คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2.ลุงยักษ์
ตอนที่ 2.ลุงยักษ์
ผมยืนมองบ้านหลังใหญ่ บ้านที่ผมจะมาพักอาศัยอยู่ในช่วงเรียนมหาวิทยาลัย อย่าว่าบ้านเลย มันคือคฤหาสน์หลังย่อม ๆ เลยก็ว่าได้ คนขับรถของพ่อที่ขับรถมาส่งผม เขาขนกระเป๋าลงที่หน้าบ้านแล้วก็จากไป ไม่คิดจะช่วยขนกระเป๋าเข้าบ้านสักนิด ก็นะถึงจะบอกว่าเป็นคนขับรถของคุณพ่อ แต่เขาก็เป็นคนของยัยแม่มดวรนาถภรรยาใหม่ของคุณพ่อ เพราะยัยแม่มดนั่น ทำให้ผมไม่ได้อยู่บ้านตั้งหกปี แถมพอเรียนจบก็ยังต้องย้ายมาอยู่บ้านใครก็ไม่รู้ ที่คุณพ่อบอกว่าเขาเป็นน้องชายของน้าภา น้าจิดาภาที่เป็นเพื่อนของคุณแม่กันยา
"มาหาใครครับ" ผมกดกริ่งหน้าบ้านไปสองสามครั้ง ก็มีผู้ชายวิ่งมาที่ประตูรั้วและเอ่ยถาม ท่าทางน่าจะเป็นคนสวนดูจากการแต่งกายและเหงื่อที่ไหลเป็นทาง
"มาหาคุณจิรายุครับ พอดีผมต้องมาพักที่นี่ครับ ผมชื่อกรกฎ" ผมตอบคำถามเขาและแนะนำตัวเอง ผู้ชายคนนั้นขมวดคิ้วก่อนจะหันไปตะโกนเรียกคนในบ้าน
"ไอ้อ้อยโว้ย มีคนมาหาคุณจิรายุ แกมานี่หน่อยสิ" คนที่ชื่ออ้อยคงจะเป็นแม่บ้านที่พอจะรู้เรื่องของผมบ้าง แต่ผู้ชายที่มาเปิดประตูคงไม่รู้เรื่องอะไร
"สวัสดีค่ะคุณ คุณคือ? " แม่บ้านที่ชื่ออ้อยวิ่งมาที่ประตูรั้ว ก่อนจะมองหน้าผมอย่างไม่ค่อยเชื่อถือ เธออาจได้รับคำสั่งมาแล้ว หรืออะไรผมไม่รู้ล่ะ แต่ตอนนี้มันร้อนมากจนไม่อยากจะอยู่นอกบ้านแล้ว
"ผมกรกฎครับ ที่จะมาอยู่บ้านหลังนี้" ผมแนะนำตัวกับพวกเขาอีกรอบ นี่เจ้าของบ้านไปไหนนะ ทำไมถึงปล่อยให้ผมอยู่นอกบ้านแบบนี้ ผมมองเข้าไปในบ้าน ชะเง้อมองไปที่ชั้นสอง ตรงหน้าต่างเห็นแว้บ ๆ ว่ามีคนอยู่
"แต่คุณจิรายุแจ้งไว้ว่าจะมาพรุ่งนี้นี่คะ" คุณแม่บ้านบอก เธอกำลังลังเลว่าจะเปิดประตูดีหรือเปล่า ผมมองไปตามถนนซ้ายขวา ยังโชคดีที่ตรงนั้นมีแท็กซี่กำลังวิ่งตรงมา หึ จะเอาอย่างนี้ใช่ไหม รับปากคุณพ่อว่าจะให้ผมเข้ามาอยู่ด้วยแท้ ๆ แต่คนสวน รวมทั้งแม่บ้านกลับไม่รู้ว่าผมจะมาวันนี้ แถมยังลังเลที่จะเปิดบ้านให้ผม ได้ผมออกจากบ้านมาแล้วนี่ จะไปอยู่ที่ไหนก็ได้
"แท็กซี่" ผมหันไปโบกแท็กซี่ที่กำลังขับตรงมา แท็กซี่เขียวเหลืองที่เห็นวิ่งตามท้องถนนจอดทันทีที่ผมโบก แต่ยังไม่ทันได้บอกเลยว่าจะไปไหนก็ถูกผู้ชายร่างใหญ่ดึงแขนไว้เสียแล้ว เร็วชะมัด
"จะไปไหน" เสียงทุ้มดุถามขึ้นทั้งที่ตัวเองทำให้ผมเสียเวลาเองแท้ ๆ มีอย่างที่ไหนแนะนำตัวไปแล้ว แต่แม่บ้านยังบอกว่าผมควรจะมาพรุ่งนี้
"ปล่อยครับ ผมจะไปหาเพื่อน" ผมจ้องตากลับไม่ได้เกรงกลัวรูปร่างสูงใหญ่ของเขา ที่น่าจะจับผมเหวี่ยงลงพื้นด้วยมือเดียวได้สบาย ๆ ด้วยซ้ำ
"มาถึงนี่แล้วยังคิดจะหนีไปอยู่ที่อื่นอีกรึไง บุญสมขนของเข้าบ้าน" เขาว่าให้ผมพร้อมลากผมเข้าบ้านหันไปบอกคนที่ชื่อบุญสมขนของของผมให้ตามเข้าบ้านด้วย
"เฮ้ คุณถ้าไม่ไปก็อย่าเรียกสิ เสียเวลานะ" คนขับแท็กซี่ตะโกนตามหลังมาอย่างหัวเสียเพราะว่าผมทำเขาเสียเวลา
"อ้อย จ่ายค่าเสียเวลาให้แท็กซี่ไปร้อยหนึ่ง" ผู้ชายหน้าดุที่น่าจะเป็นคุณอาจิรายุเจ้าของบ้านสั่งแม่บ้าน ผมหันไปโค้งหัวขอโทษคนขับแท็กซี่ เขาโบกมือพร้อมกับยิ้มให้เหมือนจะบอกว่าไม่เป็นไร แล้วก็จากไปพร้อมเงินหนึ่งร้อยบาท
ผมถูกลากให้เข้ามาที่ห้องรับแขก ด้านในไม่ได้หรูหรามากนัก การแต่งบ้านก็ดูเรียบ ๆ สมสถานะชายโสด ผมถูกจับนั่งบนโซฟา คนที่ชื่อบุญสมกับอ้อยลากเอากระเป๋าของผมมาวางกองรวมกันไว้ตรงกลางห้องรับแขก ไม่คิดจะขนขึ้นไปไว้บนห้องรึไง
"มาถึงก็ก่อเรื่องเลยนะ คิดว่ามาถึงนี่แล้วจะหนีไปที่อื่นได้รึไง" ผู้ชายสูงวัยเขาขี้บ่นอย่างนี้ทุกคนรึเปล่านะ ไม่ถงไม่ถามผมสักนิดว่าเป็นอย่างไร เดินทางมาที่นี่ยังไง ทำไมถึงถูกปล่อยไว้ที่หน้าบ้าน อีตาลุงขี้เก๊กเอ๊ย
"ก็เห็นท่าทางคุณแม่บ้านไม่อยากเปิดประตูให้ เหมือนกลัวว่าผมจะเป็นขโมย ก็เลยว่าจะไปหาที่พักที่อื่นแทน ไม่อยากมาอยู่หรอกนะที่นี่ อยู่กับตาลุงแก่ ๆ ขี้บ่นน่ารำคาญจะตาย" ผมไม่ได้อยากอยู่หรอก แต่เพราะผมเองก็ไม่อยากไปอยู่เมืองนอก คนนี้ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร แต่ถ้าเป็นน้องชายน้าภา ผมคิดว่าเขาคงจะใจดีกับผมบ้าง แต่เพื่อนของคุณพ่อที่อยู่เมืองนอกคนนั้น ชาตินี้อย่าได้เจอกันอีกเลย
"เฮ้อ อ้อย ไปเอาน้ำมาให้คุณหนู ออฉันลืมไป นี่คุณหนูกรกฎจะมาอยู่กับเราที่นี่จนกว่าเขาจะเรียนจบ" คุณหนูหรือ โฮให้เกียรติกันเกินไปแล้ว แต่นานแล้วนะที่ไม่มีใครเรียกผมว่าคุณหนู เพราะคนเก่าแก่ของแม่ ก็ถูกยัยแม่มดนั่นไล่ออกไปหมด มีแค่ป้าพิมที่เลี้ยงผมมา ผมให้แกกลับไปอยู่บ้าน และแอบส่งเงินให้แกใช้ เพราะแม่ทิ้งเงินในบัญชีไว้ให้ผมเยอะพอสมควร
"น้ำค่ะคุณหนูกรกฎ" แม่บ้านคงอายุราว ๆ ยี่สิบกว่า ๆ สามสิบต้น ๆ ผมคิดว่าผมน่าจะเรียกพี่ได้
"ขอบคุณครับพี่อ้อย เรียกผมว่าปูก็ได้" ผมยกน้ำขึ้นมาจิบ มองไปรอบ ๆ ห้องรับแขก แทบไม่มีอะไรตกแต่งเลยสักนิด
"คุณหนูปู เพราะทั้งชื่อเล่นชื่อจริงเลยค่ะ" พี่อ้อยชม ก่อนจะลุกออกไป ผมมองหน้าตาลุงยักษ์ที่ยังคงมองหน้าผมไม่เลิก อยากมองก็มองไป คนมันน่ารักก็งี้
"อ่านนี่เสีย ถ้าเข้าใจแล้วก็เซ็นรับทราบไว้ด้วย" ลุงยักษ์ส่งเอกสารมาให้ผม ผมยกขึ้นอ่านคร่าว ๆ มันคือกฎระเบียบในการอยู่บ้านหลังนี้
"ที่นี่จะไม่มีแม่บ้านตอนกลางคืน เพราะอ้อยทำงานแค่กลางวัน มาเช้าเย็นกลับ ส่วนบุญสมจะอยู่ที่นี่ เผื่อมีอะไรฉุกเฉินแล้วฉันขับรถไม่ได้ บุญสมจะเป็นคนขับรถให้ แต่ไม่ได้หมายความว่านายจะเรียกใช้ตามใจชอบ กลางคืนต้องดูแลตัวเอง" ลุงยักษ์บอก โฮบ้านหลังใหญ่โตแต่ไม่มีแม่บ้านตอนกลางคืน แถมกลางวันมีแม่บ้านแค่คนเดียวอีก
"ถ้าผมยอมเซ็นรับข้อตกลงของคุณลุง ผมขออะไรอย่างได้ไหม" ผมอยากจะพาป้าพิมมาอยู่ที่นี่ เพราะป้าแกบอกอยู่บ้านเฉย ๆ แล้วเบื่อ อยากทำงานทำการบ้าง
"เรียกอาก็พอ ฉันอายุน้อยกว่าแม่ของเธออีกนะ" ลุงยักษ์แยกเขี้ยวใส่ผม ก็เพราะเหตุนี้ไงผมถึงเรียกลุง
"คร๊าบคุณอา" ผมแกล้งเรียกอาไปอย่างนั้นแหละ แต่จะเรียกลุงยักษ์ใครจะทำไม
"จะขออะไรก็ว่ามา" ลุงยักษ์คลายคิ้วที่ขมวดลงเล็กน้อย แต่สองแขนยังคงกอดอกมองผมอย่างกดดัน
"ป้าพิมเป็นคนของแม่ ถูกยัยแม่มดวรนาถ เอ๊ย คุณทิพนาถภรรยาใหม่ของคุณพ่อไล่ออก แต่เพราะป้าพิมเป็นคนที่ดูแลผมมาตั้งแต่เกิด ผมจึงยังส่งเสียให้เงินป้าแกใช้อยู่ และป้าแกอยากจะหางานทำ จะได้ไม่เป็นภาระผม แต่ผมติดว่าผมอยากให้แกมาอยู่ที่นี่ด้วย" ลุงยักษ์หรี่ตามองผมอย่างอยากจะจับผิด แต่ถ้าไม่ให้ ผมจะแกล้งขีดข้อตกลงที่เขาร่างไว้ในหนังสือสัญญาฉบับนี้เสีย อยากรู้เหมือนกันว่าจะทำอย่างไร
"เอาเงินมาจากไหน ทำไมถึงมีเงินส่งเสียแม่บ้านที่ตกงาน" ลุงยักษ์มองผมราวกับว่าตัวเขาเป็นเครื่องจับเท็จ เงินเดือนผมมันมากกว่าที่ป้าได้รับตั้งหลายเท่าเถอะ
"เงินที่คุณแม่ฝากไว้ให้ในธนาคาร เงินปันผลจากบริษัทของคุณพ่อมันเป็นส่วนที่คุณแม่เคยได้รับ และเงินเดือนที่คุณพ่อให้ใช้ในแต่ละเดือน ก็มากอยู่"
"ครับ" พอเห็นสายตาที่มองมาอย่างกดดัน มันทำให้ผมต้องพูดคำว่า 'ครับ' ออกมาอย่างช่วยไม่ได้
"ก็ได้ เดี๋ยวค่าจ้างฉันจะจ่ายเอง ส่วนที่นายอยากให้แล้วแต่นายจะให้เขา โทรตามเขามาอยู่ที่นี่ได้เลย เดี๋ยวจะให้อ้อยจัดห้องไว้ให้" ใจดีเหมือนกันแฮะ ผมยกยิ้มด้วยความดีใจ หยิบปากกามาเซ็นหนังสือสัญญาการอยู่ภายใต้การปกครองของลุงยักษ์ แม้ตอนแรกจะอึดอัด แต่ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นเยอะ อย่างน้อยก็มีป้าพิมมาอยู่เป็นเพื่อน
"ขอบคุณนะครับคุณอาจิรายุ ที่ให้ผมอยู่ด้วย"
❤❤❤❤❤❤❤
ฝากลุงยักษ์กับคุณหนูปูด้วยนะคะ
ความคิดเห็น