พิสูจน์รักแท้ด้วยหัวใจที่ทรมาน - นิยาย พิสูจน์รักแท้ด้วยหัวใจที่ทรมาน : Dek-D.com - Writer
×

    พิสูจน์รักแท้ด้วยหัวใจที่ทรมาน

    โดย Pnittawan

    สายลมพัดอื้ออืง เส้นผมยาวระดวงหน้า ชายเสื้อและชายกระโปรงปลิวว่อน มองสะพานทอดยาวลงไปในทะเลสุดตา

    ผู้เข้าชมรวม

    39

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    39

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    1
    จำนวนตอน :  3 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  18 พ.ค. 63 / 21:24 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    สายลมพัด อื้ออึง เส้นผมยาว ปลิวระดวงหน้า  ชายเสื้อ และกระโปรง ปลิวว่อน มองไปเบื้องหน้า สะพาน ทอดยาวลงไปในทะเล ยาวสุดตา เพื่อให้แน่ใจ วิรัญยา สอดมือลงไปในกระเป๋าเสื้อ กระดาษแผนที่ยับยู่ยี่ติดมือมา เธอคอยคลี่ เเผนที่เพื่อให้เเน่ใจอีกครา ทว่า ลมแรงๆนั้นได้หอบเอาแผนที่ดังกล่าว ปลิวไปเบื้องหน้า แรงลมที่กรรโชกแรงๆ  หอบเอากระดาษแผนที่ ปลิวหายไปในเวิ้งน้ำรอบๆนั้น

      หญิงสาวยืนนิ่ง อย่างใช้สติ แผนที่ บอกไว้แล้ว จะมีสะพานยาวยื่นไปในทะเล และมีเรือมารอรับ

      เธอมองฝ่าบรรยากาศ หลัวๆไปยังปลายสะพาน สุดลูกตา เงาดำตระคลุ่มนั่นอาจใช่เรือ หญิงสาวเร่งเท้า ทั้งที่เหนื่อยล้า เดินต้านลมแรง ตรงไป....

       บรรยากาศรอบๆ คาดว่าฝนจะเทลงมาในไม่ช้า ฉะนั้นจึงค่อนข้าง ไร้ผู้คน ทั่วบริเวณ บนสะพานคล้ายจะมีเธอผู้เดียว

     มองย้อนขึ้นไปทั่วบรืเวณ  จากที่เดินมา เห็นเพียงแสงไฟริบๆ เว้นระยะห่างกันไป ค่อนข้างน่ากลัว สำหรับคนแปลกหน้าอย่างเธอ วิรัญญาเร่งเท้าฝาลมแรงไปให้ถึงจุดหมาย ปลายสะพานมีเรือจอดอยู่จริงๆ  เธอ รู้สึกดีใจไม่รัง้รอ รีบก้าวลงไปในเรือลำใหญ่ เธอซวนเซ เกือบตกลงไปในนำ ้้ ทั้งเธอ และ กระเป๋าใบเขื่อง เพราะเรือ โครงเครง ด้วยแรงคลื่นลม ที่เร่งเร้าไม่หยุดหย่อน  เธอแข็งใจ รวบรวมแรงที่มีพาตัวเอง มานั่งกอดเข่าอยู่กลางลำเรือ  ท่ามกลาง ความมืดที่ไม่อาจรู้ได้เลยว่า บริเวณที่เธอมาทรุดนั่ง มีอะไรบ้าง กลิ่นคาวปลาโชยเข้าจมูก  ร่างบางนั่งนิ่งเกร็ง ด้วยว่าเรือโครงเครงราวจะพลิกคว่ำ สักพักฝนกระหน่ำลงมาราวฟ้ารั่ว พร้อมกับแสงสีแดง เจิดจ้าคล้ายนักรบ ถือดาบฟาดฟันกัน จนเกิดแสงเสียงอันน่าสะพรึงกลัววิรัญญากอดกระเป๋าที่ใกล้เธอนั่นไว้ยึดเป็นเกราะกำบัง ความหวาดหวั่น  สักพัก เธอเริ่มมีอาการ วิงเวียน ครื่อนเหียน ศรีษระหนักอึ้ง แล้วทุกสิ่งอย่าง สำหรับเธอ ก็วูบลง  

     ลมและฝน แรงเกินไปที่จะนำเรือออกในเวลานี้ บุรุษร่างสูง สัดส่วนกำยำลำ่สัน ดวงหน้า รก รื้อ ด้วยหนวดเครา ผมเผรายาวไม่เป็นทรง เดินแกมวิ่งฝ่าสายฝนแล้วกระโดดลงเรือ ด้วย ท่วงท่า คล่องแคล้ว  ลอดลำตัว 

    เข้าไปในห้องเรือ อย่างชำนาญ แม้ในเรือจะมืด เขาก็รู้ว่า วางอะไรใว้ตรงไหน ทว่า  เท้าเขาสัมผัสเข้ากับอะไรบางอย่าง  ชะงักเท้าแล้วอาศัยฟ้าที่แปลบปราบ ลำแสงพาให้เขาได้เห็นร่างที่นอนนิ่ง  ใครกัน  เขาคิดรำพังกับร่างที่นิ่งเงียบ ชายหนุ่มโน้มตัว ใช้ปลายนิ้วอัง

    ที่ปลายจมูก ยังมีลมหายใจ แต่ก็ช่างเถอะจะเป็นใครก็ช่าง เขาไม่สน  ลมฝนซาลงแล้ว ในความมืดของท้องทะเล เรือลำนั้น วิ่งตัด ท้องนำ้ กว้าง ไร้ ขอบเขต จุดหมาย คือ เกาะ กลางทะเล แสนไกล  เฉกเช่นทุกครั้ง เขามักจอดเรือใว้ท้ายเกาะ ทอดสมอ แล้ว กระโดดลงจากเรือ ลุยน้ำขึ้นฝั่ง ท่ามกลาง ความมืดมิดในยามวิกาล  เวลาจะผ่านไปสักเท่าไหร่  เขาไม่ใส่ใจ เว้น เหล้า ทื่เขา ถือติดมือและดืมทุกเวลา มัน คือ เพื่อน ที่ดีสำหรับเขา ร่างสูง เดิน ซัดเซด้วยพิษสุรา แต่ก็ถึงจุดหมาย ด้วย ความ เคยชิน  ฝนพรำเม็ด ตลอดคืน ทำให้บรรยากาศ ในเช้าวันใหม่ ค่อนข้างชื้น แม้แต่แดด ก็ อ่อนแสง

     เกาะที่ห่างไกลความเจริญ นับจำนวน ผู้ อยู่อาศัย ได้ไม่กี่ ร้อยคน อาชีพ ส่วนใหญ่คือประมง บ้านเรือน ปลูกง่ายๆ  เช่นบ้านพัก ชาวเล ทั่วไป  ส่วนมาก อยู่ กันเป็น กลุ่มก้อน ด้าน หน้าเกาะ  แต่เขา ฟานัน ไม่มีใครรู้จักประวัติ รู้แต่แรก เขามากับเรือประมง  ชอบดื่มเหล้า และแยกตัว มาปลูกกระท่อมอยู่ท้ายเกาะ เดิมเขาพูด ภาษายาวี

    ต่อมาก็ใช้ภาษาท้องถิ่น ของคนบนเกาะ และ พัฒนาเป็นภาษากลาง  เขาชอบดื่มแต่ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ใคร เขาจึงไม่เป็นจุดสนใจของคนบนเกาะ  ผมเผล่าค่อนข้าง ยาวและไม่ได้ผ่านการบำรุงรักษา หนวดเคราบนใบหน้าก็เช่นกัน จึงทำให้ บางครั้ง เด็กๆ  ก็ว่าเขาน่ากลัวไม่มีใครเข้าใกล้  เขาพักท้ายเกาะ จึงมักจอดเรือ ใว้ท้ายเกาะ อาหาร สัมภาระ จำเป็นยังอยู่ในเรือ  ฉะนั้นสายๆ  จึงเห็นร่างสูงสวมกางเกงจีน สีซีด เปลือยท่อนบน เดินย้ำเท้าเปล่าบนเม็ดทราย ไปท้ายเกาะและเดินลุยน้ำ ลงไปหาเรือ สอง ฝ่ามือใหญ่

     วางทาบบนผิวเรือ แล้วดีดตนเอง

    ขึ้นไป บนเรือด้วยพละ กำลัง ของชายวัย ฉกรรจ์ เส้นเลือด ปูดโปอยู่บนหลังมือ และท่อนแขนกำยำ ภายในห้องเรือ สิ่งที่สะดุดตาโดยที่เขาไม่ตั้งใจ  จะมอง คือ ร่างที่นอนนิ่งอยู่นั่น ผู้หญิง ? เพศที่เขารังเกลียด  แล้วทำไม ไม่ไปให้พ้นเรือเขา จากการแต่งกาย

    ไม่ไช่คนบนเกาะนี้แน่ แต่ก็อาจจะเป็นผู้มาเยือน  ที่เขาไม่รู้จัก ? อีกครั้ง ที่เขา สัมผัสลมหายใจ ตรงปลายจมูก  ยังมีลมหายใจ แล้วทำไมร่างนี้ถึงนอนไม่ไหวติง

    เขา ควรทำยังไง? ปรกติเขาตัดขาดจากโลกภายนอก ไปแล้ว  แต่ เธออยู่ในเรือ ของเขา?

       ปลา กุ้ง จำนวนไม่น้อยที่ใช้เป็นเสบียง ในการกลับขึ้นฝั่ง  รวมทั้งเสื้อผ้า อวน ชำรุดที่ต้องซ่อม อยู่ในอุ้งมือเขา ทั้งบนบ่า แข็งแกร่ง

    ไม่นาน นัก กองไฟเริ่มก่อตัวขึ้น ปลา กุ้ง ปู ถูกวางบนตะแกรงปิ้งย่าง เขาไม่สรรกหา ความ อร่อย หอม หวาน  มีชีวิตไปวันๆ  ไม่โหยหาสิ่งใดๆ  อยู่ เฉก เช่น  คนสิ้นหวัง เหล้า

    ทำให้ชีวิตเขาดำรงอยู่ได้ จาน  ชาม เก่า คร่ำคร่า เขาไม่สนใจอยากมัย ไม่สนใจ การมีชีวิต อยู่รอด  เวลาต่อมา กุ้ง ปู ปลา ปลาหมึก ถูกจัดวาง บนจานชามง่ายๆ  

           ลมพัด เฉื่อยฉิว กิ่งไม้น้อยใหญ่ไหวเอน เหล้า และ  กุ้งเผา  ปลาเผาคือ มื้ออาหาร และ มื้อต่อไป มะพร้าว หลากต้น ทั่ว อนาบริ เรณ คือร่มเงา เพราะเหนื่อย เพราะ พิษ เหล่า พาให้เขาหลับไหล   ภายใต้ ร่มเงา บนพื้นทราย

       สายลม แสงแดด และ เสียง คลื่น กระซิบบอก วัน เวลา เขา เสมอไป แผ่นหลัง สีน้ำตาลเข้ม เต็มไปด้วยเม็ดทราย ขณะที่เขา ขยับลุก  ดวงตะวัน คล้อยต่ำลงมาก็แล้ว บ่งบอก ว่าอีกไม่นาน ก็จะพลบค่ำ 

     เขา ปัด เม็ดทราย ออก จาก ผิว กร้านแดดพลางขยับ ร่าง กาย ที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามในทุกส่วนสัด สี่งที่เขาทำ ก็คือ ขึ้นไปบนกระท่อม เพื่อนอนต่อ  ตัวกระท่อม ที่ใช้ วัสดุ พื้น บ้านง่ายๆ  ยกพื้นสูง จากพื้ทรายระดับอก  มุงด้วยหญ้า พื้นปูด้วยไม้ไผ่ เป็นที่พักอาศัย ของเขา ในยาม ค่ำคืน   

      มุม ที่นอน เขา มัก กางมุ้งใว้ ตลอด .เสื่อ หมอน และ ผ้า ห่มผืน เก่าๆ  ใว้ห่มยามที่อากาศหนาว . 

       เขาพลาดหวังในชีวิต จมอยู่กับ ความ ผิดหวัง  จึงไม่วาดหวัง ต่อสิ่งไหน ในโลกใบนี้

      เขากลับเข้าฝั่งครั้งนี้ คงพักหลายวัน เพราะสภาพอากาศ ปรวนแปร ทาง ราชการ ประกาศ งดออกเรือ 

       ชายหนุ่ม  รู้สึกตัว อีกครั้งเมื่อเม็ดฝน ตกกระทบหลังคาหญ้า และบน หลังคาที่เป็นรูโหว่ เม็ดฝนร่วงกระจายลงบนพื้น  เสียงลมเริ่ม อื้ออึง พัดกรร โชค จนกระท่อม โยกเอน 

        นึกถึงอาหาร ที่ยังกอง อยู่ใน เตา ใน จานเขารีบลุก ถลัน ทันที ในความมืด ของกระ ท่อม

     เขาคุ้นเคยดี แค่ เสี้ยวนาที ก็กระโดดแปลง ลงโป สู่ เบื้องล่าง  หยิบ ทุกสิ่งอย่างรวม กันใว้แล้วนำมาใ้นกระท่อม ลมแรง ฝนก็แรง เขาห่วงเรือ หากน้ำขึ้นสูง เรือเขา อาจลอยหายไป และ แล้ว ร่างสูงก็เดินฝ่าเม็ดฝนสายฟ้า ที่พาดผ่านมาเป็นประกาย อย่างไม่ยีระ  ครั้นถึง ก็ลุยน้ำ กระโดด ขึ้นเรือ ดูสมอ เรือ หัว ท้าย พร้อมเข้าไปในห้องเรือ ติด

    เครื่องยนต์ ขับเคลือนเข้ามาอีกนิด เพราะนำ้ขึ้น  นึกบางอย่างขึ้นมาได้"คนในเรือ"

    เขาจะโล่งใจมาก หากไม่พบเจอ แต่ก็ตรง

    กันข้าม อืดครั้ง ที่ยกปลายนิ้วอัง ปลายจมูก ยังมีลมหายใจ! เขาคงต้องทำอะไรสักอย่าง

       ชายหนุ่มไม่ใส่ใจ กับร่างที่นอนนิ่ง กลาง กระท่อม  เขาช่วยได้แค่นี้  เช้า ร่างที่นอนนิ่งมาทางไหน?ต้องไปทางนั้น!

      เกล็ดละอองฝน ทะลุผ่านหลังคามุง ด้วยหญ้าแห้ง ร่างที่นอน ในมุงคร่ำคร่า นั่นยังรู้สึกได้  ไฉนเลยกับร่างที่นอนนิ่งอีกมุมนั่นเล่า  

       เวลาไม่มีผลกระทบ ต่อการดำรงชีวิต ของเขา ท้องฟ้าที่มีเมฆ บดบัง ไร้แสงอาทิตย์ บ่งบอก เวลาไม่แน่ชัด กระเพราะ ลำใส่ เขามันบอกว่าหิว  ร่างกายที่ยังดำรงค์ได้ เพราะ อาหาร แต่ไม่ต้องการมากไปกว่า เหล้า!

      ผลุน ผลัน ออกจากมุ้ง สะดุดตาที่สุด คงเป็น ร่างที่นอนแน่นิ่่ง  ผู้หญิง ! เขามองไม่เต็มตานัก และไม่ไฝ่จะมอง แต่ ก็ อยาก รู้ว่าทำไม ไม่ลุก ไม่ตืน

      เบื้องล่าง ทุกอย่าง เปียกปอนหมด เว้น พื้นทราย เขาไช้มีดผ่า ฟืน ที่เปียกชื้น เหลือ เพียงแกนไม้ พอแห้ง จึงนำมาก่อไฟ

     แป๊บ เดียว ก็ หุงข้าวได้  เวลาต่อมา เศษถ่านที่เหลือ เขาใช้อุ่น อาหารที่ปิ้งย่าง 

       ค่อนข้างหงุดหงิด เพราะเม็ดฝน พรำไม่ขาดสาย จนเขาเองต้องเก็บตัวอยู่แต่ในกระท่อม 

       ทว่า เวลาผ่านพ้น ร่างนั้นก็ยังนอนแน่นิ่ง เขาใจดำเกินไปมั้ย !ที่ไม่เหลียวแลเธอเลย

      เขาไม่อยากยุ่งเกี่ยว ต่างหาก!

      แต่ หากร่างนั้น เสีย ชีวิต!

      ก็ ไม่เกี่ยว ข้อง กับเขา!

       แต่เธอ อยู่ในเรือ ในกระท่อมเขา!

      ความยุ่งยากจะตามมา

       ฝน ฟ้า หอบความ ยุ่งยากมาให้เขาหรือนี่?

       เขา ขยับเข้ามาใกล้ร่างนั้น เส้นผม เสื้อผ้าเปียกชื้น แหงนขึ้นมอง  รูรั่ว ซึ่ง ฝนพรำเม็ดไม่ขาดระยะ  แล้วร่างบางก็ ถูกย้าย ไปตรงที่เขานอน เสี้อผ้า เปียกชื้น แต่ ร่างกายร้อนผ่าว ราวถูกอังไฟ

         เสื้อผ้า เปียกชื้นหากทิ้งใว้ ร่างนี้ อาจมีอาการแทรกซ้อน เอาเถอะภายในกระท่อมที่มืดทึบ เขาจะผลัดเปลี่ยน เสื้อผ้านั่น

        ทำไมเขาต้องว้าวุ่น กับเหตุ การณ์นี้ เป็นอะไรที่ซับซ้อน ในความรู้สึก แต่หากเป็นเหล้า ดื่มแล้วเขาจะลืม หยุดวิตกกังวล

        เช้า ที่อากาศ แจ่มใส จากที่ฝนตกทั้งวัน ทั้งคืน เมฆ หมอก คงมี ปัญหา กัน ดวงอาทิตย์ จึง ออกมา แย้มทักทาย ไปทั่ว อาณา บริเวณ สาด ส่อง รอยรั่ว แสง เข้ม ตกกระทบ ดวงหน้าคม คร้าม

         เขาดื่มแบบจัดหนัก แล้วเลย หลับโดยไม่แคร์สายฝน  ครั้นตื่นถึงได้รู้ว่า เขาเปียกปอนไปทั้งตัว จนรู้สึกหนาว   ร่างสูงกระโดด ลงไป เบื้องล่าง 

          หลังอาบน้ำ แป๊บเดียว ควันจากเตาหุงต้ม ก็โชย กลิ่น ขึ้นไปบน อากาศ ดังเช่นเคย เขาหุงข้าวและย่างปลาเค็ม ปลาแห้ง ที่เขาตากแดดใส่ โหลใว้ ยามขัดสน มักช่วยได้เสมอ นี่คือการดำ เนินชีวิตที่เรียบง่าย

         ร่างนั้น ยังนอนนิ่ง ลมหายใจร้อน ช่วง จังหวะลมหายใจไม่ สม่ำเสมอ ปลายนิ้วเขา

    สัมผัสได้ถึงไอร้อน....ตามผิวกาย

         ชายหนุ่ม ถอนใจเฮือก ทำไมเขาต้องเจอเหตุการณ์ เช่นนี้ มันไม่ไช่เรื่องล้อเล่น เธอมาพร้อมกับทุกสิ่งอย่างที่ขัดความรู้สึกเขา

        มนุษยธรรม!เขาคงต้องใช้คำนี้ ยา  อาจทำให้ทุกสิ่งอย่างดีขึ้น ยาแก้ไข้  ถูกแช่น้ำหวังให้ยาละลาย จะได้กินง่ายๆ   


       พิษไข้ สูง ทำให้ ร่างบาง เริ่ม กระสับ กระส่าย ทุรนทุราย คล้ายจะรู้สึกตัว แต่ก็ไม่อาจ ขยับลุก ร่างสูงยืนพินิจ หรือ เธอจะชัก!ไข้สูง อาจมีอาการ ชักเกร็ง เขารีบประคองเธอใว ้้รีดนิ้วมือให้แบเหยียด ขา และเท้า เกร็ง เขาจับยืดเหยียดให้ โลหิตไหลซึมจาก ริมฝีปาก เธอ กัดปาก กัดลิ้น ตัวเอง หรือเปล่า  วินาทีนั้น เขารีบ สอด นิ้ว เข้าไปทาง ช่องปาก  และเขาก็ได้แต่กัดกรามแน่น  เพราะนิ้วถูกกัด จมเขี้ยว สักพักร่างกายเธอ

    ผ่อนลง เขาก็ป้อนยา ตามไป ร่างนั้นยังนอนนิ่ง เขาพละลุก และละลายยาใว้ต่อเนื่อง อดไม่ได้ที่จะมองดวงหน้านั้น สลับกับนิ้วช้ำเลือดของเขา เจ็บชมัด! 

        ดวงตา คู่  เข้ม ซ่อนอยู่ ภายใต้ คิ้วหนามองร่างที่นอนนิ่ง ...เธอ ไม่ไช่คนบนเกาะนี้แน่ !เขา จะเข้าไปในหมู่บ้าน คงพอได้รู้มีใครมา ใครไปหรือเปล่า.…....

        ยาถูกแช่ ใว้ในแก้วทรงเล็ก เขาจะนับเวลา แล้วให้ยาเธออีก  ..ข้าวในหม้อเริ่มเย็นชืด  ปลาก็แห้ง สมชื่อ..เขายังไม่หิว

        ร่างนั้นลดอาการ ทุรนทุรายลง จนเงียบนิ่งเมื่อเขานับเวลาให้ยา เป็นครั้งที่ สอง ..,..

        ไอแดด ร้อนๆ พอประมาณ เขาเดินเข้าไปในหมู่บ้านกลับออกมา ก็ คงค่ำๆ 

        คนในหมู่บ้าน ใช้ชีวิตปรกติ ไม่มีใคร พูดถึง ใคร และเขาเอง  ก็ไม่เอ่ยใดๆ เพราะ เขาเองยังไม่รู้แน่ชัด ถึงที่มา ที่ไปของ เธอ...

         อีกครั้ง ที่เขาบีบขากรรไกรแล้วป้อนยาลงไป ทางช่องปาก เธอที่เริ่มรู้สึกตัวมีอาการไอ สำลัก รู้ถึงรสชาด ของยาระลายนำ้ มีรสขม!

    ครั้น..ค่อยๆ  ลืมตา..ก็ให้ตระหนกสุดขีด! เมื่อหน้า ที่เฉียดเข้ามาใกล้,.....ช่างน่ากลัว !..เธอเห็นดวงหน้า ทมึงทึงเต็มไปด้วยขน!..ดวงตาที่มองมาแดงก่ำ...

        เสียง กรี๊ด! รอ้งขึ้นอย่างสุดกำลัง

        เขา มองดวงตาที่เบิกโพลง กิริยา หวาดหวั่น และสายตานั้น จ้องมาที่เขา!

          "โธ่! โว้ย!"เขาคำราม!ถลันลุก โยนแก้วยา

    ทิ้งในทันที วินาทีนั้นอะไร ที่มันวางขวาง เขาใช้ เท้าเตะ ทิ้งไปเดี๋ยวนั้น! แล้วร่างกำยำ ก็กระโดดแผล่วเดียว มาสู่พื้น พลาง สบถ ในใจ และเขา จะไม่ กลับมา จนกว่า เธอ จะไม่อยู่ ที่นี่!.....

        วิรัญญา กวาดสายตามองสำรวจ ถ้วน ทั่ว บรรยากาศภายในกระท่อม ค่อนข้างทึบ เหตุเพราะ ภายนอก ก็ ใกล้ ค่ำแล้ว ยังดวาดสายตา สำรวจ พื้น ที่มาของเสียง ร่วงกระจาย มีแก้วนำ้ล้มกลิ้ง เม็ดยา เกลื่อน ขวดน้ำล้มกลิ้ง ......นี่เธอมาอยู่ที่ไหน? หญิงสาวขยับลุก ยากเย็น เพราะไร้เรี่ยวแรง หัน มองข้างกาย  เสื่อ หมอน เก่า คร่ำคร่า มุ้ที่ถูกตลบ ขึ้นสูง มองไม่เห็นสีขาว ที่ไหนกัน!? พี่ส่งเธอมาอยู่สถานที่ เช่น นี้งั้นเหรอ

        เวลาต่อมา เธอเริ่ม ทุรน ทุกราย เพราะพิษไข้อีก  ปวดศรีษระ ร้อน รนในร่างกาย และ กระหายน้ำ ครั้นรู้สึกตัว เหลือบแล ไม่เห็นใคร ก็ ต้องช่วยเหลือตัวเอง เธอมองหายาที่ร่วงเกลื่อนและน้ำ.....เธอต้องเอาตัวรอดให้ได้ เธอ ต้องไม่มา ตายอยู่ที่นี่!

          เวิ้งฟ้าไกล เมฆหมอก เริ่มรวมตัว ทอ้งฟ้าเปลี่ยนสี คาดว่า เมื่อได้ฤกดิ์ ฝนต้องเทลงมาอย่าง แน่นอน แล้ว ก็เป็น อย่างที่คาดไว้ ฝนเทลงมา อย่างหนัก ตามด้วย ลมพัดแรง และฟ้า ฟาดฟันอย่างกึก ก้อง

         ร่างที่หลับเพราะฤทธิ์ยา ต้องสะดุ้งตื่น หวาดกลัว ต่อสรรพเสียง รอบๆ  เธอนั่กอดผ้าห่ม ผืนเกาคร่ำคร่า นั่งหลบมุม อยู่ในมุ้งสี่เหลี่ยมนั่น อย่างตัวสั่น งันงก เม็ดฝนที่ร่วงหล่นจากหลังคา ตกกระทบผิวกาย ร่างบาง ขยับหนี อย่างวิตก และโดดเดี่ยว!...…

       แสงสว่างคือสิ่งที่เธอต้องการ คราใดที่ดวงอาทิตย์ แข็งแรง พอที่จะเผยยิ้มได้......

       อ่อนแรง แล้วซินะ เมฆ ฝน แสงอาทิตย์ถึงจัดจ้าได้ ถึงเพียงนี้...

        ร่างบาง ผวาตื่น พลางขยับลุก อย่างรวดเร็ว ให้ตนเองมาอยู่ตรงที่มีแสงสว่าง มองสำรวจถ้วนถั่ว ไม่เห็นสิ่งมีชีวิต  แต่ความรู้สึกก็ยังดีกว่าเมื่อคืน  .....

        มอง สำรวจกระท่อม ทรงเตี้ย เก่าคร่ำคร่ามันจะปกป้อง ชีวิตของเธอได้สักแค่ไหน นี่มันใช่สถานที่ ที่พี่ เธอส่งมา เช่นนั้นหรือ รู้สึกขอบตาร้อนผ่าว  หยาดน้ำใสๆ  คลอหน่วย เมื่อยนึกถึง ชีวิตที่ยากลำบากในเวลานี้......

         เธอไม่กล้า แม้จะแง้ม ประตูออกไปได้แต่ซ่อนกายอยู่ภายในกระท่อม ไม่กล้า แม้จะหายใจ แรงๆ  

         เสียงฝีเท้า เบา แต่ไม้ที่ทอน เป็นฝืนหอบใหญ่ถูกโยนลงบนพื้น นั่นแหละ คือที่มาของเสียง...เธอค่อยๆ  มองลอดช่องโหว่ ฝาบ้าน"มนุษย์เกาะ" หรือเปล่า เวลาต่อมาควันจากไฟ ก็พวยพุ่ง

         ดวงตาสีเข็มคมกริบ มองเลยมาที่ประตูกระท่อม หวังว่า เขาจะไม่เห็นเธอ!...ขณะเดียวกัน คนที่อยู่ภายใน ก็ค่อยๆ  แง้มประตูผุๆ  ให้กว้างขึ้น

         เธอ ยังอยู่!..เขาเมินหน้า....

         มนุษย์ เกาะ เธอมองเขา ตั้งแต่ศรีษะ จรด ปลายเท้า

         ต่าง มองสบกัน อ่าน กันนิ่งๆ  

          ดวงหน้า ฝ่ายหนึ่งเข้ม ด้วยแดด ลม คิ้วหนา จนเกือบปิด ลูกนัยต์ตา  เหนือริมฝีปาก 

    รกรุง รังด้วยหนวดเครา ผมยาว ปิดหน้าตา มีเพียงดวงตา สีเข้มที่บอกว่าสิ่งที่เธอเห็น ไม่ไช่ตัวตน เขา 

         วินาทีเดียวกัน เขาเองคิดว่า นี่คือร่างที่นอนแน่นิ่ง เมื่อ หลายวันก่อน งั้นหรือ เขาเกลียดผู้หญิง!...ลักษณะเช่นเธอผู้นี้ เส้นผม 

    ดำขลับ ยาวเหยียด ดวงหน้า ละออตา คิ้วโค้งดัง ดวงจันทร์ เสี้ยว ดวงตากลม คมกริบ

       ไร้ วาจาจากเจ้าของร่างสูง ล่ำสัน เสี้ยวนาทีเดียว เท่านั้นเขาก็ไม่ แม้จะปลายตาไปกระทบ กับอีกฝ่าย กิริยา ก้มๆ เงยๆ  อยู่กับการก่อไฟ 

      ไม่สนใจ!  เธอไม่อยู่ในสายตา !ไร้คำถาม! มนุษย์อะไร!?   หญิงสาวคิดว่า เธอคงทำแบบเขา ไม่ได้

       "คุณ...คุณ..คะ.."

    . วาจาสำเนียง อ่อนหวาน... แต่เขาก็ไม่แม้จะเงยหน้ามอง!….

        "ขอโทษ เถอะค่ะ  ฉันอยากทราบว่าที่นี่ ใช่เกาะ 'บุลัน' มั้ยคะ "

    ไม้ไข่ !แต่เขาก็ไม่อยากจะพูด และยังทำภารกิจ ของเขาอย่างต่อเนื่อง.....


     ติดตามตอน 2นะคะ

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น