางแผนจะช่วยเหลือกัน ดูเหมือนจะพลาดอีกหน กรรมเวร ดันมาเจออดีตรักของเพื่อนเสียอย่างนั้น

    “ชั้นขอร้องแล้วกันนะเพื่อน แจจุงเป็นคนดี เค้าอาจไม่ตั้งใจทำให้นายขายหน้า เชื่อชั้นเถอะ”ฮวอคแจเอ่ยขอร้องทันที แถมสีหน้ายังอ้อนวอนอย่างเห็นได้ชัด ยุนโฮเบือนหน้าหนี เบ้หน้าอย่างไม่สบอารมณ์อย่างมาก นี่มันเกิดอะไรขึ้นคนอย่างคุณชายยุนโฮเนี่ยนะ มันดันมาจนหนทางหาเรื่องแก้แค้น เพราะแม่ เพราะเพื่อน เว๊ย

    “ตกลงตอนนี้นายจะไม่ช่วยชั้นใช่มะ?”เสียงเข้มถาม ตามด้วยสีหน้าแววตาที่จ้องจะเอาเรื่อง ฮวอคแจพยักหน้าลงอย่างปลงตก ก็ถ้าจะให้ไปทำร้ายคนที่เคยแอบรักมาตลอดมันทำไม่ได้หรอก ยอมให้เพื่อนทึ้บดูท่าจะเป็นหนทางที่ดีกว่า

    ยุนโฮมองเพื่อนรักตัวเองอยากออกอาการจะหาเรื่องเอามาก ๆ ฟึดฟัดหงุดหงิดก่อนจะเตะเก้าอี้ดังโครมแล้วก็เดินปึง ๆ ออกจากห้องไป

    ชิ ไม่มีใครช่วย ตูหาเรื่องเอาคืนคนเดียวก็ด้ายยยยยยยยยยย
    .
    .
    “เชิญเลยจ้ะ เค้กฝีมือแม่ที่อาจารย์คนเก่งสอนนะ”คุณหญิงเชื้อเชิญให้บรรดาหนุ่ม ๆ ที่นั่งอยู่ตรงนั้นให้ชิมเค้กผลไม้หลังจากที่ทำเสร็จหมาด ๆ ออกมาจากเตายังอุ่น ๆ อยู่เลย

    “หน้าตาดีใช่มั้ยละลูก ยุนโฮลองดูซิจ้ะ”คุณหญิงยิ้มหวานให้ลูกชายตัวเอง หากสายตาเหมือนบังคับกลาย ๆ เป็นเช่นหลาย ๆ ครั้งที่ผ่านมา ยุนโฮขยับเนื้อตัวทำท่าจะถอยหนีหากสายตาคู่สวยคมเข้มกลับทำให้เขานั่งก้นติดเก้าอี้ไม่กล้าแม้แต่ขยับไปไหน

    “กินซิลูก”ยิ่งมีเสียงเย็น ๆ ย้ำขึ้นมาแบบนั้น ทั้งยุนโฮและฮวอคแจก็ต้องรีบตักเค้กชิ้นเล็กนั่นเข้าปากด้วยความรวดเร็ว ตาหลับปี๋ด้วยความลุ้นระทึกเมื่อเนื้อเค้กละลายในปาก

    หากไม่กี่วินาทีทั้งคู่ก็ต้องตาโตออกมาเหมือนเช่นทุกครั้ง หากคราวนี้ความรู้สึกมันต่างออกไป แปลกที่ไม่ขม ไม่ไหม้ ไม่เปรี้ยวหรือแม้แต่มีรสชาติแปลก ๆ เหมือนครั้งก่อน ๆ

    อร่อย

    ยุนโฮค่อยหันไปสบตากับคนที่นั่งเงียบ ๆ อยู่ข้าง ๆ แม่ตัวเองนั่น สอนแม่ทำขนมอร่อยแบบนี้นี่เองแม่ถึงได้หลงนัก อ้ะ??????

    รอยยิ้มจอมกวนปนเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นทันทีเมื่อในหัวมันคิดอะไรสนุก ๆ ขึ้นมาได้ในตอนนี้ “แม่ครับ”ยุนโฮร้องเรียกพลางตักเค้กเข้าปากอีกคำ “เค้กอร่อยจังครับ”รอยยิ้มหวานปานจะหยดของแม่ส่งมาให้ พลางส่งความดีความชอบให้แจจุงไป

    “ถ้าอาจารย์ของแม่ทำของกินอร่อยขนาดนี้ ผมจะขอให้ช่วยทำอาหารให้หน่อยได้มั้ยครับ พอดีเพื่อน ๆ จะมีปาร์ตี้กันเล็ก ๆ คืนนี้”แจจุงฟังข้อความนั้นด้วยความแปลกใจ ไหงวันนี้ไอ้คุณชายจอมอาฆาตนี่มาแปลก อยู่ ๆ จะมาทำญาติดีกับเค้าได้

    ฮวอคแจสะกิดเพื่อนตัวเองเล็ก ๆ ก่อนกระซิบถามเพราะไม่เห็นรู้เรื่องรู้ราวไอ้ปาร์ตี้นี้เลย หากยุนโฮกลับทำหน้ายุ่ง ๆ กลับไปให้พร้อมกับคำพูดที่ไม่เอ่ยออกมาเป็นเสียง ว่า “อย่ายุ่ง”

    “นะครับแม่ ลองขอร้องอาจารย์คนเก่งของแม่ให้ผมหน่อยได้หรือเปล่า?”ยุนโฮถามซ้ำขึ้นอีกครั้ง คุณหญิงถึงได้หันไปถามแจจุงให้อีกหนเช่นกัน คำถามที่แจจุงไม่สามารถจะปฏิเสธได้

    “ครับคุณหญิง”เอ่ยตอบขึ้นเบา ๆ คุณหญิงยิ้มให้อย่างอ่อนโยน ก่อนจะหันมาทางลูกชายตัวเอง เมื่อแจจุงเอ่ยตกลงแบบนี้ ยุนโฮยิ้มให้ตอบกลับมาเหมือนกัน สายตาที่จ้องมองไป แม้สายตาจะยิ้มแย้ม แต่ทำไมไม่รู้ที่แจจุงรู้สึกเหมือนกับว่ามันไม่ได้เป็นอย่างนั้น มันยังวาวจนทำให้ต้องเย็นหลังวูบ
    .
    .
    แจจุงพยายามที่จะไม่เหลียวสายตาไปสบกับคนที่ยืนกอดอกจ้องมองมานิ่งนั่น เขาพยายามที่จะหยิบจับทำงานของตัวเองไปเรื่อย ๆ อย่างน้อยก็ไม่ต้องสบต้องแลคนที่ยืนมองตาเขียวหน้าดุนั่น

    ยุนโฮกอดอกยืนจ้องคนที่หยิบนั่นหยิบนี่ไปมาอย่างนึกกรุ่น ๆ ในใจ ความจริงอยากจะเดินเข้าไปหักคอหาเรื่อง แต่สายตาของแม่ก่อนที่จะปล่อยให้เขาเข้ามาอยู่ในครัวนี่ด้วยมันเลยทำให้ทำได้แค่ยืนอยู่ตรงนี้

    มันจะอร่อยซะขนาดไหนเชียววะ

    ขยับเข้าไปใกล้ มือกว้างหยิบนั่นจับนี่ขึ้นมาดูทำท่าเหมือนสนใจนักหนา ปากก็แกล้งเอ่ยถามไปด้วย “นี่ มันอะไรเนี่ย?”เสียงแข็ง ๆ ที่เอ่ยถามทำให้แจจุงที่พยายามไม่สนใจต้องเอ่ยปากตอบออกมาจนได้ “แป้งสาลีน่ะครับ”ปลายเสียงมีแววเกรงใจในที ยุนโฮพยักหน้ารับรู้ก่อนจะหยิบจับไอ้โน่นไอ้นี่ไปเรื่อย ๆ

    สายตาคมแอบเหลือบมองคนที่ง่วนในการตีแป้งของตัวเองไปเรื่อย ๆ ก่อนที่จะขยับเข้าไปใกล้ ๆ อีกหน ชะโงกหน้าลงไปดูก่อนจะค่อยหันหลังเดินออกจากห้องไปเงียบ ๆ

    แจจุงถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะลงมือทำงานของตัวเองอย่างมีสมาธิไม่ต้องหวาดหวั่นกลัวอีกคนจะหยิบมีดมาปาดคอเสียที หากมันก็ทำได้ไม่นาน เสียงเข้มก็ดังมาให้ได้ยินเสียจนตกใจ

    “นี่ คุณแม่เรียกนายแน่ะ”ยุนโฮทำเป็นเดินหน้าตึงเข้ามาตาม แจจุงพยักหน้าก่อนจะเลี่ยงเดินผ่านข้างออกไป คล้อยหลังยุนโฮค่อยเดินเข้าไปใกล้ไอ้ถ้วยกระเบื้องใบใหญ่นิ้วยาวแตะ ๆ เนื้อแป้งก่อนที่จะเอื้อมหยิบนั่นนี่โปรยส่ง ๆ ลงไป

    เกลือ.........น้ำตาล.........น้ำส้มสายชู........ดูท่าจะอร่อยมากล่ะไอ้เค้กเนี่ย.......หึ หึ

    คุณแม่รักมากใช่มั้ยอาจารย์คนนี้น่ะ คงได้รักมากกว่าเดิมแน่ล่ะครับ ผมมั่นใจ
    .
    .
    ปาร์ตี้เล็ก ๆ ที่ยุนโฮกล่าวอ้างถูกจัดขึ้นที่ริมสระน้ำหน้าบ้าน แต่ทั้ง ๆ ที่เจ้าตัวบอกว่าจะมีบรรดาผองเพื่อนมาร่วมก๊วนหลายสิบคนตอนนี้ที่คุณหญิงเห็นกลับเป็นแม่สาว ๆ ที่เจ้าลูกชายเข้าไปเกี่ยวพันทั้งสิ้น เพื่อนสนิทที่คุณหญิงรู้จักยังไม่เห็นจะมีซักคน

    เสียงวี๊ดว๊ายดังขึ้นเป็นระยะ ยุนโฮยืนจิบเครื่องดื่มของโปรดไปเรื่อย ๆ ข้างกายมีหญิงสาวเข้ามาคลอเคลีย หากเจ้าตัวไม่คิดจะสนใจอะไรนัก “นี่ ช่วยไปสนุกตรงโน้นได้มั้ย ชั้นอยากอยู่คนเดียว”น้ำเสียงเข้มเอ่ยขึ้นจนทำให้สาวเจ้าค่อย ๆ เคลื่อนกายหายออกไป ยุนโฮพ่นลมหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย

    คนพวกนี้ก็แค่ที่ระบายอารมณ์ยามเหงาของเขาเท่านั้น ความสำคัญเกี่ยวข้องกับความรู้สึกมันไม่มีซักนิด พวกผู้หญิงบ้านี่ก็แค่เห็นเงินของเค้าเท่านั้น แต่ก็ดี เอามาเป็นตัวช่วยให้แผนของเขาง่ายขึ้นมาหน่อย

    “นี่ยุนโฮนายทำบ้าอะไรวะ แม่พวกนี้นายเคยแต่เดินหนีไม่ใช่หรือไง ไหงถึงได้เรียกมาเจอกันแบบนี้”ฮวอคแจถามขึ้นด้วยน้ำเสียงแปลกใจสุดชีวิต เจ้าตัวไล่สายตามองคนอื่น ๆ ไปรอบ ๆ สมองพยายามนึกทบทวนภาพของแต่ละคนไปเรื่อย ๆ

    “เอาเหอะน่า ชั้นแค่อยากสนุก”คำตอบเรียกรอยขมวดของคิ้วเพื่อนรักได้ ฮวอคแจอยากจะเอาหัวทุ่มพื้นมันอยากมาสนุกอะไรแปลก ๆ แบบนี้วะ แถมยังใช้ให้อดีตคนที่เขาแอบรักทำของกินให้ด้วยแบบนี้

    “ไอ้บ้า นายเนี่ยเพี้ยนขึ้นทุกวันเลยนะเว๊ย”ฮวอคแจด่าเพื่อนตัวเองออกมาก่อนจะเดินเลี่ยงเข้าไปยังด้านใน ยุนโฮมองตามหลังเพื่อนไปก่อนจะกระดกน้ำสีสวยลงคออีกครั้ง เหอะ เชิญเข้าไปอี๋อ๋อกันเหอะไอ้ลิง อีกเดี๋ยวไอ้คนสวยของแกจะได้หน้าแหกแน่ ๆ

    ชิ มีอะไรดีให้ฮวอคแจมันหลงรักวะ..........เหอะ.......

    แจจุงกำลังจะยกถาดอาหารต่าง ๆ ออกมายังด้านหน้าใน ฮวอคแจก็เข้ามาถึงพอดี รีบวางแก้วของตัวเองก่อนจะขยับเข้าไปช่วย “ขอบใจมากนะอึนฮวอค”แจจุงยิ้มให้ ก่อนจะเอื้อมหยิบอาหารอีกจานมาถือเอาไว้

    “ไม่เป็นไรนี่ ว่าแต่ แจจุงอย่าไปสนใจยุนโฮมันเลยนะ........มันเจ้าคิดเจ้าแค้นก็จริง แต่มันก็เป็นคนดีเหมือนกัน”ฮวอคแจพยายามบอกปลอบ “อีกเดี๋ยวมันก็จะลืม ๆ ไปแหละ เชื่อผมนะ”

    แจจุงยิ้มให้ก่อนจะพยักหน้าลงอย่างไม่ค่อยเชื่อนัก ดูหน้าตาเพื่อนรักของฮวอคแจซิ ไว้ใจได้อย่างนั้นหรือ? คาดว่าจะไม่หาเรื่องเขาให้ได้เนี่ยมันคงไม่หายแค้นหรอก นี่ดีนะที่คุณหญิงแกยังอยู่เป็นเบื้องหลังให้แบบนี้

    “ว่าแต่มหาลัยที่แจจุงเรียนตอนนี้เป็นไงบ้าง เป็นเหมือนที่คิดเอาไว้หรือเปล่า?”ฮวอคแจเอ่ยถามขึ้น ขณะที่เดินออกมาด้วยกัน แจจุงหันไปพยักหน้าให้ คณะที่เขาเลือกมันก็หนีไม่พ้นคำว่าอาหารอยู่แล้ว

    “แจจุงอยากเป็นเชฟมือหนึ่งนี่เนอะ ตอนนี้คงใกล้ความจริงแล้วซิ”ฮวอคแจเอ่ยขึ้นพลางยิ้มให้อบอุ่น แจจุงหันมามองหน้าพลางแปลกใจ ยิ้มและหัวเราะขึ้นมาด้วยน้ำเสียงร่าเริง

    “จำได้ด้วยหรือเนี่ย?”ฮวอคแจพยักหน้ายอมรับพลางยิ้มเขิน ทุกเรื่องที่คน ๆ นี้บอกมา เขาจำได้หมดนั่นแหละ จำได้ทุกอย่างจนตอนนี้ก็ยังไม่คิดจะลืมด้วย

    รอยยิ้มและเสียงหัวเราะตามมาเรื่อย ๆ อาการพูดคุยแบบนั้นทำให้คนที่กำลังยืนกอดอกมองนิ่งมาเริ่มอาการขัดเคือง ขาเริ่มกระดิก มือกำกันแน่น น่าหมั่นไส้ อี๋อ๋อกันเข้าไป เดี๋ยวรู้สึก

    วางแก้วลงก่อนจะเดินไปยังโต๊ะอาหารที่ตอนนี้มีของกินหน้าตาดีมาตั้งเอาไว้แล้ว ยุนโฮยิ้มกริ่มเมื่อยกช้อนขึ้นตักอาหารใส่จานก่อนจะทำท่าเสริฟให้สาวสวยที่อยู่ด้านหลังให้ลองชิมดู

    เสียงร้องกรี๊ดที่ดังลั่นนั้นทำให้ทั้งแจจุงและฮวอคแจต้องหันไปมอง อาการโวยวายเสียงแป๋นจากบรรดาแม่สาว ๆ นั้นทำให้คุณหญิงที่อยู่ข้างในต้องเดินออกมามองทั้ง ๆ ที่ไม่อยากนัก

    “มีอะไรกัน?”คุณหญิงก้าวเข้ามาใกล้ หากบรรดาสาว ๆ เหล่านั้นก็ยังโวยวายโบกไม้โบกมือขอน้ำกันให้วุ่น

    “รู้สึกอาหารจะเป็นพิษน่ะครับแม่”ยุนโฮบอกออกมาเรียบ ๆ “อะไรกัน?”คุณหญิงคิ้วขมวดอย่างไม่เข้าใจนัก

    “ก็แต่ละอย่างที่อาจารย์ที่แสนเก่งของแม่ทำมาให้เพื่อน ๆ ผมเนี่ย มันไม่ได้เรื่องน่ะซิครับ”ยุนโฮบอก พลางเบือนหน้ามามองเมือนให้แจจุง สีหน้ามีแววสะใจ ฮวอคแจขยับเขามาใกล้ก่อนจะใช้นิ้วแตะของกินบนโต๊ะนั้นก่อนจะควานหาน้ำมาใส่ปากให้วุ่น

    “เป็นอะไรน่ะอึนฮวอค?”แจจุงถามด้วยความตกใจ พลางลูบหลังไหล่ให้อย่างเป็นห่วง ฮวอคแจไอออกมาแรง ๆ เพราะเค้ากำลังสำลักความเปรี้ยวในปากตอนนี้

    “ดูท่า เพื่อนผมก็จะถูกอาหารเป็นพิษนี่ทำร้ายเหมือนกันครับแม่”ยุนโฮเอ่ยย้ำออกมาอีกครั้ง พลางใช้มือเขี่ย ๆ อาหารที่ดูจะหน้าตาดีแต่รสชาติแสนแย่นั้นไม่มาอย่างขยะแขยง

    “ดูท่า จะหาเรื่องให้ผมขายหน้าล่ะมั้ง..........แต่รู้หรือเปล่า คิม แจจุง ที่นายทำแบบนี้มันทำให้คุณหญิงแม่ของชั้นขายหน้ามากกว่า”แจจุงขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ พลางมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บรรดาของกินทั้งหมดที่เขาทำเนี่ยมันจะรสชาติย่ำแย่ไปได้ยังไง ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก

    แต่ว่าทำไมอึนฮวอคถึงได้สำลักขนาดนี้ล่ะ

    “อาหารที่นายทำ มันห่วยแตกจนบรรดาเพื่อนชั้นเค้าโวยวายกันขนาดนี้ นายด้วยฮวอคแจ คงไม่เถียงแทนนะ ในเมื่อรสชาติมันเต็มกลืนแบบนี้”

    ยุนโฮวาดยิ้มเยาะออกมา พลางมองหน้าแจจุงที่ตอนนี้ซีดเผือดลงอย่างเห็นได้ชัด คุณหญิงเดินเข้ามาใกล้อาหารเหล่านั้นก่อนที่จะลองแตะ ๆ ดูเช่นเดียวกับฮวอคแจ และผลมันก็ออกมาเหมือนกัน ต้องรีบหาน้ำมาใส่ปากอย่างรวดเร็ว

    และก็เป็นอีกครั้งที่ยุนโฮต้องเบือนหน้าซ่อนรอยยิ้มเยาะด้วยความสะใจของตัวเองเอาไว้ ในขณะที่คุณแม่ของเขากำลังเดินเข้าไปใกล้ ๆ แจจุง

    “เรื่องนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน?”นางถามขึ้นเบา ๆ แจจุงค่อยสั่นหน้าไปมา โดยที่ไม่รู้จะตอบยังไงดี เสียงเข้มดังขึ้นสำทับมาอีกหน คราวนี้เข้ามาใกล้แถมยังจ้องหน้าแจจุงอย่างถือดีและเอาชนะได้ด้วยความสะใจ

    “ผมเคยบอกแม่แล้ว ว่าคน ๆ นี้ทำให้ผมขายหน้า แล้วคราวนี้ก็มาทำให้แม่ขายหน้าอีก” ยักคิ้วขึ้นอย่างสะใจ ยิ่งเห็นสีหน้าคนตรงหน้ายิ่งอยากหัวเราะออกมาดัง ๆ

    “แม่ว่าอย่างนี้จะยังเป็นอาจารย์ที่แสนเก่งของแม่ได้อีกมั้ยครับ”คำถามทำให้คุณหญิงจ้องมองคนที่ยืนตัวลีบปากซีดอยู่ นางถอนหายใจออกมายาว ๆ อย่างไม่มีทางเลือก “ขอโทษด้วยนะ ที่ชั้นต้องเลิกจ้างเธอ แจจุง”คุณหญิงบอกก่อนที่จะเดินเลี่ยงออกไป

    ฮวอคแจมองหน้าเพื่อนตัวเอง สายตาพยายามจ้องจับผิด ยุนโฮเดินเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ ก่อนหัวเราะออกมาเบา ๆ แจจุงจ้องหน้าคนที่ทำหน้าเป็นนั้นนิ่ง ความรู้สึกบางอย่างมันทำให้เขารู้สึกว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมาจากคน ๆ นี้

    “นายทำใช่มั้ย?”แจจุงถามขึ้นทั้ง ๆ ที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบเต็มประตู ยุนโฮยิ้มยียวน ยักคิ้วไปมาอย่างสะใจ “ก็ถ้าบอกว่าใช่ล่ะ? คิดว่าคนอย่างนายจะทำอะไรได้อย่างนั้นหรือ?”

    เสียงหัวเราะตามมา สองขายาวก้าวเข้ามาใกล้จนแทบจะชิดติดตัวแจจุง หากฮวอคแจกลับก้าวเข้ามาขวาง สายตาจ้องมองเพ่งตรงเพื่อนตัวเองอย่างไม่คิดจะหลบ “ชั้นขอนายแล้วนะยุนโฮ อย่ายุ่งกับแจจุง”ยุนโฮจ้องมองเพื่อนตัวเองเหมือนไม่เคยเห็น ไอ้ลิงหัวเหลืองเพื่อนรักเขาเนี่ย ทำตาแบบนี้ใส่เขาเนี่ยนะ

    “ก็แล้วถ้าชั้นบอกว่าไม่ล่ะ นายจะว่าไง?”ยุนโฮตอบเสียงแข็ง สายตาจ้องตอบไม่ลดละเหมือนกัน มือข้างหนึ่งยกขึ้นก่อนผลักอกฮวอคแจออกไปแรง ๆ แจจุงค่อย ๆ ดึงรั้งแขนเสื้อฮวอคแจให้ห่างออกมา พลางพูดบอกว่าไม่เป็นไร เขาเป็นคนก่อเรื่องทั้งหมด ก็ต้องเป็นคนทำให้เรื่องมันยุติลงให้ได้

    “นายต้องการอะไร?.......ชั้นต้องทำยังไง นายถึงจะหายแค้นเสียที”น้ำเสียงมีแววปนสั่น หากแจจุงก็ยืนยืดอกรับอย่างไม่คิดจะหลบเลี่ยงไปไหนอีกแล้ว

    “หึ ปากเก่งขึ้นมาเชียว รู้ตัวว่าจนมุมล่ะซิ”ยุนโฮเบ้หน้า เบือนไปเหมือนคนตรงหน้าไม่มีค่าซักนิด นั่นมันทำให้แจจุงที่พยายามอดทนอดกลั้นความโมโหเอาไว้ต้องระเบิด

    “แล้วยังไง นายจะเอายังไงก็ว่ามาซิวะ ชั้นเบื่อที่จะต้องมาหวาดกลัวคนอย่างนายเต็มทีแล้วนะ” ยุนโฮเลิกคิ้วสูงด้วยความแปลกใจ เขาก้าวเข้ามาใกล้ ก่อนยิ้มเย็นให้ น้ำเสียงและแววตาบ่งบอกให้รู้สึกถึงความ

    “รู้ว่าต้องกลัวชั้นก็ดีแล้ว คิม แจจุง” รอยยิ้มเย็นปรากฏให้เห็นอีกครั้ง ยุนโฮก้มลงมาใกล้ ใกล้เสียจนหน้าผากแทบชิดติดกัน หากแจจุงก็ไม่คิดจะหลบไปไหน กำลังพยายามต่อสู้กับความหวาดกลัวอย่างที่สุด สองมือของยุนโฮยกขึ้นมาบีบแขนบอบบางเอาไว้ แรงจนทำให้รู้สึกว่ามันเจ็บ แต่แจจุงไม่คิดจะปริปากบ่นซักนิด แววตายังจ้องตอบไปไม่ลดละ

    “นายคิดว่านายต้องทำยังไง ชั้นถึงจะพอใจล่ะคิม แจจุง?”
    .
    .
    TBC คับผม

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×