อรุณ รุ่ง แสงแดดอันอบอุ่นอาบไล้ไปทั่วทั้งเมืองจันทราสีเงิน(银月城) สร้างบรรยากาศเฉื่อยชาให้กับภายในเมืองหลักเพียงหนึ่งเดียวภายในเซิฟเวอร์ ของเกม《ผู้พิชิต(征服, เฉิงฟู่)》เมื่อยามเช้าอันเชื่องช้าเคลื่อนผ่าน ผู้เล่นมากขึ้นและมากขึ้นเริ่มเข้ามาในเกม ทุกคน ทั้งชายและหญิง ต่างพูดคุยกันกันเกี่ยวกับบอสและอุปกรณ์ภายในเกม ทุกคนเหมือนจะยุ่งผิดปกติ
เสียงกระดิ่งหวานหูจากอาคารสูงสง่าตรงกลางเมืองดังสะท้อนแว่วผ่านไปทั่วทั้งเมือง
วิหาร ศักดิ์สิทธิ์อันเป็นสถานที่ที่มีเพียงผู้เล่นซึ่งมีฉายาระดับเทพสามารถออ นไลน์เข้ามา สมาชิกทั้งหมดของวิหารศักดิ์สิทธิ์เป็นที่มาของความภาคภูมิใจและความเคารพ นับถือของผู้เล่นทั้งปวง อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นทั้งหมดส่วนใหญ่ที่มีแถบสีอันเป็นอุปสรรคที่น่ากลัวมาจากการเข้าร่วม วิหารศักดิ์สิทธิ์ ในความเป็นจริง มีเพียงผู้เล่น 7 คนเท่านั้นในเซิฟเวอร์ของจีนที่เป็นสมาชิกของวิหารศักดิ์สิทธิ์ และผู้เล่นทั้งหมดมีฉายาระดับเทพ
แซ่กแซ่ก…
ใบไม้แห้งที่ถูกลม บางเบาพัดปลิวลงมาสู่บนระเบียงทางเดินของวิหารศักดิ์สิทธิ์ ไม่ห่างกันนัก มีชายหนุ่มผู้แต่งกายในชุดเกราะเต็มยศเดินมาอย่างไม่รีบร้อนมุ่งหน้าสู่ วิหาร ร่องรอยอันเปล่าเปลี่ยวไหลซึมออกมาจากใบหน้าอันหล่อเหลาของชายผู้นั้น ดวงตาทั้งสองของเขาเผยให้เห็นความเศร้าอันยากจะเข้าใจได้ พร้อมกับประกายเพลิงบางเบารอบชุดเกราะ สายลมพัดผ่านเสื้อคลุมตัวใหญ่ให้เคลื่อนไหว ด้วยไอดีที่ทุกผู้คนต่างคุ้นเคย—–
หลินมู่อวี้(林沐雨 พิรุณพร่างพรมแซ่หลิน) LV-255 ฉายา เทพยุทธ
สังกัด:เมืองจันทราสีเงิน
สมาคม:กิลด์วีรบุรุษ
ตำแหน่ง:ผู้นำ
อันดับจากทั่วโลก:1
……
“ยังคงเงียบสงบเหมือนเคยสินะ?”
หลิน มู่อวี้เงยหน้าขึ้นมองไปยังต้นไม้โลกซึ่งตั้งอยู่ตรงใจกลางวิหาร ศักดิ์สิทธิ์ เขาเคยนำต้นไม้นี้มาจากทางเหนือเมื่อนานมาแล้ว และหลายปีที่ผ่าน สุดท้ายต้นไม้ก็ผลิบานสะพรั่ง ในความเป็นจริง ฉายาเทพยุทธของเขาซึ่งอนุญาตให้เขายืนเคียงข้างเทพเวทมนตร์ ฟางเก๋อเซว่(方歌阙, พระราชวังสรรพเสียงแซ่ฟาง) ผู้อยู่จุดสูงสุดได้ เพราะเนื่องจากต้นไม้นี้
“นี่คงจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว”
ชัดเจนว่าเขานั้นกระวนกระวายใจและเดินออกมาจากวิหารศักดิ์สิทธิ์
ด้านนอกของวิหารศักดิ์สิทธิ์ ตรงนั้นมีผู้เล่นจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังวิ่งพล่านอยู่ หลินมู่อวี้ค่อย ๆ เดินเรียบไปตามกำแพงเมือง
ระหว่าง เดินนั้น ทันใดเขาก็รู้สึกถึงการเคาะเบา ๆ ที่ไหล่ จากนั้นก็ตามติดมาด้วยการโอบกอดแสดงความรักใคร่ขึ้นมา โดยปราศจากความลังเลใด ๆ จุดนั้นมีเพียงผู้ที่กล้าจะทำเรื่องเช่นนี้ในเมืองจันทราสีเงินได้——หลี่ เล่อ(李乐, ปิติยินดีแซ่หลี่) เพื่อนสนิทของหลินมู่อวี้ ผู้ซึ่งเติบโตมาด้วยกันกับเขาตั้งแต่ยังแบเบาะ น่าเสียดาย เนื่องจากโชคชะตา หลี่เล่อต้องเดินทางไปหลายที่และไม่สามารถพักในเมืองเดียวกับหลินมู่อวี้ได้ แต่ก็พอจะมีความโชคดีอยู่บ้างที่พวกเขาเล่นเกมด้วยกันมาเสมอ และเขายังเป็นตัวแทนหัวหน้ากิลด์
“อาเล่อ?”
หลินมู่อวี้หันหน้ากลับไปแล้วยิ้ม พลางกล่าว “ทำไมนายถึงจู่ ๆ โผล่มากัน คิดจะข่มขู่สหายคนนี้จนตายหรือไร?”
หลี่ เล่อหัวเราะ “อาอวี้ ก็ฉันเห็นนายไม่มีความสุข เป็นอะไรไปเล่า? ทำไมถึงทำหน้าเหมือนพ่อเพิ่งเสียอย่างนั้น? แต่ฉันว่าฉันเห็นเขาก็แข็งแรงดีนี่น่า และไม่ใช่ว่านายจะดีใจที่เขาตายเสียหรือ?”
หลี่เล่อปกติก็ใช้ชีวิตอย่างผ่อนคลายราวกับว่าเขานั้นไม่ได้วิตกกังวลอันใด หลินมู่อวี้อิจฉาในอิสระของเขา
“ฉันตัดสินใจแล้วน่ะ ฉันคิดว่าถึงเวลาที่ฉันจะต้องเลิกแล้วล่ะ” หลินมู่อวี้กล่าวอย่างแผ่วเบาราวกับว่าไม่มั่นใจในคำพูดของตนเอง
“อะไรนะ?”
หลี่ เล่อได้ยินดังนั้นก็ผงะถอยหลังไป “อาอวี้ ไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม? นายเพิ่งจะได้รับฉายาเทพยุทธเองนี่ แล้วนายยังวางแผนจะเลิกเล่นไปทั้งอย่างนี้หรือ? หรือว่า….มันจะเป็นเพราะพ่อของนาย?”
หลินมู่อวี้ได้แต่ยิ้มอย่างช่วย ไม่ได้ “ใช่ พ่อฉันให้คำขาดมา ฉันจะต้องเลิกเล่นเกม และช่วยกิจการครอบครัวกับเขา ฉันสัญญากับเขาไว้ก่อนแล้ว ถ้าหากฉันไปถึงอันดับต้นของเกมนี้ภายใน 2 ปี ตอนนี้ฉันทำมันได้แล้ว นั่นทำให้คำสัญญาของฉันถูกเติมเต็ม และฉันคงต้องเริ่มทำตามสัญญาที่ให้ไว้บ้างแล้ว บอกตามตรง…..ฉันเตรียมพร้อมจะเลิกเล่นแล้วล่ะ!”
หลี่เล่อหัวเราะเสีย ดัง ราวกับว่าตรงนั้นไม่ได้มีเหตุการณ์อันใดที่น่าหัวร่อมากกว่านี้อีกแล้ว เขาตบบ่าของหลินมู่อวี้ พลางกล่าว “เป็นทั้งเทพยุทธ หลินมู่อวี้ ผู้น่าเกรงขาม อีกทั้งยังเป็นลูกชายคนที่สองของหลินสื่อ(林炙, เผาผลาญแซ่หลิน)กรรมการบริษัทหลิงซิ่น(龙炘, มังกรแผดเผา)ผู้น่าเกรงขามอีกด้วย ไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่มีรายได้มากกว่าคนหลายร้อยล้านคนจะมีชีวิตที่ขมขื่น เช่นนี้ ดูเหมือนว่าการเป็นคนรวยจะไม่ได้ดีไปเสียทุกอย่างสินะ แต่……นายตัดสินใจแน่แล้วหรือ?”
“ใช่”
หลินมู่อวี้พยักหน้าอย่าง หนักแน่น ดวงตาใสกระจ่างทอประกายมุ่งมั่น “นี่เป็นหน้าที่ของฉัน ฉันจะหนีมันไปมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว ตามฉันมา ฉันอยากจะขายอุปกรณ์ของฉันให้หมด และจากนี้ไปอนาคตของกิลด์วีรบุรุษจะเป็นหน้าที่ของนายแล้ว ฉันจะขอร้องสมาชิกกิลด์คนอื่นช่วยนายให้สำเร็จ”
“นายอยากจะขายชุดเทพเพลิงกับกระบี่เจ็ดสะบั้นทั้งหมด?”
“ใช่ ทุกอย่างมันจะได้จบ ๆ ไปเสียที ไม่เช่นนั้นฉันคงคิดถึงมันตลอดแน่”
“ฮะ ฮะ ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยม ถ้างั้นไปกันเถอะ ก่อนนายจะเลิกก็ยังคงได้รับเงินทองจากการเคลียร์แอคเค้าน์ละนะ อุปกรณ์ของนายเป็นที่รู้กันดีว่าดีที่สุดในหมู่อุปกรณ์ภายในเซิฟเวอร์เลยน่ะ อ่า ว่าแต่ การที่นายเลิกเล่นจริง ๆ แบบนี้คงเป็นชะตากรรมของผู้ทดลองเล่นสินะ? ว่ากันว่า ฟางเก่อเซว่ เหวินเจี้ยน(问剑 กระบี่ถามไถ่) คังต่ง(苍瞳 ดวงตาเขียวขจี) เอี้ยนจ้าวอู่ชวง(燕赵无双 สตรีผู้สดสวยไร้ผู้เปรียบเทียบ) ผู้คนเหล่านี้ที่เข้าร่วมนครต่าง ๆ ต่างเล่นเกมนี้อย่างจริงใจนี่ จะไม่เล่นจริงหรือ!”
“ไม่”
……..
จนมาถึงลานประมูลในเมือง จันทราสีเงิน ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเป็นลานประมูลที่ใหญ่ที่สุดในเกม หลินมู่อวี้ถอดอุปกรณ์ของเขาทีละชิ้นและวางมันลงลานประมูล——
ชุดเทพเพลิง ชุดอุปกรณ์ระดับเทพ 5 ชิ้น เริ่มราคาที่:2,200 หมื่นหยวน (22,000,000 หยวน)
กระบี่เจ็ดสะบั้น อุปกรณ์ระดับเทพ เริ่มราคาที่ : 1000หมื่นหยวน (10,000,000 หยวน)
โซ่เทพสังหาร เครื่องประดับระดับเทพ เริ่มราคาที่:700หมื่นหยวน (7,000,000 หยวน)
แหวนเขาแรด อุปกรณ์เทพห้าดารา เริ่มราคาที่:400หมื่นหยวน (4,000,000 หยวน)
(tn: ต้นฉบับใช้สกุลเงิน RMB ชื่อสกุลเงิน–เหรินเหมินปี้ ซึ่งเป็นชื่อสกุลจริง ๆ ของสกุลเงินหยวนของจีนครับ ผมนี่อ่านไปอึ้งไปประมาณ 50 รอบ แบบ….เอาจริงดิฟ้ะ ไอเท่มเกมบ้านพ่องดิ ราคาขนาดนี้ เอาไป x5 ตีเป็นเงินไทยดูครับ ราคามันขนาดไหนเนี่ย)
……….
เพียงชั่วพริบ ตา หลินมู่อวี้ก็ขายอุปกรณ์ของเขาทั้งหมดออกไป บัดนี้เขากลับมาสวมใส่ชุดชาวบ้านเริ่มต้นแล้ว อย่างไรก็ตาม ฉายาเทพยุทธของเขาก็ยังคงสว่างไสวอยู่ มันระบุเป็นเครื่องหมายที่ไม่มีอะไรแทนที่ได้เป็นตำนานของเกมนี้
“หลู่หลู่(璐璐) ออกมา!”
หลิน มู่อวี้ร้องเรียกอย่างแผ่วเบา ทันใดนั้นละอองแสงก็รวมตัวกันเบื้องหน้าเขา แล้วภูติน่ารักก็ปรากฎกายขึ้นมา นางเป็นภูติประจำตัวของหลินมู่อวี้ ผู้เล่นทุกคนนั้นจะได้รับภูติเหมือนกับนางเมื่อเข้าร่วมเกม แท้จริงแล้วระบบให้ความช่วยเหลือของนางก็มาจากระบบช่วยเหลือของเกมนั่นล่ะ เป็นการแนะนำให้ผู้เล่นทุกคนสำเร็จทุกภารกิจภายในเกม
“พี่ชาย!”
หลู่ หลู่กอดคอของหลินมู่อวี้อย่างมีความสุข แม้ว่านางจะเป็นเพียงส่วนหนึ่งของข้อมูล แต่นางก็มีระบบที่มีความสลับซับซ้อนสูง ด้านร่างกายนั้นสูงเกือบ 30 เซ็นติเมตร นางนั่งลงบนไหล่ของหลินมู่อวี้ ยิ้มและพูดขึ้น “ต้องการให้หลู่หลู่ช่วยอะไรคะ?”
หลินมู่อวี้ยิ้ม “หลู่หลู่ ช่วยลบข้อมูลสกิลทั้งหมดของฉันทิ้งที”
“อ่า? พี่ชาย จริงหรือคะ?” ภูติสาวมองเขาอย่างตกใจ
หลินมู่อวี้พยักหน้า “สแกนม่านตา หลังจากยืนยันตัวตนฉันอีกครั้ง ลบมันทิ้งซะ!”
“ค่ะ”
ภูติสาวใช้เสียงแบบเครื่องจักรและรายงานผลการลบสกิลทั้งหลาย—–
กลืนกินสังหารเทพ ทักษะระดับ SSS ชั้นปรมาจารย์ ลบเสร็จสิ้น!
เพลงกระบี่เพลิงผลาญ ทักษะระดับ SSS ชั้นปรมาจารย์ ลบเสร็จสิ้น!
โล่ผนึกน้ำแข็ง ทักษะระดับ SSS ชั้นปรมาจารย์ ลบเสร็จสิ้น!
ศาสตร์ลับดวงดารา ทักษะระดับ SSS ชั้นปรมาจารย์ ลบเสร็จสิ้น!
……
เพลงหอกรั้งมังกร(缚龙枪法) ทักษะระดับ SS ทักษะที่ได้รับจากฉายาเทพยุทธ ไม่อาจลบได้!
ท่าร่างโน้มดารา(坠星步) ทักษะระดับ SS ทักษะที่ได้รับจากฉายาเทพยุทธ ไม่อาจลบได้!
เทคนิคหลอมอุปกรณ์(炼器术) ทักษะระดับ SSS ชั้นปรมาจารย์ ทักษะของอาชีพเฉพาะ ไม่อาจลบได้!
……
ในระยะเวลาอันสั้น จากสกิลหลักทั้ง 24 สกิลที่ถูกลบออกไป เหลือเพียง 3 สกิลที่ไม่อาจลบได้ อันอื่นต่างลบได้หมด
หลิน มู่อวี้ขมวดคิ้ว ท่าร่างโน้มดารา เทคนิคหลอมอุปกรณ์ พวกนี้ ต่างได้รับมายากมา เอาเถอะ ยังไงก็ไม่จำเป็นต้องลบอาชีพอยู่แล้ว มันคงจะถูกลบออกไปพร้อม ๆ กับแอคเค้าน์นั่นล่ะ!
“หลู่หลู่”
หลินมู่อวี้เรียกชื่อขึ้นอีกครั้ง และกล่าว “ยืนยันคำสั่งทำลายตัวเอง ฉันจะเลิกเล่นแล้ว”
ภูต สาวตัวน้อยจ้องมองหลินมู่อวี้อย่างเงียบงัน ดวงตาชุ่มชื้นเต็มไปด้วยน้ำตา “พี่ชายจะเลิกเล่นหรือ? หรือพี่ชายไม่ต้องการหลู่หลู่อีกแล้ว?”
หลิน มู่อวี้ไม่แน่ใจว่าจะหัวร่อหรือร่ำไห้ดี เพราะเขาไม่เคยคิดว่าจะเห็นภูติร้องไห้มาก่อน ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจยิ้มและกล่าว “ไม่ บางที…..พวกเราอาจจะหาอีกฝ่ายพบเมื่อพวกเรามาถึงจุดบรรจบ หลู่หลู่ ได้โปรดยืนยันคำสั่งทำลายตัวเองให้ฉันด้วย ฉันได้ทำการตัดสินใจมาแล้ว!”
“ได้ค่ะ พี่ชาย”
หลู่ หลู่ได้ทำหน้าที่ของเธอจนถึงท้ายของท้ายที่สุด แล้วในวินาทีต่อมา หลินมู่อวี้ก็ส่งต่อฉายาหัวหน้ากิลด์ให้กับหลี่เล่อ จากนั้นร่างของเขาก็ค่อย ๆ ถูกชะล้างกลายเป็นกลุ่มก้อนละอองข้อมูล มันไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีเลยที่มองเห็นร่างกายของตนเองถูกชะล้างหายไปอย่าง เชื่องช้าเช่นนี้
แต่หลินมู่อวี้อดกลั้นต่อสิ่งนี้ได้ เขาเข้าใจ มนุษย์มีหน้าที่ที่จะต้องรับผิดชอบ และจะต้องทำในสิ่งที่เขาจะต้องทำ มีเพียงคนขี้คลาดเท่านั้นที่จะหลบหนี
………
ฉับ!
เมื่อแสงจางหายไปก็ถูกแทนที่ด้วยความมืดมิด หลินมู่อวี้ปรากฏในช่องว่างปิดตายแห่งหนึ่ง ไร้ซึ่งร่างกาย เขาเรียกหาระบบ “ออฟไลน์!”
1 วินาทีผ่านไป 2 วินาทีผ่านไป 3 วินาทีผ่านไป
ครึ่งนาทีผ่านไป แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลินมู่อวี้รู้สึกไม่ดีเอาเสียเลย “ออฟไลน์สิ เกิดบ้าอะไรขึ้น?”
ไม่มีผู้ใดตอบคำถามของเขา มีเพียงความว่างเปล่าเท่านั้น
หลินมู่อวี้ไม่สามารถสงบใจได้เลย และเริ่มตะโกน “ภูติระบบ? หลู่หลู่? ปล่อยฉันไป ออฟไลน์สิ!”
ไร้ สัญญาณถึงการออฟไลน์ แต่เขายังคงรู้สึกมึนงง เบื้องหน้าของเขามันรู้สึกเหมือนกับกำลังถูกดูดด้วยวังน้ำวน กวาดต้อนสติของหลินมู่อวี้เข้าไปด้านในนั้น
แจ้งเตือนระบบ : โค้ดสำหรับออกจากเกมถูกแก้ไข ระบบกำลังลงโปรแกรมใหม่!
แจ้งเตือนระบบ : การติดตั้งโปรแกรมสำเร็จ คุณจะถูกบังคับให้ตัดขาดการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต!
….
“ห๋า?”
หลิน มู่อวี้ตกอยู่ในความสิ้นหวัง มันมึนงงมากเกินไป เขาถูกผลักเข้าไปที่เบื้องหน้า ความรู้สึกเดียวที่เขารู้สึกคือมันไม่หยุดยั้งลงเลย ยังคงตกไปเรื่อย ๆ และเรื่อย ๆ
“ไอ้บ้าคนไหนมาดึงสายอินเตอร์เน็ตฉันไปว่ะ?”
ก่อนที่จะหมดสติ เขาได้ทิ้งคำพูดเหล่านี้เอาไว้
ความคิดเห็น