ฝนที่เปลี่ยนสี
ฤดูฝนและสายฝนยังคงทำหน้าที่ของมันเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนไป เฉกเช่นวันวาน วันนี้ หรือวันใดๆซ้ำแล้วซ้ำเล่า เรื่องสั้นหักมุมแนวเศร้าๆครับ ลองอ่าน วิจารณ์ติชมดูได้นะครับผม^^
ผู้เข้าชมรวม
440
ผู้เข้าชมเดือนนี้
7
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
กลุ่มเมฆดำทะมึนเคลื่อนลอยต่ำเข้าหากันช้าๆ ลมพัดกระโชกแรง ต้นตาลสามสี่ต้นบิดเอนกายตามอย่างกลัวแรงลม ท้องฟ้าคำรามกึกก้องเป็นระยะ เพียงไม่นานนัก สายฝนก็เทลงมาอย่างไม่ขาดสายและไม่มีวี่แววที่จะหยุด มันได้มอบความชุ่มชื้นและความสมบูรณ์แก่ทุกชีวิต เป็นเฉกเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่ามานานแสนนานตามครรลองของธรรมชาติ
“ แม่ครับ ลูกขอออกไปเล่นฝนนะแม่ “ เด็กน้อยกระโดดลิงโลดดีใจ
“ ไอ้ธน นี่พรุ่งนี้เอ็งต้องไปโรงเรียนนะ เกิดไม่สบายขึ้นมาจะว่ายังไง” ผู้เป็นแม่ไม่อนุญาต
“ โธ่ แม่ครับ เดี๋ยวลูกเล่นเสร็จจะรีบอาบน้ำสระผมทันทีเลย ไม่เป็นหวัดหรอก” เด็กน้อยยังพยายามอ้อนแม่
ผู้เป็นแม่นิ่งคิดชั่วครู่ ก็พยักหน้าให้อนุญาต “ เออ เอ็งก็เล่นระวังๆหน่อยแล้วกัน”
“ ครับแม่” เด็กน้อยฉีกยิ้มกว้าง รีบวิ่งออกไปเล่นท่ามกลางสายฝนอย่างสนุกสนาน
ชีวิตจริงของเด็กบ้านนอกยากจนที่แสนทุกข์และลำบาก บัดนี้มันได้ไหลทิ้งไปกับสายฝนเสียแล้ว เหลือเพียงแต่ความสุขและโลกในฝันของเด็กน้อยกับความชุ่มฉ่ำของเม็ดฝนที่กระทบผิวกายของเขาเท่านั้น
สายฝนเป็นผู้สร้างที่ยิ่งใหญ่ สร้างธรรมชาติที่สวยงาม สร้างอารยธรรมมากมาย แต่ใครจะคิด สายฝนยังได้ทำหน้าที่หล่อเลี้ยงชีวิตและความฝันของเด็กน้อยชนบทคนหนึ่งให้เติบโตสู่โลกกว้างด้วยซ้ำไป
ช่วงนี้เป็นเดือนสิงหาคม ฤดูฝนอันยาวนานยังดำเนินต่อไป สายฝนก็ยังคงทำหน้าที่ของมันอย่างซื่อสัตย์ ปีแล้วปีเล่าเช่นเดิม ไม่เคยเปลี่ยนไปตามกาลเวลา
เสียงเคาะประตูดังขึ้น “ คุณธนครับ ลูกค้าคนสำคัญที่ท่านนัดไว้ รอพบอยู่ที่อาคาร 2 แล้วครับ “ เลขาฯคนสนิทกล่าวกับเจ้านายของเขา คุณธนชัย เจ้าของธุรกิจส่งออกเครื่องเรือนไม้ที่ใหญ่ที่สุดเจ้าหนึ่งของประเทศ จบปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยชื่อดังในยุโรป เป็นนักธุรกิจคลื่นลูกใหม่ที่กำลังเป็นที่จับตามองในวงการนักธุรกิจไทย
“ ได้ๆ บอกพวกเขาว่าสักครู่ผมจะไป” เขากล่าวเสียงเรียบพร้อมกับคว้าสูทสีดำมาสวมทันที
“ เอ่อ แต่ท่านครับ พอดีฝนข้างนอกเริ่มตกหนักแล้ว ผมว่ารอให้มันซาก่อนแล้วค่อยออกไปดีไหมครับ” เลขาฯกล่าวทัดทาน
แต่เขายังคงจัดแต่งสูทให้กระชับและรีบก้าวเดินออกจากห้องเหมือนไม่ได้ยินเสียงใดๆจากเลขาฯ
“ เอ่อ ท่านครับ
.” ยังไม่ทันที่เลขาฯจะได้ทันพูดต่อ เขาก็กล่าวขึ้นทันทีด้วยน้ำเสียงนุ่มแต่แฝงไปด้วยความแน่วแน่
“ นี่มันฤดูฝน ฝนตกก็เป็นปกติแหละคุณ ผมโตมากับสายฝน สายฝนเลี้ยงดูผมมาแต่เด็ก ไฉนผมต้องกลัวฝนล่ะ” เขายิ้มให้เลขาฯคนสนิทเล็กน้อยก่อนรีบวิ่งฝ่าสายฝนออกไปทันที มีเพียงสายตาของผู้ที่ยืนอยู่เบื้องหลังมองตามอย่างงุนงงเท่านั้น
หลังจากวันที่ได้ติดต่อกับลูกค้ารายใหญ่ นับว่าเขาประสบความสำเร็จในการเจรจาอย่างยิ่ง มีการตกลงทำธุรกิจขนาดใหญ่ร่วมกัน ทำให้เขาสามารถส่งออกเครื่องเรือนไม้ได้กำไรนับหลายล้านบาทเลยทีเดียว
เขากลับมานั่งนึกเล่นๆเอาว่า อาจเป็นเพราะที่เขายอมฝ่าสายฝนออกไปเจรจาจนถึงกับเสื้อผ้าเปียกปอนและต้องเข้าห้องประชุมทั้งๆที่เปียกขนาดนั้น ลูกค้าเห็นความตั้งใจจริงเลยตกลงทำธุรกิจด้วยก็เป็นได้
“ ครับ ผมเห็นความตั้งใจและความสามารถของคุณ ผมคิดว่าธุรกิจระหว่างเราต้องไปได้ด้วยดีแน่นอน ผมเชื่อมั่นในลูกพระพิรุณอย่างคุณ” หวนนึกถึงคำที่ลูกค้าของเขากล่าวในวันนั้นคราใด ก็อดอมยิ้มและตลกไปไม่ได้เสียทุกครั้ง
แต่อยู่มาวันหนึ่งเขากลับรู้สึกว่าชีวิตตัวเองยังขาดบางสิ่งบางอย่าง แม้จะมีงานที่ดี เงินมหาศาล ชื่อเสียงโด่งดังก็ตาม ล้วนแต่ยังไม่สามารถทำให้เขามีความสุขได้ เขายังขาดสิ่งใดไปหนอ
“ คุณช่วยดูงานทางนี้ให้ผมสักสองอาทิตย์นะ ผมจะกลับไปเยี่ยมบ้านสักหน่อย” เขาสั่งงานไว้กับเลขาฯคนสนิท
“เอ้อ แล้วคุณช่วยเป็นธุระติดต่อว่าจ้างสถาปนิกและวิศวกรฝีมือดีจากเยอรมันให้ผมด้วยล่ะ” เขากล่าวส่งท้าย
“ ผมคิดว่าบ้านที่ท่านจะสร้างให้พ่อแม่ที่เชิงดอยต้องเป็นบ้านที่น่าอยู่ที่สุดในโลกแน่นอนครับ” เลขาฯกล่าวติดตลก
เบนซ์สีดำขลับคลื่อนไปตามแนวเชิงเขา ดร.ธนชัย นักธุรกิจร้อยล้านชื่อดัง กำลังมุ่งสู่สถานที่ซึ่งเขาจะกลายเป็นเพียง ไอ้ธน หนุ่มบ้านนอกคนหนึ่งเท่านั้น
เขามุ่งสู่ถิ่นที่คุ้นเคยและมีความทรงจำที่ดีในวัยเด็ก เทือกเขาที่ทอดยาวเบื้องหน้า ต้นไม้สีเขียวตามรายทาง ลำธารที่ขนาบข้าง แม้เวลาจะผ่านไปนานเพียงใดมันก็ไม่เคยจากไปไหน แต่กลับเป็นตัวเขาเองที่จากไป จากที่นี่ไปสู่สิ่งที่เขาคิดว่าเจริญและมีความหมายกว่าสิ่งรอบข้างเหล่านี้
“ ครื้น” เสียงฟ้าคำรามดังขึ้น และเพียงไม่นานนักสายฝนก็โหมตกกระหน่ำอย่างไม่ลืมหูลืมตา ถึงแม้ทัศนวิสัยจะแย่เพียงใด พาหนะสีดำสนิทก็ยังคงเคลื่อนต่อไปข้างหน้า
“ แหม ฤดูฝนนี่ฝนก็ตกซะทุกวันเสียจริง แต่เราจะไปกลัวทำไมกัน เรามันลูกพระพิรุณนี่ “ เขานึกอยู่ในใจ
กว่าฝนจะหยุดก็ล่วงเลยมาจนรุ่งเช้าของอีกวันหนึ่งแล้ว เขาขับรถด้วยความสุขใจ เมื่อรู้ว่าอีกไม่นานจะได้พบกับพ่อแม่ ได้รับความอบอุ่นที่ขาดหายไปนานหลายสิบปี และที่สำคัญเขาหวังจะได้ตอบแทนบุญคุณให้ท่านสบาย สร้างบ้านหลังโตเพียบพร้อมด้วยทุกสิ่งแทนที่กระท่อมหลังเล็กๆหลังเก่า
“ พ่อครับ แม่ครับ เดี๋ยวเราจะเจอกันแล้วนะ” เขาพูดพลางบึ่งรถเร็วขึ้นเพื่อรีบไปให้ถึงบ้านด้วยหัวใจที่พองโตกว่าทุกๆวัน
เบนซ์สีดำเลี้ยวเข้าไปในซอยรกซึ่งเป็นทางที่เขาจำได้ดี เมื่อสิบกว่าปีก่อนมันเคยเป็นเส้นทางที่เขาปั่นจักรยานออกจากบ้านไปซื้อของให้แม่ทุกๆเช้า
แต่ที่นี่ในวันนี้กลับมีหลายสิ่งที่เปลี่ยนไปจากเดิม เปลี่ยนไปจนเขาแทบไม่เชื่อว่าเวลาเพียงสิบกว่าปีจะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งได้มากถึงเพียงนี้
ที่เดิมที่เคยเป็นลานกว้างให้เขาวิ่งเล่นในอดีต บัดนี้กลายเป็นเนินดิน ระเกะระกะไปด้วยเศษสิ่งปรักหักพัง ซากไม้กองซ้อนกันไปมา ต้นตาลที่เขาเคยปีนเล่น ก็เหลือแต่ตอให้เชยชมเท่านั้น ไร้แม้แต่เสียงเป็ดไก่ แม้กระทั่งผู้คน
และกระท่อมน้อยอันอบอุ่นของพ่อแม่และเขา เวลานี้
.กลายเป็นเพียงเศษซากไม้ใบจาก กองกระจายเต็มพื้นดินไปหมด ไร้วี่แววของพ่อแม่ที่เขารักอยู่ตรงนั้น
น้ำตาลูกผู้ชายเริ่มล้นเอ่อจากดวงตา เขาไม่กล้าแม้แต่จะคิดว่าอะไรเกิดขึ้นที่นี่ และอยากให้มันเป็นเพียงฝันร้าย
ห่าสายฝนได้ตกกระหน่ำอีกรอบแล้ว เขายืนอยู่ท่ามกลางสายฝนที่โหมใส่อย่างไร้ปราณี ปล่อยน้ำตาไหลปนไปกับน้ำฝนอย่างที่ไม่มีวี่แววจะหยุด หัวใจที่เคยพองโตก่อนหน้านี้บัดนี้มันได้สลายเสียแล้ว
“ เมื่อวานฝนมันตกหนัก น้ำป่ามันบ่าลงมาน่ะพ่อหนุ่ม กวาดไปหมดเลย ไม่มีใครรอดหรอก” มีเสียงหนึ่งกล่าวขึ้น แต่เขาไม่เหลือสติพอที่จะหาที่มาอีกต่อไปแล้ว ความฝันและหัวใจได้สลายลงไปพร้อมกับสายฝนที่เทลงมาเสียแล้ว
“ ถ้าเราไม่ทำงานที่ต้องมาตัดต้นไม้พวกนี้ไป คงไม่เป็นอย่างนี้ ไม่เหลือ ไม่เหลือแม้แต่ร่างพ่อแม่ให้ได้กราบครั้งสุดท้าย” เขาคิดได้เพียงเท่านี้สติก็ดับวูบไป
ฤดูฝนในอดีตวันวานกับฤดูฝนในวันนี้ เหตุไฉนจึงแตกต่างไปได้ขนาดนี้
แต่ถึงอย่างไรฤดูฝนและสายฝนก็ยังคงทำหน้าที่ของมันเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนไป เฉกเช่นวันวาน วันนี้ หรือวันใดๆซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ตามที
เฉาก๊วยสีขาว...ภวินท์ หาเรือนขวัญ
ผลงานอื่นๆ ของ เฉาก๊วยสีขาว ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ เฉาก๊วยสีขาว
ความคิดเห็น