[Yaoi] Icarus
เพราะความสูญเสียซึ่งความรักก่อให้เกิดความโกรธแค้น เรื่องราวแฟนตาซี ของเหล่าเทพเจ้า จึงต่อเกิดขึ้น
ผู้เข้าชมรวม
308
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
[Starring] : Jin Tae Hwa, Chris , Hwi Chan , Shin Ki Hyun , Ryu , Lio
[Guest] : TVXQ
Intro
มือเรียวที่ขยับจะตักชีทเค้กก้อนเล็กขึ้นเข้าปากต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงกริ่งโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตัวเองดังขึ้น คงเพราะกลับมาถึงบ้านแล้วหยิบมันออกจากกระเป๋ากองทิ้งเอาไว้บนโต๊ะทำงานถึงได้ทำให้ต้องรีบลุกจากที่นั่งกลายเป็นการขัดความสุขเมื่อคิดจะพัก ผ่อนคลายความเหน็ดเหนื่อยของตัวเอง
สายเรียกเข้ากับชื่อที่ปรากฏทำให้คิ้วสวยขมวดมุ่นขึ้นด้วยความแปลกใจ ก่อนที่จะกดรับเสียงสดใสไม่เหมือนกับเวลาที่ล่วงผ่านมาเกือบจะใกล้สว่างของวันรุ่งขึ้นแบบนี้
"มีอะไรหรือไงพี่มิกกี้ นี่ไม่ใช่ดึกนะครับมันจะเช้าแล้วโทรมาได้ไงเนี่ย"น้ำเสียงออกอาการประชดประชันหากไม่จริงจังนัก เพราะรู้กันดีในกลุ่มว่าไม่ว่ามันจะเป็นเวลาไหนก็สามารถที่จะโทรหากันได้โดยไม่เดือดร้อนและถูกต่อว่า
"ครับ???"ปลายเสียงเร่งร้อนและยิ่งคำพูดที่ได้ยินยิ่งทำให้ต้องรีบก้าวเดินตรงไปหารีโมทโทรทัศน์ของตัวเองที่ตอนนี้ตกอยู่ตรงไหนก็ไม่รู้ ความรีบเร่งทำให้จะหยิบจับอะไรก็เงอะงะหาไม่เจอไปซะหมด
"เดี๋ยวครับพี่ ใจเย็นครับ ผมยังหารีโมทไม่เจอ"สะบัดผ้าห่มที่อยู่ตรงโซฟาตัวยาวของตัวเองออก จับพลิกหน้าหนังสือทั้งหลายให้มันปิดและวางเรียงกันเอาไว้ สายตาไล่หาวัตถุสีขาวเงินวาวที่แน่ใจว่ามันน่าจะตกอยู่แถวนี้ด้วยใจที่ร้อนรน
กว่าจะเจอว่ามันตกแน่นิ่งอยู่ใกล้ขาโต๊ะตัวเตี้ยก็กินเวลาไปหลายนาที มือบางรีบกดช่องเปิดรับสัญญาณก่อนที่ภาพข่าวที่ได้ยินจากปากคนที่โทรมาจะปรากฏให้เห็นต่อหน้า
มันเกิดขึ้นได้ยังไง??
รีบเปิดจอโน้ตบุคของตัวเอง ดูตารางกราฟต่าง ๆ ที่เฝ้าวิจัยและสังเกตการกันมานับปีตั้งแต่เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ เหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ในระยะเวลาปัจจุบันนี่
รีบกดเปลี่ยนช่องไปอีกเรื่อย ๆ หากภาพข่าวยังคงเป็นเหมือนกันทั้งหมด ภาพที่แสดงความหายนะที่ทุกคนไม่คาดคิดมาก่อน น้ำทะเลสีครามที่เคยสวยงามในความรู้สึกทุกคนกลายเป็นฆาตกรที่โหดเหี้ยมเมื่อมันกลายเป็นคลื่นขนาดยักษ์ไหลถล่มเมืองใหญ่อย่างนิวยอร์กจนทำให้ทั้งเกาะแมนฮัตตันกลายเป็นทะเลในพริบตา
ยอดเทพีเสรีภาพที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ที่ยิ่งใหญ่และน่าจดจำเสมอมาตอนนี้ที่กำลังเห็นกลับเป็นแค่ซากที่หักครึ่งเอียงล้ม ปลายมือที่เคยยกยอดถือคบเพลิงหักเอียงจนน่ากลัว สายน้ำยังคงโอบล้อมมันเอาไว้โดยรอบ
ภาพรายงานข่าวที่บรรดาผู้คนทั้งหลายถูกกลืนชีวิตหายไปกับสายน้ำ ความร่ำไห้เสียใจ โศกสลดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐฯ เอ่ยประกาศวิกฤตการนี้ในทันที ภาพช่องข่าวทุกช่องนำเสนอความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งในรอบหลายร้อยปีของอเมริกา
ตอนนี้เราไม่มีนิวยอร์กอีกต่อไปแล้ว เพราะมันหายไป หายไปพร้อม ๆ กับคลื่นยักษ์ที่โถมตัวถล่มทับจนพังพินาศยับเยิน
"ฟังอยู่ครับ ผมฟังอยู่"แม้อีกด้านจะส่งเสียงดังถามมาเมื่อไม่ได้รับการตอบรับเป็นเวลานาน แน่นอนว่าตัวเองก็กำลังตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เช่นกัน ความเจ็บปวดและสงสารเวทนาผู้คนเรือนแสนที่สูญหายไปยิ่งทำให้รู้สึกเหมือนหัวใจบอบช้ำ
มันช่างเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่โหดร้ายต่อมวลมนุษย์เหลือเกิน
"เราเฝ้าศึกษาเหตุการณ์แบบนี้มาตั้งแต่อดีตแล้วนะครับ ไม่มีเหตุอะไรเตือนว่ามันจะเกิดขึ้นเลยนี่นา"เสียงของอีกฝ่ายตอบกลับมาด้วยความแปลกใจเช่นกัน และดูเหมือนจะมีอีกหลายสิบเสียงแทรกมาให้ได้ยิน จนทำให้ขาเรียวเริ่มอยู่นิ่งไปได้ ก้าวเดินไป หยิบเสื้อโค้ทของตัวเองขึ้นคล้องแขน กดปิดโน้ตบุคและจอทีวีด้วยความรวดเร็ว
"ผมจะรีบไปหาที่ศูนย์ฯ ครับพี่..ทุกคนอยู่ที่นั่นกันหมดแล้วใช่มั้ย.แค่นี้นะครับ"
กดวางสายไปก่อนจะรีบเดินออกจากห้องพักตัวเอง ไม่สนใจเลยซักนิดที่จะหันกลับไปกดปิดล๊อกประตูห้องให้แน่นหนา ตอนนี้อะไรจะหายก็หายไปซิ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ต่างหากสำคัญกว่าเป็นไหน ๆ
เพราะที่เหล่านักวิทยาศาสตร์คำนวณ ที่ศาสตราจารย์หลายคนคิดกันเอาไว้ เหตุการณ์แบบนี้มันจะเกิดขึ้นได้ก็อีกเป็นร้อยปีข้างหน้านี่นา
แล้วมันเกิดขึ้นได้ยังไง ในปี ค.ศ.2020 นี่ล่ะ
.
.
.
ภายในห้องกว้างสีฟ้าหม่นเงียบกริบแม้เข็มตกซักเล่มก็คงได้ยิน ผืนม่านสีฟ้าอมเทากลืนสีพื้นของห้องปลิดปลิวพลิ้วตามสายลมอ่อนที่โชยชายกลิ่นกรุ่นหอมประหลาดที่ไม่สามารถหาได้จากที่ใดในโลก
บนเตียงนุ่มที่สลักเสลาสวยวิจิตรเป็นลวดลายบ่งบอกฐานะเจ้าของ บนเขนยนุ่มถูกทาบทับด้วยเส้นพระเกศาสีเงินละเอียดปรกไล้ใบหน้างดงามที่คมเข้ม วรกายที่โผล่พ้นแผ่นผ้าผืนเนียนนุ่มคล้ายะเปล่งประกายรัศมีสีเงินวาวแม้ในความมืดสลัวลาง ในยามนี้สายพระเนตรปิดสนิท หากในห้วงพระทัยกลับร้อนรุ่มวุ่นวายจนวรกายขยับพลิกเคลื่อนไหว
แม้ในภาพฝัน ทุกสิ่งทุกอย่างช่างชัดเจนนัก ความอ่อนโยนที่ได้รับแม้ยามแตะแต้มผิวแก้มสีเรื่อทำให้พักตร์เข้มแย้มโอษฐ์ออกมาอย่างเปี่ยมสุข ยิ่งมีเนื้อนุ่มนิ่มแอบชิดอิงซบอยู่ในอกยิ่งเอ่อล้นในหัวใจ ยิ่งรอยยิ้ม เสียงหัวเราะที่แว่วยินเสียงใส ไม่ว่าคราวใดก็อุ่นในอก ฉ่ำเย็นในใจจนไม่รู้จะหาอะไรมาเปรียบเปรยถึงความสุขที่กำลังได้รับนี้ได้
หากแต่พอทำท่าจะเอื้อมคว้าให้ร่างบอบบางเข้ามาแนบอกกว้างอีกหน กลับมีเพียงความว่างเปล่า ความอบอุ่นอ่อนหวานหายไปในชั่ววินาทีที่แค่หันหลัง เสียงหัวเราะที่ได้ยินเสมอเลือนหายราวถูกสายลมพัดพาจนสาบสูญ หากถ้อยคำที่เหมือนจะกระซิบให้ได้ยินจนชัดยิ่งทำให้ในอกร้าวรานและทรมานแสนสาหัส
..มนุษย์ช่างน่าสงสารเหลือเกิน ..
แม้พยายามฉุดรั้ง ค้นหา ก็ไม่มีแม้แต่ความอบอุ่นใด สุรเสียงที่พร่ำเรียกได้แต่สะท้อนก้องยาวไกลแต่ไม่มีสิ่งใดตอบกลับมา อ้างว้างโดดเดี่ยว และรู้สึกว่าตนเองกำลังยืนอยู่ลำพังท่ามกลางความหนาวเหน็บที่ชวนให้หวาดกลัว
ตะโกนก้องสุดเสียง เพรียกหาจนแทบขาดใจ สุดท้ายก็ไม่มีแม้แต่สิ่งตอบกลับมา
อาการหอบสะท้านจนอุระกว้างไหวกระเพื่อม เสียงหายใจหอบถี่ ชีพจรเต้นแรงเร็วจนต้องยกหัตถ์หนาขึ้นแตะและแทบจะต้องกุมเอาไว้แน่น แม้ในยามหลับเนตรก็ไม่เคยเลยซักครั้งที่จะพบกับความสงบ ความคิดถึงและเฝ้าคำนึงหาบุคคลอันเป็นที่รัก ที่ต้องพลัดพรากจากกันราวกลับไม่ว่าจะผ่านไปอีกร้อยกี่พันปีก็ไม่มีทางที่จะมาบรรจบพบเจอกันได้อีก
แม้เฝ้าตามหา ติดตามไม่ว่าจะเป็นหนแห่งใดในโลกนี้หรือว่าโลกไหน กลับไม่มีแม้เสียงสัญญาณ ไม่มีแม้แสงอบอุ่นที่คุ้นเคย ไม่รู้สึกแม้แต่เสียงกระซิบอ่อนหวานที่เคยประทับติดริมพระกรรณ
..เจ็บปวดจนทรมาน..ในอกเหมือนจะร้าวออกเป็นเสี่ยง ๆ ..
ความสูญเสียที่ไม่ว่าอะไรก็มาทดแทนไม่ได้ และยิ่งทำให้ดวงหทัยที่เคยอบอุ่นนี้บอบช้ำ โกรธแค้นในสิ่งที่มาพรากความอบอุ่นอ่อนหวานนี้ให้จากไป
อภัยไม่ได้ และไม่มีวันให้อภัย
หัตถ์ขาวโบกสะบัดเพียงเล็กให้ภูษาสีครีมเลื่อนหลุด ก่อนที่จะดำเนินเรื่อยออกไปตรงริมระบียงสูงสุดที่พาดทอทอดตัวมันยาวเหยียดสุดปลายสายตาจนไม่แน่ใจว่าจรดลงที่ใด
แสงสีฟ้าอ่อนที่เปรียบเสมือนท้องฟ้ายามค่ำยืน ทอแสงสีขาวเป็นจุดบางระยิบ แสงเล็กสีสุกสกาวคล้ายกำลังวิ่งเล่นทอแสงกันอย่างสนุกสนานจนกลายเป็นเหมือนเกล็ดเพชรสีขาวบริสุทธิ์สะท้อนแสงสีอุ่นที่กำลังทอดตัวข้ามมาในตอนนี้ ดวงเนตรคมเข้มจรดจ้องเฝ้าเพ่งมองนิ่งนาน หากแววเนตรกลับหม่นหมองทุกข์ระทมอยู่ในหัวใจจนพักตร์ที่แสดงออกมายามอยู่เพียงองค์เดียวดูอ้างว้างเปล่าเปลี่ยว
ดวงอาทิตย์ให้ความอบอุ่นเสมอ หากในจิตใจที่หนาวเหน็บนี้กลับไม่ได้ช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้นจากที่เคยเป็นเลยซักนิด มันช่วยไม่ได้ และไม่มีทาง
ภาพที่เหมือนเป็นกระจกบางใสด้านข้างพระหัตถ์ฉายให้ทอดพระเนตรมองดูอย่างรู้สึกสาสมในใจเป็นอย่างยิ่ง ต่อให้คร่ำครวญอ้อนวอนร้องขอ ต่อให้ทนทุกข์ทรมานแสนสาหัสก็ไม่มีวันอภัยให้อีกต่อไปแล้ว
เพราะสิ่งที่ทำให้พระองค์ต้องสูญเสีย ก็ควรที่จะเรียนรู้การสูญเสียเสียบ้าง เรียนรู้ที่จะทุกข์ทรมานด้วยดวงใจที่บอบช้ำนี้เสียที
ร่ำไห้ไปซิพวกมนุษย์ ร้องขอต่อไปซิ เพราะไม่มีพระเจ้าองค์ใดจะประทานความเห็นใจนั้นอีกแล้ว ในเมื่อพวกเจ้าเป็นคนทำลายความเห็นใจเหล่านั้นไปเองกับมือแท้ ๆ
ก็แค่คลื่นระลอกเล็ก ๆ ที่ซัดขึ้นบนผืนแผ่นดินที่เต็มไปด้วยมนุษย์ที่เห็นแก่ตัวเท่านั้น แค่นี้มันยังเล็กเกินไป ถ้าหากจะทำลายล้าง แค่ทำให้ผืนแผ่นดินทั้งผืนหายไป ทำไม มหาสมุทรจะทำไม่ได้
เพราะนี่แค่คำเตือน แค่ความรู้สึกเพียงเสี้ยวของความโกรธแค้นชิงชัง แค่เร่งให้วันเวลาที่มันจะเกิดขึ้นในอนาคตให้เร็วขึ้นเท่านั้น
แค่ของตอบแทนที่มาพรากสิ่งอันเป็นดังดวงหฤทัย......แค่นี้ยังน้อยนัก.......
หัตถ์กว้างกดบีบกระชับแน่นที่อุระข้างซ้ายแรง ๆ อาการสะท้อนลึกเป็นห้วงจนสะท้านไหว เนตรสีดำพันคล้ายหล่อรื้นด้วยหยดน้ำ ริมโอษฐ์แห้งสนิทหากยังพร่ำกระซิบแทบหฤทัยเจียนขาดรอน ๆ
........Ouranos ข้ารักเจ้า รู้ใช่มั้ย?.......รับรู้ถึงความรักจากข้าหรือเปล่า??.........
ผลงานอื่นๆ ของ Project_Y ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Project_Y
ความคิดเห็น