ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] Icarus

    ลำดับตอนที่ #1 : Theme 1

    • อัปเดตล่าสุด 8 เม.ย. 50


    Theme 1

     

    ภายในตึกสูงสีขาวที่ตั้งตระหง่านอยู่ในรั้วรอบของมหาวิทยาลัยชื่อดังขณะนี้มีไฟเปิดสว่างไปทั่วทั้งตึก ผู้คนที่น่าจะนอนหลับพักผ่อนกำลังเดินไปเดินมากันให้วุ่นวาย รวมทั้งคน ๆ หนึ่งที่กำลังก้าวขายาวด้วยความเร่งรีบไปยังห้องที่เจ้าตัวต้องการ

     

    สีหน้าและแววตามีแววกังวลและไม่เข้าใจ ในมือหอบเอาเอกสารที่เจ้าตัวค้นคว้าเอาไว้จนเต็มอ้อมแขน แม้น้ำหนักของกระดาษบนมือจะทำให้รู้สึกเมื่อยล้าหากขายังไม่หยุดก้าวด้วยความรวดเร็วเลยแม้ซักนิด

     

    เพียงแค่ผ่านประตูกั้น นักศึกษาหลายคนกำลังเดินไปมาอยู่ในนั้นดูเร่งรีบเสียจนไม่ทันสังเกตเห็นคนที่เพิ่งเข้ามา จวบจนเดินเข้าไปในระยะประชิดตัวนั่นล่ะ บางคนพอเห็นว่าเป็นใครก็หันมาพยักหน้าทักทายก่อนที่จะเดินเลี่ยงไปทำงานของตัวเอง ดูเหมือนแต่ละคนจะมีงานล้นมือกันทั้งนั้น รวมทั้งตัวเขาเองที่สองมือเต็มไปด้วยข้าวของจึงจำเป็นต้องใช้ศอกดันประตูไม้อีกชั้นให้เปิดออก

     

    ถึงไหนกันแล้วครับพี่มิกกี้?”ส่งคำถามไปทันทีทั้งที่ยังไม่ทันได้วางงานของตัวเองลงบนโต๊ะที่ดูจะหาความเป็นระเบียบได้ยากเต็มที ก้าวขายาวรีบเร่งไปยังหน้าจอประมวลผลที่รุ่นพี่กำลังกดคีย์อยู่

     

    ไม่ถึงไหนเลย ดูเหมือนจะไม่มีมหาวิทยาลัยไหนสามารถจะระบุได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคำบอกเล่าทำให้มือเรียวคว้าเก้าอี้มานั่งข้าง ๆ หยิบแว่นของตัวเองขึ้นมาสวมทับจมูกโด่งพลางจ้องมองตัวเลขและกราฟแสดงผลในหน้าจอไปด้วย

     

    แล้วศูนย์เราใครรู้ข่าวคนแรกครับ?”เอ่ยถามขึ้นออกมา คนตอบก็เลยชี้นิ้วโป้งไปยังคนตัวเล็กที่นั่งจิบกาแฟอย่างสงบที่มุมห้องพักด้านขวา เซียน่ะ….คืนนี้เป็นเวรเจ้านั่นเฝ้าพอดี

     

    คนถามหันมองตามนิ้วที่ชี้ก่อนที่จะลุกขึ้นเดินไปนั่งที่โซฟาตรงข้าม คนที่กำลังนั่งมองถ้วยกาแฟแววตานิ่งสนิทคล้ายกับเหม่อถึงได้หันมายิ้มให้ด้วยสีหน้าติดเรียบเหมือนปกติทุกครั้งที่ได้พูดคุยกัน ได้นอนหรือยังครับรุ่นพี่เอ่ยถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง ในขณะที่เซีย จุนซู พยักหน้าลงตอบรับเบา ๆ อย่างไม่สนใจอะไรนักกับสภาพร่างกายของตัวเองที่มันกำลังอ่อนล้าไปหมด

     

    ได้แอบงีบนิดนึงตอนที่มิกกี้โผล่มาแล้ว…..นายล่ะทันได้นอนหรือเปล่าแทฮวา?”เอ่ยถามกลับมาทำให้แทฮวายิ้มให้จนตาปิด พลางสั่นหัวไปมา ไม่เลยครับ กำลังจะกินแล้วก็เตรียมตัวนอน….พี่มิกกี้โทรไปหาเสียก่อน

     

     

    เซีย จุนซู พยักหน้ารับรู้ก่อนที่จะเบี่ยงหน้าหลุบต่ำก้มมองแก้วกาแฟในมือ ถึงตอนนี้อยากนอนก็คงนอนไม่หลับแล้วคำที่คล้ายพูดเอ่ยบอกตัวเองเบา ๆ นั้นแทฮวาพยักหน้าเห็นด้วย หลับไม่ลงจริง ๆ แหละครับพี่เพราะตอนนี้ที่ผมอยากรู้ที่สุดก็คือมันเกิดขึ้นได้ยังไง?”

     

    เซียเงยหน้าขึ้นมามองก่อนที่จะวางแก้วกาแฟลง คำถามที่ตัวเองก็เฝ้าถามมาตลอดเหมือนกัน เพราะไม่ว่าจะเป็นเอกสารรายงานใด ๆ ในโลกที่บรรดามหาวิทยาลัยชั้นนำมีและศึกษาร่วมกัน รวมทั้งนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังก็ยังหาเหตุผลมาไม่ได้ เหตุการณ์ที่เหล่าศาสตราจารย์ทำนายกันเอาไว้มันไม่น่าจะเกิดเร็วขึ้นแบบนี้

     

    มันไม่มีทั้งภูเขาไฟระเบิด ไม่มีแม้แต่แผ่นดินไหวซักริกเตอร์……แล้วคลื่นลูกมหาศาลที่มันสามารถถล่มนิวยอร์กทั้งเมืองได้เนี่ยมันเกิดขึ้นได้ยังไงกันล่ะครับ? ผมอยากรู้เกินความสามารถที่เซียจะตอบได้ เจ้าตัวถอนหายใจยาว ๆ หลับตานิ่งลง หากปากกลับยังเอ่ยถ้อยคำให้คนฟังต้องขมวดคิ้ว

     

    มันอาจจะมีอะไรที่เหนือคำว่าธรรมชาติ สำหรับมนุษย์เราก็ได้……..ล่ะมั้ง แทฮวา

     

    เซียพูดแค่นั้นก่อนที่จะทำท่าเหมือนจะหลับไปจริง ๆ แต่แทฮวารู้ดี รุ่นพี่ไม่มีทางจะหลับตาลงไปได้แน่ ๆ เพราะรอยขมวดมุ่นระหว่างคิ้วยังคงอยู่ หากคำพูดที่ทิ้งท้ายทำให้แทฮวาต้องทำคิ้วย่นตามบ้าง

     

    จะเป็นไปได้ยังไง จะมีอะไรที่วิทยาศาสตร์ยังอธิบายไม่ได้อีกในโลกยุคนี้อย่างนั้นเหรอ? ความคิดที่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นต้องมีเหตุและผลในตัวของมัน หากตอนนี้สิ่งที่ทำให้แทฮวาเชื่อและมั่นใจมาเสมอ กลับสั่นคลอน กับสิ่งที่มีอำนาจเหนือคำอธิบายใด ๆ สิ่งที่แทฮวาไม่เคยคิดจะเชื่อมาก่อนในชีวิต ตอนนี้กำลังทำให้สิ่งที่เชื่อฝังหัวมาตลอดหาเหตุผลมาอธิบายไม่ได้แม้เพียงนิดเดียว น้ำจำนวนมหาศาลจากมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ใช้พลังอำนาจแบบไหนกันในการสร้างคลื่นลูกใหญ่ขึ้นมาให้พัดเกาะแมนฮัตตันให้เกิดหายนะได้เพียงชั่วพริบตา.....

     

    แทฮวาคิดถึงเรื่องราวในพระคัมภีร์ที่ปรากฏ.....หรือจะเป็นฝีมือของพระเจ้า

    เหลือเชื่อน่า!.

    .

    .

    ใบหน้าแววตาติดลำบากใจเมื่อจับจ้องมองคนที่กำลังร่ำไห้เสียใจกับภาพการสูญเสียราวกับว่าเจ้าตัวเป็นคนสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปเอง มือเรียวเอื้อมหยิบกระดาษทิชชู่ส่งให้เป็นครั้งที่สาม รวมทั้งพยายามปลุกปลอบให้คนที่นั่งสะอื้นอยู่ค่อยเงียบเสียงลง

     

    เลิกร้องไห้เสียทีเถอะนะ มนุษย์น่ะเกิดมาก็ต้องตายอยู่แล้วถ้อยคำที่ได้ยินทำให้คนร่ำไห้เงยหน้าขึ้นมามอง ปาก จมูกแดงก่ำ หยาดน้ำหยดเล็กยังคงไหลรินลงมาให้อีกคนช่วยปัดซับให้อยู่ตลอด แต่เราสงสารนี่นา ผู้คนที่นั่นเขาน่าสงสารมากไม่ใช่หรือไงฮวีชาน

     

    แม้จะเถียงแต่เสียงก็ยังปนสะอื้น ฮวีชานลูบแก้มใสให้ไปมาก่อนเอ่ยปลอบอีกหน รู้ว่าสงสาร แต่ต่อให้ร้องไห้จนหมดแรงพวกเค้าจะฟื้นมั้ยล่ะคริส คนที่ยังอยู่อย่างเรานี่ต่างหากที่ต้องอดทนกับเหตุการณ์สารพัดที่มันอาจจะเกิดขึ้นน่ะลูบปอยผมเส้นเล็กที่ตกปรกหน้าให้อย่างอ่อนโยน ใช่มั้ย?”หยุดถามความเห็น ในขณะที่คนสะอื้นพยายามกั้นเอาไว้อย่างเต็มที่ รับฟังถ้อยคำของเพื่อนสนิทที่เป็นเหมือนพี่ชายคนสำคัญอย่างพยายามที่จะทำความเข้าใจ

     

    อื๊ม...รับคำเบา ๆ พลางก้มหน้ายกมือเช็ดน้ำตาตัวเองป้อย ๆ ฮีชานถอนหายใจออกมายาว ๆ อย่างโล่งอกโล่งใจ....หยุดเสียที.....

     

     

     

     

    ขึ้นไปนอนพักได้แล้ว....พรุ่งนี้จะต้องไปเข้าค่ายไม่ใช่หรือ?”ออกความเห็นพลางดึงรั้งร่างบอบบางให้ลุกขึ้น หากคริสยังอิดออดทำหน้าอูมปากยื่น เปลี่ยนจากอาการสงสารผู้คนที่ต้องเสียชีวิตในเหตุการณ์สะพรึงโลกมาเป็นสงสารตัวเองแทน

     

    ไปด้วยกันเถอะนะฮวีชาน นะนะ เราไม่อยากไปคนเดียว มันเหงาออก นะ ไปเป็นเพื่อนกันถ้อยคำอ้อนวอนขอร้องทำเอาคนหวังดีทำหน้าลำบากใจ อึดอัดที่สุดตั้งแต่คบกันมา ก็ไปเข้าค่ายมันต้องอยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืน แล้วไอ้เวลากลางคืนเนี่ย มันไม่ค่อยน่าพิสมัยเท่าไรนักสำหรับเขานี่

     

    แต่ว่า...........อึดอัดลำบากใจแต่จะออกตัวบอกปฏิเสธก็ทำลำบาก ยิ่งเห็นสีหน้าแววตาคนออดอ้อนยิ่งต้องถอนหายใจยาว ๆ พยายามนึกหาทางช่วยตัวเองให้หลุดพ้น หากท่อนแขนที่ถูกรั้งเบา ๆ ปนเสียงอ้อนเล็ก ๆ กับแววตาประกายน่าสงสาร

     

    ก็ได้ ๆ จะพยายามหาทางไปดู.....ไปเจอกันที่โน่นก็แล้วกันนะ....จะเคลียร์งานให้เสร็จก่อน

     

    จริงนะน้ำเสียงสดใสขึ้นมาในทันที คริสรวบตัวฮวีชานกอดแน่น ก่อนที่จะยอมลุกขึ้นยืนเดินขึ้นไปนอนในห้องพักของตัวเอง ทิ้งให้คนที่เดินขึ้นไปส่งออกมายืนหน้าห้องพลางทำหน้าลำบากใจ

     

    ทำไงดีวะ.....ช่วงเวลากลางคืนจะหลบแว่บหายไปไหนได้ล่ะเนี่ย.........เฮ๊อ.......กลุ้ม........

    .

    .

    มือหนาหอบเอาเอกสารต่าง ๆ เอาไว้เต็มสองแขนระหว่างทางที่เดินขึ้นมายังห้องพักของตัวเอง หากตลอดระยะทางที่ย่ำเดินภายในสมองกลับขบคิดปัญหาที่หาคำตอบไม่พบ ตอกย้ำซ้ำไปซ้ำมากับภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สิ่งที่เกิดกับความคาดการผิดแปลกจนลบทฤษฎีสารพัดที่สมองบรรจุเอาไว้จนแทบหมดสิ้น จะเหลือก็แค่ถ้อยคำของเพื่อนร่วมสถาบันที่ย้ำมาให้ได้ยินจนมันเริ่มเก็บมาคิด

     

    สิ่งที่เหนือธรรมชาติบางทีเราอาจกำลังเผชิญกับมันอยู่ก็ได้

     

    เซีย จุนซูพูดประโยคแบบนี้ให้ได้ยินจนเริ่มเก็บมาคิดทบทวนเพราะไม่ว่าจะเป็นทฤษฎีอะไรก็ตาม ข้อมูลมหาศาลที่ไหนก็ไม่สามารถหยิบยกมาอ้างอิงอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ แต่ถ้าจะให้คนที่เป็นนักวิทยาศาสตร์เต็มตัวเชื่อถือเรื่องเหนือธรรมชาติมันก็เป็นไปไม่ได้เช่นกัน ที่ต้องทำทุกเวลานาทีตอนนี้ก็คือ การหาเหตุผลมาอธิบายให้ได้

     

    อ้ะ~!

     

    กระดาษให้อ้อมแขนหล่นร่วงกระจายจนต้องชะงักขาที่กำลังจะก้าวออกจากลิฟต์ สองมือรีบก้มลงเก็บด้วยความรวดเร็ว และคนที่เข้ามาชนก็น้ำใจก้มลงช่วยเหลือเช่นกัน ไม่นานนักบรรดาเอกสารทั้งหมดก็กลับมาซ้อนทับพร้อมให้อุ้มมันไว้เหมือนเดิม

     

    มิกกี้ ยูชอนเงยหน้าสบตาขอบคุณคนมีน้ำใจช่วยเหลือก่อนที่จะยิ้มให้เพียงเล็กน้อยถึงแม้จะรู้สึกสะดุดเล็กๆกับคนที่มีใบหน้าเนียนขาวใส ปากแดงเรื่อราวกับผู้หญิง ซ้ำรูปร่างยังบอบบาง เล็กนิดเดียวถ้าเทียบกันกับตัวเขาเอง หากผมที่ตัดซอยเข้ารูปกับคิ้วเข้มกลับเป็นเครื่องบ่งบอกให้เห็นว่าคนที่ยืนตรงหน้าเป็นเพียงผู้ชายหน้าสวยรูปร่างผอมบางเท่านั้น

     

     

     

    ขอบคุณครับมิกกี้เอ่ยขึ้นก่อนที่จะเบี่ยงไหล่เลี่ยงที่จะดินเข้าห้องของตัวเอง หากคนใจดีกลับเอื้อมรั้งไหล่เอาไว้ เดี๋ยวมิกกี้หยุดและหันกลับมามอง พลางเลิกคิ้วถามว่ามีอะไร

     

    ความเงียบแม้ชั่ววินาทีทำให้เกิดความแปลกใจ สายตาที่หลุบต่ำลงหากมือขาวบอบบางกลับยังแตะไหล่ของมิกกี้อยู่ แต่พอทำท่าจะขยับปากถามย้ำอีกหน กลับยกมือออก ก่อนจะส่ายหน้าทำท่าเหมือนไม่มีอะไร แล้วก็เดินเลี่ยงไป

     

    มิกกี้มองตามหลังพลางขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจนักก่อนจะหันหลังกลับเดินเข้าห้องของตัวเองไปเช่นกัน ภายในห้องสี่เหลี่ยมกว้าง กองเอกสารสีขาวยังเกลื่อนไปหมด เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องเก่งยังทำงานของมันอยู่ไม่หยุดตลอดหลายวันที่ผ่านมา เพราะมิกกี้ไม่อยากพลาดข้อมูลสำคัญ เขาแค่ปิดหน้าจอและรอให้มันมีสัญญาณเตือนขึ้นก่อนจะเปิดดูเท่านั้น

     

    หากมันกลับเงียบกริบจนนึกสงสาร คืนนี้คงต้องปิดพักมันเสียบ้าง

     

    ขยับขาเดินเรื่อยเข้าไปยังห้องด้านในก่อนที่จะเอื้อมหยิบอาการแช่แข็งมาจับยัดใส่เตาอบลงไป ขายาวก้าวผ่านเดินเลี่ยงออกมาเข้าห้องน้ำและทำธุระส่วนตัว รอเวลาที่จะออกมาทานอาหารค่ำที่ตัวเองไม่แน่ใจนักว่ามื้อสุดท้ายที่มีข้าวตกลงกระเพาะมันเมื่อไร

     

    หากแค่เพียงคล้อยหลังไฟสีเหลืองที่แสดงถึงเตาอบกำลังทำงานกลับเปลี่ยนสี ก่อนที่มันจะดับลงควันสีขาวค่อย ๆ ก่อตัวล้อมรอบและแผ่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว กลิ่นไหม้คล้ายพลาสติกหลอมก็เริ่มแผ่กระจายทั่วห้อง

     

    เงาวูบที่โผล่พ้นม่านหน้าต่างก่อนที่เหมือนจะมีกระแสลมวนรอบบริเวณ มือขาวเนียนบอบบางโผล่พ้นทำท่าเหมือนจะจับต้องกลุ่มควันขาวนั้นได้ก่อนที่มันจะค่อย ๆ เลือนหายไป กลิ่นไหม้พาลเลือนหายไปด้วยอย่างน่าอัศจรรย์ ภายใต้ฮูทของเสื้อตัวอุ่นรอยยิ้มแย้มขึ้นอย่างสนุกสนานอารมณ์ดี ขาเรียวผ่านห้องต่าง ๆ ราวกับไม่ได้ก้าวเดินจนได้ยืนเสียงคล้ายเจ้าของห้องกำลังจะออกมาแล้วนั่นแหละถึงได้ชะงักถอยหลังทำท่าจะหลบหายอย่างเงียบเชียบอย่างตอนเข้ามา

     

    ถ้าไม่ถูกเสียงร้องเรียกรั้งที่ดังมาจากพื้นด้านล่างเสียก่อนล่ะก็

     

    ลูกแมวตัวน้อยสองตัวยืนจ้องตาแป๋วพร้อมกับส่งเสียงร้องออดอ้อนให้ต้องรีบก้มลงเอามือปิดปากพัลวันหากไม่ทันเมื่อเจ้าของห้องโผล่พ้นขอบประตูออกมาเสียแล้ว

     

    มิกกี้คิ้วขมวดด้วยความแปลกใจที่สุดเมื่อเห็นแขกที่เขาไม่ได้รับเชิญกำลังก้มลงลูบหัวลูบหางลูกแมวของเขา เมื่อมองไปที่ประตูหน้าห้องที่ยังปิดสนิท จำได้ว่าล็อคกลอนไว้แล้วนี่นา ที่สำคัญเขาไม่ได้ยินเสียงกดเรียกจากกริ่งสัญญาณหน้าห้องเลยแม้แต่น้อย เข้ามาได้ยังไงกัน

    โทษทีนะ พอดีของมันปลิวมาที่ห้องของนายชั้นก็เลย...........เอ่อ.......ปีนมาเก็บตอบออกมาราวกับล่วงรู้ความคิด หากคำตอบพอจะทำให้มิกกี้คลายความสงสัยไปได้บ้าง แล้วเก็บเรียบร้อยหรือยังล่ะขณะที่ถามสายตาก็มองหาของที่อีกคนอ้างถึงไปด้วย แต่มันกลับไม่เห็น พอลองจ้องมองให้ดีอีกหนกลับรู้สึกคุ้น ๆ หน้าเหมือนเคยเจอกันมาก่อน

     

     

     

     ชั้นช่วยนายเก็บของเมื่อกี้ไง แล้วก็ได้ของเรียบร้อย กำลังจะออกไปแล้วล่ะ แต่แมวของนายร้องเรียกเอาไว้เสียก่อนนี่ยักไหล่ตอบอย่างไม่สนใจอะไรนัก แต่ก็เป็นอีกครั้งที่คำตอบดูราวกับว่าล่วงรู้ว่ากำลังคิดหรือนึกอะไรในใจ หากมิกกี้พยักหน้ารับเลิกคิดวุ่นวายให้ปวดสมองอีก

     

    ถ้างั้นก็ขอตัวนะไปล่ะคราวนี้มิกกี้ก็ทันได้แน่ใจว่าเขาล๊อคประตูเพราะคนตัวบางใช้มือปลดล๊อคนั่นก่อนที่จะเลี่ยงเดินออกจากห้องไป ชายหนุ่มก้าวตามหลังมาด้วยความรวดเร็ว ทำท่าจะเรียกรั้งให้หยุดรอก่อน แต่อีกคนคงไม่ได้ยิน เพราะกลับตะโกนประโยคที่ทำให้ต้องประหลาดใจได้อีกรอบ

     

    ถึงเวลาที่นายต้องซื้อเตาอบใหม่แล้วนะ.....ไปล่ะทั้ง ๆ ที่แน่ใจว่าตามติดมาจนทันแต่พอมาถึงหน้าประตูกลับไม่มีใครอยู่แล้ว หนำซ้ำกลอนประตูที่ต้องล๊อคจากด้านในก็ลงล๊อคเรียบร้อยเสียด้วย

     

    เอ๊ะ~! นี่เราคงไม่ได้เหนื่อยมากจนฝันไปหรอกใช่มั้ย?

     

    ถามตัวเองก่อนจะเดินเข้ามาในครัว มือกว้างเอื้อมเปิดฝาเตาอบก่อนที่จะชะงัก ประโยคที่ปนเสียงหัวเราะคล้ายล้อเล่นดังแว่วกลับมาให้ได้ยินจนติดริมหู ซื้อเตาอบใหม่อย่างนั้นหรือ?”พึมพำถามตัวเองพลางยกสายไฟที่มันไหม้จนดำ

     

    ตอนไหน?? ไหม้ตั้งแต่เมื่อไร??ทำไมไม่รู้เรื่อง??

     

    บ้าน่ะ.....คงเพราะคน ๆ นั้นเข้ามาแล้วเห็นพอดีต่างหากไม่ใช่เรื่องเหนือธรรมชาติอะไรหรอก เซีย จุนซูนายเป่าหูเรื่องบ้า ๆ นี่จนชั้นเก็บเอามาคิดเป็นบ้าได้แล้วนะ

     

    มิกกี้บอกตัวเองว่าสมควรพักเสียทีก่อนที่จะเดินเข้าห้องไปนอนโดยที่ไม่คิดจะสนใจกินอาหารค่ำนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว

    .

    .

    ความเดือดเนื้อร้อนใจหลังจากที่ได้รับปากเอาไว้คริส ทำให้ตอนนี้คนที่ได้ชื่อว่าเป็นพี่ชายต้องมาทนฟังเสียงรบเร้าตั้งแต่เช้ากับคำที่น้องชายเอ่ยพร่ำแต่ว่า ให้ไปด้วยกันแต่ธุระก็ไม่ใช่ ไม่เห็นถึงความจำเป็นนั่นสักนิด พี่ชายที่คนข้าง ๆ พร่ำเรียกเงยหน้ามองขึ้นไปยังท้องฟ้าที่มีดวงไฟกลมสีแดงสว่างจ้าแสงอบอุ่นทาบทับบนผิวกายคลายความหนาวเย็นแสงสว่างในยามกลางวันเช่นนี้เป็นเวลาที่ฮวีชานน้องชายตัววุ่นใช้เวลาอยู่กับคริสได้ตลอดทั้งวันแต่เมื่อถึงเวลากลางคืน ก็ไม่อาจทำเช่นนั้นได้อีก

     

    เฮ่อ แล้วจะดื้อเพ่งไปทำไมกันนะ?....เจ้าตัววุ่น พี่ไม่ได้อยากเกี่ยวข้องหรือวุ่นวายกับสิ่งที่นายกำลังทำอยู่นี่สักนิด

     

    น้ำเสียงแว่วที่ปนอาการดื้อเพ่งเจอออดอ้อนเล็ก ๆ ที่ได้ยินทำให้คนที่กำลังนั่งฟังไม่อยากจะสนใจเลย แต่มันทำไม่ได้ เพราะถ้าเบือนหน้าหลบไปอีกทางใบหน้าบึ้ง ๆ ก็จะตามติดโผล่มาให้เห็นทุกคราวไป จำยอมเลยต้องถอนหายใจออกมายาว ๆ โบกมือพัลวันราวกับยอมแพ้คนจอมตื้อ

     

    ไปด้วยก็ได้ เลิกทำหน้าแล้วก็ตอแยแบบนี้ได้แล้วฮวีชานน้ำเสียงติดรำคาญเล็ก ๆ หากฮวีชานรู้ดีคนที่เป็นเหมือนพี่ชายของเขาคนนี้ไม่มีทางใจร้ายทิ้งให้น้องชายต้องไปผจญกับความวุ่นวายคนเดียวโดยไม่คิดช่วยเหลือหรอก

     

    ขอบคุณครับเอ่ยออกมาเสียงใสพลางขยับนั่งเบียดชิดอย่างเอาอกเอาใจ ทีหลังจะให้ทำอะไรยอมทุกอย่างเลย....คราวนี้แค่ตามใจคริสนี่ อยากไปด้วย พี่ก็รู้ผมไม่เคยได้อยู่กับคริสตอนกลางคืนซักทีคนฟังทำเสียงคล้ายระอาหากเข้าใจดี ถึงได้ยอมไปด้วยนี่ไงล่ะ

    .

    .

     

     

     

    ท่ามกลางแสงสีฟ้าอ่อนโยนในดินแดนที่ไม่มีแม้กลางวันกลางคืน วรองค์สูงค่อยก้าวเรื่อยตามแนวหินสีแก้วแววระยับ ภูษาสีขาวบริสุทธิ์พัดปลิวยามเยื้องกาย กระแลลมอ่อนพัดห้อมล้อมรอบองค์ แม้จรดพระบาท ณ ที่ใดก็ตาม

     

    โบกหัตเพียงแต่แผ่วเบา หากทวารใหญ่หนากลับค่อยกางเปิดออก สิ้นเสียงลั่นเลื่อน วรองค์สูงค่อยก้าวยาวใกล้ยังแท่นสีฟ้าอ่อนที่ราวกับมีกระแสไอแผ่ซ่านทั่วบริเวณ

     

    เบื้องหลังที่เด่นสง่า สายพระเนตรจับจ้องแน่นิ่งก่อนก้าวใกล้จนแทบจะประทับเคียงข้าง ถ้อยดำรัสเอื้อนเอ่ยขึ้นทันทีที่จรดพระบาทนิ่ง หากถ้อยรับสั่งกลับคล้ายเป็นกระแสลมบางเบา แค่ปลิดปลิวแว่วผ่าน ผู้ฟังไม่คิดเอื้อนเอ่ยตอบคำถามแต่อย่างใด

     

    ที่มนุษย์กำลังปั่นป่วนอยู่นั่นเพราะท่านหรือเปล่า รยู?”

     

    พระเนตรว่างเปล่าหันมาสบก่อนที่จะเบือนพักตร์แลหลบกลับไป พลางก้าวเคลื่อนหนี เดี๋ยวก่อน รยู เหตุใดไม่ตอบคำถามข้าหัตกว้างโบกขึ้นฉุดรั้ง บังคับกระแสลมให้กางกั้น หากทำได้แค่เพียงไม่นาน เพราะเนตรดำเหลือบหันกลับมา สบแลตอบด้วยความว่างเปล่าดุจเดิม หากริม โอษ เอ่ยถ้อยคำที่ทำให้คำถามกลับกลายเป็นแค่สายลมพัดผ่านไปจริง ๆ

     

    อย่ายุ่งเรื่องของเรา

     

    เท่านั้นที่ภูษาสีฟ้าทอประกายโบกพลิ้วเลือนหายไป ถ้อยดำรัสที่สั้นหากบ่งบอกความหมายจนทำให้รู้สึกเจ็บปวดลึก ๆ อีกครั้ง ตอกย้ำอีกหน

     

    จะตอกย้ำให้รู้สึกว่าด้อยค่า ไม่มีแม้ความหมาย ไม่จำเป็นต้องเอ่ยถ้อยคำซักนิด อีกกี่ครั้งกี่หนถึงจะรับรู้ได้ถึงสายสัมพันธ์ที่พระบิดาต่างย้ำให้จำมั่นหนักหนา

     

    ถ้าผู้ซึ่งเป็นพี่ชายไม่เห็นค่า แล้วน้องชายที่กำลังยืนนิ่งอยู่ตรงนี้จักต้องสนพระทัยไปทำไมเล่า ช่าง.....จะเป็นยังไงก็ช่าง.....ถ้าจะก่อเรื่องให้เสื่อมเสียผิดพลาด.....เพราะถ้อยดำรัสบ่งชี้ชัด.....อย่ายุ่ง.......

    .

    .

    TBC จ้ะ

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×