เรื่องดีๆครั้งหนึ่งในชีวิต
ผู้เข้าชมรวม
1,400
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เรื่องดีๆครั้งหนึ่งในชีวิต
ในบ้านหลังเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ตั่งอยู่ที่ข้างทะเลสาบชายป่าเขียวขจี ที่อยู่ห่างไกลหมู่บ้าน หญิงชรา
กำลังมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเลื่อนลอย เธอคือเจ้าของบ้านหลังนี้ ในบ้านไม่มีใครเลยนอกจากเธอ
เธออยู่คนเดียวมาตลอด 40 ปี เมฆที่ลอยไปมาทำให้เธอเกิดคำถามในใจว่า ทำไมต้องเป็นเธอที่อยู่คนเดียว เธอไม่มีลูกหลานหรือแม้แต่คนรัก ด้วยรูปร่างหน้าตาที่งดงามราวกับนางฟ้า เมื่อตอนสาวๆ ทำไมเธอถึงไม่มีใครสักคน
ทุกคนในหมู่บ้านกล่าวหาว่าเธอเป็นแม่มด ที่ยอมขายวิญญาณให้แก่ซาตานเพื่อแลกกับใบหน้าที่งดงาม
"ทำไมกัน"หญิงชราพึมพัมกับตัวเอง "ถ้าฉันเป็นแม่มดได้ก็ดีน่ะซิ ฉันจะได้สาปพวกแกให้สาสมกับที่พวกแกได้ทำกับฉัน"
หญิงชราลูบใบหน้า แล้วถอนหายใจอย่างเสียดาย
แต่นี้มันคือต้นเหตุไม่ใช่รึ เธอคิด เธอเคยนึกเกลียดใบหน้าที่งดงามนี้ ถึงขั้นคิดที่จะทำลายมัน แต่เธอก็ไม่กล้าพอ
แต่นั่นก็ถูกแล้ว เพราะสิ่งนี้ได้ทำให้เธอได้พบกับความสุขที่มีอยู่ไม่กี่ครั้งในชีวิต
[u] ในปี 1xxx ศตวรรษที่6[/u]
ที่ริมทะเลสาบชายป่า ทะเลสาบที่มีชื่อว่า วินนิกซ์ หญิงสาวคนหนึ่ง กำลังนั่งทอดอารมณ์อยู่ริมแม่น้ำ เธอมีความงามที่โดดเด่นสะดุดตา อารมณ์ขุ่นมัวทั้งหมดของเธอที่ออกมาในรูปของ 'น้ำตา' กำลังหยดแหมะลงบนผืนน้ำ
เธอพึ่งถูกคนในหมู่บ้านขับไล่ออกมา แต่โชคดีที่เธอไม่ถูกจับเผาทั้งเป็น ด้วยความช่วยเหลือของหัวหน้าหมู่บ้าน เธอจึงแค่ถูกไล่ออกมาจากหมู่บ้าน
" มันเหมือนกับการไล่ไปตายนั้นแหละ" คำพูดของหัวหน้าหมู่บ้าน ชี้แจงให้ลูกบ้านฟัง เพื่อพวกนั้นจะได้ปล่อยเธอไป
ผู้หญิงในหมู่บ้านมากมายต่างชิงชัง และต้องการให้เผาเธอ
"เจ้าชอบอะไรในที่แห่งนี้รึ ข้าเห็นเจ้ามาที่นี่ประจำ เจ้ามาที่นี่เพื่อ--ร้องไห้"เสียงหนึ่งดังขึ้น
เธอหันไปมองต้นเสียง เขาเป็นชายหนุ่มวัยรุ่นอายุไม่น่าจะเกิน15 เขามีผิวสีซีด ราวกับคนไม่สบาย
"เจ้าเป็นใคร"เธอถาม
"ข้าเป็นแค่ผู้ที่อาศัยอยู่แถวนี้ ข้าชื่อวิลเลี่ยม ว่าแต่ท่านเป็นใคร"
"ข้าชื่อ อิซาเบล ยินดีที่ได้รู้จัก วิลเลี่ยม"อิซาเบลพูด พลางมองวิลเลี่ยมอย่างสำรวจ
"เจ้าไม่สบายรึเปล่า? เจ้ากลับบ้านไปเถอะข้าอยู่คนเดียวได้"เธอพูดต่อ
"เปล่า อิซาเบล ข้าสบายดี"
"งั้งก็ดีแล้วล่ะ ว่าแต่ในที่แบบนี้มีบ้านคนอยู่ด้วยรึ?"
"มีซิ บ้านข้าไง"
"เจ้าอยู่คนเดียว?"
"นั่นคือคำถามใช่มั้ย" วิลเลี่ยมจ้องอย่างต้องการคำตอบ อิซาเบลพยักหน้ารับ
"ใช่ ข้าอยู่คนเดียว" เขาตอบ
"เด็กอย่างเจ้าเนี้ยนะอยู่คนเดียว!"อิซาเบลพูดอย่งตกใจ วิลเลี่ยมพยักหน้า
"ในป่าแบบนี้เนี้ยนะ"เธอเสียงเบาลง "เจ้าอยู่ได้รึ เจ้าเป็นเด็กที่เก่งมากทีเดียว"
วิลเลี่ยมหัวเราะ "เก่งรึ? โอ้ไม่หรอก ข้าก็อยู่ของข้ามาแบบนี้นานแล้ว"
เขาแหงนหน้าขึนฟ้า แล้วเอาแขนขึ้นบังแสงแดดอ่อนๆที่สอดส่องลอดปลายไม้มา เขาหันหน้ากับมาหาอิซาเบล
"ข้าต้องไปแล้วล่ะ"
"งั้งรึ ไว้ค่อยเจอกันคราวหน้านะ ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่นี้"อิซาเบลส่งยิ้มให้เด็กหนุ่ม เขาโบกมือลาก่อนจะหันหลังเดินเขาป่าไป
อิซาเบลมองส่งเขาจนลับสายตา
"เฮ้อ "เธอถอนหายใจ สายตาจ้องกลับไปที่ทะเลสาบ ในใจคิดว่า แล้วเธอจะทำยังไงต่อไปดี
ดังเช่นทุกวันหลังจากนั้น วิลเลี่ยมและอิซาเบลก็มาเจอกันที่นี้ทุกวัน แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกพิสวาท เด็กหนุ่มแม้แต่น้อย เขาเป็นเพียงน้องชายที่น่ารักสำหรับเธอเท่านั้น ผิดกับความรู้สึกของวิลเลี่ยมที่นับวันเขายิ่งหลงใหลในความงามของเธอ
อิซาเบลย้ายบ้านมาอยู่ที่ข้างทะเลสาบ หลังจากที่ถูกไล่ออกจากหมู่บ้าน วิลเลี่ยมมาเยี่ยมเยียนอิซาเบลทุกวันที่บ้านของเธอ เขาแนะนำให้เธอรู้จักกับเจ้าชายแห่งทะเลสาบ ชื่อของเขาคือเฮนรี่ เขาอาศัยอยู่ที่ก้นทะเลสาบ เฮนรี่เป็นชายลักษณะผอมสูง
จะเรียกได้ว่าหน้าตาดีก็ว่าได้ เขามีผมสีออกเทาๆ นับว่าเป็นสีผมที่แปลกมากทีเดียว เฮนรี่เป็นเพื่อนกับวิลเลี่ยมมานานแล้ว อิซาเบลไม่มีทางรู้หรอกว่าเขาไม่ใช่คน
"อิซาเบลเราออกไปเที่ยวข้างนอกกันเถอะ"วิลเลี่ยมเอยปากชวนอิซาเบลในวันหนึ่ง
"เอ๋?" อิซาเบลเงยหน้าขึ้นจากกี่ทอผ้า แล้วทำหน้างงๆ "ที่ไหน?"
วิลเลี่ยมลดเสียงลง "ในป่า"
"เอ๋? O_o!!!!"อิซาเบลอุทานเสียงดัง "เกิดอะไรขึ้นวิลเลี่ยม? ร้อยวันพัยปีเจ้าไม่เคยชวนข้าไปป่า ก็เจ้าไม่ใช่เหรอที่ห้ามนักห้ามหนาไม่ให้ข้าเข้าป่าน่ะ"
"อืมม์....ถ้าไปกับข้าก็ไม่เป็นไรนิ่ ไม่อันตราย มีข้าอยู่ด้วยทั้งคน"
"ไม่ค่อยจะหลงตัวเองเลยนะ เจ้าน่ะ -o-"
"เฮนรี่ด้วยอีกคนไง"
อิซาเบลจ้องวิลเลี่ยมตาเขม็ง อย่างสงสัย
"น่าา.......นะๆๆๆๆ ได้โปรดเถอะน่าา....าด้าย...ยโปร..ด"วิลเลี่ยมอ้อนวอน ตาเป็นประกายด้วยความหวัง
"เจ้านี่ยังเด็กจริงๆเลยนะ เฮ้อ"อิซาเบลถอนหายใจพร้อมกับส่ายหัว "ก็ได้ ไปก็ไป"
"เย้! ^O^ "วิลเลี่ยมร้องลั่นบ้านของอิซาเบล
ระหว่างทาง
"นี่ วิล มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอมาปิ๊กนิ๊กกับกลางป่าทึบแบบนี้น่ะo_o"อิซาเบลพูดเดินเบียดวิลเลี่ยมพลาง
กอดตระกร้าปิ๊กนิ๊กแน่น สายตาสอดส่องไปมาอย่างหวาดกลัว ส่วนเฮนรี่นั้นเดินหอบเสื่อผืนใหญ่รั้งท้ายด้วยสีหน้าเรียบเฉย
"อย่ากลัวไม่เข้าเรื่องน่า อิกซ์-เบล"เฮนรี่พูดเสียงเรียบๆ
"โทษทีนะ 'ไก่'(เฮน)ข้าชื่ออิซาเบล -o-"
"โทษที อิกซ์ ข้าชื่อเฮนรี่ไม่ใช่ เฮน"เฮนรี่ทำสีหน้าเลียนแบบอิซาเบลหรืออิกซ์
"อย่าถือสาเค้าเลยน่า อิกซ์"วิลเลี่ยมหันมาพูดกับอิซาเบลพร้อมกับปรายตาไปบอกเฮนรี่ ว่าให้หยุด
"ได้โปรด วิล อย่าทำหน้าแบบนั้น มันทำให้ข้าขนลุก"เฮนรี่พูดด้วยเสียงเรียบๆเหมือนเดิม ไม่ผิดหรอกที่เขาพูดแบบนั้นเพราะสายตาของวิลเลี่ยมในตอนนี้น่ากลัวมาก มันบอกความหมายว่า 'นายทำเสียบรรยากาศนะ'
อิซาเบลชักรู้สึกหมั่นไส้เฮนรี่ขึ้นมาตะหงิดๆ จนลืมไปเลยว่ากำลังอยู่ท่ากลางป่ารกทึบอันน่ากลัว พวกเขาเดินไปอีกนาน แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะถึงจุดหมายสักที จนอิซาเบลบ่นแล้วบ่นอีก วิลเลี่ยมได้แต่เดินนำทางไปเงียบๆ ยิ่งเดินเข้าป่าก็ดูเหมือนกับยิ่งมืด
รอยเท้าฝังลึกลงไปในดิน ไม่มีแม้แต่เสียงนก อากาศเย็นชื้นของที่นี้ให้ความรู้สึกเฉอะแฉะ ความชื้นในอากาศที่สูงทำให้ดินโดยรอบนิ้มและเละ หยดน้ำค้างมากมายบนใบไม้ไม่ได้ช่วยให้บรรยากาศดีขึ้นเลย
"นี่อิกซ์ เรามาทะเลากันเล่นเถอะ"เฮนรี่พูดขึ้น การแสดงสีหน้าของเขาบ่งบอกถึงความเบื่อได้อย่างเด่นชัด มันคงจะหน้าเบื่อมากจริงๆเพราะโดยปกติแล้วเฮนรี่จะไม่ค่อยแสดงอารมณ์ทางสีหน้าสักเท่าไหร อิซาเบลก็ทำหน้าได้เบื่อไม่แพ้กัน เธอหน้ามาหาเขาอย่างหน่ายๆ
"จะบ้ารึไง เฮนรี่" เธอพูด "เฮ้ วิล จะไม่พักหน่อยเหรอ"
โครม!อิซาเบลชนกับวิลเลี่ยมเข้าอย่างจัง วิลเลี่ยมเซไปกระแทกกับต้นไม้อีกทีก่อนจะล้มลงกับพื้นดิน
"ว๊าย!ข้าขอโทษ วิลเป็นไงบ้าง"อิซาเบลดึงแขนวิเลี่ยมขึ้นมา ตัวของเขาเปื้อนดินไปหมด
"ไม่เป็นไรอิกซ์"
"อยู่ๆเจ้าก็หยุดเดิน" อิซาเบลขมวดคิ้ว
วิลเลี่ยมชี้ไปข้างหน้า อิซาเบลมองไปตามปลายนิ้วขอวิลเลี่ยม
"ถึงแล้วล่ะ" เขายิ้ม ภาพข้างหน้าทำให้อิซาเบลแปลกใจมาก เธออ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก ภาพข้างหน้านั้นสวยงามมาก
ทุ่งหญ้ากว้างใหญ่แสงแดดเจิดจ้าและอบอุ่น สายลมอุ่นบางเบาพัดผ่านเธอไปช้าๆ ดอกไม้นานาพันธุ์โบกพลิ้วเล่นไปกับสายลม
มันน่าแปลกใจมาก เพราะกลางป่ารกทึบอย่างนี้ไม่น่าจะมีสถานที่สวยงามขนาดนี้ได้ เธอเดินผ่านวิลเลี่ยมเข้าไปสู่ทุ่งหญ้า เธอหันหลังกลับมามองวิลเลี่ยม
"ที่นี่สวยมาก" เธอยิ้มอย่างร่าเริง "รู้มั้ย ฉันหายเหนื่อยเลยล่ะ"
เฮนรี่เดินเข้าไปในทุ่งหญ้าอีกคน เขาปูเสื่ออย่างรู้หน้าที่ "มาซิ อิกซ์ เอาของมาวาง" เขาพูดสีหน้ายังเรียบเฉยเหมือนเดิม
วิลเลี่ยมเดินตามมาแล้วหย่อนก้นลงบนเสื่อ อิซาเบลเตรียมอาหารมือเป็นระวิง รอยยิ้มยังไม่จางหายไปจากใบหน้าของเธอ
หลังจากทีทุกคนอิ่มกันแล้ว ก็ล้มตัวลงนอน ชี้ชวนให้กันดูก้อนเมฆรูปร่างต่างๆ
"วิล เจ้ารู้ได้อย่างไรว่ามีที่สวยงามแบบนี้" อิซาเบลถาม สายตายังคงจับจ้องอยู่บนท้องฟ้า
"เมือวันก่อนข้าเข้าป่ามา แล้วก็มาเจอกับที่นี่แหละ"
"หืม " เธอเลิกคิ้ว "แค่นี้เหรอ"
วิลเลี่ยมพยักหน้าตอบ
"วิล บ้านเจ้าอยู่ไหน เจ้าไม่เคยพูดถึงมันเลย"อิซาเบลถามต่อ
เฮนรี่หันมาสบตาวิลเลี่ยมอย่างรู้กัน
"เอ่อ... อิซาเบลเจ้าจะไปบ้านข้าก็ได้นะ บ้านข้ายินดีต้อนรับเสมอ"วิลเลี่ยมพูด เฮนรี่ถลึงตาใส่วิลเลี่ยมจากด้านหลังของอิซาเบล
"อิกซ์ ข้าขอตัววิล เดี๋ยวนะ มีเรื่องแบบผู้ชายๆต้องคุยกัน"เฮนรี่พูด แล้วลากตัววิลเลี่ยมออกมาจากตรงนั้น
โครม! เฮนรี่เหวี่ยงวิลเลี่ยมลงกับพื้น
"วิลเลี่ยม เจ้าคิดจะทำอะไร เจ้าก็รู้ว่าบ้านเจ้า..."
วิลเลี่ยมลุกขึ้นยืน ของมองเฮนรี่ อย่างไม่บ่งบอกถึงความหมายของสายตา
"วิล นั่นเจ้าคิดอะไร" เฮนรี่ขมวดคิ้วเอียงคอถาม
"ฟังนะ เฮนรี่ จะไม่มีปัญหาใดๆเกิดขึ้นที่บ้านของข้า ข้าจะเตรียมการทุกอย่างเอง"
"แล้วเจ้าไม่กลัวความลับของเจ้า..."
"วางใจเถอะ เฮนรี่ อะไรมันจะเกิดก็ให้มันเกิด"
"ให้ตายเถอะ วิล ข้าละอยากชกหน้าเจ้าจริงๆ ข้าไม่น่าร่วมมือกับเจ้าเลย ถ้ารู้ว่ามันจะเสียแรงเปล่า"
"ข้าขอโทษ เฮนรี่"
"เฮ้อ...ช่างเถอะ" แล้วเขาก็หันหลังกลับตรงไปหาอิซาเบล
ในวันต่อมา วิลเลี่ยมได้พาอิซาเบลไปเยี่ยมบ้านของเขาตามสัญญา อิซาเบลดูดี๊ด๊ามาก เธอดูอารมณ์ดีมากเสียจน
วิลเลี่ยมปวดหัว เขาเดินตามหลังเธอถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้นำทางก็ตาม เขาต้องคอยบอกทางเธอเสมอ เธอมักเดินนำลิ่วไปไกลและอาจจะหลงได้ ถ้าวิลเลี่ยมไม่คอยกำชับและบอกทาง กว่าจะมาถึงบ้านได้ก็เล่นเอาวิลเลี่ยมนั่งกุมขมับเมื่อสิ้นสุดการเดินทาง
"โอ้โห! OoO วิล บ้านเจ้าสวยมาก" อิซาเบลยืนตะลึงเมื่อเห็นบ้านของวิลเลี่ยม
บ้านของวิลเลี่ยมไม่สามารถเรียกว่าบ้านได้ มันควรจะถูกเรียกว่า "ปราสาท" เสียมากกว่า ปราสาท ที่สร้างด้วนศิลปะแบบ
อังกฤษในยุคกลาง ปราสาทขนาดกลางตั้งอยู่บนเนื้อที่ 2 เอเคอร์ กลางสนามหญ้าสีเขียวสดทีตัดกับตัวปราสาทสีเทา
ที่ดูน่าเกรงขาม มีทะเลสาบอยู่ไม่ห่างจากตัวปราสาทนัก ทะเลสาบน้ำใสเต็มไปด้วยฝูงหงส์สีขาวสะอาดตา 'ราวกับเทพนิยาย'
นี่คือคำอธิบายคำเดียวที่ดูจะเหมาะสมที่สุด
"วิล ทะเลสาบนี่มันดูคุ้นๆอยู่น่า...า"
"ก็แน่ล่ะ อิกซ์ ก็นี่คือทะเลสาบ วินนิกซ์ นี่"
"หา! วินนิกซ์ จะเป็นไปได้ยังไง ที่นี่อยู่ห่างจากบ้านข้ามากเลยนะ"
"ทะเลสาบวินนิกซ์ มีรูปร่างคล้ายเลข 8 และถูกแยกเป็น 2 ฝั่งด้วยทิวไม้ นั่นคือสาเหตุที่เจ้าไม่อาจเห็นบ้านของข้าได้จากฝั่ง
ตะวันตก ฝั่งที่เจ้าอยู่ถูกเรียกว่าฝั่งตะวันตก ฝั่งที่ข้าอยู่เรียกว่า.. "
"ฝั่งตะวันออก" อิซาเบล ชิงพูดตัดหน้าอย่างรู้คำตอบอยู่แล้ว
วิลเลี่ยมเลิกคิ้วตอบ
"จะไม่เข้าบ้านหน่อยรึ เฮนรี่คงรอจนเบื่อแล้วล่ะ"
ช่วงกลางวัน
"มันน่าแปลกจริงๆนะ ในปราสาทหลังใหญ่ขนาดนี้เจ้ากลับอยู่คนเดียว" อิซาเบลพูดขึ้นขณะรินน้ำให้ตัวเองบนโต๊ะอาหารยาวเหยียดในมื้ออาหารกลางวัน
เฮนรี่หันไปสบตากับ วิลเลี่ยม อย่างค่อยไม่สบายใจ นับเป็นครั้งที่ 2 แล้วที่เขาทำแบบนี้
"ว่าไง วิล? เจ้าไม่คิดจะตอบคำถามหน่อยรึ" เธอเหลือบตาขึ้นมามอง
เฮนรี่ที่นั่งอยู่คนละมุมได้แต่ทำหน้ายุ่งยากใจ วิลเลี่ยมนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ อิซาเบล เผยริมฝีปากตอบมาว่า
"ถ้านั่นเป็นความคิดของเจ้าข้าก็จะไม่ขัด มันดูไม่เหมือนคำถาม--เจ้าว่ามั้ย?" วิลเลี่ยมกวาดสายตามอง เฮนรี่ และ
อิซาเบล
"โอ้ ใช่ วิล นั่นถูกต้องที่สุด"เฮนรี่ พูดเสียงดังอย่างไม่จำเป็นเท่าไรนัก ก่อนที่ อิซาเบล จะได้พูดอะไร วิลเลี่ยมก็พูดต่อ
"มีคนจำนวนไม่น้อยที่สงสัยเรื่องนี้ แต่ข้าไม่มีเหตุผลจะแก้ตัว ก็ข้าอยู่คนเดียวจริงๆ"
"นั่นก็จริงของเจ้า" อิซาเบล เบือนหน้าไปทางเตาผิง ที่มีตราประจำตระกูลแขวนอยู่ อิซาเบลเพ่งมองตรานั่นเมื่อสังเกตุเห็นมัน มีมังกรสีเขียวกำลังพ่นไฟด้วยท่วงท่าที่น่าเกรงขามอยู่บนพื้นผิวทะเลสีทอง รอบๆตัวมังกรมีตัวอักษรสลักอยู่ว่า 'ซีดราโก'(Seadraco) 'นั่นคงจะเป็นชื่อตระกูลของ วิลเลี่ยม ละมั้ง' เธอคิด
แต่ทันใดนั่น สิ่งที่วูบเข้ามาในสมองของเธอกลับทำให้เธอขนลุก
'ตระกลู ซีดราโก ซีดราโกผู้ยิ่งใหญ่ บ้าน่า.....า พวกเขาจะมาทำอะไรแถวนี้ แล้วฉันกำลังร่วมโต๊ะอาหารกับทายาทของตระกลู วิลเลี่ยม ซีดราโก ไม่จริง!'ความคิดมากมายพรั่งพรูเข้ามาในสมองของเธอ
"วิล.....เจ้า" เธอหันไปหาวิลเลี่ยมอย่างแตกตื่น และหันกลับไปมองตราประจำตระกูลแล้วอ้าปากค้าง
วิลเลี่ยมก็ตกใจไม่แพ้ไม่น้อยไปกว่า อิซาเบล เขาวางช้อนดัง เคล้ง แล้วรีบไปเก็บตรานั่นให้พ้นสายตาอิซาเบล
เฮนรี่ทำหน้าเหมือนกับอยากตายให้ได้ซะตรงนั้น(ถึงแม้ว่าเขา...)
โชคดีที่อิซาเบลไม่เห็นสีหน้าของเขา เธอมัวแต่มองตามหลังวิลเลี่ยมที่กำลังเดินกลับไปนั่งที่เดิม
วิลเลี่ยมก้มหน้าต่ำไม่พูดอะไร
"วิล เจ้าเป็นเชื้อพระวงศ์!"
วิลเลี่ยมไม่ยอมพูดอะไรเหมือนเดิม ปล่อยให้อิซาเบลพูดพร่ำต่อ
"ราชวงศ์ที่หายสาบสูญ.." อิซาเบล ลงไปคุกเข่ากับพื้น
"ไม่ อิกซ์ ลุกขึ้น ข้าไม่ใช่!" วิลเลี่ยม ลุกขึ้นอย่างตื่นตระหนก แต่อิซาเบลก็ยังคงอยู่ในท่าเดิม
เขาเดินไปดึงเธอให้ลุกขึ้นมา
"ข้าไม่ใช่" เขาย้ำ ด้วยสีหน้าที่แสดงถึงความเจ็บปวดใจ
"ถ้างั้ง แล้วท่านเป็นใคร ท่านมาทำอะไรอยู่ที่ปราสาทนี้" เธอลดเสียงลง
"ข้าตอบไม่ได้"
อิซาเบลทำท่าจะพูดต่อ แต่ก็ถูกเฮนรี่ขัดคอขึ้น
"พอเถอะ อิกซ์" เขาปราม "ใครๆก็มีเรื่องส่วนตัวบางอย่างที่ไม่อยากให้ใครรู้ทั้งนั้นแหละ"
อิซาเบล ถอนควานเคลือบแคลงใจลงจนกลายเป็นความรู้สึกผิด
"ข้าขอโทษ....วิล" เธอพูดเสียงสั่นเครือ มันชวนให้หวั่นใจไม่น้อย
"ไม่ อิกซ์ นั่นไม่ใช่ความผิดของเจ้า" วิลเลี่ยมรีบตอบทันควัน
กลิ่นชื้นๆของหินเก่า ช่วยทำให้ อิซาเบล ผ่อนคลายได้บ้าง แต่เธอก็ควรวางใจได้ นี่ไม่ใช่ความลับที่วิลเลี่ยมกำลัง
ปกปิด ถ้าเธอลองนึกดูดีๆจะรู้ว่ามันเกี่ยวข้องกันเล็กน้อยเท่านั้น
หลังจากผ่านเหตุการณ์ที่แสนตึงเครียดมาแล้ว วิลเลี่ยมได้พา อิซาเบลเยี่ยมชมปราสาทของเขาโดยรอบ รวมถึงการสำรวจ ศิลปะแขนงต่างๆที่ผสมอยู่ในปราสาทหลังนี้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเรือนหลากหลายแบบที่มีอยู่ใน
ภายในห้องรับแขกห้องเดียว ภาพเขียนมีฝีมือมากมายที่คนส่วนใหญ่ไม่เคยรู้จัก และได้เห็น มีพรมทอด้วยลวดลายที่สวยงามประดับอยู่ตรงผนังทางเดินและปูอยู่บนพื้น ไปจนถึงวิศวะกรรมการก่อสร้างของที่นี่
อิซาเบลได้มีโอกาศได้เห็นของเก่าล้ำค่ามากมาย รวมถึงเครื่องเพรชของราชวงศ์ ทั้งแหวนเพรช ชุดเครื่องเพรช มงกุฎฝังเพรช แพรวพราวเต็มไปหมด ที่ด้านหน้าของมงกุฎมีเพรชเม็ดเขื่องฝังอยู่ อิซาเบลทำตาโตเมื่อเห็นมัน และคาดว่าน้ำลายของเธอจะหยดถ้าเธออยู่ดูนานกว่านี้
"วิล ข้าขอสำรวจสวน หน่อยนะ ถ้าจะกรุณา" อิซาเบล พูดขึ้นขณะเยี่ยมชมสวนอันตระการตา
"นั่นประชดรึ" เขาเลิกคิ้ว เอามือไพล่หลังแบบวางมาดเจ้าของบ้าน "แต่ก็เอาเถอะ ตามใจเจ้าแต่ขอบอก จะเรียกว่าเตือนก็ได้ สวนทางใต้อย่าได้เข้าไป มันเป็นทางทะลุไปสู่ป่า แถวนั้นจะมีสัตว์ร้ายมากมาย โดยเฉพาะ งูและแมงมุมพิษ" น้ำเสียงของเขาแยบเย็นชวนให้ขนลุก แต่นั่นก็ทำให้ อิซาเบล กลัวจับใจไม่กล้าโผล่ไปที่นั่น
แต่เหมือนเคราะห์กรรมจะมาตกที่ เธอและวิลเลี่ยม รวมถึง เฮนรี่ด้วย อิซาเบลเดินชมสวนไปเรื่อยจนทะลุเข้าไปในที่ที่มีต้นไม้ขึ้นทึบ แสงสว่างเพียงน้อยนิดชวนให้บรรยากาศวังเวงได้ไม่น้อย
เธอคิดว่าเธอได้ทาถึงที่ที่เธอกลัวที่สุดในเวลานี้แล้ว
"สวนใต้" เธอพึมพัมกับตัวเอง ในใจหวังให้ วิลเลี่ยมหรือ เฮนรี่ มาพบเธอ แต่เธอจะทำยังไงได้ เธอไม่สามารถตะโกนขอความช่วยเหลือได้เลย เพราะนั้นจะทำให้เธอตกเป็นเป้าของสัตว์ร้ายที่กำลังหิวโหยได้
เธอหมุนตัวไปโดยรอบเพื่อหาทางออก ทุกทางมีต้นไม้ขึ้นบดบังไปหมด แต่เธอก็สังเกตเห็นยอดปราสาทของ วิลเลี่ยม
มันทำให้เธออุ่นใจได้เยอะ อย่างน้อยเธอก็เจอทางออกแล้ว เธอมุ่งหน้าไปทิศนั้นด้วยความโล่งใจ
แต่เธอก็ต้องสะดุดล้มลงบนกองใบไม้ที่ทับถมขึ้นสูง เธอจับแท่นหินที่โผล่มาเล็กน้อยจากกองใบไม้เพื่อพยุงตัวให้ลุกขึ้น ใบไม้ร่วงหล่นลงจากแทนหินเผยให้เห็นรูปร่างที่แท้จริงของมัน
"หลุมศพ" เธออุทาน เธอกำลังยืนอยู่บนหลุมศพ! เธอกระโดดออกจากจุดนั้น สายตาเข้ากระทบกับ ตัวหนังสือที่สลักอยู่บนแท่นหิน
*********************************************************************************************
วิลเลี่ยม ซีดราโก
พระเจ้า! ไม่ ไม่จริงใช่มั้ย นั่นหลุมศพของ วิลเลี่ยม
"วิล" เธอพึมพัมหร้อมกับน้ำตาที่ร่วงลงพื้น เรื่องราวที่แม่เล่าให้ฟังตอนเด็กๆพรั่งพรูออกมาราวสายน้ำ
ราชวงศ์ ซีดารโก ที่ปกครองแผ่นดินโดยธรรมและสบงสุข แต่ขาดความเข้มแข็งทางการเมืองและการทหาร ได้ถูกญาติห่างๆและต่างสายเลือด อ้างเอาดินแดนด้วยเหตุผล ความเกี่ยวดองทางสายเลือดเพียงเล็กน้อย เมื่อถูกปฏิเสธเขา
จึงนำกองทัพเข้าบุกราชวัง ประชาชนได้รวมตัวกันช่วยเยื้อเวลาให้ ราชวงศ์ ซีดราโก หนีออกจากวังหลวง ไปซ่อนตัวที่ ราชวังลับข้างทะเลสาบวินนิกซ์ แต่ความลับเรื่องที่ซ่อนของ ราชวงศ์ก็ได้รั่วไปถึงหูของผู้นำกบฏ เขาได้นำกองทหารเข้าบุกที่ซ่อน และปลงพระชนม์พระราชวงศ์ทุกพระองค์ ที่ปราสาทข้างทะเลสาบวินนิกซ์ แล้วเขาก็ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ องค์ปัจจุบัน ทั้งๆทีประชาชนไม่ยอมรับ
เมื่อเธอสังเกตดีๆก็พบว่ามี หลุมศพอีก4หลุมที่ทำขึ้นอย่างหยาบๆ อย่างไม่ให้การเคารพ มีเสียงย่ำใบไม้ตรงมาทีเธอ คนที่แหวกพุ่มไม้เข้ามานั้นคือ วิลเลี่ยม
"กรี๊ด!" เธอกรีดร้องลั่น "ไม่นะ ออกไป"
วิลเลี่ยมทำหน้างงๆ ว่าอิซาเบลกลัวอะไร เขากวาดสายตาไปรอบๆเพื่อหาสาเหตุ วิลเลี่ยมรู้ถึงความจริงแล้วว่าเธอกลัวเพราะอะไร น้ำใสๆเอ่อล้นออกมาจากดวงตาไร้แววของเขา
"ข้าขอโทษ อิกซ์ ข้าเพียงแค่อยากมีเพื่อน"
"แต่เจ้าหลอกข้า" อิซาเบลพึ่งได้สติคืนมา เธอรักษาระยะห่างระหว่างตัวเธอเองกับวิลเลี่ยม
"ข้าขอโทษ" เขาพูดซ้ำ
มีเสียงย่ำเท้าตรงมาที่อิซาเบลอีกครั้ง เธอหันไปทางต้นเสียง มีเด็กสาวก้าวออกมาจากมุมมืด
เธอดูอายุไล่ๆกันกับวิลเลี่ยม เธอเดินตรงไปหาวิลเลี่ยม "หมดเวลาของเจ้าแล้ว วิลเลี่ยม" เธอพูด "ตามสัญญา เจ้าต้องกลับไป เจ้าจำได้มั้ยว่าเจ้าสัญญาว่ายังไง"
วิลเลี่ยมพยักหน้าช้าๆ"เมื่อมีคนรู้ความจริง ข้าต้องกลับไป ไม่มีสิทธิที่จะสื่อสารกับผู้คน ข้าจำได้ดี"
วิลเลี่ยมหันหน้ามาทางอิซาเบล
"นี่พี่สาวของข้า เอลีเนอร์" เขาแนะนำ ทั้งที่ความจริงแล้ว อิซาเบลไม่อยากรับรู้สักเท่าไร"ก่อนจะไป ข้าอยากพูดกับเจ้า"
"ข้าขอบคุณเจ้ามาก ข้ามีความสุขมากที่ได้รู้จักกับเจ้า อิซาเบล ข้าสนุกมาก" เขายิ้มจางๆ
"มาเถอะ วิล" เอลีเนอร์พูด ยื่นมือให้วิลเลี่ยม วิลเลี่ยมเดินไปจับมือเธอแล้วเดินตามเธอไป ก่อนที่จะลับตาไปเขาหันมาพูดกับอิซาเบลว่า
"อ้อ ลืมไปเฮนรี่เขาก็ตายไปแล้วนะ เขาอาศัยอยู่ที่ก้นทะเลสาบ ถ้าเหงาเมื่อไรก็เรียกหาเขาได้นะ แล้วก็ อิซาเบล เจ้าสวยมากเลยล่ะ" เขายิ้มอย่างร่าเริง "ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จงใช้สติอย่างเต็มที่ จงอยู่ต่อไปอย่างมีความหวัง ข้าจะคอยเป็นกำลังใจให้ "
นี่คือคำพูดสุดท้ายที่เธอได้ยินจากปากของเขา 'จงอยู่ต่อไปอย่างมีความหวัง' ถึงแม้ว่าความสุขในช่วงสั้นๆของเธอจะจบไม่ค่อยสวยนัก แต่เธอก็อดยิ้มไม่ได้ ทุกครั้งที่นึกถึงมัน
*********************************************************************************************
ปล.ฉันไม่ลืมเพื่อนๆทุกๆคนหรอกนะ เพียงแต่ว่าไม่มั่นใจในความสามารถของตัวเองก็เท่านั้น ฉัันรักเพื่อนๆทุกคนอย่าที่เธอบอก เพียงแต่ว่าเธอไม่ได้สนใจกับความรักที่ฉันมีให้เพื่อนๆทุกคน เธอมองข้ามไปรึเปล่า ลองมองดูดีๆนะ
ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ผลงานอื่นๆ ของ Princess_Misa ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Princess_Misa
ความคิดเห็น