Alice's trump game
ฟิคจากเพลง Alice Human Sacrifice ของ vocaloid
ผู้เข้าชมรวม
184
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
“นี่ไนท์แมร์ หาเกมอะไรมาให้เราเล่นอีกได้มั้ย?” เจ้าหญิงเริ่มชวนผมคุย พยายามใช้เสียงใสๆของเธออ้อนวอนให้ผมหาความสนุกมาให้เธอเหมือนครั้งก่อนๆ
แต่รอบนี้เธอไม่ต้องอ้อนผม ผมก็คิดเกมไว้รอแล้วล่ะ...
“อืม...เจ้าหญิง งั้นเราเล่นเกม ‘อลิส’ กันมั้ยล่ะองค์หญิง?”
“หืม เล่นยังไงล่ะไนท์”
“ก่อนอื่นผมขอไพ่ซักสำรับนึงนะองค์หญิง” ผมว่าด้วยน้ำเสียงเหมือนกำลังเริ่มเกมเพื่อเป็นการกระตุ้นความสนใจ สำหรับผมแล้ว เจ้าหญิงก็คือเด็กตัวน้อยๆคนหนึ่งที่รอให้ผมเล่นด้วยนั่นแหละ
เจ้าหญิงสั่งให้คนรับใช้ไปเอามา ไม่ถึงนาทีไพ่สำรับสวยก็วางอยู่บนโต๊ะ
“อา...ดีครับ แล้วผมก็จะสับไพ่ อย่างนี้” ผมทำไปพร้อมกับอธิบาย “แล้วผมก็ขอให้องค์หญิงเลือกไพ่หนึ่งใบสำหรับการเป็นผู้เล่นเกมนะครับ”
เธอมองไปที่ไพ่ทั้งห้าใบที่ผมคัดออกมา
“เราเลือกดอกจิก”
“ได้ครับ แล้วผมก็จะทำอย่างนี้” มือขวาที่ถือไพ่ดอกจิกขององค์หญิงสะบัดฉับ และไพ่ก็กลายเป็นหน้ากากแบบครึ่งหน้าสีขาวที่มีตร่ดอกจิกสีเขียวประทับอยู่ ผมยื่นให้องค์หญิง “นี่เป็นสัญลักษณ์ขององค์หญิงในเกมนี้นะครับ กรุณาเก็บรักษาไว้ด้วย”
“สวยจัง เราจะใส่ไว้ตลอดแน่นอน” เจ้าหญิงรับด้วยหน้าตายิ้มแย้ม “แล้วเราต้องทำยังไงต่อล่ะ?”
“เราก็แค่รอดูเท่านั้นแหละครับ...รอดูผู้เล่นที่ได้รับไพ่อีกสี่ใบมาผจญภัยในแดนมหัศจรรย์ขององค์หญิงนะครับ”
“งั้นเหรอ แต่ถ้าไม่สนุก เราจะลงโทษ ให้ทหารเอาไนท์แมร์ไปโยนในสระหลังวังนะ”
“ผมจะรอนะครับ ” ผมยิ้ม “เรามาดูกันเลยดีกว่า ว่าใครได้ไพ่ไปบ้าง องค์หญิงอยากดูไพ่ใบไหนก่อนละครับ?”
“ไพ่...โพธิ์แดงแล้วกัน เอ๊ะ แต่เดี๋ยวสิไนท์ ทำไมไพ่มีเขียวฟ้าเหลืองด้วยล่ะ?”
“อ๋อ ก็แล้วแต่คนชอบน่ะครับ”
“งั้นแสดงว่าอลิสคนแรกชอบสีแดงสินะ”
“ใช่ครับ สีแดงสดที่กับโลหิตที่หลั่งไหล”
“อะไรนะไนท์”
“เปล่าครับ ไม่มีอะไรหรอก” ผมเปลี่ยนเรื่องแล้วสะบัดไพ่โพธิ์แดง ไพ่หายไปแล้วเกิดภาพขนาดใหญ่ที่ปรากฎกลางอากาศราวกับมีฉากทาบรองอยู่
“ไนท์เล่นมายากลเก่งนะ”
“ฮะๆๆ งั้นเหรอครับ องค์หญิงก็รีบดูละกันนะครับ”
“ผู้หญิงผมสีน้ำตาล แล้วก็ถือดาบ...อ๊ะ ดาบนี่เกิดจากไพ่เหมือนที่ไนท์แมร์ทำให้เราใช่มั้ย”
“อ้อ ใช่ครับองค์หญิง รู้ได้ยังไงน่ะครับ”
“ก็มันมีตราโพธิ์แดงนี่นา”
“ที่นี่มัน...แดนมหัศจรรย์?” เสียงจากอลิสคนที่หนึ่งดังขึ้นเป็นครั้งแรก หลังจากความเงียบมานาน สถานที่ที่เออยู่คือป่าทางเหนือของแดนมหัศจรรย์
ป่าทางเหนือ...สนามเกมอลิส
หญิงสาวหยิบดาบขึ้นมาดู คำเชิญชวนในเกมอลิสจากคนที่เธอไม่รู้จัก แต่น่าสนใจอย่างประหลาด
“อลิส อลิสคนที่หนึ่ง” เสียงแหบแห้งที่ฟังดูชั่วร้ายดังมาจากรอบทิศ
“ในที่สุดก็มา มาซักที”
“เรารอ รอมานานจริงๆ”
“ใครน่ะ!!!!” ‘อลิส’ตะโกนออกไป
“หึๆๆ เราคือ...”
“ปีศาจที่ฆ่าอลิส”
“นี่ไนท์ทำไมอลิสพูดคนเดียวล่ะ?”
“ดูเหมือนเธอจะตกใจนิดหน่อยเลยเห็นภาพหลอนน่ะครับ” ผมตอบแบบไม่ใส่ใจ สายตาไม่จำเป็นต้องดูภาพด้วยซ้ำ...กับภาพเหตุการณ์ที่เห็นมาเป็นร้อยรอบน่ะ มนไม่น่าสนใจซักนิด
“พวกแก...แก ปีศาจ ต้องการอะไรกันแน่?” อลิสตะโกนอีกครั้งด้วยน้ำเสียงกราดเกรี้ยว
“หึๆๆๆๆๆๆ หึๆๆๆ”
“ชีวิตของอลิส”
“ไม่นะ!!!!!!!” อลิสกรีดร้อง “พวกแก...แก...”
เหมือนอลิสจะคลั่งไปแล้วด้วยเสียงของปีศาจที่ไม่รู้ว่ามีจริงหรอไม่ ดาบสีแดงถูกตวัดอย่างกราดเกรี้ยวไปรอบๆที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากต้นไม้ใบหญ้าเหมือนป่าทั่วไป
“อลิสโพธิ์แดงเป็นเด็กไม่ดีนะไนท์ เธอทำลายป่าของเรานะ” องค์หญิงพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“นั่นสิครับ เป็นเด็กไม่ดีก็ต้องลงโทษ” ผมว่าพลางลุกขึ้น “คนทำผิดกติกาก็ต้องให้ออกจากเกม ใช่มั้ยครับองค์หญิง”
“ใช่แล้วล่ะ กฎข้อที่ยี่สิบเอ็ด ทำลายธรรมชาติหรือทรัพย์สินของดินแดนมหัศจรรย์ต้องถูกขัง”
“องค์หญิงจำแม่นจริงๆ งั้นผมขอรับบัญชา ไปจับอลิสผู้ทำผิดกฎไปขังนะครับ” ผมโค้งตัวลง ฉีกยิ้มอย่างสง่างาม
“อา...ดูเหมือนคุณจะทำเกินไปนะครับอลิส”
“แก...เสียงในความฝันนั่น!?” อลิสหันมามองผมด้วยสีหน้าตกใจ เวลานี้เธอดูเหมือนคนเสียสติไปเลย
“กติกาของเกมนี้คือให้ทำลายสัญลักษณ์ของอลิสคนอื่นๆนะครับ ไม่ทราบว่าคุณจะทำลายป่าขององค์หญิงทำไม” ผมพูดเรื่อยๆไม่ได้ตอบคำถามของเธอ “หรือคุณคิดว่ามีอลิสคนอื่นแอบซ่อนอยู่เหรอครับ?”
“ปีศาจ...แกหลอกฉัน รอบๆนี้มีปีศาจ”
“ไม่มีหรอกครับ” ผมตอบด้วยน้ำเสียงสงบ “นี่คือป่าที่อยู่ในกรรมสิทธิ์ขององค์หญิง ไม่มีปีศาจอะไรทั้งนั้น”
“และอย่างที่องค์หญิงพูด กฎข้อที่ยี่สิบเอ็ด ทำลายธรรมชาติและทรัพย์สินของดินแดนมหัศจรรย์ ต้องโทษโดยการถูกคุมขัง” พอผมพูดจบ เถาวัลย์โดยรอบก็เริ่มงอกยาวอย่างรวดเร็ว โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่อลิสผู้ถือดาบ
“และคุณก็ผิดกฎในเกมของผม ถือว่าเป็นเรื่องที่อภัยไม่ได้”
เถาวัลย์เริ่มพันตัวของอลิสที่ส่งเสียงกรีดร้อง
รัดแน่นและถูกพันธนาการอยู่กลางกรงหนาม และประตูสีแดงก็ผุดขึ้นมา ดอกกุหลาบสีแดงสดราวกับเลือดถูกประดับอย่างสวยงามบนประตูนั้น
“ประตูสวยดีนะครับ”
“มาแล้วครับองค์หญิง ผมลงโทษอลิสคนที่หนึ่งเรียบร้อยแล้ว”
“อืม ขอบใจนะ เพราะถ้าฉันส่งทหารไพ่ไปคงโดนฟันตัวขาดแน่ๆเลย” องค์หญิงว่าพร้อมรอยยิ้ม “ไนท์นี่เก่งจริงๆด้วย”
“ขอบคุณในคำชมครับ” ผมยิ้ม “เรามาดูอลิสคนที่สองกันเถอะนะครับ”
“อา...งั้นเราจะดูข้าวหลามตัดสีฟ้าใบนั้นละกันนะ”
“ได้ครับ” ผมสะบัดไพ่แบบเดิม และมันก็กลายเป็นภาพฉายแบบเดิม
“จะว่าไปนะ ไพ่โพธิ์แดงไปไหนแล้วล่ะ”
“อ้อ ผมยังไม่ได้บอกสินะครับว่าเมื่ออลิสคนนั้นออกจากเกม ไพ่ก็จะเผาไหม้ตัวเองแบบนี้” ผมหยิบซากไพ่ใบแรกที่เหลือเพียงเถ้าดำๆให้องค์หญิงดู
“มายากลอีกแล้วสินะ ความจริงไม่ต้องเล่นเกมก็ได้ แค่ไนท์เล่นมายากลให้เราดูก็คงสนุกมากแล้ว”
“มิได้ครับองค์หญิง เกมเริ่มไปแล้ว แล้วถ้าจบเกมแล้วผมจะเล่นให้ดูนะครับ”
“ก็ได้ แล้วเราจะรอนะ” องค์หญิงพูดจบก็หันไปดูหน้าจอ “อลิสคนนี้เป็นผู้ชายนี่!”
“ก็ไท่จำเป็นว่าต้องเป็นผู้หญิงหรอกนะครับ อลิสคือชื่อแทนเฉยๆน่ะครับ”
“งั้นเหรอ แต่วันหลังต้องตั้งชื่อกลาวๆหน่อยนะ เราคิดว่าผู้ชายคงไม่เหมาะที่จะชื่อลิสหรอก”
“ฮะๆๆ ไม่ได้หรอกนะครับองค์หญิง เกมนี้มันเปลี่ยนไม่ได้แล้วล่ะครับ”
“ที่นี่มันที่ไหนกันแน่นะ” ชายหนุ่มอลิสคนที่สองพูด “มีแต่ต้นไม้ที่ใบแปลกประหลาด ต้นไม้ที่ไม่เหมือนต้นไม้”
“ฮะๆๆ วิธีพูดเขาตลกจังเลยนะ สงสัยเขาต้องเป็นนักกวีหรือนักร้องแน่ๆเลยล่ะ” องค์หญิงหัวเราะ “อ๊ะ เขาเริ่มร้องเพลงแล้ว...เพราะจังเลยน้า”
เป็นอย่างที่องค์หญิงพูด ปฏิกิริยาของเขาช่างต่างกับอลิสคนแรก เมื่อไม่รู้เขาก็ไม่สนใจ เอาแต่ร้องเพลงที่มีน้ำเสียงนุ่มนวลและเดินไปเรื่อยเพื่อหาทางออกไปจากป่า
“เขาจะมาในเมืองแล้วนี่” องค์หญิงพูด “แล้วผิดกติการึเปล่า ไนท์”
“ถ้าไม่ก่อเรื่องก็ไม่เป็นไรหรอกครับ”
“ดีแล้วล่ะ เขาร้องเพลงเพราะมากเลย...เราไม่อยากให้เพื่อนร่วมเกมต้องโดนขังทุกคนหรอกนะ” องค์หญิงว่าอย่างสบายใจเมื่อได้ฟังคำยืนยัน “ว่าแต่สัญลักษณ์ของเขาอยู่ไหนกันนะ?”
“นี่ไงครับ เขากำลังหยิบออกมาแล้ว”
“หืม...โน้ตเพลง?” องค์หญิงว่าแบบงงๆ ก่อนจะหันมาตำหนิผม “เขาน่าสงสารนะ กระดาษใบเดียว แค่ฉีกก็ขาดแล้ว เดี๋ยวเขาก็แพ้หรอก”
“อันนี้ไม่เกี่ยวกับผมนะครับ ไพ่มันจะเปลี่ยนไปตามลักษณะของแต่ละคนน่ะครับ”
“อ้อ งั้นแสดงว่าอลิสคนแรกเป็นนักรบ และอลิสคนนี้ชอบร้องเพลงสินะ”
“ประมาณนั้นแหละครับ”
อลิสคนที่สองเดินเข้ามาถึงในเมือง เริ่มร้องเพลงใหม่ที่ไพเราะกว่าเดิม และดูเขาจะประหลาดใจกับเสียงของตนเองเหมือนกัน แต่เขาก็ยังคงร้องต่อไป ทำนองที่เพลงที่รวดเร็วและมีการเปลี่ยนแปลงจังหวะบ่อย แต่ช่างไพเราะอย่างประหลาดจนดึงดูดผู้คนในบริเวณนั้นมาฟังกันมากมาย
“เพลงเพราะจริงๆ แต่หน้าตาไม่คุ้นเอาซะเลย”
“เขาคงเพิ่งมาใหม่”
“เพลงที่เขาร้องคงมากจากดินแดนของเขา”
เสียงวิจารณ์จากชาวบ้านมีมากมาย แต่ก็ล้วนเป็นเสียงวิจารณ์ในทางดีทั้งนั้น เพลงอันไพเราะยังไม่จบและยังไม่มีทีท่าจะจบ
“ท่าทางเขาจะร้องเพลงเพลินจนลืมกติกาเกมนะครับ” ผมยิ้มเจื่อนๆให้องค์หญิง “เขาไม่ไปตามหาอลิสคนอื่นเลย”
“นั่นสินะ แต่ก็ปล่อยเขาไปเถอะ เดี๋ยวเขาร้องจบก็คงไปต่อเองนั่นแหละ” องค์หญิงตอบแบบไม่ใส่ใจเท่าไหร่ ท่าทางก็เป็นอีกคนที่ติดใจเสียงเพลงของอลิสคนที่สอง
เพลงที่ถูกคงขับร้องอย่างยาวนานแต่ก็ไม่มีใครเบื่อ
แต่ตอนนั้นเอง...
เปรี้ยง!!!!!!
“อ๊ะ..อ๊ากกกก” บทเพลงที่หยุดลงและแทนด้วยเสียงร้องแห่งความเจ็บปวด
และเลือดสีแดงสดที่สาดกระจาย
“กรี๊ดดดดด...นะ ไนท์ ไปช่วยเขาเร็วสิ มีคนยิงเขา...มีคนยิงเขา ยิงอลิสคนที่สองไปแล้วนะ”
“ครับ แต่ผมไม่รู้ว่าจะทันรึเปล่านะครับ”
ผมมาปรากฏตัวที่ลานกลางเมืองอย่างรวดเร็ว แต่ถึงเร็วแค่ไหนก็คงไม่ทัน...ผมรู้ดี เพราะนี่คือชะตาที่กำหนดแล้วของอลิสคนที่สอง สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้แม้จะเล่นเกมมากี่ครั้งกี่หน และผมก็พอใจที่มันจะเป็นแบบนี้ ถึงจะเจ็บใจ ที่แม้แต่ความเร็วของผมก็ยังเปลี่ยนโชคชะตาไม่ได้ แต่มันก็ไม่ได้เดือดร้อนถึงผมแม้แต่นิดเดียว นั่นจึงไม่ใช่เรื่องที่ผมต้องใส่ใจ
เพราะมันเป็นเกมที่ผมจะชนะเสมอ แม้เล่นมานับครั้งไม่ถ้วนก็ไม่เคยต้องแพ้แม้แต่ครั้งเดียว ไม่ว่ารูปแบบจะเปลี่ยนไปเป็นแบบไหน ตั้งแต่การเล่นครั้งแรกที่บริสุทธิ์ยุติธรรมจนถึงครั้งนี้...
ถึงความคิดของผมจะหวนไปนานแค่ไหนแต่สองเท้าก็ยังคงก้าวอย่างเร่งรีบไปที่กลุ่มคนที่ออกันอยู่ และพยุงสมาชิกผู้ร่วมเกมขึ้นมา
“ใครยิง!!!!!!” ผมแผดเสียงกราดเกรี้ยวออกไปทั่วลาน ผู้คนนั่นบริเวณนั้นที่ยืนฟังเพลงอยู่ในตอนแรกสะดุ้งตื่นจากภวังค์ความตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ติด “นี่เป็นบัญชาขององค์หญิงที่ต้องการทราบ ใครเป็นคนยิงชายคนนี้!!”
“หมอนี่ครับ” เสียงของเด็กชายหนึ่งในชาวบ้านดังมาจากด้านหลังพลางลากตัวคนคนหนึ่งออกมา...หรือถ้าพูดให้ถูกคือร่างๆหนึ่ง
ท่ามกลางเสียงสูดลมหายใจเฮือกของชาวบ้าน ผมแทบจะได้ยินเสียงจากองค์หญิงที่รออยู่ด้วยเช่นกัน และแม้แต่ผมเองก็ยังไม่สามารถจับต้นชนปลายได้ถูก
เพราะมันเป็นคนที่ถูกประหารไปแล้ว...ด้วยมือของผมเอง
“ฆาตกรสังหารโหดสิบสามศพ ที่ถูกประหารเมื่อวันศุกร์ที่แล้วนี่!!!”
“มันมาเดินอยู่ที่นี่ได้ยังไง?” ผมหันไปถามเด็กชายคนที่รู้ตัวคนร้าย
“ไม่รู้ ตอนที่ยืนฟังเพลงอยู่มันก็ยืนอยู่ข้างเราแต่แรกแล้ว” เสียงตอบมาจากเด็กผู้หญิงคนข้างๆแทน เด็กผู้หญิงที่หน้าตาเหมือนกับเด็กชายคนแรกไม่มีผิด
ฝาแฝด...?
“แล้วอยู่ดีๆมันก็ล้วงปืนออกมายิงพี่ชายคนนั้น” เด็กชายว่า “แล้วพอผมหันไปเห็นหน้ามันมันก็ยิงตัวเอง”
แปลก...แปลกเกินไปแล้ว ถ้ามันกล้าฆ่าคนกลางวันแสกๆแล้วจะมากลัวอะไรกับเด็กสองคน
“ขอบใจสำหรับข้อมูล...ฉันจะกลับไปรายงานองค์หญิงก่อน” ผมว่าด้วยน้ำเสียงอ่อนเพลีย
และตอนที่กำลังหายตัวกลับไปนั้นเอง เสียงแว่วๆของเด็กแฝดคนเมื่อกี้ถามกับชาวบ้านแถวนั้น...
“ผมขอเข้าไปดูโน้ตเพลงของพี่ชายหน่อยได้มั้ยครับ?”
“องค์หญิงได้ยินทั้งหมดแล้วใช่มั้ยครับ?” ผมถามกับองค์หญิงที่นั่งรออยู่ “คนร้ายคือฆาตกรโหดที่ผมเป็นคนคุมการประหารเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว”
“คนร้าย...คือคนที่ตายไปแล้ว?” องค์หญิงถามผมกลับ “เราไม่เข้าใจจริงๆ ไนท์แมร์หยุดเกมนี้เถอะ มันทำให้มีคนตายมาหลายคนแล้วนะ หยุดเกมอลิสน่ะ ได้มั้ย อย่าให้อลิสคนที่สี่มาตายอีกคนเลย”
“กลัวว่าจะไม่ทันแล้วน่ะสิครับ” ผมพูดและก้มหน้าลง ซุกใบหน้าลงกับฝ่ามือ “อลิสคนที่สี่มาถึงซะแล้ว และท่าทางว่าคนที่ตายจะไม่ใช่พวกเขาแล้วล่ะครับ”
ท่าทางว่าคราวนี้คงมีคนมาปลดปล่อยฉันจากเกมน่าเบื่อนี่ได้ซักทีนะ
“ดินแดนมหัศจรรย์...ไม่คิดเลยว่ามาถึงก็จะมีเรื่องซะแล้ว” แฝดหญิงคนพี่ว่า แต่น้ำเสียงร่าเริงซะจนไม่น่าเชื่อว่ากำลังพูดถึงเหตุการณ์ที่มีคนตายเมื่อครู่ จากนั้นก้หันไปพุดกับน้องชาย “แต่ก็น่าสนุกจังนะ แผนของนายน่ะ”
“ใช่แล้วละ มันสนุกมากเลย และเราก็ต้องวิ่งไปหาเรื่องต่อๆไป เพื่อล่อ‘โจ๊กเกอร์’ออกมาให้ได้” แฝดน้องชายว่าพลางกำกระดาษในมือที่มีสัญลักษณ์ข้าวหลามตัดสีน้ำเงินอยู่แน่น
“ต้องไม่แพ้เด็ดขาด”
“องค์หญิงครับ ผมอยากให้องค์หญิงระวังตัวซักหน่อยสำหรับผู้เล่นอีกสองคนที่เหลือ”
“สอง?”
“อลิสคนที่สี่เป็นฝาแฝดครับ” ผมพูดเสียงต่ำ
ฝาแฝด...เป็นเรื่องที่ไม่เคยมีมาก่อนตั้งแต่เล่นเกม‘อลิส’มา
“ผมขอบอกความจริงของเกมนี้ให้รู้นะครับ อย่างน้อยก็ให้ผมได้พูดอะไรซักหน่อยก่อนที่จะจากไปอย่างถาวร”
“นายพูดอะไรน่ะ!? จากไปอย่างถาวร” องค์หญิงว่าอย่างตกใจ สายตาที่มองผมอย่างเศร้าสร้อยแทบทำให้ผมใจอ่อน
“ความจริงครับ มันคือเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้น” ผมย้ำ “เกมอลิสไม่ใช่เกมที่ผมคิดขึ้นตอนอยู่กับองค์หญิง แต่เป็นเกมที่เกิดขึ้นมานานแล้ว จากความคิดที่ไม่อยากจะหายไปจากโลกโดยไม่มีใครรู้จัก ทำให้ ‘ความฝัน’ ผู้สร้างดินแดนมหัศจรรย์สร้างเกมอลิสขึ้นมา และเล่นไปเรื่อยๆจนกว่าจะมีคนที่ชนะผู้รับตำแหน่งโจ๊กเกอร์ และได้เป็นโจ๊กเกอร์แทน” ผมล้วงไพ่สีดำใบหนึ่งออกมาจากอกเสื้อ ไพ่โจ๊กเกอร์ “และตอนนี้ผมก็คือโจ๊กเกอร์คนนั้น”
“ไนท์แมร์...” องค์หญิงเรียกผมด้วยน้ำเสียงวิงวอนราวกับจะขอให้หยุด
แต่ตอนนี้มีอะไรจะหยุดผมได้แล้ว
“และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะเปลี่ยนโจ๊กเกอร์แล้ว ผมและองค์หญิงจะถูกฆ่าในเกมนี้ อลิสคนที่สี่จะสังหารเราเพื่อชัยชนะในเกม”
“อึก...ไนท์” องค์หญิงเริ่มสะอื้น “ไม่ว่ายังไง...ถ้าฉันจะต้องตายอยู่ดี ขอให้นายฆ่าฉันซะ อยู่เป็นโจ๊กเกอร์ต่อไปเถอะ”
“องค์หญิง...”
เด็กคนนี้ไร้เดียงสาเกินไปที่จะมีชีวิตอยู฿ต่อในเกมที่โหดร้าย...
“ไม่ได้หรอกครับ นี่เป็นชะตาที่กำหนดไว้แล้ว ผมหมดสิ้นวาระ และถึงเวลาที่จะได้รับการปลดปล่อยเสียที” ผมหัวเราะ “เรียกว่าต้องขอบคุณอลิสคนที่สี่นะครับ เพราะตอนนี้ผมฆ่าองค์หญิงไม่ลงหรอก”
องค์หญิงยิ้มน้อยๆให้ผม
“ดังนั้นในเมื่อผมจะสิ้นวาระซะแล้ว ผมจึงไม่มีหน้าที่ที่ต้องฆ่าใครอีก” ผมพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่ผ่อนคลาย “ผมจะปกป้ององค์หญิงด้วยชีวิตของผมเอง”
“เท่าที่ฉันรู้นะ ปราสาทนั่นคือที่ที่โจ๊กเกอร์กับดอกจิกอยู่” แฝดชายว่า “ถ้าจัดการได้เราก็จะชนะ และปิดเกมนี้ได้ซักที”
“อืม...อโหสิให้ด้วยแล้วกันนะคุณดอกจิก และคุณโจ๊กเกอร์” พี่สาวพูดพร้อมรอยยิ้ม “เราแค่ต้องล้มกระดานเกมเท่านั้นแหละ”
แล้วทุกอย่างก็เป็นไปตามชะตาที่ผมรู้สึกได้ ผมสู้อย่างสุดความสามารถ แต่ก็พ่ายแพ้ให้กับอลิสผู้ถือไพ่หัวใจ ดาบโพธิ์แดงที่ยึดมาได้ถูกแทงเข้าไปในหน้าอกของผมและหน้ากากก็ถูกแย่งชิง
และในสติที่กำลังเลือนรางนั้นเอง...
“เอาล่ะได้เวลาแล้ว” เสียงของแฝดคนใดคนหนึ่งที่ผมเริ่มแยกไม่ออกแล้วว่าเสียงใคร ตามด้วยเลือดที่สาดกระจาย
ผมเบิกตากว้าง
...อลิสล้มกระดานงั้นเหรอ พวกเขาแทงตัวเอง!
พวกนายเก่งมาก ดูเหมือนชัยชนะที่หอมหวานเกินไปจะทำให้ฉันไม่เคยคิดจะหยุดเลย
ปิดเกม!
ผลงานอื่นๆ ของ Faerafiel ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Faerafiel
ความคิดเห็น