...ความเจ็บปวดที่ต้องสูญเสียคนรัก ...เพราะ น้ำมือของตัวเอง
ใช่แล้ว...ในวันนั้นฝนก็ตกเหมือนกับวันนี้
ฝนที่ตกลงมาคล้ายกับเป็นน้ำตาจากสวรรค์ที่ร่ำไห้ให้กับคนโง่อย่างเขา ...'อาโอมิเนะ ไดกิ'
▪ 2ปี ก่อน ▪
"เท็ตสึ" ร่างสูงเจ้าของเรือนกผมสีน้ำเงินเข้มเอ่ยเรียกชื่อของร่างบางออกมาเบาๆ พลางหน้าขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างเขินอาย ท่ามกลางความเงียบนั้นร่างบอบบางของ 'คุโรโกะ เท็ตสึยะ' ยืนมองอีกฝ่ายด้วยสายตาที่งงงวย เพราะ เขากำลังซ้อมบาสอยู่ดีๆ ร่างสูงก็ขอให้ออกมาด้วยกันซะอย่างงั้น
"อะไรหรอครับ อาโอมิเนะคุง?" ร่างบางถาม จึงทำให้เอสแห่งชมรมบาสเทย์โคถึงกับชะงัก ความตื่นเต้นทำให้หัวใจเต้นระรัวอย่างห้ามไม่อยู่ พอกำลังจะพูดก็พลันอายจนพูดไม่ออกได้แต่พูดตะกุกตะกักไม่เป็นคำ ใบหน้าเห่อร้อนขึ้นจนร่างบางอดแอบขำกับท่าทีของคนตรงหน้าไม่ได้ แต่เพื่อไม่ให้ร่างสูงอายไปมากกว่านี้จึงได้แต่กลั้นขำไว้ใต้ใบหน้าที่นิ่งเฉยพลางกำมือแน่นเพื่อบรรเทาอาการที่อยากจะขำจนแทบไม่ไหวจนแขนสั่น
"ค..คือ.. ช่ว...ช่วย.." ร่างบางที่ทนกับสภาพตรงหน้าไม่ไหวชูมือขึ้นทั้งสองข้างพลางเอื้อมไปตบหน้าของร่างสูงเบาทั้งสองข้าง เพื่อให้ร่างสูงบรรเทาอาการตื่นเต้นจนเกินเหตุ
"ใจเย็นๆครับ ค่อยๆพูด ถ้าอาโอมิเนะคุงไม่กลัวโดนอาคาชิคุงฆ่าผมก็มีเวลายืนฟังอาโอมิเนะคุงทั้งวันล่ะครับ" ร่างบางเอ่ยเสียงเรียบอย่างคนไม่ทุกข์ร้อน ซึ่งต่างจากคนพูดที่คล้ายกำลังบอกว่า 'ถ้าช้าพวกเราโดนอาคาชิคุงฆ่าแน่' ร่างสูงที่เริ่มสงบใจลงได้แล้วก็สูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ก่อนจะกลับมาทำหน้าจริงจังโดยที่หน้ายังขึ้นสีระเรื่ออยู่
"ฟังให้ดีๆนะเท็ตสึ ฉันจะพูดครั้งเดียว" ว่าจบร่างบางก็พยักหน้าตอบเบาๆ เป็นเชิงรับรู้
"ฉ..ฉันชอบนาย! คบกับฉันนะเท็ตสึ!!" ทุกอย่างคล้ายถูกหยุดเวลาไว้ ไม่มีเสียงหรือการเคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้นจากเด็กหนุ่มทั้งสองคน ก่อนที่ร่างสูงจะเป็นฝ่ายทำลายความเงียบนั้นลง
"อ่า~ คงไม่ได้งั้นสินะ โทษที ช่วยลืมๆมันซะเถอะ" ร่างสูงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ พลางเดินเตรียมตัวออกจากที่ตรงนั้นทันที แต่ทว่าเมื่อเดินผ่านร่างเล็กมาเพียงไม่กี่ก้าวเขาก็ต้องหยุดชะงักทันที เมื่อชายเสื้อของเขาถูกมือเล็กดึงรั้งเอาไว้จากด้านหลัง ร่างสูงรีบหันหลังกลับทันทีเผยให้เห็นร่างบางที่ก้มหน้างุดเพื่อปกปิดใบหน้าที่แดงซ่านของตนเอาไว้ ซึ่งมันช่างไม่มิดเอาเสียเลย ใบที่ขึ้นสีแดงระเรื่อไปจนถึงใบหูบ่งบอกว่า ในตอนนี้เจ้าตัวนั้นเขินแค่ไหน ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นๆจนฟังแทบไม่เป็นภาษาไม่ต่างจากเขาในตอนแรก
"ย..อย่าพึ่งไปสิครับ ผมยังไม่ได้ตอบคุณเลยนะ อีกอย่างถึงจะบอกให้ลืม...ก็ลืมไม่ลงหรอกครับ"
"ง..งั้น.." ร่างสูงว่าคล้ายไม่เชื่อในสายตาและสิ่งที่ตัวเองได้ยิน ร่างบางพยักหน้าตอบเป็นเชิงนัย ทันทีที่รับคำตอบที่เป็นที่น่าพอใจแล้ว ร่างสูงก็รีบดึงคู่หู...ไม่สิ คนรักของตัวเองเข้ามากอดแนบอกแกร่งทันที ใบหน้าที่ฉายชัดว่าทั้งคู่กำลังมีความสุขมากแค่ไหนถูกจารึกลงในใจของทั้งคู่ทันที
"พวกนายไปไหนกันมางั้นหรอ ไดกิ เท็ตสึยะ" รอยยิ้ม(เหี้ยม)ประจักรแก่สายตาคนทั้งคู่ บรรยากาศที่เย็นเฉียบแผ่ซ่านไปทั่วอาณาบริเวณ ทั้งๆที่มันเป็นหน้าร้อนแท้ๆ แต่ทว่าทุกคนในชมรมบาสเทย์โคต่างรู้สึกว่าในวันนี้บรรยากาศมันช่างเย็นเฉียบเสียจริง
"ไดกิ เท็ตสึยะ วิ่งรอบสนาม 10 รอบ" สิ้นเสียงที่ทรงอำนาจที่สุดทั้งสองคนก็ออกตัววิ่งกันทันที โดนที่มีการถกเถียงกันไปด้วย "เพราะ อาโอมิเนะคุงนั้นแหละครับ เอาแต่อ้ำอึ้งอยู่ได้ ผมเลยโดนไปด้วยเลย ถ้าผมเหนื่อยจนเป็นลมขึ้นมาจะรับผิดชอบยังไงครับ" ร่างบางรีบโทษคนข้างๆทันทีพลางทำหน้านิ่งเฉยต่างจากคำพูดที่ฟังดูเชือดเฉียนไปถึงใจคนฟัง
"อย่าโทษกันแบบนั้นสิเท็ตสึ แต่ว่า...ถ้านายเป็นลมขึ้นมาฉันจะรับผิดชอบนายไปทั้งชีวิตเลยก็ได้นะ ฮิฮิ" ร่างสูงว่าพลางทำร่างบางหน้าแดงอีกครั้งอย่างอายๆ ซึ่งระหว่างที่วิ่งอยู่นั้นทั้งสองคนได้ทำให้คนในชมรมเกิดรู้สึกหมั่นไส้โดยไม่รู้ตัว เมื่อทั้งสองปล่อยบรรยากาศมุ้งมิ้งออกมาเต็มที่จนดอกไม้แทบพลุ่งออกมา แต่ดอกไม้เหล่านั้นกลับเหี่ยวตายซะก่อนเมื่อเสียงของอาคาชิดังขึ้นอีกครั้ง
เวลาแห่งห้วงความรักผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งเวลาผ่านไป 1 ปีกับอีก 7 เดือน เป็นเวลาที่พวกเขาได้ขึ้นม.ปลายกันแล้ว พวกเขาแยกย้ายกันไปตามโรงเรียนต่างๆ ซึ่งระยะทางก็สามารถสร้างระยะห่างสำหรับบางคนได้ด้วย พวกเขาพบกับน้อยลง ติดต่อกันเป็นบางครั้ง สายตาของคนบางคนเริ่มเปลี่ยนไป จากที่เคยบอกรักกันทุกวัน เดี๋ยวนี้กลับน้อยครั้งนักที่จะได้ยินคำๆนี้ จนกระทั่งรอยร้าวเกิดขึ้น
"นี่มันหมายความว่ายังไงกันครับ อาโอมิเนะคุง" ร่างบางว่าพลางตีหน้านิ่งก่อนจะชูรูปของร่างสูงที่นอนคู่กับผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า อีกฝ่ายที่เห็นรูปก็ทำท่าคล้ายไม่สนใจ
"อ่า~ นั้นน่ะหรอ ก็อย่างที่เห็นนั้นแหละ" ว่าจบร่างบางก็เบิกตาโพร่งทันที อารมณ์เริ่มคลุกกรุ่นขึ้นเรื่อยๆ เขาพยายามระงับอารมณ์ของตัวเอง เพื่อไม่ให้อารมณ์มาอยู่เหนือเหตุผลได้ เขาพร้อมที่จะฟังคำอธิบายเสมอถึงแม้ว่าสิ่งที่ปรากฎให้เห็นมันจะสามารถอธิบายทุกอย่างได้แล้วก็ตาม
"ช่วยอธิบายมาด้วยเถอะครับ" ร่างบางพยายามกรองเสียงให้ดูเป็นปกติที่สุด แต่ไม่จะทำยังไงน้ำเสียงที่สั่นไหวนั้นก็ปิดำไม่มิดอยู่ดี ร่างบางกำมือเล็กแน่นจนห่อเลือด ร่างสูงมองภาพตรงหน้าก่อนถอนหายใจออกมาอย่หน่ายๆ
"นายน่าจะเข้าทุกอย่างอยู่แล้วนี่ ช่วงนี้ฉันแค่เบื่อๆ ให้อยู่กับผู้ชายตลอดถึงจะรักขนาดไหนก็ต้องมีเบื่อกันได้ทั้งนั้นแหละ แต่ไม่ต้องห่วงนะยังไงฉันก็รักนายคนเดียวเท็ตสึ อีกอย่างคนนี้ก็แค่ล้อเล้นไม่จริงจังหรอก"
'เบื่อหรอ... ไม่ต้องห่วงงั้นหรอ... รัก... แค่ล้อเล่น... คุณพูดคำพวกออกมาได้ยังไง ทั้งๆที่ผมรักคุณสุดหัวใจแท้ๆ นี่คือสิ่งตอบแทนที่คุณให้ผมงั้นหรอ'
ร่างบางกำหมัดแน่นจนมือเล็กนั้นห่อเลือด ราวกับต้องการระบายอารมณ์ด้วยความเจ็บปวดนี้ แต่ไม่ว่าจะกำแรงสักแค่ไหน ความเจ็บปวดในใจก็รุนแรงกว่าอยู่ดี ดวงตาคลอไปด้วยน้ำตาที่พยายามกลั้นสุดชีวิต คำพูดทุกคำที่ตั้งใจจะพูดเหมือนถูกอุดเอาไว้ในลำคอ การหายใจเริ่มติดขัด ในหัวนั้นขาวโพลนคิดอะไรไม่ออก มีความคิดเดียวที่ผุดขึ้นมาในหัว
"ผมว่า...เราเลิกกันเถอะครับ" ว่าจบร่างสูงก็เบิกตาโพล่งทันที ราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่ตนได้ยิน แต่ในตอนนั้นเขากลับไม่ได้รู้สึกเศร้าหรือเสียใจเลยสักนิด
"อา~ เอาเถอะ เลิกก็เลิก งั้นลาก่อนนะเท็ตสึ ขอให้โชคดี" ได้ยินดังนั้นเข่าบางก็ทรุดลงทันทีพร้อมกับการเดินจากไปของร่างสูง น้ำตาที่รินไหลออกมาจากดวงตาหวานสะท้อนภาพในความทรงจำอันหวานชื่น แต่ในวันนี้ทุกอย่างมันดูขมขื่นไปเสียหมด เสียงร่ำไห้ที่ปะทะกับเสียงของห่าฝนที่ตกลงมาอย่างบ้าระห่ำ คล้ายกำลังร่ำไห้ให้กับความรักที่พังทลายของเขา
ตอนนี้เขาได้รู้แล้วว่าตนนั้นได้ทำร้ายร่างบางนั้นไปมากแค่ไหน ความรู้สึกของคนที่ต้องอยู่คนเดียว ถึงจะเกี่ยวพันกับหญิงอื่นมากมายแค่ไหนเขาก็รู้สึกเหมือนอยู่เพียงคนเดียว รอยยิ้มที่อบอุ่นที่มักจะส่งให้เขาเสมอ ตอนนี้มันกลับจางหายไปเหลือแต่เพียงหยดน้ำตาในอดีต น้ำเสียงนิ่งเฉยแต่กลับรู้สึกเหมือนได้รับความรักตลอดเวลาตอนนี้เหลือเพียงเสียงร่ำไห้ที่ดังขึ้นมาในหัว ฝนที่ตกลงมาไม่หยุดเปอะเปื้อนร่างกายเขาทั่วตัว ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่เขายืนอยู่ตรงนี้ แต่เขาก็ยังคงยืนรอต่อไป เพื่อขอโอกาสอีกสักครั้ง
"เฮ้ย! คุโรโกะ" เสียงของเอสแห่งชมรมบาสเซย์รินดังขึ้นเรียกความสนใจจากร่างบางที่กำลังเปลี่ยนชุดเตรียมกลับบ้านได้อย่างดี เจ้าของชื่อหันตามเสียงเรียก ปรากฏให้เห็นร่างของ 'คางามิ ไทกะ' คู่หูและคนรักของตน ใช่... พวกเขาเป็นคนรักกัน เพราะ ตั้งแต่ที่เขาเลิกกับร่างสูงไปก็มีคนๆนี้คอยอยู่ข้างๆมาเสมอ ไม่ว่ายามทุกข์หรือยามสุขก็มักจะมีคนๆนี้อยู่ข้างกายจนทำให้เขาหลงรักไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ สุดท้ายจึงตกลงคบกัน แต่ทั้งน้ำเสียงและการกระทำก็ไม่ได้จากเดิมแม้แต่น้อย แถมยังแกล้งเขามากขึ้นเสียด้วยซ้ำ
"มีอะไรหรอครับ คางามิคุง"
"ข...ขอโทษนะครับคางามิคุง เราจะช่ว..." ร่างบางพูดเสียงสั่น แต่ยังไม่ทันได้พูดจบคางามิก็ตัดบทอีกฝ่ายทันที
"เข้าไปดูหมอนั้นกันเถอะ" ร่างบางหันควับมาทางคางามิทันที เพราะ เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะพูดคำนี้ออกมา ว่าจบพวกเขาก็เดินดิ่งไปหาอีกคนทันที คางามิเหลือบมองร่างบางที่สั่นระริกด้วยแววตาปนเศร้า เขารู้อยู่แล้ว ...รู้อยู่แล้วว่าร่างบางยังคงรักแสงคนเก่าของตนอยู่ แถมยังคงรักมากเสียด้วย ไม่อย่างนั้นร่างบางคงไม่ทำสายตาที่ห่วงใยและห่วงหาถึงขนาดนั้นหรอก และที่เห็นได้ชัด คือ สปีดในการเดินนี้ล่ะ ไม่แน่ว่าถ้าเขาไม่ได้อยู่ตรงนี้ ...ร่างบางอาจจะรีบวิ่งเข้าไปดูอาการของอีกฝ่ายทันทีเลยก็ได้ ความคิดนั้นทำให้เขาเจ็บแปล็บ คล้ายโดนเข็มแหลมที่มองไม่เห็นนับพันเล่มทิ่มเข้าไปที่หัวใจ
'....นี่เขาถึงจะพยายามอีกสักแค่ไหนก็คงเข้าไปแทนที่คนๆนั้นไม่ได้สินะ'
"อาโอมิเนะคุง!!" เสียงตะโกนเรียกที่เจือความห่วงใย เรียกสติของร่างสูงที่กำลังเหม่อลอยได้อย่างดี
"เท็ตสึ!!" ร่างสูงตะโกนตอบกลับร่างบาง ร่างกายที่คล้ายจะไร้เรี่ยวแรงกลับมามีกำลังอีกครั้งก่อนจะกำชับกอดร่างบางตรงหน้าด้วยห่วงหาทันที ดวงตาร่างบางเบิกโพล่งอีกครั้ง ก่อนจะพยายามดิ้นให้หลุดออกจากอ้อมกอดของอีกคน คางามิเห็นดังนั้นก็นิ่งอึ้งไปชั่วครู่ก่อนจะได้สติอีกครั้งแต่ก็ไม่ได้เข้าไปขัดขว้างอะไร พลางมองภาพตรงหน้าอย่างเศร้า
"ป..ปล่อยเถอะครับ อาโอมิเนะคุง!" ร่างบางพยายามดิ้นหนีอย่างเต็มที่ แต่กลับไม่สามารถทำอะไรได้เลย จนกระทั่งเขารู้สึกได้ถึงหยาดน้ำอุ่นที่สัมผัสกับไหล่ ขาวผ่านเสื้อผืนบางที่ตอนนี้เปียกโชกไป เพราะฝน ร่างกายพลันหยุดนิ่งไปทันทีก่อนจะกอดอีกฝ่ายตอบอย่างลืมตัว สัมผัสที่แผ่วเบาแต่กลับอบอุ่นไปจนถึงขั้วหัวใจ ทำให้ร่างสูงผละออกมาก่อนจะสังเกตุเห็นคางามิที่ยืนดูด้วยแววตาเศร้าๆ
"คางามิ ...งั้นหรือว่า.." ร่างสูงเอ่ยเสียงสั่นอย่างตะกุกตะกัก ใบหน้าหวานหม่นลงเล็กน้อย ซึ่งเป็นคำตอบให้ร่างสูงได้ดี
"ไม่จริงใช่ไหม เท็ตสึ..." ร่างสูงเอ่ยถามแต่สิ่งที่ได้รับกลับมากลีบมีเพียงความเงียบเท่านั้น
"บอกมาสิ เท็ตสึ!!"
"...."
"เท็ตสึ"
"ขอโทษนะครับ อาโอมิเนะคุง..." คำตอบนั้นทำให้ร่างสูงนิ่งอึ้งไปทันที
"นาย...ลืมฉันได้แล้วหรอ เท็ตสึ" คำถามนั้นทำให้ร่างบางชะงักทันที ความเงียบเข้าปกคลุมพื้นที่อีกครั้ง ในหัวของร่างบางมีภาพความทรงจำของเขากับร่างสูงไหลออกมาเป็นฉากๆ คล้ายย้ำเตือนให้ตนรู้ว่า ...ตนนั้นยังคงลืมร่างสูงนี้ไม่ได้
'...ผมรู้ครับว่าผมยังคงลืมคุณไม่ได้ จะให้ผมลืมคุณง่ายๆได้ยังไง ก็ผม... รักคุณมากขนาดนั้นนี่น่า'
หยาดน้ำตาใสไหล่ลงมาอย่างห้ามไม่อยู่ปะปนกับกับน้ำฝนที่ระห่ำตกลงมามากแรงขึ้น ร่างบางกัดฟันแน่นก่อนจะพูดในสิ่งที่ตนคิดออกไป
"ผมไม่มีทางลืมคุณได้ง่ายๆหรอกครับ"
คำพูดนั้นทำให้คางามิถึงกับสะอึก ทุกคำพูดคล้ายจุกอยู่ตรงลำคำ ทั้งๆที่ก็รู้อยู่แล้ว แต่พอมาได้ยินจากปากของร่างบาง ต่อให้พยายามมากแค่ไหนก็ไม่มีทางที่จะไม่รู้สึกเจ็บหรอก
"เห็นไหมล่ะ เท็ตสึ!! นายไม่มีทางลืมฉันได้ภายในเวลาสั้นๆหรอก! เพราะงั้น ได้โปรด...ฉันขอร้อง เรากลับมาเริ่มกันใหม่เถอะนะเท็ตสึ ฉันขอโทษ...." ร่างบางเบิกตาโพร่งกับภาพตรงหน้าทันที เพราะ จากน้ำเสียงที่คล้ายดูมั่นใจ อยู่ๆก็แปลเปลี่ยนไปเป็นน้ำเสียงที่อ่อนยวบทันที ร่างสูงคุกเข่าลงอย่างหมดแรงน้ำตาพลางไหลลงมาอีกครั้ง เพียงเท่านั้นร่างบางก็ใจสั่นทันที ความเจ็บปวดแล่นเข้ามาอีกครั้ง ก็รู้ว่าคนตรงหน้าคงสำนึกผิดในสิ่งที่ตนทำลงไปแล้ว แถมเขาก็ยังคงรักคนๆนี้อยู่ไม่ใช่น้อย แต่เขาเองก็ยังมีคางามิอยู่ เขาเองก็รักคนๆนั้นเหมือนกัน แล้วแบบนี้จะให้เขาเลือกใครได้ ระหว่างที่สองจิตสองใจอยู่นานร่างบางก็ตัดสินใจพยุงร่างสูงขึ้น ก่อนจะเข้าไปเกลี่ยน้ำตาที่ไหลลงมาไม่หยุด พลางหยิบร่มที่หล่นขึ้นมาแล้วยื่นให้ร่างสูง อีกฝ่ายก็รับมาอย่างไม่เข้าใจ ก่อนที่ร่างบางจะเอ่ยปากพูดอีกครั้ง
"ขอโทษนะครับ..."
.
.
.
"อาโอมิเนะคุง ผมคงทำอย่างนั้นไม่ได้ ก็จริงที่ว่าผมคงจะลืมคุณไม่ได้ แต่ว่าเรื่องระหว่างเราผมขอเก็บมันเอาไว้เป็นเพียงความทรงจำดีกว่าครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดีหรือไม่ผมก็จะจำเอาไว้ เพราะ มันเป็นสิ่งที่จะคอยย้ำผมว่า อย่างน้อย...ผมก็ยังเคยรักคนๆหนึ่งสุดหัวใจ ผมจะจำเรื่องระหว่างเราตลอดไป และอีกอย่างในตอนนี้ผมก็ยังมีคนๆหนึ่งที่ผมก็รักมากอยู่ และเขาเองก็รักผมเหมือนกัน ผมไม่อยากทำให้เขาเสียใจ ต้องขอโทษจริงนะครับ" คำพูดของร่างบางทำให้คางามิถึงกับอึ้งทันที เขาไม่คิดว่าร่างบางจะเลือกเขา เพราะ โอกาสของเขามันดูริบหรี่เหลือเกิน เขาคล้ายยกภูเขาออกจากอก ซึ่งตาจากร่างสูงที่ก้มหน้างุด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาระบายยิ้มเศร้าพลางลูบผมร่างบางอย่างอ่อนโยน
"งั้นหรอ... เป็นฉันไม่ได้แล้วสินะ เข้าใจแล้ว ขอโทษกับทุกอย่างผ่านมานะเท็ตสึ ขอโทษที่ทำให้ร้องไห้ เรายังเป็นเพื่อนกันได้อยู่สินะ"
"แน่นอนครับ"
"ดีจัง งั้นฉันขอยืมร่มหน่อยนะ เอาไว้พอฉันพร้อมจะเอามาคืนแน่นอน แล้วก็คางามิ! ถ้านายทำให้เท็ตสึเสียใจล่ะก็ฉันจะมาเอาเขาคืนแน่ เข้าใจไหม!"
"รู้แล้วน่า!!" คางามิตอบ
"งั้นฉันไปล่ะ ขอให้มีความสุขนะเท็ตสึ แล้วก็อย่าคิดมากล่ะ" ร่างสูงลูบผมร่างบางอีกครั้งก่อนจะเดินจากไปพร้อมน้ำตาที่รินไหลลงมาอีกครั้ง เมื่อร่างบางเห็นว่าร่างสูงนั้นเดินไปจนลับตาแล้ว ขาเรียวก็ทรุดลงทันที น้ำตาที่อัดอั้นเอาไว้ถูกปล่อยออกมาเปรอะเปื้อนใบหน้าหวาน คางามิที่ยืนอยู่ก็รีบเข้าไปกอดปลอบร่างบางทันที
'ร่างเล็กๆนี้คงอดทนมากสินะ คงรักหมอนั่นมากเลยสินะ เขาจะปกป้องร่างบางนี้ให้ได้ จะไม่ทำให้คนๆนี้เสียใจเป็นอันขาด'
※โซแซด
แต่ว่าก็ด้วยเรื่องนี้วัตถุดิบมันเยอะอะนะ แล้วคู่นี้คนไม่ค่อยชิพเท่าไหร่ (เมื่อก่อนเยอะอยู่ แต่เดี๋ยวนี้มีแต่กองอวย แดงดำ ฟ้าไฟ ฟ้าเหลือง อะไรทางนั้นซะเยอะ 5555) แต่ถึงอย่างนั้นเราก็มั่นคงกับคู่นี้นะ คู่อื่นไม่ค่อยได้อ่าน นอกจาก เหลืองดำ อีกคู่ที่อ่านอยู่
นั่นแหละ สรุปว่าดีใจมากๆๆ ที่มีคนแต่งคู่นี้ให้อ่าน คิดถึง ไม่ว่าจะเป็น ฟ้าดำ ไฟดำ อะไรก็ได้หมดแหละ ชอบทั้ง 2 คู่
ส่วนเรื่องนี้น้องครก.เลือกพี่ไฟก็ดีแล้วลูก ส่วนมิเนะนี่เกรียนอีกแล้วสินะแก ==' ขอเพียวมิเนะได้มั้ย ถ้าโตมาแล้วเกรียนแบบนี้นะ ไม่น่าโตเล้ย 55555