ปฏิวัติ-ปฏิรูป

เนื้อเรื่อง

20 กันยายน 2549

          
               ทุกคนคงทราบดีถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนที่ผ่านมา การปฏิวัติ หรือ ที่ผู้ใหญ่ท่านเลี่ยงไปใช้คำว่าปฏิรูปการเมืองการปกครองแทน เช้านี้ฉันตื่นมาพร้อมกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากมายหลายกระแส บ้างก็สนับสนุนฝ่ายปฏิรูป บ้างก็ออกมาโจมตี ไม่มีใครถูก แล้วก็ไม่มีคนผิด มันก็เหมือนกับเหรียญที่มีสองหน้า มันขึ้นอยู่กับว่าเราจะมองจากด้านไหน คนหนึ่งอาจมองเห็นแต่ผลเสีย คนหนึ่งอาจมองเห็นข้อยุติ ถ้ามองจากมุมมองของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพียงฝ่ายเดียว อีกฝ่ายที่เหลือย่อมต้องเป็นฝ่ายผิด และหนีคงไม่พ้นความแตกแยกทางความคิดอีกตามเคย เพียงแค่เรายอมเปิดมุมมองของตัวเองให้กว้างขึ้น เราจะเข้าใจว่าต่างคนต่างมีมุมมองและเหตุผลของตัวเอง เราไม่สามารถกะเกณฑ์ให้ใครๆมีความเห็นพ้องกับเราได้ทั้งหมด

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคืนวานนี้ บางคนมองว่าประเทศของเรากำลังจะถอยหลังจากระบอบประชาธิปไตย สู่เผด็จการทหาร ในขณะที่บางคนมองเห็นจุดยุติของปัญหาทางการเมือง แต่สำหรับฉัน ฉันคิดว่า การที่ฝ่ายทหารออกมาเคลื่อนไหวโดยการยึดอำนาจเพื่อปฏิรูปการเมืองการปกครองนั้นเป็นการยุติปัญหาการเมืองที่ดูจะยืดเยื้อออกไป และมองไม่เห็นจุดสิ้นสุด แม้มันจะเป็นทางออกของปัญหา แต่ฉันก็ไม่อยากเห็นมันเกิดขึ้น เพราะสิ่งที่ถูกเรียกว่าการปฏิรูปการเมืองการปกครอง มันก็แทบไม่แตกต่างอะไรจากการปฏิวัติ และการปฏิวัติที่เกิดขึ้น ทั้งที่ประเทศของเราเดินบนเส้นทางแห่งประชาธิปไตย มันไม่ได้แสดงถึงความล้มเหลวของระบอบประชาธิปไตยที่เราภูมิใจหนักหนาหรือ ฉันเชื่อว่าฝ่ายปฏิรูปเองก็ ไม่ได้อยากให้มันเกิดขึ้น แต่มันมีทางเลือกอื่นหรือ ฉันรู้สึกว่า ประเทศไทยให้โอกาสคนบางคนมามากเกินพอ ทั้งที่มีทางเลือก ทั้งที่มีโอกาส ทั้งที่มีหนทางที่จะยุติปัญหาการเมืองที่มันคาราคาซังได้ โดยไม่ต้องมีปฏิรูป แต่คนคนนั้น คนที่พวกเราก็รู้ดีว่าเป็นใครกลับไม่ยอมทำ หากยังดื้อดึงจะบริหารประเทศต่อไป ทำให้วันนี้ วันที่เกิดการฏิรูปดำเนินมาถึง

ฉันคิดว่าการปฏิรูปเป็นไปเพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของทุกๆฝ่าย ลองนึกดูเถอะว่าหากไม่เกิดการปฏิรูป วันนี้จะเกิดอะไรขึ้น การชุมนุมของบางฝ่ายอาจยังดำเนินต่อไป และอาจทำให้ปัญหาการเมืองบ้านเรามันลุกลามออกไปอีกก็ได้ ฉันหวังว่า ช่วงเวลาหลังจากนี้ ช่วงเวลาที่ยังไม่มีใครสามารถออกมาเคลื่อนไหวได้ จะเป็นช่วงเวลาที่ทำให้ทุกคนได้หยุดคิด ว่าสิ่งที่ต่างฝ่ายต่างอ้างว่าเพื่อสถาบันชาติ เพื่อสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น มันเป็นไปอย่างที่เอ่ยอ้างหรือเปล่า

การปฏิรูปในครั้งนี้อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นในสายตาของต่างชาติก็จริง แต่ฉันคิดว่ามันจะส่งผลดีต่อประเทศชาติในระยะยาวอย่างแน่นอน การปฏิรูปอาจทำให้กิจการของประเทศชาติชะงักลงก็จริง แต่ก็เป็นแค่เพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น แต่หากไม่มีใครทำอะไรลงไปสักอย่าง หนทางที่จะไปสู้จุดยุติของปัยหาการเมืองบ้านเราก็อาจจะทอดยาวออกไปจนไม่มีวันสิ้นสุด นั่นยิ่งไม่เป็นการฆ่าประเทศไทยให้ตายลงอย่างช้าๆหรือ  แต่ฉันเชื่ออยู่สิ่งหนึ่งว่า การปฏิรูปในครั้งนี้จะไม่มีการนองเลือดเกิดขึ้น และ ไม่มีทางที่ประเทศของเราจะถอยหลังสู่ระบอบเผด็จการอย่างแน่นอน เพราะฝ่ายปฏิรูปเพียงแต่ยื่นมือเข้ามาช่วยจัดการบางสิ่งให้เรียบร้อย ก็เท่านั้น ฝ่ายปฏิรูปก็เหมือนกับช่าง ที่เพียงแค่ยื่นมือเข้ามาช่วยซ่อมบำรุง ก่อนที่จะปล่อยให้ฟันเฟืองแห่งระบอบประชาธิปไตยขับเคลื่อนไปข้างหน้าตามครรลองที่มันควรจะเป็นด้วยตัวของมันเอง คงได้แต่หวังว่าเรื่องการเมืองที่แสนวุ่นวายนี้จะผ่านไปโดยเร็วที่สุด

                  ฉันอยากให้ทุกชีวิตที่อยู่บนผืนแผ่นดินไทย รักและสำนึกในบุญคุณของผืนดินไทยให้มาก แม้ว่าที่นี่อาจจะไม่ใช่แผ่นดินเกิด อยากให้ทุกชีวิตที่ได้อาศัยใต้ร่มพระบารมี สำนึกในพระคุณของพ่อ แม้ว่าพระองค์จะไม่ใช่พ่อผู้ที่ให้กำเนิดเรามา อยากให้ทุกฝ่ายคิด อยากให้ใช้ปัญญาตรึกตรองให้มากก่อนที่จะออกมาเคลื่อนไหว หรือกระทำการใดๆอันจะทำให้ระคายเบื้องพระยุคลบาท อยากให้นึกถึงพ่อเหนือหัวของเราให้มากๆ  ที่สุดแล้วฉันอยากเห็นวันที่ทุกชีวิตบนผืนแผ่นดินไทย ไม่ว่าจะมาจากชาติไหน ไม่ว่าจะใช้ภาษาใด ไม่ว่าเราจะมีพระเจ้าองค์เดียวกันหรือไม่ แต่เมื่ออยู่บนผืนแผ่นดินไทย ทุกคนล้วนเป็นพี่น้องไทยทั้งสิ้น ฉันจะเฝ้ารอให้ถึงวันนั้น วันที่ไทยมีหัวใจดวงเดียว วันที่พ่อของเรา จะไม่ต้องเหนื่อยเพราะความแตกแยกของพวกเราอีกต่อไป