ปาริชาตซ่อนกลิ่น
บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ อันเป็นที่ของผู้มีบุญเท่านั้นถึงได้มาอยู่
หนึ่งในนั้นคือพระอินทร์และพระชายาคนโปรดคือ นางสุชาดา
"พี่ว่า...ถึงเวลาแล้วที่พี่ต้องลงไปสร้างบุญ"
พระอินทร์กล่าวกับ นางสุชาดา
"ท่านพี่หมายถึงท่านพี่จะไปจุติเป็นมนุษย์หรือ
หากเป็นเช่นนั้นน้องก็ขอติดตามไปด้วยได้หรือไม่”
พระอินทร์รู้ดีว่านี่ไม่ใช่ประโยคคำถามแต่เป็นประโยคบอกกล่าว
ได้แต่ยิ้มแล้วมองไปที่พระชายาคนโปรด นางช่างดื้อเหลือเกิน
แต่เอาเถอะ การอยู่สวรรค์นานๆจะทำให้เราเสียเวลาไปอย่างรวดเร็ว
เราไปจุติเป็นมนุษย์นั้นก็เท่ากับเวลาไม่กี่วันบนสวรรค์ เวลาบนโลกนั้นแสนสั้นนัก
เมื่อเทียบกับอยู่บนนี้ ห่วงก็แต่นางสุชาดา แต่โอกาสเช่นนี้ใช่จะหาได้บ่อยๆ
โอกาสที่บนโลกมนุษย์จะอยู่ในยุคที่มีพระพุทธศาสนาเกิดขึ้น ในยุคนี้เป็นองค์ที่ 4
ถ้าหมดยุคนี้ไปคงต้องรอไปอีกยาวนานแสนนาน
ถึงแม้เราจะไปจุติเป็นมนุษย์ แล้วต้องลืมสิ้นทุกอย่าง แต่เชื่อว่า
เราต้องหากันจนเจอด้วยกลิ่นของปาริชาตบนสวรรค์ที่ติดตัวไปแน่นอน...
เรื่องราววุ่นๆจึงเริ่มต้นขึ้น แล้วทั้งคู่จะจดจำกันและกันได้หรือไม่?
แนะนำตัวละคร
นางสุชาดา ได้ไปจุติเป็นหญิงที่เกิดมาในชาติตระกูลอันดี
ชื่อ สุชา หรือ เอย
ค่อนข้างมองโลกในแง่ดี
เธอเป็นลูกเจ้าของศูนย์ปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
มีครอบครัวที่อบอุ่น ทำธุรกิจรีสอร์ทเล็กๆที่เขาใหญ่
พระอินทร์ ได้ไปจุติเป็นหนุ่มนักเรียนนอก
ชื่อ อิน อมรินทร์ ซึ่งพ่อแม่หวังให้
กลับมาสานต่อธุรกิจโรงแรมหลายแห่งทั่วประเทศ
แม้ว่าเขาจะมีทุกอย่างแล้ว แต่ความรู้สึกลึกๆในใจก็เรียกร้อง
ให้เขาตามหา รักแท้ และ ความหมายของชีวิต
ความคิดเห็น