ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Durarara] My special Human (Izaya Orihara x Oc)

    ลำดับตอนที่ #9 : Chess piece 9

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 281
      34
      22 ก.ย. 64

     




     

     

     

         ความวุ่นวายช่วงแรกได้จบลงยกสองกำลังจะตามมาในไม่ช้า กลุ่มนักเรียนไรระทั้งสี่ยืนล้อมอยู่ตรงหน้าชายหนุ่มผู้อาวุโสที่สุด พวกเขาพากันออกมาจากซอยแล้วมายืนพูดคุยหลังเหตุการณ์วุ่นวาย

         "แหมเธอนี้น่ายกย่องจริงๆ กล้าเข้าไปช่วยสาวน้อยที่โดนรุมรังแกแบบนั้น" ริวงามิเนะขัดเขินกับคำยกย่อง อยากเข้าไปช่วยหรือโดนบังคับให้ไปช่วยมันคนละความหมาย ชิยูกิคิดในใจ อิซายะเบือนหน้าสายตาสีไปทางเด็กคิดะที่สีหน้าดูไม่ค่อยสู้ดีนัก

    "ไม่ได้เจอกันซะนานเลยนะ คิดะ มาซาโอมิ" ชิยูกิมองไปทางคิดะด้วยความใคร่รู้ คนที่เคยรู้จักหรือยุ่งเกี่ยวกับอิซายะไม่เคยมีคนไหนมีประวัติดีๆสักคน คิดะอาจจะเป็นหนึ่งในตัวหมากของอิซายะไม่มากก็น้อย

         ทั้งสองคนพูดคุยทักทายตามมารยาท คิดะได้แนะนำตัวริวงามิดนะแต่สีหน้ากับน้ำเสียงดูแล้วไม่ค่อยจะเต็มใจอยากแนะนำให้เขารู้จักเพื่อนตัวเองสักเท่าไรนัก

         "แล้วเธอละ" นายนักค้าข่าวหันมาทางชิยูกิเขาแกล้งทำเป็นราวกับว่าไม่รู้จักเธอมาก่อน ชิยูกิไม่แปลกใจและอ่านสีหน้าของอีกฝ่ายกับน้ำเสียงก็รับรู้ได้ถึงเจตนา คิดะขบกัดทีริมฝีปากไม่ราวกับไม่อยากให้ชิยูกิร่วมรู้จัก

    "คิโนมิยะ ชิยูกิ" เธอเล่นตามน้ำไปกับอีกฝ่าย ถึงจะรู้สึกแปลกๆที่ต้องมาแนะนำตัวกับคนที่รู้จักตั้งแต่เด็ก แต่เพื่อความปลอดภัยของเธอในอนาคตกันไว้ก่อนก็ไม่เสียหาย 

          "เหตุการณ์เมื่อกี้คงไม่ทำให้เธอกลัวหรอกนะ" ชิยูกิไม่ได้ตอบอะไรกลับ ไม่ได้กลัวแก็งนักเลงหรอกกลับกันเธอกลัวคนที่อยู่ตรงหน้ามากกว่า คิดะเข้าขัดสนถนาและถามว่าทำไมผู้ใหญ่ตรงหน้าถึงมาทำอะไรแถวนี้

          และอิซายะได้เพราะให้เหตุผลว่ามาเจอกับใครบางคนที่อยู่ที่อิเคบุคุโระและตอนนี้ก็ได้พบตัวแล้ว ชิยูกิคิ้วขมวด ตีความได้สามอย่างคือคนที่มาพบคือเธอ หรือใครอีกคนนึงที่นัดพบจริงๆ หรือ อีกคนนึงซึ่งเธอไม่อยากให้สองคนนี้มาเจอกันที่สุด

    แค่เพียงชั่วพริบตาเดียว เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น มีวัตถุขนาดใหญ่ผ่านตัวเธอและเพื่อนทั้งสาม มันผ่านพวกเขาและซัดเข้ามาที่ร่างของนักค้าข่าวเต็มๆ จนร่างของอิซายะกระเด็นกระดอนลงไปนอนจูบกับพื้นถนน

          นักเรียนมอปลายไรระสี่คนตาและปากเบิกอ้ากว้าง สมองของชิยูกิรีบประมวลผลเหตุการณ์ทีละลำดับ ถังขยะร้านสะดวกซื้อที่หนักและใหญ่ขนาดที่ว่าคนธรรมดาปกติไม่มีทางยกไว้ มันถูกพัด....ไม่สิไม่เรียกว่าโดนพัด มันถูกเขวี้ยงมาและตั้งใจเล็งมาที่อิซายะคนเดียว 


    หมายความเป็นอย่างเดียว

     

     

         "อีซายะคุงงงงง" น้ำเสียงหย่อนยานลากชื่อคนที่ลงไปนอนกับพื้น ชิยูกิและคนอื่นๆค่อยๆหันหน้าไปยังต้นเสียง ถึงจะรู้คำตอบก็ตามที ร่างชายหนุ่มในชุดบาร์เทนเดอร์สีดำกับแว่นกันแดดเลนส์สีม่วง ผมย้อมสีทองกำลังเดินยิ้มเหี้ยมเกรียมตรงมาหา ชิยูกิลอบกลืนน้ำลาย


     เป็นเรื่องแล้วไง

     


    "เคยบอกแล้วไงว่าอย่าเสนอหน้ามาที่อิเคบุคุโระ" เสียงของเขาแผดตะโกนบันดาลโทสะ

    "ชิสึจัง" อิซายะค่อยๆลุกขึ้นพลางลูบแขนที่โดนกระแทก แต่ที่สำคัญเขายังมีแรงลุกขึ้นมายืนได้อีกหรอกหรอ "ที่ทำงานนายมันอีกฝังนึงไม่ใช่รึไง"

         "โดนไล่ออกนานแล้ว" อีกฝ่ายพูดเสียงเข้ม "ฉันเตือนนายแล้วว่าอย่าเรียกฉันแบบนั้นอีก ชื่อของฉันมีให้นายเรียกว่า เฮวาจิมะ ชิสึโอะ"

          "นี้นายยังโมโหเรื่องที่ฉันปัดความผิดให้นายงั้นหรอ" ชิยูกิหันไปมองอิซายะ หมอนี้ไปทำเรื่องอะไรมาบ้างตอนที่เธอไม่อยู่ที่นี่กัน ตั้งแต่รู้จักกันมา เมื่อทั้งสองคนเจอหน้ากันครั้งแรกก็เกือบพังเมืองไปครึ่งนึง พวกเขาไม่ถูกกันมาแต่ไหนแต่ไรเหมือนหมากับแมวดีไม่ดีหมากับแมวยังไม่กัดกันแรงขนาดนี่เสียด้วยซ้ำ

    "ฉันไม่ได้โมโหหรอก" คำพูดกับการกระทำสวนกันไปคนละทาง ชิซึโอะชกหมัดเข้าหากันมีเสียงกระดูกดังกรอกกังมาถึงเธอ "ก็แค่อยากจะตั๊นหน้านายสักมัดสองมัดให้หายอยาก"

         เขามองไปรอบข้างที่ีกลุ่มนักเรียนยืนไม่ห่างจากอิซายะ สายตาของชิซึโอะมองผ่านกรอบแว่นก็ได้ไปสะดุดตากับเด็กผู้หญิงคุ้นตา 

    ถึงจะเธอจะโตขึ้นมาบ้างแต่ก็ยังจำได้ดี ผมสีน้ำตาลของเธอยาวขึ้นมาจากแต่ก่อน ตอนที่เจอกันครั้งล่าสุดก็ยังตัวเธอสูงแค่เอวเขาเพียงเท่านั้น แต่ตอนนี้เธอโตขึ้นใบหน้ากลมจิ้มลิ้มทำให้เห็นโครงหน้าชัดขึ้น

    ก็ได้ข่าวคราวมาบ้างว่าเธอกลับมาและกะว่าจะไปเยี่ยมเยียนสักหน่อย ไม่คิดว่าจะได้มาเจอเธอที่นี้โดยบังเอิญพร้อมกับเจ้านั้น

    "ชิ-" ริมฝีปากที่กำลังจะเอยก็ได้ถูกขัดโดยชายที่เหม็นขี้หน้าที่สุดพูด โง่จริงๆ ถ้าขืนเขาพูดชื่อเธอขึ้นมามันจะลำบากตัวชิยูกิในภายหลังน่ะสิ 

    "ชิสึจังนี้ชอบใช่กำลังตัดสินจังเลยนะแบบนี้ฉันพูดอะไรไปนายคงจะไม่มีประโยชน์" อิซายะไหล่ตก ถ้าตัวชิยูกิอยู่ในสถานะเดียวกับชิสึโอะเธอเองก็คงจะไม่ฟังเหตุผลแน่นอน

         "มันน่ากลุ้มจริงๆ" อิซายะชักมีดพกอาวุธคมกริบประจำตัวชี้ไปยังบาร์เทนเดอร์ "ปล่อยฉันไปเถอะนะ

    ยกสองยังไม่จบยกสามก็เข้าต่อ ปัญหาที่วุ่นวายอยู่แล้วก็ได้มีมาเพิ่ม จู่ๆไม่รู้อีท่าไหนชายหนุ่มผมเกรียนที่เข้ามาหาเรื่องเมื่อไม่นานได้กลับมาอีกครั้งพร้อมกับกลุ่มพวกพ้องอีกยี่สิบกว่าคนที่พกอาวุธไม้เหล็กครบมือ 

         บัดนี้สถานที่ตรงนี้ได้กลายเป็นสถานที่ซ่องโจรไปเสียแล้ว แก็งนักเลงยืนล้อมปิดทางเข้าออกกนึ่งกลุ่ม จอมบ้าพลังหนึ่งคน โรคจิตอีกหนึ่งคนและกลุ่มเด็กนักเรียนทั้งสี่อีกหนุ่งกลุ่ม

    แต่โจทย์ปัญหาที่น่ากลัวที่สุดก็คงจะเป็นสองคนกลางวง เหล่าแก็งอันธพาลต่างตะโกนโหวกเหวกแสดงอำนาจและมีคำๆนึงที่ชิยูกิสังเกตว่าพูดเยอะที่สุดคือ Dollarที่เหมือนกับสกุลเงิน 

    ตั้งแต่กลับมาก็เคบได้ยินกลุ่มนี่มาบ้าง เป็นแก็งไร้สี ไร้ตัวตน ไม่มีจุดประสงค์ เธอไม่รู้ว่าแก็งนี่มันมีอิทธิพลวมากน้อยแค่ไหนแต่พวกเขาทั้งหลายที่ยืนล้อมพวกเธอไว้ต่างอ้างว่าตัวเองเป็นหนึ่งในสมาชิกแก็งกันไม่หยุดหย่อน

         ไม่ใช่แค่แก็งที่จะเป็นที่รู้จักแต่ดูเหมือนว่าชิสึโอะเองก็จะเป็นที่นิยมในหมู่ย่านนี่เป็นอย่างดี มีถูกปรุงแต่งผสมปดเท็จจริงไปบ้างและรู้จักในทางที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไร รู้สึกสงสารอย่างบอกไม่ถูก

    จู่ๆหนึ่งในกลุ่มนักเลงอยู่ดีๆไม่อยู่ อะไรเข้าสิงก็คงทราบไม่ได้ดันกลับกลายสติแตกเอาท่อนไม้หนาพอดีมือฝาดเข้าไปที่หัวชิซึโอะอย่างจังจนไม้หักเป็นสองท่อน ชิยูกิเอามือปิดหน้าพร้อมกับส่ายหัว คนปกติตายไปตั้งแต่ตีเข้าก้านคอแต่ชิซึโอะใช่คนปกติซะที่ไหนละ ตายแน่ ตายแน่ๆ ไม่รอดแน่ๆ

    ทุกสิ่งเข้าสู่ภวังค์ความเงียบ มือทั้งสองที่กุมหัวจากแรงกระแทกค่อยๆเงยหน้าหันไปหาตัวต้นเหตุ เลือดไหลอาบทั่วใบหน้าเป็นสายน้ำ มีบางส่วนหยดเลอะลงไปยังพื้นถนน 

         "แกรู้ใช่ไหมว่าถ้าตัดสินใจพลาดมันหมายถึงชีวิตของแก" น้ำเสียงของหนุ่มบาร์เทนเดอร์เย็นยะเยือก "ที่แกทำเมื่อกี้ก็หมายถึงจะเอาชีวิตฉันสินะ" ใบหน้าที่อาบเลือดค่อยๆเลื่อนหน้าหันไปมองฝ่ายโจทย์จนทำให้อีกฝ่ายสยองขนลุกขนพอง

         "แกคงไม่ว่าสินะถ้าฉันจะทำแก

    สิ้นประโยค หมัดขวาได้พุ่งต่อยยังหน้าคนกระทำเต็มแรง แรงที่ว่าร่างนั้นหลุดกระเด็นกระดอนปลิวไปตามแรงหมัดจนพุ่งชนกับพนังร้านค้าอีกฝัง ฉากเหล่านี้ราวกับหลุดมาจากหนังไซไฟที่กำกับมาอย่างดีแต่มันไม่ใช่ นี่คือชีวิตจริง เจ็บจริงและตายจริง

         การชกหมัดนรกเป็นการประกาศศึก การตะรุมบอลของชายฉกรรจ์นับสิบรุมบาร์เทนเดอร์คนเดียวได้ดำเนินขึ้น ภาพดูเหมือนคนที่โดนรุมจะเสียเปรียบแต่หารู้ไม่คนที่เสียเปรียบน่าจะเป็นฝ่ายคนเยอะเสียมากกว่า 

    ชายผมเกรียนที่เป็นคนนำพาพวกมาในตอนแรกที่ดูเหมือนมั่นใจในศึกนี้ก็ยังต้องเข่าทรุด การคำนวนของเขาผิดพลาด ชายผู้น่าสงสารพยายามที่จะหนีแต่สุดท้ายก็ไม่รอดกับการกระทำของตัวเอง เขาได้รวมลงไปนอนกับคนที่โดนชิซึโอะจัดการ

         "งั้นก็ฝากด้วยแล้วกัน" อิซายะที่เห็นโอกาสจังหวะทางหนีทีไล่ แทนที่จะหนีไปคนเดียวเจ้าตัวกลับคว้าเข้าที่ข้อมือของชิยูกิตามมาด้วย 

      "ดะ เดี๋ยวสิจะมีเรื่องก็มีไป อย่าเอาฉันมาเกี่ยวดิ" เธอตะโกนลั่นสะบัดหนีแต่ก็ไม่หลุดจากมือได้ แทนที่จะหนีไปคนเดียวก็ไปสิจะลากตัวเธอมาด้วยทำไม

     เพื่อนทั้งสามไม่สามารถเข้าช่วยเธอได้ทันอันที่จริงก็ไม่คิดว่าจะโดนลากไปด้วยกัน พวกเขาเลยทำได้เพียงมองการจากไปของเธอและปล่อยทิ้งไว้กับกองโจรตรงหน้าแทน

     "ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้เจ้าเห็บโสโครก" ชิซึโอะที่เห็นภาพทุกอย่าง เขาคว้าเข้ากับตู้น้ำแล้วโยนมาหาพวกเขาทั้งสอง ชิยูกิหน้าซีดเผือก เข้าใจว่าอยากจะช่วยเธอแต่ว่าถ้าโยนตู้น้ำมาแบบนั้นเธอก็ไม่รอดไปด้วยน่ะสิ 

        แต่ไม่รู้จะโชคช่วยหรืออะไร จู่ๆก็มีบุคคลร่างใหญ่ปริศนาพุ่งลงมาจากบนฟ้าลงมายังด้านล่างราวกับสแตนอินไว้เรียบร้อย 

    เขาสามรถรับตู้กดน้ำได้สบายๆเหมือนกับโบนรับลูกบอล ร่างชายต่างชาติผิวสีในชุดญี่ปุ่นทำซูชิสีขาวขอบฟ้าตัดกับสีผิว 

    ไซมอล จากร้านซูชิรัสเซียอยู่เกือบใจกลางอิเคบุคุโระ เขาเป็นคนรักสงบและเป็นมิตรเป็นคนขยันขันแข็งและดูเหมือนจะเป็นคนไม่กี่คนที่จะรับมือชิซึโอะได้ ที่โผล่มาจากฟ้าก็เพราะว่ามีคนสั่งซูชิบนตึกแถวนั้นแล้วบังเอิญได้เห็นเหตุการณ์เลยจะเข้ามาห้าม

    เขาได้พยายามปลอบให้ชิสึโอะใจเย็นแต่ไม่เป็นผล ทั้งคู่เลยเปลี่ยนจากการเจรจามาเป็นสู้กันแทน เมืองนี้มันยังไงกันแน่แหกกฎฟิสิกห์แรงโน้มถ่วงไปหมดแล้วรึไงกัน

     

     

     

      

     

         "ปล่อย"

     

     

     

         "ปล่อย"

     

     

     

     

         "ฉันบอกให้ปล่อยไง" ชิยูกิตะโกนพร้อมกับดึงข้อมือกลับ มือทั้งสองเท้าเข่าพร้อมกับสูดอากาศหายใจเข้าปอด เธอหอบหายใจถี่หลังจากวิ่งมาราธอนมาเป็นระยะเวลานาน

         "ถ้าไม่วิ่ง ชิสึจังจะพาพวกเราโดนลูกหลงไปด้วยน่ะสิ"

    "คนที่ควรโดนมันคือนายต่างหาก" เด็กสาวเงยหน้ามองอย่างคาดโทษอีกฝ่าย แล้วเพราะใครถึงทำให้เขาอยากฆ่านายกันละ

         "นี้ยังโมโหอยู่หรอ" หัวเราะสนุกมั้ง อิซายะย่อตัวลงต่ำเพื่อมองดูสีหน้าของเด็กสาว "ถ้าเธอหายโกรธเดี๋ยวพาไปเลี้ยงขนม สนรึเปล่า" ชิยูกิหันหลังเดินหนีแทนคำตอบ ถึงจะเป็นแบบนั้นอิซายะยังคงเดินตามชิยูกิต้อยๆไม่ห่าง

    "จะกลับแล้วหรอ" เขาพูดตามหลัง

     "วันนี้ฉันมีงานไม่ว่างมาเล่นกับนาย" ชิยูกิมองซ้ายขวาดูสถานที่รอบๆที่ไม่คุ้นเคยพร้อมกับดวงตาที่หนักอึ้ง เธอพยายามฝืนขมให้ตื่น 

    "กลับถูกแน่นะ" ชิยูกิไม่ตอบ เธอเปิดมือถือดูแผนที่ผ่านเว็บแทน

    "เธอดูผิดที่แล้ว ต้องไปอีกทางนึง" อิซายะชะเง้อหน้ามองดูหน้าจอมือถืิอ นิ้วจิ้มชี้โบ้ชี้เบ้สนุกสนาน มือที่กำกระเป๋าแน่นขึ้น ฟันกัดกรอดเข้าหากันจนเกิดเสียงเสียดสี 

    "ให้ฉันไปส่งไหม" 

    เส้นความอดทนขาดสะบั้น ไม่ทันที่อิซายะตั้งตัวความรู้สึกหวาดเสียวที่คอเหมือนกับมีคอเคี้ยวห่างไปเพียงไม่กี่มิล แสงแดดสะท้อนของเงางาม ชิยูกิควักมีดหมอเล่มเล็กที่พกไว้ในเสื้อโค้ทนักเรียนตลอดเวลา จ่อไปที่ลำคอของอิซายะ 

    "อันตรายนะพกของแบบนั้น" อิซายะยืนนิ่งใบหน้ายังคงประดับรอยยิ้มไม่รู้ร้อนรู้หนาว เธอไม่กลัวว่าใครจะเห็น ไม่กลัวว่าใครจะถ่ายวีดีโอและเธอก็ไม่กลัวที่จะใช้ของที่อยู่ในมือเช่นกัน

    "ถ้ายังไม่เลิกวอแวอย่าหาว่าฉันไม่เตือน" ท้องฟ้าเริ่มมืดทำให้นัยต์ตาสีฟ้าหมองลงจนกลายเป็นสีน้ำงินเข้ม มีดในมือค่อยลงแรงกดจนเห็นหยดเลือดซิบๆ 

    พกของแบบนี้ เหมือนกันทั้งครอบครัวกันซะจริง อิซายะยกมือทั้งสองขึ้นเป็นการยอมแพ้ ชิยูกิยังคงคามือไว้แบบนั้นสักพักและเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่คิดจะหยอกล้อต่อ เธอจึงค่อยๆลดมีดก่อนจะวิ่งหนีมา

     


     

         ชิยูกิวิ่งออกห่างมาได้สักพักเธอจึงหันมองไปรอบๆและพบว่าไม่มีวี่แววของนักค้าข่าวอีกต่อไป ดี แบบนี้แหละดี

    ชิยูกิเปิดหน้าจอมือถือ เธอส่งเสียงผ่านริมฝีปากไม่พอใจเมื่อรู้ว่าตัวเองเสียเวลาไปมากแค่ไหน ยิ่งอยู่ด้านนอกนานเท่าไรยิ่งมีเวลาพักเหลือน้อยลงเท่านั้น ในเมื่อไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนบวกกับอยากที่จะกลับบ้านเร็วไวเธอจึงตัดสินใจเดินไปที่ถนนใหญ่เพื่อโบกรถแท็กซี่กลับแทน

         ใช้เวลายืนโบกไม่นานนักก็มีรถแท็กซี่สีเหลืองจอดรับเด็กสาว เธอบอกสถานที่จะไปและเมื่อตกลงกันได้แล้วเธอจึงเดินขึ้นไปนั่งเบาะหลังของรถ ทว่ายังไม่ทันที่รถจะออกกลับมีร่างปริศนาพุ่งขึ้นมานั่งอีกฝั่งของชิยูกิ

         "ฉันไปด้วยสิ" โอริฮาระ อิซายะนั่งยิ้มกรุ่มกริม ชิยูกิกำหมัดแน่นคนอะไรมันจะหน้าด้านตายยากขนาดนี้ ทั้งคนขับรถกับเด็กสาวต่างมองหน้ากันผ่านกระจกรถ ตอนนี้เธออยากจะบีบคอคนตรงหน้าให้ตายสักสิบรอบให้รู้แล้วรู้รอด

         "ลงไป" ชิยูกิไล่

         "ม่าย~เอา" อิซายะยังคงทำเป็นเล่นแต่อารมณ์ของเด็กสาวไม่เล่นด้วยเนี้ยสิ

         "เอ่อคุณลูกค้าครับคือว่าผมมีลูกค้า แล้วเพราะฉะนั้น" พนักงานขับรถพยายามปฎิเสธอย่างสุภาพที่สุด

         "คุณฮิโระสินะครับ" คนขับรถก็หยุดพูดทันทีเมื่อได้ยินชื่อที่เรียก ทันใดนั้นอิซายะเอื้อมตัวไปด้านหน้าก่อนจะโชว์หน้าจอมือถือให้คนขับดูและเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับการทำงานต่างด้าว 

    ระหว่างนั้นชิยูกิมองไปดูยังป้ายชื่อของคนขับรถทางเบาะหน้าและชื่อบนนั้นแทนที่จะเป็นฮิโระกลับกลายเป็นยูกิแทน จากที่พยายามจะไล่ลูกค้าปริศนาทิ้งตอนนี้นายคนขับกลับเงียบ ใบหน้าของปั่นยาก เหงื่อพุดขึ้นตามซอกคอและใบหน้าเริ่มทั้งที่แอร์บนรถก็เย็นจัด ชิยูกิเห็นท่าไม่ดีเลยพยายามจะลงจากรถแทนแต่ก็ถูกอิซายะคว้าตัวเข้าไว้

         "ออกรถด้วยครับ" ไม่รอช้าคนขับรถก็เริ่มออกตัวตามคำสั่ง สายตาสีฟ้าไม่เป็นมิตรมองผ่านกระจกหลังรถที่สะท้อนใบหน้าคนขับเพียงครึ่งเสี้ยว 

    "ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวฉันจ่ายค่ารถแทนเธอเอง" เธอไม่ได้ห่วงเรื่องนั้นสักนิดเดียว

     "นายมาทำไม"

     "ก็ถ้าเกิดเธอเผลอหลับระหว่างทาง ก็ไม่ถึงบ้านซะที ให้มีผู้ใหญ่ไปด้วยจะได้ปลอดภัยไง" มันจะไม่ปลอดภัยตรงที่มีเขาอยู่นั้นแหละ เธอถอนหายใจพร้อมกับส่ายหน้าเอือมระอา ในเมื่อหนีไม่ได้และยิ่งอยู่ในที่แคบเคลื่อนที่นี้อีกและถ้าเกิดเธอไปปาดคอเขาละก็มีหวังคนขับรถได้ตกใจขับชนตึกจนไม่รอดกันทั้งคู่

    การยอมรับชะตากรรมนี้คงจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เธอผละตัวจากชายหนุ่มไปข้างรถโดยวางกระเป๋าหนังคั่นกลางระหว่างเธอกับเขา ชิยูกินั่งเท้าคางกับขอบกระจกรถมองวิวอย่างเซ็งๆพยายามไม่ให้ตาปิดก่อนถึงบ้าน และดูเหมือนอิซายะจะมองออก

          "ง่วงหรอ" อิซายะที่เห็นท่าทีฝืนของเด็กสาวเลย มือทั้งสองตบลงมาบนตักตัวเอง "นอนตักฉันไหม" แต่สิ่งที่ชิยูกิตอบกลับเป็นการยกมือชูนิ้วกลางแทน อิซายะจึงยักไหล่ไม่สนใจอะไรพร้อมกับนั่งเงียบๆดูมือถือไป 

    เมื่อทั้งรถเข้าสู่ความเงียบ ในหัวของเด็กสาวเองก็คิดฟุ้งซ่านจนนึกย้อนกลับไปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ตั้งแต่ที่เธอไม่อยู่ญี่ปุ่นมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง แก็งDollarและแก็งผ้าพันคอเหลืองที่กำลังโด่งดังอีก อิซายะไปทำอะไรให้ชิซึโอะถึงต้องจองล้างจองแค้นขนาดนี้ด้วย

         "เธอกำลังคิดอยู่สินะว่าอะไรทำให้ชิสึจังถึงโกรธฉันขนาดนั้น" ชิยูกิหันมามองอีกฝ่ายคิ้วขมวดรวบกันเป็นปน เขาอ่านใจเธอได้งั้นหรอกหรอ "หน้าเธอมันบอกว่ากำลังสงสัย" อิซายะตอบ

         "ชินระคงจะไม่ได้เล่าให้เธอฟังละสิท่า ตอนที่เธอยังอยู่ที่อเมริกามีเหตุการณ์อะไรหลายๆอย่างเกิดขึ้นเลยละ" อิซายะนึกย้อนไปยังอดีตเพื่อนึกถึงเรื่องราว 

    "ช่วงนั้นฉันก็แค่อยากเล่นกับชิสึจัง เลยปัดความผิดเรื่องเล็กๆของใครบางคนไปให้ก็แค่นั้นเอง" น้ำเสียงที่เล่าเรื่องราวที่ดูน่าคิดถึงแต่เนื้อหานั้นกลับไม่อยากจะให้หวนนึกสำหรับชิซึโอะ นี่น่ะหรือคือกระทำอันน่าระอาของผู้ใหญ่ตรงหน้า

         "เล็กๆ ของนายนี้ถึงกับทำให้หมอนั้นตามจองล้างจอมแค้นได้ขนาดนั้นเชียว" ชิยูกิแซะ

         "เธอก็รู้ว่าชิสิจังไม่ชอบฉันมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว" ทั้งที่เจ้าตัวก็รู้อยู่ว่าอีกฝ่ายไม่ชอบขี้หน้าแต่ก็ยังชอบที่จะไปกวนประสาทไม่หยุด อิซายะกับชิสึโอะสองคนนี้เรียกได้ว่าเป็นคู่ที่ไม่มีวันลงตัวได้เหมือนกับหมาแมว น้ำมันกันน้ำ ร้อนกับหนาว ความสัมพันธ์บิดเบี้ยวแบบนี้เริ่มมาตั้งแต่ชินระแนะนำให้สองคนนี้เป็นเพื่อนกันตอนช่วงมอปลาย หลังจากรู้จักกันเท่านั้นแหละก็เป็นอย่างที่เห็นนั้นแหละ

         ความรู้สึกหนักอึ้งบนดวงตาเหมือนมีหินมาถ่วงไว้ ความเย็นสบายของแอร์ที่ปะทะบวกกับความเหนื่อยล้าสะสม แรงสั่นสะเทือนของรถเหมือนเป็นเปลกล่อมเด็กชั้นดี 

    จิตใต้สำนึกสองฝังของเด็กสาวตอนนี้กำลังต่อสู้กันในหัว 'ถ้าหลับสักงีบคงไม่เป็นไร'ฝั่งปีศาจของเธอกำลังรบเร้า 'ไม่ได้ๆถ้าหลับละก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะวางแผนทำอะไรเธอก็ไม่รู้' แต่ทว่าฝั่งเทวดาตะโกนสวนขึ้นมา 

    ยังไงความอยากย่อมชนะเสมอครั้งนี้ฝั่งปีศาจเป็นฝ่ายชนะ ใช่แล้วหลับสักเดี๋ยวเดียวก็ตื่นแล้ว ดวงตาสวยค่อยๆปรือลงช้าๆ 'แค่งีบเดียวเท่านั้นแล้วเธอจะตื่นแน่นอน'

         ฝั่งอิซายะที่กำลังนั่งเล่นมือถือเริ่มรู้สึกถึงความเงียบผิดปกติ เขาเลียวตามองไปยังเด็กสาวและก็พบว่าเธอกำลังนอนหลับพริ้มสนิท สีหน้าที่บูดบึ้งกับคิ้วที่ขมวดเป็นปมทุกครั้งเวลาที่เจอเขาได้คลายลง ปากที่มักเชิดตลอดเวลาผ่อนลง ลมหายใจเข้าออกเป็นจังหวะสม่ำเสมอเป็นใบหน้าที่สงบและดูผ่อนคลาย 

         แบบนี้สิค่อยเหมือนเด็กทั่วไปหน่อย เขาเกลี่ยปอยผมที่เปราะใบหน้าถัดหู มือพลางหยิบมือถืออีกเครื่องที่พกขึ้นมาหันไปถ่ายวีดีโอเด็กสาวที่หลับไม่รู้เรื่องราว มือของเขาเลื่อนลงไปบีบจมูกแต่ก็ยังพอให้มีช่องให้หายใจ 

    ชิยูกิหน้านิ้วคิ้วขมวดส่งเสียงฮึอือในลำคอไม่พอใจและหันหน้าไปถูกับแขนเพื่อนอนต่อ พอจะแกล้งต่ออีกหน่อยก็ดูเหมือนว่าสัญชาตญาณความระแวงของเธอยังทำงานอยู่ ชิยูกิจึงร้องครางในลำคอไม่พอใจ

    เขาหัวเราะเบาๆไม่ทำให้อีกฝ่ายตื่นและได้สังเกตแถวๆบริเวณขอบดวงตาก็เห็นรอยคล้ำสีดำจางๆอยู่ คงเป็นผลพวงมาจากเมื่อวาน 

     

     

         ใจนึงก็รู้สึกเสียดายแต่ก็แอบสงสารเหมือนกัน ช่วยไม่ได้ 

         'งั้นไว้ค่อยแกล้งครั้งหน้าก็ได้'

     

    T
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×