ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic DC] Just a Normal girl (Damian Wayne x Oc)

    ลำดับตอนที่ #4 : 04: "I can Handle by Myself"

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.13K
      226
      28 ก.ค. 63


     

    "I can Handle by Myself"


     


     

         นี้เป็นเวลาช่วงบ่ายที่เป็นเวลาเลิกเรียนสำหรับเด็กหลายๆคน เด็กทุกคนควรจะได้กลับบ้านไปพักผ่อนหรือไม่ก็ไปเที่ยวที่ต่างๆหลังเลิกเรียนแต่คงจะไม่ใช่สำหรับพวกเค้าทั้งห้าคนเป็นแน่


     

         "พวกเธอมีอะไรจะอธิบายหน่อยไหมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น" อาจารย์ใหญ่ชายวัยกลางคนพูดเค้าเอามือประสานกันและมองมาที่กลุ่มเด็กๆที่มีคนนึงเนื้อตัวสกปรกยิ่งกว่าใคร เค้าถอนหายใจยาวเฮือกใหญ่


     

         "เฮ้ออออ ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าคุณเวนย์ที่เพิ่งย้ายมาไม่ถึงเดือนก็เริ่มมีเรื่องแล้ว และคุณชิลล์คุณยังไม่เข็ดกับการทำโทษที่คุณไปมีเรื่องกับนักเรียนต่างโรงเรียนอีกรึ แต่ที่น่าตกใจไปมากกว่านั้น" อาจารย์หนุ่มหันมามองเด็กสาว "คุณแอมเมอร์สันปกติคุณเป็นนักเรียนเรียบร้อยไม่มีเรื่องกับใครแล้วทำไมอยู่ดีๆวันนี้ถึงเป็นแบบนี้ได้ละ"


     

         ใช่แล้ว ตอนนี้เธอไม่สิ พวกเค้า มิลลี่ เดเมี่ยน เบ็นและเพื่อนของเบ็นอีกสองคนที่ตอนนี้อยู่ ณ ห้องผู้อำนวยการโรงเรียน


     

         เบ็นในตอนนี้ที่มีผ้าพันจมูกตัวเองไว้อยู่เห็นได้ชัดว่าเจอมาหนักกว่าใครเพื่อน ผิดกับเดเมี่ยนที่นั่งสบายใจไร้รอยขีดข่วนไม่มีท่าทีสำนึกผิดแต่อย่างใด


     

         เรื่องทั้งหมดที่ทำให้พวกเค้ามาอยู่รวมกัน มันเกิดเมื่อตอนกลางวัน


     


     


     


     


     

         "วันนี้แกไม่รอดแน่" ฟังจากน้ำเสียงแล้วเบ็น ชิลล์ในตอนนี้ถือว่าเป็นระเบิดลูกใหญ่ที่พร้อมทำลายร้างทุกอย่างและสิ่งที่เค้าจะทำลายเป็นสิ่งแรกก็คือ เด็กใหม่ตรงหน้าเค้า


     

         มิลลี่มองเหตุการณ์ เบ็นที่หัวเต็มไปด้วยซอสมีทบอลใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธและซอสทั้งหลายเป็นผิวเดียวกัน     

         ผิดกับเดเมี่ยนที่ดูสุขุมผิดจากสถาณการณ์ตรงหน้า เบ็นวิ่งพุ่งเข้าหาอีกฝ่ายแบบไม่คิด นักเรียนบางคนที่อยู่แถวนั้นต่างก็ลุกหนีออก บ้างก็ยังนั่งดูภาพเหตุการณ์หรือไม่ก็อัดวิดีโออยู่


     

         ทั้งคู่ต่อสู้กันแต่ถ้าจะให้พูดจริงๆ คนที่สู้อยู่คนเดียวน่าจะเป็นเบ็นมากกว่า เพราะฝั่งของเดเมี่ยนนั้นหลบหลีกมัดและการเตะของอีกฝ่ายเหมือนกับหลบฝุ่นยังไงอย่างงั้น ทั้งตัวของเบ็นตอนนี้เต็มไปด้วยเหงื่อ หอบหายใจแรง เขาพุ่งหมัดไปที่ใบหน้าอีกฝ่ายเต็มพิกัดแต่เป้าหมายของเค้ากลับเบี่ยงตัวหนี


     

         ตัวของเบ็นเซไปด้านหน้าตามแรงหมัดที่ส่งไปแต่ยังไม่จบแค่นั้น เดเมี่ยนใช้เท้าตัวเองยันหลังอีกฝ่ายไปด้านหน้าจนเจ้าตัวพุ่งเข้าหาโต๊ะที่เต็มไปด้วยถาดอาหาร จากตัวที่เละไปด้วยซอสสีแดงตอนนี้ถ้าเบ็นมีเลือดไหลออกจากหัวหรือตามตัวก็คงจะแยกไม่ออกแน่ๆว่าอันไหนเลือด อันไหนซอส


     

         เบ็นพยายามยันตัวขึ้นจากความจุกที่พุ่งมาที่โต๊ะ เดเมี่ยนที่มองดูผลงานก็ไม่ได้ทันระวังตัว หนึ่งในเพื่อน ของเบ็นก็ย่องมาทางด้านหลังก่อนจะล็อคตัวไว้ส่วนอีกคนที่ยืนอยู่หน้าของเค้าก็จะพุ่งหมัดไปที่ท้องให้อีกฝ่ายจุกแต่ผลกับไม่เป็นแบบนั้น


     

         ร่างที่ถูกล็อคตัวไว้ใช้ขาข้างนึงถีบยันคนตรงหน้าให้ล้มก่อนจะสะบัดตัวหนีออกมาอย่างสบายๆ คนทั้งโรงอาหารถึงกับตกตะลึงให้กับภาพตรงหน้า


     

         'หมาหมู่งั้นสิ ยุติธรรมดี' เค้าคิดอยู่ในใจ มีอีกสองคนที่ตอนนี้มองหน้ากันเองว่าจะเอายังไงต่อดีหลังจากเห็นเพื่อนของตนโดนเล่นงานไป หน้าของเดเมี่ยนนิ่งเรียบเฉยไม่แสดงอาการใดๆ ถามจริงเหอะชายคนนี้จะแสดงอาการเป็นบ้างไหม


     

         "มิล เราหนีกันเหอะ อยู่นานไปอาจจะโดนลูกหลงก็ได้" อาริเรียกเด็กสาวที่เกือบโดนหาเรื่องไปเมื่อตะกี้ มิลลี่หันมาหาเธอก่อนจะพยักหน้าตอบ


     

         "วิลนายเองก็เหอะ เลิกถ่ายวิดีโอได้แล้วน่า" อาริหันไปดุฝ่ายชายที่ตอนนี้ยังคงถ่ายวีดีโอราวกับถ่ายสารคดีก็ไม่ปาน


     

         "แปปน่าอาริ นี้ต้องเป็นสกูปข่าวเด็ดแน่ๆ" วิลพูดไปพลางถ่ายไป เด็กหนุ่มคนนี้จะสนใจเป็นพิเศษก็ไม่แปลกเพราะเค้าเองก็เป็นสมาชิกชมรมหนังสือพิมพ์ของโรงเรียน นี้มันข่าวเด็ดน่าตีพิมพ์จะตายสำหรับนักข่าวมือสมัครเล่นอย่างเค้า

     

         อาริที่เอือมระอากับคนตรงหน้าก็ได้ทำการกระชากคอเสื้อของเพื่อนชายก่อนจะลากออกจากเหตุการณ์ชุลมุนแต่ถึงจะเป็นแบบนั้นก็ไม่สามารถล้มเลิกความตั้งใจของนักข่าวได้หรอกมิลลี่เองก็เดินตามอาริไปแต่สายตาของเธอก็ยังจับจ้องไปที่เดเมี่ยน ที่กำลังฝัดเหวี่ยงกับเพื่อนๆของเบ็น


     

         สภาพของพวกเค้าตอนนี้คล้ายๆกับเบ็นก็ไม่ปาน บางคนเสื้อผ้าหลุดลุ่ย บางคนลงไปนอนหอบกับพื้น แต่ทว่าสภาพของเดเมี่ยนตอนนี้กับสะอาดเอี่ยมอ่องแตกต่างจากพวกนั้นทั้งสิ้น


     

         มิลลี่และเพื่อนทั้งสองของเธอกำลังจะเดินออกจากโรงอาหารเหมือนกับกลุ่มเด็กคนอื่นๆ อาริกับวิลเดินออกไปก่อนมิลลี่ที่จะเดินตามแต่ทว่า เด็กสาวกับใช้หางตาไปมอง เบ็น ชิลล์ใสคราบซอสแดงกำลังถือถาดอาหารโรงเรียนพร้อมฝาดเดเมี่ยนจากทางด้านหลังแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ได้รู้ตัวเลยสักนิดเดียว


     

         "ระวังด้านหลัง!" เธอตะโกนสุดเสียง 


     

         คนที่ถูกเตือนก็หันหลังหลบจากการโจมตีอย่างชิ้วเฉียด ไม่รีรอให้อีกฝ่ายเปิดปากพูดเจ้าตัวก็ใช้ขาฝาดเข้าไปที่หน้าเต็มๆ คนทั้งโรงอาหารต่างร้องอุยด้วยความเจ็บแทน

         ซึ่งนั้นถึงกับให้เบ็นล้มทั้งยืน หน้าของเค้าได้ลงไปจูบกับพื้นอีกครั้ง ดูจากสภาพจมูกแล้วน่าจะหักแน่ๆ เมื่อเสร็จธุระจากตรงนี้ เดเมี่ยนหันไปหาคนที่เหลืออีกสองคนที่ยืนมองอยู่ห่างๆ


     

         "พวกนายจะเอาไง" เดเมี่ยนหันไปถามสองหนอที่ทำท่าอ้ำๆอึงๆ เมื่อรู้ว่าเข้าไปสองคนมีแต่จะถูกยำ ทั้งสองคนนั้นวิ่งออกจากโรงอาหารไปโดยไม่ได้ห่วงเพื่อนของตัวเองเลย


     

    ความเงียบเข้าปกคลุมทั่วโรงอาหารเหลือไว้เพียงผลของการทะเลาะวิวาท มิลลี่ยืนมองดูชายตรงหน้าของเธอสายตาของพวกเค้าสบกันอีกครั้ง เธอไม่รู้ว่าจะต้องพูดว่าอะไรไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรต่อ เหตุการณ์มันเกิดขึ้นไวมาก


     

         " นี้มันเกิดอะไรขึ้น!! " เสียงของอาจารย์หนุ่มวัยกลางคนตะโกนลั่นขึ้นมา เนื่องจากมีนักเรียนคนใดคนนึงอาจจะเดินไปบอกเหตุการณ์ทั้งหมดให้อาจารย์มาหรือไม่ก็เสียงมันคงจะดังมากจนอาจารย์รู้ อาจารย์หนุ่มเรียกนักเรียนชายที่อยู่แถวนั้นให้พาตัวคนที่บาดเจ็บไปที่ห้องพยาบาล


     

         "เธอพาคุณชิลล์กับเพื่อนของเค้าไปห้องพยาบาล ส่วนเธอคุณเวนย์ไปพบครูที่ห้องอาจารย์ใหญ่" อาจารชี้นิ้วสั่งเด็กแถวนั้น


     

         "ส่วนเธอ แอมเมอสัน" อาจารย์หันมาทางเธอ "เธอเองก็ต้องไปด้วย"


     

         'ซวยแล้วสิเรา'


     


     


     


     


     

         นั้นเป็นเหตุการณ์ทั้งหมดว่าทำไมพวกเค้าต้องมาตกอยู่ในสภาวะนี้ เบ็นได้ฟื้นขึ้นมาในช่วงบ่ายหลังจากที่โดนเดเมี่ยนซัดเข้าไปที่หน้าเต็มๆและตอนนี้สายตาของเค้าได้มองมาที่เด็กสาว กับเด็กหนุ่มที่เค้าพึ่งจะไปมีเรื่อง


     

         บอกตรงๆนะตอนนี้ถ้าตาของเบ็นจะหลุดจากเบ้าได้ก็คงหลุดนานแล้วเพราะเล่นจ้องพวกเธอแทบจะไม่กระพริบรู้เลยว่าหมอนี้แค้นมากแค่ไหน


     

         "ว่าไงละคุณแอมเมอสัน จากในวิดีโอกล้องวงจรปิดแล้วคุณชิลล์เค้าล้มอยู่ตรงหน้าเธอพอดีและคนหลายคนในโรงอาหารเหมือนจะเห็นเธอไปขัดขาเค้าด้วย เธอมีอะไรจะพูดไหม"


     

         มิลลี่อึกอัก เธอหันไปมองกับคู่กรณีสลับมองหน้าอาจารย์ใหญ่


     

         "หนู-" เธออ้ำอึงที่จะบอก


     

         "แอมเมอสันเธอแค่จะลุกจากโต๊ะเฉยๆ แล้วขาของเธอก็แค่ดันบังเอิงไปขัดกับขาของชิลล์ เค้าเลยเข้าใจผิดว่าเธอจงใจแกล้งครับ" คำตอบที่ควรจะเป็นคำจากปากของมิลลี่กับกลายเป็นเดเมี่ยนที่เป็นคนตอบแทนเธอ และเค้ากำลังแก้ตัวให้เธออยู่


     

         ถ้ามองจากวิดีโอการที่เบ็นล้มต่อหน้าเธอนั้นแทบจะดูไม่ออกเลยด้วยซ้ำว่าขาของเธอไปขัดกับขาของชิลล์เพราะมันเป็นมุมอับและอยู่ห่างจากกล้องมาก


     

         "โกหกทั้งเพ ยัยนี้จงใจหาเรื่องฉันชัดๆ" เบ็นที่ได้ยินคำตอบก็ถึงกับของขึ้น เค้าลุกขึ้นจากเก้า อี้ชี้หน้าไปที่เด็กสาวกับคู่อริ


     

         "สงบสติของตัวเองด้วย คุณชิลล์ เรายังไม่จบกับเรื่องของคุณนะ กรุณานั่งลงด้วย" อาจารย์ใหญ่สั่งให้เบ็นนั่งลงก่อนจะหันมาหา


     

         "เป็นงั้นจริงรึคุณแอมเมอสัน"


     

         "คือ-" เธอตามเรื่องไม่ทันแล้วตอนนี้


     

         "ถ้าให้เธอสารภาพว่าใช่ต่อหน้าคู่อาฆาตอย่างชิลล์แล้วละก็คงจะไม่ดีสักเท่าไรกับตัวของเธอเอง และคงไม่มีคนบ้าที่ไหนจะไปหาเรื่องกับทีมนักฟุตบอลชายโดยเฉพาะเด็กผู้หญิงแบบเธอหรอก จริงไหมครับอาจารย์" เดเมี่ยนได้พูดแทนเธอทุกอย่างแล้ว

         ซึ่งมิลลี่เองก็ได้แต่อ้าปากทิ้งไว้อย่างงั้น







     

    เวลาล่วงเลยไปจนถึงเย็นพวกเค้าทั้งสามคนก็ได้ถูกพิจารณาโดยครูใหญ่และคณะอาจารย์ปกครองและเฝ้าถามเด็กนักเรียนที่อยู่ในเหตุการณ์แล้ว ผลก็คือ


     


     

         "คุณเวนย์กับคุณชิลล์" อาจารย์ใหญ่เรียกชื่อเด็กหนุ่มทั้งสอง "เนื่องจากพวกคุณมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันทำให้เกิดความวุ่นวายและมีการบาดเจ็บเกิดขึ้น ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปพวกคุณจะต้องบำเพ็ญประโยชน์เก็บขยะทำความสะอาดตามโรงเรียนและช่วยงานครูที่ห้องพักอาจารย์" เค้าเว้นระยะ

     

         "คุณเวนย์คุณโดนทำโทษเป็นเวลา1สัปดาห์ ส่วนคุณชิลล์คุณเป็นฝ่ายเริ่มก่อเหตุ ผลของคุณจะเป็น2สับดาห์ และพวกคุณทั้งสองต้องคัดลายมือข้อความสำนึกผิดมาทั้งหมดพันครั้งส่งอาจารย์ ภายในเวลาสามวัน ห้ามให้เพื่อนหรือใช้อุปกรณ์ช่วยเด็กขาด ครูจะรายงานไปที่บ้านของพวกเธอให้มารับตัวพวกเธอไปและการกระทำของพวกเธอวันนี้"


     

    "ส่วนพวกเธอสี่คน" อาจารย์ใหญ่หันไปคุยกับเพื่อนก๊วนเดียวกับเบ็นอีกสี่คน


     

    "พวกเธอเองก็ต้องทำเท่ากับคุณชิลล์ แทนที่จะห้ามเพื่อนดันกับไปร่วมวงซะได้เนี้ยสิ" อาจารย์วัยกลางคนเปลี่ยนบทสนถนามาที่เด็กสาวที่เป็นคนสุดท้ายแทน


     

         "ส่วนคุณแอมเมอร์สัน คุณกลับบ้านได้เลย" เธอกระพริบตาปริบๆงงกับตัวเองแต่ก็ไม่ตอบอะไรกลับได้แต่พยักหน้ารับคำของอาจารย์ใหญ่


     

         และนั้นคือการทำโทษของพวกเค้า ส่วนเด็กสาวนั้นเธอไม่โดนการทำโทษใดๆเพราะดูจากรูปการตามที่เดเมี่ยนให้ไว้ คุณครูเลยพิจารณาว่าเหตุเกิดทั้งหมดนั้นเป็นเพียงแค่เหตุบังเอิญที่เบ็นล้มตรงหน้าเธอและเธอก็ดันโดนลูกหลงตามมาอีกที


     

         หลังจากนั้นอาจารย์ใหญ่ก็ได้ปล่อยให้สองหนุ่มไปทำธุระส่วนตัวในระหว่างที่พ่อแม่ของพวกเค้ากำลังจะมารับตัวไปและปล่อยตัวเด็กสาวกลับบ้านเช่นกัน เบ็นที่ดูเหมือนจะหัวเสียมากก็ยังไม่เลิกส่งสายตาอาฆาตมายังที่พวกเค้าแต่ก็ถูกห้ามปรามไว้โดยอาจารย์ที่คุมอยู่


     

         ตอนนี้เด็กสาวได้ติดคำขอบคุณกับเด็กใหม่ที่ช่วยเธอไม่ให้ไปมีเรื่องกับเบ็นและไม่โดนทำโทษ เธอเห็นร่างเด็กชายเดินไปตามทางเดินโรงเรียน เธอรีบเดินตามเค้าไปในทันทีพลางเรียกชื่อของเค้า


     

         "นี่" เธอลองเรียกแต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ได้ยินหรือแกล้งไม่ได้ยินกันแน่ เธอเลยตัดสินใจตะโกนเรียกชื่อเค้าอีกที


     

    "เดี๋ยวก่อน เดเมี่ยน!" ครั้งนี้ได้ผล เค้าหยุดนิ่งแล้วหันมาตามเสียงที่เรียก สีหน้าของเค้าดูอารมณ์เสียไม่สิปกติใบหน้าเค้าก็แถบจะไม่ค่อยได้ยิ้มอยู่แล้ว


     

         "อะไร" เค้าพูดห้วนๆใส่ มิลลี่วิ่งมายื่นอยู่หน้าเด็กหนุ่มก่อนจะพูด


     

         "คือว่า ขอบใจสำหรับเรื่องเมื่อกี้ด้วยแล้วก็เรื่องที่โรงอาหารด้วยที่นายช่วยไว้" อีกฝ่ายไม่ตอบอะไร เค้ายืนนิ่งเงียบฟัง


     

         "แล้วก็ต้องขอโทษด้วยที่นายต้องมาโดนลงโทษ ถ้ามีอะไรให้-" ยังไม่ทันที่จะพูดจบเดเมี่ยนก็ดันตัดบทสนถนาซะก่อน


     

         "วิธีนี้นะมันไม่เชยไปหน่อยหรอ" อยู่ดีๆเค้าก็พูดอะไรขึ้นมาไม่มีหัวเรื่องจับต้นชนปลายไม่ถูก


     

         "ห่ะ? วิธี วิธีอะไร" หน้าของมิลลี่ตอนนี้มีแต่คำถามเต็มหน้า


     

         "วิธีเข้าหาหรือ จีบน่ะ ถ้าพูดกันแบบนั้น อย่าแกล้งซื่อไปหน่อยเลย ตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้หญิงหลายคนที่เข้ามาหาฉันด้วยวิธีนี้ต่างๆนาๆ แต่สำหรับเธอเห็นเงียบๆแต่ก็เกินคาด" เดเมี่ยนยืนกอดอกมองเธอเชิดเหมือนอยู่เหนือกว่า มิลลี่พยายามที่จะพูดอะไรต่อแต่เค้ากลับไม่เว้นระยะให้เธอพูด


     

         "และฉันจะบอกไว้เลยนะว่ามันน่ารำคาญที่เธอต้องเข้ามายุ่งเรื่องของคนอื่นเค้า สถาณการณ์นั้นไม่จำเป็นต้องมีเธอช่วยฉันก็เอาตัวรอดได้ ที่ฉันแก้ต่างให้เพราะไม่อยากมีตัววุ่นวายมารบกวน" เค้าหันหลังให้เธอก่อนจะเอ่ยประโยคสุดท้ายด้วยสายตาสีเขียวมรกตที่ดูเย็นชา


     

    "แล้วครั้งต่อไปอย่ามาเรียกชื่อต้นฉันอีก เราไม่ได้เป็นเพื่อนหรือคนรู้จักกันขนาดนั้น ถ้าเธอเข้าใจที่ฉันพูดงั้นก็ขอตัว แอมเมอร์สัน" นี้คงจะเป็นครั้งแรกที่เธอเห็นเดเมี่ยนพูดเยอะที่สุดตั้งแต่เข้ามาเรียนที่นี้ได้ และการพูดครั้งนี้มันก็ทำให้เธอหน้าชาไม่ใช่น้อย


     

         เด็กชายเดินไปตามทางเดินโดยไม่สนใจสีหน้าของเด็กสาวที่ยืนอ้าปากกว้างยืนอึ้งอยู่กับคำพูดอีกฝ่าย   มิลลี่ยืนนิ่งมือกำชายเสื้อโค้ทนักเรียนสีกรมของตัวเอง

     

         ตอนนี้เธอเข้าใจอาการหัวใจเต้นเร็วของเธอกับอาการปั่นป่วนในท้องเวลาเธอสบตาเข้าแล้ว มันไม่ใช่อาการเขิลหรือตกหลุมรักดั่งในนิยายโรแมนติกที่ขายฝันให้สาวๆหรอก แต่มันเป็นอาการสะกิดต่อมอวัยวะเบื้องล่างให้มากระทบกับปากนั้นแบบเต็มพิกัดต่างหาก


         'อะไรของหมอนี้ว่ะคะเนี้ย'


     


     


     


     


     


     


    "What The H_ll!!, seriously this guy!!!"


     


     


     


     


     


     


     


     

     





     




    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×