~Is this love~ ใช่รักหรือเปล่า
คุณล่ะ เจอคน ๆ นั้นของคุณรึยัง... คนที่ทำให้คุณอยากตื่นขึ้นมาดูพระอาทิตย์ตอนเช้าด้วยกัน...คนที่ทำให้คุณคิดถึงคุณค่าของชีวิตมากขึ้น คนที่จะก้าวเดินไปพร้อม ๆ กับคุณ...คนที่เกิดมาเพื่อนคุณ
ผู้เข้าชมรวม
236
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ท่ามกลางผู้คนมากมายในท่าอากาศยานดอนเมืองหญิงสาวร่างบางคนหนึ่งกำลังมองหาใครบางคน
อย่างเอาเป็นเอาตายแต่หาเท่าไหร่ก็ไม่มีวี่แววของชายหนุ่มร่างใหญ่เลย ซักพักเธอจึงตัดสินใจกับตัวเองอย่าง
เงียบ ๆ
"เอาวะขึ้นแท็กซี่กลับเองก็ได้"พูดจบก็เดินตรงไปข้างหน้าทันที
"เดี๋ยวลิตารอผมก่อนสิ"เสียงทุ้มคุ้นหูดังมาจากข้างหลัง ใช่แล้วเขาเอง สองทวีป คนรักของเธอ
"นึกว่าไม่มาซะแล้ว"เธอพูดงอน ๆ แล้วแก้มทั้งสองข้างก็ป่องออกมา
"น่านะผมขอโทษคือติดงานด่วนน่ะพอเสร็จปุ๊บก็รีบมาหาลิตาปั๊บเลยนะเนี่ย"พูดจบเขาก็ยิ้มให้อย่างใจดีเช่นเคย
"แล้วสองหิวรึยังล่ะ"ที่จริงแล้วเธอก็ไม่ได้งอนอะไรเขานักหรอกรู้อยู่แล้วว่าอาชีพของเขาทำให้เขาไม่มีเวลามากนัก
ยิ่งพอดูหน้าที่มีเม็ดเหงื่อเกาะอยู่ด้วยยิ่งทำให้โกรธไม่ลงเข้าไปใหญ่
"ลิตาอยากทานอะไรล่ะครับเดี๋ยวสองจะพาไป"เขาออดอ้อนเธอตามเคย ใครจะไปคิดว่านายตำรวจใหญ่มาดดุที่
ใคร ๆ กลัวกันจนหัวหดกับผู้ชายขี้อ้อน ใจดีตรงหน้านี้จะเป็นคนเดียวกันไปได้
"งั้นไปร้านประจำของเราแล้วกันนะ"ร้านประจำที่เธอว่านั้นก็ไม่ได้อยู่ไกลจากที่นี่ซักเท่าไหร่และที่นั่นก็เป็นที่ที่พวก
เขาทั้งสองเจอกันครั้งแรก นึกแล้วเธอก็อดยิ้มกับตัวเองไม่ได้ จำได้ว่าวันนั้นเธอเพิ่งบินกลับมาจากสวิสเซอร์แลนด์
เมื่อลงจากเครื่องก็รีบไปร้านนั้นตามที่นัดกับเพื่อน ๆ ไว้ว่าจะเล่าประสบการณ์การทำงานครั้งแรกในชีวิตสู่กันฟัง
ไกด์สาวเลือดร้อนไฟแรงอย่างเธอมีรึจะพลาดงานนี้ถึงจะเหนื่อยแสนเหนื่อยจากการทำงานมาสิบห้าวันเต็มก็ตาม
ทันทีที่เธอก้าวเข้าไปในร้านก็เห็นทั้งสี่รออยู่แล้ว
"เป็นไงบ้างลิตางานสนุกมั๊ย"เจนเพื่อนของเธอทักเสียงดังลั่นจนโต๊ะข้าง ๆ หันมามองเป็นตาเดียว
"ชู่ว์"เธอจุ๊ปากใส่เพื่อนพร้อมกับทำหน้าทะเล้น แน่อยู่แล้วล่ะก็เธอน่ะเป็นหัวโจกประจำกลุ่มนี่การปรากฎตัวของ
เธอจึงเป็นเรื่องตื่นเต้นน้อยอยู่เมื่อไร
เมื่อฟังเจน ดาว ส้มและหมิว เพื่อนสนิททั้งสี่ของเธอเล่าแล้วก็มีความสุขกับเพื่อนไปด้วย เจนเป็นแอร์
โฮสเตสของสายการบินญี่ปุ่นแห่งหนึ่งในประเทศไทยดังนั้นเธอจึงซื้อของคิขุอาโนเนะมาฝากเพื่อน ๆ เพียบด้วย
เหตุผลที่ว่า
"เงินก้อนแรกที่หามาได้ในชีวิตน่ะมันต้องฟาดให้เรียบเว้ยจะได้มีแรงหาต่อ"เจนพูดพร้อมกับยักคิ้วข้างเดียวตาม
แบบฉบับสาวเจ้าเล่ห์อย่างเธอ
"ไอ้บ้าฉันเคยได้ยินแต่ต้องเอาไปทดแทนบุญคุณพ่อแม่นี่แกเล่นช็อปแหลกเลยนี่หว่า"ปากของลิตาน่ะท้วงแต่มือ
น่ะหยิบของที่เพื่อนซื้อมาฝากแล้วก็เอาขึ้นมากอดอย่างอีอกดีใจก็มันดันเป็นลายโดราเอม่อนสุดที่รักของเธอนี่นา
"ขอบใจมากนะจ๊ะเจนเพื่อนรัก"เธอทำท่าราวกับจะเข้าไปหอมแก้มเจ้าของกล่องแว่น ผ้าขนหนู หมวกคลุมผม
เสื้อกันฝน ร่ม และกระเป๋าที่ทุกอย่างล้วนแต่เป็นลายโดราเอม่อนทั้งสิ้น
ส่วนดาวสัตวแพทย์ที่เรียบร้อยที่สุดในประเทศไทย(ตามความคิดของเพื่อน ๆ)เธอก็ดูจะมีความสุขดีอยู่กับ
น้องหมาน้องแมวที่เธอเพียรพยายามรักษาทุกตัว
ส้มสาวเปรี้ยวสุดขั้วตามชื่อของเธอก็ไปทำหน้าที่แม่ศรีเรือนของสตีฟตั้งแต่เรียนจบทันที ก็เพราะเธอดันท้อง
ขึ้นมาดีนะที่ตอนรับปริญญายังไม่มีใครรู้ ตอนนี้ส้มอยู่ที่อเมริกากลับมาเที่ยวเมืองไทยทั้งทีและสิ่งที่เธอทำเป็น
อันดับแรกก็คือนัดมาเที่ยวกับเพื่อนนี่แหละ ตอนนี้ท้องของเธอยังไม่ใหญ่เพราะเพิ่งจะสามเดือนเท่านั้น
หมิวพยาบาลมาดนิ่งที่เธอเป็นพยาบาลก็เพราะ 'คุณแม่ขอร้อง'แต่เธอก็มีความสุขกับอาชีพนี้เป็นอย่างยิ่ง
เมื่อฟังทุก ๆ คนเล่าจบลิตาจึงเล่าเรื่องของเธอบ้าง
ลิตาหรือเอมลิตาที่ตัวเธอเองสงสัยอย่างยิ่งว่าทำไมพ่อ-แม่ของเธอจึงไม่ให้เธอเชื่อว่าเอม ทั้ง ๆ ที่ลูกออกจะ
เป็นสาวห้าวแต่ชื่อสุดจะหวานแหวว เมื่อเธอเรียนจบเธอก็เริ่มทำงานในสายที่เธอเรียนมาเธอไปสมัครเป็นไกด์
ของบริษัทชื่อดังแห่งหนึ่งและบริษัทนั้นก็รับเธอเข้าทำงานอย่างง่ายดายด้วยความสามารถและบุคลิกที่พร้อมจะ
'ลุย'ด้วยทุกเมื่อของเธอและนี่ก็เป็นงานแรกที่เธอได้รับมอบหมายพาลูกทัวร์'ไฮโซ'ไปทัวร์ถึงเจ็ดประเทศภายใน
เวลาสิบห้าวัน
เมื่อเธอเล่าจบก็เป็นเวลาที่ทานอาหารเสร็จเรียบร้อยกันพอดีเธอจึงสั่งเช็คบิลและเดินออกมานอกร้านพร้อม
เพื่อน ๆ แต่ยังไม่ทันที่จะถึงรถ
"ว๊ายยยยยย"ดาวร้องอย่างตกใจหลังจากที่เดินไปชนหนุ่มร่างใหญ่เข้าอย่างจังทำเอาสาวร่างเล็กอย่างดาว
กระเด็นลงอยู่ที่พื้นแต่เขากลับไม่ได้ขยับไปจากจุดที่ยืนอยู่เลยแต่ที่สำคัญก็คือน้ำส้มที่ดาวถือออกมากลับกระฉอก
เต็มเสื้อของเขานี่สิ
"ขอโทษค่ะ คือฉันไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ "ดาวละล่ำละลักของโทษเขาทันทีที่ลุกมาได้
"ไม่เป็นไรครับแต่ทีหลังก็เดินให้ระวังมากกว่านี้แล้วกัน"เขาพูดเสียงดุไม่เพียงแต่เสียงเท่านั้นสิที่ดุทั้งหน้าตาท่าทาง
ก็อย่างกับว่าไม่เคยยิ้มมาก่อนในชีวิตนี้ ซึ่งองค์ประกอบเหล่านั้นแหละที่กระตุ้นต่อม'วีน'ของคนจุดเดือดต่ำอย่าง
ลิตาได้ดีนัก
"เพื่อนฉันก็ขอโทษคุณแล้วไงยังจะเอาอะไรอีก"เธอพูดเสียงดังสีหน้าเอาเรื่องทำเอาเขาหันหลังกลับมาดูคนที่วีน
ทั้ง ๆ ที่เพื่อนของเธอเป็นคนผิด
"ผมไม่ได้ต้องการอะไรแต่ผมเตือนเพื่อนคุณเฉย ๆ ว่าทีหน้าทีหลังควรระวังให้มากกว่านี้"เขาหันมาย้ำกับเธออย่าง
ชัดเจนและสีหน้าก็ทวีความดุเข้าไปอีกหนึ่งเท่าทั้งที่จริง ๆ แล้วเขาไม่ได้ตั้งใจจะดุเลยแต่ว่าหน้าตาของเขามันเป็น
อย่างนี้เองนี่นา
.ทำยังไงได้ล่ะ
"แต่หน้าคุณน่ะมะ
."ยังไม่ทันที่เธอจะวีนเขาต่อเพื่อนสาวของเธอก็เอามืออุดปากแล้วขอโทษขอโพยเขาเป็นการ
ใหญ่
"ขอโทษอีกครั้งนะคะคือลิตาเขาเพิ่งทำงานมาเหนื่อย ๆ น่ะค่ะก็เลยอารมณ์เสียง่ายไปหน่อย"ดาวขอโทษชายคน
นั้นเป็นรอบที่สองของวัน
"เหรอครับ แต่ผมว่าทีหลังควรหัดให้เธอระงับอารมณ์ให้มากกว่านี้นะครับ"เขายังพูดเสียงดุเหมือนเดิมซึ่งก็ทำให้
ลิตายิ่งหมั่นไส้หนักเข้าไปใหญ่เลยเธอสะบัดตัวให้หลุดพ้นจากการเกาะกุมของเพื่อนแล้วมาวีนเขาต่อ
"คุณคิดว่าคุณเป็นใครถึงมาออกคำสั่งกับใครต่อใครก็ได้"เธอถามเสียงห้วนท่าทางเอาเรื่องและโดยที่เธอกำลัง
โกรธเป็นฟืนเป็นไฟอยู่นั้นเขากลับคิดว่าผู้หญิงตรงหน้านี้ 'น่ารักแบบแปลก ๆ'ดีแฮะ
"ไปกันเถอะลิตา"เพื่อน ๆ ของเธอต้องออกแรงฉุดกระชากถูดเธอจนแทบจะหมดแรงถึงลากแม่สาวอารมณ์ร้อนคน
นี้ให้ขึ้นรถไปได้แต่เธอก็ยังไม่วายหันมาแลบลิ้นให้เขาแทนการ 'บอกลา' แต่ถ้าจะเรียกให้ถูกควรพูดว่า 'ด่าลา' ซะ
มากกว่า
เมื่อขึ้นรถมาได้ซักพักอารมณ์ของลิตาก็เริ่มเย็นขึ้นเธอก็นึกขึ้นได้ว่าเธอต้องโทรศัพท์ไปคอนเฟิร์มกับน้องชายว่าพรุ่งนี้จะไปรับกลับมาจากโรงเรียนเตรียมนายร้อยด้วยตัวเอง แต่เธอก็หาโทรศัพท์ไม่เจอร้อนถึงเพื่อน ๆ ต้องพาเธอไปโรงพัก
เมื่อเธอขึ้นไปแจ้งความนั้นสายตาก็เหลือบไปเห็นชายร่างใหญ่ท่าทางคุ้น ๆ ไป ๆ มา ๆ สรุปว่าเขาเป็นผู้หมวดอยู่
ที่โรงพักนี้ความจริงข้อนี้เล่นเอาเธอหน้าเหวอไปเหมือนกันยิ่งเขาบอกว่าจะรับแจ้งความของเธอด้วยตัวเองแล้วยิ่ง
ทำให้เธอ เหวอ+เอ๋อไปได้อีกพักใหญ่รู้ตัวอีกทีเขาก็ตั้งคำถามพร้อมกับทำหน้าดุใส่เธอแล้ว
"คุณทำหายที่ไหน"
"ถ้ารู้แล้วฉันจะมาแจ้งความทำไมล่ะ"
"แล้วทำหายเมื่อไหร่"
"ไม่รู้"
"นี่คุณโทรศัพท์ทั้งเครื่องหายไปไม่รู้ตัวเลยหรือไงเนี่ย"
"ใช่"เธอตอบหน้าตาเฉยแถมจ้องตาเขากลับด้วยสิเล่นเอาคนแถวนั้นร้อน ๆ หนาว ๆ กันเป็นแถวที่อยู่ ๆ ก็มีคน
กล้ามาต่อกรกับผู้หมวดจอมดุของพวกเขาแถมเป็นผู้หญิงซะด้วยสิ
"งั้นเบอร์โทรที่ผมพอจะติดต่อคุณได้ระหว่างนี้ล่ะเผื่อหาโทรศัพท์เจอจะได้แจ้งไป"เขาพูดพร้อมกับส่งกระดาษและ
ปากกามาให้แปลกที่เธอสังเกตว่าเขาไม่เห็นจะพิมพ์คำให้การของเธอลงไปในคอมพิวเตอร์เลยแต่ก็ยอมจดเบอร์
โทรศัพท์ที่คอนโดฯให้แต่โดยดี
คืนนั้นเขาโทรมาหาเธอตอนสามทุ่มและบอกว่าเจอโทรศัพท์แล้วให้ไปรับพรุ่งนี้ตอนเที่ยงที่ร้านเดิมและตั้งแต่นั้น
เป็นต้นมาเขาก็โทรมาทุกวันจนกระทั่งวันนี้เป็นเวลาสามปีแล้วที่เขายังเสมอต้นเสมอปลายกับเธอ
"คิดอะไรอยู่ครับ"เสียงของสองทวีปทำให้เธอหลุดจากภวังค์
"ก็คิดถึงวันแรกที่เราเจอกันน่ะค่ะ"
"คิดว่าอะไรเอ่ย"
"ก็คิดถึงร้านอาหาร คิดถึงโทรศัพท์มือถือ แล้วก็คิดถึงผู้หมวดจอมเจ้าเล่ห์ด้วยที่เอาโทรศัพท์ลิตาไปแล้วปล่อยให้
ลิตาหาแทบตาย"น้ำเสียงเธอบอกความหมั่นไส้เล็ก ๆ
"ผู้หมวดจอมเจ้าเล่ห์ที่ไหนไม่เห็นมีเลยตรงนี้มีแต่สารวัตรครับ"ใช่แล้วเขาเป็นคนที่ทุ่มเทให้กับงานมากจนได้เลื่อน
ขั้นอย่างรวดเร็ว
"ไหนคะไม่เห็นมีเลยสงสัยจะไม่ได้อยู่ในสายตาเลยมองไม่เห็น"เธอแกล้งเขาอีกด้วยความหมั่นไส้ในดวงตาและน้ำ
เสียงขี้อ้อนของเขา
"หึ งอนแล้วด้วย"คนตัวใหญ่ไม่พูดเปล่าเขาหันหลังให้เธอเสียด้วย
"โอ๋ ๆ ๆ ลิตาผิดไปแล้วทีหลังลิตาจะไม่แกล้งสองอีกแล้วน๊าาาาาาาาาาา"เธอเดินอ้อมตัวเขาไปปลอบเหมือน
ปลอบเด็กน้อยห้าขวบ
"ไม่รู้ล่ะผมโกรธลิตาจริง ๆ ด้วย"เขายังทำท่างอนเหมือนเด็ก ๆ อยู่เธอหมั่นไส้จึงหยิกเข้าที่แก้มเสียหนึ่งที
"โอ๊ยยยย เจ็บนะลิตา"ไม่บอกก็รู้ว่าเจ็บก็เห็นเอามือลูบแก้มป้อย ๆ
"สมน้ำหน้าคนขี้งอน"เธอพูดให้เขาพร้อมกับยิ้มจนตาหยี
"ไม่รู้ล่ะลิตาต้องรับผิดชอบผมด้วย"
"ยังไงล่ะ"
"ลิตาก็ต้องมาขอผมแต่งงานน่ะสิ"
"บ้า ไม่มีทางหรอก"พูดจบก็ก้มหน้าไม่กล้าสบตาเขา ก็เธอเป็นผู้หญิงนะจะให้ไปขอผู้ชายแต่งงานได้ยังไงกันล่ะ
"ลิตาใจร้าย"
"ก็ลิตาเป็นผู้หญิงนะจะให้ไปขอสองแต่งงานได้ยังไงล่ะ"เธอพูดโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา
"ผมก็ไม่ได้หมายความว่าจะให้ลิตามาขอซักหน่อยผมจะขอเองต่างหาก"คำพูดนี้เล่นเอาคนฟังหน้าแดง
"ว่าไงล่ะพร้อมรึยัง"เขาถามเมื่อเห็นอีกฝ่ายเอาแต่หน้าแดงตลอดทางที่มาร้านอาหาร
"รับอะไรดีครับ"พนักงานถือเมนูมาให้
"ลิตาอยากทานอะไรครับ"
"แล้วแต่สองค่ะ"เขาจึงสั่งอาหารไปสองสามอย่างแล้วหันกลับมาถามเธอด้วยคำถามเดิม
"ว่าไงล่ะครับลิตาพร้อมหรือยัง"
"พร้อมอะไรคะ"เธอแกล้งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ นี่ก็เป็นอีกวิธีหลบหลีกของเธอที่ใช้กับเขามาตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา
"ถ้าลิตายังไม่พร้อมก็ไม่เป็นไรครับ แต่ผมอยากบอกลิตาว่าตลอดสามปีที่เราคบกันมาผมมีความสุขมากแล้วผมก็
ต้องการให้ลิตามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของผมในอนาคตด้วย ผมจะไม่เร่งรัดอะไรลิตาหรอกนะ ผมรอได้"พูดจบ
เขาก็ยิ้มอีกแล้วมันเป็นยิ้มที่เขามอบให้เธอเพียงคนเดียวเท่านั้นยิ่งทำให้เธอรู้สึกเห็นแก่ตัวเข้าไปใหญ่ที่ทำให้เขารอ
มาตลอดทั้ง ๆ ที่เขาควรได้เจอคนที่ดีกว่าเธออีกล้านเท่า
"สองคะ"
"ครับ"
"ถ้าลิตาบอกว่าสองไม่ต้องรอลิตาแล้วล่ะคะ"
"ทำไม"เสียงเขาเข้มขึ้นมาทันที
"ลิตาเป็นคนเห็นแก่ตัวค่ะสอง คุณควรได้เจอคนที่ดีกว่าลิตาอนาคตคุณยังอีกไกลแต่ลิตากลับทำให้คุณต้องจมอยู่
กับลิตาคนเดียว ถ้าคุณจะไปลิตาก็ไม่ได้ว่าอะไรคุณหรอกนะคะ"
"ผมจะไม่ไปไหนทั้งนั้นถ้าไม่มีคุณ"เสียงของเด็ดเดี่ยวแต่ก็แหบแห้งจนเธอตกใจ
"สอง"เธอพูดได้แค่นั้นก็เห็นตาของรื้นขึ้นมา
"อย่าไล่ผมไปไหนอีกได้ไหมลิตา"มันไม่ใช่คำสั่งแต่เป็นคำขอร้องเสียมากกว่า
"ลิตาขอโทษค่ะสอง"
แล้วอาหารมื้อนั้นก็ผ่านไปด้วยดีและสองทวีปก็มาส่งเธอที่คอนโดฯเช่นเคย
"บายค่ะ ฝันดีนะ"
"คนใจร้าย ชวนขึ้นไปทานกาแฟซักนิดก็ไม่มี"เขาทำเสียงออดอ้อนแบบเด็ก ๆเช่นเคย
"ไม่ให้ทานค่ะเพราะลิตาใจร้าย"เธอแกล้งเขากลับ
"ไม่สน"ไม่พูดเปล่าเขาเดินลงอ้อมรถไปแล้วเปิดประตูให้เธออีกฝั่งจากนั้นก็จูงเธอขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นแปด ห้อง 837
ที่เขาจำได้ขึ้นใจ
"กาแฟมาแล้วค่ะ"เธอยกกาแฟให้เขาหนึ่งแก้วและโกโก้สำหรับตัวเองอีกหนึ่งแก้ว
"ไม่อยากทานกาแฟแล้วล่ะ"
"อ้าวไหนบอกว่าจะขึ้นมาดื่มกาแฟไง"เธอทำหน้างงสุดขีด
"ก็
"เขาทอดเสียงไว้นิดหนึ่งแล้วเดินไปยังโซฟาที่เธอนั่งพร้อมกับเบียดตัวลงไปนั่งข้าง ๆ เธอ"อยากทาน
อย่างอื่นมากกว่าไง"เขากระซิบข้างหูเล่นเอาคนฟังหน้าแดงเขินจนต้องยกแก้วโกโก้ขึ้นมาจิบ
"สองคุณกลับไปนั่งที่เดิมเถอะลิตาอึดอัดนะ"เธอพูดเบาซะจนเขาต้องเงี่ยหูฟัง
"คุณพูดว่าอะไรนะลิตาผมไม่ค่อยได้ยินน่ะ"เขารู้แล้วล่ะว่าเธออายแต่ขอแกล้งต่ออีกหน่อย จึงยื่นหน้าไปจนแทบ
ติดกับหญิงสาว
"ลิตาบอกให้คุณกลับไปนั่งที่เดิมค่ะ"
"ก็ผมอยากอยู่ใกล้ ๆ คุณบ้างไม่ได้เหรอลิตา"ไม่พูดเปล่าเขายังเอามือไปจับมือเธออีกต่างหาก
"สอง"เธออายจนพูดอะไรไม่ออกแล้วล่ะก็เกิดมาทั้งชีวิตไม่เคยเข้าใกล้ผู้ชายคนไหนมากเท่านี้มาก่อนเลยนี่นา
"คร้าบบบบบ"คนแกล้งยังไม่เลิกก็เธอน่ะเวลาอายน่ารักจะตาย "โอเคผมจะกลับไปนั่งที่เดิมก็ได้แต่ลิตาต้อง
สัญญาก่อนนะว่าจะไม่ไล่ผมให้ออกไปจากชีวิตลิตาอีก"
"ทำไมเหรอ"
"เพราะแค่ผมคิดว่าวันพรุ่งนี้จะไม่มีลิตาอีกผมก็ทนไม่ได้แล้วล่ะ"ทีนี้คนอายกลับเป็นเขาเอง
"ค่ะลิตาสัญญา"
"งั้นลิตาก็ต้องโดนทำโทษ"
"หา"
"ลิตาเป็นคนผิดลิตาก็ต้องโดนทำโทษสิ มีแฟนเป็นตำรวจนะ"เขายิ้มที่มุมปากซึ่งรอยยิ้มนี้แหละที่เธอกลัวนักหนา
เพราะนั่นหมายความว่าเขากำลังคิดอะไรเจ้าเล่ห์ ๆ ออกอีกแล้ว
"อะไรล่ะถ้าให้ได้ลิตาก็จะให้"เธอพยายามต่อรอง
"หลับตาก่อนสิ"
"ลิตายังไม่ได้บอกเลยนะว่าจะให้"ทีนี้เธอไม่รอช้าฉวยโอกาสที่เขาปล่อยมือลุกขึ้นยืนทันทีแต่ความซุ่มซ่ามของเธอ
ทำเอาแขนไปปัดแก้วโกโก้ที่วางไว้หกใส่เขาเต็ม ๆ
"ลิตาขอโทษ"เธอทำหน้าแหยจนเขาต้องหัวเราะออกมา
"ไม่เป็นไรหรอกลิตาแต่เดี๋ยวสองขอไปล้างออกก่อนนะ"พูดจบเขาก็เดินไปห้องน้ำอย่างคุ้นเคย
"ถอดเสื้อออกสิสองลิตาจะได้เอาไปซัก"หญิงสาวเดินตามมาจนถึงหน้าห้องน้ำ จากนั้นชายหนุ่มจึงถอดเสื้อออก
เผยให้เห็นถึงหุ่นล่ำสันแบบนายตำรวจ ทำเอาคนมองอายจนหน้าแดง
"หน้าแดงทำไมครับลิตา คิดอะไรทะลึ่งอยู่ล่ะสิ"ชายหนุ่มไม่วายแกล้งยั่ว
"สองจะบ้าเหรอ"คนตัวเล็กแหวเข้าให้แต่ก็ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมอง ชายหนุ่มจึงแกล้งต่อด้วยการใช้มือทั้งสอง
ข้างโอบเอวหญิงสาวไว้
"สอง" ด้วยความตกใจเธอจึงเงยหน้าขึ้นมา ขึ้นมามองบุรุษเบื้องหน้าที่กำลังโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ขึ้นทุกที
"อย่าสอง หยุดค่
.."ยังไม่ทันพูดจบประโยคริมฝีปากอุ่นจัดก็ทาบลงบนริมฝีปากบาง แล้วสรรพสิ่งรอบกายก็
พลันหยุดนิ่ง ราวกับโลกทั้งโลกหยุดหมุนชั่วขณะ ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร แต่ในความนึกคิดของหญิงสาว
มันช่างยาวนานเหลือเกิน นานจนเธอขาดอากาศหายใจ
"แต่งงานกับผมนะลิตา"ชายหนุ่มกระซิบข้างใบหูของหญิงสาวอย่างแผ่วเบาแต่หนักแน่นมั่นคงเพื่อให้ความมั่นใจ
หลังจากถอนริมฝีปากออกมา
"แต่ลิตายัง
.."สาวสวยพยายามหาข้ออ้าง จะให้ตกลงเลยเขินเกินกว่าจะพูดออกมาได้ แต่ร่างล่ำสันก็จูง
เธอมานั่งยังโซฟาตัวเก่า
"ฟังผมนะลิตา" ชายหนุ่มพูดอย่างมุ่งมั่งทั้งน้ำเสียงและท่าทาง " ผมไม่รู้ว่าเรื่องของเรามันเริ่มต้นขึ้นได้ยังไงนะ ผม
รู้เพียงแต่ว่าผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนที่อยู่ข้าง ๆ ผมคนนี้ เป็นคนที่ผมอยากใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ด้วยมากที่สุด ผมอยาก
ฝากชีวิตทั้งชีวิตของผมไว้ที่เธอ ผมไม่เคยคิดว่าถ้าวันนึงผมไม่มีคุณแล้วผมจะเป็นยังไงต่อไป ผมจะใช้ชีวิตอยู่ต่อ
ไปได้มั๊ย ผมคิดเพียงแต่ว่าถ้าเรามีลูกเราจะตั้งชื่อลูกเราว่าอะไร คุณชอบบ้านสไตล์ไหน
."
"สอง"หญิงสาวถึงกับอึ้งกับชายหนุ่มมาดดุ ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะพูดอะไรทำนองนี้ออกมาได้
"ผมไม่รู้ว่ารักคืออะไร ก่อนเจอคุณผมไม่เคยคิดมาก่อนว่าผมต้องการมัน แต่คุณทำให้มุมมองชีวิตผมเปลี่ยนไป
คุณทำให้ผมอยากดูพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า คุณทำให้ผมหัดฟังเพลงป๊อบ คุณทำให้ผมเป็นห่วงตัวเองมากขึ้น
คุณทำให้ผมคิดถึงอนาคต คุณทำให้ผมร้อนใจแทบแย่เวลาติดต่อคุณไม่ได้ คุณสอนให้ผมหัดเป็นห่วงคนอื่นมาก
ขึ้น คุณสอนให้ผมรู้ถึงคุณค่าชีวิต คุณสอนให้ผมถอยหลังออกมาจากปัญหาเมื่อรู้ว่าถ้าเข้าไปแล้วเสียมากกว่าได้
คุณสอนให้ผมรัก
..รักที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป
บอกผมหน่อยสิลิตาว่านี่เค้าเรียกว่าความรักใช่รึเปล่า" พูด
จบตำรวจหนุ่มก็จับมือบอบบางของหญิงสาวแนบไว้ที่หน้าอกด้านซ้าย ตำแหน่งที่หัวใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะ
อยู่ข้างใน "แต่งงานกับผมนะลิตา"
"ค่ะ ลิตาจะแต่งงานกับคุณ^----^" เธอตอบรับด้วยน้ำเสียงหนักแน่นระคนตื้นตัน
แล้วคณล่ะ เจอคน ๆ นั้นของคุณรึยัง
..คนที่ทำให้คุณอยาก
ตื่นขึ้นมาดูพระอาทิตย์ตอนเช้าด้วยกัน
.คนที่ทำให้คุณคิดถึงคุณค่าของชีวิต
มากขึ้น
.คนที่จะก้าวเดินไปพร้อม ๆ กับคุณ แม้ทางนั้นจะไม่ได้โรยไปด้วย
กลีบกุหลาบ
..คน
ที่เกิดมาเพื่อนคุณ~
+ - + - + - + - + - + - + - + - + - + - + - + -
แหะ ๆ เรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจมากจากเพลง is this love ของลิเดียค่า ^-^V
Ps.รักคนอ่านว่ะ 55+
ผลงานอื่นๆ ของ ~ป๊อบคอร์นวิเศษ~ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ~ป๊อบคอร์นวิเศษ~
ความคิดเห็น