คัมภีร์ละกาม - คัมภีร์ละกาม นิยาย คัมภีร์ละกาม : Dek-D.com - Writer

    คัมภีร์ละกาม

    โดย FLasH

    หลายๆครั้ง ที่มนุษย์เดินถนน คนเดินดิน ธรรมดาสามัญอย่าง พี่น้องเด็กดีทุกคน ต้องประสบกับภาวะอันยากต่อการควบคุม ในสิ่งที่ธรรมชาติกำหนดให้มา จะมีใครเล่าอยู่ตรงนั้น เพื่อช่วยเหลือเรา มีเพียงแต่นักเดินทางผู้โดดเดี่ยว เท่านั้น

    ผู้เข้าชมรวม

    190

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    190

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  25 พ.ค. 49 / 03:09 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


      ตัวอย่างเนื้อหาจากเว็บ


      กามตัณหาเป็นความเลวอันดับแรก ผลแห่งกรรมสนองในปัจจุบัน
      2


             ผมเริ่มสำเร็จความใคร่ตั้งแต่ยังเรียนอยู่ชั้นประถม เนื่องด้วยช่วงใต้ร่มผ้ามักไม่สะอาดจึงเป็นเหตุให้เกิดโรคต่าง ๆ ตอนอยู่มัธยมปีที่ 2 ผมเริ่มคบเพื่อนหญิง ทั้งวันลุ่มหลงอยู่กับตัณหาจนร่างกายอ่อนแอนอนไม่หลับ ฝันเปียก หลังจบการศึกษาออกมาทำงาน ร่างกายแย่มากต้องอาศัยยาบำรุงตลอดเวลา ร่างกายก็ไม่สามารถกลับคืนมาเหมือนเดิม ความสมบูรณ์ของร่างกายเหลือเพียงเศษหนึ่งส่วนสามของคนหนุ่มทั่ว ๆ ไป ไม่ทานยาบำรุงก็ไม่ได้ เมื่ออายุ 18 ปีได้คบเพื่อนหญิงอีกคน ผมยังคงจมปลักอยู่กับกามารมณ์

             เพื่อนหญิงสองคนทำให้ร่างกายของผมซูบผอม โรคต่าง ๆ ตามมา วัน ๆ รู้สึกอ่อนเพลีย อยากนอนตลอดเวลา แต่นอนก็นอนไม่หลับ กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือหาหมอดูก็ไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้น ความฝันที่เคยคาดหวังไว้ได้ร่วงโรยไป ทานยาเสมือนทานข้าว ทั้งยังต้องทำงานทั้งวัน ความทุกข์ทรมานยากที่จะบรรยาย ความคิดที่จะฆ่าตัวตายมีอยู่ในสมองบ่อย ๆ แต่ผมรักพ่อแม่ ไม่อยากไปจากท่าน และตัวเองก็กลัวตายเหมือนกัน จึงยอมทนทุกข์ไปเรื่อย ๆ

             
      พออายุ 20 ผมมีโอกาสอ่านหนังสือธรรมะ รู้เรื่องกฎแห่งกรรมเข้าใจถึงว่าคนเราต้องดิ้นรนอยู่ในทะเลทุกข์ ความคิดของผมเริ่มผันแปร มันเป็นการหักเหชีวิตของผม ทำให้ผมรู้ว่า ถึงแม้ความดีอันน้อยนิดก็ไม่ควรปล่อยปละ แต่สุขภาพตัวเองมีปัญหา ง่วงนอนตลอดเวลา ความคิดที่จะเป็นคนดียังแค่ความฝันเท่านั้น

             
      พออายุ 21 ผมเจออาจารย์คนหนึ่งที่สามารถมองเห็นด้วยญาณ เขาบอกว่า สุขภาพของผมยังแย่กว่าผู้สูงอายุอีก หากไม่รับประทานยาชีวิตผมจะจบสิ้นลงทันที เขาเป็นหมอที่เก่งมากแต่ก็ไม่สามารถรักษาโรคของผมได้

             ประมาณหนึ่งปีที่ผ่านมา (อายุ 26) ผมเริ่มศึกษาพระธรรมอย่างจริงจัง เรื่องอดีตถือว่าได้ตายจากไปแล้ว เรื่องอนาคตถือว่าได้เกิดใหม่แล้ว ชีวิตของผมถึงแม้ลำบากมาก แต่ผมมีความเชื่อมั่นว่า ถ้าผมประกอบกรรมดีสม่ำเสมอ บุญกุศลที่ทำอยู่ทุกวี่ทุกวัน บวกกับไปหาหมอทานยาและรักษาตัวให้ดี เชื่อว่าสุขภาพคงค่อย ๆ ดีขึ้น อย่างน้อยความเจ็บปวดก็ลดน้อยลง ตอนนี้ผมเริมฝึกนั่งสมาธิและทานอาหารเจ

             
      ความทรมานที่มีมาสิบกว่าปี ทำให้ผมเข้าใจซึ้งถึงโทษของลุ่มหลงในกามารมณ์ การอยากจะให้พ้นจากทะเลทุกข์มีอยู่ทางเดียวคือประพฤติตนอยู่ในศีลธรรม หมั่นสั่งสมบุญบารมีเท่านั้น

             ผมหวังว่าเรื่องของผมจะเป็นอุทาหรณ์แก่ชาวโลกให้ละกามเพื่อรักษาสุขภาพ ชีวิตคนเรามีเวลาจำกัด ควรทำประโยชน์แก่ส่วนรวมให้ทำอยู่เรื่อย ๆ โอกาสที่จะมีสุขภาพแข็งแรงคงไม่ไกลเกินเอื้อม ขอให้ทุกคนจงสังวร

             
      ผมเริ่มสำเร็จความใคร่ตั้งแต่ยังเรียนอยู่ชั้นประถม เนื่องด้วยช่วงใต้ร่มผ้ามักไม่สะอาดจึงเป็นเหตุให้เกิดโรคต่าง ๆ ตอนอยู่มัธยมปีที่ 2 ผมเริ่มคบเพื่อนหญิง ทั้งวันลุ่มหลงอยู่กับตัณหาจนร่างกายอ่อนแอนอนไม่หลับ ฝันเปียก หลังจบการศึกษาออกมาทำงาน ร่างกายแย่มากต้องอาศัยยาบำรุงตลอดเวลา ร่างกายก็ไม่สามารถกลับคืนมาเหมือนเดิม ความสมบูรณ์ของร่างกายเหลือเพียงเศษหนึ่งส่วนสามของคนหนุ่มทั่ว ๆ ไป ไม่ทานยาบำรุงก็ไม่ได้ เมื่ออายุ 18 ปีได้คบเพื่อนหญิงอีกคน ผมยังคงจมปลักอยู่กับกามารมณ์

             เพื่อนหญิงสองคนทำให้ร่างกายของผมซูบผอม โรคต่าง ๆ ตามมา วัน ๆ รู้สึกอ่อนเพลีย อยากนอนตลอดเวลา แต่นอนก็นอนไม่หลับ กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือหาหมอดูก็ไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้น ความฝันที่เคยคาดหวังไว้ได้ร่วงโรยไป ทานยาเสมือนทานข้าว ทั้งยังต้องทำงานทั้งวัน ความทุกข์ทรมานยากที่จะบรรยาย ความคิดที่จะฆ่าตัวตายมีอยู่ในสมองบ่อย ๆ แต่ผมรักพ่อแม่ ไม่อยากไปจากท่าน และตัวเองก็กลัวตายเหมือนกัน จึงยอมทนทุกข์ไปเรื่อย ๆ

             
      พออายุ 20 ผมมีโอกาสอ่านหนังสือธรรมะ รู้เรื่องกฎแห่งกรรมเข้าใจถึงว่าคนเราต้องดิ้นรนอยู่ในทะเลทุกข์ ความคิดของผมเริ่มผันแปร มันเป็นการหักเหชีวิตของผม ทำให้ผมรู้ว่า ถึงแม้ความดีอันน้อยนิดก็ไม่ควรปล่อยปละ แต่สุขภาพตัวเองมีปัญหา ง่วงนอนตลอดเวลา ความคิดที่จะเป็นคนดียังแค่ความฝันเท่านั้น

             
      พออายุ 21 ผมเจออาจารย์คนหนึ่งที่สามารถมองเห็นด้วยญาณ เขาบอกว่า สุขภาพของผมยังแย่กว่าผู้สูงอายุอีก หากไม่รับประทานยาชีวิตผมจะจบสิ้นลงทันที เขาเป็นหมอที่เก่งมากแต่ก็ไม่สามารถรักษาโรคของผมได้

             ประมาณหนึ่งปีที่ผ่านมา (อายุ 26) ผมเริ่มศึกษาพระธรรมอย่างจริงจัง เรื่องอดีตถือว่าได้ตายจากไปแล้ว เรื่องอนาคตถือว่าได้เกิดใหม่แล้ว ชีวิตของผมถึงแม้ลำบากมาก แต่ผมมีความเชื่อมั่นว่า ถ้าผมประกอบกรรมดีสม่ำเสมอ บุญกุศลที่ทำอยู่ทุกวี่ทุกวัน บวกกับไปหาหมอทานยาและรักษาตัวให้ดี เชื่อว่าสุขภาพคงค่อย ๆ ดีขึ้น อย่างน้อยความเจ็บปวดก็ลดน้อยลง ตอนนี้ผมเริมฝึกนั่งสมาธิและทานอาหารเจ

             
      ความทรมานที่มีมาสิบกว่าปี ทำให้ผมเข้าใจซึ้งถึงโทษของลุ่มหลงในกามารมณ์ การอยากจะให้พ้นจากทะเลทุกข์มีอยู่ทางเดียวคือประพฤติตนอยู่ในศีลธรรม หมั่นสั่งสมบุญบารมีเท่านั้น

             ผมหวังว่าเรื่องของผมจะเป็นอุทาหรณ์แก่ชาวโลกให้ละกามเพื่อรักษาสุขภาพ ชีวิตคนเรามีเวลาจำกัด ควรทำประโยชน์แก่ส่วนรวมให้ทำอยู่เรื่อย ๆ โอกาสที่จะมีสุขภาพแข็งแรงคงไม่ไกลเกินเอื้อม ขอให้ทุกคนจงสังวร

      (คัดมาจากนิตยสารเซิ่งเทียน ฉบับที่ 4)


      มี กรณีศึกษา อีกเป็นสิบๆเรื่อง และ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเป็นธรรมทาน
      แก่อนาคตของชาติ ทุกคน











      มาจากลิ้งนี้  ---->  http://members.thai.net/lagambible/

      จะช่วยเพิ่มสติ  ควบคุมจิตใจ  เมื่อเกิดความรู้สึก  ลองอ่านถึงผลที่จะได้รับ เมื่อเรากระทำผิดพลาด..

      เก็บเอาไว้เถอะค่ะ
      เมื่อใดก็ตาม  เวลาที่จิตใจของเรา ดิ่งลง

      พี่ยังเก็บไว้ใน Favorites เลยทีเดียว
      เพราะพี่ ก็เจอปัญหานี้มาตลอด เช่นเดียวกับคนทั้งโลกนี้
      บอกต่อๆกันไปได้ จะดีมากเลยนะคะ
      ช่วยให้คนอื่นได้ ผ่านพ้นปัญหาไปด้วยกัน






      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×