คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Chess piece 8
สายตาพริ้มกึ่งหลับกึ่งตื่นพยายามประคองหนังตาไม่ให้ตก ร่างบางเท้าคางกับโต๊ะนักเรียนอย่างสะลึมละลือจากความเหนื่อยล้าที่สะสมมาเมื่อวาน หลังจากจบเรื่องทั้งหมดและใช่เวลาในการเดินทางก็ล่อเวลาไปถึง ตี4ของวันนี้และเธอเองก็มีเรียนตอน8โมงเช้า
ซึ่งเธอมีเวลาแค่3ชั่วโมงให้พักผ่อนเท่านั้น 'เป็นเพราะเจ้านั้นแท้ๆ ทำให้เราได้นอนแค่2ชม.' เธอกรนด่าในใจ ชิยูกิพยายามย่องเข้าบ้านไม่ให้มีเสียงเพื่อไปรบกวนตัวแทนผู้ปกครองสองหน่อที่กำลังหลับอยู่
แต่ทว่าฝีเท้าคนธรรมดารึจะไปสู้พลังดูลาฮานได้ เมื่อเธอปิดประตูบ้านเท่านั้นแหละ เงาดำตัวดีก็ได้จับกุมตัวเธอลากมาที่ห้องนั่งเล่นพร้อมกับสองหนุ่มสาวที่เปิดไฟฉายส่องหน้าเธอราวกับเป็นผู้ต้องหา
หลังจากนั้นเธอก็โดนชินระสวดยับบวกกับเซลตี้ที่พิมพ์มือถือร่ายให้อ่าน ต้องใช้ทั้งประสาทตากับหูไปพร้อมกันแถมตาก็จะปิดแลไม่ปิดแล อยากจะหยุดเรียนแต่ชินระกับไม่ยอมและยังบังคับไล่ส่งเธอให้มาโรงเรียนจนได้
'มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่จะโดนหลอกแบบนี้ ทั้งที่รู้อยู่แท้ๆว่าข้าวเย็นจะเสร็จแต่ก็ยังจะดั้งด้นไปซื้ออีกให้ตายเถอะเด็กคนนี้' คำด่าเจ็บแสบของพี่ชายยังวนในหัวเธอ อยากจะสวนกลับแต่มันเถียงไม่ออกเนี้ยสิ
ถ้าอยากจะมาบ่นมากนักก็ไปบ่นใส่เพื่อนวิปริตของนายซะสิมาลงอะไรที่เธอละ ผิดที่เขาไม่เลือกคบเพื่อนตั้งแต่แรกนั้นแหละ
"เอาละ วันนี้เราจะมาเลือกหัวหน้าห้องฝ่ายชายกับฝ่ายหญิงกัน มีใครอยากจะอาสาเป็นไหม" อาจารย์ชายชรากวาดสายตามองเหล่าลูกศิษย์ที่นั่งพูดคุยกันเอง
หัวหน้าห้องเป็นงานที่วุ่นวายต้องรับผิดชอบเรื่องของคนส่วนมากทั้งมี่ไม่ได้เกี่ยวกับตัวเองเลยสักนิด ต้องอยู่เย็นเพื่อประชุมเรื่องงบห้อง งานวัฒนธรรมหรือกฎนู้นนี้นั้นอีกแต่ถ้ามองในทางกลับกัน มันก็เป็นหน้าที่ที่ดีไม่ได้เสียหายอะไร
แต่แค่งานทางบ้านที่ให้มา เธอก็เอียนพอแล้วงานที่โรงเรียนขอบายละกัน ดูท่าจะโหวตกันนานชิยูกิจึงขอหลับตาฝุบลงกับโต๊ะหูเองก็พลางฟังผู้คนซุบซิบคุยกันไปแต่ในเวลาแบบนี้ก็มักจะมีกลุ่มบางคนที่รู้จักกันบ้างแกล้งพลักดันคนๆนั้นให้ไปเป็นหัวหน้า ใช้ระบบหมู่พรรคพวกก็เรียกได้ละมั้ง
"ฉะ ฉันค่ะ" นั้นไงนึกถึงปุปก็มาเลย เสียงของเด็กสาวพูดน้ำเสียงที่เขิลอาย ชิยูกิเหลือบมองผ่านช่องว่างระกว่างแขน เธอคือผู้หญิงผมสั้นใส่แว่นที่เจอเมื่อวาน ชื่ออะไรนะ โซโนฮาระ อันริถ้าจำไม่ผิด
คนนี้มาแปลก ดูจากท่าทางแล้วน่าจะโซโล่มาคนเดียวถือว่าใจกล้าน่าดู อาสาตัวเองขึ้นมาเป็นโดยไม่มีพวกคอยหนุน แต่ลักษณะที่ไม่มั่นใจในตัวเองแล้วจู่ๆกล้าแสดงออกต่อหน้าชั้นเรียน เหมือนกับว่าเธอกำลังพิสูจน์ตัวเองอะไรสักอย่าง
.
.
.
.
.
เอาเถอะ ชิยูกิกลับไปนอนฟุบกับโต๊ะเรียนอีกครั้งหันหัวไปทางด้านซ้ายเพื่อพิงกับแขนโชคดีหน่อยที่คนด้านหน้าเธอเป็นคนตัวสูงจึงบังเธอไว้เกือบมิด
"มีใครอยากจะมาเป็นหัวหน้าห้องฝ่ายชายบ้างรึเปล่าคะ" โซโนฮาระกล่าวเชิญชวนทำให้ผู้ชายหลายคนในห้องถึงกับเคลิมตามอยากจะมาเป็นหัวหน้าด้วย
"ผมครับ" เสียงผู้ชายตะโกนดังมาจากทางมุมซ้ายสุดของห้อง ไม่ไกลจากเธอนัก "ผมริวงามิเนะ มิคาโดะ" นายผู้ชายที่เจอกันเมื่อวาน สเป็คหมอนี่คงชอบอะไรแบบนี้ละมั้ง
ในที่สุดก็ลากสังคารตัวเองมาจนถึงเวลาเลิกเรียนได้ ในหัวของชิยูกิตอนนี้มีแต่ความคิดถึงเตียงนอนนุ่มฟูกับแฮร์เย็นๆ แค่คิดว่าได้โน้มตัวลงไปนอนบนเตียงนุ่มฟูก็รู้สึกฟินแล้ว
วันที่สองของการมาเรียนก็ยังคงไม่มีอะไรมากมาย อธิบายเนื้อหาที่จะเรียนในเทอมนี้ รู้จักอาจารย์บางวิชาที่ยังไม่ได้เจอในวันแรก จึงทำให้เด็กสาวได้แอบงีบเป็นบางคาบและก็มีออกไปแอบงีบที่ห้องพยาบาลแต่ก็ไม่พอที่จะทำให้ความเหนื่องล้าหายไปได้หลังจากไปดูคอนเสริต์(แบบไม่เต็มใจ) non stop4ชั่วโมงเมื่อคืน
มือถือในกระเป๋ากระโปรงสั่น ชิยูกิเปิดมือถือดูก็เห็นกล่องข้อความที่มีเนื้อหาสั่นๆ
xx/xx/xx time 15:20 P.M.
To: Shiyuki
From: Shinra
วันนี้มีลูกค้า รีบกลับมาบ้านละ
เดี๋ยวนะมุกนี้มันคุ้นๆ เธอเปลี่ยนหน้าดูข้อความเป็นเลือกโทรออกแทน เธอไม่โดนหลอกเป็นครั้งที่สองหรอก รอเสียงรอสายได้ไม่นานปลายสายก็รับมือถือ
"ฮัลโหล ชิยูกิหรอมีอะไรรึเปล่านานๆทีจะเห็นเธอโทรหานะ" ชินระแปลกใจ ปกติน้องสาวเขาไม่ใช่คนชอบโทรหาใครถ้าไม่ใช่เรื่องจำเป็นจริงๆ
"วันนี้ฉันมีงานงั้นหรอ" ชิยูกิถามเข้าประเด็นทันที
"อ่า ใช่แล้ว พอดีฉันติดของคนอีกฝั่งนะเลยอยากวานเธอหน่อย"
"ไม่ใช่จากอิซายะหรือคนของหมอนั้นใช่ไหม" ชิยูกิถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
"ไม่ใช่จากเขาหรอก ไม่ต้องกังวลไปรายนี่ไม่ยุ่งอะไรกับหมอนั้นหรอก ส่วนเรื่องงาน-"
"ไม่ฉันไม่ทำ" เสียงของชินระถูกตัดบทโดยเด็กสาว "บอกลูกค้าไปว่าคิวไม่ว่างรอไป ฉันเหนื่อยจากอิซายะมาเมื่อวานพอแล้ว" ชินระถอนหายใจ ลมหายใจทำให้เสียงผ่านมือถือแตกเล็กน้อย
"งั้นหรอน่าเสียดาย เห็นว่ารายนี้จ่ายหนักเลยจะให้เป็นค่าขนมเธอสักหน่อย แต่ก็ไม่เป็นไรถ้าเธอไม่อยากทำ ฉันจะไปยกเลิกนัดให้ก็ได้" ชิยูกิไม่ตอบอะไรกลับ คำว่าจ่ายหนักเหมือนจะไปกระตุ้นต่อมอะไรบางอย่างเข้า
"หมายความว่าไงจ่ายหนัก" เธอถามพี่ชายอีกครั้งและเธอในตอนนี้กำลังติดกับดักเข้าเต็มเปา เจ้าพี่บ้านี้รู้วิธีหลอกล่อเธอดีจริงๆ เธอนึกภาพได้เลยว่าตอนนี้ชินระกำลังยิ้มร่าให้กับการตกเหยื่อ
"ก็ไม่มีไรมากแค่ตัดนั้นแต่งนี้เย็บหน่อยไม่เกินฝีมือเธอหรอก ถ้าสนใจละก็กลับมาดูรายละเอียดงานที่บ้านก็ได้นะ งานเริ่มตอนดึกๆนู้น เธอพอมีเวลาพักบ้างนิดหน่อย"
เมื่อมีเงินเข้ามาเกี่ยวเธอก็เริ่มไหวหวั่นและงานส่วนใหญ่ที่ชินระให้ก็ไม่ใช่งานยากเท่าไร
"ว่าไง น้องรัก"
วันนี้ต้องรีบกลับไปนอนพัก สัก2-3ชั่วโมงก็ยังดีอย่างน้อยจะได้มีแรงทำงาน รีบเดินกลับก็คงใช่เวลาไม่ถึงชั่วโมง มีเวลาอาบน้ำกินข้าวนิดหน่อยให้ผ่อนคลาย ชิยูกิแพลนตารางเวลาในหัวตัวเองเมื่อแน่ใจกับลิสที่ต้องทำ สุดท้ายเธอก็รับข้อเสนองานนั้นไป
ร่างบางหยิบกระเป่าสัมภาระ มุ่งหน้าเดินออกจากห้องเรียนทันทีแต่ก็ถูกใครบางคนมาขวางทางออก ใส่ชุดสูทไม่ใช่นักเรียนก็เป็นอาจารย์ เธอเงยหน้ามองคู่กรณีซึ่งทำให้เธอแสดงสีหน้ารังเกียจออกมาอย่างเห็นได้ชัด
"อ้าว คุณคิโนมิยะ บังเอิญจังเลยที่ได้เจอเธอ" ชายหนุ่มวัยทำงานในเสื้อเชิรต์สีดำกับรอยยิ้มที่เรียกได้ว่า ไม่น่าไว้ใจสักนิด ชายคนนี้เป็นคนๆเดียวกับคนที่จ้องเธอตั้งแต่วันปฐมนิเทศ ชิยูกิส่งเสียงจิ๊จ๊ะปลายริมฝีปาก
"อยู่ในโรงเรียนยังไงมันก็ต้องมีเจอกันบ้างแหละค่ะ" อย่ามาเรียกว่าบังเอิญหน่อยเลย เปิดประตูมาแล้วเจอหน้าแบบตัวต่อตัวแถมยังรู้ชื่อเธอทั้งที่ไม่ใช่นักเรียนของตัวเองด้วยซ้ำแบบนี้มันจงใจมาหาเธอชัดๆ
"งั้นขอตัวนะคะ" เธอกล่าวอย่างสุภาพก่อนจะเดินเบี่ยงตัวออกไปอีกทางแต่เขาก็ยังคงกันตัวไม่ให้ชิยูกิไปอยู่ดี อารมณ์คุกรุ่นค่อยๆมีเพิ่มขึ้นมา
"เดี๋ยวสิ วันนี้เธอดูเพลียๆนะ" ยิ่งเขาชะเง้อหน้าเข้ามาใกล้ชิยูกิเองก็ถอยห่างออกมา "ให้ครูขับรถไปส่งเธอที่บ้านไหม" สามคำที่เธอนิยามให้คนคนนี้คือ น่า-รำ-คาญ อาจารย์เอื้อมมือหวังมาจับที่ไหล่ ชิยูกิเงยหน้าขึ้นสายตาสีฟ้ากลายเป็นสีน้ำเงินเข้ม ริมฝีปากเชิดปิดเป็นเส้นตรง
"ขอตัว" ชิยูกิพูดน้ำเสียงเข้ม มือใหญ่ชะงักหยุดกลางคัน ไม่มีการลงท้ายค่ะคะสุภาพอย่างประโยคแรก อาจารย์หนุ่มลอบกลืนน้ำลายยอมต้องหลีกตัวไปด้านข้างโดยไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงต้องกลัวเด็กผู้หญิงมอปลายด้วย ชิยูกิเดินชนไหล่ผู้ใหญ่แต่ก็ไม่พูดขอโทษ ถ้าไม่อยู่ในโรงเรียนละก็เธอคงเอามีดหมอมาปาดคอเรียบร้อยแล้ว
มือถือสั่นเตือนข้อความเข้าอีกครั้ง ชิยูกิเปิดดูข้อความและเมื่อเห็นคนส่ง ความรู้สึกรังเกียจมันส่งผ่านตัวอักษรมาถึงเธอ อยากจะเผามือถือทิ้งแล้วซื้อใหม่ซะจริง เธอเลือกเมินที่จะไม่ตอบ
Kanra online 15:30 P.M.
Kanra: ดีจ้าสาวน้อยหนีเที่ยว ทำอะไรอยู่เอ่ย
Kanra: เลิกเรียนแล้ว ฉันพาไปดูอะไรสนุกๆไหม
Kanra: นี่
Kanra: คุณอาสุเระ
เจ้ากรรมระบบแจ้งเตือนก็ไม่ยอมหยุดสั่น ชิยูกิรีบเปิดมือเล็บกระแทกหน้าจอดังต้อกแต้กอย่างอารมณืเสีย
Azure online 15:35 P.M.
Azure: ฉันสาบานถ้านายยังไม่หยุดกวนใจ ฉันจะเอามีดไปปาดคอนายพร้อมกลับถลกหนังนิ้วมือจนพิมพ์ไม่ได้เลยคอยดู
Azure offline 15:36 P.M.
เธอกดบล็อคการแจ้งเตือนแล้วมุ่งเดินทางต่อ เนื่องจากเสียงเตือนมือถือของเธอไม่ยอมหยุดมาตั้งแต่เธอก้าวขาออกจากโรงเรียนโดยไม่รู้ตัวเลยว่ามีสายตาคู่นึงกำลังจับจ้องมาที่เธออยู่ไม่วางตา
"ดุจังเลยนะ"
ตลอดทางเดิน เธอทำหน้าหน้ามุ่ยมาแต่ไกล สีหน้าบ่งบอกคนรอบข้างได้อย่างดีว่าอย่ามายุ่งกับฉัน ชิยูกิเดินจ้ำอ้าวฝ่าฟูงชนไม่คิดจะหลบใคร เธอเดินชนพนักงานเงินเดือนวัยกลางคน ปัดใบปลิวออกจากพนักงานพารท์ไทม์แจกใบปลิวโฆษณาที่ยื่นมาให้เธอ กระทั้งคู่รักที่กำลังจู๋จี้สวีทกันดีๆเธอก็เดินแหวกทางความรักของทั้งสองขาดสะบั้น หรือแม้แต่เจอคนรู้จักอย่างโดตะจินกับกลุ่มโอตะคุของเขาเธอก็ไม่อยากที่จะทัก
"ไงชิยูกิ ไม่เจอ-" เสียงของชายในชุดเสื้อแจ็คเก็ตคอเต่าสีเขียวรูดซิปถึงคอกำลังจะทักทายชิยูกิแต่ทว่าเธอยกมือห้ามไว้ไม่ให้พูดต่อ
"โทษทีตอนนี้กำลังรีบไว้เจอกัน" เธอพูดโดยไม่แม้แต่จะสบสายตา ก็รู้อยู่ว่าตัวเองจากญี่ปุ่นมานานและกำลังทำตัวเสียมารยาท คนปกติเจอคนรู้จักก็อยากจะทักแต่ขอโทษทีนะ ตอนนี้เธอไม่มีอารมณ์มาเจอเพื่อนเก่า โดตะจินมองชิยูกิจากไปงงๆและมือที่โบกทักทายของเขาก็ยังคงคาไว้บนอากาศเช่นเดิม
เธอเองพอจะจำถนนเส้นทางได้พอสมควรและบวกกับความที่อยากจะหัวถึงหมอนให้เร็วที่สุด เธอจึงตัดสิ้นใจเดินลัดเลาะไปตามซอกซอยแทน ถ้าคิดไปตามภาพในหัวเดินตัดซอยตรงนี้ก็จะเป็นทางเดินลัดแทนหัวมุมถนนที่ต้องเดินอ้อมไปถึงสามช่วงตึกใหญ่ๆ
จากคนที่เต็มท้องถนนก็ค่อยๆเริ่มลดลงเรื่อยๆ จนไม่เหลือใครมีเพียงแค่แมวจรจัดกับหนูในท่อวิ่งไปมาตามซอกเล็กๆแทน ยิ่งเธอเดินลึกเข้าไปเท่าไรก็ยิ่งไร้ผู้คนมากขึ้นเท่านั้นแต่ช่วงเวลานั้นก็อยู่ไม่นานนัก เมื่อเธอเห็นถนนใหญ่ที่อยู่เบื้องหน้า ในที่สุดในไม่กี่นาทีหัวก็จะถึงหมอนแล้ว
ความสุขๆเล็กทำให้มีรอยยิ้มเล็กๆปรากฎบนหน้าของเธอ ถึงร่างกายจะเดินจ้ำอ้าวแต่ทว่าความคิดก็ไปอยู่ที่บ้านนอนหลับไปสามฝันแล้วก็ว่าได้ แต่ทว่าฝันกลางวันของเธอก็ดับลงรู้สึกว่าเสียงแตกร้าวภาพจำลองฝันแตกเป็นเสี่ยงๆในหัว มีใครบางคนกำลังคว้าข้อมือของเธอไว้
ชิยูกิตวัดตัวหันมาหาเจ้าของมือหยาบ ถ้าเป็นเจ้านักค้าข่าวนั้นละก็ไม่สิไม่ต้องเป็นหมอนั้นจะเป็นใครก็ตามแต่ เธอสาบานว่าจะเอากระเป๋าฟาดหน้าให้ลืมโลกแน่นอน
"นี่เธอน่ะมีแฟนยัง สนใจไปเที่ยวด้วยกันกับพี่ไหม" ชิยูกิตาถึงกับกระตุกเมื่อได้ยินประโยคมุกจีบหญิงฉบับนักเลงในโลกการ์ตูนที่ไม่คิดว่าจะเจอกับตัวเอง
ชายหนุ่มตัดผมเกรียนย้อมกลบสีส้มในชุดเสื้อฮูกตัวหลวมสีเหลืองกับกางเกงที่จะหลุดก้นแลไม่หลุดแล สภาพแบบนี้ถ้าให้เรียกคงจะเป็นพวกเลียนแบบพังค์แบบชาวฮิปฮอปชาติAmericanที่หาได้ทั่วทุกมุมโลก
เธอไม่ตอบอะไรพร้อมกับหันหลังเดินหนีแต่หนุ่มเจ้ากรรมดันมีความมุมานะมากกว่าที่คิด เขากลับวิ่งมาตัดหน้าตัวเธอแทน อ่าให้ตายเถอะวันนี้เธอจะมาฮอตอะไรกับหนุ่มๆ แถมยังเป็นพวกสติไม่เต็มเตงแบบนี้ด้วยถ้าจะเนื้อหอมทั้งทีขอพวกที่มันมีสมองพูดรู้เรื่องหน่อยไม่ได้รึไง
"หยิ่งๆแบนนี้ฉันชอบนะ" เขาเดินเข้ามาใกล้ ชิยูกิยืนอยู่นิ่งๆมือข้างขวาล่วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อคลุมโรงเรียน ไม่คิดว่าจะต้องมามีเรื่องตั้งแต่ช่วงเปิดเทอมแต่เส้นความอดทนของเธอมันมีจำกัด เมื่อหาของที่เจอเธอก็กำมันไว้แน่นรอจังหวะที่เหมาะสมที่จะใช่มัน ถ้าเล็งดีๆก็แค่เย็บไม่กี่เข้มขอแค่ไม่ให้มันกระเด็นมาโดนเสื้อผ้าก็พอ
"ฮิโรชิ ฮิโรชิ" ขณะนั้นเองก็มีเสียงแหลมบาดแก้วหูของหญิงสาวพูดชื่อของใครบางคน ความรู้สึกที่ว่าตัวปัญหากำลังจะเพิ่มมาอีกคน เจ้าของเสียงได้มาปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขา
คนที่มาเพิ่มเป็นเด็กสาวในชุดเครื่องแบบเดียวกันกับเธอ แต่ที่ต่างกันคือเธอคนนี้มีผิวสีแทนที่ถูกทาเต็มตัว ผมถูกกลัดย้อมจนเป็นสีน้ำตาลจัด ขอบดวงตาถูกเว้นสีผิวเดิมไว้เหมือนตาแผนด้าแต่แค่เป็นสีที่อ่อนกว่าไม่ใช่สีดำ แถมยังมีออปชั่นเสริมติดไว้ที่หลัง ปีกนางฟ้าเล็กๆที่ดูเหมือนจะเย็บติดกับชุด การแต่งตัวแบบนี้คงที่เรียกว่าสาวแกลละมั้ง
"ฮิโรชินายทำบ้านอะไรอยู่ ฉัน เรียกตั้งนาน" หญิงสาวตะโกนใส่แฟนหนุ่มก่อนจะสะดุดสายตามองมายังที่ตัวชิยูกิ เหมือนเธอจะประมวลผลบางอย่างไว้ในหัวแต่ไม่รู้ว่าประมวลยังไงเจ้าหล่อนถึงมองแรงใส่ หญิงสาวตะคอกใส่ชิยูกิ "เธอทำบ้าอะไรกับฮิโรชิของฉันฮะ!!"
.
.
.
.
.
.
.
"หล่อนเนี้ยพอ มิกะ ฮาริมะหายตัวไปก็ทำเป็นอวดดีแทนเลยนะ"
"ทั้งที่ตอนมอต้นเป็นแค่ลูกน้องยัยมิกะแท้ๆ" เสียงเจี้ยวจ้าวสามสาวรุมด่าเหยื่อที่น่าสงสารรวมไปถึงตัวชิยูกิเช่นกันแต่มันก็ไม่ได้เข้าโสตประสาทแม้แต่น้อย
ง่วงค่ะ ง่วงนอน ง่วงจนตาจะปิดแล้ว สถาณการณ์กลับตาลปัตรอย่างงงๆ ไปๆมาๆก็ถูกลากมาอยู่ในดงกลุ่มเด็กอันธพาล หญิงสามคนที่แต่งตัวเหมือนกันกับคนที่เธอเจอก่อนหน้าบวกกับชายหนึ่งคนที่ดูเหมือนจะเป็นแฟนของผู้หญิงคนนั้น แล้วไม่รู้เป็นมายังไงถึงได้มาเจอกับ โซโนฮาระ อันริ ที่ยืนกุมมือก้มหน้ามองพื้นอย่างจำใจ
สาวๆทั้งสามยื่นล้อมชิยูกิกับโซโนฮาระสมาชิกร่วมห้องของเธอ ดูเหมือนคนสามคนนี้และตัวโซโนฮาระจะรู้จักกันมาก่อน คำแซะที่กล่าวถึงสมัยมอต้นหรือเหตุการณ์อดีตต่างๆ แต่ก็ไม่คิดอีกเลยนะว่าจะมาเห็นวิธีการแกล้งแบบโบราณในทีวีตามท้องถนนฝ่ายๆแบบนี้
"ส่วนเธอน่ะ" พอด่าอีกคนเสร็จก็เปลี่ยนเป้ามาที่อีกคน พวกเธอทั้งสามมองตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าหวังจะหาจุดด้อยอีกฝ่ายแต่หายังไงมันก็หาไม่เจอเสียที สุดท้ายหญิงสาวที่ดูเป็นหัวโจกก็ชี้นิ้วมาที่ระดับสายตาของเธอ
"สีตานั้นมันอะไรปลอมชะมัด เวลาอ่อยผู้ชายก็อย่ามาอ่อยมั่วๆ ไม่เห็นรึไงว่าคนเขามีเจ้าของอยู่แล้ว" ชิยูกิหัวเราะในลำคอก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นการถอนหายใจเฮือกใหญ่ มันก็ต้องมีกันบ้างแหละคนที่ตรรกะป่วยๆแบบนี ชอบโทษเหยื่อแทนที่จะเป็นคนกระทำ มือของชิยูกิเองยังคงกำของในมือไว้ในกระเป๋าเสื้อไม่ปล่อย
"ถ้าสีตาธรรมชาติของฉันมันไปหนักหัวพวกเธอ วิธีแต่งหน้าของพวกเธอเองก็คงจะไปหนักหัวคนอื่นหลายคนเลยละ" ชิยูกิพูดแย็บไปทีนึงให้พวกเธอทั้งสามสะอึก
"ก่อนจะกล่าวหาว่าใครก็ช่วยดูหมาที่เลี้ยงไว้ว่าไม่ให้ไปรังควานคนอื่น มันลำบากคนอื่นเขา" ชิยูกิเตะเศษก้อนกรวดไปด้านข้างจนตกท่อน้ำ เธอเบือนตามาที่ชายหนุ่มต้นเรื่องทั้งหมดที่มองเธอตาเป็นมัน
"และยิ่งไปกว่านั้นฉันไม่คิดจะเหล่ตาให้ผู้ชายเกรดบีไร้อนาคตอย่างแฟนหนุ่มเธอหรอกและก็คงไม่มีผู้หญิงคนไหนสนด้วย เพราะฉะนั้นหายห่วง" คำพูดนั้นทำให้แฟนสาวกัดฟันกรอดส่วนชายหนุ่มเองก็ดูเหมือนจะเสียเซลฟ์ตามกันไป
ผีย่อมเห็นผีเธอไม่คิดจะไปขัดขว้างความรักของคนทั้งสองหรอก แค่เพียงสายตาสีครามก็ดูออกแล้วว่าเธอมองคนพวกนี้อย่างสมเพศ อันริเงยหน้ามองมาที่ชิยูกิประหลาดใจ
ไม่ทันที่พวกเขาทั้งสี่จะได้โต้กลับ จู่ๆมีร่างของเด็กหนุ่มกระโดดเหย่งๆมาแทรกกลางระหว่างศึก ชะตาต้องล้อเล่นกับเธอแน่ๆ ชายหนุ่มที่พยายามมาช่วยสาวน้อยที่โดนรุมแกล้งอย่างพวกเธอกำลังถูกช่วยโดย นายหนุ่มเหนียมอายหัวหน้าห้อง ริวงามิเนะ มิคาโดะ
เขาหันหน้ามามองกลุ่มบูลลี่สีหน้าเผยรอยยิ้ม รอยยิ้มที่ไม่ได้แสดงถึงความสุขหรือดีใจดูเหมือนจะเป็นเหนื่อยใจเสียมากกว่า
"ทำบ้าอะไร" สาวหัวโจกถามอย่างเคืองๆกับการขัดบทสนถนา
"บะ แบบ แบบว่า" ริวงามิเนะพูดติดๆขัดๆ พ่อคุณคนนี้จะมาช่วยพวกเธอหรือจะมาเป็นตัวถ่วง แต่จะเป็นแบบไหนเหมือนว่าโอกาสให้หนีกำลังให้มา ชิยูกิค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากฝูงชล จู่ๆมีเสียงเดินดังมาจากต้นซอย ขอละอย่ามีมาเพิ่มเมื่อชิยูกิภาวนาในใจแต่คงไม่เป็นผล
ทว่าเมื่อเห็นคนมาเยือนชิยูกิถึงกับยืนคอตกเอามือลูบใบหน้า ให้ตายเถอะ พระเจ้าไปโกรธแค้นอะไรเธอนักหนาเธอก็ไม่ได้ขออะไรเยอะ ขอแค่ได้กลับบ้านนอนสบายๆงีบสักตื่นให้หายง่วงแล้วไปทำงานพาร์ทไทม์มันยากตรงไหน
ยิ่งเขาเดินเข้ามาใกล้มากเท่าไรความวุ่นวายและปัญหาก็จะตามมา เหมือนพายุที่โหมกระหน่ำนำพาหายนะและทิ้งไว้เพียงแค่สากปรักหักพังเป็นที่ประจักษ์ เขาเป็นเหมือนเทพและปีศาจสำหรับใครหลายคน ขึ้นอยู่กับจุดมุมมอง
สำหรับชิยูกิแล้ว ชายคนนี้ไม่ใช่ทั้งเทพและปีศาจเป็นเพียงแค่คนโรคจิตที่มีงานอดิเรกที่ประหลาดก็เพียงเท่านั้น
"วิธีรังแกมันเห่ยสุดๆ" เสียงที่คุ้นเคยกล่าว ตั้งแต่รู้จักมาไม่มีครั้งไหนที่จะไม่มีสีดำติดตัว ทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้า สาวก้าวเข้ามาหาพวกเธอ
"มันไม่ดีเลยนะการแกล้งกัน" พอสังเกตดีๆไม่ใช่แค่ริวงามิเนะที่มาคนเดียวแต่มีคิดะที่ดูสถาณการณ์อยู่ห่างๆตรงหัวมุมซอย สีหน้าคิดะที่ชอบทำเป็นเล่นครั้งนี้กลับดูเป็นกังวล หน้าเหมือนเห็นผียังไงยังงั้น
"มันไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับลุงสักหน่อย" สาวหนึ่งในแก็งพูดห้วนๆไร้ความเคารพ ไม่อยากจะเห็นด้วยแต่มันก็จริง มันไม่เกี่ยวกับคนอย่างเขา แต่อิซายะเป็นพวกที่ว่าถ้าลงมือทำอะไรลงไปสักอย่างมักจะมีผลพวงตามมาเสมอ ซึ่งนั้นไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน
ชิยูกิเอามือปิดปากมืออีกข้างกุมท้องจนเนื้อตัวเธอสั่น มิคาโดะและโซโนฮาระหันมามองชิยูกิด้วยความเป็นห่วงแต่กลับกันเลยเธอไม่ใช่สั่นกลัวแต่กำลังขำ เธอกำลังกลั้นขำผิดกับสถานการณ์ที่ขำไม่ออก เมื่อกี้หล่อนพูดว่า ลุง พวกเธอมองเขาเป็นลุง
อิซายะเหลือบมองไปยังน้องสาวเพื่อนใบหน้ายังคงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ คิ้วของเขากระตุกเล็กน้อย อ่า ยังไงก็ไม่มีใครที่ไหนชอบให้เรียกแบบนั้น
ชายหนุ่มเอามือเข้าเสื้อคลุมสีดำทั้งสองข้างใบหน้าเชิดทรนง กลุ่มมนุษย์หน้านักเลงตรงหน้าเขามันช่างอ่านออกง่ายเสียจริงแบบนี้ชิยูกิคงเบื่อแน่ๆ สงสัยต้องใส่สีเติมไข่ให้กับอาหารเสียหน่อย
"งั้นถ้าพวกเธอจะโดนรุมกระทืบหรือนอนตายข้างถนนมันก็ไม่เกี่ยวกับฉัน ไม่ว่าฉันจะตั้นหน้าพวกเธอมันก็ไม่ได้เกี่ยวกับฉันหรือจะเรียกคนที่อายุ23อย่างฉันว่าลุงก็ตาม พวกเธอกับฉันก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันเลยนิดเดียว แต่ว่า" อิซายะหยุดเว้นระยะ สายตาสีชาดเบนสายตามองมายังที่ชิยูกิ เธอเองก็กำลังมองมาที่เขาเช่นกัน ตาสีนภากำลังสบมองมาที่เขา
"พวกเธอดันมายุ่งกับของๆฉัน มันก็เลยกลายมาเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับฉันด้วยเช่นกัน"
"ห๋า?"กลุ่มหญิงสาวรวมไปถึงมิคาโดะและโซโนฮาระเองไม่สามารถเข้าใจในประโยคที่อีกฝ่ายจะสื่อ แต่มันกลับรับรู้แรงกดดันที่ไม่รู้ว่ามันมาจากไหน
"มนุษย์นี้ช่างอ่อนแอ่เสียจริง เอาเถอะฉันก็ไม่ใช่คนที่ชอบตบชอบตีผู้หญิง" มือที่ล้วงอยู่ในเสื้อคลุมของกระตุกเบาๆจนไม่มีใครทันสังเกต
กระเป๋าสะพายข้างสีเหลืองที่สาวหัวโจกได้สะพายไว้ จู่ๆสายพากกลับขาดออกจากกันไม่รู้ตัว ข้าวของเครื่องสำอางกระจัดกระจายลงมาบนพื้น ภัยหายนะที่ไม่สามารถรับรู้ได้เริ่มทำให้พวกเธอกลัว ขาของพวกหล่อนเก้าถอยหลังเมื่ออิซายะเดินเข้าหยิบของที่ตกกระจัดกระจาย
เขาได้เลือกที่จะหยิบมือถือเครื่องสีชมพูขึ้นมา ไม่มีใครสามารถคาดเดาการกระทำของเขาได้แม้กระทั้งชิยูกิ ถึงจะคาดไม่ได้แต่เธอรู้ดีที่สุด รู้แน่ๆว่าคนๆนี้มักจะทำอะไรที่คนเขาคาดไม่ถึงเสมอ
"แต่ว่าฉันมีงานอดิเรกตรงที่" อิซายะปล่อยมือถือร่วงลงกระแทกพื้นคอนกรีดอีกครั้ง
"ชอบกระทืบมือถือของผู้หญิง" แค่มือถือหล่นลงบนพื้นเครื่องในมือถือก็กระทบกระเทือนจนแทบพังแต่การที่ไปกระทืบเท้าซ้ำๆพร้อมกับหัวเราะอย่างบ้าคลั่งเหมือนคนเสียสติ น่ากลัว
ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตกตะลึงกับสิ่งที่ปรากฎเบื้องหน้าและชิยูกิเองก็แน่ใจเลยว่าคนทุกคนกำลังคิดเหมือนๆกับเธอว่าคนตรงหน้า
ไม่บ้าก็โรคจิต
เสียงแตกหักของมือถือได้หยุดลง แม้จะใช้โทรเข้าออกก็คงทำไม่ได้อีกแล้ว สีหน้าที่ยิ้มแย้มแปรเปลี่ยนเป็นความเบื่อฉับพลันจนคนที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วยกันปรับอารมณ์แทบไม่ทัน
"ชักจะเริ่มเบื่อแล้วสิ" อิซายะเงยหน้ามองมายังสามสาว "งานอดิเรกกระทืบมือถือพอดีกว่า" พูดยังกะสิ่งที่นายทำเหมือนงานอิดิเรกของคนปกติทั่วไปทำงั้นละ ชิยูกิคิด
สาวๆทั้งสามร้องเสียงหลงขอความช่วยเหลือจากผู้ชายคนเดียวในกลุ่ม นายหัวเกรียนเดินด่าหน้ายื่นปะทะกับอิซายะ พร้อมกับโชว์ท่าทางที่คิดว่าขู่คนตรงหน้าได้
บอกเลยว่าเสียแรงเปล่าๆแถมยังหน้าอายอีกด้วยและไม่มีใครกลัวเลยแม้แต่น้อย นายนักค้าข่าวทำท่าล้อเลียนว่ากลัวตอบรับแต่กลับไปกระตุกต่อมโมโหของคู่กรณีแทน กำหมัดพุ่งตรงเข้าหาเขาตรงๆ ซึ่งนั้นไม่ต่างจากวิ่งเข้าไปเหยียบหางสิงโตมากกว่า
อิซายะเบียงตัวหลบทันพร้อมกับชูมือทั้งสองขึ้นสูง แสงแวววับสะท้อนเข้าตาของชิยูกิแสงจากใบมีดในมือของอิซายะสะท้อนเข้าที่ตาของเธอ หัวสีส้มเกรียนของนายนักเลงค่อยโล้นหายไปตามลมพัดเผยให้เห็นหนังหัวล้านไร้เส้นผม
มีดพกประจำตัวของอิซายะกวัดแกว่งรวดเร็วจนสายตาจับไม่ทัน จากที่ทั้งที่กำลังแกล้งคนอื่นตอนนี้กลับกลายเป็นคนที่ถูกโดนกระทำซะเอง ไม่ว่าจะเป็นไอ้โง่ที่ไหนก็รู้ดีว่าถ้าขืนยืนสู้ต่อไปก็ไม่มีทางชนะ ทั้งสี่คนต่างวิ่งหนีชายชุดดำเพียงคนเดียว จำนวนคนมิได้ช่วยเสริมแรงใจและแรงกายของกลุ่มแม้แต่น้อยและมันไม่ทำให้อิซายะรู้สึกสะทกสะท้านแต่อย่างใด
ปัญหาเก่าหายไปปัญหาใหม่ก็มา จากนี้เป็นต้นไปเธอคงไม่ได้กลับบ้านง่ายๆแน่นอนเพราะคนตรงหน้าเธอแท้ๆ โอริฮาระ อิซายะ เด็กสาวมองเขาอย่างเหนื่อยหน่าย เรื่องวุ่นจะต้องตามหลังมาในไม่ช้าแน่นอนเพราะว่า
ปีศาจในคราบมนุษย์ได้มาเยือนแล้ว
ความคิดเห็น