ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในยุคปัจจุบัน ชีวิตของมนุษย์บนโลกกำลังเข้าสู่สังคมดิจิทัลที่ผู้คนมีชีวิตอยู่กับสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ ฯลฯ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ได้เข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันเกือบจะตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง ซึ่งแน่นอนเมื่อด้านดีของอุปกรณ์เหล่านี้ช่วยในการเรียน การทำงาน การติดต่อสื่อสาร การใช้ชีวิตในด้านต่างๆ แต่อีกด้านที่ผู้ใช้ต้องยอมรับ ก็คือ ผลกระทบต่อสุขภาพโดยเฉพาะสายตาที่ต้องเพ่งอยู่กับจออิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้เป็นเวลานานๆเราจึงต้องป้องกันแสงสีฟ้าด้วยตัวเองด้วยวิธีต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
1.สวมแว่นเลนส์มัลติโค้ท หรือแว่นกรองแสงสีฟ้า ถึงแม้ว่าคุณจะไม่มีปัญหาเรื่องสายตาสั้น - ยาว แต่คุณก็สามารถสั่งตัด หรือหาซื้อแว่นที่สามารถกรองแสงสีฟ้าจากหน้าจอมาใช้ได้ เพื่อให้สายตาของคุณไม่ต้องสัมผัสกับเจ้าแสงที่มองไม่เห็นนี้โดยตรง แม้แรก ๆ คุณอาจจะรู้สึกรำคาญหน่อย แต่นาน ๆ ไปจะรู้สึกได้เองว่าอาการปวดตาลดน้อยลงไปกว่าเดิมเยอะ เมื่อเปรียบเทียบกับการไม่ใช้แว่นตา
2.ปรับแสงสว่างของหน้าจอให้อยู่ในระดับที่พอดี ปกติทั้งหน้าจอคอมพิวเตอร์ และหน้าจอโทรศัพท์มือถือ จะมีการตั้งค่าให้ปรับความสว่างของหน้าจอได้ เราจึงควรเลือกตั้งค่าเลือกแสงสว่างที่เหมาะกับสายตาเรามากที่สุด เพื่อไม่ให้แสงสีฟ้าออกมามากขึ้น และถ้าหากจำเป็นต้องใช้โทรศัพท์มือถือในเวลากลางคืนช่วงก่อนนอน ก็ควรตั้งค่าให้เป็น Night Mode หรือโหมดกลางคืน จะช่วยถนอมสายตาได้ดียิ่งขึ้น
3.หาต้นตะบองเพชรมาตั้งไว้ข้างจอ
รู้หรือไม่ว่าต้นตะบองเพชร ช่วยลดรังสีที่แผ่ออกมาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้ โดยมีผลยืนยันจากนักวิจัยชาวสวิตเซอร์แลนด์ ที่ได้ทำการทดลองเอาตะบองเพชรมาวางหน้าจอคอมพิวเตอร์ไว้ ผลคือตะบองเพชรสามารถเติบโตได้ดีไม่แพ้กับการตั้งไว้กลางแดดเลย ซึ่งนั่นเป็นเพราะตะบองเพชรสามารถดูดซับรังสีส่วนหนึ่งไว้นั่นเอง
4.ปรับตัวอักษรให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ยิ่งตัวหนังสือเล็กมากเท่าไร เราก็ยิ่งเพ่งเข้าไปใกล้จอมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้นหากสามารถปรับอักษรได้ ก็ควรปรับให้มีขนาดใหญ่มากขึ้น เพื่อให้สามารถอ่านได้อย่างชัดเจนโดยไม่ต้องเพ่ง ซึ่งจะช่วยลดความเมื่อยล้าจากการเกร็งกล้ามเนื้อของดวงตาด้วย แต่ถ้าปรับตัวหนังสือไม่ได้ ก็ควรปริ้นท์ออกมาให้อ่านง่าย ๆ จะดีกว่า
5.กระพริบตาบ่อย ๆบางคนอาจจะตั้งใจอ่านเรื่องราวต่าง ๆ บนหน้าจอมากถึงขั้นตาไม่กระพริบ จึงอาจทำให้เกิดการตาแข็ง และปวดกระบอกตาจากการไม่มีน้ำมาหล่อเลี้ยงรอบดวงตาได้ เพราะฉะนั้นจึงควรกระพริบตาให้ได้อย่างน้อย 1-2 ครั้งต่อเวลา 10 วินาที เพื่อให้น้ำตาสามารถไปหล่อเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของดวงตา และช่วยในการคลายความอ่อนล้าของสายตาอีกด้วย
สำคัญที่สุด คือ การปรับพฤติกรรมจากการใช้จอที่มีแสงสีฟ้าเป็นเวลานาน โดยใช้สูตรคลายสายตาด้วยการมองวัตถุอื่นๆที่ห่างออกไปประมาณ 20 ฟุต กะพริบตาต่อเนื่องเพื่อป้องกันอาการตาแห้ง รวมทั้งลุกขึ้นเดินไปรอบๆบริเวณที่นั่งอยู่ประมาณ 20 ก้าว เพื่อสุขภาพดวงตาที่ดีและยืดอายุดวงตาให้เสื่อมช้าลง.
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น