ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ผ่านภพบรรจบฟ้า (ตีพิมพ์กับสนพ. คำต่อคำ)

    ลำดับตอนที่ #24 : ตอนที่ ๒๓ หนี

    • อัปเดตล่าสุด 4 มิ.ย. 59




    ตอนที่ ๒๓ หนี



    ฉันออกวิ่งไปในทิศทางเดียวกับที่เห็นหยางชุนและโจรชั่ว ป่านี้ยิ่งลึกก็ยิ่งทึบสิ่งกีดขวางมีมาก แค่วิ่งตามพวกเขาอย่างเดียวก็ลำบากจนไม่มีเวลาดูแผล ได้แต่หยิบยาบรรเทาอาการช้ำในที่พกไว้ใส่ปากกลืนไปด้วย หวังให้ช่วยบรรเทาอาการบาดเจ็บไปได้บ้าง วิ่งมาได้พักหนึ่งก็ต้องรีบดึงกายเข้าหลบหลังพุ่มไม้ด้วยพบกลุ่มโจรลาดตระเวนเข้า การเจอกลุ่มโจรลาดตระเวนเช่นนี้ไม่แน่ว่าค่ายของพวกเขาอาจอยู่ไม่ไกล ใจนึกเป็นห่วงคนที่วิ่งพรวดพราดตามโจรชั่วไป ตอนนี้หยางชุนบาดเจ็บแต่ที่แย่กว่าบาดเจ็บคือเขาขาดสติ มองไม่เห็นสิ่งใดนอกจากศัตรูที่เคยสังหารครอบครัวของตน


    ฉันไล่ตามร่องรอยเขาไป แม้ไม่เห็นตัวแต่ก็มั่นใจว่าตามมาไม่ได้ห่าง เสียงต่อสู้ดังมาจากเบื้องหน้า ค่ายของพวกเขาซ่อนอยู่ในป่าลึกนี้จริงๆ ความโกลาหลบังเกิด เหล่าโจรวิ่งเอะอะกันไปมา ดูท่านายท่านผู้ล้ำเลิศคงบุกฝ่าค่ายโจรเข้าไปซึ่งๆหน้าโดยไม่ได้ไตร่ตรองสิ่งใดเป็นแน่ ฉันฉีกแขนเสื้อเอามาพันรอบแผลที่ต้นแขนลวกๆ สูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะชักกระบี่วิ่งเข้าไปมันซึ่งๆหน้าอย่างผิดต่อหลักรักชีวิตของตนยิ่งกว่าสิ่งใดเสียหมดสิ้น เหตุที่ต้องฝ่าไปเช่นนี้ประการแรกเป็นเพราะสภาพหยางชุนทำให้ไม่อาจทำให้รีรอได้ และหากรีรอก็ไม่แน่ว่าเจ้าสามอะไรนั่นจะกลับมาสมทบได้ก่อน อีกทั้งเวลานี้ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีแล้ว หากมืดมาเมื่อไหร่จะทำการสิ่งใดย่อมลำบาก


    อย่าให้มันเข้าไปได้!” เสียงโจรผู้หนึ่งตะโกนบอกก่อนจะพุ่งเข้าใส่ อาวุธของพวกเขาส่วนใหญ่เป็นดาบที่สร้างความเสียหายได้อย่างหนักหน่วง ฉันพลิ้วกายหลบ พยายามฝ่าเข้าไปให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ หวังจะพบหยางชุนก่อนที่เขาจะเกิดอันตราย


    เคร้ง


    เสียงกระบี่รับคมดาบรอบด้าน จำนวนที่เยอะเกินไปยิ่งทำให้ลำบากซ้ำความเร็วยังลดลงจากการบาดเจ็บก่อนหน้านี้


    ตู้ม!


    เสียงระเบิดที่ฉันไม่ได้เป็นผู้สร้าง เศษไม้ปลิวว่อนมาจากด้านหน้าค่าย พวกโจรแตกฮือแยกไปส่วนหนึ่งแต่ฉันไม่มีเวลาสนใจ จนกระทั่งได้ยินเสียงคำรามคุ้นหูที่มาพร้อมทวนที่ฟาดลงพื้นแล้วกวาดร่างโจรด้านหลังฉันกระเด็นไปหมด


    จิ้นเหอ!”


    ด้านหน้า!” เขาตะโกนบอก


    ฉันที่มัวหันไปหาหมุนกายหลบรับดาบที่ฟาดลงมา ต่างคนต่างรับมือกับสมุนโจรรอบด้านจนหลังมาชนกัน


    เหตุใดจึงมาอยู่นี่ ซือเหมยเล่า


    นางปลอดภัยแล้ว หยางชุนเล่า


    ด้านในตอบแล้วพุ่งใช้เพลงกระบี่จันทราแทงทะลุหัวใจโจรที่ขวางอยู่ ฝ่าไปเบื้องหน้าได้โดยไม่ต้องพะวงด้านหลังอีกต่อไป


    ขาออกวิ่งมือกวัดแกว่งกระบี่ กระโจนขึ้นเหยียบไหล่สมุนโจรชั่ว กระโดดข้ามใช้พวกเขาเป็นเส้นทางฝ่าไป ปลายเท้าเตะเสยคางเส้นทางคนสุดท้ายลอยตัวหมุนกลับ  ฟันเข้ากลางหลังโจรผู้นั้นในจังหวะที่เท้าลงพื้นพอดี วิ่งออกจากอาคารที่สร้างด้วยไม้ไผ่ทะลุออกลานตรงกลางค่าย ร่างสูงใหญ่ของหัวหน้าโจรที่ยืนปักหลั่นอยู่คือสิ่งแรกเห็นก่อนมองตามสายตาของเขาไปยังอีกร่างหนึ่งที่ทรุดลงเบื้องหน้า มือเปื้อนเลือดทำได้เพียงกำด้ามดาบที่ปักดินยันตัวไว้


    เจ้าคือภารกิจที่ผิดพลาด จงโทษสวรรค์เถิดที่พาเจ้าให้มาพบกับข้าอีกครั้งดาบในมือหัวหน้าโจรง้างขึ้น เท่านั้นฉันก็จับกระบี่พุ่งเข้าไปอย่างไม่ลังเล


    เคร้ง


    สองมือกำด้ามหงายกระบี่รับ ฉันกัดฟันฝืนต้านแรงพลังอันหนักหน่วงที่กดลงมา กระบี่สั่นไหว หากแต่ขายังคงไม่ขยับ ใช้พลังทั้งหมดที่มีพยายามผลักดาบนั้นคืนกลับ หัวหน้าโจรจ้องประสานสายตาฉันที่จ้องกลับอย่างมุ่งมั่น เขากดดาบลงฉันฝืนต้าน พลังที่แผ่ออกมาจากตัวดาบบ่งบอกได้ดีถึงกำลังภายในชั้นเลิศของคนตรงหน้า เลือดค่อยๆไหลออกลงจากมุมปากแต่ฉันยังคงกัดฟันสู้ ด้วยหากขยับออกไปคมดาบต้องฟาดฟันใส่ร่างของหยางชุนที่ทรุดอยู่ตรงนี้แน่


    ย้ากกก!


    เสียงคำรามดังลั่น ทวนเล่มหนึ่งพุ่งเข้าใส่ดึงสายตาหัวหน้าโจรให้เหลือบมอง อาศัยจังหวะที่เขาเสียสมาธิ ฉันรวบรวมพลังเฮือกหนึ่งผลักดาบเขาออกแล้วพุ่งแทงหมายเสียบเข้ากลางท้อง ร่างใหญ่โตเบี่ยงหลบได้ หันดาบฟาดรับเปลี่ยนทิศทางทวน กระบี่ฉันพลาดเป้าตัวถลาไปด้านหน้า แทนที่จะชักเท้าถอยฉันใช้จังหวะที่ถลาไปนี้เหวี่ยงแขนฝืนเปลี่ยนทิศทางกระบี่เข้าปาดหน้าท้องเขา จังหวะนั้นดาบหัวหน้าโจรที่ปัดทวนทิ้งไปก็ฟันฉับลงมา เลือดสาดกระเซ็น รอยแผลลากยาวตั้งแต่ช่วงไหล่ด้านหลังมาจนเกือบถึงเอว


    หลิ่งเฟย!”


    ฉันทรุดฮวบลงข้างหยางชุนที่ล้มลงไปแล้ว


    ย้ากกก!จิ้นเหอพุ่งไปหยิบทวนเข้าสกัด ความบ้าดีเดือดของเขาไล่ต้อนให้หัวหน้าโจรจำต้องถอยห่างจากพวกฉันได้หลายก้าวอย่างน่าเหลือเชื่อ


    ฉันหันมองหยางชุน ชุดสีดำสนิทของเขาเปลี่ยนเป็นดำเข้มตลอดทั้งตัวเนื่องจากถูกย้อมไปด้วยเลือด เมื่อเห็นว่าเขายังคงหายใจอยู่ก็กัดฟันลุกขึ้นโซเซ


    จิ้นเหอ สาม!” ตะโกนบอกรหัสลับของพวกเรา หนึ่งบุก สองตั้งรับ สามถอยหนี


    จิ้นเหอฟาดพลังใส่หลังคาที่ต้อนหัวหน้าโจรไปติด พอหลังคาถล่มลงเขาก็ทะยานกลับมาหิ้วตัวหยางชุนขึ้น


    หลิ่งเฟย!” เจ้าหมาบ้าหันมาเรียกฉันที่ใช้วิชาตัวเบาทะยานขึ้นฟ้าไปในทิศทางที่หัวหน้าโจรยืนอยู่ด้วยความตกใจ


    กระบี่ยกง้างขึ้นเหนือหัวก่อนจะทุ่มพลังทั้งหมดฟาดเข้าใส่หัวหน้าโจรที่เพิ่งทำลายสิ่งกีดขวางออกมาได้ ดาบถูกยกต้านรับ หัวหน้าโจรกระเด็นไปกระแทกสิ่งก่อสร้างที่พังไปแถบหนึ่งซ้ำอีก ในขณะที่ฉันกระอักเลือดออกมาคำใหญ่ ไม่สามารถพุ่งตัวแกว่งกระบี่สานต่อจนจบกระบวนท่านี้ได้ เป็นเวลาเดียวกับที่จิ้นเหอเก็บทวนแล้วพุ่งมาคว้าตัวไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหมาบ้าแขนขวาหิ้วหยางชุนไว้กับเอว แขนซ้ายอุ้มฉันพาดบ่า ทะยานออกจากค่ายโจรไปได้อย่างน่าทึ่ง ร่างกายเต็มไปด้วยรอยแผล หากแต่พอเท้าลงสู่พื้นแล้วจิ้นเหอก็ยังคงออกวิ่งไม่หยุด ฉันไม่รู้ว่าเขาวิ่งไปถึงไหน หนีไปได้ไกลเท่าไหร่ แค่ประคองสติตนเองไว้ก็ยากเต็มที


    ความมืดปกคลุมผืนป่า จิ้นเหอวางฉันกับหยางชุนไว้ในที่ซ่อนสักที่ที่เขาน่าจะสร้างขึ้นมา วางแล้วก็ก้าวเดินหายออกไป ฉันกัดฟันยันตัวเองลุกขึ้น เห็นเลือดย้อมชุดสีฟ้าจนดูน่ากลัวแล้วก็อดไม่ได้แตะแผลที่หลังด้านซ้าย เลือดชุ่มมือกลับมา หากไม่ใช่เพราะกระบี่ฉันถึงตัวเขาก่อนดันเขาถอยหลังทั้งยังทอนพลังไปมาก คาดว่าชีวิตคงมีอันได้ปลิดปลิวไปพร้อมคมดาบเป็นแน่ เช็ดมือกับกระโปรง ล้วงเข้าไปในเสื้อหยิบกล่องยาสมุนไพรที่เก็บไว้ในกระเป๋าลับออกมา เอายาโปะแผลเท่าที่ทำได้ก่อนจะคลานไปหาหยางชุน เขาบาดเจ็บทั่วไปหมด ยังดีที่พรสวรรค์ของเขาทำให้หลบเลี่ยงจุดตายได้ทั้งหมดแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเสียเลือดไปมาก ฉันค่อยๆโปะยาลงบนแผลเขา อยู่ๆมือก็สั่นขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ ไม่ทราบเป็นเพราะฉันเองก็ไร้เรี่ยวแรง หรือเพราะการทำแผลให้คนที่เลือดท่วมตัวแบบนี้ทำให้ภาพในป่าทดสอบสุดท้ายปรากฏขึ้นมาซ้อนทับ


    "หยางชุน" ฉันเรียก เสียงแผ่วเบาจนแทบปลิวหายไปกับสายลมที่พัดผ่าน "คำพูดนั้นข้ายึดถือว่าเป็นคำมั่น จะอย่างไรก็ยังคงมีเจ้าอยู่ เช่นนั้นเจ้าก็ต้องอยู่ เพื่อรักษาคำมั่นที่ให้ไว้"


    มองเขาที่ยังคงไม่ได้สติ


    "เข้าใจหรือไม่ ไม่ว่าอย่างไรก็ห้ามผิดสัญญา"


    ฉันทำได้เพียงโปะยาให้เขา สภาพร่างกายไม่อำนวยให้ช่วยเหลือสิ่งใดไปได้มากกว่านี้ จำต้องหันมาดูแลตัวเองเท่าที่ทำได้เสียก่อน


    "หลิ่งเฟย" เงยหน้าขึ้นตามเสียงเรียก จิ้นเหอเดินกลับเข้ามา แสงจันทร์ทำให้เห็นว่าเขาคิ้วเขาขมวดมุ่น "เจ้าบาดเจ็บ เหตุใดไม่อยู่นิ่งๆ"


    "อยู่นิ่งๆก็ไม่ได้ทำให้หายเจ็บนี่" ฉันตอบ พยายามเอาผ้าพันแผลตัวเองอย่างทุลักทุเล


    จิ้นเหอดึงผ้าไป ทิ้งตัวนั่งลงข้างๆแล้วเอาผ้าพันต้นแขนซ้ายให้


    "เจ้าไปไหนมา" ฉันถาม


    "ไปจุดไฟไว้ในถ้ำที่อยู่อีกฝั่งหนึ่ง ข้าบังเอิญเจอตอนพาพวกเจ้าวิ่งผ่าน หากพวกนั้นตามมาจะได้คิดว่าเราอยู่ที่นั่น แล้วก็เอานี่มาด้วย" เขาหยิบกระบอกไม้ไผ่ใส่น้ำที่คาดไว้กับเอวขึ้นมา "ไปทำร่องรอยตรงลำธารให้พวกเขาไขว้เขวเพิ่ม"


    "เรื่องในป่าต้องยกให้เจ้าจริงๆ" ฉันพูด ยิ้มเหนื่อยๆ


    "กินเสีย" กระบอกน้ำถูกยื่นมาให้


    "เจ้าเล่า"


    "ข้ากินไปแล้ว"


    "แล้วแผลบนตัวเจ้า"


    "ข้าเก็บเอาสมุนไพรที่เจอแถวๆนี้โปะไว้แล้ว ไม่ได้มีที่ใดบาดเจ็บมาก"


    ฉันพยักหน้ารับน้ำมาดื่ม


    "แล้วแผลที่หลังเจ้า" จิ้นเหอถาม ยกมือทำท่าจะแตะแต่ไม่กล้า


    ฉันส่งกระบอกน้ำคืนให้


    "รอยแผลอยู่ด้านซ้าย ข้าใส่ยาไปแล้วแต่พันแผลเองไม่ได้ อีกอย่างไม่มีผ้าใหญ่พอจะพันไว้กับเอวแล้วโยงขึ้นมาผูกไว้บนไหล่"


    จิ้นเหอได้ยินดังนั้นก็ลุกขึ้นยืนทันที เขาเดินหายออกไปก่อนจะส่งชุดสีขาวมาให้ ฉันรับมาเงยหน้ามอง


    "อย่าบอกว่านี่เสื้อตัวในของเจ้า"


    "เสื้อตัวนอกสกปรก" ตอบแล้วก็ยัดเสื้อใส่มือฉันก่อนนั่งลง


    "แต่เจ้า"


    "รีบๆปิดแผลเจ้าเสียที ถึงจะมืดข้าก็รู้ว่าปากเจ้าซีดไปหมดแล้วจะอดทนได้จนถึงเมื่อไหร่" เขากล่าวน้ำเสียงหงุดหงิด เห็นดังนั้นฉันจึงรับผ้ามา


    "เจ้าใช้มีดตัดมันเป็นผ้ายาวๆแล้วช่วยข้าหน่อยได้หรือไม่" ส่งผ้ากลับไปให้เขาที่รับไปตัดอย่างว่าง่าย แต่พอถึงตอนช่วยทำแผลกลับกระอักกระอ่วนขึ้นมาเสียเฉยๆ


    "จะอย่างไรเจ้าก็เป็นผู้หญิง"


    "ข้าไม่ได้แก้ผ้าให้เจ้าดูเสียหน่อยนี่ก็หันหลังอยู่ ส่งปลายผ้ามาเร็วเข้า ข้าจะได้ผูกเข้าด้วยกัน"


    จิ้นเหอเอาปลายผ้าพาดผ่านไหล่ยัดใส่มือฉัน


    "เจ้านี่มันเสียของอย่างที่จินฟู่พูดจริงๆ!"


    ฉันยิ้มขำกับน้ำเสียงโมโหของเขา ยิ้มได้ไม่เท่าไหร่ก็ต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ ก่อนหน้านี้เจ็บจนชาจนตอนนี้กลับมาเจ็บใหม่พ่วงความปวดเข้ามาด้วย


    "ข้าจะทำแผลให้หยางชุนเอง" จิ้นเหอขัดตอนที่เห็นฉันทำท่าจะขยับหันไป "เจ้าพักสักหน่อย ร่างกายอดทนไว้มากๆ เดี๋ยววิญญาณเจ้าทนไม่ไหวได้หลุดออกจากร่างไปก่อนพอดี"


    ฉันหัวเราะนิดๆ


    "เช่นนั้นฝากเจ้าด้วย" พูดแล้วก็หลับตาลง








     

    ในตอนที่อยู่โลกวิญญาณ เทพบุตรบอกว่าร่างกายนี้แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก โรคภัยต่างๆยากที่จะกล้ำกราย ดังนั้นที่ผ่านมาฉันจึงกลายเป็นสี่สิบสามที่ทั้งอึดและทนทานในสายตาคนอื่นอยู่เสมอ มาตอนนี้คาดว่าร่างกายคงบอบช้ำเสียจนเกินขีดจำกัดความยากนั้นขึ้นเสียมาแล้ว เพราะหลังจากหลับไปฉันก็เริ่มเป็นไข้ ไข้หนักขึ้นเรื่อยๆจนนอนซมแทบไม่ได้สติ รู้เพียงว่าหยางชุนเองก็ไข้ขึ้น เหลือเพียงจิ้นเหอที่ต้องคอยเฝ้าดูแล


    ฉันส่งกล่องสมุนไพรให้เจ้าหมาบ้าทั้งพิษไข้ แจกแจงบอกเขาไปทั้งสติพร่าเลือนว่ามียาอะไรบ้าง ชี้ๆจิ้มๆถูกบ้างผิดบ้างเจ้าจิ้นเหอก็รับคำไม่ทักท้วงเสียอย่างนั้น ลุกไปลุกมา คอยดูแลทั้งฉันและหยางชุน ป้อนน้ำป้อนอาหารทั้งยังระแวดระวังภัยอยู่ตลอด จนฉันที่นอนพะงาบๆอยู่พะงาบไปด้วยความตื้นตันใจเป็นอย่างยิ่ง ได้แต่หวังว่าร่างกายอันแสนแข็งแกร่งนี้จะฟื้นตัวในเร็ววันช่วยแบ่งเบาให้เขาได้พักบ้าง


    หนึ่งวันผ่านไปจิ้นเหอแบกหยางชุนไปที่ซ่อนใหม่แล้วจึงกลับมาอุ้มฉันตามไป ผ่านไปอีกวันฉันถึงได้ค่อยๆดีขึ้น ลุกมาช่วงเย็นๆในตอนจิ้นเหอถือเนื้อที่ย่างแล้วกลับมาพอดี


    เจ้าฟื้นแล้วรึเขานั่งลง วางเนื้อเสียบไม้สองอันไว้บนใบไม้ใบใหญ่


    ไปย่างมาจากไหนกันฉันถาม นึกสงสัยเพราะในช่วงที่หนีอยู่เขาไม่เคยจุดไฟเลย


    ข้าไปจุดไฟย่างอีกด้านหนึ่งของป่าห่างจากที่นี่ไป แล้วทำกับดักล่อพวกมันไปด้วย


    ได้เจอพวกมันบ้างหรือไม่


    เจอ แต่พวกมันไม่เห็นข้า ตอนนี้มันกระจายตัวไล่ตามหาเราอยู่แต่ยังหาไม่เจอ โดนข้าล่อไปผิดเส้นทางอยู่หลายครั้งเรื่องการใช้ชีวิตในป่านั้นจิ้นเหอถือว่าอยู่ในอันดับต้นๆของรุ่น ด้วยความที่หลงทางมาตั้งแต่เด็กประสบการณ์ในป่าของเขาจึงมีมากกว่าคนอื่นๆ


    เช่นนั้นเจ้าก็พักบ้างเถิด คืนนี้ข้าจะเฝ้ายามให้เองฉันบอก หลายวันมานี้เขาเองก็คงเหนื่อยไม่น้อย ร่างกายก็ใช่ว่าจะปกติ แผลที่มองเห็นผ่านรอยฉีกขาดของเสื้อที่สวมอยู่นั่นก็หาใช่มีแต่รอยขีดข่วนเบาๆ


    ข้าไม่เป็นไรจิ้นเหอปฏิเสธ มือหยิบเนื้อส่งให้


    ร่างกายอดทนไว้มากๆ เดี๋ยววิญญาณเจ้าทนไม่ไหวได้หลุดออกจากร่างไปก่อนพอดีฉันพูด สายตามองเขาที่ทำท่าเหมือนจะแยกเขี้ยวใส่


    เจ้ากล้าย้อนข้า


    หรือเจ้าจะบอกว่าคำพูดของเจ้าผิดเล่า


    เจ้า!”


    ฉันส่งยิ้มให้เขา เจ้าหมาบ้าหัวเสียลุกขึ้นเดินไปนั่งกอดอกพิงต้นไม้ ถลึงตาใส่ฉันทีหนึ่งก็หลับตาลง ฉันมองใบหน้าเหนื่อยอ่อนที่เห็นร่องรอยความเหนื่อยล้าชัดเจนขึ้นยามเขาอยู่นิ่งๆ


    ขอบคุณมากจิ้นเหอ ขอบคุณเจ้าจริงๆฉันพูด คิดว่าหากเขายังไม่หลับคงได้หงุดหงิดใส่บอกว่าฉันยุ่งยากมากความ แต่เจ้าหมาบ้าหน้าดุก็ไม่ได้พูดสิ่งใด






     

    เช้าวันต่อมาหยางชุนได้สติ แม้ใบหน้าจะยังคงซีดเซียวหากแต่ไม่มีไข้และร่างกายก็ดีขึ้นนิดหน่อย


    ครั้งนี้ข้าทำพวกเจ้าทุกคนเดือดร้อนแล้วเขาพูด สีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก


    เดือดร้อนอะไรกันเล่าฉันพูดปลอบ เจ้าไม่รู้เสียหน่อยว่าโจรพวกนั้นจะโจมตีพวกเรา ดูจากฝีมือพวกเขาแล้วอย่างไรก็ไม่ใช่โจรระดับล่าง คิดว่าพวกเขาคงเฝ้าสังเกตการณ์เราจนรู้ว่ามีซือเหมยมาด้วย ตั้งใจทั้งปล้นทั้งเรียกค่าไถ่


    ถึงอย่างนั้นก็เป็นเพราะข้าขาดสติ โดนยั่วยุจนตามมันไปอย่างไร้หัวคิดเช่นนั้น


    อย่างไรตอนนี้ก็รอดมาได้ ไว้หนีให้พ้นก่อนเรื่องไร้หัวคิดนั่นค่อยคิดบัญชีกับเจ้าก็ยังไม่สายจิ้นเหอพูดขึ้น เจ้าฟื้นมาก็ดีแล้ว พอลุกไหวหรือไม่ พวกเราอยู่กับที่นานๆจะเสี่ยงต่อการถูกพวกมันหาพบ


    แล้วตอนนี้พวกเราอยู่ที่ไหน เขตป่าของเมืองใดกันหยางชุนถาม ในขณะที่คนถูกถามนิ่งอึ้งไปนิดหนึ่งก่อนจะส่ายหัวตอบหน้าซื่อ


    ไม่รู้


    ฉันกะพริบตาปริบๆ


    เจ้าว่าอย่างไรนะ


    ข้าไม่รู้จิ้นเหอพูดย้ำ ในป่ามีชื่อเมืองเขียนไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่เล่า ข้าจะได้รู้ว่ามันอยู่เขตไหน


    แล้วเจ้าจำได้หรือไม่ว่าขบวนสินค้าของคหบดีจ้างอยู่ทิศใด


    จิ้นเหอจ้องหน้าฉันกลับ กะพริบตางงๆสองทีแล้วสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นโมโห


    ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร อุตส่าห์พาพวกเจ้าหนีมาได้ขนาดนี้แล้วเหตุใดต้องอยากกลับไปด้วย!”


    ฉันอึ้ง หลงทิศหลงทางเช่นนี้ยังพาเราทั้งหมดหนีมาได้ ควรจะเรียกว่าน่าทึ่งหรืออะไร นี่หากว่าเดินๆอยู่แล้วกลับไปโผล่อยู่ค่ายโจรเหมือนเดิมฉันจะไม่แปลกใจเลย


    เช่นนั้นก็เปลี่ยนที่ซ่อนเสียก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากันหยางชุนตัดบท


    ที่ซ่อนข้าไปเตรียมไว้แล้วจิ้นเหอตั้งท่าจะเดินนำไปแต่เหมือนนึกบางอย่างได้จึงหันกลับมา ล้วงหยิบของจากในเสื้อ เจ้าทำนี่ตกไว้


    ป้ายหยกถูกโยนไปให้หยางชุน เขารับไว้เงยหน้าขึ้นมองคนโยนอึ้งๆ สีหน้ายากจะเอ่ย


    ลุกไหวหรือไม่หากแต่จิ้นเหอก็ไม่ได้ถามสิ่งใดเกี่ยวกับป้ายหยกนั้น เดินมายื่นมือให้


    หยางชุนไม่ได้ยกมือขึ้นจับ เก็บป้ายไว้แล้วก็นิ่งเงียบราวกับไม่แน่ใจว่าควรทำสิ่งใดก่อน จิ้นเหอขมวดคิ้ว ขมวดแล้วก็จับแขนอดีตรัชทายาทเจ้าของป้ายหยกดึงให้ลุกพรวดขึ้นจนอีกฝ่ายเซ


    เรื่องป้ายนั่นของเจ้าข้าไม่สนใจหรอก กินก็ไม่ได้ ใช้ต่อสู้ก็ไม่ได้ ไม่เห็นมีค่าน่าสนใจอะไรในสายตาข้าสักนิดเจ้าหมาบ้าบอก ก้มลงกลบเกลื่อนร่องรอยของพวกเราไปด้วย ของที่ไม่มีประโยชน์กับข้า อีกเดี๋ยวข้าก็ลืม"


    ฉันลุกขึ้นมองพวกเขาสองคนสลับไปมา


    ออกไปจากที่นี่ได้เมื่อไหร่ ข้าจะเล่าทุกอย่างให้พวกเจ้าทั้งสองคนฟังหยางชุนพูด


    ถ้าไม่ยาวนักข้าจะฟังจิ้นเหอตอบ


    ฉันหัวเราะ เดินไปยืนอยู่ข้างจิ้นเหอ รอจนหยางชุนเดินสมทบแล้วจึงออกเดินไปพร้อมกัน





     

    พวกฉันสามคนเดินไปเงียบๆโดยไม่ได้พูดคุยสิ่งใด เดินไประยะหนึ่งก็หยุดกึกพร้อมกัน รอบกายเงียบสงัดไม่มีแม้แต่สายลมพัดผ่าน มือค่อยๆเลื่อนไปจับกระบี่ที่ข้างเอว ขาขยับหมุนตัวพร้อมๆกับหยางชุนที่หันไปอีกทางช้าๆ


    ไม่เลว อายุยังน้อยแต่ประสาทสัมผัสนับว่าเฉียบขาดร่างสูงใหญ่เดินออกมาจากหลังต้นไม้พร้อมสมุนโจรที่เปิดเผยตัวจากที่ซ่อน


    พวกฉันสามคนหันหลังชนกัน มือจับอาวุธเตรียมต่อสู้แม้รู้ว่าสภาพร่างกายในตอนนี้อย่างไรก็ไม่อาจสู้ได้


    สองแล้วสาม ฝั่งจิ้นเหอหยางชุนพูดโดยไม่ขยับปาก พอให้ได้ยินกันเพียงสามคน


    จบคำพูดหยางชุนจิ้นเหอก็พุ่งเข้าใส่สมุนโจรก่อนทันที การเปิดก่อนเช่นนี้ทำให้เขาสังหารโจรไปได้คนหนึ่งก่อนที่พวกมันจะทันตั้งตัว สมุนโจรคนอื่นๆเข้ารุม ตัวฉันแม้สภาพไม่สมบูรณ์เรี่ยวแรงยังพอคืนกลับมาหลายส่วน แต่หยางชุนนั้นเห็นได้ชัดว่าเขากัดฟันฝืนเป็นอย่างมาก หัวหน้าโจรไม่ยื่นมือเข้ายุ่ง เขาเพียงยืนมองพวกฉันต่อสู้กับลูกน้องไปราวกับจะบอกให้รู้ว่าอย่างไรก็ไม่อาจหนีเขาพ้น


    ไม่ต้องรอให้สมุนโจรถูกฆ่าตายหมด เมื่อสบโอกาสฉันกับหยางชุนก็เปลี่ยนทิศทางไปหาจิ้นเหอ ฝ่าวงล้อมแล้วหนีทันที การหนีของพวกเราทำให้หัวหน้าโจรไม่อาจไม่เคลื่อนไหว เขาใช้วิชาตัวเบาทะยานตามมา จิ้นเหอจำต้องหยุดหันกลับไปรับมือด้วยรู้ว่าอย่างไรพวกเราทั้งสามก็หนีไม่พ้น


    การต่อสู้ที่มองไม่เห็นหนทางชนะ ฉันจับกระบี่ต่อสู้ด้วยความเจ็บใจ หลายปีมานี้ที่ฝึกฝน หลายปีมานี้ที่มั่นใจว่าฝีมืออยู่ในระดับที่เรียกว่าไม่ได้ด้อย แม้จะยังสู้อาจารย์กับศิษย์พี่ไม่ได้ ฉันก็มั่นใจว่าตนเองไม่ได้น้อยหน้าสมาชิกหอคนอื่นๆ อย่าว่าแต่หยางชุนที่ล้ำเลิศถึงเพียงนั้น จิ้นเหอเองก็เก่งกาจ แล้วเหตุใดกับโจรที่เจอระหว่างทางอารักขาขบวนสินค้า กับค่ายโจรที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไรมาก เหตุใดพวกเราทั้งสามถึงสู้ไม่ได้


    เคร้ง


    เสียงดาบของหยางชุนเข้ารับดาบของหัวหน้าโจรตอนที่จิ้นเหอกระเด็นไป เจ้าหมาบ้าหันไปรับมือสมุนโจรในขณะที่หยางชุนต่อสู้ด้วยความทุลักทุเล ฉันลนลาน ล้วงเอากล่องสมุนไพรเขวี้ยงใส่หัวโจรผู้หนึ่ง แทงกระบี่ใส่โจรอีกผู้หนึ่งแล้วรีบวิ่งไปทางหยางชุนเข้าช่วยรับเพลงดาบนั้น ตอนร่างกายปกติยังสู้ลำบาก บาดเจ็บเช่นนี้ไหนเลยจะเอาชนะได้ ฉันและหยางชุนกระเด็นร่วงลงบนพื้น มือรีบล้วงเข้าไปในแขนเสื้อข้างขวาที่มีมีดสั้นซ่อนอยู่ ตั้งใจจะทำเป็นทิ้งกระบี่รวบรวมกำลังเฮือกสุดท้ายพุ่งเข้าใส่หัวหน้าโจรให้เขาประหลาดใจ แล้วอาศัยจังหวะนั้นชักมีดสั้นลองเสี่ยง หัวหน้าโจรหันดาบมาทางฉันก่อนตามคาด จังหวะนั้นหยางชุนกลับพุ่งพรวดมากอดฉันหันหลังเอาตัวเองกันไว้ หัวใจดั่งถูกกระชากหาย สองตาเบิกกว้ามองคมดาบที่ฟาดฟันลงมา


    เคร้ง


    เงาบางอย่างสะท้อนมาจากบนฟ้า พุ่งเข้าโจมตีใส่หัวหน้าโจรที่จำต้องเบี่ยงดาบมารับการโจมตีปริศนานั้น รับแล้วหาได้จบกระบี่ปริศนาพลิกหนีโจมตีต่อเนื่อง แม้หัวหน้าโจรจะประสาทสัมผัสดีเยี่ยม รู้สึกถึงจอมยุทธ์ที่โผล่พรวดพราดมานี้ตั้งแต่เขายังไม่ถึงตัวกลับไม่สามารถรับการโจมตีนั้นได้หมด เลือดสายหนึ่งสาดกระเซ็นจากอกด้านขวาของเขา ดาบถูกยกขึ้นฟันสวนกลับหากแต่ไม่สัมผัสโดนร่างของจอมยุทธ์ผู้นั้น ไม่สัมผัสโดนแม้แต่ปลายกระบี่ของเขา ร่างสูงโปร่งพลิ้วไหว กระบี่กับคนผสานเป็นหนึ่ง เข้าโจมตีกระบวนท่าต่อเนื่องอีกครั้งจนสายตาแทบจับไม่ทัน หัวหน้าโจรได้แต่ตั้งรับ แม้จะตั้งรับก็รับได้อย่างยากลำบากขึ้นเรื่อยๆ กระบี่หลอกล่อรวดเร็ว แทงเข้าที่ท้องเขาก่อนจะดึงออก หัวหน้าโจรเหวี่ยงดาบฟาดพลังผลักตนเองถอย กระอักเลือดมาคำหนึ่งแล้วเบิกตามองจอมยุทธ์ตรงหน้า


    สำนักวายุมังกร!เขาพูดด้วยความตกใจ


    ท่ามกลางความตกใจของเหล่าโจรกลับมีฉันที่ตกใจยิ่งกว่า ชุดสีขาวสะอาดพลิ้วไหว กระบี่สีเงินทอประกาย ใบหน้าด้านข้างถูกแสงแดดที่ลอดผ่านกิ่งไม้สาดกระทบ เค้าโครงคุ้นเคยจนทำให้หัวใจแทบหยุดเต้น ริมฝีปากพึมพำอย่างไม่เชื่อสายตา


    “ยี่สิบเจ็ด”



    ----------------------------------------------------------

    หลังจากนี้ติดตามได้ในแบบรูปเล่มหรือ E-Book นะคะ m(_ _)m

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×