คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Doflammingo x Luffy : #1
ถึง : มังกี้ ดี การ์ป
‘ไว้ฉันจะมารับ หลานรักของแก’
ดองกีโฮเต้ แฟมิลี่
เพียงแค่จดหมายเนื้อหาสั้นๆที่ถูกส่งมา พลันทำให้ๆนายพลทหารอย่างการ์ปถึงกับเลือดขึ้นหน้า ยิ่งรู้ว่าเจ้าของจดหมายฉบับนี้มันเป็นใครเขาก็แทบอยากจะไปทุบหัวที่มีแต่เรื่องบ้าๆของมันให้แหลกเป็นเสี่ยงๆ ไอ้เขารึอุตส่ามองข้ามวีรกรรมน่าปวดหัวของมันมานับร้อยนับพันครั้ง แล้วดูมันมาแว้งกัดเขาสิ ยุ่งกับใครไม่ยุ่งดันมาคิดยุ่งเกี่ยวกับหลานสุดที่รักเสียได้!!
“ไอ้เจ้านกยักษ์นั่น!! มันจะเล่นกับฉันแบบนี้ใช่ไหม! เจอกันครั้งหน้าฉันจับแกหักคอแน่!!” การ์ปประกาศคำลั่น ใครๆก็รู้ว่าชายสูงอายุสุดแข็งแกร่งคนนี้รักและหวงหลานของตัวเองมากแค่ไหน อย่าว่าแต่จะให้ใครมาพาตัวไปเลย เผลอๆแมลงสักตัวก็ยังไม่อยากให้เข้าใกล้
ยิ่งในจดหมายเน้นว่า ‘หลานรัก’ แล้วไม่ต้องให้เดาก็รู้ว่าเป็นใคร ในบรรดาหลานทั้งสามคน คนที่การ์ปคนนี้รักมากถึงมากที่สุดก็คงไม่พ้นหลานคนสุดท้อง ที่แสนจะน่ารักน่าเอ็นดูในสายตาคนเป็นปู่ แต่ในทางกลับกันก็เป็นตัวป่วนชนิดที่ปัญหาโลกแตกเช่นกัน ไหนจะพี่ชายอีกสองคนที่เชิดชูน้องรักยิ่งกว่านางฟ้านางสวรรค์จากชั้นดาวดึงส์ ที่เป็นสองว่าที่นายพลคนต่อไปอีกด้วย แน่นอนเรื่องความแข็งแกร่งไม่ต้องพูดถึง…
และฝ่ายที่ส่งจดหมายนี่มาก็รู้ทั้งรู้อยู่แล้วว่าการจะมาพาตัวหลานของการ์ปไปนั้นต้องเจอกับผู้เฝ้าประตูนรกทั้งสามพร้อมกับผลกรรมที่จะตามมาก็ยิ่งกว่าต้องตกนรกทั้งเป็น แต่ก็ยังใจกล้าบ้าบิ่นส่งของพรรณ์นี้มาให้อีก ไม่โง่มากก็ต้องบ้ามากจริงๆ
“ไอ้พวกไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา!! แกไม่ได้แก่ตายแน่โดฟลามิงโก้!!”
“เอส~ นะ.. ให้ฉันไปเถอะนะ” เสียงเด็กหนุ่มมออดอ้อนน่ารักพลางโยกตัวพี่ชายเจ้าของชื่อไปมา ใบหน้าเศร้าสลดเป็นเชิงขอร้องและเด็กหนุ่มเองก็เชื่อว่าวิธีนี้ก็น่าจะได้ผลชะงักเสียด้วย
“ม— ไม่ได้ๆ ปู่สั่งว่าช่วงนี้ไม่อนุญาตให้นายออกจากบ้านเด็ดขาด เพราะงั้นเป็นเด็กดีอยู่กับฉันที่นี่แหละ” เอสใจแข็ง พยายามอย่างหนักที่จะไม่มองใบหน้าออดอ้อนแสนน่ารักในสายตาเขา
ลูฟี่ ไม่ใช่เด็กหนุ่มที่มีใบหน้าน่ารักหรือรูปร่างเพรียวบางแต่เพียงแค่ตัวเล็กกว่าขนาดไซต์มาตรฐานของผู้ชายเล็กน้อยเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้บอบบางจนขนาดจะต้องประคบประหงมราวกับไข่ในหิน ลูฟี่ยังคงออกไปเล่นออกไปสนุกตามประสาเด็กธรรมดาอยู่
“โธ่ เอส จะใจร้ายกับฉันจริงๆหรอ”
“ฟังนะลูฟี่ เรื่องนี้ปู่เป็นกังวลมากๆ เพราะงั้นอยู่นิ่งๆไปสักระยะเถอะนะฉันสัญญาเลยว่าทุกอย่างโอเคเมื่อไหร่ฉันจะพานายไปทุกทีที่อยากไป จะประเคนของกินทุกอย่างที่นายต้องการเลยนะ” เอสใช้ไม้อ่อน เพราะเขารู้ดีว่าถ้ายิ่งบังคับให้อยู่เจ้าน้องชายตัวดีไม่มีทางยอมแน่ แต่ตัวเขาเองก็ไม่ค่อยจะใช้ไม้อ่อนเป็นอย่างซาโบ้ซะด้วย
“แต่ว่าฉันสัญญากับพวกโซโลไว้แล้วนะ”
“ลูฟี่อย่ามาทำตาแบบนั้นกับฉันนะ ฉันยิ่งแพ้คำขอร้องของนายอยู่ด้วยแล้วนี่เจ้าซาโบ้มันหายไปไหนเนี่ย” เอสเอ่ยอย่างคาดโทษ พวกเขาทั้งคู่มีหน้าที่คอยปกป้องลูฟี่ตามคำสั่งแท้ๆแต่ในตอนที่เขาจนมุมที่สุดอีกคนกลับหายหัวไปไม่โผล่มาให้เห็นแม้แต่ปลายเส้นผม
“หึ่ม!! ฉันเกลียดเอสแล้ว!!”
“ล—ลูฟี่”
“ไม่เอาน่าลูฟี่ ดูซิว่าพี่ชายซื้ออะไรมาให้” เสียงนุ่มอ่อนโยนของซาโบ้ดังขึ้น เรียกความสนใจจากสองพี่น้องที่กำลังจะทะเลาะกันอยู่ก็มิปาน ซาโบ้หอบหิ้วของมาอย่างพะรุงพะรังซึ่งของเหล่านั้นล้วนแต่เป็นของที่ลูฟี่ชื่นชอบทั้งนั้น
“เนื้อนี่น่า!!! ของฉันใช่ไหมๆซาโบ้!” ลูฟี่ผละตัวจากเอสทันทีและรีบวิ่งกรูเข้าไปหาพี่ชายคนรองที่ยิ้มรับอย่างอ่อนโยน
“ใช่แล้ว ทุกอย่างที่นายต้องการฉันจะหามาให้เองนะ”
“พูดแบบนี้จะไม่ยอมให้ฉันไปอีกคนใช่ไหมล่ะ!!” ลูฟี่ขมวดคิ้วเป็นปมอีกครั้ง นึกโกรธพี่ชายของตนเองทั้งสองที่พยายามจะขังเขาเอาไว้ แม้การอยู่กับพี่ชายจะไม่ได้ลำบากอะไรกลับกันกลับทีทุกอย่างที่ต้องการก็จริงอยู่แต่เขาก็มีสัญญาที่จะนัดกันไปเที่ยวเล่นเช่นกัน
“เอางี้ไหมลูฟี่ ทำไมนายไม่ชวนพวกเพื่อนๆมาเที่ยวที่บ้านแทนล่ะ ยังไงพวกเราก็รู้จักกับเพื่อนของนายเป็นอย่างดีอยู่แล้วถึงจะมีฉันกับเอสอยู่ด้วยก็ไม่น่าจะทำให้พวกเขาอึดอัดนี่น่า แล้วถ้านายอยากได้อะไรฉันกับเอสจะจัดเตรียมทุกอย่างไว้ให้เอง …นะ” ซาโบ้ค่อยๆพูดไกล่เกลี่ย โน้มน้าวอย่างใจเย็นจนลูฟี่เองก็เริ่มที่คล้อยตาม คนเป็นน้องชายโยกตัวไปมาอย่างใช้ความคิดตามประสา ก่อนเหยื่อนจะติดเบ็ดฉีกยิ้มรับกับข้อเสนอ
“เอางั้นก็ได้ แต่พวกนายต้องตามใจฉันทุกอย่างนะ!!”
“ปกติพวกเราก็ตามใจนายมาตลอดไม่ใช่หรือไง?”
“ชิชิชิ ถ้างั้นฉันไปโทรบอกพวกโซโลก่อนนะ!!” ลูฟี่ยิ้มหน้าบานออกไปโดยไม่ลืมที่จะหอบของที่ซาโบ้ซื้อมาให้ด้วย แม้มันจะมีเพียงแค่เนื้อกับเนื้อแล้วก็เนื้อก็เถอะ
“อยู่ๆก็เข้ามาชุบมือเปิบเลยนะ”
“เพราะนายไม่รู้จักการหลอกล่อไงล่ะ ลูฟี่น่ะใสซื่อจะตาย” ซาโบ้ตอบรอยยิ้มเล็กๆผุกขึ้นบนใบหน้าอ่อนโยน ผิดกับเอสที่ทำหน้าบูดบึ้งไม่ชอบใจ ไอ้เขาล่ะอุตส่าพยายามปกป้องแทบตายน้องชายยังมาโกรธ แต่กับอีกคนที่เพียงเอาของกินมาล่อนิดๆหน่อยๆเหยื่อก็กินเบ็ดเสียอย่างนั้น
“ไอ้คนเจ้าเล่ห์เอ้ย”
“ก็ตามนั้นแหละ โทษทีนะแต่ยังไงๆเอสกับซาโบ้ก็ไม่ยอมให้ออกจากบ้านเลยนี่สิ”
‘ไม่เป็นไรหรอกลูฟี่ ก็รู้ๆกันอยู่ว่าพวกนั้นน่ะหวงนายขนาดไหน’
‘เอาจริงก็ไม่รู้จะไปทำอะไรอยู่ดีนั่นแหละ’
‘ไว้ยืมครัวบ้านนายทำอาหารอร่อยๆให้กินแทนก็แล้วกัน เตรียมวัตถุดิบไว้ด้วยล่ะลูฟี่’
“โอ้!! อาหารฝีมือซันจิล่ะ ไว้จะเตรียมเนื้อไว้เยอะๆเลยนะ ชิชิชิ งั้นแค่นี้ก่อนนะ ไว้เจอกันอาทิตย์หน้า”
ทันทีที่สายโทรศัพท์ถูกตัดไป เสียงถอนหายใจยืดยาวก็ดังขึ้น เขาไม่ชอบการถูกกักขังให้อยู่แต่ในอาณาเขตพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งแต่ครั้งนี้ที่ยอมอดทนอยู่ก็เพราะสีหน้าที่ดูจะเป็นกังวลมากของปู่แท้ๆกับพี่ชายทั้งสอง
“ถูกขังแบบนี้น่าเบื่อชะมัดเลย” ร่างเล็กนอนดิ้นไปมาอยู่บนเตียงเพียงพักเดียวเปลือกตาบางก้เริ่มหนักขึ้นจนปิดลง เสียงกร่นเบาๆเป็นสัญญาณบ่งบอกให้รู้ว่าคนบนเตียงนี้ได้เข้าสู่ห้วงนิทราไปแล้ว
ในห้วงความฝัน ลูฟี่ได้พบกับเด็กน้อยคนหนึ่งที่สวมหมวกฟางแบบที่เขาชอบใส่ ใบหน้ายิ้มแย้มสดใสกำลังคุยกับใครสักคนที่เขาไม่รู้จัก แม้มันจะเป็นเพียงเงาลางๆแต่จากเค้าโครงก็พอจะมองออกว่าเป็นผู้ชายตัวสูงใหญ่
‘เหงาหรอ…’
‘…คงงั้น’
‘คุณนกยักษ์ที่น่าสงสาร ถ้าอย่างนั้นอีกสัก10ปีถ้าไม่มีใครอยู่กับคุณ ถึงตอนนั้นแล้ว---’
เสียงเล็กค่อยๆขาดหายไปจนไม่ได้ยินประโยคสุดท้าย รู้เพียงแค่ว่าเด็กคนนั้นเกี่ยวก้อยสัญญาอะไรสักอย่างกับผู้ชายร่างสูง และแล้วภาพความฝันก็มืดสนิท…
เปลือกตาบางค่อยๆลืมขึ้นอย่างลำบาก เพราะนิสัยขี้เซาที่เป็นมาแต่เด็กไม่ยอมหายทำให้เป็นเรื่องยากที่จะให้ร่างน้อยๆนั้นลุกขึ้นจากเตียงทุกครั้งที่แสงแดดทะลุผ่านม่านกระจกใส
“ตื่นแล้วล่ะ เบบี้”
“ตื่นแล้วสินะ เด็กอะไรขี้เซาชะมัด”
เสียงของหญิงสาวที่แสนไม่คุ้นหูทำให้ร่างเล็กรู้สึกตะขิดตะขวงใจถึงกระนั้นก็ไม่อาจที่จะยกเปลือกตาที่แสนหนักหน่วงนั้นให้ลืมขึ้นมาอย่างเต็มตาได้ ทำได้เพียงขมวดคิ้วยุ่งอย่างนึกรำคาญ ภาพที่สะท้อนผ่านม่านตาในตอนนี้เป็นเพียงร่างลางๆของเด็กหญิงคนหนึ่งที่ยืนเกาะจนชิดเตียงเฝ้ามองดูตัวเขาอยู่กับหญิงสาวอีกคนหญิงในชุดเมดสาวดูเซ็กซี่
“ตื่นได้แล้ว ดอฟฟี่รออยู่นะ”
“…ดอฟ—ฟี่? เอ๊ะ!!” ลูฟี่สะดุ้งตัวโหยง สติที่ถูกปลุกขึ้นสละความง่วงงันทั้งหมดทิ้งไป สายตาพลางสอดส่องดูรอบข้างที่เปลี่ยนไปอย่างมึนงง เขามั่นใจว่าก่อนที่ตนจะหลับไปต้องไม่ใช่ห้องที่ดูหรูหราอลังการขนาดนี้แน่ๆ แถมยังมีคนไม่คุ้นหน้ามาอยู่ข้างๆอีก
“ตื่นเต็มตาสักทีนะเจ้าหนู คิดว่าจะหลับไปจนถึงเที่ยงซะอีก”
“…พวกเธอเป็นใครน่ะ?”
“พวกเราเป็นคนของดองกีโฮเต้แฟมิลี่ …รู้จักหรือเปล่า” หญิงสาวในชุดเมดถาม ในความคิดของเธอเด็กหนุ่มตรงหน้าดูจะเป็นคนใจเย็นมากกว่าที่เห็นภายนอก แม้จะตื่นตกใจแต่ก็ไม่ได้แสดงออกมาให้เห็นมากจนเกิน จะเรียกว่าซื่อหรือปรับตัวได้ดีดีนะ…
“ไม่รู้จักหรอก นี่หิวแล้วอ่ะ ขอข้าวหน่อยคร้าบบ”
“จะปรับตัวได้ดีเกินไปแล้วย่ะ!! หันสงสัยซะบ้างเซ่!!”
แม้จะโดนตะคอกกลับมาแบบนั้นแต่ลูฟี่ก็ยังหัวเราะตามแบบฉบับของตัวเอง เขาไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหนและสองคนตรงหน้านี้เป็นใคร ถ้าออกจากห้องๆนี้ไปก็ไม่รู้จะเจอกับอะไรบ้าง แต่พี่ชายของเขาเคยบอกเอาไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรก็ต้องยิ้มเข้าไว้ เพราะหากกังวลกับมันมากเกินไปรังแต่หาทางออกไม่เจอเสียเปล่า ไอ้สิ่งที่ควรจะเห็นก็จะกลายเป็นมองข้ามมันไป
“ชิชิชิ งั้นเธอก็บอกมาสิว่าเธอเป็นใคร”
“อยากรู้แค่นั้นน่ะหรอ? จะไม่ถามหน่อยหรือไงว่าทำไมตัวเองถึงถูกพามาที่นี่”
“ไม่นิ”
“เธออาจจะถูกพามาฆ่าก็ได้นะ”
“งั้นทำไมไม่ฆ่าตั้งแต่ที่ฉันหลับอยู่ล่ะ? หรือจะพามาเรียกค่าไถ่หรอ? แต่ดูจากสภาพห้องนี้ฉันควรจะเป็นฝ่ายขโมยมากกว่านะ ชิชิชิ แล้วถึงจะถูกพาเรียกค่าไถ่จริงฉันคงเป็นเหยื่อที่สุขสบายที่สุดแล้วล่ะ” ลูฟี่ยิ้มยีฟันไม่ทุกข์ร้อน จนหญิงสาวไปต่อไม่ถูกจะว่าซื่อก็ซื่อ จะว่าฉลาดก็ฉลาดอยู่หรอก
“หึ ฉันชื่อเบบี้5 ส่วนเด็กคนนี้ชื่อชูก้า”
“ฉันลูฟี่ ชิชิชิ หิวแล้วอ่ะ” ลูฟี่ยิ้มแฉ่งทวนประโยคเดิมซ้ำรอบสอง จนเบบี้5อดที่หลุดหัวเราะออกมาไม่ได้
“ถ้าหิวล่ะก็ รีบไปอาบน้ำสิ เดี๋ยวจะพาไปห้องอาหาร”
“จริงหรอ!! แต้งกิ้วนะเบบี้!!” ความใสซื่อแบบเด็กๆกระแทกเข้ากลางใจเมดสาวเข้าอย่างจัง ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่ออย่างไม่เก็บอาการ แต่ก็เป็นธรรมดาเจ้าหล่อนที่ตกหลุมรักใครได้ง่ายๆยิ่งกว่าเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียอีก
“อ้าม~” คราวนี้เป็นเด็กสาวที่เงียบอยู่นานเอ่ยขึ้น พลางยื่นองุ่นที่เธอมักจะถือเดินไปเดินมาอยู่แทบตลอดไปที่ริมฝีปากเล็ก และแน่นอนลูฟี่เลือกที่จะกินมันเข้าไปอย่างไม่ลังเล เด็กสาวนัยน์ตาเป็นประกายอย่างมีสุข รอยยิ้มที่นานๆจะปรากฏสู่สายตาภายนอกประดับบนใบหน้าเล็กน่ารัก ปกติแล้วพวกที่ถูกพามาเวลาเธอจะเข้าไปป้อนก็มักจะปัดมือเธอออกอย่างหวาดระแวงเสมอ ไม่มีเลยที่จะกินมันเข้าไปอย่างไม่คิดอะไรเช่นนี้
“อร่อยมากเลย ขอบคุณนะ”
“เธอเป็นคนดีนะ ลูฟี่”
“เธอก็เหมือนกัน คนที่แบ่งอาหารของตัวเองให้คนอื่นน่ะไม่มีทางจะเป็นคนไม่ดีไปได้หรอก ชิชิชิ” …ตรรกะบ้านไหนเนี่ย?
“รีบไปเถอะลูกฟี่ หิวแล้วไม่ใช่หรอ?”
“โอ๊ะ! จริงด้วย ข้าวจ้าๆ” ลูฟี่รีบลุกออกจากเตียงแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำตามที่เบบี้5บอก
“ซื่อจริงๆเลย เอ้าไปรอข้างนอกกันเถอะชูก้า” เมดสาวหันตัวกลับหมายจะเดินไปทางประตูถึงกระนั้นเด็กสาวก็ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับกายเป็นเชิงบอกว่าตนนั้นจะรออยู่ในห้องๆนี้
“ชูก้า?”
“….”
“เห้อ.. เจ้าเด็กนั่นเกิดมาภายใต้ดาวอะไรกันเนี่ยถึงทำให้ชูก้าที่ไม่คลุกคลีกับใครติดแจได้ภายในไม่กี่นาทีแบบนี้”
“หิวแล้วว!!”
“รู้แล้วน่า ตามมาเร็วๆสิ” เสียงพูดคุยดังเจื้อแจ้วมาแต่ไกล เรียกความสงสัยให้กับเหล่าสมาชิกระดับสูงของแฟมิลี่ให้หันมองไปตามต้นเสียง หนึ่งในสองเสียงนั้นเป็นของสมาชิกที่เขารู้จักกันดีแน่นอน แต่อีกเสียงที่ดูจะมีชีวิตชีวาแต่ไม่คุ้นหูนั่นต่างหากที่พวกเขาสงสัย
“ใครน่ะ?”
“คนที่นายน้อยพามาค่ะท่านกลาดิอุส”
“หา? นายน้อยเนี่ยนะ?” ชูก้าพยักหน้าแทนคำตอบ ต่างคนต่างจ้องมองกันและกันอย่างนึกสงสัย ไร้เสียงถามไถ่ ไร้เสียงพูดคุย จนกระทั่งเสียงร้องโครกครากของเด็กหนุ่มที่บ่นหิวมาตลอดทางดังขึ้น
“ชิชิชิ โทษทีนะ”
“กังวลหน่อยสิโว้ย!!”
“แล้วทำไมต้องเสียงดัง ทำไม่ต้องดุด้วยเล่า? ลุงนี่แปลกชะมัดเลย”
“ลูฟี่!!” เบบี้5แทบอยากจะหาอะไรสักอย่างมาอุดปากที่แสนจะซื่อตรงกับความคิดให้สงบลง เธอได้แต่ขอโทษขอโพยแทนเด็กหนุ่มที่ยืนหน้านิ่วสงสัย เพียงแค่มาที่คฤหาสน์ไม่นานเท่าไหร่เด็กหนุ่มคนนี้ก็สร้างทั้งมิตรทั้งศัตรูเข้าให้แล้ว แถมคนที่เป็นศัตรูยังเป็นคนที่มีตำแหน่งสูงของแฟมิลี่อีกต่างหาก
“เบะเฮะๆๆๆ พูดตรงดีนี่น่าเจ้าหนู”
“นี่ เบบี้เมื่อไหร่ฉันจะได้กินล่ะ หิวจนไส้จะขาดแล้วนะ”
“รู้แล้วๆ ถ้าอย่างนั้นพวกเราขอตัวก่อนนะคะ” หญิงสาวโค้งตัวเล็กน้อยเพื่อนทำตวามเคารพก่อนจะออกตัวเดินนำอีกครั้ง ซึ่งลูฟี่เองก็รีบตามไปอย่างไม่รอช้าและไม่ลืมที่จะหันมาโบกมือบ๊ายบายอย่างเป็นมิตรอีกด้วย
“ไม่เห็นเข้าใจว่าเด็กแบบนั้นมีค่าให้ดอฟฟี่ถึงกับต้องไปลงมือพาตัวมาด้วยตัวเองตรงไหน หน้าตากับนิสัยก็ไม่น่ารัก ดูยังไงก็เป็นแค่ลูกลิงชัดๆ แถมยังเป็นผู้ชายอีก”
“แต่ฉันว่าเด็กคนนั้นก็น่าเอ็นดูออก ใสซื่อโดยธรรมชาติ” เสียงเล็กๆของพิก้าตอบกลับ แค่ดูจากการที่เด็กน้อยชูก้าคนนั้นติดอีกฝ่ายแจก็รู้แล้ว ว่าต้องไม่ใช่เด็กธรรมดาๆ
/ “ขืนมาทำให้นายน้อยรำคาญใจล่ะก็จะฆ่ามันทิ้งซะ”
“เบะเฮะๆๆๆ ก็ดูน่าสนใจดี”
------ 100% ------
แงงง มีเรื่องอยากสอบถามค่ะ อาจจะเนื่องจากเราไม่ได้อัพมาอย่างยาวนาน ตอนนี้เด็กดีมีการเปลี่ยนเวอร์ชั่น แต่ตอนนี้เราไม่สามารถลงธีมได้เลยค่ะ หากใครรู้วิธีใส่ธีมช่วยบอกหน่อยนะคะ และก็ขอขอบคุณที่อ่านจนถึงตรงนี้ค่ะ ><
ความคิดเห็น