[Yaoi]...Alway There...TVXQ...
ฟิกชั่นเรื่องราวคู่ขนาน Icarus เมื่อเทพเจ้าฝ่าย แบทเทิลป่วน เทพเจ้าดงบังจะทำอย่างไร
ผู้เข้าชมรวม
248
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
INTRO
บนแผ่นพื้นดินที่น่าจะเป็นสีน้ำตาลแต่ตรงที่กำลังยืนอยู่นี่กลับมีพื้นดินเป็นสีขาวมันทอดตัวเหยียดยาวไกลประหนึ่งไร้ซึ่งจุดสิ้นสุด หมอกม่านสีขาวเช่นเดียวกันลอยปลิดปลิวบางเบาจนทำให้ขายาวที่กำลังก้าวเดินเชื่องช้าเริ่มหวั่นวิตกในใจ ทางเดินข้างหน้า ไม่รู้เลยซักนิดว่าจะต้องพบเจอกับสิ่งใดบ้าง
หากแนวกำแพงสูงสีเงินมีประกายวาวที่ตั้งเด่นตระหง่านตัดสีหมอกขาวและพื้นอ่อนใสคล้ายเป็นปราการปิดกั้น บานประตูไม้สลักสวยงาม กลับค่อย ๆ เปิดออก แค่เพียงเยื้องกายเข้าใกล้ แสงเรืองสีทองอ่อนอบอุ่นสาดส่องจนนัยน์ตาพร่าไปชั่วขณะ ก่อนที่ภาพทุกอย่างจะแปรเปลี่ยน
แผ่นพื้นดินสีขาวเปลี่ยนไป กลายเป็นต้นหญ้าสีเขียวที่ตัดแต้มแซมกลีบดอกไม้หลากสีสันส่งผลให้ท้องทุ่งกว้างใหญ่งดงามประดุจภาพวาดในจินตนาการ ต้นไม้สูงต่ำไล่กันราวกับว่าถูกช่างสร้างสรรจัดแต่งจนงดงาม
ช่วงขาวยาวค่อยก้าวอย่างมั่นใจขึ้นเจือปนความตื่นเต้นตกตะลึงกับภาพที่ได้เห็น กลิ่นกรุ่นหอมละมุนติดปลายจมูกทำให้สูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอด ก่อนชื่นชมธรรมชาติงดงามอย่างเพลิดเพลินที่ดูราวกับตัวเองว่ากำลังเดินทางอยู่ในดินแดนของสรวงสวรรค์
หากต้องสะดุดกายพลางยืนนิ่งเงี่ยหูฟังเมื่อราวกับว่าได้ยินเสียงตะโกนก้อง เจือจางเสียงร่ำไห้ดังแว่วพัดผ่านปลิดปลิวมากับสายลม จึงค่อยเริ่มต้นก้าวเท้าจับต้นตอของเสียง หากยิ่งใกล้ก็ยิ่งรู้สึกหวาดหวั่น
ภาพเบื้องหน้าที่ได้เห็นเมื่อซ่อนกายเบื้องหลังต้นไม้สูงใหญ่มันทำให้รอบคิ้วเข้มต้องขมวดมุ่น เสี้ยวด้านข้างของใบหน้าชายหนุ่มคนหนึ่งที่ยืนค้อมตัวอยู่สวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่เคยพบเจอมาก่อนเพราะสิ่งที่ดูเหมือนพิเศษในยามขยับกายแม้เพียงเล็กน้อย เนื้อผ้าสีอ่อนงดงามนั้นก็ราวกับจะเปล่งประกายทอแสงวาวระยิบ หากรูปร่างท่าทางของชายหนุ่มคนนั้นกลับดูคลับคล้ายคลับคลา ราวกับเคยพบเจอและเห็นหน้าที่ไหน ชายหนุ่มกำลังก้มลงกอดปลอบประโลมสตรีที่แต่งกายงดงาม หากแต่กำลังร่ำไห้เสียใจอย่างที่สุด
ถ้อยคำที่ได้ยินยิ่งสร้างความสงสัยมากยิ่งขึ้น กระแสเสียงแว่วอ่อนหวานไพเราะหากเศร้าจับจิต "แม่ไม่คิดจะเลือกหรอกลูกรัก เพราะแม่ทำอย่างนั้นไม่ได้"ถ้อยคำบ่งบอกสายสัมพันธ์ได้เป็นอย่างดี ยิ่งสตรีผู้งดงามนั้นร่ำไห้มากเท่าไรมือกว้างก็เหมือนจะโอบปลอบด้วยความกตัญญูในความเป็นลูก "แม่รักพ่อเจ้า แม่ทำไม่ได้ที่จะทิ้งพ่อเจ้าไป เพราะถ้าให้แม่ทำอย่างนั้นให้แม่สละทุกสิ่งทุกอย่างที่มีในตอนนี้ดีกว่า"
นางยังร่ำไห้ออกมาแผ่วเบา ฝ่ามือบอบบางยกขึ้นแนบสันแก้ม ปลายคางคนที่เป็นบุตรชายช่างอ่อนโยนนัก "เข้าใจแม่นะ.อย่าโกรธแม่นะ ได้มั้ย?"ยิ่งเอ่ยถ้อยคำถามซ้ำยิ่งทำให้น้ำตารินไหลลงมาอย่างไม่รู้ตัว ความรักระหว่างแม่ที่มีให้ลูกช่างยิ่งใหญ่จนมันสะท้านสะเทือนความรู้สึก เขาเองซึ่งเป็นแค่เพียงคนที่บังเอิญผ่านมาได้เห็นความอ่อนโยนและรักใคร่นี้ยังซาบซึ้ง แล้วตัวบุตรชายของนางเล่า จะรู้สึกเท่าใด
ผู้หญิงคนนั้นพยายามที่จะกลืนก้อนสะอื้นก่อนจะยันตัวลุกขึ้นด้วยเรี่ยวแรงที่ยังพอหลงเหลือ และจากความช่วยเหลือจากท่อนแขนกว้างที่โอบกอดดึงรั้งของบุตรชายตัวเอง นางยกมือขึ้นแตะแต้มใบหน้าบุตรชายไปมาก่อนที่จะค่อย ๆ ถอยห่าง "เข้าใจแม่ซินะใช่หรือเปล่า?"
ชายหนุ่มที่เมื่อครู่แค่ยืนให้เห็นด้านข้าง ไม่สามารถเห็นวงหน้าครบถ้วนตอนนี้กลับหันมาให้จ้องชัด เมื่อทำท่าจะเข้าไปฉุดรั้งมารดาตัวเองแล้วกลับถูกโบกปัดแม้ไม่ถูกเนื้อตัวแต่กลับต้องถอยห่างออกไปราวกับโดนอะไรมาปิดกั้น และนั่นมันทำให้สะดุดตกใจอย่างไม่คาดคิด
"อย่าโกรธเคืองพ่อ อย่าตามหาแม่เลยนะลูก จงเป็นกลางกับทุกสิ่ง แม่เชื่อว่าเจ้าจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง"เพียงจบประโยคร่างบอบบางกับผืนผ้าสีสวยก็ค่อยเลือนหายไป หากภาพความตกใจตื่นตระหนกของชายหนุ่มผู้นั้นยิ่งทำให้ขาของผู้ที่เฝ้ามองนิ่งอยู่ค่อยทรุดลงราวไร้ซึ่งเรี่ยวแรง
หยดน้ำตาที่หากได้เกิดเป็นชายแล้วไม่ควรยอมพ่ายแพ้กับความอ่อนแอกลับหยาดรินไม่ขาด แม้ไม่มีเสียงร่ำไห้เลยซักนิดหากรู้สึกได้ถึงความเจ็บช้ำปวดลึกลงไปในเนื้อหัวใจ เพราะที่มารดาเลือนหายไปต่อหน้ามันราวกับว่าจะไม่มีวันได้พบเจอกันอีกแล้วไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานเท่าใด
และยิ่งพาลเจ็บปวดร่ำไห้ไปด้วย สะท้านในอก ปวดร้าวระบมในหัวใจเช่นกัน เพียงเพราะใบหน้าของชายหนุ่มคนนั้น เหตุใดช่างเหมือนตัวเขาเองราวกับเกิดมาจากพิมพ์เดียวกันเช่นนี้
TRR TRR
เสียงแผดดังของเครื่องโทรศัพท์ทำให้ภาพความฝันนั้นพร่าเลือนและจางหายไปอย่างรวดเร็ว ดวงตาสีเข้มลืมโพลงตื่นขึ้นภายใต้ความมืดมิดของราตรีกาลค่อยๆกระพริบถี่ยิบก่อนที่จะเหลียวซ้ายขวามองผ่านความมืดมิดนั้นไป แสงไฟจากด้านนอกสะท้อนจนบนเพดานมีร่องรอยเหลือบสีขาวให้เห็น ความฝันแบบเดิมที่เวียนวนซ้ำไปซ้ำมาในทุกยามค่ำคืนที่ดำดิ่งสู่นิทรา มิกกี้สะบัดศีรษะไปมาเพื่อไล่ความตึงเครียดนั้นออกไป ไม่ว่าจะกี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ความฝันนี้ยิ่งเหมือนกับตอกย้ำความรู้สึกเจ็บปวดและแสนทรมานลงไปข้างในหัวใจให้บอบช้ำ เหมือนกับเป็นความทรงจำที่เขาพยายามลืมแต่ภาพฝันกลับยิ่งชัดเจนขึ้นทุกวัน ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร? แล้วทำไมคนที่หน้าเหมือนเขาจนรู้สึกหมือนเป็นตัวเขาเองถึงได้อยู่ที่นั่น? โอ๊ย~~ ชายหนุ่มใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้บีบไปที่ขยับกดลงไปเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดหนึบเมื่อพยายามนึกจนต้องละทิ้งความตั้งใจนั้นไป เคลื่อนขยับกาย เอื้อมแขนควานหาปุ่มสวิตไฟ และลุกขึ้นนั่งหลังพิงหัวเตียงเมื่อเอื้อมหยิบโทรศัพท์ที่มันส่งเสียงร้องปลุกจนตื่นลืมตาขึ้นมาในตอนนี้
"ฮัลโหล"กรอกเสียงลงไปแม้จะแหบพร่า มือด้านว่างกดคลึงหนัก ๆ ที่หน้าผากไล่เรื่อยลงมาตามแนวจมูกที่โด่งรับใบหน้าจนเด่น หากไม่ทันได้ผ่อนคลายคิ้วเข้มก็กลับขมวดมุ่นจนแทบจะผูกติดกันเป็นโบว์ได้รอมร่อ เหงื่อเม็ดเล็กซึมผ่านไรผมตรงหน้าผากออกมาทั้งที่อากาศภายในห้องเย็นสบายด้วยแอร์คอนดิชั่น
"อะไรนะ?"สะบัดผ้าห่มออกจากตัว เผยให้เห็นแผงอกกว้างแข็งแรง เจ้าตัวเอนตัวเอื้อมหยิบเสื้อที่ถอดทิ้งเอาไว้มาสวมลวก ๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนนิ่งรับฟังถ้อยคำจากอีกฝ่ายด้วยอาการตื่นตะลึง
"10 นาทีชั้นขอเวลาแค่ 10 นาทีน่ะ.....อืม...เจอกัน" ชายหนุ่มรีบผลุนผลันออกไปจากห้องจนเกือบลืมล็อคประตู มือขาวข้างหนึ่งติดกระดุมเสื้อที่ไม่เรียบร้อยกับอีกมือหอบเอกสารแฟ้มหนาในอ้อมแขน ในใจร้อนรนกับข้อความที่ได้รับสาย "เกิดเหตุการณ์คลื่นยักษ์ถล่มเกาะแมนฮัตตัน ข่าวเพิ่งรายงานเมื่อกี้นี่เองนายรีบมาที่ศูนย์เดี๋ยวนี้เลยนะ มิกกี้"
.
.
ในห้องทำงานวิจัยธรณีวิทยาในคณะวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยชื่อดัง เสียงสัญญาณสีแดงที่ดังขึ้นรัวทำให้เซีย จุนซูที่อยู่เฝ้าเวรในห้องควบคุมสัญญาณวัดระดับคลื่นของน้ำในมหาสมุทรต้องชะงักมือเรียวหยุดการทำงานทุกอย่างของตัวเองลง พลางเอื้อมเปิดจอเผยภาพที่กำลังแสดงอยู่ให้เห็น ภาพของคลื่นที่พัดตัวหมุนเป็นวงกลมสีแดงกำลังเคลื่อนตัวด้วยความเร็วอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเคลื่อนขึ้นบนพื้นดิน ร่างบางยืนนิ่งงันตัวชาวูบ หากเสียงสัญญาณอีกด้านที่แผดดังขึ้นทำให้ต้องหันหลังกลับรีบกดปุ่มพิมพ์ชาร์ตที่ตอนนี้เข็มเล็ก ๆ นั่นกำลังวิ่งเร็วขีดเส้นขึ้นลงสูงต่ำอย่างน่าตกใจ
เกิดอะไรขึ้น.ไม่ซิเกิดขึ้นได้ยังไง.
หันหลังกลับพลางกดคีย์ข้อมูลลงไปในเครื่องคอมพิวเตอร์ ตัวเลขประมวลผลต่าง ๆ แสดงเด่นหราหากขัดแย้งกับภาพเหตุการณ์สุดโต่ง
...ที่ไหน??....ทำไมลางสังหรณ์ในใจมันถึงได้ทำให้รู้สึกหวาดหวั่นนัก.....
คีย์ข้อมูลพลางดึงภาพจากดาวเทียมให้เข้ามายังเครื่องคอมพิวเตอร์ของตัวเอง หากยิ่งสัญญาณภาพชัดมากขึ้นเท่าไรความหวาดหวั่นในใจก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น มือเรียวกดคีย์ค่าความต่างเริ่มสั่นมากขึ้นเรื่อย ๆ ซ้ำยังบังคับให้มันหยุดสั่นไม่ได้ ภาพในจอมอนิเตอร์ชัดเจนมากยิ่งขึ้น สีน้ำตาลเข้มที่ตัดกับสีน้ำเงินของท้องน้ำมหาศาลทำให้หลังเย็นวาบ เหงื่อซึมราวกับจะเป็นลมวูบทรุดกองกับพื้น
เทพีเสรีภาพที่เคยเป็นสัญลักษณ์สำคัญกำลังจะจมหาย คลื่นลูกยักษ์ที่สูงมากกว่าภูเขาทั้งลูกถาโถมซัดถล่มมหานครนิวยอร์กจนทั่วทั้งพื้นดินกลับกลายเป็นท้องน้ำคล้ายคลึงมหาสมุทร แมนฮัตตันทั้งเกาะถูกกลืนหายไปแล้ว รวมทั้งนับแสนนับล้านชีวิตที่ต้องจากไปด้วย
จุนซูยกมือขึ้นปิดปากตัวเองก่อนจะทรุดกายลงกับพื้น แข้งขาอ่อนเพลี้ยไร้ซึ่งเรี่ยวแรงใด ๆ หากสติสัมปชัญญะสั่งการให้รับรู้และต้องทำบางอย่างเพื่อความแน่ใจ
หากหวาดกลัว.....กลัวจนตัวสั่นเทาไปหมดแล้ว
ความหวาดกลัวเกาะกุมจิตใจ หวั่นพรั่นพรึงจนมือที่พยายามเอื้อมหยิบโทรศัพท์ของตัวเองแทบตกหล่นลงพื้น นิ้วเรียวแตะกดหมายเลขที่จำขึ้นใจพลางภาวนา อ้อนวอนร้องขอพระเจ้าให้เมตตาและประทานความสมหวังกับการสวดอ้อนวอนในครั้งนี้
หากปลายสายกลับไร้ซึ่งสัญญาณเสียง ไม่มีแม้การตอบรับจากข้อความอัตโนมัติ หรือว่า อย่าบอกนะว่าสิ่งที่หวาดกลัวมันเกิดขึ้นแล้ว ไม่จริงใช่มั้ย?
ลองกดย้ำลงไปอีกครั้ง หากสิ่งที่ตอบแทนกลับมากลับเป็นดุจเดิม มือบอบบางวางโทรศัพท์ของตัวเองลงไปด้วยอาการสั่นปร่าสุดจะระงับ หยาดน้ำตาหยดเล็กไหลรินลงมาเงียบ ๆ จุนซูกอดเข่าตัวเองซุกซบใบหน้าแนบชิดกันเอาไว้ กอดรัดรอบตัวแน่นคล้ายปลอบประโลมให้กำลังใจทั้ง ๆ ที่ตอนนี้เจ็บปวดจนยากที่จะหยัดยืนกลับมามีชีวิตได้เหมือนตามปกติ
สิ่งมีค่าที่สุด มีความหมายที่สุดในชีวิต ถูกพรากจากไปแล้วด้วยน้ำมือของมหาสมุทรกว้าง แล้วต่อจากนี้สิ่งที่ตัวเองเพียรพยายามทำอยู่ทุกอย่างทุกวันจะทำเพื่อใครกันอีกเล่า? เคยวาดหวัง ฝันทุกวันคืนว่าอีกไม่นานระยะทางที่แผ่กั้นจะทอนสั้นลง เพียรพยายามมากเท่าไรเพื่อที่จะได้ใกล้ชิด ให้ได้อยู่ด้วยกัน ตอนนี้ความพยายามเหล่านั้นไม่มีความหมายใด ๆ อีกแล้ว
ชีวิตที่เปรียบเสมือนเติบโตมาด้วยกัน หัวใจที่ต่างพร่ำบอกว่าไม่มีข้อแตกต่างกันเลยซักนิด แม้ลมหายใจก็เข้าออกเป็นสิ่งเดียวและปรารถนาเหมือนกันมาตลอด แล้วทำไมตอนนี้สิ่งที่เปรียบเสมือนทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิตจึงจากหายไปได้แบบนั้น
พระเจ้าเหตุใดจึงใจร้ายนัก หรือลูกเคยกระทำความผิดหนักสาหัสต์มากนักถึงได้ถูกหัตของพระองค์ดึงรั้งสิ่งอันเป็นที่รักของลูกไป ต่อให้ร่ำไห้โหยครวญกับการสูญเสียมากแค่ไหน สิ่งที่ตอบแทนกลับมาก็คือความอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวที่จะต้องใช้วันเวลากี่วันกี่คืนถึงจะเยียวยาให้หายบอบช้ำได้กันเล่า
ความรักและผูกพันที่มีให้แก่กันและกันเสมอ รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ความใจดีเข้าอกเข้าใจ แม้แตกต่างกันที่ร่างกายแต่จิตใจกลับเป็นหนึ่งเดียว ตอนนี้หัวใจต้องแยกจากกันเสียแล้ว ร่างกายจักแยกจากกันตลอดกาล ได้รับรู้หรือเปล่าว่าเจ็บปวดมากขนาดไหน มันเจ็บปวดเจียนขาดใจ
ภาพความรักและความผูกพันต่าง ๆ ราวกับภาพฝันไหลย้อนให้นึกถึง และมันก่อเกิดสร้างความเข้มแข็ง น้ำเสียงและรอยยิ้มที่จารลึกในความทรงจำทำให้ค่อยยันตัวลุกขึ้น รอยแย้มยิ้มและให้กำลังใจเสมอปรากฏภาพมาเป็นฉากจนทำให้จุนซูยกมือปัดไล่หยาดน้ำตาตัวเองให้มันหยุดไหลเสียทีก่อนที่จะคีย์กดข้อความบันทึกทุกอย่างที่คอมพิวเตอร์ค้นเจอเอาไว้
ไม่ใช่แต่ตนเองที่สูญเสีย ผู้อื่นก็ร่ำไห้เสียใจไม่แพ้กัน ตอนนี้ที่ต้องทำคือพยายามไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก นี่คือสิ่งที่ผมต้องทำใช่มั้ยครับ ใช่มั้ยพี่จุนโฮ
.
.
"เป็นไงบ้างจุนซู"น้ำเสียงรีบร้อนถามมาให้ได้ยินพร้อม ๆ กับบานประตูที่เปิดออกอย่างแรง เซีย จุนซูหันกลับไปมอง สายตาไล่เรื่อยตามใบหน้าและสภาพของผู้เข้ามาใหม่ ที่รีบร้อนเหลือเกินนั้น พลางชี้มือไปยังบรรดาข้อมูลต่าง ๆ ภาพที่คอมพิวเตอร์ประมวลผลแล้วนั่นให้ดู ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นน้ำเสียงราบเรียบราวไม่สะดุ้งสะเทือนอะไรเลยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
"อีกไม่เกิน 5 นาทีแทฮวาคงโผล่มาใช่มั้ยมิกกี้"
TBC จ้ะ
ผลงานอื่นๆ ของ Project_Y ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Project_Y
ความคิดเห็น